Chapter 1
[1/1] ยามรุ่งเช้าเข้าวันใหม่แสงพระอาทิตย์ยังสาดส่องไม่ทั่วพื้นที่จากฟากฟ้า โดยเฉพาะภายในคอนโดสุดหรูที่ถูกผ้าม่านหนาทึบปกปิดแสงต่างๆ จากด้านนอกเอาไว้ ทำให้คนที่กำลังนอนหลับได้ที่อยู่ไม่ได้สนใจเวลาตื่นเลยสักนิด ร่างกำยำตามแบบฉบับของชายหนุ่มลูกครึ่งยุโรปทางตอนใต้ ถึงแม้จะนอนหลับอยู่อย่างไม่รู้สึกตัว ทว่าความหล่อบนใบหน้าไม่ได้ทำให้ดูจืดจางลงแม้แต่นิดเดียว ร่างกายที่นอนเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่เผยให้เห็นรอยสักต่างๆ มากมายทั่วทุกจุดสำคัญทั้งตรงบริเวณหน้าอกด้านซ้ายสักชื่อภาษาอังกฤษของตัวเองเป็นลายมินิมอล ถัดมาบริเวณใกล้เคียงกันตรงกล้ามแขนด้านซ้ายยังสรรหาประโยคคำคมมาประทับไว้เตือนใจตนเอง ส่วนหลังมือหนาด้านซ้ายก็ยังนำรูปนกฟินิกส์มาใส่แบบเท่ๆ อีกทั้งข้างขวาก็ยังมีประโยคคำคมเป็นภาษาอิตาลีทำให้ดูเก๋ไปอีกแบบ รวมๆ แล้วทุกอย่างบนร่างกายของเขามันออกมาดูเหมาะกับตัวของเขาที่สุด หากมีคนมองเชื่อได้เลยว่าถ้าเกิดเป็นผู้ชายก็คงต้องอิจฉารูปร่างหน้าตา ส่วนถ้าเกิดเป็นพวกผู้หญิงก็คงจะอยากได้เขาคนนี้มาครอบครองอย่างนั้นแน่นอน ติ๊ดด~~~ แกร่ก! “ตื่นนนน!!! ตื่นได้แล้ววว นี่ๆ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยคุณ” ขณะที่ภายในห้องเงียบสนิทและบรรยากาศกำลังน่านอน ก็มีบุคคลมาใหม่แตะคีย์การ์ดห้องเข้ามาหาคนด้านในที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้ เป็นแบบนี้ประจำทุกวันทำงาน หญิงสาวร่างระหงเดินเอวพริ้วพร้อมกับตะโกนมาตั้งแต่หน้าประตู จนเข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวของเจ้านายที่ไม่ได้ล็อกอยู่ก่อนหน้านี้ ก่อนจะหยุดเดินแล้วยืนเท้าสะเอวอยู่ปลายเตียงขนาดคิงไซส์ “อื้มม... คนกำลังจะนอน จะอะไรนักหนาว้ะ ห้ะ!?” ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการนอนแม้จะได้ยินเสียงนี้ที่คุ้นอยู่ทุกวันเดินตะโกนเข้าหาเขา ทว่าก็ไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้นมาดูเลย มีเพียงแค่ปากที่บ่นออกมาพลางพลิกตัวให้ได้ท่านอนที่สบายมากขึ้นกว่าเดิม ร่างเพรียงบางตามฉบับนางแบบที่เดินเข้ามาปลุกถึงกับต้องมองบนถอนหายใจแรงๆ ใส่ ก่อนจะเดินไปดึงผ้าม่านผืนหนาที่บดบังแสงจากด้านนอก จนคนที่นอนอยู่ถึงกับต้องมุ่ยหน้าหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อเจอแสงแดดส่องกระทบเปลือกตา “สายแล้วนะคะ คุณควรตื่นได้แล้ว วันนี้คุณต้องเข้าประชุมนะ” ‘ญาริน’ เลขาฯ หน้าสวยของเจ้าของห้องนี้มีหน้าที่อีกอย่างนอกจากเรื่องงาน คือการมาคอยจัดแจงระเบียบชีวิตส่วนตัวให้เจ้านายของเธอใหม่ ตามคำสั่งของท่านประธานบริษัทรวมทั้งท่านประธานอาวุโสอย่างพ่อของชายหนุ่มที่นอนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ “โอ้ยย เมื่อไหร่จะเลิกวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นซักทีวะ แม่งเอ้ย! คนจะนอน ออกไป!! ลาออกไปได้ยิ่งดี” ‘ณัฐกานต์’ รองประธานคนนี้แหละ ที่เธอจะต้องมาดูแล ทั้งช่วยเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ แค่เพียงเรื่องงานก็ปวดหัวเต็มทนแล้วกับเจ้านายคนนี้ แต่นี่ต้องมาดูแลนอกเหนือจากเรื่องงานขึ้นไปอีก บอกได้ประโยคเดียวเลยว่าเจองานหินเข้าให้แล้ว “ไม่ออก! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ออก ออกแล้วจะเอาไรกิน?” เป็นเอาซะแบบนี้ทุกวัน เจ้านายคนนี้ก็พูดอยู่แต่เรื่องเดียวคือเบื่อ และอยากให้เลขาฯ อย่างเธอลาออก แต่เพื่อปากท้องของเธอเองและครอบครัว มีหรือที่ต้องทำอย่างที่เจ้านายของเธอบอก 'ให้ตายยังไงก็ไม่มีทาง' ตั้งแต่เธอได้คีย์การ์ดคอนโดมาจากท่านประธานใหญ่หรือพี่ชายของเขา ที่บอกว่าให้มาพาณัฐกานต์ออกไปทำงานให้ได้ จนถึงวันนี้เธอก็ยังต้องทำหน้าที่นั่นอยู่และทำได้ดีเลยทีเดียว “โว๊ะ!! เบื่อๆๆๆ ก็บอกว่าไม่ไปไงวะ” ตอนนี้คนนอนก็นอนแบบไม่เป็นสุขแล้ว สีหน้าบ่งบอกว่ารำคาญผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้มากแค่ไหน “แต่ถ้าคุณไม่ไป ฉันต้องเดือดร้อนแน่” อีกคนก็ยืนกรานไม่ยอมเหมือนกัน “นั่นมันเรื่องของเธอ หลบไป! แล้วก็ออกจากห้องของฉันไปเลย” ณัฐกานต์บอกปัดๆ พร้อมกับหยิบผ้าห่มผืนนุ่มขึ้นมาคลุมตัวลงนอนอีกครั้ง และไม่สนใจเลขาฯ สาวของเขาเลย ญารินเห็นท่าทีที่ไม่ยอมลุกขึ้นมาง่ายของเจ้านายหนุ่ม ทันใดนั้นก็เริ่มมีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวบ้างแล้วว่าจะจัดการกับคนดื้ออย่างไรดี “ไม่ไปจริงๆ ใช่ไหม?” หญิงสาวยืนเท้าเอวมองคนที่อยู่ใต้ผ้าห่ม “เออสิวะ!” “งั้นก็ได้.....” ปั่กก!!! ตุ้บ!! “โอ้ยยย! นี่เธอ!!” ทันใดนั้นเลขาฯ สาวก็กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนเตียงนอน ก่อนจะง้างขาขาวของตัวเองขึ้นพร้อมกับใช้แรงทั้งหมดเท่าที่มีถีบลงเข้าไปกับก้อนผ้าห่มนุ่ม จนคนที่อยู่ข้างในนั้นเผลอกลิ้งตกลงเตียงนอนไปกองอยู่บนพื้น “สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ บอกให้ลุกเองดีๆ ก็ไม่ยอม” เหมือนคนที่ได้แกล้งจะพอใจกับผลงานของตนเองเมื่อครู่อยู่ไม่น้อย “นี่เธอกล้าถีบฉันหรอ? ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ ยัยบ้าเอ้ย!!” ณัฐกานต์รีบดึงผ้าห่มออกมา แล้วยืนมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโหอย่างหนัก ดูเหมือนว่าแม่สาวเลขาฯ หน้าเอ็กซ์คนนี้จะลืมไปหรือเปล่าว่าเขาเป็นถึงเจ้านายของเธอ “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าวันนี้คุณต้องเข้าประชุมให้ได้ ถ้าท่านประธานกับพ่อคุณรู้ มีหวังฉันได้เตรียมหางานใหม่แน่ๆ ไปแต่งตัวเลยค่ะ” “หึ่ย! ฝากไว้ก่อนเถอะ” คราวนี้เขาจะยอมให้เธอก่อนก็ได้ ถึงอย่างไรเสียก็ต้องทำตามไปก่อน ไม่งั้นก็คงมีปัญหาอย่างอื่นตามมาจริงๆ โดยเฉพาะพ่อและพี่ชายของเขานี่แหละตัวบงการเรื่องทั้งหมด หากไม่ยอมทำตาม เงินสด รถ บัตรเครดิต ก็คงจะมีปัญหาอีกแน่ ---------------------------------------- Chapter 1 [1/2] ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสองก็เดินเข้ามาถึงบริษัท ด้วยระยะทางจากคอนโดของชายหนุ่มที่เป็นถึงรองประธานบริษัทนั้น อยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก แต่กระนั้นก็ยังไม่อยากตื่นขึ้นมาทำงานทั้งที่ตัวเองอยู่ใกล้แท้ๆ เข้ามาด้านในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ตอนนี้มีเหล่าผู้บริหารระดับสูงนั่งรอเตรียมพร้อมที่จะประชุมกันหมดแล้ว โดยที่มีภัทรกาฬตำแหน่งประธานบริษัทยืนนำเสนอโปรเจคอยู่ได้สักระยะหนึ่งแล้ว “มาได้แล้วหรอ ไม่รอให้เค้าประชุมกันเสร็จก่อนเลยล่ะค่อยมา?” คนที่อยู่ในห้องประชุมเมื่อเห็นคนมาใหม่ทั้งสองเดินเข้ามาก็ต่างให้ความสนใจ รวมทั้งท่านประธานคนใหม่ไฟแรงที่ยืนถือรีโมตคุมสไลด์งานอยู่หน้าห้องนี้ ตำหนิคนทั้งสองเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง ทั้งที่คนอื่นเขาประชุมกันมาได้เกือบครึ่งชั่วโมงกันอยู่แล้ว แต่รองประธานและเลขาฯ เพิ่งจะมา “อ้าว ....ได้หรอครับ? งั้นผมจะได้ไปนอนต่อ” ณัฐกานต์ก็เป็นแบบนี้ จังหวะไหนที่กวนเบื้องล่างคนอื่นได้เขาก็จะทำ “คุณ!” เลขาฯ สาวหันมาทำหน้าดุใส่เขาเบาๆ “อย่ามากวนประสาทฉัน ไม่เห็นหรอทุกคนนั่งรอแกอยู่” “โว้ะ! ….เฮียก็” “นั่งลงก่อนเถอะคุณ จะได้รีบๆ เสร็จกันซักที” ญารินดึงมือเจ้านายหนุ่มให้นั่งลงเก้าอี้ในที่ประชุม “เออๆ รู้แล้วน่า” “เอิ่ม ต้องขอโทษทีนะคะท่านประธาน เราเริ่มประชุมกันเลยดีกว่าค่ะ” ผู้บริหารหญิงอีกท่านหนึ่งในห้องประชุม เอ่ยตัดบทก่อนที่การประชุมจะล่าช้ามากไปกว่านี้ “ครับ” การประชุมยังคงดำเนินต่อไปจนจบก่อนถึงช่วงเที่ยงของวัน ณัฐกานต์และญารินเดินออกมาพร้อมกันจากห้องประชุม แฟ้มเอกสารต่างๆ ที่ประธานบริษัทมอบให้เขาจัดการ ถูกส่งให้หญิงสาวเป็นคนถือเอาไว้จนแทบจะล่วงกองหล่นบนพื้นอยู่แล้ว เนื่องจากมีหลายแฟ้มงานที่ทั้งสองต้องจัดการ ทว่าเอาจริงๆ งานทั้งหมดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเลขาฯ คนนี้ที่เป็นคนทำอีกตามเคย ส่วนเขานั้นก็คงนั่งๆ นอนๆ รอเวลาเลิกงานของตัวเองไป “คีย์การ์ดคอนโดฉันอยู่ไหน?” ขณะเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของตนเองแล้ว ณัฐกานต์ก็หันหน้ามาทวงของคืนจากญารินเลย “คะ?” หญิงสาวทำหน้างง พลางวางแฟ้มไว้ที่โต๊ะทำงานของตนเองซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของเจ้านายหนุ่ม “คีย์การ์ดที่พี่ชายฉันให้เธอไว้ เอาคืนฉันมา” มือหนาแบออกมาตรงหน้าร่างบางเพื่อที่จะรับคีย์การ์ดของตนคืน “ไม่ให้ค่ะ ฉันมีหน้าที่ต้องไปปลุกคุณทุกเช้า จนกว่าคุณจะเองมาทำงานตรงเวลาเองได้” “นี่ถามหน่อยเถอะ พ่อกับพี่ชายฉันจ้างเธอเท่าไหร่กัน ห้ะ? ฉันจ้างเธอมากกว่าพวกเขาเลย ขอแค่เลิกยุ่งวุ่นวายกับฉันซักที” “คุณไม่มีวันรู้หรอก เอาเป็นว่าคุณมีหน้าที่ทำตัวให้ดีขึ้น ส่วนฉันก็มีหน้าที่คอยดูแลความประพฤติของคุณแค่นั้นก็พอ” “นี่! ตกลงใครเป็นเจ้านายของเธอกันแน่ห้ะ?” ณัฐกานต์ชักสีหน้าใส่ ไม่ใช่ว่าญารินจะชอบงานแบบนี้นักหรอก ทว่าการได้มาซึ่งงานแบบนี้กับผลตอบแทนที่นายจ้างทั้งสองช่วยกันเสนอราคามามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มอีก ภาระที่เธอแบกรับไว้ก็ยังมีอยู่หากไม่มีเงินก้อนใหญ่ที่รับมาจากภัทรกาฬแล้ว เธอก็คงไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้เป็นจุนเจือครอบครัวตนเอง ทั้งค่าเทอมน้องและค่านมหลานที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกได้ไม่นาน เดิมที 'นลิน' พี่สาวของเธอทำงานที่นี่เป็นเลขาฯ ของท่านรองประธานคนก่อน ทว่าพอมีการเปลี่ยนแปลงระบบของบริษัทใหม่ทั้งหมดเธอเลยได้จับพลัดจับผลูมาทำงานที่นี่แทน อีกทั้งพี่สาวของเธอเองก็ใกล้จะคลอดแล้ว จึงเป็นจังหวะที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเข้ามาทำงานแทนขณะที่ตอนนั้นเธอเองก็เพิ่งถูกพักงานจากการเดินแบบเหมือนกัน “บริษัทจ่ายเงินให้ฉัน ถึงแม้คุณว่าคุณจะเป็นเจ้านายก็ตาม” โดยนิสัยส่วนตัวของเธอเองก็เป็นคนไม่ยอมคนเหมือนกัน อะไรที่เถียงได้เธอก็เถียง บอกเลยว่าไม่เคยกลัว และเมื่อมาเจอเข้ากับเจ้านายนิสัยเสียอย่างณัฐกานต์แล้ว เธอเองก็จะไม่เกรงใจเขาเหมือนกัน เรียกได้ว่าพี่ชายของเขาเลือกคนมาคุมได้เหมาะสมเลยทีเดียว “แล้วไอ้บริษัทเฮ็งซวยนี่มันก็เป็นของฉันเหมือนกันไง ก็เท่ากับว่าฉันเป็นเจ้านายของเธอ จำเอาไว้ ยัย.....” “ยัยอะไร? ด่ามาสิ” ญารินยืนถือแฟ้มที่วางไว้ขึ้นมาอีกครั้ง ทำท่าเตรียมจะฟาดเข้าตัวของเจ้านายหากพูดจาไม่เข้าหูเธอ “ยัยนมสวย…..” คนพูดมองก้มหน้าต่ำลงจากใบหน้าสวยลงลึกจนถึงร่องอกอิ่มที่เด่นสะดุดอยู่ตรงหน้า หญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตทำงานปกติแบบคนทั่วไป ทว่าความอวบอิ่มนั้นแทบจะล้มทะลักออกมา เนื้อเนินโผล่ปริ้นออกมาจากบริเวณช่องติดกระดุมเสื้อเผยให้เห็นบราสีดำเข้มนิดๆ จากข้างในเสื้อ จนคนที่มองอยู่แอบลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ปึ่กก!! จากนั้นแฟ้มเอกสารเล่มหนาก็ถูกฟาดลงแขนแกร่งอย่างจัง จนทำให้ชายหนุ่มเซไปอีกทางเล็กน้อย “โอ้ย!! อีกแล้วนะเธอเป็นบ้าอะไรชอบใช้ความรุนแรงมากนักหรอ” “ไอ้....!! ไอ้เจ้านายลามก!” ญารินหน้าขึ้นสีแดงก่ำ เพราะกำลังถูกมองส่วนสำคัญของตนเองอยู่ ถึงแม้การเป็นนางแบบที่ผ่านมาของเธอจะมีบ่อยครั้งที่แก้ผ้าเปลี่ยนชุดหลังเวทีไปมากับเพื่อนร่วมงาน ทว่าในนั้นก็มีแต่ผู้หญิงด้วยกันและไม่มีใครมาสนใจมองใคร เหมือนอย่างที่เจ้านายของเธอทำอยู่ตอนนี้ “พูดความจริงก็หาว่าลามก นี่กำลังชมหรอกนะ” ณัฐกานต์ก็พูดไปตามสิ่งที่ตนเองคิดมาตลอด นี่ถ้าไม่ติดว่าไม่ชอบขี้หน้าเธอนะ ....ก็คงจะล่อขึ้นเตียงไปนานแล้ว ‘เหอะ! คนอะไรดุชะมัด’ ปึ่กกๆๆ “โอ้ยยๆๆ .... พอแล้วว” “มองอยู่ได้ สมน้ำหน้า!” ญารินยังคงถือแฟ้มตีเจ้านายไม่หยุด โชคดีที่ตรงนี้ไม่มีพนักงานคนอื่น เพราะเป็นชั้นผู้บริหารระดับสูงจึงไม่เป็นปัญหาโดนนินทาว่าร้าย หากเห็นการกระทำระหว่างเจ้านายกับลูกน้องอย่างสองคนนี้ ทว่าก็คงหนีไม่พ้นสายตาของท่านประธานบริษัทเดอะวิลลิงตันคนนี้ไปได้หรอก “นี่แกเล่นอะไรกันน่ะ? ห้ะ!? เอะอะเสียงดังไปจนถึงข้างในห้องฉัน” ภัทรกาฬเดินมาหวังจะเข้าไปในห้องทำงานข้างๆ กัน ทว่าสายตาก็เหลือบมาเจอสองคนที่กำลังยืนหยอกล้อกันอยู่เหมือนกับเด็กไม่โตอย่างนั้นเลย “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” ญารินตกใจเมื่อเห็นว่าคนมาใหม่คือใคร พลางวางแฟ้มเก็บไว้ที่โต๊ะอย่างเดิม “ก็เพราะเฮียเลยไง ทำไมต้องหาคนมาคุมผมแบบนี้ด้วย โตแล้วป้ะวะ? ไม่ใช่เด็กๆ” ณัฐกานต์เงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย มาถึงก็ดี.... เขาจะได้บ่นใส่บ้าง “ถ้าแกดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกัน” ภัทรกาฬไหวไหล่ไม่สนใจกับคำพูดของอีกคน และเดินเข้าไปในห้องทำงานของตนเองเลย “เฮียจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ! โถ่โว้ยย!! เพราะเธอนั่นแหละ” ส่วนอีกคนที่ยืนโวยวายอยู่นั่น ก็ทำอะไรไม่ได้เลยหันมาชักสีหน้าดุใส่เลขาฯ สาวสวยของตนเองChapter 2[2/1]หลังเลิกงานตอนเย็นวันนี้เช่นเดียวกับทุกๆ วันที่ญารินจะต้องนั่งงมอยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์และแฟ้มเอกสารต่างๆ มากมายที่กองวางไว้ตรงหน้า ขณะที่พนักงานและผู้บริหารคนอื่นๆ ในชั้นนี้ต่างก็ทยอยกันกลับไปพักผ่อนกันหมดแล้วโดยเฉพาะกับเจ้านายที่ไม่เอาอ่าวของเธอ ออกจากบริษัทไปตั้งแต่บ่ายสองครึ่งแล้วไม่รู้ว่าชีวิตของเขามันมีอะไรให้ทำอีกมากหรืออย่างไร ถึงชอบหายตัวไปแล้วทิ้งงานที่ตัวเองจะต้องเซ็นกองไว้ให้เธออยู่แบบนี้มันก็เลยกลายเป็นเคลียร์งานส่งให้อีกฝ่ายไม่ได้ เพราะยังติดต่อณัฐกานต์กลับมาเซ็นให้ไม่ได้อีกเพียงแค่งานของตัวเธอเองก็ยังทำไม่เสร็จอยู่เลย ยิ่งถูกตำหนิจากฝ่ายอื่นอยู่ว่าฝ่ายของเธอปัญหาเยอะบกพร่องตรงนั้นตรงนี้บ้าง ทว่าก็ไม่อาจจะปฏิเสธคำตำหนิจากฝ่ายอื่นได้เลยก็ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงทั้งเธอและณัฐกานต์ต่างก็มือใหม่กันทั้งคู่ เธอเองถึงแม้จะมาทำงานที่ตรงไม่กับสายที่เรียนแต่เธอก็กำลังพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ในทุกๆ วันอย่างเช่นเดียวกับวันนี้ที่ญารินก็ต้องมานั่งทำงานล่วงเลยเวลาถึงแม้จะไม่ได้ค่าโอทีเนื่องจากเป็นความล่าช้าของเธอเองแต่กระนั้นเธอเองก็ต้องมีความรับผิดชอบเพ
Chapter 2[2/2]20.30 น.หลังจากที่ออกมาจากบริษัทได้แล้วร่างเพรียวบางก็ไม่ลืมที่จะหยิบเอกสารสำคัญออกมาด้วยเพื่อที่จะให้ณัฐกานต์เซ็นอนุมัติญารินสรุปได้จากคำพูดของพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นได้แล้วว่าเธอจะไปตามหาณัฐกานต์ที่คลับของเขาซึ่งเธอก็ได้ข้อมูลมาจากพนักงานคนนั้นอีกเช่นเคย อยากจะรู้จริงๆ ว่ายามคนนั้นมีอาชีพเป็นยามหรือเป็นกองสอดแนมชาวบ้านกันแน่หญิงสาวเดินเข้ามาภายในสถานบันเทิงเป็นที่เรียบร้อยได้สักพัก จากนั้นมีพนักงานบริการเดินเข้ามายื่นเมนูเครื่องดื่มให้เธอก่อนบนโต๊ะ“อืม เอาเป็นตัวนี้ค่ะ อย่างเดียวก่อน”นิ้วเรียวจิ้มลงบนรูปภาพเมนูเครื่องดื่มสักอย่างไปมั่วๆ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาดื่ม ขณะที่สายตาสวยว่อกแว่กไปมามองหาจุดมุ่งหมาย“ครับ”“เอ่อ น้องคะ พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”“ได้ครับ”“ที่นี่คุณณัฐเค้าเป็นเจ้าของใช่ไหม? เอ่อ คือพี่เป็นพนักงานที่บริษัทของเค้าน่ะค่ะ พอจะตามตัวเค้ามาเจอพี่ได้ไหมเอ่ย พี่มีธุระสำคัญจริงๆ ค่ะ”“อ่อครับ ตอนนี้พี่ณัฐเค้าคงไม่ว่างหรอกครับพี่ อีกอย่างผมคงไปตามเค้ามาให้พี่ไม่ได้หรอกครับ”“ทำไม? งั้นแสดงวันนี้เค้าอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” ญารินคิดสงสัยว่าทำไมจะต้องเ
Chapter 3[3/1]หลังจากที่เดินลงไปหยิบเอกสารมาแล้ว เลขาฯ สาวอย่างญารินก็รีบหอบแฟ้มต่างๆ ขึ้นมายังห้องเดิมของชั้นบนสุด“อ่ะนี่! คุณรีบอ่านรีบเซ็นซะ ฉันจะได้รีบกลับซักที”“รีบนักทำไมไม่มาให้เซ็นตั้งแต่เมื่อวานเลยล่ะ”“อย่ามากวนประสาทนะคุณ”หญิงสาวยื่นแฟ้มเอกสารให้เจ้านายหนุ่มพร้อมปากกา ทว่ายังไม่เซ็นก็โดนยั่วโมโหขึ้นมาเสียดื้อๆ จะมีสักครั้งไหมที่เธอและเขาจะพูดจากันอย่างเป็นมิตร“คุณไม่คิดจะอ่านมันซักหน่อยหรอ? พรุ่งนี้คุณเองก็ต้องตอบคำถามทุกคนในห้องประชุมด้วยนะ”เจ้านายหนุ่มลงมือเซ็นทุกฉบับตามที่มีรอยปากกาสีจางมาร์คเอาไว้ อย่างไม่ทันได้อ่านรายละเอียดงานเลยแม้แต่น้อยจนทำให้ญารินอดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นเอกสารอย่างอื่นที่จะนำความเดือดร้อนมาให้เขา แล้วดันมาเซ็นรับสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่อ่านให้ไตร่ตรองแบบนี้ ก็คงจะวุ่นวายน่าดู“พรุ่งนี้ฉันไม่เข้า เธอก็ทำหน้าที่แทนฉันก็แล้วกัน”“เดี๋ยวนะ! ได้ไงอ่ะคุณ? ยังไงก็ไม่ได้”“ได้ไม่ได้เดี๋ยวก็รู้” ณัฐกานต์ไหวไหล่เล็กน้อยใส่คนตรงหน้าพรุ่งนี้มีนัดแข่งสำคัญที่สนามแข่งรถเขาจะพลาดได้อย่างไร ถึงจะแข่งตอนบ่ายอย่างไรเสียเขาก็ต้องเตรียมรถให้พร้อมก่อนลงสนาม“ถ้าเกิด
Chapter 3[3/2]ญารินรีบวิ่งเข้ามาหลบฝนด้านในคลับที่ตอนนี้ยังมีผู้คนหนาแน่นอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนเข้าไปแล้วก็ตามโชคดีที่ตอนวิ่งออกมาเธอยังไม่ได้เช็คเอ้าท์ออกจากห้องพักเสียก่อน จึงถือว่าเป็นโชคดีสำหรับคืนนี้ อย่างน้อยเธอเองก็จะได้มีที่หลับนอน“เฮ้ออ” ร่างเพรียวบางยืนมองตัวเองอยู่ด้านหน้ากระจกภายในห้องพักของโรงแรมหลังจากที่เข้ามาในห้องหญิงสาวก็รีบอาบน้ำเช็ดตัวจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว จึงเดินมาสำรวจตัวเองที่หน้ากระจกบานใสตอนนี้เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองไม่ได้มีชุดมาเปลี่ยนแล้วในห้องนี้ก็มีแค่ผ้าขนหนูกับชุดคลุมสำหรับใช้อาบน้ำเพียงเท่านั้น“เอาวะ ใส่ๆ ไปก่อน” อย่างไรเสียเธอก็อยู่ในห้องนี้เพียงแค่คนเดียวจะใส่ชุดแบบไหนก็คงจะไม่มีใครเห็นคร่อกกก~เสียงท้องร้องในขณะที่ร่างเพรียวบางกำลังนั่งเช็ดผมให้แห้งก่อนจะเตรียมนอน ก่อนที่เธอจะใช้โทรศัพท์ของห้องพักโทรไปยังพนักงานของโรงแรมเพื่อจะได้สั่งอาหาร ทว่ากลับโชคร้ายเมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสายเลยญารินตัดสินใจเดินเปิดประตูออกไปด้วยชุดคลุมอาบน้ำเพียงชิ้นเดียวที่ปกปิดร่างกายตนเองอยู่ จุดมุ่งหมายของเธอคือเคาท์เตอร์ของโรงแ
Chapter 4[4/1]@The Willington N group10.00 น.ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ของวันนี้ บรรยากาศรอบๆ ช่างน่าอึดอัดใจสำหรับญารินอยู่ไม่ใช่น้อย การประชุมงานในครั้งถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ใช่การประชุมงานทั่วไปที่จะมีแค่ผู้บริหารระดับสูงแต่วันนี้มีผู้ถือหุ้นมากมายจากภายนอกองค์กร ที่เสียสละเวลามาฟังบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อที่จะเสนอร่างงบประมาณและจัดแผนการระดมทุนเพิ่มจากเหล่าผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และรายย่อยร่างเพรียวบางยืนเตรียมสคริปต์มากมายที่จะใช้ในการนำเสนอสำหรับวันนี้ด้วยความตื่นเต้นและปนไปด้วยความกดดัน เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำอยู่ต่อจากนี้จะออกมาดีหรือไม่ที่จริงแล้วเธอไม่ควรได้รับเกียรตินี้ด้วยซ้ำ ทว่าคนที่จะต้องนำเสนอมันจริงๆ กลับผลักภาระมาให้ลูกน้องอย่างเธอแทน ส่วนตนเองน่ะเหรอก็คงจะไปมีความสุขอยู่แถวๆ สนามแข่งรถแล้ว“คุณญารินพร้อมไหมคะ?” เลขาฯ ของท่านประธานบริษัทเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นอากัปกิริยาที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของร่างเพรียวบางผู้เป็นเลขาฯ หน้าใหม่“พอไหวอยู่ค่ะพี่วจี ขอบคุณนะคะ”“ถ้าพร้อมแล้วงั้นเราก็ออกไปเถอะ ทุกคนพร้อมแล้ว”“ค่ะ!!” ใบหน้าที่
Chapter 4[4/2]@สนามแข่งรถกว่าที่ญารินจะหาตำแหน่งที่ณัฐกานต์อยู่ได้ก็ใช้เวลาเกือบเป็นชั่วโมงเลย โชคดีที่วจีเลขาฯ สาวรุ่นใหญ่ของภัทรกาฬเป็นคนให้ข้อมูลกับเธอมา ไม่อย่างนั้นญารินคงจะหาไม่เจอและคงไม่ทันเวลาเข้างานตอนบ่ายแน่นอน“นี่ค่ะพี่ ไม่ต้องทอนนะคะ”“จะทอนได้ไงล่ะน้อง ก็มันพอดีแล้วนี่ ฮ่าๆๆ”“อู๊ยย! แฮร่ๆ” ร่างเพรียวบางกำลังเดินลงจากรถแท็กซี่มาหลังจากที่ชำระค่าเดินทางเสร็จแล้ว จะบอกว่าเมื่อสักครู่นี้ไม่ได้ขายขำแต่อย่างใด เพราะเธอเองก็ไม่ทันรู้เลยปล่อยไก่ตัวโตใส่คนขับไปเลยตอนนี้ญารินเข้ามาด้านในสนามแข่งรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินเข้ามาในงานก็ต้องเสียเงินอีกรอบ เพราะรู้สึกว่าวันนี้จะเป็นงานแข่งรถด้วยหญิงสาวเองก็เพิ่งรู้จากพนักงานขายบัตรด้านหน้าร่างเพรียวบางกำลังมองหาที่นั่งตามเลขบัตรที่ตนเองได้มา แสงแดดส่องลงกลางหัวแบบนี้ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย ยังจะต้องทนแบกหน้าหาที่นั่งอีกเธอเองก็เริ่มจะหมดความอดทนแล้วแต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็กลับฉุดคิดได้ว่าหากมัวแต่รอให้ถึงเวลาเริ่มแข่งก็คงจะเลยเวลางานหรือไม่ ญารินจึงเกิดความคิดว่าจะต้องไปหาเจ้านายหนุ่มของตนก่อนที่งานจะเริ่มให้ได้ และแล้วขาเรียวย
Chapter 5[5/1]เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที ชายหนุ่มที่อาสาตัวไปเรียกเพื่อน ก็เดินกลับเข้ามาหาญารินพร้อมกับคนที่เธอต้องการเจอตัวร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืนออกจากโซฟาที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้ พร้อมกับเดินเข้าไปหาชายทั้งที่เพิ่งเดินเข้ามาด้านในเธอนึกอยากจะขอบคุณคนที่ชื่อโอมเสียจริงที่ช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ นอกจากจะหล่อมากแล้วยังใจบุญใจกุศลอีกพ่อคุณทูนหัว“เธอมาที่นี่คงไม่ใช่เพราะว่าจะมาดูเขาแข่งรถกันหรอก ใช่ไหม?”“กว่าจะเจอตัวได้นะคุณ รู้ไหมว่าวันนี้ฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง ห๊ะ!?”ทันทีที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ากันและกัน ทั้งญารินและเจ้านายหนุ่มก็เริ่มมีปากมีเสียงกันอีกเช่นเคยญารินอยากจะด่าคนตรงหน้าให้เหมือนกับที่เธอโดนพี่ชายของเขาเรียกไปอบรมสั่งสอนในช่วงเช้าของวันนี้ ดูสิว่าเขาจะรู้สึกเหมือนที่เธอรู้สึกบ้างไหม“พี่ชายคุณเรียกให้คุณกลับบริษัทให้ได้เลยวันนี้ จนฉันต้องหอบสังขารมาถึงที่นี่ยังไงเล่า!” ประโยคสนทนาระหว่างณัฐกานต์และหญิงสาว อยู่ในสายตาของอัครเดชในตอนนี้ซึ่งเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมญารินถึงได้กล้าต่อปากต่อคำกับเพื่อนของเขาได้โดยไม่เกรงกลัวเลย ก่อนที่ประโยคต่อไปจะทำให้เขาเริ่มเข้าใจอะไรๆ มากย
Chapter 5[5/2]ทางฝั่งของณัฐกานต์เองหลังจากที่เช็คความเรียบร้อยทุกอย่างก่อนลงสนามแข่งแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาเข้าสู่สนามแข่งกันแบบจริงจังเสียที ระหว่างเตรียมพร้อมในจุดสตาร์ทคนนั่งอยู่ด้านใน Ford Mustang TA2 ม้าเหล็กคู่ใจคันนี้ ที่ถูกปรับแต่งเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ 5.2 ลิตร ฝีมือจากวิศวะกรคนเก่งของเมืองไทย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากเจ้าของรถคันนี้เอง ....แข่งเองแต่งเองไปเลยสิครับด้วยความที่ณัฐกานต์เองก็เรียนจบด้านวิศวะฯ เครื่องกล มาเองกับมือ ทุกอย่างที่อยู่บนรถคันนี้เขาเป็นคนสรรหามาใส่เพิ่มความแรงของรถหมดทุกสิ่งอย่าง โดยมีลูกมืออย่างอัครเดชเพื่อนที่เรียนด้วยมาด้วยกันเป็นคนช่วยอีกแรง“แกล้งแพ้บ้างก็ได้นะมึง กูสงสารสปอนเซอร์คู่แข่งว่ะ” อัครเดชที่ยืนอยู่นอกรถแซวเพื่อนอย่างเซ็งๆ“แสดงว่ามึงอยากเสียตังค์?”“หึ! เบื่อแม่ง มึงแข่งทีไรกูไม่มีลุ้นเลย วินตั้งแต่ยังไม่สตาร์ทเครื่องแล้วไอ้สัสณัฐ”เป็นอย่างที่อัครเดชพูดทุกอย่างเลย ตั้งแต่ที่จัดการแข่งขันมานับครั้งไม่ถ้วนในทุกสนามและทุกรายการณัฐกานต์ไม่เคยแพ้เลยแม้ครั้งเดียว คู่แข่งขันจะชนะก็ต่อเมื่อเขาจะยอมสละสิทธิ์ไม่ลงแข่งก็เท่านั้น“เหอะ! งั้นพ
Chapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้
Chapter 29[29/2]กริ๊งงง!~~รถสปอร์ตหรูจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ของญารินแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองลงจากรถมายืนกดกริ่งรอคนด้านในมาเปิดประตูรั้วให้ซึ่งณัฐกานต์เองก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามีใครอยู่ที่นี่หรือไม่ เพราะว่าเขาและอัครเดชก็ยืนตากแดดกดกริ่งเรียกแบบนี้นานแล้วกระทั่งความพยายามของพวกเขาสำเร็จ เมื่อมีคนเดินออกมาจากด้านในบ้านแล้วทว่ากลับไม่ใช่ญาริน คนที่ณัฐกานต์อยากเจอ“อ้าว สวัสดีค่ะคุณ”“สวัสดีครับ ญารินอยู่บ้านหรือเปล่าครับคุณนลิน?”เป็นนลินพี่สาวของญารินเองที่เดินออกมาเปิดประตูพร้อมกับอุ้มลูกชายตัวน้อยออกมาด้วย และเมื่อสักครู่ที่เธอออกมาเปิดประตูช้าก็เพราะว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับลูกชายของตัวเองอยู่ แม้จะได้ยินเสียงกดกริ่งนานสักพักแล้วก็ตามนลินรู้มาว่าณัฐกานต์และน้องสาวของตัวเองทะเลาะอะไรบางอย่างกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุของเรื่องจริงๆ เลยว่าเพราะอะไรที่ทำให้น้องสาวของเธอรีบเก็บข้าวของบินลัดฟ้าข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงต่างประเทศ“นี่รินไม่ได้บอกคุณไว้หรอคะ? ว่าจะไปทำงานกับเจ้านายคนเก่าที่ต่างประเทศ”“ห๊ะ!? อะไรนะ ญารินไปต่างประเทศงั้นหรอ?” ณัฐกานต์ตกใจกับคำพูดของพี่สาวญารินจนเผลอทำสีหน้า
Chapter 29[29/1]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่สนามบิน Milan Malpensa เป็นสนามบินนานาชาติที่ถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วในมิลาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี่ และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสองรองจากสนามบินในกรุงโรมถ้าถามว่าทำไมถึงมีผู้คนเนืองแน่นมาใช้บริการสนามบิน Malpensa ก็คงจะเป็นเพราะว่ามิลานเป็นแลนมาร์คสำคัญอีกหนึ่งเมืองสำหรับนักช้อปสายแฟชั่นทั้งหลายจะต้องเดินทางมาที่นี่ เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าหลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกนอกจากร้านแบรนด์เนมต่างๆ แล้ว ในมิลานยังมีงานจัดแสดงโชว์เกี่ยวกับแฟชั่นมากมายแทบจะทุกวันเลยด้วยซ้ำเหล่าเซเลบฯ คนดัง รวมถึงนางแบบและนายแบบหลายคนจึงไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมความสวยงามในเมืองนี้เช่นเดียวกันกับญาริน“ขอบคุณพี่โรสมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มารับแถมยังเป็นธุระเรื่องที่พักให้รินอีก”“ไม่เป็นไรเลยจ้าคนสวยของพี่ ขอแค่หนูมาพี่ก็ดีใจแล้ว”ญารินเพิ่งจะเช็คเอาท์ลงจากเครื่องเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้มีโรสเอเจนซี่สาวสองคนสนิท มารับเธอถึงสนามบินหลังจากที่วจีโทรมาบอกเรื่องใบลาออกของเธอแล้ว แต่กลับโดนปฏิเสธและยังมีหน้ามาบอกให้เธอสามารถพักร้อนได้ 1 เดือนจากนั
Chapter 28[28/2]เหตุการณ์ก่อนหน้านี้....,(ณัฐกานต์ ทอร์ค)ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ผมกับญารินทะเลาะกัน จนผ่านมาถึงวันนี้ผมยังไม่เห็นเธอเข้ามาทำงานเลยผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีงานกองเท่าภูเขาได้แต่ก็ไม่ได้สนใจมันเลย สิ่งที่สนใจอยู่กลับเป็นโต๊ะว่างเปล่าที่ตอนนี้ไร้เจ้าของมานั่งทำงานผมจับโทรศัพท์สแกนนิ้วปลดล็อกแล้วก็กดปิดหน้าจอไว้เหมือนเดิม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว ในใจอยากจะโทรไปหาญารินให้ได้ทันทีทันใดแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ที่ผ่านมาผมก็ง้อเธอมาตลอดจนอาจจะทำให้เธอเสียคนขนาดนี้ ถ้าหากจะง้อเธออีกครั้งก็คิดว่าเธออาจจะได้ใจอีกเรื่องวันนั้นญารินวู่วามเกินเหตุจริงๆ ต่อหน้าต่อตาผมขนาดนั้นยังไม่มีความเกรงใจกันเลยสักนิด และหลายครั้งหลายคราวที่ดารันมาหาผมเธอก็มักจะเป็นอารมณ์นี้อย่างวันก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ดารันทำขนมมาให้ผมลองชิมสูตรใหม่แบบไม่หวาน เพราะเธอรู้ว่าผมไม่ชอบกินอะไรหวานๆ แต่ญารินก็ทำท่าหาเรื่องใส่ดารัน จนไล่เธอกลับบ้านไปตอนเด็กๆ ดารันตัวเล็กมากและไม่สู้คนเลย มีผมกับเฮียนาฟสองคนที่คอยปกป้องเสมอเพราะเราสามคนเรียนที่เดียวกันมาตลอด ก่อนที่ดารันจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศในช่วง