Chapter 5
[5/2] ทางฝั่งของณัฐกานต์เองหลังจากที่เช็คความเรียบร้อยทุกอย่างก่อนลงสนามแข่งแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาเข้าสู่สนามแข่งกันแบบจริงจังเสียที ระหว่างเตรียมพร้อมในจุดสตาร์ท คนนั่งอยู่ด้านใน Ford Mustang TA2 ม้าเหล็กคู่ใจคันนี้ ที่ถูกปรับแต่งเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ 5.2 ลิตร ฝีมือจากวิศวะกรคนเก่งของเมืองไทย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากเจ้าของรถคันนี้เอง ....แข่งเองแต่งเองไปเลยสิครับ ด้วยความที่ณัฐกานต์เองก็เรียนจบด้านวิศวะฯ เครื่องกล มาเองกับมือ ทุกอย่างที่อยู่บนรถคันนี้เขาเป็นคนสรรหามาใส่เพิ่มความแรงของรถหมดทุกสิ่งอย่าง โดยมีลูกมืออย่างอัครเดชเพื่อนที่เรียนด้วยมาด้วยกันเป็นคนช่วยอีกแรง “แกล้งแพ้บ้างก็ได้นะมึง กูสงสารสปอนเซอร์คู่แข่งว่ะ” อัครเดชที่ยืนอยู่นอกรถแซวเพื่อนอย่างเซ็งๆ “แสดงว่ามึงอยากเสียตังค์?” “หึ! เบื่อแม่ง มึงแข่งทีไรกูไม่มีลุ้นเลย วินตั้งแต่ยังไม่สตาร์ทเครื่องแล้วไอ้สัสณัฐ” เป็นอย่างที่อัครเดชพูดทุกอย่างเลย ตั้งแต่ที่จัดการแข่งขันมานับครั้งไม่ถ้วนในทุกสนามและทุกรายการ ณัฐกานต์ไม่เคยแพ้เลยแม้ครั้งเดียว คู่แข่งขันจะชนะก็ต่อเมื่อเขาจะยอมสละสิทธิ์ไม่ลงแข่งก็เท่านั้น “เหอะ! งั้นพนันกับกูเล่นๆ ไหม? ว่าเบอร์ไหนจะเข้าหลังกู” จู่ๆ ณัฐกานต์ก็เกิดไอเดียชวนเพื่อนหาเรื่องสนุกๆ ทำ “หื้ม? เอาไรมาพนันดีล่ะครับเพื่อนรัก ไม่เด็ดจริงกูไม่เล่นนะเว้ย หึๆ” อัครเดชยืนเอาซอกค้ำกับหลังคารถคันแรงที่อยู่ในจุดสตาร์ทของสนาม พลางพยักหน้ารับขอเสนอของอีกคน “ส่วนลด 50% โครงการ The Willington X Pattaya Beach” “จุ๊ๆๆ ....ไม่ๆๆ คอนโดน่ะกูไม่อยากได้แล้ว แค่นี้ก็นอนไม่หมดทุกที่แล้วโว้ย ฮ่าๆๆๆ” แน่นอนล่ะส่วนลดมากมายขนาดนั้นใครจะไม่อยากได้ แต่สำหรับอัครเดชแล้ว เวลานี้เขายังไม่ได้รู้สึกต้องการมันเทียบเท่ากับสิ่งที่อยู่ในหัวของเขาตอนนี้ “แล้วมึงอยากได้ไรว่ามาเลย ไอ้เชี่ย” อีกคนที่อยู่ในรถเลิกคิ้วถามเพื่อน “เลขาฯ มึงไง.... แม่งโคตรน่ารักว่ะ นัดกินข้าวให้กูหน่อย” “เหอะ! กูว่าจะไม่ใช่กินข้าวอย่างเดียว” มีหรือที่เขาจะไม่รู้จักนิสัยเพื่อนของเขาคนนี้ดี ไม่อย่างนั้นจะคบกันมาได้ไงถ้านิสัยไม่เหมือนกัน จริงไหม? “มึงอ่ะ มองกูในแง่ร้ายตลอด เห้ออ... จะบอกว่าคนนี้กูรู้สึกถูกชะตากว่าทุกคนที่ผ่านมาว่ะ เบื่อแล้วกับระยะสั้น อยากคบยาวๆ เหมือนคนอื่นๆ บ้างว่ะเพื่อน กูอยากลองคลั่งรักดู” “เหอะ! เลี่ยนชิปหาย ไอ้สัส” ณัฐกานต์กลอกตามองบนใส่เพื่อน จู่ๆ จะมาบอกว่าอยากจริงจังกับใครสักคน ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองเสือผู้หญิงเหมือนกันกับเขาขนาดไหน มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ “หรือจะเก็บไว้แดกเอง?” “เกลียดกันจะตายห่า อยากทำอะไรก็เรื่องของมึง” ณัฐกานต์บอกกับอัครเดชแบบนั้น ใครมันจะอยากสนใจผู้หญิงที่ชอบทำตัววุ่นวายใส่ตัวเองแบบนี้ เวลาทะเลาะกันถ้าไม่ติดว่าหล่อนเป็นผู้หญิงนะ เขาจะซัดหน้าให้ คนอะไรปากคอเราะร้ายเกินงาม “เอาล่ะครับ สำหรับรายการ Thailand Super Cars Series II ของเราวันนี้ ท่านผู้ชมในสนามทุกท่านครับ... ตอนนี้เราก็ถึงช่วงเวลาที่สำคัญกันแล้วนะครับ......” เสียงนักพากย์ในสนามดังขึ้น บ่งบอกสัญญาณว่าถึงเวลาแข่งขันแล้ว ทำให้ทุกคนที่กำลังชุลมุนกันอยู่ในสนามตอนนี้ เริ่มทยอยเคลียร์พื้นที่ออกจากจุดสตาร์ทของนักแข่งแล้ว เช่นเดียวกันกับอัครเดชที่เดินออกมาจากเพื่อน ป้าย Start Engine ที่ชูขึ้นข้างสนามกำลังบอกให้ผู้ลงแข่งขันทุกท่านสตาร์ทเครื่องยนต์ของตัวเองพร้อมที่จะมุ่งทะยานออกประจำจุด เสียงกระหึ่มของซูเปอร์คาร์ทั้งหลายในสนาม ต่างก็สร้างความตื่นเต้นให้เหล่าผู้คนมากมายที่รอชม ทว่าคนลงแข่งที่เจนจัดสนามมานับครั้งไม่ถ้วนอย่างณัฐกานต์กลับไม่ได้รู้สึกเหมือนอย่างคนอื่นเลย จากนั้นเพียงไม่นานร่างเพรียวบางของพริตตี้สาวคนหนึ่ง ก็เดินเข้าประจำจุดตรงกลางสนาม พร้อมกับชูป้าย 15 Seconds เป็นสัญญาณเตรียมออกรถในเวลาที่เหลืออีกเพียงไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ ในช่วงวินาทีที่นักแข่งหลายคนกำลังตื่นเต้นที่จะออกตัว ทว่าใครอีกคนที่อยู่ลำดับหน้าสุดกลับกำลังนั่งเพ่งมองอยู่ว่าพริตตี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ใช่ยัยเลขาฯ ตัวแสบของเขาหรือไม่ ถ้าใช่แล้วทำไมเธอถึงมาทำอะไรบ้าๆ อยู่ที่นี่แทนที่จะกลับเข้าบริษัท 5 4 3 2 …. Go!! ทว่ายังไม่ทันจะได้คิดสงสัยอะไรไปมากกว่านี้เลขดิตอลที่อยู่ตรงหน้าสนามก็นับถอยหลังลงเรื่อยๆ กระทั่งทุกวงล้อมุ่งทะยานออกตัวแซงกันไปมาเจ้าระหวั่นในช่วง Warm up lap ส่วนณัฐกานต์เองที่กว่าจะรวบรวมสติกลับมาได้ก็ปล่อยเวลาล่วงเลยมาได้หลายวินาทีแล้ว ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกตัวไป “แม่งเอ้ย! ยัยบ้านั่นมาทำอะไรที่นี่อีกวะ!?” ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสียขณะที่ยังขับรถรั้งท้ายเพื่อนคันอื่นอยู่เป็นอันดับท้าย ซูเปอร์คาร์หลายคันวนกลับมาเข้าสู่รอบแรกสำหรับวอร์มเครื่องแล้ว ชายหนุ่มที่อยู่ท้ายสุดยังไม่มีท่าทีจะกังวลใจอะไร ถึงแม้ว่าจะเสียท่าไปในนาทีแรกแล้วก็ตาม อย่างไรเสียก็ยังไม่ใช่รอบจริงๆ กระทั่งเข้าสู่นาทีแข่งขันจริง ณัฐกานต์สลัดความคิดออกจากหัวตนเองให้หมด ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์เร่งเครื่องไล่บี้คู่แข่งไปทีละคันจนไต่ขึ้นเป็นอันดับที่ 15 จาก 20 อันดับ ในรอบที่ 6 ‘ไอ่เชี่ยณัฐมึงทำอะไรวะนั่น?’ ทางฝั่งข้างสนามเอง อัครเดชเริ่มหัวเสียกับการแข่งขันตรงหน้า เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ‘โอ้โห... เกิดอะไรขึ้นกับแชมป์เจ้าเก่าคนดังของเรากันครับทุกคน...’ ‘ตอนนี้ ฟอร์ด มาสแตง ทีเอทู ของไฮโซณัฐรูปหล่อพ่อรวยแทบจะอยู่ในอันดับรั้งท้ายเลยนะครับท่านผู้ชม โอ้โห... เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย’ เสียงนักพากย์ขอบสนามก็ลุ้นไปกับการแข่งขันตรงหน้าอย่างออกรสออกชาติ ใครก็ต่างรู้ว่าณัฐกานต์ไม่เคยออกตัวแบบนี้มาก่อน เหลือเพียงอีกแค่ 9 รอบเท่านั้น ที่เขาจะต้องทำเวลาให้เข้าสู่อันดับต้นๆ ได้ ซ่าส์~~~ เวลาผ่านไปจนถึงรอบที่ 14 ก่อนถึงเข้ารอบสุดท้าย จู่ๆ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อสายฝนกระหน่ำลงมาเสียดื้อๆ แบบไม่ได้มีสัญญาณก่อนเลย อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนจัดมากเกินไปจึงเกิดพายุเข้า ยังโชคดีหน่อยที่ตอนนี้กำลังจะเข้ารอบสุดท้ายแล้ว แต่เขาก็สามารถดึงเกมกลับมาให้ตัวเองขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 ได้ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงก็ตาม ชายหนุ่มยิ้มมุมปากให้กับฝีมือของตัวเองอย่างมั่นใจเมื่อเขากำลังจะเข้าเส้นชัยในอีกเพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ ทว่าตรงหน้าจุดเส้นชัยที่พอมองออกไป กลับเห็นร่างเพรียวบางพริตตี้สาวสวยคนเดิมกับที่เคยถือป้ายที่จุดสตาร์ทก่อนหน้านี้ กำลังยืนชูป้ายรออยู่ตรงเส้นชัยท่านกลางสายฝน ชุดเดรสสีขาวสั้นเสมอหูรัดรูปที่เธอใส่มา เปียกฝนจนแนบชิดเรือนร่าง แทบจะเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว และคนที่กำลังขับนำหน้าคู่แข่งทุกคันอยู่นั้นกลับสติหลุดกะทันหัน แทนที่จะเข้าเส้นชัยก่อนเพื่อน แต่กลับโดนคันหลังที่ขับตามกันมาติดๆ ขึ้นหน้าแซงเข้าเส้นชัยไปได้ก่อนจะเป็นตัวเองที่เข้าไปอยู่เป็นอันดับสอง “ไอ้เชี่ยณัฐ มึงทำอะไรของมึงเมื่อกี้ ห้ะ!?” หลังจากที่ลงออกมาจากรถได้ไม่นาน ก็โดนเพื่อนสนิทยิงคำถามใส่เลย “มึงจะเข้าแล้ว ทำไมมึงไม่เหยียบคันเร่ง?” “รายการนี้ 15 ล้านนะโว้ย โอ๊ยตายๆๆ สปอนเซอร์ด่ายับแน่ไอ้เชี่ย” ทั้งสองเดินออกไปยังขอบสนามประจำจุดที่ทีมของตัวเองรออยู่ ทว่าอัครเดชก็ยังเดินไปด้วยบ่นไปด้วยใส่คนที่เพิ่งแพ้มาครั้งแรกหมาดๆ แบบไม่ยั้ง “โว๊ะ! มึงหยุดบ่นได้แล้ว แพ้บ้างก็ได้ไม่เห็นจะเป็นไร” ณัฐกานต์หยุดเดินแล้วหันหลังกลับไปพูดกับเพื่อนที่เดินตามมาติดๆ “มึงจะแพ้รายการไหนก็ได้เว้ย แต่รายการนี้สปอนซ์อัดฉีดเยอะสุด 15 ล้าน.... 15 ล้าน ไอ้สัสสส โอ๊ยยย” อัครเดชบ่นไปพร้อมกับมือที่กุมขมับตัวเอง “ไม่ดีหรอ? มึงจะได้ไปแดกข้าวกับยัยนั่นไง” ก่อนหน้านี้อัครเดชแค่ทายเล่นเล่นๆ ไปว่า เขาจะจะอันดับสอง ใครจะคิดล่ะว่าปากจะเป็นมงคลแบบนี้ “ไอ้อยากไปมันก็อยากไปอยู่หรอกนะ แต่มึงเตรียมโดน D Click บ่นเลย” อัครเดชเตือนสติเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปหาสปอนเซอร์บริษัทยางรถยนต์ยี่ห้อดังที่สนับสนุนทุกการแข่งขันของเขา ทั้งสองคนเดินเข้ามาในซุ้มของบริษัทยางรถยนต์ที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของพวกเขา ก่อนที่เห็นหญิงสาวหนึ่งในทายาทของบริษัทนี้เดินออกมาทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณณัฐ” “สวัสดีครับคุณเจน” เจนจิรา ทายาทบริษัทยางรถยนต์ชื่อดัง วัยเท่ากันกับณัฐกานต์เอ่ยทัก พร้อมกับแววตาเสน่หาคนตรงหน้าเหมือนอย่างทุกครั้งที่ได้เจอกัน “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะ ที่เจนเห็นคุณณัฐแพ้” “ครับ” ชายหนุ่มตอบได้อย่างใบหน้าเรียบเฉย ทว่าในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน ที่วันนี้ไม่มีสมาธิเหมือนอย่างเช่นเคย เพราะเธอคนเดียว ...ยัยบ้าเอ๊ย! “เจนจะไม่ถามหรอกนะคะว่าทำไม แต่รายการนี้คุณทำเอาบริษัทพ่อเจนเสียเงินไปตั้ง 15 ล้าน เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรค่ะ เจนจะถือว่ายอมขาดทุนไปก็แล้วกันนะ” หญิงสาวปากแดงกับชุดเดรสสีสันจัดจ้าน ใส่จริตเวลาพูดกับคนตรงหน้าอย่างกับต้องการอะไรบางอย่างจากเขา “แพ้ครั้งเดียวบริษัทพ่อคุณเจนไม่ขาดทุนหรอกครับ เพราะผมทำกำไรให้ทุกรายการมาตลอด หรือว่าคุณเจน... อยากให้ผม ‘ทำ’ อะไรให้เป็นการขอโทษดีล่ะครับ” อย่างที่ณัฐกานต์พูด ที่ผ่านมาเขาทำกำไรจากการลงแข่งทุกสนามให้กับบริษัทของพ่อเธอตั้งเท่าไหร่แล้ว วันนี้เสียไป 15 ล้านยังถือว่านิดเดียวเมื่อเทียบกับกำไรที่ผ่านมา “หวังว่าดินเนอร์คืนนี้ ….คุณจะไม่ทำให้เจนผิดหวังนะคะ” จังหวะนี้เหมือนมองตาก็รู้กันยันไส้ติ่ง เจนจิรากับเขาก็เหมือนมวยถูกคู่ แค่สบตากันก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ต่างคนต่างชอบในรสนิยมเซ็กส์ของกันและกัน เขาเป็นคนไม่ชอบผูกมัดกับใครซึ่งเจนจิราเองก็เหมือนกัน บ่อยครั้งที่มีอะไรกันกับเธอ ณัฐกานต์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลีลาบนเตียงของเธอเด็ดถึงเครื่องขนาดไหน สาวเจ้าเนื้อนมไข่ตรงหน้าก็คิดไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นทั้งสองคนนอกจากจะเป็นพาร์ทเนอร์เรื่องธุรกิจแข่งรถแล้ว ยังเป็นพาร์ทเนอร์บนเตียงด้วยกันอีก “อะ แฮ่ม!! เอ่อ... โทษนะครับคุณเจน ถ้าไม่มีธุระอะไรกับเพื่อนผมแล้ว งั้นพวกผมขอตัวเลยนะครับ” อัครเดชที่ยืนฟังทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็ขอเข้าขัดจังหวะก่อนเนื่องจากเขาร้อนใจอยู่เรื่องหนึ่งกับเพื่อนสนิท “ยินดีค่ะ คุณโอม” ทั้งสองเดินออกมาจากซุ้มสปอร์นเซอร์บริษัทของเจนจิราแล้ว ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่เดินนำหน้ามาจะหยุดพูดกับณัฐกานต์ “นี่มึงยังไม่เลิกเอากันอีกหรอวะ นึกว่าจะเบื่อแม่นั่นซะแล้ว” “ก็อยากเลิกอยู่หรอกนะ แต่ดูท่าแล้วหล่อนคงจะติดใจลีลาของกูว่ะ” ณัฐกานต์ยักไหล่ให้เพื่อนไปพร้อมกับกอดอกมองหน้าอัครเดช “เออ เรื่องของมึงเหอะ ....ว่าแต่เรื่องของกูอ่ะ มึงติดต่อเลขาฯ ของมึงให้กูเดี๋ยวนี้เลย กูรีบ” “วันนี้? มึงจะรีบไปไหน” “กูรีบตั้งแต่เห็นหน้าเลขาฯ มึง ยืนชูป้ายในสนามแล้วว่ะ หึๆ” “เดี๋ยวนะ? มึงเห็นหรอ แล้วรู้ป้ะว่าทำไมยัยนั่นถึงมาทำอะไรแบบนี้?” จากที่กำลังจะกดโทรศัพท์ต่อสายหาญารินให้เพื่อน ทว่าพอได้ยินคำพูดของเพื่อน ณัฐกานต์ก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะเขาเองก็ยังค้างคาใจอยู่เหมือนกัน “จะไปรู้หรอ ก็เห็นพร้อมมึงนั่นแหละ เซ็กซี่ยั่วๆ เลยว่ะ อ้าว!! ...โทรๆ อย่าลีลา” “กูไม่โทรแล้วแม่ง!”Chapter 6[6/1]หลังจากงานวันนี้เสร็จลงไปแล้วร่างเพรียวบางของญารินก็ความทุลักทุเลอยู่พอสมควร เนื่องจากเธอเองก็ยังอยู่ในความมันงงเพราะงานนี้มันก็กะทันหันมาก ถึงแม้ว่าเธอเอ่ยปากจะช่วยเจ้ผักหวานไปแล้วก็ตามร่างเพรียวบางเปลี่ยนชุดที่เธอใส่ในงานวันนี้ออกจนหมดแล้วเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน พอนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แล้วเธอก็อดสงสารตัวเองไม่ได้ แต่เอาเถอะถือว่าวันนี้เป็นวันเฮ็งซวยของตัวเธอเองเธอยังจำภาพที่ในสนามแข็งได้ดีเลย ตอนที่เธอกำลังถือป้ายอยู่ในงาน พอตอนใกล้จะจบรถของณัฐกานต์ก็ขึ้นนำทุกคันมาได้ทั้งๆ ที่ตอนสตาร์ทเขาออกตัวช้าสุดแล้วพอได้เห็นอีกมุมความเป็นตัวตนของเขาในวันนี้แล้ว จริงๆ ญารินแอบคิดว่าเขาคงเหมาะกับงานแบบนี้มากกว่าจะไปทำงานบริษัทเสียด้วยซ้ำ“หนูญารินจ๊ะ วันนี้เจ้ต้องขอบใจหนูมากๆ เลยนะที่อุตส่าห์ช่วย ไม่งั้นเจ้คงแย่แน่ๆ เลย” เจ้ผักหวานเดินเข้ามาหาเธอในห้องแต่งตัว ขณะที่เธอเองก็เปลี่ยนชุดเตรียมตัวกลับแล้ว“ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนูบอกจะชดใช้ให้เจ้ที่ทำเสื้อเจ้เลอะนี่คะ”ถือซะว่าเป็นการชดใช้ที่คุ้มค่ามาก ทั้งโดนลากมาเป็นพริตตี้ ทั้งต้องยืนตากฝนจนเกือบจะเป็นไข้แล้ว“อ่ะนี่! เรื่องเสื้
Chapter 6[6/2]ญารินไม่สนใจว่าเจ้านายของเธอจะมานั่งทานอาหารกับใครในตอนนี้ เพราะเขาคนเดียวเลยที่ทำให้เธอต้องมาลำบากวุ่นวายตามหาตัว แล้วก็เพราะเขาที่ทำให้เธอต้องมายืนตากฝนในวันนี้ เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเขา“คุณญารินสั่งเลยนะครับ มื้อนี้ผมเป็นเจ้าภาพเอง”“อุ๊ย! ไม่ได้หรอกค่ะ คุณอุตส่าห์ให้รินติดรถมาด้วย มื้อนี้รินเลี้ยงค่ะ” ร่างเพรียวบางบอกกับอีกคนไปด้วยน้ำเสียงแหบลงเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่าอาการของตัวเองคงจะไม่พ้นคืนนี้แน่ๆ“ไหวไหมครับ เดี๋ยวผมสั่งซุปสาหร่ายให้เอาไหม?”“ก็ดีค่ะ ฮัดชิ่ววว!!”“ถ้าคุณรินไม่ไหว ผมพาไปโรงพยาบาลได้นะครับ”อัครเดชประเมินอาการของคนตรงหน้าแล้วคิดว่าเธอควรจะไปหาหมอได้แล้ว กลัวว่าเธอจะเป็นหนักส่วนในฐานะที่เขาเป็นเพื่อนของณัฐกานต์เขาเองก็มีส่วนผิด ที่ทำให้ญารินไม่ยอมกลับเข้าบริษัท“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะรินก็ไม่สบายบ่อยแบบนี้แหละ สั่งอาหารกันเถอะค่ะ”ทั้งสองลงมือสั่งเมนูอาหารคนละอย่างสองอย่างด้วยกัน จากนั้นก็นั่งรอจนไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟจนครบ ระหว่างที่เธอและอัครเดชกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ ก็มีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่โต๊ะของเธอและเมื่อกำลังถูกมองอยู่ญารินก็ชะโงก
Chapter 7[7/1]“นี่คุณฉันบอกให้หยุดไง จะขยับเข้ามาทำไมเนี่ย? ” ร่างเพรียวบางไม่รู้ว่าจะหนีเขาไปมุมไหนได้อีกแล้ว เพราะอีกฝ่ายต้อนเขาจนมุมญารินไม่รู้ว่าเจ้านายโกรธหนักขนาดนี้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อเขาก็พูดเหยียดหยามเธอเหมือน แล้วพอโดนเอาคืนบ้างกลับเปราะบางรับไม่ได้เอง“ฉันขอโทษแล้วไง”“หึ! งั้นหรอ?” เหมือนว่าเขาไม่สนใจคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย ณัฐกานต์ตอนนี้เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นใหญ่ร่างสูงโน้มตัวเข้าหาญารินที่กำลังนั่งตัวสั่นอยู่บนโซฟา ก่อนที่จะขยับริมฝีปากหยักเข้าหาใบหน้ามนของหญิงสาว“นี่คุณ! อื้ออ!! อย่าทำแบบนี้นะ”ผลั่ก!! ญารินรวบรวมแรงทั้งหมดเท่าที่นี้มีผลักร่างสูงออกไปจากตัวเธอ ทว่าแรงของผู้หญิงตัวเล็กๆ มีหรือจะสู้คนตัวใหญ่อย่างเขาได้“จ๊วบ~~” ณัฐกานต์โน้มลงไปฉกชิงริมฝีปากบางอีกรอบพร้อมกับขบเม้มรสจูบลงไปหนักๆ จนญารินรู้สึกเจ็บปากด้านใน“คุณ!! ฉันผิดไปแล้ว ....อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ขอร้องล่ะ ฉันขอโทษๆ” ร่างเพรียวบางยกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าจนตัวสั่น“เหอะ! ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันก็แค่ขู่เธอ อย่างเธอน่ะฉันเอาไม่ลงหรอก” ร่างสูงขยับตัวออกจากร่างเพรียวบางที่ก่อนหน้านี้นั่งคร่อมและจูบเธออ
Chapter 7[7/2]Line~~เสียงข้อความในโทรศัพท์ของร่างสูงที่นอนเหยียดกายบนโซฟา รอคนที่อยู่ในครัวทำของว่างให้ทานอยู่ ทันใดนั้นเจ้าของเครื่องก็กดเข้าไปอ่านดูเมื่อเห็นชื่อของคนที่ส่งข้อความมาหาเขา‘พี่ณัฐ อยู่ห้องไหม? น้องดาเข้าไปหาได้ไหม?’‘จะมาหรอ?’‘เปิดประตูให้หน่อย น้องดากำลังจะขึ้นลิฟต์แล้ว’ร่างสูงรีบดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาในทันทีที่ได้อ่านข้อความ อะไรกันทำไมเธอต้องมาหาเขาในตอนนี้ด้วยจากนั้นณัฐกานต์จึงรับตรงดิ่งเข้าไปหาอีกคนในครัว ที่ตอนนี้กำลังจดจ่ออยู่กับขนมของเธอ“เธอ มานี่ๆ อย่าเพิ่งทำ วางเอาไว้ก่อนเดี๋ยวนี้เลย” ร่างสูงจับไหล่ของญารินหันหน้าเข้าหากัน แล้วรีบอธิบายให้อีกคนรู้ว่ากำลังจะมีผู้มาเยือนที่นี่และเขาต้องบอกเธอด่วน“ห๊ะ!? อะไรกันน่ะคุณ” ญารินงงกับการกระทำของเจ้านายเธอมากในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้ทำไม“คือตอนนี้มีคนกำลังจะมาที่นี่ เธอรีบกลับไปเลย อ่อ! ไม่สิกลับไปไม่ได้ ....เอาไงดี? งั้นเธอก็เข้าไปในห้องนอนฉันก่อน เอ๊ะ! ไม่ได้สิ ไปอยู่ระเบียงก่อนนะ นะๆๆ ไปๆๆ”ณัฐกานต์ดูลนลานไปหมดในตอนนี้ ดูเหมือนว่าใครอีกคนที่กำลังจะมาที่นี่มีอิทธิพลต่อชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ถึงขั้นต้องบอกให้
Chapter 8[8/1]01.30 น.หมั่บ!“แค่กกๆ .... อ่ะ อื้มม... หนาว” เวลาผ่านพ้นไปจนเข้าวันใหม่แล้ว ร่างเพรียวบางที่นอนหลับอยู่ด้านนอกระเบียง ตอนนี้ถูกใครอีกคนอุ้มขึ้นมาจากพื้นและเดินเข้าไปด้านในห้องนอน โดยที่เธอยังไม่รู้สึกตัว“แม่งเอ๊ย! ตัวทำไมร้อนแบบนี้วะ!?” ร่างสูงที่อุ้มญารินมาจนถึงที่นอนของเขา สัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านมาจนถึงเขาณัฐกานต์ยอมรับว่าเขาลืมอีกคนที่อยู่นอกห้องไปแล้ว หลังจากที่ดารันกลับไปเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเข้านอนของตนเองไปจนเกือบจะเผลอหลับถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองเอาใครอีกคนไปไว้ที่ระเบียงไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง ทันทีที่นึกขึ้นได้เขาถึงได้รีบออกไปดูเลขาฯ สาวเมื่อเห็นว่าเธอนอนหลับอยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้า หนำซ้ำยังมีไข้อีก เขาก็ไม่นิ่งนอนใจรีบพามาที่เตียงนอน ก่อนจะยืนคิดกับตัวเองอยู่ว่าจะทำอย่างไร สารภาพว่ารู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ปล่อยให้เธอต้องรอนานอยู่ข้างนอกคนเดียวแบบนั้น“เอาไงดีวะ?”“อื้ม~ หนาว ฮึกก.. แม่ ...หนาว หนูหนาว” ร่างเพรียวบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงคิงไซซ์ของเจ้านาย เริ่มละเมอขึ้นจนณัฐกานต์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงได้แต่
Chapter 8[8/2]ตอนนี้ณัฐกานต์ได้ตกเป็นจำเลยของญารินแล้ว ไม่ว่าวันนี้เธอจะสั่งอะไรอีกฝ่ายก็ต้องทำโดยที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ภารกิจแรกของวันนี้เริ่มจากการที่เขาจะต้องสั่งข้าวมาให้เธอทาน และอย่างที่สองคือต้องเอาเสื้อผ้าของเธอไปซักด้วยมือของเขาเองห้ามปั่นเครื่องเด็ดขาด“เสร็จยังคุณ?”“ก็นี่ไง แล้วตากยังไงวะ?” ขณะที่ญารินกำลังนอนเล่นอยู่โซฟาหน้าทีวี ณัฐกานต์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับตะกร้าเสื้อผ้าที่เขาเพิ่งจะลงมือซักเองกับมือเป็นครั้งแรก“แอ่กๆๆ ...ข้างนอกไงเอาไม้แขวนไปด้วยนะ” คนป่วยเหมือนจะพอใจอยู่ไม่น้อยที่ได้แกล้งอีกคน ณัฐกานต์ในสภาพนี้เหมือนเสือถอดเขี้ยวเชื่องๆ ตัวหนึ่งหลังจากได้รับคำสั่งของคนป่วยแล้วเขาก็เดินไปเก็บไม้แขวนออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่ระเบียงห้องทันที ด้วยใบหน้าหงุดหงิดเขาไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ แค่ยัดเข้าเครื่องซักผ้ามันจะยากตรงไหนวะ!?ร่างสูงเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับตะกร้าใบเปล่าที่ถูกนำเอาผ้าของญารินตากให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะตากได้ก็ทะเลาะกับเสื้อของเธอนานอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าต้องจับด้านไหนใส่ไม้แขวน เสื้อกับกระโปรงไม่เท่าไหร่หรอก มันงงก็แต่แพนตี้น้อยกับบล
Chapter 9[9/1]บรรยากาศข้างนอกในตอนนี้กำลังดีมาก ญารินเลยตัดสินใจที่จะยกอาหารออกมาทานกันข้างนอกกับเจ้านายหนุ่ม พอได้ลองคุยกันในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอเองก็คิดว่ามันไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ในทางกลับกันเธอยิ่งรู้สึกว่าณัฐกานต์จริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้เป็นเจ้านายที่ไม่เอาไหนเลย เพียงแต่มันอาจจะมีเรื่องราวที่ทำให้เขาไม่ลงรอยกันกับพ่อของตัวเอง ถึงได้หัวรั้นขนาดนี้“อ๊ะ!!” ญารินออกอาการตกใจ เมื่อโดนมือหนาเอื้อมมาแนบกับหน้าผากของเธอ“ตัวเธอไม่ร้อนแล้วนี่” ร่างสูงที่เอื้อมมือไปวัดไข้ให้เลขาฯ สาว ก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะกำลังดีขึ้นมาบ้างแล้ว“ก็น่าจะแหละ กินเสร็จแล้วฉันกลับเลยนะ เดี๋ยวจะดึกเอา”“กลับบ้าน?”“อื้ม”วันนี้ทั้งวันเธอขลุกตัวอยู่กับเขามานานมากแล้วรวมทั้งเมื่อวานอีก หากอยู่ที่นี่นานกว่านี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ อีกอย่างเธอและเขาก็เป็นเจ้านายกับลูกน้อง หากไม่มีเรื่องงานแล้วก็ไม่ควรอยู่ต่อญารินตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับมาเอง ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายก็เอ่ยปากแล้วว่าจะมาส่ง ทว่าที่เธอปฏิเสธเขาไปก็เพราะเห็นว่าเจ้านายหนุ่มดื่มไวน์ไปมากแล้ว จึงไม่อยากเสี่ยง“พี่ริน หายไปไหนมาตั้งแต่เมื่อวานห๊ะ?” ทันท
Chapter 9[9/2]ช่วงบ่ายทั้งสองกลับเข้ามาในบริษัทอีกครั้ง คราวนี้เจ้านายหนุ่มไม่หายไปไหนอีกแล้ว เพราะมีญารินออกไปทานอาหารด้วยและก็เป็นเธออีกที่คอยเป็นหูเป็นตาไม่ให้เขาไปไหนได้อีก“น้องรินคะ บอสของพี่เรียกหนูและก็ท่านรองฯ เข้าพบด่วนเลยค่ะ” วจีเลขาฯ ของภัทรกาฬเดินมาบอกหญิงสาวรุ่นน้องที่โต๊ะ“มีเรื่องอะไรหรอคะพี่วจี?”“พี่ว่ารีบไปกันทั้งสองคนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวบอสพี่จะกริ่วเอา ไปนะ... รีบๆ ตามมาจ้ะ” วจีพูดทิ้งท้ายให้ญารินรู้สึกขนลุกไปด้วย ก่อนที่เธอจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองญารินไม่รู้แน่ชัดว่าท่านประธานบริษัทจะเรียกเธอและเจ้านายหนุ่มเข้าพบทำไม แต่ดูจากสีหน้าและคำพูดของรุ่นพี่เลขาฯ อย่างวจี ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆนิ้วเรียวกดสายตรวจเข้าเครื่องไอพีโฟนไปยังใครอีกคนที่อยู่ในห้องรองประธานบริษัทในตอนนี้ เพื่อแจ้งเรื่องให้เขาทราบ“คุณ.... ท่านประธานเรียกให้คุณกับฉันเข้าพบด่วนเลยค่ะ ตอนนี้”“ห๊ะ! จะมีเรื่องด่วนอะไรอีก โว๊ะ! คนจะนอน” น้ำเสียงของคนด้านในห้องเหมือนกับคนเพิ่งตื่นนอนมา และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ จนเลขาฯ อย่างเธอต้องถอนหายใจใส่แรงๆ“เฮ้อ!! นี่คุณนอนอยู่หรอ? รีบออกมาเลยค่ะก่อนที่พี่ชายคุณ
Chapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้
Chapter 29[29/2]กริ๊งงง!~~รถสปอร์ตหรูจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ของญารินแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองลงจากรถมายืนกดกริ่งรอคนด้านในมาเปิดประตูรั้วให้ซึ่งณัฐกานต์เองก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามีใครอยู่ที่นี่หรือไม่ เพราะว่าเขาและอัครเดชก็ยืนตากแดดกดกริ่งเรียกแบบนี้นานแล้วกระทั่งความพยายามของพวกเขาสำเร็จ เมื่อมีคนเดินออกมาจากด้านในบ้านแล้วทว่ากลับไม่ใช่ญาริน คนที่ณัฐกานต์อยากเจอ“อ้าว สวัสดีค่ะคุณ”“สวัสดีครับ ญารินอยู่บ้านหรือเปล่าครับคุณนลิน?”เป็นนลินพี่สาวของญารินเองที่เดินออกมาเปิดประตูพร้อมกับอุ้มลูกชายตัวน้อยออกมาด้วย และเมื่อสักครู่ที่เธอออกมาเปิดประตูช้าก็เพราะว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับลูกชายของตัวเองอยู่ แม้จะได้ยินเสียงกดกริ่งนานสักพักแล้วก็ตามนลินรู้มาว่าณัฐกานต์และน้องสาวของตัวเองทะเลาะอะไรบางอย่างกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุของเรื่องจริงๆ เลยว่าเพราะอะไรที่ทำให้น้องสาวของเธอรีบเก็บข้าวของบินลัดฟ้าข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงต่างประเทศ“นี่รินไม่ได้บอกคุณไว้หรอคะ? ว่าจะไปทำงานกับเจ้านายคนเก่าที่ต่างประเทศ”“ห๊ะ!? อะไรนะ ญารินไปต่างประเทศงั้นหรอ?” ณัฐกานต์ตกใจกับคำพูดของพี่สาวญารินจนเผลอทำสีหน้า
Chapter 29[29/1]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่สนามบิน Milan Malpensa เป็นสนามบินนานาชาติที่ถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วในมิลาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี่ และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสองรองจากสนามบินในกรุงโรมถ้าถามว่าทำไมถึงมีผู้คนเนืองแน่นมาใช้บริการสนามบิน Malpensa ก็คงจะเป็นเพราะว่ามิลานเป็นแลนมาร์คสำคัญอีกหนึ่งเมืองสำหรับนักช้อปสายแฟชั่นทั้งหลายจะต้องเดินทางมาที่นี่ เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าหลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกนอกจากร้านแบรนด์เนมต่างๆ แล้ว ในมิลานยังมีงานจัดแสดงโชว์เกี่ยวกับแฟชั่นมากมายแทบจะทุกวันเลยด้วยซ้ำเหล่าเซเลบฯ คนดัง รวมถึงนางแบบและนายแบบหลายคนจึงไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมความสวยงามในเมืองนี้เช่นเดียวกันกับญาริน“ขอบคุณพี่โรสมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มารับแถมยังเป็นธุระเรื่องที่พักให้รินอีก”“ไม่เป็นไรเลยจ้าคนสวยของพี่ ขอแค่หนูมาพี่ก็ดีใจแล้ว”ญารินเพิ่งจะเช็คเอาท์ลงจากเครื่องเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้มีโรสเอเจนซี่สาวสองคนสนิท มารับเธอถึงสนามบินหลังจากที่วจีโทรมาบอกเรื่องใบลาออกของเธอแล้ว แต่กลับโดนปฏิเสธและยังมีหน้ามาบอกให้เธอสามารถพักร้อนได้ 1 เดือนจากนั
Chapter 28[28/2]เหตุการณ์ก่อนหน้านี้....,(ณัฐกานต์ ทอร์ค)ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ผมกับญารินทะเลาะกัน จนผ่านมาถึงวันนี้ผมยังไม่เห็นเธอเข้ามาทำงานเลยผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีงานกองเท่าภูเขาได้แต่ก็ไม่ได้สนใจมันเลย สิ่งที่สนใจอยู่กลับเป็นโต๊ะว่างเปล่าที่ตอนนี้ไร้เจ้าของมานั่งทำงานผมจับโทรศัพท์สแกนนิ้วปลดล็อกแล้วก็กดปิดหน้าจอไว้เหมือนเดิม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว ในใจอยากจะโทรไปหาญารินให้ได้ทันทีทันใดแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ที่ผ่านมาผมก็ง้อเธอมาตลอดจนอาจจะทำให้เธอเสียคนขนาดนี้ ถ้าหากจะง้อเธออีกครั้งก็คิดว่าเธออาจจะได้ใจอีกเรื่องวันนั้นญารินวู่วามเกินเหตุจริงๆ ต่อหน้าต่อตาผมขนาดนั้นยังไม่มีความเกรงใจกันเลยสักนิด และหลายครั้งหลายคราวที่ดารันมาหาผมเธอก็มักจะเป็นอารมณ์นี้อย่างวันก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ดารันทำขนมมาให้ผมลองชิมสูตรใหม่แบบไม่หวาน เพราะเธอรู้ว่าผมไม่ชอบกินอะไรหวานๆ แต่ญารินก็ทำท่าหาเรื่องใส่ดารัน จนไล่เธอกลับบ้านไปตอนเด็กๆ ดารันตัวเล็กมากและไม่สู้คนเลย มีผมกับเฮียนาฟสองคนที่คอยปกป้องเสมอเพราะเราสามคนเรียนที่เดียวกันมาตลอด ก่อนที่ดารันจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศในช่วง