Share

4.โดดเดี่ยว

Penulis: จินต์พิชา
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-11 19:47:27

ทิวาเดินตามชายหนุ่มเข้ามาในลิฟต์ แล้วก็ยืนตัวลีบเพราะรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้มันหรูหราเกินกว่าคนธรรมดาอย่างเขาจะมีโอกาสได้เข้ามาพัก

ประตูลิฟต์เปิดที่ชั้น 30 ชายหนุ่มตัวสูงเดินนำเขาไปยังห้องซ้ายสุดของทางเดิน พอประตูห้องเปิดทิวาสำรวจไปทั่วห้องอย่างตื่นตาตื่นใจ

ห้องขนาดไม่ใหญ่มากแต่เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งดูดีกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้ โซฟาตัวยาวกลางห้องดูแล้วคงนั่งสบายกว่าห้องเดิมของตัวอยู่หลายเท่า ไหนจะเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็กที่กั้นระหว่างห้องรับแขกกับห้องครัวก็ดูดี ถ้าเขาเป็นเจ้าของห้องคงเลือกที่จะนั่งดื่มอยู่ตรงนี้ดีกว่าไปดื่มในผับอย่างวันนี้เพราะไม่ต้องไปสูดกลิ่นควันบุหรี่ให้เสียสุขภาพ

ทิวายืนสำรวจไปทั้งรู้ตัวอีกทีเจ้าของห้องก็เดินถือผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนมายื่นให้

“ชุดผมเอง คุณคงใส่ได้ อาบน้ำก่อนเดี๋ยวค่อยคุยกัน อ้อ! แปรงสีฟันอยู่ในตู้เก็บของเหนืออ่างล้างหน้านะหยิบใช้ได้เลย”

“แล้วคุณไม่อาบเหรอ”

“ผมมีธุระคุยงานนิดหน่อย คุณใช้ห้องน้ำได้ตามสบายเลยไม่ต้องรีบ”

“ครับ”

ทิวาอาบน้ำสระผมจนไม่หลงเหลือกลิ่นบุหรี่ ก่อนจะสวมชุดที่เจ้าของห้องเตรียมให้ ชุดนอนผ้านุ่มลื่นกับกางเกงขายาวที่เลยปลายเท้าจนเขาต้องพักขึ้นอีกหลายทบ แต่เขายังไม่กล้าเดินออกจากห้องน้ำเพราะตอนนี้เขาไม่ได้ใส่กางเกงชั้นใน ครั้นจะใส่ตัวเดิมมันก็เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อเพราะใส่มาตั้งแต่เช้าแล้ว

“ผู้ชายด้วยกันจะอายอะไรวะ” ชายหนุ่มบ่นกับตัวเอง

เสียงเคาะประตูห้องทำให้เขารีบเปิดออกเพราะคิดว่าเจ้าของห้องคงอยากมาอาบน้ำ

“โทษทีครับ ผมอาบนานไปหน่อย ผมไม่อยากให้กลิ่นบุหรี่ติดตัว”

“ผมไม่ได้เร่งแค่จะเอาบ็อกเซอร์มาให้ ใส่ได้เลย ผมยังไม่เคยใส่”

“ขอบคุณครับ”

พอออกจากห้องน้ำก็เห็นว่าเจ้าของห้องถอดชุดออกหมดแล้ว เหลือแต่ผ้าเช็ดตัวพันอยู่ ทิวามองรูปร่างของเขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย มันไม่ได้ใหญ่โตเหมือนอย่างนักกล้าม แต่ดูสวยจนเขาแทบอยากจะเอื้อมมือไปจับ

“จะมองอีกนานไหม”

“ขอโทษครับ แต่คุณหุ่นดีมาก” เขาอดชมไม่ได้

เมคินยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยินคำชอบแบบนี้ แต่เพราะคนที่ชมเป็นคนที่เพิ่งจะรู้จักมันเลยทำให้เขาประหม่าและหัวใจเต้นแรงจนต้องรีบเดินเข้ามายิ้มคนเดียวในห้องน้ำ นานแล้วที่ไม่เคยมีใครทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างนี้

พอออกจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะคนที่คิดว่าน่าจะนอนหลับอยู่บนเตียงกลับไม่อยู่เสียแล้ว เขาหายไปพร้อมกับหมอนและผ้าห่มอีกชุดที่เจ้าของห้องเพิ่งเอาออกมาจากตู้ เดาได้ไม่ยากว่าทิวาคงไปนอนบนโซฟาในห้องรับแขก

เมคินเดินออกไปก็เห็นว่าทิวานั้นหลับไปแล้ว เขาจึงปิดไฟแล้วกลับเข้ามานอน

ทิวาตื่นนอนแต่เช้าด้วยความเคยชิน แต่เจ้าของห้องยังไม่ตื่น เขาสำรวจในห้องครัวเพื่อหาดูว่ามีอะไรให้เขาทำเป็นอาหารเช้าได้ บ้างแต่ดูเหมือนในตู้เย็นของชายหนุ่มมีเพียงน้ำเปล่าและเบียร์อีกจำนวนหนึ่ง เขาเลยต้มน้ำสำหรับชงกาแฟ อย่างน้อยมันก็คงกระตุ้นให้เขาตื่นตัวได้บ้าง

“หิวเหรอ” เมคินเพิ่งจะตื่นแต่นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาพาทิวากลับมาด้วย

“นิดหน่อยครับ แต่ตู้เย็นมีแต่น้ำเปล่า ผมเลยถือวิสาสะชงกาแฟ คุณจะเอาด้วยไหม”

“อือ ขอกาแฟดำนะครับ”

แก้วกาแฟหอมกรุ่นวางตรงหน้า เมคินนั่งจิบอย่างไม่รีบร้อน อีกมือก็ดูข้อมูลในไอแพดไปด้วย

ทิวาเห็นว่าเขากำลังทำงานจึงนั่งดื่มกาแฟอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นเมคินดื่มจนหมดแล้วเขาก็นำแก้วไปล้าง ก่อนจะไปอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดเดิมที่ผึ่งไว้เมื่อคืน เขาถอดชุดคืนลงตะกร้า ยกเว้นบ็อกเซอร์ถ้ามีโอกาสเขาคงจะซื้อมาคืนให้เมคิน

“จะกลับแล้วเหรอ ให้ผมไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไรครับ เพื่อนผมติดต่อมาแล้ว เดี๋ยวมันมารับ ขอบคุณมากนะครับ ผมรบกวนคุณหลายเรื่องเลย” ทิวากล่าวอย่างเกรงใจ เขาไม่เคยรบกวนใครมากขนาดนี้มาก่อน

“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้เดือดร้อนเลยอะไรเลย เราจะเจอกันอีกไหม” อยู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากเจอกับทิวาอีกอย่างไม่มีเหตุผล

“แน่นอน ผมคงมีโอกาสได้ตอบแทนคุณ ถ้าผมได้งานแล้วจะติดต่อมา ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมือ”

“ที่ถามไม่ได้ทวงบุญคุณหรอกนะ ถ้าอยากมาเจอก็นัดมา คุณตัวแค่นี้ผมเลี้ยงได้”

“ไม่ดีกว่า แค่นี้ผมก็เกรงใจมากแล้ว”

“ถ้างั้นผมขออวยพรให้คุณได้งานเร็วๆ นะ”

“ขอบคุณครับ”

ทิวาเดินออกมารอเพื่อนด้านหน้าคอนโด ไม่ถึงสิบนาทีรถของธนาก็แล่นมาจอด

“โทษทีนะทิว เมื่อคืนกูมีเรื่องนิดหน่อย”

“อือ กูว่าไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง ดูเหมือนมึงยังไม่ได้นอนเลย”

“อือ ก็ประมาณหนึ่ง มึงก็รู้แฟนกูขี้หึง”

“อย่าบอกนะว่าเขาหึงกู”

“อือ”

ธนากับแฟนคบกันมาได้สองปีแล้ว เขาเคยได้ยินเพื่อนพูดถึงแฟนหนุ่มอยู่บ่อยครั้งแต่ยังไม่เคยได้เจอกัน

“เอาแล้วไงล่ะ เรื่องแบบนี้กูเข้าใจดี กูพอมีคนรู้จักอยู่บ้างเดี๋ยวกูไปอยู่กับเขาก่อนก็ได้”

“มึงมีคนรู้จักที่กรุงเทพด้วยเหรอวะ”

“เออ สิเมื่อคืนกูก็ไม่นอนห้องเขามา”

“แน่นะมึงไม่ใช่กลัวกูเดือดร้อนเลยไปเช่าห้องอยู่คนเดียวนะ”

“กูจะทำแบบนั้นทำไมวะ”

“ถ้ามึงสะดวกอย่างนั้นกูก็ไม่ว่าอะไร แต่กระเป๋ามึงยังอยู่ที่ห้อง

กูนะ พอดีเมื่อคืนกูถือลงไปเก็บแล้ว”

“มึงพากูไปเอาของ แล้วเดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่กลับมาเอง”

ทิวาจำต้องโกหกเพื่อนออกไปแบบนั้นเพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนกับแฟนต้องมีปัญหา

ธนาพาเพื่อนไปทานอาหารแล้วเลยไปเอากระเป๋าที่ห้องเช่า เขาอยู่คุยกับเพื่อนจนบ่ายก่อนจะออกมานั่งรอที่ป้ายรถเมล์ เขานั่งไถโทรศัพท์หาห้องพักที่ใกล้บริษัทที่จะไปสมัครงานมากที่สุด เพราะพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

ชายหนุ่มเลือกได้ห้องพักรายวันขนาดเล็กราคาไม่แพงมาก เขาคงอยู่ที่นี่ไม่นาน จะเช่าห้องพักรายเดือนส่วนใหญ่ก็เรียกค่ามัดจำสองเดือนบวกว่าเช่าอีกหนึ่งเดือนรวมแล้วก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท ถึงแม้จะมีเงินเก็บอยู่ประมาณหนึ่งแต่ทิวาก็ไม่อยากฟุ่มเฟือยเพราะไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะได้งาน

บริษัทที่เขาไปสมัครกำลังเปิดรับพนักงานฝ่ายบุคคล ฝ่ายธุรการ และเลขานุการ โดยให้ยื่นใบสมัครช่วงเช้าและนัดสัมภาษณ์ช่วงบ่าย เขาพอมีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชีมาก่อน แต่ไม่อยากทำงานบัญชีอีกแล้ว เพราะรู้สึกเครียดกับตัวเลขจนทำงานอย่างไม่มีความสุข

โชคดีที่ข้างห้องพักมีบริการซักรีดทิวาเลยไม่เดือดร้อนเรื่องเสื้อผ้าที่ใส่วันพรุ่งนี้

ทิวาซื้อข้าวกล่องมาทานบนห้องพัก แต่ทานไปได้ไม่กี่คำเขาก็รู้สึกดื้อ เพราะตอนนี้เหมือนกับเขาเหลือแค่ตัวคนเดียว จากที่คิดว่ามาอยู่กรุงเทพจะมีเพื่อนรักอย่างธนาคอยคุยด้วย คอยให้คำปรึกษา แต่เมื่อการมาของตัวเองทำให้เพื่อนมีปัญหากับแฟน ทิวาเลยเลือกที่จะอยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่า เขาไม่โกรธธนาเลยสักนิด เพราะแต่ก่อนตอนมีแฟนเขาก็ยกให้แฟนมาเป็นที่หนึ่งเสมอ

Bab terkait

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   5.งานอะไรก็คว้าไว้ก่อน

    การสมัครและสัมภาษณ์งานวันนี้ทำให้ทิวาคิดได้อย่างหนึ่งว่าประสมการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยสักนิด เพราะทุกตำแหน่งดูเหมือนจะวางตัวคนที่ได้คัดเลือกไว้อยู่แล้ว เขาไม่ได้คิดไปเองเพราะตอนเข้าห้องน้ำเขาได้ยินคนสัมภาษณ์คุยเรื่องนี้ทางโทรศัพท์ทิวาเดินคอตกกลับห้องพัก ยังมีอีกหลายบริษัทที่เขายื่นใบสมัครไว้ ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าจะมีสักที่รับเขาเข้าไปทำงานชายหนุ่มไม่เห็นด้วยกับการใช้เส้นสาย ไม่ใช่เพราะโลกสวยหรือทำตัวเป็นพระเอก แต่เขาไม่มีเส้นสายเลยต้องปลอบใจตัวเองแบบนี้ ถ้าการใช้เส้นสายหมายถึงการได้โอกาสเขาก็ยินดีจะใช้ เพราะมั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถพอที่จะทำงาน แต่ที่ยังต้องมาลำบากแบบนี้เพราะเขาไม่มีโอกาสนั้นตลอดทั้งสัปดาห์ทิวาเดินเข้าออกอยู่หลายบริษัท คำตอบที่ได้รับมาส่วนใหญ่ก็คือ เดี๋ยวจะให้ฝ่ายบุคคลติดต่อกลับอีกทีเขาเริ่มคิดแล้วว่ากรุงเทพไม่เหมาะกับเขา ถ้าสัปดาห์หน้ายังเป็นแบบนี้อีกเขาคงต้องไปสมัครทำงานบนเรือสำราญซึ่งมีกำหนดในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า เขามั่นใจว่าจะได้รับเลือกเพราะเขาพูดได้ทั้งไทย จีน และอังกฤษ และตอนเรียนเขาก็เคยทำงานบริการในโรงแรมมาก่อน แต่ที่ยังไม่ตัดสินใจเพราะมีเองที

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   6.วันแรกก็เกือบพลาดท่า

    พอถึงเวลาเปิดร้านลูกค้าก็ทยอยเข้าอย่างต่อเนื่อง ทิวาเดินจนแทบไม่ได้พัก แต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเพราะรู้สึกสนุกที่ได้ทำงาน เนื่องจากเขาไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาเกือบเดือนแล้วยังไม่ทันถึงเวลาปิดร้านแขกก็ทยอยกลับจนเหลืออยู่เพียงโต๊ะเดียว พศินเรียกทิวาเข้าไปคุย“ครับพี่ศิน”“ทิวช่วยดูตรงนี้ให้พี่หน่อย พี่ปวดตายังไงไม่รู้”“ได้ครับพี่”ทิวาเดินเข้ามาด้านเคาน์เตอร์ เขานั่งลงกดเครื่องคิดเลขเปรียบเที่ยวกับราคาที่ปรากฏในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ส่วนพศินก็นั่งดูอยู่ใกล้ๆ“พี่ศินครับพวกผมขอกลับก่อน”“อือ เดี๋ยวพี่ก็จะกลับแล้วรอเคลียร์อีกนิด”“เฮ้ยทิว ไปก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน” นวพลโบกมือให้เพื่อน“อือ”พอทุกคนออกไปแล้วทั้งร้านก็เหลือเพียงแค่วศินและทิวา“ทิว ดื่มน้ำก่อน มาทำงานวันแรกก็เหนื่อยเลย”“ไม่เป็นไรครับพี่” ทิวารับน้ำมาดื่มแล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ เขาเริ่มง่วงเพราะไม่เคยนอนดึกอย่างนี้มาก่อน แต่ก็พยายามทำงานให้เร็วที่สุดเพราะอยากกลับไปนอนพัก“แล้วนี่กลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหม”“ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมให้พี่วินมารับ” เขาตอบแต่ไม่ได้มองหน้าคนถามจึงไม่เห็นสีหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ของผู้จัดการร้าน“ดึกแล้วยั

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   7.ลองดูก็ไม่เสียหาย

    เกือบเดือนแล้วที่เมคินดึงตัวที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทมาเป็นผู้ช่วย เพราะช่วงนี้เขาต้องออกไปพบลูกค้าและเซ็นสัญญาซื้อขายอยู่หลายแห่ง“คุณเมคินครับเสร็จงานนี้แล้วผมว่าคุณควรหาเลขาได้แล้วนะครับ” ฉัตรภพทนายประจำบริษัทและยังพ่วงตำแหน่งเพื่อนรักของอีกฝ่าย เริ่มจะหมดความอดทน เพราะลำพังงานของตัวเองก็หนักเอาการอยู่แล้ว“ก็นายไงเลขา”“มันไม่ตลกนะครับ บอกตามตรงนะผมเหนื่อยมาก”“เดี๋ยวฉันเพิ่มเงินเดือนให้” เขาต่อรอง“โธ่ คุณเอาเงินมาล่อผมทุกที ให้ตายเหอะ”“แล้วยอมไหมล่ะ”ฉัตรภพไม่ตอบ เขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ที่อิดออดอย่างนี้เพราะเขาทำแต่งานจนไม่มีเวลาไปสวีตกับคนรักอย่างเคย“ภพ” ถ้าลองได้เรียกชื่อจริงอย่างนี้แสดงความชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายกำลังเปลี่ยนมาเป็นโหมดเพื่อน“ว่า”“กูขอถามอะไรหน่อย”“ว่ามา”“เรื่องมึงกับแฟน ที่บ้านรู้เรื่องไหม”“รู้สิ ถามทำไม”“แล้วพ่อกับแม่มึงโอเคกับมึงหรือเปล่า”“ไม่ แต่กูไม่สน กูไม่ได้ทำอะไรผิด กูรู้คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่กูอยู่แบบนี้มีความสุข เขาทำให้กูอยากมีชีวิตต่อ อยากตื่นมาเห็นหน้าเขาทุกๆ วัน”“ก็จริงนะ โลกมันไปไกลแล้ว ถ้าเอาแต่แคร์กับคำพูดคนอื่นก็คงใช้ชีวิต

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   8.ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ

    เสียงเปิดประตูหน้าห้องทำให้คนที่กำลังนั่งเบื่ออยู่หน้าทีวีจอใหญ่รีบดีดตัวขึ้นจากโซฟา“คุณ เลิกงานแล้วเหรอ”ทิวากดรีโมตปิดทีวีแล้วเดินไปหาเจ้าของห้อง“อือ”เมคินตอบพร้อมหายใจหอบเหนื่อยเพราะเขารีบวิ่งเข้าลิฟต์ทันทีที่มาถึง“เหนื่อยเหรอครับ”เขาถามแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำมาให้เมคิน พร้อมกับจานชมพู่และฝรั่งที่เขาจัดใส่จานไว้“อือ ขอบใจ”เมคินรีบดื่มน้ำพรวดเดียวหมดแล้วหันไปมองหน้าคนถาม ยอมรับว่ารู้สึกดีที่เขาถามว่าเหนื่อยไหม“เหมือนวิ่งมาเลยนะครับ มีอะไรหรือเปล่า หรือกลัวว่าผมจะยกเค้าห้องคุณไปแล้ว”“ถ้าจะยกเค้าจริงจะรอให้ผมกลับมาไหมล่ะ จริงไหม”“ที่ผมรอเพราะอยากขอบคุณที่ช่วยเหลือผม ทั้งให้ติดรถมากรุงเทพ ให้ที่พัก แล้วก็เมื่อคืน”สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตอนที่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน“แล้วจะเอายังไงต่อ คงไม่กลับไปทำงานร้านเดิมอีกนะ”“ถ้ากลับไปก็บ้าเต็มทนแล้ว ช่วงนี้ผมคงรองานที่ไปสัมภาษณ์มาวันก่อน แต่ดูเหมือนจะเงียบไปแล้ว คงต้องสมัครไปเรื่อยๆ”ทั้งคำพูดและแววตาที่ดูมุ่งมั่นทำให้เมคินคิดว่าถ้าเขามาร่วมงานด้วยก็คงดี“มาทำงานกับผมไหม” เขาตัดสินใจชวนออกไปเพราะอยากใช้เวลาศึกษาผู้ชายคนนี้ให้

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   9.ที่อยู่ใหม่

    บนถนนคืนวันอังคารรถค่อนข้างโล่งเลยทำให้เมคินมาถึงก่อนเวลานัดเกือบ 20 นาที แต่พอมาถึงก็เห็นว่าทิวานั่งรออยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนหน้าอาคารหลังเก่าอยู่แล้ว“รอนานไหม”“ไม่ครับ พี่คินมาก่อนเวลา”“พี่มาก่อนเวลาแต่นายก็นั่งรออยู่แล้ว” ยิ่งเห็นแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะนั่นหมายถึงว่าทิวาเต็มใจจะย้ายไปอยู่กับเขาจริงๆ“ผมไม่อยากให้พี่ต้องเสียเวลาครับ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเกรงใจทิวามีเพียงกระเป๋าลากกับเป้อีกหนึ่งใบเท่านั้น พอยกใส่หลังรถแล้วเขาก็มานั่งคู่คนขับ“พี่ไม่น่าลำบากมารับผมเลย จริงๆ แล้วผมไปเองก็ได้”“ไม่ลำบากหรอก ยังไงก็ทางผ่าน”“ครับ” พยักหน้าเข้าใจเพราะไม่รู้ถนนหนทาง พอเขาบอกว่าทางผ่านก็เชื่อไปตามนั้น“กินข้าวเย็นแล้วใช่ไหม” เขาถามอย่างห่วงใย“เรียบร้อยแล้วครับ พี่ละ”“อือ พี่กินมาจากบ้านแล้ว ไม่ลืมอะไรแล้วนะ”“น่าจะมีอะไรแล้วครับ ของบางอย่างผมยังไม่เอาออกจากกระเป๋าเลยด้วยซ้ำ”เพราะคิดว่าถ้าได้งานก็จะย้ายไปหาที่พักใกล้ที่ทำงาน แต่ตอนนี้ไม่ต้องติดเรื่องที่พักให้ปวดหัวแล้ว“ถ้างั้นไปกันเลยไหม”“ครับ”ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง Audi A6 Avant สีดำก็พาทั้งสองมายังถึงยังที่หมายประตูห้องคอนโด

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   10.เรียนรู้ไปทีละนิด

    ระยะทางจากคอนโดมาถึงบริษัทไม่ได้ไกลมากแต่ก็ใช้เวลาเดินทางถึง 45 นาที ทิวาทำหน้าที่เป็นคนขับโดยมีเมคินคอยบอกทาง พอถึงบริษัทเขาก็จอดให้เจ้านายลงด้านหน้า“นายเอารไปเก็บตรงที่จอดรถผู้บริหารนะ มันจะที่ประจำอยู่ ดูตามเลขทะเบียน”“ครับ ผมตรงไปแผนกบุคคลเลยใช่ไหมครับ”“อือ แล้วเจอกันข้างบนนะ”“ครับ”เขาวนรถไปจอดตามที่เมคินบอก จอดรถนั้นหาไม่ยากเพราะมีชื่อและป้ายทะเบียนรถติดอยู่ เมคินไม่ได้บอกเขาว่าตัวเองเป็นรองประธานบริษัท และเป็นบริษัทขนาดใหญ่เสียด้วย เขาเองก็ลืมถาม แล้วตอนนี้เขาจะถอนตัวทันไหมแต่คิดว่าถ้าถอนตัวไปตอนนี้เมคินอาจจะผิดหวังเพราะอุตส่าห์ชวนให้มาทำงานด้วย“เอาวะ ไม่ลองก็ไม่รู้”ทิวาสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะลงจากรถแล้วตรงไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อรายงานตัวตามที่เมคินบอกเขาขึ้นมายังฝ่ายบุคคลจากนั้นส่งเอกสารและรายงานตัวกับหัวหน้าฝ่ายบุคคล รับทราบขอปฏิบัติระหว่างทดลองงานรวมถึงอัตราเงินเดือน“ทำไมเงินเดินถึงสูงจังล่ะครับ”ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะกลัวว่าเมคินจะเป็นคนกำหนดเงินเดือนให้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่สบายใจเข้าไปอีก“ไม่สูงหรอก ตามอัตราปกติ แต่ที่ดูสูงเพราะคุณพ่วงตำแหน่งคนขับรถด้วย”“อ๋อ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   11.งานใหม่ชุดใหม่

    ทิวาขับรถมารับเจ้านายที่หน้าบริษัท เมคินเดินออกมาพอดีเขาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่กับคนขับอย่างรวดเร็ว“บอสควรนั่งข้างหลังนะครับ” ทิวาบอกอย่างสุภาพเมคินหัวเราะแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย“จะนั่งตรงไหนก็เหมือนกัน ออกรถได้แล้วพี่หิว”“บอสจะไปร้านไหนครับ ผมไม่ค่อยรู้ทาง”“ขับออกไปก่อน เดี๋ยวพี่บอกทางให้”“แค่บอกมาก็ได้ เดี๋ยวผมขับถามGPSเอง”“นายเชื่อ GPS มากกว่าพี่เหรอ”“เปล่าครับ”เมคินบอกให้ชายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเลขาและคนขับรถจอดริมถนนแห่งหนึ่ง ถอดสูทออกพาดไว้กับเบาะรถ จากนั้นก็พาเดินลัดเลาะเข้ามาในซอยแคบๆ“ร้านนี้เหรอครับ”“อือร้านนี้แหละพี่กินตั้งแต่เรียนแล้ว ผัดซีอิ๊วร้านนี้อร่อยที่สุด ทิวจะกินอะไร เอาเมนูไหม” เมคินทำท่าจะเดินไปหยิบเมนูที่ว่างอยู่อีกโต๊ะ“ไม่เป็นไรครับบอสเดี๋ยวผมไปหยิบเอง”“อยู่นอกบริษัทไม่ต้องเรียกแบบนั้น”“ครับ”ทิวารับคำแล้วเดินไปสั่งอาหารกับแม่ค้า แวะหยิบน้ำเปล่าในตู้แช่มาสองขวด“ไม่กินน้ำอัดลมเหรอ”“ไม่ครับ พี่ล่ะ ผมหยิบตามความเคยชิน”“น้ำเปล่านั่นแหละ”ขากลับจากทานอาหารกลางวันเมคินเปลี่ยนมาเป็นคนขับ ทิวาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่อยากขัดใจเขา“เราเปลี่ยนร้านได้ไหมครับพี่คิ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   12.การยอมรับของครอบครัว

    ครบหนึ่งเดือนแล้วกับการมาทำงานของทิวา ชายหนุ่มเรียนรู้งานได้เร็วจนฉัตรภพไม่มีอะไรจะต้องแนะนำอีกแล้วตอนนี้เวลาออกไปพบลูกค้านอกบริษัทเมคินจะพาทิวาไปด้วยทุกครั้งยกเว้นต้องไปเซ็นสัญญาหรือมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องจึงจะให้ฉัตรภพตามไปด้วย“ทิว เย็นนี้พี่จะไปกินข้าวกับที่บ้านจะไปด้วยกันไหม”“ไม่ดีกว่าครับ”ทิวาเคยไปที่บ้านของเมคินมาแล้วครั้งหนึ่งทุกคนให้การต้อนรับและพูดคุยอย่างเป็นกันเองทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ที่ไม่ยอมไปกับเมคินวันนี้เพราะมีเขามีอย่างอื่นที่ต้องทำ“แล้วจะไปกินข้าวที่ไหน”“ก็ร้านใต้คอนโดนั่นแหละครับ พี่คินจะค้างที่นั่นไหม”“ยังไม่แน่ใจ นายอยู่คนเดียวได้ไหม”“พี่ผมอายุ 25 แล้วนะครับไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”“อ้าวเหรอก็พี่เห็นนายยังชอบดูการ์ตูนอยู่เลย ก็นึกว่ายังไม่โต”“พี่เองก็ดูอย่ามาว่าแต่ผม รีบไปสิครับเดี๋ยวคุณแม่ก็รอนานหรอก”“ไม่ไปด้วยแน่นะ”“ไม่ครับ วันนี้ผมจะไปฟิตเนส”“พี่ฟังไม่ผิดใช่ไหม” เพราะมีหลายครั้งที่เขาชวนทิวาไปออกกำลังกายด้วยแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยไปด้วยสักครั้ง“ไม่ผิด ต่อไปนี้ผมจะออกกำลังกาย”“งั้นพรุ่งนี้เช้าไม่ต้องทำอาหาร ไปวิ่ง

Bab terbaru

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   30.แค่อยากเห็นหน้า

    หลังหยุดยาวปีใหม่ทุกคนก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม รวมทั้งทิวาและเมคิน แม้สถานะจะเปลี่ยนไปแต่ในเวลางานพวกเขาก็เป็นบอสกับเลขาอย่างเดิมเรื่องขโมยที่เข้าห้องเมคินก็ยังจับไม่ได้ ป้ายประกาศหน้าที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นรูปของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นทำให้หลายคงยังคงคิดว่าเป็นทิวาอยู่ดี แม้ชายหนุ่มจะพ้นข้อกล่าวหาเพราะมีหลักฐานให้กับทางตำรวจแล้ว แต่ภาพจากกล้องมันก็ยังทำให้หลายไม่เชื่อสายตาหลายคู่เต็มไปด้วยคำถามมากมายมองมาจน ทิวารู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เพราะเรื่องทุกอย่างมันจบตั้งแต่บนโรงพักในวันนั้นแล้วแต่ตราบใดที่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ทิวาก็ยังถูกมองด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจอยู่ดีเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทำให้ทิวาหลุดออกจากความคิดตัวเอง เขารีบยกหูทันที“เข้ามาหาผมหน่อย”“ครับบอส”พอวางสายทิวาก็ถือแฟ้มของฝ่ายบุคคลเข้าไปในห้องเจ้านายตามคำสั่งทันที“แฟ้มที่ต้องเช็นตอนบ่ายครับ” เลขาหนุ่มวางลงบนโต๊ะอย่างเคย“ที่เรียกเข้ามาไม่ได้ให้เอาแฟ้มเข้ามาสักหน่อย”“บอสมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”“เปล่า แค่อยากเห็นหน้า” เขาทำเสียงสองเหมือนเวลาที่อยู่คอนโด“บอสครับ นี่มันที่ทำงาน”“แต่มันใน

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   29.ของขวัญปีใหม่

    ​ แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่และเป็นแสงแรกของปีส่องผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามายังห้องนอนกว้าง ทิวาลืมตาสู้แสงทีละนิด ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น พยายามขยับตัวจะลุกนั่งแต่ช่วงล่างก็เจ็บปวดจนเกินจะทนเขาจึงได้แต่นอนนิ่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน ชายหนุ่มจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ไม่ทั้งหมด รู้แต่ว่าตัวเองกับบอสนัวเนียกันตั้งแต่ในสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ขึ้นมาทำเรื่องอย่างว่าที่ริมสระ ใบหน้าชายหนุ่มร้อนขึ้นทันทีครั้งแรกของเขากับเมคินแทนที่จะเป็นในห้องนอนเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวแต่กลับกลายเป็นริมสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ถูกอุ้มเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ บอสให้เขานอนพัก เพียงไม่นานเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมคินมอบบทรักบทใหม่ให้อีกหลายต่อหลายครั้ง ภาพจำสุดท้ายเท่าที่พอนึกออกคือบอสกำลังเช็ดตัวให้ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น จากนั้นเขาก็หลับลึกจนถึงเช้าสมองตื่นตัวแล้ว หากแต่ร่างกายยังไม่อาจขยับเขยื้อน ใครจะคิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บถึงเพียงนี้ ถ้าถามว่าย้อนกลับไปเมื่อวานจะยอมให้เมคินทำแบบนี้กับตัวเองอีกไหม เลขาอย่างเขาก็ตอบได้ทันทีเลยว่าเขายอม เพราะมันมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรัก ยิ่

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   28.เคาท์ดาวน์ nc25+++

    “นายก็คือพรหมลิขิตของพี่ พี่สัญญาจากนี้นายจะไม่โดดเดี่ยว นายจะมีพี่เป็นครอบครัวของนาย”ทิวาสบตาคมคู่นั้นแล้วยิ้ม ในเมื่อเมคินสัญญาแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วทั้งสองจ้องตากันอย่างมีความหมาย เมคินก้มหน้าลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มหนักหน่วงขึ้น แรงบดเบียดเสียดสีจนทิวาต้องยกมือขึ้นจับไหล่กว้างไว้เพราะกลัวตัวเองจะจมหายไปกับห้วงอารมณ์พิศวาส“อ๊ะ!...อืมมม”ทิวาส่งเสียงเมื่อจมูกโด่งของเขาเคลื่อนไปบริเวณติ่งหู เขาขบเม้มวนเวียนบนผิวเนื้อขาวเนียนจากนั้นก็เลื่อนตำไปยังลำคอที่มีหยดน้ำเกาะพราวไปตามผิว ร่างกายคนน้องร้อนผ่าว เมคินใช้ลิ้นร้อนลากผ่านดูดเบาๆ ไปตามซอกคอจนทิวาบีบไหล่เขาแรงขึ้น เลขาคู่ใจกัดริมฝีปากแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงครางออกไปให้อีกคนได้ยินเมคินขยับริมฝีปากร้อนไปยังไหปลาร้าและลำคอ เสียงจูบแผ่วเบาหากแต่ดังกังวานอยู่เต็มหัวใจ มือหนาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอก ลากปลายนิ้วปัดป่ายจนโดนส่วนยอด ทิวาตัวสั่นเทา มือที่จับไหล่เปลี่ยนเป็นคล้องไปลำคอแกร่ง เขาแทบพยุงตัวเองไม่อยู่ เพียงสายน้ำที่โอบอุ้มก็ทำให้รู้สึกตัวเบาอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสัมผัสแบบนี้ก็เหมือนกับตัวเ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   27.พรหมลิขิต

    แม้เช้านี้จะไม่ต้องรีบตื่นไปทำงานแต่ทิวาก็ยังคงตื่นเช้าตามปกติ เขามองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ ท่อนแขนแข็งแรงยังกอดอยู่ที่เอว เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ คิดแล้วร่างกายก็ร้อนวูบวาบ ความเป็นชายที่มันมักจะตื่นตอนเช้าตามปกติก็ตื่นตัวยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบอสก่อนจะรีบตรงไปห้องน้ำเขามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ มองรอยแดงเป็นจ้ำที่ลำคอแล้วยิ้ม เขาเคยช่วยตัวเองมานับไม่ถ้วนแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะมีความสุขเหมือนเมื่อวาน เพียงแค่ฝ่ามือร้อนๆ ของเมคินก็ทำเอาเขาแทบคุมสติไม่อยู่ ใบหน้าหวานแดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อนึกไปถึงความเป็นชายของเมคินที่มันใหญ่กว่าของตัวเองไปมากมันจะเขาไปในตัวเขาได้ยังไง มันจะฝืนธรรมชาติเกินไปหรือเปล่า ทิวาสับสนไปหมด แต่ในใจส่วนลึกก็อยากให้เขาทำมากกว่านั้น อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเขาเขาเรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวมาบ้างจากการอ่านในอินเทอร์เน็ตและจากกลุ่มลับในไลน์ที่องศาแนะนำ เขาใช้ไอดีหลุมเข้าไปสอบถาม เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แม้กระทั่งองศาก็ไม่รู้ว่าทิวใช้ชื่ออะไรในกลุ่มลับนั้น เขาจำคำพูดของสมาชิกในกลุ่มได้ดี ทุกคนย่อมมีครั้งแรก แล

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   26.บรรยากาศพาไป nc นิดๆ

    ทิวาเดินตามเมคินออกมายังชายหาด ตอนนี้ท้องฟ้ามืดมิด มองออกไปยังพื้นน้ำทะเลด้านหน้าเห็นแสงไฟจากเรือประมงอยู่หลายดวงสายตาของเขาจ้องมองไปยังไหลกว้าง ไหล่ที่เขาซบทีไรอบอุ่นถึงหัวใจทุกครั้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีความรู้สึกพิเศษแบบนี้ให้กับผู้ชายด้วยกัน หากแต่พอมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด“มาช้าจัง”“ยากันยุงกลิ่นมันฉุนผมต้องล้างมือหลานรอบเลย”“ไหนมาดมหน่อย หายเหม็นหรือยัง” เมคินคว้าข้อมือของทิวาเข้าใกล้แล้วกดจมูกลงบนหลังมืออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มือวางลงบนท่อนขาของตัวเองทิวาเขินจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเขาจับมือไว้แล้วไล้นิ้วโป้งเบาๆ ชายหนุ่มก็แทบละลาย โชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมถ้าไม่อย่างนั้นเมคินคงได้เห็นเลขาหนุ่มหน้าแดงไปถึงใบหูแน่ๆ“ไม่มีกลิ่นแล้วใช่ไหม”“มีสิ”“ผมล้างตั้งหลายรอบแล้วนะพี่” ทิวาพยายามดึงมือตัวเองกลับมาดม แต่เขาก็รั้งไว้“ที่บอกว่ามีกลิ่นมันก็คือกลิ่นจากมือของนายไง”“อ๋อ พี่คินครับ ขอมือคืนได้ไหม ผมจะกินขนม”เมคินปล่อยมือทิวาออกแล้วใช้มือตัวเองโอบหลัง ดึงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ทิวาขืนตัวเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าที่นี่เป็นหาดส่วนตัวแถมย

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   25.เชียงใหม่กลายเป็นเสม็ด

    หลังจากงานเลี้ยงปีใหม่พนักงานทุกคนก็ได้หยุดยาว เมคินและทิวาเตรียมจัดกระเป๋าเพราะพรุ่งนี้ทั้งสองจะเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยกันทิวาจัดของตัวเองเสร็จเลยคิดจะไปช่วยเมคินจัดของบ้าง ประตูห้องเปิดแง้มอยู่เขาจึงดันเข้าไปเบาๆ“ทิวาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่”ทิวาไม่รู้ว่าเมคินกำลังคุยอยู่กับใคร แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน เขายืนรอจนกระทั่งชายหนุ่มวางสาย“เกิดอะไรขึ้นครับ”“ไม่มีอะไร” เมคินรีบบอกปัดเพราะไม่อยากให้ทิวารู้“แต่ผมได้ยินพี่พูดชื่อผมนะครับ”เมคินนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเล่าว่าเมื่อคืนขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ที่งานเลี้ยงก็มีคนแอบเข้ามาในบริษัทลักษณะเหมือนกับทิวาทุกประการ ชายคนนั้นเข้าไปยังห้องทำงานของเมคินและพยายามเปิดตู้เซฟจนสัญญาณกันขโมยดังขึ้น รปภ. จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณตู้เซฟมีรอยงัดแงะ แต่คนร้ายก็เปิดไม่ได้ มันจึงเอาแต่โน้ตบุ๊กของเมคินไปเท่านั้น“จะเป็นผมไปได้ยังไงครับ”“ก็นั่นน่ะสิ พี่ว่าเราคงต้องเลื่อนเวลาเดินทางแล้ว”“ไม่เป็นไรครับ จัดการธุระให้เสร็จดีกว่าครับ”ระหว่างทางไปบริษัทเมคินก็จัดการเรื่องตัวเครื่องบิน แต่เพราะเป็นช่วงเทศกาลตั๋วเที่ยวบินอื่

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   24.แฟนกันวันแรก

    แม้จะได้นอนไปเพียงสี่ชั่วโมงแต่ทิวากลับตื่นนอนด้วยความสดชื่น เขาออกมาทำอาหารอย่างเคย ไส้กรอก ไข่ดาวเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว ขอแค่เมคินกลับมาจากออกกำลังกายก็ปิ้งขนมปังอีกอย่างก็เรียบร้อยเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ทิวาก็หยิบขนมปังลงเครื่อง“พี่แต่งชุดนี้ไปวิ่งเหรอครับ” ก็ชุดที่เขาใส่ดูยังไงก็คือชุดนอน“เปล่า วันนี้ไม่ได้วิ่ง”“อ้าวแล้ว ไปไหนมาแต่เช้าล่ะครับ”“ไปซื้อน้ำส้ม” เพราะทิวาชอบฝากเขาซื้อน้ำส้มขากลับจากวิ่ง“ขอบคุณครับ แต่ครั้งหน้าถ้าพี่ไม่ออกไปวิ่งก็ไม่ต้องลงไปซื้อก็ได้ ผมเกรงใจ”“ไม่เป็นไร มันไม่ได้ไกลมาก อีกอย่างพี่รู้ว่าแฟนพี่ชอบกิน”“พี่คิน” เขาทำสีหน้าตกใจที่ได้ยินเมคินพูดแบบนั้น“เวลาทิวเขิน น่ารักดีนะ” พอเห็นเขาอายเมคินก็อยากแกล้งยิ่งเห็นเขาหน้าแดงหูแดงก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี“พี่คินห้ามพูดแบบนี้ให้คนอื่นได้ยินนะครับ โดยเฉพาะที่ทำงาน”“ทำไม? เป็นแฟนพี่มาน่าอายมากเลยเหรอ” เขาทำหน้าเหมือนเสียใจหากแต่แววตาพราวระยิบ“ผมแค่ห่วงว่าคนอื่นจะมองพี่ไม่ดี”“ไม่เห็นต้องแคร์ เรื่องแบบนี้พี่ว่ามันเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว”“ครับ ผมเชื่อว่าพี่รู้ว่าเวลาอยู่บริษัทพี่ต้องปฏิบัติกับผมยังไง เพราะคนที่เ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   23.คนของผม

    “บอสครับของขวัญพร้อมแล้ว จะออกเดินทางกี่โมงครับ”ทิวาถือกล่องของขวัญที่คุณวีณาไปซื้อมาตอนบ่ายเข้ามาในห้องของเจ้านายในเวลาเกือบหกโมงเย็นเมคินลุกขึ้นสวมสูทสีน้ำเงินเข้าทับเชิ้ตสีขาว พร้อมสำหรับไปร่วมงาน“ไปสิ”“จะไปชุดนี้เหรอครับ” ทิวามองชุดที่เจ้านายสวมอยู่แล้วมันเคร่งขรึมเกินกว่าจะไปร่วมงานมงคล“อือ ทำไม”“เปลี่ยนไทหน่อยไหมครับ” เมคินก้มมองเนกไทสีกรมท่าสลับกับมองทิวาที่กำลังเปิดตู้เอกสารเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง“ผมว่าสีนี้ดีกว่า” ชายหนุ่มหยิบเนกไทสีฟ้าอ่อนออกมาจากกล่อง“เปลี่ยนให้หน่อยสิ”“บอสก็เปลี่ยนเองสิครับ”“ถ้าไม่เปลี่ยนให้ก็ไปกันเลย” เขาหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง“ก็ได้ครับ”เมคินยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับมาทิวาดึงเนกไทเส้นเดิมออก เอื้อมมือคล้องอีกเส้นไปด้านหลัง ก่อนจะวกกลับมาแล้วเริ่มผูกเป็นปม เมคินยืนนิ่งเขาชอบที่เห็นทิวาอยู่ใกล้แบบนี้ เขาชอบมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูไร้เล่ห์เหลี่ยมของคนตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก เขาจำได้ว่าเป็นคนเลือกให้ แต่กลิ่นของมันไม่เหมือนกับตอนแรกที่ซื้อคงเพราะมันผสมกับกลิ่นกายจนทำให้เป็นกลิ่นเฉพาะที่รู้สึกหอมจนไม่อยากให้เข

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   22.อยากรู้ก็ต้องถาม

    “ผู้หญิงคนเมื่อวานเป็นน้องรหัส เขามาชวนไปงานปาร์ตี้สละโสด เขาชวนนายไปงานแต่งงานเขาด้วย”อยู่ๆ เมคินก็พูดขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารเช้า เพราะคิดว่าอีกคนคงอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม เขาสังเกตว่าเช้านี้ทิวาเอาแต่ก้มหน้า ไม่ยอมสบตาแถมยังนั่งเขี่ยไข่ดาวในจานเล่นจนมันเละไปหมด และพอพูดจบก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีรอยยิ้มที่มุมปาก“พี่บอกทำไม ผมยังไม่ได้ถามสักหน่อย”“ก็แค่อยากบอก เผื่อว่าคนบางคนแถวนี้จะเข้าใจผิด”“ใครจะเข้าใจผิดกัน” ทิวาปฏิเสธพร้อมหลบสายตาอีกคน“ไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว คราวหน้าถ้าอยากรู้ก็ถาม ถ้าอยากให้กลับเร็วก็โทรตาม ไม่ใช่นอนรอแบบนั้น”“ถ้าโทรตามพี่จะรีบกลับเหรอ เกินว่าพี่ทำธุระอยู่หรือพี่กำลังสนุกกับเพื่อนแล้วผมโทรตาม พอกลับถึงห้องพี่จะไม่โกรธเอาเหรอ”“มันก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าพี่กลับเร็วได้ก็จะรีบกลับ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็จะบอก”“แล้วจะโกรธไหมครับ”“ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองโทรดู”“พูดแบบนี้ใครจะกล้าโทรตาม” ทิวาทำหน้าเบื่อโลกก่อนจะยกจานไปเก็บ แต่ถ้าครั้งหน้าเมคินออกไปกับเพื่อนอีกเขาคิดว่าจะลองโทรตามดู ชายหนุ่มก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำตามที่พูดไหมตารางงานของเมคินตลอดทั้งสัปดาห์เพราะช่วงใกล้เทศกาลป

DMCA.com Protection Status