Home / LGBTQ+ / ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง / 11.งานใหม่ชุดใหม่

Share

11.งานใหม่ชุดใหม่

Author: จินต์พิชา
last update Last Updated: 2024-11-13 14:00:27

ทิวาขับรถมารับเจ้านายที่หน้าบริษัท เมคินเดินออกมาพอดีเขาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่กับคนขับอย่างรวดเร็ว

“บอสควรนั่งข้างหลังนะครับ” ทิวาบอกอย่างสุภาพ

เมคินหัวเราะแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย

“จะนั่งตรงไหนก็เหมือนกัน ออกรถได้แล้วพี่หิว”

“บอสจะไปร้านไหนครับ ผมไม่ค่อยรู้ทาง”

“ขับออกไปก่อน เดี๋ยวพี่บอกทางให้”

“แค่บอกมาก็ได้ เดี๋ยวผมขับถามGPSเอง”

“นายเชื่อ GPS มากกว่าพี่เหรอ”

“เปล่าครับ”

เมคินบอกให้ชายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเลขาและคนขับรถจอดริมถนนแห่งหนึ่ง ถอดสูทออกพาดไว้กับเบาะรถ จากนั้นก็พาเดินลัดเลาะเข้ามาในซอยแคบๆ

“ร้านนี้เหรอครับ”

“อือร้านนี้แหละพี่กินตั้งแต่เรียนแล้ว ผัดซีอิ๊วร้านนี้อร่อยที่สุด ทิวจะกินอะไร เอาเมนูไหม” เมคินทำท่าจะเดินไปหยิบเมนูที่ว่างอยู่อีกโต๊ะ

“ไม่เป็นไรครับบอสเดี๋ยวผมไปหยิบเอง”

“อยู่นอกบริษัทไม่ต้องเรียกแบบนั้น”

“ครับ”

ทิวารับคำแล้วเดินไปสั่งอาหารกับแม่ค้า แวะหยิบน้ำเปล่าในตู้แช่มาสองขวด

“ไม่กินน้ำอัดลมเหรอ”

“ไม่ครับ พี่ล่ะ ผมหยิบตามความเคยชิน”

“น้ำเปล่านั่นแหละ”

ขากลับจากทานอาหารกลางวันเมคินเปลี่ยนมาเป็นคนขับ ทิวาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่อยากขัดใจเขา

“เราเปลี่ยนร้านได้ไหมครับพี่คิน” ทิวามองราคาเสื้อเชิ้ตแต่ละตัวแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า มันคงไม่แพงสำหรับเมคิน แต่สำหรับเขาราคานี้ซื้อตามตลาดนัดได้ไม่ต่ำกว่า 5 ตัว

“จะเปลี่ยนก็ได้ แต่นายช่วยพี่เลือกหน่อยสิ”

“ครับ พี่คินชอบสีไหนครับ”

“ขาว น้ำตาล”

“ผมเห็นในตู้มีเยอะแยะ”

“นั่นเก่าแล้ว”

“ปกติพี่ทำยังไงกับเสื้อผ้าเก่าที่ไม่ใส่แล้ว”

“ก็เอาไปใส่กล่องที่บริษัท วันหลังพี่จะชี้ให้นายดู ถ้ามีอะไรที่ไม่ได้ใช้ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นก็เอาไปใส่ในนั้นไว้”

“ดีเหมือนกันะครับ” ทิวาชื่นชมความคิดเขา เพราะเสื้อผ้าที่เมคินใส่แต่ละตัวยังดูใหม่มาก”

“แต่นายไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่นนะ เพราะนายใส่เสื้อพี่ไม่ได้หรอก”

“ผมรู้หรอกน่า” เพราะตัวเขาเล็กกว่าเมคินไปหนึ่งไซร์และส่วนสูงก็น้อยกว่า

“นายว่าตัวนี้สวยไหม” เมคินหยิบเชิ้ตสีฟ้าอ่อนให้เขาดู

“สวยครับ แต่ไม่เหมาะกับพี่”

“ทำไม”

“มันดูหวานไปนิด อย่างพี่คินต้องตัวนี้เลย”

ทิวาทาบเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าลงบนตัวเขา เมคินใจเต้นแรงจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยิน

“สวยดีนะ”

“เอาไหม แต่มันไม่ใช่สีที่พี่ชอบนะ”

“นายว่าไงล่ะ”

“ไม่รู้สิ ผมไม่ใช่คนใส่”

“นายชอบสีกรมเหรอ”

“เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าพี่ใส่สีนี้น่าจะหล่อดี”

“แล้วสีที่ใส่ตอนนี้ไม่หล่อเหรอ”

“หล่อสิ พี่คินใส่อะไรก็หล่อทั้งนั้นแหละ” พอชมเขาแล้วทิวาก็เขินตัวเอง จึงรีบเดินไปเลือกเนกไทที่อยู่อีกมุม

ระหว่างที่ทิวากำลังเลือกเนกไท ชายหนุ่มก็เลือกเสื้อเชิ้ตส่งให้พนักงานอีกหลายตัว

“พี่คิน จะซื้ออะไรอีกไหมครับ”

“ร้านนั้นไง”

เมคินเดินนำไปยังร้านสูทสำเร็จ ปกติตัวเองจะใส่แต่สูทสั่งตัดจากร้านประจำแต่เพราะรอไม่ได้เขาเลยต้องมาใช้บริการที่นี่

“พี่คินครับ ผมว่ามันเยอะไปแล้วนะครับ”

“เยอะที่ไหน นายต้องไปทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์นะ พี่จะให้เลขาใส่สูทชุดเดิมไปทำงานได้ยังไง”

“ผมจะค่อยๆ ผ่อนจ่ายให้พี่”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่เอาไปเบิกบริษัทก็ได้”

“เบิกเหรอครับ”

“อือ ทำไม”

“นั่นยิ่งแย่ไปใหญ่เลยนะ เพราะเท่ากับผมเอาเปรียบบริษัท”

“งั้นนายผ่อนกับพี่”

“ครับ” เพราะยังไงเขาก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว

เมคินนึกเอ็นดูทิวาเป็นอย่างมาก เพราะตลอดเวลาที่ซื้อของด้วยกันชายหนุ่มจะเอาแต่บ่นเรื่องราคาและความคุ้มค่า จนเขาต้องบอกเขารวยมากทิวาถึงเลิกบ่น

ทิวารับหน้าที่เขาของไปเก็บที่รถส่วนเมคินจะไปรอที่ร้านอาหารชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า

พอเดินผ่านร้านนาฬิกาก็แวะเข้าไปดูก่อนจะเลือกเรือนที่ราคาไม่แพงมากเพราะรู้ว่าทิวาจะต้องบ่นแน่ถ้าเขาซื้อของแพงให้ เมคินไม่ใช่คนที่ชอบซื้ออะไรให้คนอื่น แต่เหตุผลที่ซื้อของให้ทิวาก็เพราะอยากให้เขาดูดีในสายตาคนอื่น การทำงานเป็นเลขาของรองประธานอย่างเขามักมีโอกาสได้ออกไปเจอผู้คนแทบทุกวัน การเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอจะทำให้ทิวามีความมั่นใจมากขึ้นและไม่รีบลาออกเหมือนคนอื่น

“อยากซื้ออะไรเพิ่มไหม”

“ไม่ล่ะครับ แค่นี้ก็ไม่รู้ต้องผ่อนกี่ปีถึงจะหมด” ทิวาบ่นไปเรื่อย เมคินบอกเขาว่าจะให้ผ่อนแค่เดือนละสองพันเพราะกลัวเขาจะไม่มีเงินไปใช่อย่างอื่น

“ขนมปังล่ะ หมดหรือยัง”

“เหลืออีกนิดหน่อยครับ จะซื้อไปเลยก็ได้”

เมคินเดินตามชายหนุ่มไปยังซูเปอร์ชั้นล่างสุดติดกับทางออก

“ปกติตอนเช้านายกินอะไร”

“ถ้าตื่นเช้าก็แซนด์วิช ขนมปัง ไข่ดาวหรือไม่ก็ข้าวต้ม ถ้าตื่นสายก็ข้าวราดแกง ส่วนพี่ผมว่าแค่กาแฟอย่างเดียว” เพราะเขาไม่เห็นอะไรในครัวของเขาเลย

“แค่นั้นก็อยู่ท้องแล้ว อีกอย่าตอน 10 โมงคุณวีณาก็หาของว่างมาให้อยู่ดัน่แหละ”

“จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะขอทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ รับรองว่ากลิ่นไม่รบกวนแน่นอน”

“เอาสิ ว่าแต่นายจะทำอะไรล่ะ เอาง่ายๆ จะได้ไม่ต้องตื่นเช้า

“ครับ แค่ปังปิ้ง ไส้กรอก ไข่ดาว ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ”

“งั้นไปซื้อของกัน”

กว่าทั้งสองจะซื้อของเสร็จและกลับมาถึงคอนโดก็เกือบสองทุ่ม เมคินเรียกแม่บ้านประจำคอนโดให้รีบมาเอาผ้าไปซักเพราะอยากให้ทิวาได้ใส่พรุ่งนี้

“พี่คินครับ ผมขอคุยด้วยได้ไหม” ทิวาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็มานั่งบนโซฟาตัวเล็กที่กั้นระหว่างโต๊ะทำงานของเมคินกับเตียงนอนของเขา

“อือ ว่ามาสิ”

“ชุดที่ผมใส่วันนี้มันแย่มากเลยเหรอครับ” เป็นครั้งแรกที่ทิวารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง

“อะไรทำให้นายคิดแบบนั้น”

“ก็พี่นั่นแหละ”

เป็นครั้งแรกที่ทิวาแสดงสีหน้าและท่าทางไม่พอใจเขาเป็นอย่างมาก เมคินเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์แบบพกพาแล้วเดินอ้อมมานั่งข้างๆ ทิวา

“ชุดที่นายใส่มันไม่ได้แย่ เพียงแต่พี่อยากให้นายใส่อะไรที่มันเหมาะกับนาย”

“ยังไง”

“นายเป็นคนหน้าตาดี บุคลิกดี อีกอย่างเราจะได้ใส่เหมือนกันไง”

“ใส่เหมือน ทำไมต้องใส่เหมือนด้วย พี่หน้าตาดี หุ่นดีขนาดนี้แล้วให้ผมใส่เหมือนพี่ นี่มันฆ่ากันชัดๆ”

“พี่ไม่เข้าใจ”

“ก็เวลาผมเดินไปกับพี่จะมีใครมองผมไหมล่ะ”

“กลัวสาวๆ ไม่มอง”

“มันไม่ใช่แบบนั้น คือพี่ลองนึกภาพดูนะคนสองคนแต่งตัวเหมือนกันทุกอย่าง อีกคนสูงหุ่นดีหล่อเข้ม อีกคนตัวเล็กหน้าจืดอย่างกับคนอมโรค”

คำพูดของทิวาทำเอาเมคินหัวเราะลั่นห้อง

“แค่นึกภาพพี่คินยังหัวเราะลั่น”

“นายก็พูดเกินจริง นายเองก็หล่อ แต่มันคนละแบบกับพี่จะเปรียบเทียบแบบนั้นทำไม จำไม่ได้เหรอครั้งแรกที่พี่เจอนายแล้วเข้าไปทักก็เพราะใบหน้าหล่อสไตล์เกาหลีของนายนั่นแหละ”

ทิวาพยักหน้าเข้าใจ เพราะมีหลายคนที่บอกว่าเขาหน้าออกไปแนวเกาหลี แต่เขารู้สึกไม่ชอบใจเลย เพราะมันทำให้เขาคิดว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นลูกครึ่งอะไรกันแน่

“เอาล่ะ พี่จะนอนแล้วนายก็ควรรีบเข้านอนพรุ่งนี้จะตื่นมาทำอาหารเช้าไม่ใช่เหรอ”

“ครับพี่”

“พี่สัญญาเลยก่อนแต่งตัวทุกวันพี่จะดูก่อนว่านายใส่ชุดไหนจะได้ไม่ใส่เหมือนกันโอเคไหม”

“โอเคครับ”

ทิวายิ้มออก เขาเดินไปส่งเมคินที่ประตูห้อง จากนั้นปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน การได้คุยกับใครสักคนก่อนนอนมันทำให้เขารู้สึกดีจนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

Related chapters

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   12.การยอมรับของครอบครัว

    ครบหนึ่งเดือนแล้วกับการมาทำงานของทิวา ชายหนุ่มเรียนรู้งานได้เร็วจนฉัตรภพไม่มีอะไรจะต้องแนะนำอีกแล้วตอนนี้เวลาออกไปพบลูกค้านอกบริษัทเมคินจะพาทิวาไปด้วยทุกครั้งยกเว้นต้องไปเซ็นสัญญาหรือมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องจึงจะให้ฉัตรภพตามไปด้วย“ทิว เย็นนี้พี่จะไปกินข้าวกับที่บ้านจะไปด้วยกันไหม”“ไม่ดีกว่าครับ”ทิวาเคยไปที่บ้านของเมคินมาแล้วครั้งหนึ่งทุกคนให้การต้อนรับและพูดคุยอย่างเป็นกันเองทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ที่ไม่ยอมไปกับเมคินวันนี้เพราะมีเขามีอย่างอื่นที่ต้องทำ“แล้วจะไปกินข้าวที่ไหน”“ก็ร้านใต้คอนโดนั่นแหละครับ พี่คินจะค้างที่นั่นไหม”“ยังไม่แน่ใจ นายอยู่คนเดียวได้ไหม”“พี่ผมอายุ 25 แล้วนะครับไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”“อ้าวเหรอก็พี่เห็นนายยังชอบดูการ์ตูนอยู่เลย ก็นึกว่ายังไม่โต”“พี่เองก็ดูอย่ามาว่าแต่ผม รีบไปสิครับเดี๋ยวคุณแม่ก็รอนานหรอก”“ไม่ไปด้วยแน่นะ”“ไม่ครับ วันนี้ผมจะไปฟิตเนส”“พี่ฟังไม่ผิดใช่ไหม” เพราะมีหลายครั้งที่เขาชวนทิวาไปออกกำลังกายด้วยแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยไปด้วยสักครั้ง“ไม่ผิด ต่อไปนี้ผมจะออกกำลังกาย”“งั้นพรุ่งนี้เช้าไม่ต้องทำอาหาร ไปวิ่ง

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   13.มันก็แค่อดีต

    เมคินกลับถึงห้องเกือบจะเที่ยงคืน คิดว่ายังไงทิวาก็คงหลับไปแล้ว แต่พอเปิดประตูห้องเขาไป ทิวาก็นั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าดูดีใจที่เห็นเขา ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามานั่งคุยด้วย“ทำไมยังไม่นอน”“ยังไม่ง่วงครับ” อันที่จริงก็รอเขานั่นแหละ แต่ไม่กล้าบอก“ทิว ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากออกกำลังกาย” เมื่ออีกคนบอกไม่ง่วงเขาก็ชวนคุย“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่อยากหุ่นดีแบบพี่คินเท่านั้นเอง”“หุ่นนายก็ดีอยู่แล้วนี่”ทิวาเป็นคนที่หุ่นดีคนหนึ่งอาจจะดูตัวเล็กกว่าเขาอยู่บ้าง แต่มันก็ดูสมส่วน ไม่ได้เก้งก้างหรือผอมจนเกินไป“ผมอยากมีซิกซ์แพกเหมือนพี่ มันเซ็กซี่ดี”“งั้นพี่ก็เซ็กซี่ใช่ไหม” ถามแล้วก็อมยิ้มคำชมนี้เมคินเคยได้ยินมาก็บ่อย แต่พอฟังจากปากของทิวาแล้วมันทำให้เขารู้สึกดีกว่าครั้งไหน“คงงั้น” เขาตอบพร้อมก้มหน้าไม่กล้าสบสายตา เพราะไม่เคยชมผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่พอชมไปแล้วก็รู้สึกเขินตัวเองเมคินเห็นอย่างนั้นเลยเปลี่ยนเรื่องคุย“ที่บริษัทมีสาวๆ คนไหนถูกใจบ้างไหม” เพราะได้ข่าวเข้าหูมาบ่อยๆ ว่าทิวาเป็นขวัญใจของสาวๆ ในบริษัท“ไม่มีครับ”เขายังไม่คิดจะคบหากับใครตอนนี้ เพราะตัวเองยังไม่มั่นคงพอจะให้ใครมาลำบากด้วย อีกอย่าง

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   14.ก็พี่ตัวอุ่น

    มือที่พาดอยู่บนพนักโซฟาขยับลงมาบนไหล่ลูบเบาๆ คล้ายกำลังปลอบประโลม จมูกโด่งกดลงบนเส้นผม สูดดมความหอมอย่างไม่อาจห้ามทิวารู้สึกได้ว่าเมคินหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ต่างจากหัวใจตัวเองที่มันก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ“ทิว ดึกแล้วนายจะกอดพี่ไปถึงเช้าเลยหรือไง” เมคินคงทนอยู่แบบนี้ได้มานานเพราะรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นทีละนิด“ก็พี่คินตัวอุ่น” ทิวตอบก่อนจะรีบถอยออก“ไหนว่าอุ่นไง ไม่กอดต่อแล้วเหรอ” เขาเห็นทิวาหน้าแดงไปจนถึงหูก็อดแกล้งไม่ได้“ไม่ดีกว่าดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องรีบตื่น อ้อ พี่คิน ผมเปลี่ยนใจแล้วนะ พรุ่งนี้พี่ไปวิ่งคนเดียวเถอะ ผมจะทำข้าวต้มกุ้ง ฝากพี่ซื้อน้ำส้มคั้นมาด้วยนะครับ เอาขวดเล็กสองขวด ร้านที่ 2 นับจากทางเข้านะครับ”พูดจบก็วิ่งเขาไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีเมคินอดยิ้มไม่ได้ ตั้งแต่ทิวามาอยู่ด้วยเขารู้สึกว่าตัวเองยิ้มบ่อยขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้น ในทุกๆ วันเขาจะออกไปทำงานและกลับคอนโดพร้อมกับทิวา จากที่เคยออกไปดื่มกับเพื่อนบ้างออกไปหาความสุขให้ตัวเองบ้าง ระยะเวลาเดือนว่าเขาไม่เคยได้ปลดปล่อยพลังทางเพศแต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขได้อย่างประหลาดแต่วันนี้เขาคงทนต่อไปไ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   15.คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก

    พอเห็นข้อความที่เด้งเข้าแบบรัวๆ เมคินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูโดยไม่ได้เข้าไปในแอปพลิเคชัน จากที่คิดจะอยู่ให้ห่างเพราะกลัวใจตัวเองก็ต้องเปลี่ยนความคิด ชายหนุ่มรีบขับรถออกจากบ้านทั้งที่ยังสวมชุดนอนอยู่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเมคินก็มาถึงห้องนอนของตัวเอง เขาเปิดประตูเข้าไปเงียบๆ ไฟยังคงเปิดอยู่แล้วก็สะดุดตากับร่างของทิวาที่หลับอยู่บนโซฟา ในมือของเขายังถือโทรศัพท์อยู่ เมคินรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ทิวาต้องมารอแบบนี้ ถ้าเขาโทรบอกก่อนชายหนุ่มก็คงไม่ต้องมาหลับอยู่บนโซฟา“ทิว ทิว” เขาเรียกเบา เพราะกลัวอีกคนจะตกใจ“อืม พี่คินกลับมาแล้วเหรอครับ”“กลับมาแล้ว ไปนอนในห้องเถอะ นอนตรงนี้เดี๋ยวได้เมื่อยกันพอดี”ทิวาลุกขึ้นเขาขยี้ตาและมองหน้าเมคินที่นั่งลงข้างเขาอีกครั้ง“ใช่พี่คินจริงๆ ด้วย”“ถ้าไม่ใช่พี่แล้วจะใคร” เมคินยิ้ม“พี่คิน ผมขอโทษ”เมคินไม่เข้าใจว่าทิวาไปทำอะไรผิดมาถึงได้ทำหน้าแบบนี้“ไปทำอะไรผิดมา”“เรื่องเมื่อวาน เรื่องไหน” เมคินคิดไม่ออกเพราะเมื่อวานทุกอย่างก็ปกติดี“ที่ผมกอดพี่ ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมล้ำเส้น” เขาพูดเสียงอ่อน ส่งสายตาอ้อนวอนอยากให้เขายกโทษให้“พี่ไม่โกรธทิวเลย”“แต่วันนี้พี่คินไม่

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   16.รู้ว่ามีคนรอ

    เมคินไปส่งเมลดาที่บ้านพี่เขยจากนั้นก็รีบกลับที่คอนโดในเวลาเกือบเที่ยงคืน“พี่คิน เหนื่อยไหม” เสียงทักทายดังขึ้นตั้งแต่เขายังไม่ทันปิดประตูด้วยซ้ำ ทิวาเดินมารับกระเป๋าไปเก็บ“อือ ดึกแล้วทำไม่ยังไม่นอน”“ผมอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยครับ” ทิวาอ่านหนังสือจริง แต่แค่ไม่กี่หน้าเพราะเอาแต่พะวงว่าอีกคนจะกลับมาตอนไหนทิวาเดินไปรินน้ำส่งให้เมคินก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา“เริ่มเรียนจริงเมื่อไหร่”“จันทร์นี้แล้วครับ เรียนหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม พี่คินกลับคอนโดเองได้ใช่ไหมครับ” พอถามออกไปแล้วก็หัวเราะเพราะนั้นควรเป็นคำพูดของเมคินมากกว่า“ผมคิดว่าพี่คิดจะค้างที่บ้าน” เพราะรู้ว่าเขาต้องไปส่งคุณเมลดาที่บ้านสามีแล้วบ้านหลังนั้นก็อยู่หมู่บ้านเดียวกับบ้านของเขา“พี่รู้ว่ามีคนรอ”“ผมไม่ได้รอนะ” ทิวารีบแก้ตัว พอเขาพูดจี้จุดอย่างนี้เรื่องที่คิดจะคุยก็เลยลืมไปหมด“อ้าวเหรอ พี่คงเข้าใจผิดไปเอง”“ก็คงอย่างนั้นแหละ ผมจะรอพี่ทำไม ตัวไม่ได้ติดกันสักหน่อย ผมไปนอนนะ พี่คินก็รีบเข้านอนนะครับ”ถ้าเป็นเมื่อก่อนหลังจากส่งพี่สาวเสร็จเขาก็คงกลับไปนอนที่บ้านเพราะมันดึกมากแล้ว แต่ที่ขับรถกลับมาที่คอนโดเพราะคิดว่าทิวาจะรอเขาอยู่ ตอนท

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   17.ก็นายมันดื้อ

    หลังเลิกงานเมคินกับทิวาก็มาทานอาหารที่ร้านประจำอย่างเคย วันนี้บอสหนุ่มเป็นคนโทรสั่งอาหาร เขาเลือกต้มยำปลาแม่น้ำ ยำถั่วพู ปีกไก่น้ำแดง และห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน“ไม่อร่อยเหรอ”ปกติแล้วทิวาจะชอบอาหารรสจัดแบบนี้ ทุกครั้งชายหนุ่มจะทานไปด้วยยิ้มไปด้วย แต่วันนี้นอกจากจะทานน้อยกว่าทุกวันแล้วรอยยิ้มก็แทบไม่มีให้เห็น“อร่อยครับ”“แต่ท่าทางของนายไม่ใช่แบบนั้นนะ เป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่าเครียดเรื่องงาน”“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมแค่ปวดท้องนิดหน่อย”“ไปหาหมอไหม”ปกติเป็นคนขาวอยู่แล้วแต่ตอนนี้หน้าชายหนุ่มซีดจนน่าตกใจ“ไม่ต้องหรอกครับ ปวดท้องแค่นิดหน่อยเอง เดี๋ยวขากลับแวะตรงร้านขายหน้าหน้าคอนโดหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าจะซื้อยาสักหน่อย”“ได้สิ แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องรีบออกนะ อย่าฝืน”“ครับพี่”ทิวาทานต่ออีกนิดเพราะเห็นว่าอีกคนทานไปยังไม่เยอะ ถ้าหยุดตอนนี้ก็รู้ว่าเมคินนั้นคงยังไม่อิ่ม แต่ยิ่งทานก็ยิ่งปวดท้อง สุดท้ายก็เลยต้องวางช้อนกับส้อมลง“พี่คิน ไม่ต้องรีบนะครับ ผมไม่เป็นอะไรมาก”“เห็นหน้าเป็นแบบนี้ใครจะกินลง” เมคินมาได้ตำหนิหรือไม่พอใจแต่เขาห่วงอีกคนจนทานอะไรไม่ลงเหมือนกันพอจ่ายเงินค่าอาหารแล้วเขาก็เป็นคนขับ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   18.พยาบาลพิเศษ

    เป็นวันแรกที่เมคินขับรถกลับมาทำงานคนเดียว ตั้งแต่ทิวามาทำงานด้วย ความรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง คงเพราะที่ผ่านมามีชายหนุ่มอีกคนอยู่ด้วยแทบจะตลอดเวลาเขาไปประชุมที่บริษัทลูกค้าสองแห่งจากนั้นก็ไปทานอาหารกลางวันกับฉัตรภพและกลับมานั่งทำงานต่อ ใจจริงอยากไปโรงพยาบาลเพื่อดูว่าทิวาเป็นยังไงบ้าง แต่งานตรงหน้าก็ยังไม่เรียบร้อยตกบ่ายก็ได้รับสายจากทิวา ชายหนุ่มโทรมาบอกว่าผลการส่องกล้องไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่หมอตรวจพบเชื้อเอชไพโลไรในกระเพาะอาหารเลยต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกสองวันเพื่อรับยาฆ่าเชื้อเข้าทางสายน้ำเกลือจากนั้นก็ให้ไปทานยาต่อที่บ้านอีก 5 วัน“เย็นนี้อยากกินอะไร พี่เลิกงานแล้วจะได้ซื้อไปให้”“ไม่ต้องห่วงครับ ผมทานอาหารของโรงพยาบาลได้ พี่คินไม่ต้องมาก็ได้ ผมไม่เป็นอะไรมากสักหน่อย แค่นอนให้ยาเท่านั้นเอง”“งั้นก็ตามใจ เดี๋ยวพี่ส่งพยาบาลพิเศษไปเฝ้าก็ได้”“ครับ” เพราะไม่อยากให้เขาต้องลำบากมาเฝ้าทิวาเลยไม่ปฏิเสธเรื่องพยาบาลพิเศษ“พี่ทำงานต่อนะ อย่าดื้อกับหมอและพยาบาลล่ะ เข้าใจไหม”“ครับ”พอวางสายแล้วคนป่วยก็ส่งไลน์มาย้ำเรื่องอาหารเย็นอีกครั้งTiwa : ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนผมอย่าลืมทานข้าวนะครับ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   19.ห่วงใย

    การนอนโรงพยาบาลของทิวาไม่ได้น่าเบื่อเท่าไหร่ ตอนเช้าเขาทบทวนบทเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวสอบโทอิคพอตกบ่ายเมคินก็ส่งไฟล์งานให้ทำ พอตกเย็นเขาก็มาอยู่เป็นเพื่อน ก่อนจะนอนคุยกันจนพยาบาลมาวัดความดันตอนสี่ทุ่มจึงผิดไฟนอน พอตอนเช้าก็สั่งอาหารของโรงพยาบาลมานั่งทานเป็นเพื่อนคนป่วยก่อนไปทำงานเช้าวันนี้หมออนุญาตให้ทิวากลับบ้านได้แต่ต้องหลังจากยาฆ่าเชื้อขวดสุดท้ายหมด“วันนี้นี้พี่คินมีประชุมนะครับ ผมกลับคนเดียวได้”“ถ้าประชุมเสร็จเร็วจะมารับนะ”“ตามใจครับ แต่ถ้าผมทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้วพี่ยังประชุมไม่เสร็จผมจะนั่งแท็กซี่กลับ ตอนเย็นค่อยเจอกัน”ทิวาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะมารับเพราะรู้ว่าพูดไปก็เหนื่อยเปล่า อย่างสองวันที่ผ่านมานี้เขาก็บอกให้เมคินกลับไปนอนที่ห้องเพราะไม่อยากให้นอนบนโซฟา แต่ก็เหมือนอีกคนไม่สนใจฟังเลยแม้แต่น้อย“อือ พี่ไปทำงานก่อนนะ อย่าดื้อกับคุณพยาบาลล่ะ”“ผมว่าพี่รีบไปเถอะครับ ถ้าออกสายกว่านี้รถจะติดเอานะครับ” เขาเตือนพร้อมกับส่งกระเป๋าเอกสารให้บอสหนุ่ม ใช้มือดันแผ่นหลังให้เขาเดินออกจากห้องพอบอสกลับไปแล้วทั้งห้องก็กลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง เขานอนอยู่บนเตียงกว้าง นั่งฟังบทความภาษาอ

Latest chapter

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   30.แค่อยากเห็นหน้า

    หลังหยุดยาวปีใหม่ทุกคนก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม รวมทั้งทิวาและเมคิน แม้สถานะจะเปลี่ยนไปแต่ในเวลางานพวกเขาก็เป็นบอสกับเลขาอย่างเดิมเรื่องขโมยที่เข้าห้องเมคินก็ยังจับไม่ได้ ป้ายประกาศหน้าที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นรูปของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นทำให้หลายคงยังคงคิดว่าเป็นทิวาอยู่ดี แม้ชายหนุ่มจะพ้นข้อกล่าวหาเพราะมีหลักฐานให้กับทางตำรวจแล้ว แต่ภาพจากกล้องมันก็ยังทำให้หลายไม่เชื่อสายตาหลายคู่เต็มไปด้วยคำถามมากมายมองมาจน ทิวารู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เพราะเรื่องทุกอย่างมันจบตั้งแต่บนโรงพักในวันนั้นแล้วแต่ตราบใดที่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ทิวาก็ยังถูกมองด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจอยู่ดีเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทำให้ทิวาหลุดออกจากความคิดตัวเอง เขารีบยกหูทันที“เข้ามาหาผมหน่อย”“ครับบอส”พอวางสายทิวาก็ถือแฟ้มของฝ่ายบุคคลเข้าไปในห้องเจ้านายตามคำสั่งทันที“แฟ้มที่ต้องเช็นตอนบ่ายครับ” เลขาหนุ่มวางลงบนโต๊ะอย่างเคย“ที่เรียกเข้ามาไม่ได้ให้เอาแฟ้มเข้ามาสักหน่อย”“บอสมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”“เปล่า แค่อยากเห็นหน้า” เขาทำเสียงสองเหมือนเวลาที่อยู่คอนโด“บอสครับ นี่มันที่ทำงาน”“แต่มันใน

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   29.ของขวัญปีใหม่

    ​ แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่และเป็นแสงแรกของปีส่องผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามายังห้องนอนกว้าง ทิวาลืมตาสู้แสงทีละนิด ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น พยายามขยับตัวจะลุกนั่งแต่ช่วงล่างก็เจ็บปวดจนเกินจะทนเขาจึงได้แต่นอนนิ่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน ชายหนุ่มจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ไม่ทั้งหมด รู้แต่ว่าตัวเองกับบอสนัวเนียกันตั้งแต่ในสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ขึ้นมาทำเรื่องอย่างว่าที่ริมสระ ใบหน้าชายหนุ่มร้อนขึ้นทันทีครั้งแรกของเขากับเมคินแทนที่จะเป็นในห้องนอนเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวแต่กลับกลายเป็นริมสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ถูกอุ้มเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ บอสให้เขานอนพัก เพียงไม่นานเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมคินมอบบทรักบทใหม่ให้อีกหลายต่อหลายครั้ง ภาพจำสุดท้ายเท่าที่พอนึกออกคือบอสกำลังเช็ดตัวให้ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น จากนั้นเขาก็หลับลึกจนถึงเช้าสมองตื่นตัวแล้ว หากแต่ร่างกายยังไม่อาจขยับเขยื้อน ใครจะคิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บถึงเพียงนี้ ถ้าถามว่าย้อนกลับไปเมื่อวานจะยอมให้เมคินทำแบบนี้กับตัวเองอีกไหม เลขาอย่างเขาก็ตอบได้ทันทีเลยว่าเขายอม เพราะมันมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรัก ยิ่

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   28.เคาท์ดาวน์ nc25+++

    “นายก็คือพรหมลิขิตของพี่ พี่สัญญาจากนี้นายจะไม่โดดเดี่ยว นายจะมีพี่เป็นครอบครัวของนาย”ทิวาสบตาคมคู่นั้นแล้วยิ้ม ในเมื่อเมคินสัญญาแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วทั้งสองจ้องตากันอย่างมีความหมาย เมคินก้มหน้าลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มหนักหน่วงขึ้น แรงบดเบียดเสียดสีจนทิวาต้องยกมือขึ้นจับไหล่กว้างไว้เพราะกลัวตัวเองจะจมหายไปกับห้วงอารมณ์พิศวาส“อ๊ะ!...อืมมม”ทิวาส่งเสียงเมื่อจมูกโด่งของเขาเคลื่อนไปบริเวณติ่งหู เขาขบเม้มวนเวียนบนผิวเนื้อขาวเนียนจากนั้นก็เลื่อนตำไปยังลำคอที่มีหยดน้ำเกาะพราวไปตามผิว ร่างกายคนน้องร้อนผ่าว เมคินใช้ลิ้นร้อนลากผ่านดูดเบาๆ ไปตามซอกคอจนทิวาบีบไหล่เขาแรงขึ้น เลขาคู่ใจกัดริมฝีปากแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงครางออกไปให้อีกคนได้ยินเมคินขยับริมฝีปากร้อนไปยังไหปลาร้าและลำคอ เสียงจูบแผ่วเบาหากแต่ดังกังวานอยู่เต็มหัวใจ มือหนาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอก ลากปลายนิ้วปัดป่ายจนโดนส่วนยอด ทิวาตัวสั่นเทา มือที่จับไหล่เปลี่ยนเป็นคล้องไปลำคอแกร่ง เขาแทบพยุงตัวเองไม่อยู่ เพียงสายน้ำที่โอบอุ้มก็ทำให้รู้สึกตัวเบาอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสัมผัสแบบนี้ก็เหมือนกับตัวเ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   27.พรหมลิขิต

    แม้เช้านี้จะไม่ต้องรีบตื่นไปทำงานแต่ทิวาก็ยังคงตื่นเช้าตามปกติ เขามองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ ท่อนแขนแข็งแรงยังกอดอยู่ที่เอว เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ คิดแล้วร่างกายก็ร้อนวูบวาบ ความเป็นชายที่มันมักจะตื่นตอนเช้าตามปกติก็ตื่นตัวยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบอสก่อนจะรีบตรงไปห้องน้ำเขามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ มองรอยแดงเป็นจ้ำที่ลำคอแล้วยิ้ม เขาเคยช่วยตัวเองมานับไม่ถ้วนแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะมีความสุขเหมือนเมื่อวาน เพียงแค่ฝ่ามือร้อนๆ ของเมคินก็ทำเอาเขาแทบคุมสติไม่อยู่ ใบหน้าหวานแดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อนึกไปถึงความเป็นชายของเมคินที่มันใหญ่กว่าของตัวเองไปมากมันจะเขาไปในตัวเขาได้ยังไง มันจะฝืนธรรมชาติเกินไปหรือเปล่า ทิวาสับสนไปหมด แต่ในใจส่วนลึกก็อยากให้เขาทำมากกว่านั้น อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเขาเขาเรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวมาบ้างจากการอ่านในอินเทอร์เน็ตและจากกลุ่มลับในไลน์ที่องศาแนะนำ เขาใช้ไอดีหลุมเข้าไปสอบถาม เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แม้กระทั่งองศาก็ไม่รู้ว่าทิวใช้ชื่ออะไรในกลุ่มลับนั้น เขาจำคำพูดของสมาชิกในกลุ่มได้ดี ทุกคนย่อมมีครั้งแรก แล

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   26.บรรยากาศพาไป nc นิดๆ

    ทิวาเดินตามเมคินออกมายังชายหาด ตอนนี้ท้องฟ้ามืดมิด มองออกไปยังพื้นน้ำทะเลด้านหน้าเห็นแสงไฟจากเรือประมงอยู่หลายดวงสายตาของเขาจ้องมองไปยังไหลกว้าง ไหล่ที่เขาซบทีไรอบอุ่นถึงหัวใจทุกครั้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีความรู้สึกพิเศษแบบนี้ให้กับผู้ชายด้วยกัน หากแต่พอมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด“มาช้าจัง”“ยากันยุงกลิ่นมันฉุนผมต้องล้างมือหลานรอบเลย”“ไหนมาดมหน่อย หายเหม็นหรือยัง” เมคินคว้าข้อมือของทิวาเข้าใกล้แล้วกดจมูกลงบนหลังมืออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มือวางลงบนท่อนขาของตัวเองทิวาเขินจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเขาจับมือไว้แล้วไล้นิ้วโป้งเบาๆ ชายหนุ่มก็แทบละลาย โชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมถ้าไม่อย่างนั้นเมคินคงได้เห็นเลขาหนุ่มหน้าแดงไปถึงใบหูแน่ๆ“ไม่มีกลิ่นแล้วใช่ไหม”“มีสิ”“ผมล้างตั้งหลายรอบแล้วนะพี่” ทิวาพยายามดึงมือตัวเองกลับมาดม แต่เขาก็รั้งไว้“ที่บอกว่ามีกลิ่นมันก็คือกลิ่นจากมือของนายไง”“อ๋อ พี่คินครับ ขอมือคืนได้ไหม ผมจะกินขนม”เมคินปล่อยมือทิวาออกแล้วใช้มือตัวเองโอบหลัง ดึงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ทิวาขืนตัวเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าที่นี่เป็นหาดส่วนตัวแถมย

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   25.เชียงใหม่กลายเป็นเสม็ด

    หลังจากงานเลี้ยงปีใหม่พนักงานทุกคนก็ได้หยุดยาว เมคินและทิวาเตรียมจัดกระเป๋าเพราะพรุ่งนี้ทั้งสองจะเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยกันทิวาจัดของตัวเองเสร็จเลยคิดจะไปช่วยเมคินจัดของบ้าง ประตูห้องเปิดแง้มอยู่เขาจึงดันเข้าไปเบาๆ“ทิวาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่”ทิวาไม่รู้ว่าเมคินกำลังคุยอยู่กับใคร แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน เขายืนรอจนกระทั่งชายหนุ่มวางสาย“เกิดอะไรขึ้นครับ”“ไม่มีอะไร” เมคินรีบบอกปัดเพราะไม่อยากให้ทิวารู้“แต่ผมได้ยินพี่พูดชื่อผมนะครับ”เมคินนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเล่าว่าเมื่อคืนขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ที่งานเลี้ยงก็มีคนแอบเข้ามาในบริษัทลักษณะเหมือนกับทิวาทุกประการ ชายคนนั้นเข้าไปยังห้องทำงานของเมคินและพยายามเปิดตู้เซฟจนสัญญาณกันขโมยดังขึ้น รปภ. จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณตู้เซฟมีรอยงัดแงะ แต่คนร้ายก็เปิดไม่ได้ มันจึงเอาแต่โน้ตบุ๊กของเมคินไปเท่านั้น“จะเป็นผมไปได้ยังไงครับ”“ก็นั่นน่ะสิ พี่ว่าเราคงต้องเลื่อนเวลาเดินทางแล้ว”“ไม่เป็นไรครับ จัดการธุระให้เสร็จดีกว่าครับ”ระหว่างทางไปบริษัทเมคินก็จัดการเรื่องตัวเครื่องบิน แต่เพราะเป็นช่วงเทศกาลตั๋วเที่ยวบินอื่

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   24.แฟนกันวันแรก

    แม้จะได้นอนไปเพียงสี่ชั่วโมงแต่ทิวากลับตื่นนอนด้วยความสดชื่น เขาออกมาทำอาหารอย่างเคย ไส้กรอก ไข่ดาวเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว ขอแค่เมคินกลับมาจากออกกำลังกายก็ปิ้งขนมปังอีกอย่างก็เรียบร้อยเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ทิวาก็หยิบขนมปังลงเครื่อง“พี่แต่งชุดนี้ไปวิ่งเหรอครับ” ก็ชุดที่เขาใส่ดูยังไงก็คือชุดนอน“เปล่า วันนี้ไม่ได้วิ่ง”“อ้าวแล้ว ไปไหนมาแต่เช้าล่ะครับ”“ไปซื้อน้ำส้ม” เพราะทิวาชอบฝากเขาซื้อน้ำส้มขากลับจากวิ่ง“ขอบคุณครับ แต่ครั้งหน้าถ้าพี่ไม่ออกไปวิ่งก็ไม่ต้องลงไปซื้อก็ได้ ผมเกรงใจ”“ไม่เป็นไร มันไม่ได้ไกลมาก อีกอย่างพี่รู้ว่าแฟนพี่ชอบกิน”“พี่คิน” เขาทำสีหน้าตกใจที่ได้ยินเมคินพูดแบบนั้น“เวลาทิวเขิน น่ารักดีนะ” พอเห็นเขาอายเมคินก็อยากแกล้งยิ่งเห็นเขาหน้าแดงหูแดงก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี“พี่คินห้ามพูดแบบนี้ให้คนอื่นได้ยินนะครับ โดยเฉพาะที่ทำงาน”“ทำไม? เป็นแฟนพี่มาน่าอายมากเลยเหรอ” เขาทำหน้าเหมือนเสียใจหากแต่แววตาพราวระยิบ“ผมแค่ห่วงว่าคนอื่นจะมองพี่ไม่ดี”“ไม่เห็นต้องแคร์ เรื่องแบบนี้พี่ว่ามันเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว”“ครับ ผมเชื่อว่าพี่รู้ว่าเวลาอยู่บริษัทพี่ต้องปฏิบัติกับผมยังไง เพราะคนที่เ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   23.คนของผม

    “บอสครับของขวัญพร้อมแล้ว จะออกเดินทางกี่โมงครับ”ทิวาถือกล่องของขวัญที่คุณวีณาไปซื้อมาตอนบ่ายเข้ามาในห้องของเจ้านายในเวลาเกือบหกโมงเย็นเมคินลุกขึ้นสวมสูทสีน้ำเงินเข้าทับเชิ้ตสีขาว พร้อมสำหรับไปร่วมงาน“ไปสิ”“จะไปชุดนี้เหรอครับ” ทิวามองชุดที่เจ้านายสวมอยู่แล้วมันเคร่งขรึมเกินกว่าจะไปร่วมงานมงคล“อือ ทำไม”“เปลี่ยนไทหน่อยไหมครับ” เมคินก้มมองเนกไทสีกรมท่าสลับกับมองทิวาที่กำลังเปิดตู้เอกสารเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง“ผมว่าสีนี้ดีกว่า” ชายหนุ่มหยิบเนกไทสีฟ้าอ่อนออกมาจากกล่อง“เปลี่ยนให้หน่อยสิ”“บอสก็เปลี่ยนเองสิครับ”“ถ้าไม่เปลี่ยนให้ก็ไปกันเลย” เขาหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง“ก็ได้ครับ”เมคินยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับมาทิวาดึงเนกไทเส้นเดิมออก เอื้อมมือคล้องอีกเส้นไปด้านหลัง ก่อนจะวกกลับมาแล้วเริ่มผูกเป็นปม เมคินยืนนิ่งเขาชอบที่เห็นทิวาอยู่ใกล้แบบนี้ เขาชอบมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูไร้เล่ห์เหลี่ยมของคนตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก เขาจำได้ว่าเป็นคนเลือกให้ แต่กลิ่นของมันไม่เหมือนกับตอนแรกที่ซื้อคงเพราะมันผสมกับกลิ่นกายจนทำให้เป็นกลิ่นเฉพาะที่รู้สึกหอมจนไม่อยากให้เข

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   22.อยากรู้ก็ต้องถาม

    “ผู้หญิงคนเมื่อวานเป็นน้องรหัส เขามาชวนไปงานปาร์ตี้สละโสด เขาชวนนายไปงานแต่งงานเขาด้วย”อยู่ๆ เมคินก็พูดขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารเช้า เพราะคิดว่าอีกคนคงอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม เขาสังเกตว่าเช้านี้ทิวาเอาแต่ก้มหน้า ไม่ยอมสบตาแถมยังนั่งเขี่ยไข่ดาวในจานเล่นจนมันเละไปหมด และพอพูดจบก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีรอยยิ้มที่มุมปาก“พี่บอกทำไม ผมยังไม่ได้ถามสักหน่อย”“ก็แค่อยากบอก เผื่อว่าคนบางคนแถวนี้จะเข้าใจผิด”“ใครจะเข้าใจผิดกัน” ทิวาปฏิเสธพร้อมหลบสายตาอีกคน“ไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว คราวหน้าถ้าอยากรู้ก็ถาม ถ้าอยากให้กลับเร็วก็โทรตาม ไม่ใช่นอนรอแบบนั้น”“ถ้าโทรตามพี่จะรีบกลับเหรอ เกินว่าพี่ทำธุระอยู่หรือพี่กำลังสนุกกับเพื่อนแล้วผมโทรตาม พอกลับถึงห้องพี่จะไม่โกรธเอาเหรอ”“มันก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าพี่กลับเร็วได้ก็จะรีบกลับ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็จะบอก”“แล้วจะโกรธไหมครับ”“ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองโทรดู”“พูดแบบนี้ใครจะกล้าโทรตาม” ทิวาทำหน้าเบื่อโลกก่อนจะยกจานไปเก็บ แต่ถ้าครั้งหน้าเมคินออกไปกับเพื่อนอีกเขาคิดว่าจะลองโทรตามดู ชายหนุ่มก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำตามที่พูดไหมตารางงานของเมคินตลอดทั้งสัปดาห์เพราะช่วงใกล้เทศกาลป

DMCA.com Protection Status