พอมาถึงโรงพยาบาลฉันก็บอกหมอให้ตรวจร่างกายของตัวเองให้ละเอียด เอาแบบละเอียดมากๆ และมันก็โล่งใจที่ผลออกมาว่าร่างกายของฉันไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด
เมื่อคืนจำได้ว่าฝันเห็นเทวดารูปงามองค์หนึ่ง ใบหน้าของท่านนั้นหล่อเหลามากๆ ท่านต้องช่วยฉันให้พ้นจากอันตรายแน่ๆ#บ้านของฉัน
บ้านที่อยู่คือบ้านเช่าหลังเล็กๆ บ้านหลังนี้มีฉันกับยายและน้องชายอีกหนึ่งคน พ่อแม่เสียไปตั้งแต่ฉันกับน้องยังเด็ก “ยาย” พอเห็นหน้ายายฉันก็รีบวิ่งไปกอด ชะเอมกับมีนมารอฉันที่บ้านด้วย “พระคุ้มครองนะหลาน ยายเป็นห่วงจนนอนไม่หลับ” “หนูขอโทษนะคะ เมื่อคืนหนูเมาเลยไปเปิดห้องนอนไม่ได้รับสายใครเลยจนทำให้คนอื่นวุ่นวายกันหมด ต่อไปนี้หนูจะไม่ดื่มเหล้าแล้วค่ะ” ฉันอ้างออกไปแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ยายเป็นห่วงไปมากกว่านี้ ฉันพายายเข้าบ้านมานอนพัก จากนั้นก็ออกมาคุยกับเพื่อนที่หน้าบ้าน “เรื่องมันเป็นยังไงแกไปอยู่ที่ไหนมา” มีนถาม “ฉันจำอะไรไม่ได้เลยแก ตื่นขึ้นมาฉันนึกว่าพวกแกพาไปเปิดห้องนอน แต่ไม่เจอใครเลย” “ระ หรือว่าแกจะโดน….” “ไม่ๆ ฉันไปตรวจร่างกายแล้วยังบริสุทธิ์อยู่ แต่ใครกันนะที่ลักพาตัวฉันไปแบบนั้น น่ากลัวจังเลยคนสมัยนี้” “แต้มบุญแกสูงมากยัยเอย นี่เห็นในข่าวไหมที่ถูกฆ่าข่มขืนน่ะ” คำพูดของเอมทำเอาขนทั้งตัวมันลุกตั้ง โชคดีที่ฉันรอดมาได้ ต่อไปนี้ต้องระวังตัวเองให้มากๆ “ไม่ใช่ว่าไอ้โรคจิตนั่นตามแกอยู่นะ ไปแจ้งความดีกว่า” “อย่าเลยแกฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ร่างกายฉันปกติดีไม่โดนทำร้าย อีกอย่างเดือนหน้าเราก็ต้องเตรียมตัวไปเรียนที่ต่างประเทศกันแล้ว ฉันไม่อยากมีคดีความให้ค้างคา” ฉันกับเพื่อนเราไม่ได้มีฐานะที่รวยอะไรเลย แต่โชคดีที่เราเรียนเก่งเลยสอบได้ทุนที่ต่างประเทศ ใกล้จะไปเรียนที่นั่นแล้วจึงไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต่อไปนี้ฉันจะระวังตัวเองให้มากๆTalk เพลิงประเทศอังกฤษ ผมมาถึงที่โกดังด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดหัวเสีย โชคดีที่ลูกน้องคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ก็เสียหายเยอะพอสมควร “มึงดูแลยังไงปล่อยให้ไฟไหม้” “อ้าวเฮีย! กูก็ไม่ได้ดูตลอดไหมวะ กูไม่ได้นอนเฝ้าทุกวันจะรู้ไหมว่าพวกแม่งมันจะเล่นสกปรก” ไอ้นี่มันชื่อไฟ เป็นน้องชายของผมเอง“เป็นมัน ?”“เล่นแบบนี้ถ้าไม่ใช่พวกมันแล้วจะเป็นใครวะ” ผมกำหมัดแน่นพวกมันกัดไม่ปล่อยจริง ๆ ผมทำธุรกิจสีเทาแน่นอนว่าต้องมีศัตรูรอบตัว แต่ก็มีอยู่แค่พวกเดียวที่กัดไม่ยอมปล่อย พวกคาเรน พวกมันทำธุรกิจมืดเหมือนกันกับผม พักหลังมานี้ผมขยายธุรกิจไปหลาย ๆ ประเทศ คงเผลอไปเหยียบหางมันเข้า “ให้ไอ้เคนไปหากูที่บริษัท” ผมสั่งลูกน้อง “ครับนาย” “มึงจะกลับบริษัทพร้อมกู ?” ไอ้ไฟถามผม“เออ” ผมไม่อยากอยู่เห็นภาพโกดังสินค้าที่ถูกไฟไหม้ กลัวจะอดใจไม่ได้บุกไปยิงถล่มพวกมัน ตอนนี้ผมจะปล่อยให้มันได้ใจไปก่อนแล้วค่อยคิดบัญชีทีหลัง #บริษัท บริษัทที่ว่าคือบริษัทค้าของผิดกฏหมาย ส่วนบริษัทที่โปรงใสพ่อผมเป็นคนดูแล พ่อให้ผมกับไอ้ไฟมาดูแลธุรกิจพวกนี้แทน ก็อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นในขณะที่ผมกับไอ้ไฟกำลังคุยกันอยู่“เข้ามา” คนที่เดิ
Talk เอิงเอยเวลาผ่านมาจนถึงวันที่ฉันต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษในฐานะนักศึกษาทุน มันคือครั้งแรกที่เด็กผู้หญิงบ้านจน ๆ อย่างฉันจะได้นั่งเครื่องบินทำเอาตื่นเต้นจนแทบนอนไม่หลับ “โอมดูแลยายดี ๆ ด้วยนะ พี่จะโทรมาหาเรื่อย ๆ” ฉันบอกน้องชายของตัวเอง ตอนนี้โอมเรียนอยู่ม.ปลาย “ครับ ผมจะดูแลยายเองพี่ไม่ต้องห่วง” น้องชายฉันเป็นคนที่ว่าง่ายไม่ดื้อไม่ซน “ยายหนูต้องไปแล้วนะคะอีกนานเลยกว่าจะได้กลับมาที่ไทย หนูสัญญานะคะว่าถ้าเรียนจบแล้วหนูจะทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ แล้วเราไปอยู่บ้านหลังใหม่กันนะยาย” “เดินทางปลอดภัยนะหลาน ตั้งใจเรียน ยายรอใบปริญญาของหลานอยู่ที่บ้านนะ” ยายยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน ทำเอาเกือบจะร้องไห้เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยห่างจากยายไปไหนเลย แต่วันนี้ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปในที่ที่แสนไกล “หนูจะตั้งใจเรียนเอาใบปริญญามาให้ยายนะคะ” ฉันกอดยายกับน้องชายแน่น ที่เลือกสอบชิงทุนก็เพราะว่าอยากให้ตัวเองได้มีทางเลือกในชีวิต การเรียนจบต่างประเทศอาจจะเปิดโอกาสในด้านทำงานได้มากกว่า หลังจากที่ร่ำลายายกับน้องชายแล้วฉันก็เดินออกมาจากบ้านเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่สนามบิน ชะเอมกับมีนมารอที่สน
โรงแรมตัวโรงแรมที่ว่าใหญ่โตแล้ว ภายในห้องนั้นมันทำให้ฉันกับเพื่อนว้าวยิ่งกว่า ห้องมันกว้างมาก ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมือนพวกฉันเป็นคนสำคัญเขาถึงได้จัดเตรียมห้องให้ดีขนาดนี้ “ตลอดการศึกษาที่นี่พวกคุณสามคนจะได้พักอยู่โรงแรมนี้ เป็นโรงแรมในเครือของคุณธนดลเจ้าของทุนครับ” “ค่ะ” ฉันกับเพื่อนพยักหน้าตอบพร้อม ๆ กัน “ผมจัดเตรียมห้องไว้สามห้องเพื่อให้ความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะครับ ฟรีตลอดจนจบการศึกษา” มันอึ้งยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าเราได้อยู่กันคนละห้องแถมยังฟรีแบบห้องระดับพรีเมียม การได้ทุนมาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่นี่มันวิเศษมากจริง ๆ ผู้ชายคนนี้พาฉันกับมีนมาดูห้องต่อ ส่วนชะเอมได้อยู่ห้องแรกที่เราไปดู เขาพาเราขึ้นลิฟต์มาอีกชั้น นั่นคือห้องของมีน แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่ให้อยู่ชั้นเดียวกันแต่ก็ไม่กล้าถามพอพามีนเข้าห้องแล้วเขาก็พาฉันไปดูห้องต่อ แล้วก็ต้องแปลกใจอีกเมื่อห้องของฉันมันคือห้องชั้นบนสุดของโรงแรม ซึ่งเพื่อน ๆ ได้อยู่กันที่ชั้นยี่สิบ แต่ฉันได้ขึ้นมาอยู่ถึงชั้นที่ห้าสิบ แถมพอมาดูในห้องมันกว้างและหรูหรามากกว่าห้องของเพื่อนฉันซะอีก “ทะ ทำไมเอยถึงได้มาอยู
“กินสิ” คุณเพลิงยกมือขึ้นมาบอกให้ฉันกินอาหารบนโต๊ะ “คุณ… เพลิง ไม่กินเหรอคะ”“ฉันไม่หิว อยากดูเธอกินมากกว่า” มันรู้สึกแปลก ๆ เวลาที่เขาพูด สายตาแบบนั้นทำให้รู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก ฉันไม่สามารถขัดใจอะไรได้จึงหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารเข้าปากช้า ๆ ด้วยความรู้สึกประหม่า กินได้นิดเดียวก็อิ่มเพราะถูกจ้องมองตลอดเวลา เป็นใครก็คงไม่กล้ากิน แถมคนที่จ้องมองยังหล่อมากขนาดนั้น ทำเอาฉันเกร็งจนไม่รู้จะเกร็งยังไง อยากกลับโรงแรมแล้วสิ “อิ่มแล้ว ?” คุณเพลิงถาม “อ… อิ่มแล้วค่ะ” “ได้ข่าวว่าเธอสอบได้คะแนนสูงที่สุด คงจะเรียนเก่งใช่เล่น” เขาคงเห็นท่าทางเกร็ง ๆ ของฉันเลยอยากให้ผ่อนคลาย“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เอยชอบอ่านมากกว่า ชอบหาความรู้ในเรื่องที่ไม่รู้ค่ะ” “ฉันอยากรู้เรื่องหนึ่งเธอพอจะอธิบายให้ฟังได้ไหม พอดีฉันไม่ค่อยเข้าใจ ?”“เรื่องอะไรเหรอคะถ้าเอยรู้เอยจะอธิบายให้ ^_^” มันเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแล้วแหละพอได้พูดคุยแบบนี้ “ฉันไม่เข้าใจเรื่อง… เพศศึกษา” “…” ระ เรื่องเพศศึกษางั้นเหรอ เมื่อเจอคำถามแบบนี้ทำให้ฉันไปไม่เป็นเลย “ฉันอยากรู้ว่าการหลั่งนอกมันมีโอกาสท้องหรือเปล่า หรือต้องสวมถุงยางอนามัยทุกค
ฉันดีใจจนลืมเอ่ยถามไปว่างานอะไร แต่งานที่ลูกชายเจ้าของทุนหาให้คงจะดีไม่น้อย ไม่ว่างานอะไรมันก็คงจะดีกว่าที่ฉันกับเพื่อนต้องหากันเองเพราะนี่ไม่ใช่ประเทศไทยการหางานสักงานหนึ่งมาทำขณะที่เรียนไปด้วยจึงเป็นเรื่องที่ยาก ถ้าฉันไปบอกเพื่อนว่าคุณเพลิงลูกชายเจ้าของทุนการศึกษาใจดีหางานให้เราทำสองคนนั้นต้องดีใจมากแน่ ๆ เลย“ดูท่าเธอคงจะดีใจมากที่ได้งาน”“ใช่ค่ะ เอยไม่คิดว่าจะได้งานเร็วขนาดนี้ ^_^”“เธอถนัดงานแบบไหน ?” คุณเพลิงถามเสียงเย็น ทุกครั้งที่เขาพูดมันทำให้ฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว“เอยทำได้หมดทุกงานเลยค่ะ เพื่อนเอยก็เหมือนกัน”“แต่งานนี้ฉันสนใจแค่เธอ”“…” คำพูดนั้นทำให้ฉันเงียบไป ถ้าเกิดเพื่อนรู้ว่าฉันได้งานแค่คนเดียวจะพากันงอนหรือเปล่านะ แบบนี้มันเหมือนว่าฉันกำลังเห็นแก่ตัวอยู่ยังไงก็ไม่รู้“อยากให้เพื่อนได้งาน ?”“ชะ… ใช่ค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะฝากเพื่อนเธอเข้าทำงานที่โรงแรม ส่วนเธอมาทำงานกับฉัน”“หะ… ให้เอยทำงานกับคุณเพลิงเหรอคะ”“อืม”“งานอะไรเหรอคะ” ฉันถามออกไปอย่างประหม่า ด้วยท่าทางที่สุขุมแบบนั้นเริ่มทำให้รู้สึกเกร็งอีกครั้งแล้วละสิิคุณเพลิงลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาหาฉัน เขาหยุดที่หลัง
วันต่อมา ฉันมาเล่นที่ห้องชะเอมเพราะอยู่คนเดียวมันเหงา มีนก็มาที่ห้องเอมด้วยเหมือนกัน“ทำไมลูกชายเจ้าของทุนไม่เห็นจะเรียกฉันกับยัยมีนไปแบบแกเลยล่ะ” ชะเอมถามอย่างแปลกใจ มีนก็พูดเสริม “นั่นสิ ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ นะว่า หน้าตาลูกชายเจ้าของทุนเป็นยังไง”ทั้งเอมและมีนต่างมองมาที่ฉันพร้อม ๆ กัน“แกสองคนมองหน้าฉันแบบนั้นทำไม”“ลูกชายเจ้าของทุนหล่อไหมยัยเอย”พอถูกถามแบบนี้สมองของฉันมันก็จินตนาการไปถึงใบหน้าคมคายที่ได้เจอเมื่อวาน ถ้าใช้คำว่าหล่อคงจะน้อยเกินไป ต้องใช้คำว่าหล่อมาก ๆๆๆปกติฉันไม่สนใจผู้ชายแต่สำหรับเขาคนนั้นมันเหมือนมีเวทมนต์มาสะกดจิตยังไงก็ไม่รู้“คิดอะไรอยู่ยัยเอย รีบตอบมาสิ” มีนถามย้ำ ทำให้ฉันมีสติอีกครั้ง“อื้อ เขาหล่อมาก ๆ เลย”“งุ้ย ฉันอยากเห็นจัง” ชะเอมรีบพูด“ท่าจะหล่อจริงเพราะปกติฉันไม่เคยเห็นยัยเอยชมใครว่าหล่อเลย”“แล้วทำไมเขาถึงเรียกแกไปพบคนเดียว แถมวันนั่นก็ส่งกุหลาบมาให้แก” ชะเอมถามด้วยความสงสัย“คุณเพลิงบอกว่าถ้าว่างจะเรียกพวกแกสองคนไป ช่วงนี้เขาน่าจะยุ่ง ๆ ส่วนเรื่องกุหลาบฉันว่าเขาส่งให้เราสามคนนั่นแหละ เป็นการต้อนรับ”“อื้อ ฉันลืมไปเลย คุณเพลิงจะฝากแกสองคนเข้าทำงานท
พี่ผู้ชายที่มารับเขาไม่ตอบคำถามอะไรเลย พาฉันมาที่ตึกแห่งหนึ่ง มันใหญ่โตมโหฬาร หรูหรามาก ๆ คาดว่าที่นี่น่าจะเป็นคอนโด มาถึงเขาก็พาฉันขึ้นลิฟต์แล้วกดไปที่ชั้นบนสุด“ที่นี่เป็นคอนโดของเครือคุณธนดลครับ มีคอนโดสิบแห่งในอังกฤษ คอนโดนี้เป็นคอนโดที่พรีเมียมที่สุดในเครือ”คุณธนดลคือคนที่มอบทุนการศึกษาให้ฉันกับเพื่อน เป็นพ่อของคุณเพลิง ฟังแล้วมันก็รู้สึกขนลุกให้กับความรวยของเขา ชาตินี้ทั้งชาติฉันก็คงไม่มีโอกาสได้สัมผัสความรวยแบบนี้“ตามผมมาครับ” เมื่อลิฟต์เปิดออกเขาก็หันมาบอกก่อนจะเดินนำ ฉันเองก็รีบเดินตามพี่เขาพามาหยุดที่หน้าห้อง ๆ หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก“มาถึงแล้วครับนาย”ฉันได้แต่ยืนตัวสั่นเทาเพราะความตื่นเต้นกับการมาทำงานในที่สุดหรูแบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผ่านมาเคยทำแต่งานเสิร์ฟในร้านอาหาร ล้างจานอะไรพวกนี้ ไม่เคยทำในที่หรู ๆ แบบนี้เลย“คุณเอยเปิดประตูเข้าไปได้เลยครับ” พี่ผู้ชายคนที่มาส่งพูดขึ้นแล้วทำเหมือนจะเดินจากไปฉันจึงเรียกเอาไว้ “ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอคะ”“ผมมีหน้าที่แค่มาส่งคุณเอยครับ”“อะ… อ๋อค่ะ ๆ” ฉันพยักหน้าตอบแล้วพี่เขาก็เดินไปที่ลิฟต์ส่วนตัวฉันเองก็ยืนจ
“แต่เอยยังไม่ได้รับเงินจากคุณเพลิงเลยนะคะ เพราะฉะนั้นเอยสามารถยกเลิกสัญญาได้” ฉันพยายามพูดทุกอย่างด้วยเหตุผล ถึงแม้จะรู้สึกกลัวผู้ชายตรงหน้าเอามาก ๆ“เธอไม่รับแต่ยายเธอรับไปแล้ว เห็นว่าน้องชายเธอค้างค่าเทอมไว้ป่านนี้คงเอาเงินนั้นไปจ่ายค่าเทอมแล้ว”“คะ… คุณเพลิงเอาเงินให้ยายเอยได้ยังไงคะ รู้ที่อยู่ของเอยได้ยังไง” มันเริ่มกลัวมากขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น“ฉันรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ”“หลอกเอยอยู่ใช่ไหมคะ เอยขอร้องอย่าทำอะไรเอยเลยนะคะ เอยจะช่วยทำงานทุกอย่าง ไม่เอาเงินเลยสักบาทก็ได้แต่คุณเพลิงช่วยยกเลิกสัญญานั่นได้ไหม” ฉันลองขอร้องดูเผื่อผู้ชายตรงหน้าจะเห็นใจ แต่สายตาของเขามันบ่งบอกว่าต่อให้พูดไปก็เท่านั้น“ถ้าไม่เชื่อเธอก็โทรไปถามยาย เมื่อวานหลังจากที่เซ็นเอกสารฉันให้ลูกน้องที่ไทยจัดการเอาเงินส่วนหนึ่งไปให้ยายเธอ”“…” ฉันเม้มปากแน่น อยากจะโทรไปถามยายแต่ก็กลัวคำตอบ“เห็นว่าน้องชายเธอค้างค่าเทอมอยู่ฉันอุตส่าห์ใจดีช่วย คำขอบคุณสักคำก็ไม่มีเธอนี่ใจดำซะจริง ๆ”“… เอยไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น หนึ่งล้านสำหรับเอยมันเยอะมาก ๆ” ฉันบอกไปอย่างหมดหนทาง ไม่อยากให้คุณเพลิงใจร้ายทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันอุตส่า
ผู้ชายที่ชื่อลีวายมารับมิลินจริง ๆ เหมือนทั้งสองจะมีปัญหากัน แต่สุดท้ายมิลินก็ยอมกลับไป ไม่สิไม่ใช่ยอม เรียกว่าจำใจมากกว่า“ผู้ชายคนนั้นนิสัยเหมือนเฮียไม่มีผิด”คุณเฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของฉันก่อนจะถาม “ยังไง?”“ก็เป็นพวกดุร้ายแถมยังชอบบังคับ ดูท่าทางแล้วคงจะใจร้ายมาก ๆ มิลินถึงได้ไม่อยากเข้าใกล้แบบนั้น”“นั่นมันฉันในเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อย”“ถ้าเฮียกลับมาทำนิสัยแบบนั้นหนูจะหอบลูกหนีไปไกล ๆ เลยคอยดูสิ”คุณเฟยดึงตัวฉันมาสวมกอดแน่นแล้วถอนหายใจเบา ๆ “ฉันจะเป็นสามีที่ดีของเธอ… แต่ตอนนี้เรามาทำเรื่องที่ค้างไว้กันต่อดีกว่านะ”“ทะ... ทำได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ” ค่อนข้างกังวลเพราะฉันก็ศึกษามาบ้างว่าการมีเพศสัมพันธ์เสี่ยงต่อการแท้ง“ได้สิ ฉันจะค่อย ๆ ทำ”“รอคลอดก่อนแล้วเราค่อยทำ…”“ถ้าต้องให้รอนานขนาดนั้นก็ตัดของฉันทิ้งไปเลยดีกว่า”“หือ! นี่ถึงขนาดยอมตัดทิ้งเลยเหรอคะ” ฉันยกมือขึ้นมาป้องปากทำตาโต“ฉันแค่พูดประชด!!”คุณเฟยทำหน้าตึงใส่ จากนั้นก็อุ้มฉันพาเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง#ภายในห้องคุณเฟยวางฉันลงบนเตียงพร้อมกับขึ้นมาคร่อม แต่พอจะถูกถอดเสื้อผ้าฉันก็รีบรั้งมือหนาเอาไว้“ทำไม?”“หนูขอทำ
สีหน้าที่ดูเหมือนจะโกรธจริงจังของคุณเฟยทำให้ฉันแอบรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ทำยังไงได้บอกมิลินไปแล้วนี่นา“ยะ... อย่าดุหนูสิคะ เดี๋ยวถ้ามิลินกลับหนูจะจัดชุดใหญ่ให้นะคะ ^_^”“ฉันต้องการ… ตอนนี้”“ตอนนี้ไม่ได้เพื่อนหนูมาเฮียเข้าใจหน่อยสิ”“เธอทำกับฉันเกินไปแล้วนะน้ำอิง”“นะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำให้เฮียผิดหวัง ^_^”“ครึ่งชั่วโมง ฉันให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง”“รับทราบค่ะ ^_^”“ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงฉันจะไปอุ้มเธอขึ้นห้อง”คุณเฟยพูดทิ้งท้ายพร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ แล้วลุกขึ้นจากตัวฉัน จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้ามาใส่ ฉันเองก็รีบแต่งตัวเพราะมิลินโทรมาสามสายแล้วหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยฉันก็เดินมารับมิลินที่หน้าประตูบ้าน“ทำไมจู่ ๆ ถึงมาหา…”“น้ำอิง อึก~”มิลินโผล่เข้ากอดฉันแล้วร้องไห้โฮออกมา ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก“มิลินเป็นอะไร เธอร้องให้ทำไม”“ฉัน อึก~ ฉันรู้สึกแย่จัง ฉันไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเธอแบบนี้เลยน้ำอิง อึก~”“เข้าไปคุยกันข้างในบ้านดีกว่านะ” ฉันดันกอดออก มิลินพยักหน้าแล้วเดินตามฉันมาที่ห้องรับแขกฉันไม่รู้จะเริ่มปลอบเพื่อนยังไงดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้หนักขนาดนี้ มิลินเอาแต่พูดว่าตัวเ
คุณเฟยผละใบหน้าขึ้นแล้วมองฉันตาหวานเยิ้ม ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยวนไปมาตรงพวงแก้มของฉันเบา ๆ“เจ้าเล่ห์”“ฉันเจ้าเล่ห์แบบนี้แล้วเธอจะรับมือยังไง”“หนูจะ… รับมือยังไงดีน้า” ฉันใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อออก ภาพที่เห็นทำให้คุณเฟยยิ้มอย่างพอใจคุณเฟยจับปลายคางฉันเงยขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นสากค่อย ๆ สำรวจไปจนทั่วภายในโพรงปาก ความนุ่มนวลทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนี้ในขณะที่จูบกันอย่างดูดดื่มคุณเฟยก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองไปด้วย แล้วถอดเสื้ออกทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีถึงแม้เสื้อตัวนั้นราคาจะแพงขนาดไหนเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเราทั้งคู่ถูกถอดออกไปทีละชิ้น ๆ จนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวยอมรับว่าตอนนี้ฉันกำลังเขินสายตาของคุณเฟยที่กำลังมองเรือนร่างของฉันอยู่แบบไม่กะพริบตา“เฮียมองแบบนี้หนูก็เขินเป็นนะคะ”“ภรรยาของฉันสวยขนาดนี้ ไม่ให้มองได้ยังไง”พูดจบคุณเฟยก็ค่อย ๆ ดันตัวเองลงมาตรงกลางระหว่างขาแล้วก้มหน้าลง ฉันจึงรีบใช้มือปิดตรงนั้นของตัวเองเอาไว้“ฮะ... เฮียจะทำอะไรเหรอคะ”“ฉันกำลังจะทำให้เธอมีความสุข”คุณเฟยจับมือที่ฉันเอาปิดตรงนั้นของตัวเองออกไปให้
ฉันได้แต่ถามตัวเองว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่หรือเปล่า นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม คำพูดเมื่อครู่นี้หมายความว่า… ท่านยอมรับฉันแล้วอย่างนั้นเหรอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหมือนก่อนหน้านี้ไม่นานท่านยังไม่มีท่าทียอมรับฉันเลย จู่ ๆ พูดแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆคุณเฟยเอามือมากุมมือฉันไว้เราสองคนต่างยิ้มให้กัน ความทุกข์ในใจที่ทำให้คิดมากมานาน วันนี้ทุกอย่างถูกปลดล็อกแล้ว ไม่มีเรื่องต้องคิดมากอีกต่อไปแล้ว“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณที่ยอมรับผู้หญิงที่ผมรัก”“แกเลือกแล้วฉันจะขัดอะไรได้ อย่างน้อยเมียแกก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้เห็นแก่เงิน เพราะไม่ว่าฉันจะพยายามเสนอเงินมากมายเท่าไรเมียแกก็ไม่ยอมรับ”ฉันยิ้มแห้ง ๆ หลังจากได้ยินคำที่ท่านพูด เพราะตอนแรกฉันก็ขายตัวแลกเงิน ถ้าท่านรู้เบื้องหลังต้องไล่ฉันตะเพิดแน่ ๆ เลยท่านละสายตาจากคุณเฟยมาโฟกัสฉันแทน แล้วถาม “ฉันรู้มาว่าเธอไม่มีญาติที่ไหน ใช่หรือเปล่า”“ค่ะ” เอาเข้าจริงพอถูกยอมรับแล้วมันทำให้รู้สึกเกร็งมาก ๆ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะคุยเรื่องค่าสินสอดกับเธอเลยก็แล้วกัน”“… ค… ค่าสินสอดเหรอคะ”“อืม เธออยากได้เท่าไรบอกมาสิ”“เอ่อคือหนูว่าไม่ต้อง…” กำลังจะปฏิเสธแต
ตรงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันเต้นแรงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ก่อนหน้านี้ถึงจะมีความกล้าแต่ทว่าพอถูกพ่อของคุณเฟยเชิญมาที่บ้านด้วยตัวเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก“เป็นอะไรไปมือเย็นเฉียบเชียว” คุณเฟยหันมาถามหลังจากที่จับมือของฉัน“หนู... หนูรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็กลัว…” คุณเฟยจับปลายคางของฉันให้หันมา จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบฉันตกใจรีบผละตัวออกแต่ถูกฝ่ามือหนารั้งท้ายทอยเอาไว้แล้วกดจูบลงมาหนัก ๆ“จะทำอะไรก็ไว้หน้าฉันด้วย ไม่รู้จักอายบ้างรึไง” เสียงทุ้มท้วงขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจ ฉันกับคุณเฟยจึงรีบผละตัวออกจากกัน“คะ... คุณท่านสวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือสวัสดีแล้วก้มหน้าไม่กล้าสบตา“ถ้าฉันไม่โทรไปบอกให้แกมา แกก็คงไม่โผล่หัวมาใช่ไหม”“ครับ”“ตาเฟย!!”“เฮีย” เห็นว่าคุณท่านเริ่มมีอารมณ์ฉันจึงรีบหันมาท้วงคุณเฟย ไม่อยากให้พ่อกับลูกมีปากเสียงกันไปมากกว่านี้ฟังจากคำพูดแล้วคุณท่านคงไม่ยอมรับฉันง่าย ๆพอท้องแล้วรู้สึกว่าตัวเองหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ มากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยคุณเฟยถอนหายใจเบา ๆ ข่มอารมณ์ก่อนจะถาม “ให้ผมมาทำไมครับ”“ตามฉันมา”คุณท่านเดินนำเราสองคนเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนฉันกับคุณเฟยเรามองหน้าก
ผ่านไป 2 อาทิตย์ฉันแพ้ท้องหนักพอสมควร แค่ได้กลิ่นอาหารก็คลื่นไส้กินอะไรก็อ้วกออกจนหมด โชคดีที่คุณเฟยคอยอยู่ดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กลิ่นหอมจากตัวคุณเฟยทำให้อาการที่ฉันเป็นทุเลาลงบ้าง“กูสั่งให้ซื้อมะม่วงเปรี้ยวแต่มึงซื้อมะม่วงหวานมา อยากตายรึไงฮะ!!”“ขอโทษครับนายผมจะไปซื้อให้ใหม่เดี๋ยวนี้ครับ”“กูให้เวลาสิบนาทีถ้ายังไม่กลับมากูไล่มึงออก”เสียงคุณเฟยตวาดลูกน้องดังก้อง พักนี้เขาหงุดหงิดง่ายมาก ๆ แล้วก็ชอบกินของเปรี้ยวเป็นที่สุด“แค่ซื้อมาผิดไม่เห็นต้องดุเขาขนาดนั้นเลยเฮีย” ฉันเดินมากอดแขนคุณเฟยที่กำลังหงุดหงิดอยู่ แต่พอหันมามองฉันสายตาที่เคยเกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนเป็นละมุนทันที“ถ้าไม่ดุมันก็จะเคยตัว”“แล้วถ้าหนูทำผิดล่ะคะ”“ฉันก็จะลงโทษเธอทั้งคืน”“…” ที่เงียบไม่โต้ตอบเป็นเพราะฉันกำลังเขินจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าร้อนผ่าวเอามาก ๆ กับคำพูดเมื่อครู่ของคุณเฟยพอห่างหายจากเรื่องบนเตียงไปนาน ๆ ได้ยินคำพูดอย่างว่าเมื่อไรใจมันหวิว ๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวทุกที“คิดอะไรอยู่หน้าแดงเชียว”“นะ... หนูไม่ได้คิดเรื่องสิบแปดบวกนะ”“หืม? ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ”“…” ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย บ้าที่สุดเลยตอนนี้คุณ
ละ... ลูกของเราเมื่อกี้ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมหรือว่านี่คือความฝัน ใช่!! ตอนนี้ฉันกำลังฝันอยู่แน่ ๆ“ฉันอยากมีลูกมากขนาดเก็บมาฝันเลยเหรอเนี่ย”“ไม่นี่ ไม่ได้อยากมีสักหน่อย”ฉันพูดพึมพำกับตัวเองไม่ทันขาดคำ จู่ ๆ คุณเฟยก็เอานิ้วมาดีดหน้าผากฉันเสียงดังแปะ มันไม่ใช่เบา ๆ เลยนะ เจ็บด้วย“โอ๊ย... เฮียหนูเจ็บนะ” พอถูกทำให้เจ็บตัวฉันก็ตวัดสายตาจ้องคุณเฟยเขม็งทันที โกรธจริง ๆ นะ ดีดมาได้แรงขนาดนี้ นี่ฉันเป็นภรรยาเขานะ“ใช่ฝันหรือเปล่า?”“เฮียบ้า!!”“คงมีแค่ฉันที่ดีใจ เฮอะ! ใช่สิเธอไม่ได้อยากมีลูกกับฉันก็เลยไม่ดีใจ” พูดจบคุณเฟยก็ลุกขึ้นเดินหน้าบึ้งไปอีกมุมของห้อง ความโรแมนติกเมื่อครู่หายไปไหนแล้ว“ดะ... เดี๋ยวนะคะ ทำไมคิดแบบนั้นตัดสินเองเออเองโกรธเองใช้ได้ที่ไหนกัน”“ฉันเลี้ยงลูกเองก็ได้”“เฮีย! ไปกันใหญ่แล้วนะ”“จิ๊!!”“จู่ ๆ มาบอกว่าหนูท้อง ไม่ให้เวลาตกใจหน่อยเหรอคะ” ดูสิพูดแบบนี้แล้วยังเมินใส่ อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าตอนผู้หญิงมีประจำเดือนอีกนะสามีฉันฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองแรง พร้อมกับพูด “มาตรงนี้”“เฮียหนูบอกให้มาตรงนี้ไงคะ” พูดครั้งที่สองแล้วคุณเฟยยังทำเป็นไม่ได้ยิน ฉันจึงใช้คำเด็ดขาด “ถ้า
มาถึงโรงพยาบาลคุณเฟยก็บอกให้หมอตรวจร่างกายของฉันให้ละเอียด สีหน้าแววตาที่คอยมองฉันด้วยความเป็นห่วงแบบนั้นทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ มันพองโตขึ้นเรื่อย ๆขณะที่หมอตรวจก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดตลอดเวลาแถมยังพะอืดพะอมจะอ้วกใส่หมอไปหลายครั้งแต่ดีที่กลั้นไว้ได้ผลตรวจรอบแรกออกมาว่าร่างกายของฉันปกติดีทุกอย่างต่างจากอาการที่เป็น แน่นอนว่าคุณเฟยโวยวายให้หมอตรวจอีกครั้ง จนหมอต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้หลังจากตรวจรอบสองเรียบร้อยก็ต้องรอผล ตอนนี้ฉันกำลังเอนศีรษะซบลงบนไหล่กว้างของคุณเฟย เมื่อวานก็ปกติไม่เป็นอะไรแต่มาวันนี้เหมือนร่างกายไม่มีแรงอยากจะกลับบ้านนอนมาก ๆ“กลับไปรอผลตรวจที่บ้านได้ไหมคะ หนูไม่ไหวแล้ว” ฉันบอกเสียงเบา ตาก็คล้อยจะหลับเต็มที“เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วฉันยิ่งเป็นห่วง นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักคืนดีไหม”“ตอนนี้หนูเหม็นกลิ่นยาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว ถ้าต้องนอนที่โรงพยาบาลหนูตายแน่ ๆ เลยค่ะ”คุณเฟยมองด้วยสายตาเป็นห่วงปนเอ็นดู จากนั้นก็ลุกยืนเต็มความสูงแล้วช้อนมือมาอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาว“อื้อเฮีย นี่มันโรงพยาบาลนะคะวางหนูลงเดี๋ยวนี้เลย”“หน้าซีดขนาดนี้จะมีแรงเดินเองได้ยังไง”คุยกันเหมือนตรงนี้มี
คุณเฟยหันมามองหน้าฉันแล้วยกหางคิ้วขึ้นเหมือนมีคำถาม ทั้งที่พูดไปเมื่อกี้ว่าจะอ้วกไม่ได้ยินหรือไง“พาหนูไปห้องน้ำหน่อย อึก~”“อ๋อ เธอกำลังแพ้ท้องสินะ” คุณเฟยพยักหน้ายิ้มกริ่มก่อนจะประคองฉันขึ้น“อึก~”“ต้องขอโทษด้วยนะครับพอดีภรรยาของผมกำลังท้อง ช่วงนี้เธออ้วกบ่อย ๆ”“เร็ว ๆ อึก~ มันจะออก อึก~” ฉันทำตาดุใส่คุณเฟยที่เอาแต่ยิ้มพูดไม่ยอมพาเดินไปห้องน้ำซักที ถ้าขืนยังไม่ยอมไปจะอ้วกมันตรงนี้ซะดีไหมเนี่ยไม่รู้ว่าเผลอกินอะไรเข้าถึงได้พะอืดพะอมขนาดนี้ แต่จะว่าไปก็กินแบบเดิม ๆ ทุกวัน เพิ่งจะมามีอาการตอนเข้ามาในงาน คนเยอะแล้วเวียนหัว พอนั่งลงที่โต๊ะพวกกลิ่นอาหารมันตีขึ้นจมูกเหม็นมาก ๆ#ห้องน้ำพอเห็นประตูห้องน้ำมันเหมือนเห็นทางขึ้นสวรรค์ ฉันรีบวิ่งพุ่งตัวมานั่งตรงหน้าชักโครกแล้วอ้วกออกมาอย่างทรมาน“ไม่ต้องอ้วกเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นก็ได้ ตรงนี้มีแค่เธอกับฉัน”“อึก~ พะ... พูดอะไรคะ”แปะ แปะ แปะ จู่ ๆ คุณเฟยก็ปรบมือเสียงดัง ก่อนจะพูด “เมียฉันนี่การแสดงดีเยี่ยมจริง ๆ”“หนูไม่ อ้วกก~อึก แสดง~ อึกอ้วก~”“เลิกแกล้งได้แล้วน้ำอิง”“ก็บอกว่าไม่ได้แกล้ง ออกไปไกล ๆ เลยนะคะ อ้วกกก~” ฉันหันมาตวาดคุณเฟยที่เอา