“มาค่ะคนดี มากินข้าวก่อน เดี๋ยวจะได้ออกไปรอลุงคิมมารับที่หน้าบ้านกัน”หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จสองแม่ลูกจูงมือไปที่ประตู หากแล้วเมื่อเปิดประตูออกไป มิรันดาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างใครคนหนึ่งนั่งพิงประตูหลับอยู่“แม่มี่ขา! นั่นลุงคนแปลกหน้านี่คะ” เด็กหญิงตัวน้อยเอะอะลั่น พลางโผเข้ามากอดคนเป็นแม่แน่นมิรันดาเกือบอุ้มลูกเข้าบ้านอีกรอบแล้ว แต่ไม่วายหันไปมองดิฐกรที่นอนแน่นิ่งไม่มีทีท่าว่าจะตื่นหรือขยับไหวติง มือที่โดนประตูหนีบบวมเป่งอย่างน่ากลัวตายหรือยังเนี่ย“หนูอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวแม่มา”หญิงสาวหันไปบอกลูก ก่อนเหลียวซ้ายแลขวา เจอไม้กวาดอันหนึ่งเลยฉวยติดมือมา“แกล้งหลับหรือเปล่าเนี่ย” มองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนใช้ด้ามไม้กวาดเขี่ยปลุกแรงๆ แต่ก็ไม่ได้ผล เขาไม่ยอมขยับ ใบหน้าหล่อซีดเผือด ทำให้เธอลองยื่นมือไปอังที่จมูกโด่งๆ นั่น ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอ่อนๆก็แปลว่ายังไม่ตาย จึงยื่นมือไปตบที่ใบหน้าเบาๆ เพื่อปลุกให้ตื่น แต่ทว่าเธอกลับต้องสะดุดโหยง เ
“อุ๊ย!”“คนใจร้าย...” เสียงแหบพร่าตัดพ้อ แต่ยังเทียบไม่ได้กับดวงตาอิดโรยที่มองมาอย่างเว้าวอนคู่นั้น“ใจคอจะทิ้งคนป่วยใกล้ตายอย่างพี่ไว้คนเดียวจริงๆ เหรอ”มิรันดาเหยียดปากกับความสำออยของคนตรงหน้า“ใกล้ตายงั้นเหรอ ฮึ สำออยสิไม่ว่า ทำไมฉันจะทิ้งไม่ได้ล่ะในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย เดี๋ยวแม่คุณก็มาเฝ้าแล้วนี่”“มี่ก็อยู่ก่อนสิ จะได้เจอแม่พี่ไง เมื่อก่อนมี่ก็อยากให้พาไปรู้จักกับครอบครัวพี่ไม่ใช่เหรอ”“เหอะ! นั่นมันเมื่อก่อนย่ะ แต่ตอนนี้ไม่อยากรู้จัก ไม่อยากข้องแวะด้วยแล้ว ปล่อยมือฉันเสียทีเดี๋ยวสายน้ำเกลือก็หลุดหรอก”“เป็นห่วงพี่ด้วยเหรอ”“อย่าสำคัญตัวผิด ฉันเป็นห่วงสายน้ำเกลือต่างหาก” มิรันดาตอกกลับไม่ไว้หน้า“พี่ขอโทษ...”มิรันดาชะงักไปทันทีที่ได้ยินคำนั้นจากปากเขา“พี่ผิดไปแล้ว ผิดที่ทิ้งเธอไปในวันนั้น พี่มันโง่มากที่ทำแบบนั้น มี่จะยกโทษให้คนโง่ๆ อย่างพี่สักครั้งไม่ได้เหรอ เรากลับมาเป็นเหม
“เดินไหวไหมคะ” คนถูกถามส่ายหน้าน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเจ็บ “ข้อเท้าน่าจะพลิก เดี๋ยวหนูเรียกรถเข็นให้ดีกว่านะคะ ให้คุณหมอดูอาการสักนิด”ว่าแล้วมิรันดาก็จัดการเป็นธุระให้และอยู่เป็นเพื่อนรอ จนหญิงผู้นั้นได้พบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการเบื้องต้น“โชคดีกระดูกไม่หัก แต่ข้อเท้าพลิกนิดหน่อยครับ เดี๋ยวประคบเย็นให้หลอดเลือดรอบๆ ข้อเท้าหดตัว อาการบวมก็จะลดลง และให้พันผ้ายืดไว้ที่ข้อเท้า อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเองครับภายในไม่กี่วัน แต่ระหว่างนี้คนไข้อย่าเพิ่งเดินมากนะครับ ถ้ามีอาการอะไรผิดปกติก็ให้ลูกคุณป้าพามาพบหมอที่โรงพยาบาลทันที”“เอ่อ...ฉันไม่ใช่ลูกของคุณป้าหรอกค่ะ” มิรันดารีบออกตัว“งั้นคุณก็ช่วยบอกลูกของคุณป้าตามนี้แล้วกันครับ เดี๋ยวหมอจะจัดพวกยานวดกับผ้ายืดพันข้อเท้าให้ คุณไปรอรับที่ห้องยาได้เลย”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”หลังจากออกจากห้องตรวจ มิรันดาก็จัดการไปรอรับยาให้จนเสร็จเรียบร้อย คนป่วยมองหญิงสาวหน้าหวานที่ช่วยตนไว้อย่างซาบซึ้งใจ“นี่ค่ะยาของคุณป้า หนูต้องกลับแล้ว
“ลูกผมครับแม่”“แน่เหรอ แกเลิกกับเขาไปกี่ปีแล้วล่ะ ระหว่างที่เลิกกันเขาอาจมีผัวใหม่แล้วก็ได้นี่”“ลูกผมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ผมตรวจดีเอ็นเอลูกเรียบร้อยแล้ว”คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีหลานเพิ่มถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก ถามว่าอยากได้หลานไหม ก็ตอบว่าอยากได้ แต่ความกังขาเรื่องแม่ของหลานนี่สิ“งั้นก็โทรตามเมียแกมา คุยกันให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไง เขาอยากได้เท่าไหร่แลกกับการโอนสิทธิ์การดูแลมาให้เรา”“แม่ครับ!” สองหนุ่มประสานเสียงขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ“ก็ถ้าเป็นหลานแม่จริง แม่ก็ไม่อยากให้ไปลำบากนี่ ว่าแต่หลานสาวหรือหลานชายล่ะลูกแกน่ะ”“หลานสาวครับ ลูกผมน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด” ตอนที่เอ่ยถึงลูก ทำให้หัวใจของดิฐกรชุ่นชื่นขึ้นทันตา สีหน้าก็พลอยละมุนขึ้นมาทันที ส่วนคนที่อยากได้หลานสาวมาตลอดถึงกับตาโต“แม่จะเอามาเลี้ยงเอง ถามเมียแกว่าอยากได้เท่าไหร่”“แม่ครับ...”ดลธวัชถึงกับส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของแม่ ไอ้ที่เขากับภรรยาต้
“เออ จริงสิแก อีบ้านข้างๆ แกนี่เขาขายได้แล้วเหรอ เมื่อกี้ตอนเข้ามา ฉันเห็นมีรถขนของขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเต็มเลย”“คงงั้นมั้ง ฉันมัวแต่ยุ่งเลยไม่ได้สนใจ” มิรันดาตอบพลางหันไปคว้าผลไม้มาปอก“อยากรู้จังว่าเพื่อนบ้านใหม่แกเป็นใคร ไม่ใช่ว่าคนแถวนี้เป็นห่วงแกมากจนแอบมาซื้อบ้านข้างๆ อยู่เฝ้าแกกับลูกหรอกนะ” นิลุบลขยิบตาล้อ“เว่อร์น่า คุณคิมเขาจะทำแบบนั้นทำไม”“จะไปแน่อะไร ผู้ชายเวลารักเรา เขาก็ทำได้ทุกอย่างแหละ ที่จริงนะ ถ้าแกอยากตัดปัญหาเรื่องอีพี่ดิวตามรังควาน ก็แต่งงานใหม่กับคุณคิมเสียเลยก็สิ้นเรื่อง เขาก็ตามจีบแกมาตั้งหลายปีแล้ว ลูกแกเขาก็รักอย่างกับอะไรดี แต่งๆ สักทีเถอะ จะได้จบๆ”“อืม...”“อืมอะไรยะ”“อืม ถ้าแต่งเมื่อไหร่จะบอกแกคนแรกแล้วกัน”“เดี๋ยวๆ นี่ฉันกับยัยดาวพลาดอะไรไปเนี่ย แกจะข้ามขั้นไปแต่งเลยเหรอ”“ใครว่าข้ามขั้น ตอนนี้ฉันก็ทำตามขั้นตอนอยู่ต่างหาก”นิลุบลทำตาโตกับข่าวใหม่“ทำตา
“ซื้ออะไรมาเยอะแยะอีกแล้วคะพี่คิม” มิรันดาถามอย่างอ่อนใจ เธอรู้สึกเกรงใจเขา ไม่อยากให้เสียเงินสิ้นเปลือง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมฟัง“ของเจ้าตัวเล็ก พวกขนมนมเนย เสื้อผ้าเด็กน่ารักๆ รองเท้าสวยๆ ผมเห็นก็อยากซื้อมาให้น้องมิว ของมี่ก็มีนะ พวกเครื่องสำอาง น้ำหอม นี่ไง”“เหมามาหมดร้านแล้วไหมคะเนี่ย สายเปย์จริงๆ พี่คิมนี่”“ก็เปย์ให้แค่คนที่พี่ชอบเท่านั้นล่ะ”“งั้นก็แปลว่าลุงคิมชอบน้องมิวม้ากมากใช่ไหมคะ” เจ้าตัวน้อยอยากมีส่วนร่วมบ้าง“ใช่สิคะ ลุงคิมชอบน้องมิวกับแม่มี่มากที่สุดในโลกเลย” ปากพูดกับลูก แต่ตาคมพราวกลับมองมาที่แม่บทจะหยอดก็หยอด แล้วจะให้เธอทำหน้ายังไงล่ะ“พี่คิมทานอะไรมาหรือยังคะ วันนี้มีทำไข่ตุ๋นทรงเครื่องกับกุ้งราดซอสมะขามของโปรดพี่ด้วยนะคะ”“แหม มี่นี่รู้ใจพี่จริงๆ กำลังอยากกินพอดี ไปเมืองนอกหลายวันคิดถึงฝีมือเชฟมี่ชะมัด”“นอกเมืองคือไรคะ แล้วลุงคิมไปนอกเมืองทำไม”ผู้ใหญ
“แต่ถ้ามี่ไม่อยากไป...”“ไปสิคะ แต่ว่าคงต้องถามยัยนิก่อนว่าจะฝากน้องมิวไว้สักพักได้ไหม”“ไม่ต้องฝากหรอก พาลูกไปด้วยกันนี่แหละ” มิรันดาชะงักกึก หันไปมองสบตาคนพูด“พี่อยากให้ทุกคนเห็นว่ามี่กับน้องมิวน่ารักแค่ไหน และเราก็เหมาะสมกันมาก”หญิงสาวฟังแล้วก็อึ้งไป สิ่งนี้มิใช่หรือที่เธอเคยต้องการจากดิฐกร อยากให้เขาพาไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา แต่อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอม มาวันนี้กลับมีผู้ชายอีกคนที่อยากพาเธอและลูกสาวไปเปิดตัวกับครอบครัวว่าเธอคือคนที่เหมาะสมกับเขามากแค่ไหน“งั้นก็ได้ค่ะ มี่จะไป”“อันที่จริง มันเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนสนิทของพ่อพี่ พูดตรงๆ คือเขาอยากจะบังคับจับคู่พี่กับลูกสาวคนเล็กของบ้านนั้น เพื่อสานสัมพันธ์ทางธุรกิจของสองครอบครัว เขาก็เห็นพี่เป็นแค่เครื่องมือทางธุรกิจชิ้นหนึ่งเท่านั้น แต่พี่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น พี่ชอบมี่ คนที่พี่อยากแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยก็คือมี่ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ที่พี่ต้องบอกก่อนเพราะกลัวมี่ไม่เข้าใจ”มิรันดาได้ฟังก็นิ่งไป
เมื่อแผนตอนเช้าพังไม่เป็นท่า ดิฐกรจึงให้เลขาสาวไปหาซื้อของเล่นและตุ๊กตาราคาแพงที่ห้าง แถมด้วยหุ่นยนต์อีกตัวเพื่อให้ลูกชายของพิรามเป็นการติดสินบนให้ช่วยพาลูกสาวออกมาหาเขา แล้วพอใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนช่วงบ่าย เขาก็รีบเผ่นออกจากที่ทำงานแจ้นไปดักรอที่หน้าโรงเรียน เมื่อวานไอ้หน้าปลวกนั่นมันซื้อของมาให้ลูกสาวเขามากมาย เขาก็ซื้อได้เหมือนกัน แถมเยอะกว่าด้วย ให้มันรู้ไปสิว่า ของเล่นกับตุ๊กตาน่ารักๆ นี่จะตกลูกสาวเขาได้“ไม่เอาค่ะ แม่บอกว่าไม่ให้น้องมิวรับของจากคนแปลกหน้า”“แต่พ่อไม่ใช่คนแปลกหน้านี่ครับลูก”เด็กหญิงของขวัญเอียงหน้ามอง ก่อนส่ายหัวดุ๊กดิ๊กปฏิเสธอีกรอบ “ลุงดิวเป็นเพื่อนพ่อน้องธานไง ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย น้องมิวรับของไปเถอะนะ น้องธานยังรับเลย นี่ไงหุ่นยนต์เท่ห์ไหม” ดิฐกรหันไปพยักหน้าให้ลูกเพื่อนอย่างพอใจให้มันได้อย่างนี้สิหลานรัก ไม่เสียแรงที่เขาติดสินบนเด็กชายด้วยหุ่
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู...” เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งของดิฐกรและลูกสาวเดินถือเค้กน่ารักออกมาทำให้เจ้าของวันเกิดสาวถึงกับยกมือปิดปากน้ำตารื้นคิดถึงวันเกิดครั้งแรกที่เขาเคยจัดให้“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู...ยู” พอเพลงจบชายหนุ่มก็ยื่นเค้กวันเกิดมาตรงหน้าของมิรันดา“อธิษฐานสิมี่”มิรันดาหันไปมองคนรอบข้างทั้งเพื่อนเธอแล้วยังมีครอบครัวของดิฐกรพร้อมหน้า ทำให้เธออดคิดถึงวันเกิดของดิฐกรในปีนั้นที่เธอต้องนั่งรอเขาคนเดียว ก่อนเลิกกัน มาวันนี้เขากลับเป็นคนถือเค้กออกมาให้เธออีกครั้งพร้อมกับลูกสาวสุดที่รักชีวิตเธอควรจะมีความสุขสมบูรณ์เมื่อมีทุกอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรมีแล้ว แต่ทว่ายังมีใครอีกคนที่เธอกำลังรอคอยอยู่ และอดลุ้นไม่ได้ว่าเขาคนนั้นจะยอมมาร่วมฉลองวันเกิดกับเธอไหมมิรันดาหลับตาอธิษฐานในใจ ก่อนจะเป่าเค้กวันเกิดจนดับ ท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน“สุขสันต์วันเกิดครับมี่” ดิฐกรอวยพร พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญเล็กๆ ใบหนึ่งให้“อะไรคะ”“ลองเปิดดูสิครับ”มิรันดาทำตามที่เขาบอกและพบว่าของในกล่องคือ...สร้อยแทนใจเส้นนั้น“นี่มัน!”“ของขวัญชิ้นแรกที่พี่ให้มี่ไง” คำนั้นทำใ
แม้ชีวิตของเธอกับลูกจะมีสีสันมากขึ้น ทว่ากลับมีบางสิ่งที่หายไปแทน แม้กระทั่งคนรอบข้างเองก็ยังรู้สึก“แม่มี่ขา...” เจ้าของขวัญวิ่งตุ๊บตั๊บเข้ามากอดเอวอ้อนแม่ หลังจากที่เพิ่งส่งคุณปู่คุณย่าและลุงดลกลับไปเมื่อครู่“ขา...คนเก่ง”“เมื่อไหร่ลุงคิมจะมาบ้านเราอีกคะ น้องมิวคิดถึงม้ากมาก ทำไมคราวนี้ลุงคิมไปเมืองนอกนานจังคะ” คำถามนั้นทำให้เธอสะอึกอึ้งไป เพราะรู้เหตุผลที่อีกฝ่ายหายไปดีกว่าใคร“นั่นสิแก นี่มันก็นานแล้วนะ คุณคิมเขาไม่บอกแกเหรอว่าจะกลับเมื่อไหร่ ถามยายดาวก็บอกไม่รู้” “เปล่า ไม่ได้บอก” หลังจากวันที่เขาบอกรักและจูบเธอวันนั้น คีรินก็หายหน้าไป หรือเขาจะถอดใจเสียแล้วนะ หรือเธอเล่นตัวมากไป“ยัยนิ ฉันถามหน่อยสิ”“อะไร ถามอะไร ทำหน้าเครียดแบบนี้ เรื่องใหญ่ล่ะสิ” “คือ...จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องฉันหรอก แต่เป็นเรื่องคนอื่นอีกที คือเขามีผู้ชายมาสารภาพรัก แล้วก็ขอแต่งงานน่ะ แต่เขายังเข็ดกับความรักที่โดนแฟนเก่าทิ้งจนกลัวจะมีรักใหม่เลยปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไป”“นั่นไง ฉันว่าแล้วเชียว คุณคิมหายไปเพราะโดนแกปฏิเสธนี่เอง”“เฮ้ย! ไม่ใช่ฉัน”“แหม แต่สตอรี่ตรงเชียวนะยะ เฮ้อ...” นิลุบลค้อนเพื่อน “แล้วไง เขาหาย
“คุณ!” มิรันดาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นเพื่อนบ้านผู้ลึกลับตัวจริง ไม่ใช่คุณป้าที่เธอเคยพบแต่กลับเป็น...อดีตผัวเก่า!“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” คนถูกจับได้เลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูก“เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่เอาอาหารเช้ามาให้มี่กับลูก” คนฟังได้แต่กลอกตาไปมา เชื่อเขาเลย “ทำไมเป็นคุณได้ล่ะ แล้วบ้านหลังนั้นของใครกันแน่”เมื่อถึงคราวจนมุม จำเลยจึงต้องยอมรับสารภาพ“ของพี่เอง” “ว่าไงนะ แล้ววันนั้นคุณป้าที่ออกมารับขนมหน้าบ้านล่ะใครกัน”“นั่นแม่บ้านที่พี่จ้างมาทำความสะอาดน่ะ” เขาสารภาพเสียงอ่อย หน้าจ๋อยสนิทมิรันดาได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด “ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” “ก็ไม่นานนะ ยังไม่ถึงปี แค่เกือบๆ เอง” คนฟังเริ่มกำหมัด กัดฟันกรอด“มี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ พี่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับมี่และลูกของเราเลยนะ” “แล้วทำไปทำไม”“พี่ก็แค่อยากชดเชยความผิดที่ผ่านมาให้มี่กับลูกบ้าง แต่ถ้ามี่ไม่ต้องการพี่ก็จะไม่ทำอีกก็ได้นะ” มิรันดามองคนพูดที่ตอนนี้อ่อนเป็นงูกลัวเชือกกล้วย “มี่จ๋า...พี่สำนึกผิดแล้ว เมื่อไหร่มี่จะยอมให้อภัยพี่สักที อย่างน้อยก็ให้พี่ได้ทำหน้าที่พ่อบ้าง น้องมิวเป็นลูกพี่ ขนาดพ่อแม่พี่น้องของพี่ มี่ก
เสียงประตูเปิดเข้ามาในห้องพักฟื้นผู้ป่วยทำให้ดิฐกรสะดุ้งหันขวับ หัวใจพองฟูอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง“คุณพ่อให้แคทมาเยี่ยมพี่ดิวค่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ” ดิฐกรมองน้องสาวของศัตรูหัวใจที่มาเยี่ยมเขาเกือบทุกวัน พลางแอบบ่นในใจคนที่อยากให้มาก็ดันไม่มา ส่วนคนที่ไม่อยากเจอกลับขยันมาเสียจริงๆ ทำไมเขาจะไม่รู้แผนของบิดาสุดที่รักกับเพื่อนสนิทของท่านที่ต้องการจับคู่ให้เขากับผู้หญิงสุดเปรี้ยวเข็ดฟันตรงหน้าก็ถ้าหัวใจมันมูปออนกันได้ง่ายๆ เขาคงหาเมียใหม่ได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องมานั่งรอเมียเก่าใจอ่อนให้อภัยมาจนถึงวันนี้รอเหมือนโดนสาป ขนาดเจอแล้วก็ยังต้องรอเหมือนเดิม“ผมดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้หมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ คุณแคทไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมก็ได้นะครับ”แคทรียาถอนใจอย่างลำไย เธอเองก็ใช่ว่าอยากมา แต่เพราะโดนพ่อกับแม่บังคับให้มาหรอก จะขัดก็ไม่ได้เดี๋ยวระเบิดลง แล้วเธอก็จะโดนตัดออกจากกองมรดกเสียก่อนแถมเรื่องราวของดิฐกรในงานวันเกิดของคุณเมธาก็ดังกระฉ่อนเข้าหูเธอขนาดนั้น ทำให้รู้ว่าที่แท
ฝ่ายคีรินที่พาสองแม่ลูกกลับมาส่งถึงบ้าน เขาก็ช่วยอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยเข้าไปส่งถึงห้องนอน โดยมีมิรันดาเดินตามมาด้านหลัง“ขอบคุณพี่คิมมากนะคะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้มี่ทำให้พี่ต้องพลอยวุ่นวายไปด้วย”“พี่ยินดีวุ่นวาย หากเป็นเรื่องของมี่กับลูก แล้วมี่ล่ะ...”“มี่ทำไมเหรอคะ”“มี่จะยอมให้พี่ผ่านโปรของเราได้หรือยังครับ” คำถามนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง“พี่รอได้ แต่ไม่อยากรอแล้ว เรื่องวันนี้ทำให้พี่อยากได้สิทธิ์ในการปกป้องดูแลมี่กับน้องมิว ไม่ให้ใครมาทำให้เสียใจได้อีก พี่รักมี่ แต่งงานกับพี่นะครับ”มิรันดาถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำนั้น คำที่เธอเคยอยากให้ดิฐกรพูดกับเธอมาตลอด แต่แล้วกลับเป็นผู้ชายตรงหน้าที่พูดมันออกมา เขาขอเธอแต่งงาน และบอกรัก ถึงจะไม่โรแมนติก แต่เมื่อมองสบตากันเธอก็รับรู้ได้ถึงความจริงในที่เขามีให้“มี่รังเกียจพี่หรือเปล่า หรือว่า...ยังรักเขาอยู่”“ไม่ค่ะ มี่ไม่ได้รักพี่ดิวแล้ว ไม่ได้รักนานแล้ว” คราวนี้หญิงสาวตอบอย่างมั่นใ
ดิฐกรถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในเวลาต่อมา มิรันดาและคีรินที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลนั่งรอหน้าห้อง ชุดเดรสแสนสวยตอนนี้มีคราบเลือดคราบเลอะติดเป็นหย่อมๆ หากเจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจ ในสมองยังคงคิดถึงภาพตอนที่คนเจ็บนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอย่างน่าตกใจเมื่อครู่ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว ทว่าโชคดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ คีรินจึงช่วยเรียกรถพยาบาลมารับได้ไว ชายหนุ่มไม่กล้าเคลื่อนย้ายเอง เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักกว่าเดิม“แม่คะ คุณลุงคนนั้นจะตายไหมคะ” คำถามของลูกน้อย ทำให้ความกลัวแล่นเข้าจับหัวใจของมิรันดาจนสั่นสะท้านไปทั้งร่างเธอเกลียดในสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับเธอจนไม่อยากให้อภัยก็จริง แต่ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายตายจริงอย่างที่ลั่นปากไป“ไม่หรอกลูก คุณลุงต้องไม่เป็นอะไรนะครับ” คีรินปลอบขวัญ“คุณลุงคนนั้นเขาเป็นพ่อน้องมิว จริงๆ เหรอคะแม่มี่”คำถามนั้นเสียดลึกเข้าไปในอก กับความจริงที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะเลิกกันแล้ว แม้เขาจะเคยไม่ต้องการมีลูกกับเธอ แต่เด็กหญิงของขวัญก็คือลูกสาวของดิฐกร ไม่ม
“ทำไมหนูถึงว่าคุณลุงคนนั้นใจร้ายล่ะคะลูก” “ก็เขาเคยมาที่บ้านน้องมิว แล้วก็รังแกแม่มี่ของหนูจนร้องไห้เลย น้องมิวไม่ชอบเขา เขานิสัยไม่ดี” คุณดารณีได้ฟังก็งุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกจนต้อง หันไปมองหน้าลูกชายคนกลางอย่างคาดคั้น“นี่มันเรื่องอะไรกันตาดิว ลูกทำแบบที่น้องมิวว่าจริงเหรอ ทำไปทำไม” “ผม...เอ่อ...แม่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพ” คำนั้นทำให้ทุกคนนิ่งไป “มี่คือเมียผม แล้วก็น้องมิวก็เป็นลูกของผมแล้วก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของคุณแม่ครับ” “หา! ว่าไงนะตาดิว” คุณดารณีเบิกตาค้างอย่างตื่นตะลึง โชคดีที่แขกเหรื่อเข้างานกันหมดแล้วเหลือแต่พวกเขาเป็นกลุ่มสุดท้าย “นี่มันเรื่องอะไรกันลูก” คีรินกุมมือหญิงสาวไว้แน่น มืออีกข้างก็เอื้อมไปจูงมือเด็กหญิงตัวน้อยไว้ “มี่คือคนที่ผมเคยบอกแม่ เธอเป็นเมียผม แต่เราเลิกกันไปเพราะเข
“ตาคิมเขาพาแฟนมาอวดน่ะสิคุณดา คนนั้นไง” คำนั้นทำให้คุณดารณีหันไปมองที่หญิงสาวข้างกายคีรินทันที “เอ๊ะ! เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าจ๊ะหนู” มิรันดาเองก็จำได้ตั้งแต่เห็นหน้าอีกฝ่ายเช่นกัน“ใช่ค่ะ เจอกันที่โรงพยาบาล” “จริงด้วย ป้าจำได้แล้ว นี่ไงคะแม่หนูที่ฉันเล่าให้คุณฟังว่าช่วยฉันตอนโดนชนจนล้มข้อเท้าพลิกที่โรงพยาบาลไง ตายจริงโลกกลมเหลือเกิน ตาดลลูกก็จำน้องได้ใช่ไหม”“จำได้ครับแม่” ดลธวัชส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้มีพระคุณของแม่“แล้วเจ้าแก้มยุ้ยคนนี้ใครจ๊ะ หน้าตาน่าเอ็นดูจริงเชียว” คนอยากมีหลานสาวรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก “แต่เอ...แม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหนนะ คุ้นๆ แต่นึกไม่ออก” คุณดารณีครุ่นคิด หากแล้วสายตาก็หันไปเห็นใครบางคนเดินตรงเข้ามาพอดีจึงคิดออก“นึกออกแล้ว หน้าเหมือนตาดิวตอนเด็
เขาอยากไปยืนตรงนั้นแทนที่คีรินเหลือเกิน แต่ยิ่งทำอย่างที่ใจต้องการ ทุกอย่างก็กลับพังไม่เป็นท่า ยิ่งใกล้ก็เหมือนเธอจะยิ่งไกลห่างออกไปทุกที ดูจากที่ร้านไอศกรีมวันนี้ ขนาดนั่งใกล้กันมิรันดายังแทบไม่มองหน้า ไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ เธอทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศไร้ตัวตน แล้วจู่ๆ คำพูดของพิรามก็ดังขึ้นในหู‘มูปออนง่ายกว่ามั้งเพื่อน’หรือเขาควรทำเช่นนั้น แต่จะให้ตัดใจจากเธอและลูกยังไง มือหนาหยิบสร้อยรูปจี้หัวใจขึ้นมาดูอย่างปวดใจ“ต้องทำยังไง มี่ถึงจะให้อภัยพี่เสียที พี่ต้องทำยังไง...” เย็นวันต่อมา คีรินก็มาถึงบ้านของหญิงสาวตรงตามเวลานัดเป๊ะ“ลุงคิมมาแล้ว โห...วันนี้หล่อจัง” เด็กหญิงของขวัญทำตาโตมอง ปกติเวลามาหาสองแม่ลูก เขามักจะสวมเสื้อเชิ้ตแบบไม่สวมสูทเพื่อเป็นกันเอง แต่วันนี้เขาใส่ทักซิโด้หล่อเต็มยศ“ไงครับคนสวยของลุง ไหนลองหมุนตัวให้ดูหน่อยได้ไหม”