แชร์

7.ลองดูก็ไม่เสียหาย

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-12 15:01:34

เกือบเดือนแล้วที่เมคินดึงตัวที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทมาเป็นผู้ช่วย เพราะช่วงนี้เขาต้องออกไปพบลูกค้าและเซ็นสัญญาซื้อขายอยู่หลายแห่ง

“คุณเมคินครับเสร็จงานนี้แล้วผมว่าคุณควรหาเลขาได้แล้วนะครับ” ฉัตรภพทนายประจำบริษัทและยังพ่วงตำแหน่งเพื่อนรักของอีกฝ่าย เริ่มจะหมดความอดทน เพราะลำพังงานของตัวเองก็หนักเอาการอยู่แล้ว

“ก็นายไงเลขา”

“มันไม่ตลกนะครับ บอกตามตรงนะผมเหนื่อยมาก”

“เดี๋ยวฉันเพิ่มเงินเดือนให้” เขาต่อรอง

“โธ่ คุณเอาเงินมาล่อผมทุกที ให้ตายเหอะ”

“แล้วยอมไหมล่ะ”

ฉัตรภพไม่ตอบ เขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ที่อิดออดอย่างนี้เพราะเขาทำแต่งานจนไม่มีเวลาไปสวีตกับคนรักอย่างเคย

“ภพ” ถ้าลองได้เรียกชื่อจริงอย่างนี้แสดงความชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายกำลังเปลี่ยนมาเป็นโหมดเพื่อน

“ว่า”

“กูขอถามอะไรหน่อย”

“ว่ามา”

“เรื่องมึงกับแฟน ที่บ้านรู้เรื่องไหม”

“รู้สิ ถามทำไม”

“แล้วพ่อกับแม่มึงโอเคกับมึงหรือเปล่า”

“ไม่ แต่กูไม่สน กูไม่ได้ทำอะไรผิด กูรู้คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่กูอยู่แบบนี้มีความสุข เขาทำให้กูอยากมีชีวิตต่อ อยากตื่นมาเห็นหน้าเขาทุกๆ วัน”

“ก็จริงนะ โลกมันไปไกลแล้ว ถ้าเอาแต่แคร์กับคำพูดคนอื่นก็คงใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข มึงโชคดีที่ทางบ้านเข้าใจ”

“เข้าใจก็ดีอยู่หรอกนะ แต่มันก็มีปัญญาตามมาอยู่ดี”

“ปัญหาอะไรวะ”

“ก็เรื่องเลขานั่นแหละ กี่คนต่อกี่คนก็โดนกูไล่ออกหมด พวกเขาเลยจะหาเลขาผู้ชายให้กู”

“ก็ดี กูจะได้ไม่เหนื่อย”

“แต่กูไม่โอเค มันเหมือนกูถูกจับคลุมถุงชนยังไงไม่รู้”

เมคินเล่าให้เพื่อนรักฟังต่อว่าคนที่ทางบ้านจะให้มาเป็นเลขาของเขานั้นเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทแม่ของเขา เป็นคนที่เขาและฉัตรภพรู้จักดีและรู้ด้วยว่าผู้ชายคนนั้นมีรสนิยมยังไง

“กูว่าคุณติณณ์ก็น่ารักดี เหมาะกับมึงดี”

“แต่กูไม่ได้ชอบเขา” เขารีบปฏิเสธเสียงแข็ง

“มึงพูดเหมือนมีคนชอบอยู่แล้ว” ฉัตรภพพยายามมองตาเพื่อหาคำตอบ

“กูไม่รู้ว่าชอบ หรือแค่รู้สึกถูกชะตา เชื่อไหม กูไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน”

“เทียบกับคนก่อนของมึงล่ะ” เขาหมายถึงปราชญ์คู่นอนคนล่าสุดของเพื่อน

“มันไม่เหมือนกัน กับปราชญ์มันก็แค่หาความสุขด้วยกัน จบก็แยกย้าย”

เมคินมีคู่นอนชื่อปราชญ์กำลังเรียนอยู่ปีสี่ เขาเจอกับปราชญ์ที่บาร์ประจำแห่งหนึ่งเพราะเจ้าของร้านเป็นคนแนะนำให้ จากนั้นก็เรียกใช้บริการเด็กหนุ่มเรื่อยมา ทั้งสองไม่ได้คบกันในแบบคู่รักเพราะทุกครั้งเมคินก็จะจ่ายเงินให้กับคู่นอนอย่างเหมาะสมและปราชญ์เองก็ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว

“แล้วคนนี้คิดจริงจังเหรอ”

“มันบอกไม่ถูกเหมือนกัน มึงก็รู้กูไม่เคยคบใครมาก่อน”

“มึงไม่ลองคบดูล่ะ เผื่อจะเจอคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขเหมือนกูไง ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคด้วย”

“กูกลัวเขาไม่ใช่แบบที่กูคิด”

“มึงดูไม่ออกเหรอ”

“อือ กูดูไม่ออก” เขายอมรับกับเพื่อนอย่างไม่อาย

“พามาเจอสิ เดี๋ยวกูช่วยดูให้ เรื่องแบบนี้บางทีคนเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองเป็นแบบไหน สังคมมันยังไม่เปิดกว้างเท่าไหร่ ถ้าดูแล้วใช่มึงก็ลุย ถ้าไม่ใช่ก็แยกย้าย”

“อือ กูว่าจะลองชวนมาเรียนรู้งานจากมึงดู”

“นี่มึงจะให้เป็นเลขาเลยเหรอ”

“ก็ใช่ ถ้าไม่เป็นเลขากูแล้วจะสังเกตได้ยังไง จริงไหม”

“งั้นกูขอภาวนาให้ใช่นะ” ฉัตรภพหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เพราะถ้าคนที่เพื่อนพูดถึงเป็นอย่างที่คิดเขาก็ไม่ต้องมาทำงานกับเมคินอีกต่อไป

พอเพื่อนรักเดินออกไปแล้วเมคินก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ตั้งแต่ได้เจอกับทิวา เขาก็มักจะคิดถึงแต่เรื่องของชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้งอยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จะหางานได้หรือยัง พอได้เห็นว่าผู้จัดการร้านที่ทิวาไปทำงานเป็นคนแบบไหน เขาเลยยิ่งคิดหนัก ไม่อยากปล่อยให้ทิวาไปทำงานกับคนแบบนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อยากชวนมาทำงานด้วยกัน

ถ้าทิวาไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด มันก็ไม่มีอะไรเสียหายเพราะตอนนี้เขาก็กำลังหาคนมาทำงานด้วย เป็นทิวายังดีกว่าเป็นคนที่ครอบครัวติดต่อให้ เพราะเขารู้ว่าติณณ์พยายามที่จะใกล้ชิดเขาหลายครั้งแล้ว แม้ว่าผู้ชายแบบติณณ์จะหายากเขาก็ไม่เคยคิดจะรับใครเข้ามาเพียงเพราะมีรสนิยมเดียวกัน

ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน เขาอยากกลับไปคุยกับทิวา อยากชวนให้มาทำงานด้วย อยากให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้และเปิดใจรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต และหวังว่าอีกคนก็คงไม่รังเกียจที่เขาเป็นแบบนี้

แต่ถ้าหากคุยแล้วทิวาไม่ยอมเขาก็จะไม่บังคับแม้อาจจะเสียใจอยู่บ้าง แต่ก็จะเคารพการตัดสินใจของชายหนุ่ม ส่วนเรื่องที่รู้สึกดีกับทิวา เมคินคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม คงต้องสังเกตและให้เวลาอีกนิดเพื่อให้แน่ใจว่าเขามองคนไม่ผิด

อันที่จริงแล้ววันนี้เมคินมีนัดกับปราชญ์ซึ่งเขานัดไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันก่อนเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับทิวา เขาจึงต้องโทรไปยกเลิกพร้อมกับจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้กับเด็กหนุ่มซึ่งถ้าเขาไม่ไปตามนัดปราชญ์ก็คงไปรับงานอื่นได้ แต่เงินจำนวนนั้นไม่ได้มากมายสำหรับคนอย่างเขา เมคินจึงไม่รู้สึกเสียดายเลยสักนิด

จัดการธุระเสร็จแล้วก็นั่งทำงานต่อ แต่ก็ได้แค่เปิดรายงานในไอแพดวนไปมาแค่เพียงไม่กี่หน้า เพราะเรื่องของทิวายังกวนใจอยู่

ในเมื่อนั่งอยู่ในห้องก็ไม่มีประโยชน์เมคินจึงตัดสินใจกลับคอนโดก่อนเวลาเลิกงาน

เขากำลังจะลุกจากเก้าอี้ผู้บริหาร ประตูหน้าห้องก็เปิดออก

“หิมะจะตกไหมเนี่ย วันนี้น้องชายของพี่เลิกงานก่อนเวลา จะไปไหนเหรอคิน”

“มีธุระนิดหน่อยครับพี่เมย์ ว่าแต่พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า”

“ไม่มีหรอกแต่แม่ให้มาชวนไปทานข้าวเย็น คินไม่ได้กลับไปที่บ้านหลายวันแล้วนะ”

“ทานข้าวอย่างเดียวใช่ไหม”

“ก็ทานข้าวสิ คินถามแปลก”

“ผมบอกไว้ก่อนนะพี่เมย์ ถ้าไปถึงบ้านแล้วมีคนอื่นผมกลับทันทีนะ”

“โอ๊ย พี่ล่ะเบื่อคนรู้ทัน คืองี้นะ เย็นนี้แม่ชวนเพื่อนมาทานข้าวด้วย เลยอยากให้คินไปทำความรู้จักไว้”

“แล้วเพื่อนแม่คนนี้มีลูกสาวหรือลูกชายล่ะ”

“ก็คนเดิมนั่นแหละ ถ้าคินไม่อยากให้แม่จับคู่ให้ก็รีบหาแฟนสิ จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่เป็นปัญหา พ่อกับแม่แค่อยากให้คินมีคนคอยดูแลจะได้ไม่เหงา”

“ทุกวันนี้ผมก็ไม่เหงานะพี่”

“ไม่เหงา แต่ไม่ลงเอยกับใครสักที อายุก็เยอะแล้ว”

“เยอะที่ไหนพี่เมย์ 30 เองนะ ยังมีเวลาสนุกอีกเยอะ”

“จ้า พ่อคนอายุน้อย พี่ไปก่อนนะ เย็นนี้เจอกันที่บ้าน”

“ครับพี่เมย์”

ครั้งแรกครอบครัวของเมคินรู้เรื่องที่เขาไม่ชอบผู้หญิงนั้นต่างก็ตกใจไม่น้อย เขาต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าพ่อกับแม่จะยอมรับ แต่ทุกอย่างก็ดีขึ้นเมื่อเขาพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นว่าพฤติกรรมและรสนิยมของเขาไม่มีผลต่อการทำงาน และพ่อของเขายังยอมรับในตัวลูกชายมากขึ้น เมื่อลูกชายของเพื่อนคนหนึ่งที่แต่งงานมีครอบครัวจนมีลูกด้วยกันแล้ว แต่กลับไม่มีความสุขเพราะไม่ได้แสดงออกในสิ่งที่ตัวเองชอบ สุดท้ายลูกชายของเพื่อนก็ปลิดชีวิตตัวเองเพราะทนแรงกดดันจากครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ไหว

จากนั้นเป็นต้นมาครอบครัวของเขาเลยเปิดใจรับเรื่องนี้ได้และไม่เคยบังคับเขาให้คบกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะตกที่นั่งลำบากอีกครั้ง เพราะครอบครัวกำลังจับคู่ให้เขากับลูกชายของเพื่อนแม่

ยังพอมีเวลาเหลือกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็นของที่บ้าน เมคินเลยรีบออกจากห้องทำงานระหว่างทางเขาโทรศัพท์ไปหาทิวา แต่โทรออกกี่ครั้งก็ฝากข้อความเหมือนเดิม ชายหนุ่มร้อนใจเพราะคิดว่าเขาอาจจะกลับไปแล้ว เขารีบเหยียบมิดไมล์ เพียง 20 นาทีก็มาถึงคอนโดของตัวเอง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   8.ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ

    เสียงเปิดประตูหน้าห้องทำให้คนที่กำลังนั่งเบื่ออยู่หน้าทีวีจอใหญ่รีบดีดตัวขึ้นจากโซฟา“คุณ เลิกงานแล้วเหรอ”ทิวากดรีโมตปิดทีวีแล้วเดินไปหาเจ้าของห้อง“อือ”เมคินตอบพร้อมหายใจหอบเหนื่อยเพราะเขารีบวิ่งเข้าลิฟต์ทันทีที่มาถึง“เหนื่อยเหรอครับ”เขาถามแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำมาให้เมคิน พร้อมกับจานชมพู่และฝรั่งที่เขาจัดใส่จานไว้“อือ ขอบใจ”เมคินรีบดื่มน้ำพรวดเดียวหมดแล้วหันไปมองหน้าคนถาม ยอมรับว่ารู้สึกดีที่เขาถามว่าเหนื่อยไหม“เหมือนวิ่งมาเลยนะครับ มีอะไรหรือเปล่า หรือกลัวว่าผมจะยกเค้าห้องคุณไปแล้ว”“ถ้าจะยกเค้าจริงจะรอให้ผมกลับมาไหมล่ะ จริงไหม”“ที่ผมรอเพราะอยากขอบคุณที่ช่วยเหลือผม ทั้งให้ติดรถมากรุงเทพ ให้ที่พัก แล้วก็เมื่อคืน”สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตอนที่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน“แล้วจะเอายังไงต่อ คงไม่กลับไปทำงานร้านเดิมอีกนะ”“ถ้ากลับไปก็บ้าเต็มทนแล้ว ช่วงนี้ผมคงรองานที่ไปสัมภาษณ์มาวันก่อน แต่ดูเหมือนจะเงียบไปแล้ว คงต้องสมัครไปเรื่อยๆ”ทั้งคำพูดและแววตาที่ดูมุ่งมั่นทำให้เมคินคิดว่าถ้าเขามาร่วมงานด้วยก็คงดี“มาทำงานกับผมไหม” เขาตัดสินใจชวนออกไปเพราะอยากใช้เวลาศึกษาผู้ชายคนนี้ให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   9.ที่อยู่ใหม่

    บนถนนคืนวันอังคารรถค่อนข้างโล่งเลยทำให้เมคินมาถึงก่อนเวลานัดเกือบ 20 นาที แต่พอมาถึงก็เห็นว่าทิวานั่งรออยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนหน้าอาคารหลังเก่าอยู่แล้ว“รอนานไหม”“ไม่ครับ พี่คินมาก่อนเวลา”“พี่มาก่อนเวลาแต่นายก็นั่งรออยู่แล้ว” ยิ่งเห็นแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะนั่นหมายถึงว่าทิวาเต็มใจจะย้ายไปอยู่กับเขาจริงๆ“ผมไม่อยากให้พี่ต้องเสียเวลาครับ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเกรงใจทิวามีเพียงกระเป๋าลากกับเป้อีกหนึ่งใบเท่านั้น พอยกใส่หลังรถแล้วเขาก็มานั่งคู่คนขับ“พี่ไม่น่าลำบากมารับผมเลย จริงๆ แล้วผมไปเองก็ได้”“ไม่ลำบากหรอก ยังไงก็ทางผ่าน”“ครับ” พยักหน้าเข้าใจเพราะไม่รู้ถนนหนทาง พอเขาบอกว่าทางผ่านก็เชื่อไปตามนั้น“กินข้าวเย็นแล้วใช่ไหม” เขาถามอย่างห่วงใย“เรียบร้อยแล้วครับ พี่ละ”“อือ พี่กินมาจากบ้านแล้ว ไม่ลืมอะไรแล้วนะ”“น่าจะมีอะไรแล้วครับ ของบางอย่างผมยังไม่เอาออกจากกระเป๋าเลยด้วยซ้ำ”เพราะคิดว่าถ้าได้งานก็จะย้ายไปหาที่พักใกล้ที่ทำงาน แต่ตอนนี้ไม่ต้องติดเรื่องที่พักให้ปวดหัวแล้ว“ถ้างั้นไปกันเลยไหม”“ครับ”ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง Audi A6 Avant สีดำก็พาทั้งสองมายังถึงยังที่หมายประตูห้องคอนโด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   10.เรียนรู้ไปทีละนิด

    ระยะทางจากคอนโดมาถึงบริษัทไม่ได้ไกลมากแต่ก็ใช้เวลาเดินทางถึง 45 นาที ทิวาทำหน้าที่เป็นคนขับโดยมีเมคินคอยบอกทาง พอถึงบริษัทเขาก็จอดให้เจ้านายลงด้านหน้า“นายเอารไปเก็บตรงที่จอดรถผู้บริหารนะ มันจะที่ประจำอยู่ ดูตามเลขทะเบียน”“ครับ ผมตรงไปแผนกบุคคลเลยใช่ไหมครับ”“อือ แล้วเจอกันข้างบนนะ”“ครับ”เขาวนรถไปจอดตามที่เมคินบอก จอดรถนั้นหาไม่ยากเพราะมีชื่อและป้ายทะเบียนรถติดอยู่ เมคินไม่ได้บอกเขาว่าตัวเองเป็นรองประธานบริษัท และเป็นบริษัทขนาดใหญ่เสียด้วย เขาเองก็ลืมถาม แล้วตอนนี้เขาจะถอนตัวทันไหมแต่คิดว่าถ้าถอนตัวไปตอนนี้เมคินอาจจะผิดหวังเพราะอุตส่าห์ชวนให้มาทำงานด้วย“เอาวะ ไม่ลองก็ไม่รู้”ทิวาสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะลงจากรถแล้วตรงไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อรายงานตัวตามที่เมคินบอกเขาขึ้นมายังฝ่ายบุคคลจากนั้นส่งเอกสารและรายงานตัวกับหัวหน้าฝ่ายบุคคล รับทราบขอปฏิบัติระหว่างทดลองงานรวมถึงอัตราเงินเดือน“ทำไมเงินเดินถึงสูงจังล่ะครับ”ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะกลัวว่าเมคินจะเป็นคนกำหนดเงินเดือนให้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่สบายใจเข้าไปอีก“ไม่สูงหรอก ตามอัตราปกติ แต่ที่ดูสูงเพราะคุณพ่วงตำแหน่งคนขับรถด้วย”“อ๋อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   11.งานใหม่ชุดใหม่

    ทิวาขับรถมารับเจ้านายที่หน้าบริษัท เมคินเดินออกมาพอดีเขาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่กับคนขับอย่างรวดเร็ว“บอสควรนั่งข้างหลังนะครับ” ทิวาบอกอย่างสุภาพเมคินหัวเราะแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย“จะนั่งตรงไหนก็เหมือนกัน ออกรถได้แล้วพี่หิว”“บอสจะไปร้านไหนครับ ผมไม่ค่อยรู้ทาง”“ขับออกไปก่อน เดี๋ยวพี่บอกทางให้”“แค่บอกมาก็ได้ เดี๋ยวผมขับถามGPSเอง”“นายเชื่อ GPS มากกว่าพี่เหรอ”“เปล่าครับ”เมคินบอกให้ชายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเลขาและคนขับรถจอดริมถนนแห่งหนึ่ง ถอดสูทออกพาดไว้กับเบาะรถ จากนั้นก็พาเดินลัดเลาะเข้ามาในซอยแคบๆ“ร้านนี้เหรอครับ”“อือร้านนี้แหละพี่กินตั้งแต่เรียนแล้ว ผัดซีอิ๊วร้านนี้อร่อยที่สุด ทิวจะกินอะไร เอาเมนูไหม” เมคินทำท่าจะเดินไปหยิบเมนูที่ว่างอยู่อีกโต๊ะ“ไม่เป็นไรครับบอสเดี๋ยวผมไปหยิบเอง”“อยู่นอกบริษัทไม่ต้องเรียกแบบนั้น”“ครับ”ทิวารับคำแล้วเดินไปสั่งอาหารกับแม่ค้า แวะหยิบน้ำเปล่าในตู้แช่มาสองขวด“ไม่กินน้ำอัดลมเหรอ”“ไม่ครับ พี่ล่ะ ผมหยิบตามความเคยชิน”“น้ำเปล่านั่นแหละ”ขากลับจากทานอาหารกลางวันเมคินเปลี่ยนมาเป็นคนขับ ทิวาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่อยากขัดใจเขา“เราเปลี่ยนร้านได้ไหมครับพี่คิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   12.การยอมรับของครอบครัว

    ครบหนึ่งเดือนแล้วกับการมาทำงานของทิวา ชายหนุ่มเรียนรู้งานได้เร็วจนฉัตรภพไม่มีอะไรจะต้องแนะนำอีกแล้วตอนนี้เวลาออกไปพบลูกค้านอกบริษัทเมคินจะพาทิวาไปด้วยทุกครั้งยกเว้นต้องไปเซ็นสัญญาหรือมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องจึงจะให้ฉัตรภพตามไปด้วย“ทิว เย็นนี้พี่จะไปกินข้าวกับที่บ้านจะไปด้วยกันไหม”“ไม่ดีกว่าครับ”ทิวาเคยไปที่บ้านของเมคินมาแล้วครั้งหนึ่งทุกคนให้การต้อนรับและพูดคุยอย่างเป็นกันเองทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ที่ไม่ยอมไปกับเมคินวันนี้เพราะมีเขามีอย่างอื่นที่ต้องทำ“แล้วจะไปกินข้าวที่ไหน”“ก็ร้านใต้คอนโดนั่นแหละครับ พี่คินจะค้างที่นั่นไหม”“ยังไม่แน่ใจ นายอยู่คนเดียวได้ไหม”“พี่ผมอายุ 25 แล้วนะครับไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”“อ้าวเหรอก็พี่เห็นนายยังชอบดูการ์ตูนอยู่เลย ก็นึกว่ายังไม่โต”“พี่เองก็ดูอย่ามาว่าแต่ผม รีบไปสิครับเดี๋ยวคุณแม่ก็รอนานหรอก”“ไม่ไปด้วยแน่นะ”“ไม่ครับ วันนี้ผมจะไปฟิตเนส”“พี่ฟังไม่ผิดใช่ไหม” เพราะมีหลายครั้งที่เขาชวนทิวาไปออกกำลังกายด้วยแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยไปด้วยสักครั้ง“ไม่ผิด ต่อไปนี้ผมจะออกกำลังกาย”“งั้นพรุ่งนี้เช้าไม่ต้องทำอาหาร ไปวิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   13.มันก็แค่อดีต

    เมคินกลับถึงห้องเกือบจะเที่ยงคืน คิดว่ายังไงทิวาก็คงหลับไปแล้ว แต่พอเปิดประตูห้องเขาไป ทิวาก็นั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าดูดีใจที่เห็นเขา ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามานั่งคุยด้วย“ทำไมยังไม่นอน”“ยังไม่ง่วงครับ” อันที่จริงก็รอเขานั่นแหละ แต่ไม่กล้าบอก“ทิว ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากออกกำลังกาย” เมื่ออีกคนบอกไม่ง่วงเขาก็ชวนคุย“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่อยากหุ่นดีแบบพี่คินเท่านั้นเอง”“หุ่นนายก็ดีอยู่แล้วนี่”ทิวาเป็นคนที่หุ่นดีคนหนึ่งอาจจะดูตัวเล็กกว่าเขาอยู่บ้าง แต่มันก็ดูสมส่วน ไม่ได้เก้งก้างหรือผอมจนเกินไป“ผมอยากมีซิกซ์แพกเหมือนพี่ มันเซ็กซี่ดี”“งั้นพี่ก็เซ็กซี่ใช่ไหม” ถามแล้วก็อมยิ้มคำชมนี้เมคินเคยได้ยินมาก็บ่อย แต่พอฟังจากปากของทิวาแล้วมันทำให้เขารู้สึกดีกว่าครั้งไหน“คงงั้น” เขาตอบพร้อมก้มหน้าไม่กล้าสบสายตา เพราะไม่เคยชมผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่พอชมไปแล้วก็รู้สึกเขินตัวเองเมคินเห็นอย่างนั้นเลยเปลี่ยนเรื่องคุย“ที่บริษัทมีสาวๆ คนไหนถูกใจบ้างไหม” เพราะได้ข่าวเข้าหูมาบ่อยๆ ว่าทิวาเป็นขวัญใจของสาวๆ ในบริษัท“ไม่มีครับ”เขายังไม่คิดจะคบหากับใครตอนนี้ เพราะตัวเองยังไม่มั่นคงพอจะให้ใครมาลำบากด้วย อีกอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   14.ก็พี่ตัวอุ่น

    มือที่พาดอยู่บนพนักโซฟาขยับลงมาบนไหล่ลูบเบาๆ คล้ายกำลังปลอบประโลม จมูกโด่งกดลงบนเส้นผม สูดดมความหอมอย่างไม่อาจห้ามทิวารู้สึกได้ว่าเมคินหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ต่างจากหัวใจตัวเองที่มันก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ“ทิว ดึกแล้วนายจะกอดพี่ไปถึงเช้าเลยหรือไง” เมคินคงทนอยู่แบบนี้ได้มานานเพราะรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นทีละนิด“ก็พี่คินตัวอุ่น” ทิวตอบก่อนจะรีบถอยออก“ไหนว่าอุ่นไง ไม่กอดต่อแล้วเหรอ” เขาเห็นทิวาหน้าแดงไปจนถึงหูก็อดแกล้งไม่ได้“ไม่ดีกว่าดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องรีบตื่น อ้อ พี่คิน ผมเปลี่ยนใจแล้วนะ พรุ่งนี้พี่ไปวิ่งคนเดียวเถอะ ผมจะทำข้าวต้มกุ้ง ฝากพี่ซื้อน้ำส้มคั้นมาด้วยนะครับ เอาขวดเล็กสองขวด ร้านที่ 2 นับจากทางเข้านะครับ”พูดจบก็วิ่งเขาไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีเมคินอดยิ้มไม่ได้ ตั้งแต่ทิวามาอยู่ด้วยเขารู้สึกว่าตัวเองยิ้มบ่อยขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้น ในทุกๆ วันเขาจะออกไปทำงานและกลับคอนโดพร้อมกับทิวา จากที่เคยออกไปดื่มกับเพื่อนบ้างออกไปหาความสุขให้ตัวเองบ้าง ระยะเวลาเดือนว่าเขาไม่เคยได้ปลดปล่อยพลังทางเพศแต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขได้อย่างประหลาดแต่วันนี้เขาคงทนต่อไปไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   15.คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก

    พอเห็นข้อความที่เด้งเข้าแบบรัวๆ เมคินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูโดยไม่ได้เข้าไปในแอปพลิเคชัน จากที่คิดจะอยู่ให้ห่างเพราะกลัวใจตัวเองก็ต้องเปลี่ยนความคิด ชายหนุ่มรีบขับรถออกจากบ้านทั้งที่ยังสวมชุดนอนอยู่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเมคินก็มาถึงห้องนอนของตัวเอง เขาเปิดประตูเข้าไปเงียบๆ ไฟยังคงเปิดอยู่แล้วก็สะดุดตากับร่างของทิวาที่หลับอยู่บนโซฟา ในมือของเขายังถือโทรศัพท์อยู่ เมคินรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ทิวาต้องมารอแบบนี้ ถ้าเขาโทรบอกก่อนชายหนุ่มก็คงไม่ต้องมาหลับอยู่บนโซฟา“ทิว ทิว” เขาเรียกเบา เพราะกลัวอีกคนจะตกใจ“อืม พี่คินกลับมาแล้วเหรอครับ”“กลับมาแล้ว ไปนอนในห้องเถอะ นอนตรงนี้เดี๋ยวได้เมื่อยกันพอดี”ทิวาลุกขึ้นเขาขยี้ตาและมองหน้าเมคินที่นั่งลงข้างเขาอีกครั้ง“ใช่พี่คินจริงๆ ด้วย”“ถ้าไม่ใช่พี่แล้วจะใคร” เมคินยิ้ม“พี่คิน ผมขอโทษ”เมคินไม่เข้าใจว่าทิวาไปทำอะไรผิดมาถึงได้ทำหน้าแบบนี้“ไปทำอะไรผิดมา”“เรื่องเมื่อวาน เรื่องไหน” เมคินคิดไม่ออกเพราะเมื่อวานทุกอย่างก็ปกติดี“ที่ผมกอดพี่ ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมล้ำเส้น” เขาพูดเสียงอ่อน ส่งสายตาอ้อนวอนอยากให้เขายกโทษให้“พี่ไม่โกรธทิวเลย”“แต่วันนี้พี่คินไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13

บทล่าสุด

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   60.ท่ามกลางหมู่ดาว nc25+++ (ตอนจบ)

    “พี่คิน เราจะเป็นไข้เลือดออกกันไหมครับ เราไม่มียากันยุง”“เดี๋ยวพี่โทรไปขอทางรีสอร์ตให้ อย่าเพิ่งออกไปนะเดี๋ยวโดนยุงกัดตัวลายขึ้นมาผิวสวยจะเสียหมด”รอไม่นานพนักงานของรีสอร์ตก็เอายากันยุงกับไฟแช็กมาให้ เมคินรับมาพร้อมกับมอบเงินให้เล็กน้อยค่าเสียเวลาเขาเดินออกไปจุดยากันยุงไว้หลายจุดเพราะกลัวว่ายุงจะมากัดผิวสวยๆ ของคุณเลขา“รอสักพักค่อยออกไปนะครับ พี่ขอล้างมือก่อน”“ครับ” เสียงทิวาขานรับขณะที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพอเมคินเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสองก็หอบหมอนและผ้าห่มเดินออกไปบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งมีเตียงอาบแดดอยู่ด้านริม“พี่คินว่าเราจะเห็นดาวตกไหม”“ก็น่าจะเห็นอยู่นะ” เมคินไม่ได้สนใจฝนดาวตก แต่เพราะอีกคนอยากเห็นก็เลยต้องออกมานอนตากน้ำค้างอย่างนี้ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวก็จริง แต่ทุกดวงยังคงประดับอยู่บนท้องฟ้า“ทิวครับ ง่วงหรือเปล่า”“นิดหน่อยครับ”“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ”“ยังไหวครับพี่ แต่ถ้าผมเผลอหลับพี่คินอย่าทิ้งผมไว้ตรงนี้คนเดียวนะ”“ใครจะทิ้งได้ลงล่ะครับ” เมคินหันมาบอกคนรักที่อยู่เตียงใกล้ๆ กันตาคู่สวยของเลขาคู่ใจยังคงจ้องไปบนท้องฟ้า ส่วนส

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   59.ผมขอเลขาคืนนะครับ

    ตลอดสองเดือนที่คุณจางหยวนเข้ามาในชีวิตของทิวา เมคินต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพราะรู้สึกเห็นใจที่เขากับลูกเพิ่งจะได้เจอกัน แต่พอเวลาผ่านไปเขาเองก็เริ่มทนความรู้สึกนี้ไม่ได้ และตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของคุณจางหยวน“สวัสดีครับคุณเมคิน ไม่คิดเลยว่าบริษัทผมจะมีโอกาสต้อนรับคุณ”“สวัสดีครับคุณจาง ผมมาหาทิวาครับ”“อ้อ มาหาลูกชายผมนั้นเอง เดี๋ยวผมเรียกให้นะ”“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหาเองได้ ผมแค่แวะมาทักทายและจะมาบอกว่าต่อนี้ไปผมจะไม่ให้ทิวามาทำงานกับคุณอีกแล้ว”“ทำไมละครับ เขาเป็นลูกผมอีกหน่อยเข้าต้องมาทำงานแทนผม”“แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ คุณยังแข็งแรงอยู่เลยแล้วอีกอย่างคุณก็รู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”“ใช่ผมรู้และก็ไม่ได้กีดกันสักหน่อย”“ไม่ได้กีดกันครับ แต่ช่วงนี้คุณแทบจะไม่ปล่อยให้เข้าไปทำงานกันผมเลย ผมแค่มาทวงเลขาคืน”“ตายจริง ผมคงลืมไปว่าเขาเป็นเลขาของคุณด้วย คิดแต่ว่าเป็นคนรักกัน”“ทิวเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ”“ผมชอบที่คุณพูดตรงๆ กับผมนะ เอาล่ะ ตอนนี้ทิวาก็เรียนรู้งานมากแล้ว ที่ผมยอมให้เขากลับไปก็เพราะว่างานที่นี่มันค่อนข้างลงตัวแล้ว เขาแค่อาจต้องเข้ามาประชุมบ้างก็เท่านั้น

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   58.เผชิญหน้า

    หลังจากที่ผลตรวจดีเอ็นเอคุณจางหยวนก็ดีใจมาก เขาอยากให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า ครอบครัวที่คิดว่าเสียไปแล้วเมื่อยี่สิยกว่าปีก่อน แล้ววันนี้ได้มาเจอกันอีกครั้งอย่างพร้อมหน้า พ่อ แม่ ชายวันห้าสิบกว่าก็ออกอาการดีใจเหมือนกับเด็กๆ ที่ได้ของเล่นเลยทีเดียวเขาพูดจาหว่านล้อมจนคุณลักษิกายอมขึ้นมากรุงเทพ แม้เธอจะยังจำเรื่องในอดีตได้แต่ก็ยอมเดินทางมาเพราะอยากจะเจอกับทิวาอีกครั้งครั้ง ตอนนี้นอกจากรูปถ่ายใบนั้นแล้วคุณจางหยวนยังมีรูปที่ทั้งสองคนถ่ายด้วยกันที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเธอ และยังมีรูปถ่ายอีกหลายรูปที่ลูกชายและลูกสาวบุญธรรมส่งมาให้ทางอีเมล ลักษิกาเลยเริ่มเปิดใจยอมรับเขาทีละนิด เพราะทุกรูปที่เขามีนั้นดูเหมือนว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกันจริงๆวันนี้ทิวาเลยนัดทั้งสองคนให้มาที่บ้านของเมคิน เพราะทุกคนที่นี่ก็คือครอบครัวของเขา“พอครับ แม่ครบ นี่คุณจางหยวนกับคุณลักษิกาครับ” เขาเรียกคุณเมฆาและคุณจีรญาว่าพ่อและแม่อย่างเต็มปากในขณะที่เรียกพ่อแม่แท้ๆ ว่าคุณ ทำให้เมฆารู้ในทันทีว่าทิวายังไม่เปิดใจยอมรับทั้งสองมากนัก“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณจางหยวนคุณลักษิกา” เมฆากล่าวทักทาย“ยินดีท

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   57.ยอมรับแค่ผล

    เมคินเลขาคู่ใจกลับมาทำงานกันตามปกติ ส่วนคุณจางหยวนนั้นยังขออยู่ที่เชียงใหม่ต่อ ทิวาโล่งใจที่เขาไม่กลับมาด้วยเพราะตัวเองยังคงสับสนกับทุกเรื่อง“บอสครับบ่ายนี้มีประชุมกับฝ่ายวางแผนกลยุทธ์นะครับ แล้วตอนเย็นก็ต้องมีงานเลี้ยงรุ่นนะครับ” ทิวาเดินถือกาแฟมาให้กับเจ้านายพร้อมบอกตารางการทำงานของบ่ายวันนี้อย่างเคย“ลืมไปสนิทเลย ทิวเปลี่ยนใจไปกับพี่ไหม” เมคินรั้งให้คนรักมานั่งบนตัก กดจมูกไปยังแก้มเนียนชายหนุ่มมักจะฉวยโอกาสอย่างนี้ทุกครั้งที่ทิวาเอากาแฟเข้ามาให้“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ไปด้วยพี่จะได้สนุกเต็มที่”“ไม่กลัวพี่ไปเจอคนอื่นเหรอ”“คนเขารู้กันทั้งเมืองว่าพี่มีเจ้าของแล้ว ผมอยากจะรู้จังว่าใครมันจะกล้าเข้ามาหาพี่”“ไม่แน่นะทิว คนเราบางทีก็อยากท้าทาย”“ก็จริงนะครับ แต่ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก”“แสดงว่าเชื่อใจพี่”“แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าพี่จะไม่มีคนอื่น เพราะฉะนั้นพี่อย่าทำลายความเชื่อใจของผม”“ใครจะทำอย่างนั้น”“ผมต้องออกไปแล้วหายเข้ามานานเดี๋ยวคุณวีณาสงสัย”“คนรักกันจะอยู่ด้วยกันนานหน่อยไม่น่ามีปัญหานะ ทิวย้ายเข้ามานั่งทำงานในห้องดีไหม”“อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่เห็นหน้าผมทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   56.ความจริงที่ไม่อาจเลี่ยง

    ทิวากลับมายังคอนโดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินมาจากปากของชายคนที่มาอ้างตัวว่าเป็นพ่อ แต่พอเห็นรูปถ่ายที่ชายคนนั้นเอามาให้ดูแล้วก็เริ่มไม่มั่นใจ ผู้หญิงในรูปถ่ายหน้าตาเหมือนเขาราวกับเป็นฝาแฝดถ้าเขาใสวิกผมยาวก็คงแทบจะกลายเป็นคนเดียวกัน“อย่าเพิ่งคิดมาเลยทิว รอผล DNA ก่อนดีกว่า”“มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเป็นลูกเขาจริงๆ”“ถ้าให้ตอบในมุมมองของพี่นะ มันก็ดีที่เรารู้ว่าพ่อเราเป็นใคร และเท่าที่ฟังคุณจางหยวนก็ไม่ได้ทิ้งทิวไป แต่มันเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น คนที่จะให้คำตอบได้ก็คือแม่ของทิว ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็คงจะเห็นทิวผ่านตามสื่อบ้างแล้ว”“พี่หมายความว่าแม่ผมอาจตายไปแล้วใช่ไหมครับ” เสียงของทิวาสั่นเครือ แม้ที่ผ่านมาจะอยู่มาได้โดยไม่มีพ่อและแม่ แต่พอมาได้ยินเรื่องราววันนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากเจอผู้ให้กำเนิด อยากรู้ว่าท่านอยู่สุขสบายดีไหม“พี่ขอโทษ” พอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิด เขาไม่น่าไปตั้งข้อสงสัยแบบนั้นเลยจริงๆ“ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงเห็นผม ขนาดแม่ครูที่ไม่ค่อยมีเวลาดูทีวียังเคยเห็นเลย”“จริงสิ เราลองถามแม่ครูดูไหมบางทีอาจมีเบาะแส”“อย่าเลยครับพี่คิน เอาเรื่องคุ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   55.ชายแปลกหน้าจากปักกิ่ง

    ในแต่ละวันเมคินและทิวาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทุกอย่างกำลังเป็นได้ด้วยดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก ยิ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งสองก็ยิ่งรักและเข้าใจกันมากขึ้นชีวิตที่กำลังลงตัวของทิวากำลังจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ๆ ชายชาวจีนคนหนึ่งก็บอกว่าอยากเจอเขา โดยชายคนนั้นติดต่อผ่านทางบริษัทโฆษณาของเมลดาทิวาไม่เคยมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น และก็ไม่รู้ว่าชายคนนั้นอยากเจอตนเองด้วยเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายยินดีที่จะบินมาที่เมืองไทย ชายหนุ่มก็เลยตอบตกลงที่จะให้เขาเข้ามาพบวันนี้ชายคนนั้นเดินทางมาจากปักกิ่งเพื่อขอพอกับทิวา โดยนัดกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งเมคินและทิวามาถึงโรงแรมตรงเวลานัดพอดี แต่เขาคนนั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับ คุณทิวา ผมชื่อจางหยวน” เขากล่าวทักทายด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว“สวัสดีครับผมทิวา คุณคงรู้อยู่แล้วและนี่เมคินคนรักของผมครับ” ทิวาแนะนำตัวเองและคนรักให้กับชายแปลกหน้าด้วยสถานะที่ทั้งสองไม่เคยปิดบัง“ครับ เชิญนั่งก่อน ผมสั่งอาหารแล้ว เราทานไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้”“ผมว่าคุยรีบคุยธุระของคุณดีกว่าครับ เราสองคนยังไม่หิว”“ผมอยากคุยกับคุณตามลำพังมากกว่า”“เสียใจครับ ผมคงให้คุ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   54.อยู่เฉยๆ ก็พอ nc25+++

    ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่เมคินและทิวาก็สามารถจับมือกันก้าวผ่านมาได้ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเขาและเลขายังมีคนพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาก้าวก่ายทิวาเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นเพราะที่บริษัทให้ทิวาถ่ายโฆษณาสินค้าอีกหลายตัว แต่เขาก็ยังคงทำตัวปกติ มีสินค้าหลายประเภทติดต่อเข้ามาให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ทิวาก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองถนัดและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินวันนี้ทุกคนนัดรวมตัวกันที่บ้านโอภาสธนรัตน์เพราะเป็นวันเกิดของเมคิน คุณจีรญาจึงจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้กับลูกชายนอกจากคนในครอบครัวแล้ว ฉัตรภพและองศาก็มาร่วมงานด้วย เมคินสั่งทุกคนไม่ให้นำของขวัญมา ถ้าหากใครจะอยากจะมอบของขวัญให้ชายหนุ่มขอเป็นเงินสดเพราะตั้งใจว่าจะนำเงินเหล่านั้นไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอันเป็นบ้านอีกหลังของทิวาเลขาคู่ใจของเขาเจ้าของวันเกิดดูจะมีความสุขมากกว่าใครเพราะรอบตัวรายล้อมไปด้วยคนรัก ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านจนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกคนรอ ทิวาถือเค้กออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทุกคนร่วมกันร้องเพลงอย่างพร้อมเพรียงพอเสียงเพลง Happy

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   53.ไม่ง่ายอย่างที่คิด

    คุณราเมศและลูกสาวออกมาขอโทษเมคินสำหรับเรื่องที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิด พร้อมกับยอมรับว่าที่ทำไปเพราะหวังอยากให้ทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องลูกในท้องของรมิดานั้น หญิงสาวไม่ยอมบอกว่าเป็นลูกของใครแม้เจ้าตัวจะออกมายอมรับและขอโทษแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่าสิ่งที่สองพ่อลูกพูดออกไปนั้นเพราะถูกทางเมคินกดดันให้พูดกระแสตีกลับมาที่เมคินอีกครั้ง เพราะทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนไปกดดันให้เธอออกมาขอโทษ เรื่องราวเลยไปกันใหญ่ บางคนถึงขั้นบอกจะแบนสินค้าทุกชนิดจากบริษัทเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ หุ้นของบริษัทดิ่งลงจนบอร์ดบริหารยื่นคำขาดให้เมคินจัดการเรื่องนี้ให้จบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งรองประธานบริษัทหลังเลิกงานวันนี้เมคินและทิวาเลยมาที่บ้านใหญ่เพื่อปรึกษากับทุกคนเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นสีหน้าของทุกคนในห้องทำงานในบ้านโอภาสธนรัตน์ดูเคร่งเครียดกว่าทุกครั้งคุณเมฆาดูวิตกกังวลมากกว่าคนอื่นเพราะบริษัทนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อตั้งจึงไม่อยากให้ตำแหน่งรองประธานตกไม่อยู่ในมือคนอื่น อีกอย่างที่ผ่านมาเมคินก็ทำงานได้เป็นอย่างดี“คนเราก็แปลกเรื่องจริงกลับไม่เชื่อกัน” คุณจีรญาเห็นใจลูกชา

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   52.ใจเย็นเกินไปไหม

    การกลับมาทำงานหลังการหยุดยาวช่างเป็นอะไรที่โหดร้ายที่สุด ทิวาไม่เคยรู้สึกขี้เกียจอย่างนี้มาก่อนเลยสักครั้ง“พี่คิน ลางานต่อเลยได้ไหม”“เอาสิ พี่ลาด้วย”“ไม่คิดจะห้ามเลยเหรอครับ”“จะห้ามทำไมล่ะ ว่าแต่เป็นอะไรพี่ไม่เคยเห็นทิวเป็นแบบนี้มาก่อน”“ไม่รู้สิครับ ความรู้สึกมันไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ มันเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง”“นี่เชื่อเรื่องโชคลางด้วยเหรอ”“เชื่อสิครับ”“คงไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีปัญหาเรื่องงานเราก็ช่วยกันแก้ได้เหมือนทุกครั้ง”“นั่นสิครับ มีพี่อยู่ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”แม้ปากจะบอกไปอย่างนั้นแต่ทิวาก็ยังไม่ค่อยสบายใจตลอดช่วงเช้างานทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ทิวาเลยรู้สึกดีขึ้น บางทีเขาอาจจะคิดไปเองก็ได้แล้วมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ แต่เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเลขาอย่างเขาเพราะมันเกิดขึ้นกับบอสภาพข่าวในโซเชียลที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือข่าวว่าลูกสาวคนเดียวของคุณราเมศเข้าโรงพยาบาลกะทันหันโดยมีอาการตกเลือด แต่หมอช่วยไว้ได้ทัน เด็กในท้องเลยไม่ได้รับอันตรายทางนั้นยังให้สัมภาษณ์ว่า เธอตั้งครรภ์กับนักธุรกิจรายหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธ แถมยังบังคับให้เธอไปเอาเด็กออก พอเธอไม่ทำตามก็เลยให้แอบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status