ภริดาหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว แต่เวทิศก็ยังนั่งนิ่งอยู่ริมเตียง คิ้วเข้มก็ยังคงขมวดดังเดิม เขาทบทวนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันครู่หนึ่ง ก่อนจะเบิกตากว้าง แววตาเป็นประกายระยิบระยับ...ตอนนั้นที่เขาใจร้อนและลืมป้องกันเวทิศยกมือขึ้นมา เขาก้มมองนิ้วมือ แล้วเริ่มขยับนิ้ว นับเดือน นับปี นับเวลาที่ได้กันโดยไม่สวมถุงยาง นับเวลาตั้งครรภ์ และนับวันที่เขาไปต่างประเทศถ้าใช่...ตอนนี้ลูกของเขากับพี่ดาก็จะมีอายุประมาณ 3 ขวบกว่าเวทิศนั่งรอคนอาบน้ำอย่างใจเย็น กระทั่งภริดาเปิดประตูออกมา เธอพันกายด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว แล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเวทิศเดินตามเข้าไป เขากอดอก ยืนพิงประตู มองหญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า สายตาคมวาววับ ยิ้มกรุ้มกริ่ม เมื่อเธอปลดผ้าขนหนูลงกองบนพื้น แล้วเปิดตู้เลือกเสื้อผ้ามาสวมใส่ภริดาปัดมือไปมาบนราวแขวนในตู้ เมื่อเลือกชุดที่จะสวมได้แล้ว เธอจึงเลื่อนประตูปิด หญิงสาวปรายตามองคนที่จับจ้องเธออยู่“จะมองอะไรนักหนา ฮึ ! ไม่เคยเห็นคนแก้ผ้าหรือไง”“เคยเห็นครับ แต่อยากมอง”ภริดามองค้อนคนหน้ามึนชอบดูคนโป๊ หญิงสาวพาดเสื้อผ้าไปบนพนักเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สวมชุดชั้นในชิ้นบนและชิ้นล่าง แล้วจึง
“หม่ามี้มาช้า”เด็กชายที่รอแม่กลับบ้านบ่นกระปอดกระแปด"หม่ามี้ขอโทษค่ะ เมื่อคืนที่ร้านยุ่งมาก กว่าหม่ามี้จะได้กลับไปนอนที่คอนโดก็ดึกมาก ๆ หม่ามี้เหนื่อย ก็เลยนอนตื่นสาย”เด็กน้อยประคองใบหน้าหม่ามี้ไว้ในสองมือป้อม ๆ“ไวท์ยกโทษให้หม่ามี้ฮะ หม่ามี้เหนื่อยมากใช่มั้ย ไวท์จะเพิ่มพลังให้หม่ามี้เองฮะ”ภริดาเงยหน้ารับพลังจากลูกชายด้วยรอยยิ้มที่ระบายเต็มดวงหน้าเจ้าไวท์คนเก่งเพิ่มพลังให้หม่ามี้ด้วยการจุ๊บไปทั่วใบหน้าของหม่ามี้ และปิดท้ายด้วยการจุ๊บตรงปากของหม่ามี้ ก่อนจะโผกอดลำคอของหม่ามี้ไว้ในอ้อมแขนป้อม ๆ อวบ ๆ ของตน“หม่ามี้หายเหนื่อยหรือยังฮะ”ภริดาพยักหน้า พอลูกชายคลายวงแขนออกจากลำคอของเธอ หญิงสาวจึงยิ้มหวานเต็มดวงหน้า“หายเหนื่อยแล้วค่ะ”“ถ้าหม่ามี้เหนื่อยอีก หม่ามี้ต้องบอกไวท์นะฮะ ไวท์จะเติมพลังให้หม่ามี้เอง”“ค่ะ”เมื่อจัดการเติมพลังให้หม่ามี้เสร็จแล้ว เจ้าไวท์ก็ไปนั่งเล่นของเล่นที่เดิม ภริดาถอนหายใจบางเบาอย่างสุขใจ หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปนั่งลงที่โซฟาใกล้ ๆ แม่แก้ว“ถามหาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ไม่งอแงนะ ยอมกินข้าวกินนมตามปกติ แต่ก็ถามหาตลอด”“พอดีเมื่อคืนที่ร้านลูกค้าเยอะค่ะ กว่าจะได้กลับไป
“อ๊า !” กายสาวบิดส่าย บั้นท้ายอวบอัดขยับเด้งรับต่อเมื่อแรงกระแทกหนักหน่วงจนจุกทั่วท้องน้อย เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเข้ามาในโสตประสาท หญิงสาวจึงลืมตาขึ้น“เว ! อ๊า !”ภริดายกมือขึ้นจิกกำต้นแขนกำยำของคนที่ขยับกายอยู่บนตัวเธอ“อรุณสวัสดิ์ครับ”เวทิศยิ้มเจ้าเล่ห์ เขายกสองขาเรียวขึ้นพาดบ่า โน้มตัวไปข้างหน้า กดแก่นกายสลักลึก แล้วขยับบั้นเอว โจนจ้วงตัวตนใส่ร่องสาวถี่ยิบ“เว ! อื๊อ !”ภริดาครางเสียงสั่นต่อเนื่อง เสียวจนใกล้จะแตกกระจายเต็มที หญิงสาวหลับตาแน่น ส่ายหน้าไปมาเร็ว ๆ เธอกระเด้งบั้นท้ายส่ายร่อน รองรับลำกายแกร่งที่กระแทกแทงปัก ๆ ใส่ร่องรักอย่างสะใจ“เว...จะถึงแล้ว อ๊ะ ๆ อ๊าย !”ภริดาหวีดร้องระงม เธอจิกข่วนต้นแขนแกร่ง แอ่นแผ่นหลังโค้ง กระดกบั้นท้าย แอ่นอ้ารองรับแก่นเนื้อชายที่กระทุ้งใส่ร่องถี่ยิบ น้ำหวานน้ำสวาทไหลถะถั่ง สวนทางกับความแข็งกร้าวที่ขับเคลื่อนเข้าออกเร็วรี่ กระทั่งเวทิศกระแทกแรงครั้งสุดท้าย เขากดแก่นกายลึกสุด แล้วแตกซ่าน ปลดปล่อยสายน้ำอุ่นในร่องสาว ภริดาถึงได้ผ่อนคลายลงเวทิศวางสองขาเรียวลงบนที่นอน เขาช้อนแขนลงโอบกอดร่างอ่อนระทวยเต็มอ้อมอก พลิกกายนอนหงาย โดยให้หญิงสาวนอนคว่
ภริดาถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว เธอเองก็จำไม่ได้ เธอเริ่มถอนหายใจครั้งแรกในตอนที่เวทิศขับรถออกมาจากคอนโด เธอกับเขาตกลงกันว่า วันนี้จะจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และอย่างแรกที่จะทำกันก็คือ เวทิศจะไปที่บ้านของเธอ และบอกกับทุกคนว่า เขาคือป๊ะป๋าของน้องไวท์วันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตา เธอเดาไม่ออกว่า พ่อกับแม่จะว่าอย่างไร น้องชายของเธอจะกระโดดถีบก้านคอเขาไหม น้องสะใภ้จะตกใจแค่ไหนที่เพื่อนกลายมาเป็นสามีของพี่สามี และคนที่เธอห่วงความรู้สึกมากที่สุดก็คือน้องไวท์เวทิศจอดรถที่หน้าบ้านของภริดา เขาจับมือเธอมากุมไว้ มองสบตากันแน่วแน่“ให้ผมเป็นคนบอกทุกคนเองนะครับพี่ดา”ภริดายิ้มแล้วพยักหน้า หญิงสาวสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ และเดินนำเวทิศเข้าไปในบ้านวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่บ้านกันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อสองหนุ่มสาวเดินจับมือกันเข้าไปในบ้าน และได้เจอกับทุกคนในห้องโถงรับแขก แต่ละคนก็มีสีหน้าแตกต่างกันออกไปพ่อภวัตหน้านิ่ง มองด้วยสายตาดุแม่แก้วมองอย่างสงสัยและแปลกใจภากรขมวดคิ้ว และมองด้วยสายตาเอาเรื่องไข่มุกมองอย่างแปลกใจ แต่ก็ยิ้มให้เพื่อนตามปกติเด็กน้อย
“น้องไวท์คะ”“ฮะ...หม่ามี้” เด็กชายขานรับ โดยที่ยังก้มหน้าอยู่กับของเล่นชิ้นโปรด“เงยหน้าขึ้นมาก่อนนะคะคนเก่ง หม่ามี้มีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ”เจ้าหนูวางของเล่นในมือ เงยหน้าขึ้นมองสบตาผู้เป็นแม่ คิ้วเล็ก ๆ ขมวดเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายตัวโตนั่งอยู่ข้างหม่ามี้ และก็นั่งใกล้มาก ๆ ด้วย พันธุกรรมความขี้หวงที่ถ่ายทอดมาทางสายเลือดจึงเริ่มทำงาน“หม่ามี้ขยับมานั่งตรงนี้ฮะ”น้องไวท์พูดพร้อมกับพาตัวเองไปยืนแทรกกลางระหว่างผู้ชายตัวโตกับหม่ามี้ มือเล็ก ๆ ป้อม ๆ ดันบ่าหม่ามี้เบา ๆ ให้ขยับไปอีกนิด ก่อนหันกลับมากอดอก จ้องหน้าคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลัง“สวัสดีครับ...น้องไวท์”เวทิศเอ่ยได้แค่นี้จริง ๆ เขาไม่รู้จะเอ่ยคำไหนออกมา ไม่รู้ว่าจะพูดกับลูกยังไง ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่า เขาได้ก้าวเข้ามายืนอยู่ในโลกที่เขาไม่เคยรู้จัก โลกที่มีตัวเขาอีกคน เยาว์วัย ไร้เดียงสาและน่าทะนุถนอม เป็นเขาอีกคนที่ควรจะได้รับการดูแลเลี้ยงดูและปกป้องจากคนเป็นพ่อ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำหน้าที่นี้เลย ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาในอกจนรู้สึกเจ็บ แต่ก็เต็มล้นไปด้วยความยินดีที่ได้พบตัวเขาคนอีกคน น้ำตาเอ่อรื้นในดวงตาคู่คม เขาสัญญาก
15 ปรับตัวเข้าหากันวันต่อมา เวทิศมารับลูกชายและภริดาแต่เช้า เขาอยากจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ลูกและเมียของเขาอยู่โดยไม่มีเขาเคียงข้างมาสี่ปีแล้ว เขาอยากชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไปให้ทั้งสองคนภริดารู้สึกแปลกใจ เมื่อเปิดประตูรถของเวทิศแล้วพบว่า ที่เบาะหลังมีคาร์ซีตสำหรับน้องไวท์ด้วย ที่สำคัญ มันเป็นขนาดเดียวกันกับที่น้องไวท์ใช้ประจำหญิงสาวหันไปมองหน้าป๊ะป๋าของน้องไวท์ เวทิศหันมาสบตาเธอพอดี เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจ“ไปซื้อมาตั้งแต่เมื่อไร”“สั่งให้เลขาจัดการให้เมื่อวานนี้ครับ”“เป็นคนรวยนี่มันดีอย่างนี้เองเนอะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าลูกใช้ขนาดไหน”“เพราะผมใส่ใจลูกของเราไงล่ะครับ”ภริดายิ้มอย่างหมั่นไส้“หม่ามี้ ป๊ะป๋า ไวท์มาแล้วครับ” เด็กชายตัวน้อยวิ่งออกมาจากประตูบ้าน พอวิ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าป๊ะป๋า เจ้าหนูก็ประนมมือไหว้ และก้มหัวลงอย่างนอบน้อมเวทิศนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าลูกชาย“สวัสดีครับลูกชายของป๊ะป๋า ไปกันเถอะ เดี๋ยวป๊ะป๋าจะอุ้มน้องไวท์ขึ้นรถเองนะครับ”
แม้ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเออยู่ แต่เวทิศก็ไม่เคลือบแคลงและสงสัยในสายสัมพันธ์ระหว่างเขาและลูกสักนิด เขาปฏิบัติต่อน้องไวท์ด้วยความเชื่อหมดหัวใจว่า น้องไวท์เป็นลูกของเขาจริง ๆ น้ำเสียงและสายตาของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารักและห่วงใยลูกมากแค่ไหนภริดาไม่เสียดายเวลา 4 ปี ที่เธอรอคอยเขาเลยสักนิด ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้ว่า 4 ปีที่ผ่านมา มันคุ้มค่ากับการรอคอยที่สุดเมื่อเสียงเล็ก ๆ ที่พูดเจื้อยแจ้ว บางทีก็ถามโน่นถามนี่เงียบหายไปครู่หนึ่ง ภริดาจึงหันกลับไปมองที่เบาะหลัง หญิงสาวยิ้มเอ็นดู เมื่อเด็กชายตัวน้อยหลับปุ๋ยไปเสียแล้ว“หลับซะแล้ว”เวทิศเหลือบตาขึ้นมองกระจกมองหลัง เขายิ้มอ่อนโยน“ลูกเหมือนพี่ดาเลยนะครับ”“พี่ว่าลูกหน้าเหมือนเวมากกว่านะ”“ผมหมายถึงลูกช่างพูด ช่างถาม น่ารักดีครับ”“นี่นายกำลังว่าพี่อยู่นะ”เวทิศยิ้มกริ่ม “ผมชมต่างหาก”“ชมว่า พูดมากเนี่ยนะ”“ผมบอกว่า ช่างพูดต่างหาก”“แล้วมันต่างกันตรงไหน”เวทิศหัวเราะในลำคอ ภริดามองค้อนคนที่หัวเราะได้น่านิ่งที่ส
"คนจะเชื่อ อยู่เฉย ๆ เขาก็เชื่อ คนไม่เชื่อ ทำยังไงเขาก็ไม่เชื่อหรอกครับ"ภริดามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเวทิศ เธอถอนหายใจอย่างหนักอกหนักใจ เวทิศได้ยินเสียงถอนหายใจของเธอ เขาถึงกับยิ้มพราว"ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ คุณพ่อกับคุณแม่ของผมใจดี พวกท่านเป็นคนมีเหตุผล และยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเสมอ"ภริดาพยายามยิ้มให้เวทิศสบายใจ เธอไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของเขาใจดีจริง ๆไหม เธอรู้แต่ว่าพ่อกับแม่ของเขาทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ลูกชายประสบความสำเร็จในชีวิต และเดินไปตามทางที่พวกท่านปูทางไว้ให้แล้ว ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะพ่อกับแม่ทุกคนย่อมอยากจะมอบสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดให้ลูกการเจอกันครั้งแรกระหว่างเธอกับแม่ของเวทิศในครั้งนั้น เป็นการยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยน ที่ต่างคนต่างได้ผลประโยชน์ ลูกชายของท่านได้ไปเรียนต่อโดยไม่มีห่วง และเธอก็ไม่ได้ติดต่อเขาอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น ส่วนเธอ คดีความที่เธอคิดว่าคงเป็นปัญหายืดเยื้อและไม่จบง่ายๆ กลับได้รับการเคลียร์ และจบลงอย่างง่ายดาย ตามที่ท่านรับปากไว้ภริดาไม่รู้ว่า การพบเจอกันในครั้งที่สองนี้ ท่านจะยื่นข้อเสนอ จะมีเงื่
เวทิศล้วงมือลงกลางซอกสาว เขาจับเป้ากางเกงในตัวบางเบี่ยงออก แล้วค่อย ๆ กรีดนิ้วกลางผ่ากลีบเนื้ออุ่นลื่น และสอดเข้าสู่ร่องรักชุ่มฉ่ำที่รัดรึงแสนวิเศษเมื่อเวทิศเริ่มขยับนิ้ว ภริดาก็ครางในลำคอ เธอเสียวและอยากกระสันมากมาย น้ำลื่นใสไหลเอ่อเต็มซอกขา“เวจ๋า...เอาของจริงเข้ามาเร็ว ๆ” ภริดาอ้อนเสียงกระเส่า เธออยากให้เขาเติมเต็มเวทิศหอมแก้มนวลเบา ๆ เขาขยับตัวขยุกขยิก ดึงกางเกงลงไปคาไว้ที่หน้าแข้ง ปลดปล่อยแก่นกายแข็งคึกออกมา“ยกก้นขึ้นนะครับ” เวทิศช่วยประคองเอวคุณแม่ท้องให้เธอยกก้นขึ้น และจับส่วนหัวมนทู่จี้ตรงร่องรักชุ่มฉ่ำ พอสอดส่วนหัวจมเข้าไปในร่องเนื้อแล้ว เขาก็ประคองเอวภรรยาไว้ด้วยสองมือ“กดลงมาเลยครับที่รัก”ภริดาจับข้อมือแกร่งไว้ทั้งสองข้าง ในตอนที่เธอค่อย ๆ กดบั้นท้ายอวบอัดลงบนหน้าตักของสามีอีกครั้ง“เวจ๋า...เสียว”หัวอวบมนทู่ที่ค่อย ๆ แหวกร่องเนื้อเข้ามาในตัวเธอ ทำให้ภริดาเสียวจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว วูบวาบไปทั้งร่อง ติ่งเสียวกระตุกยิบ ๆ“ผมก็เสียวครับ อ่า...ที่รักแน่นมาก”เธอคับแน่น อุ่นร้อน นุ่มนวล เขาต้องกัดฟันแน่น
สองสาวนั่งมองเธอตาค้าง อ้าปากเหวอ ไม่คิดว่าภริดาจะกล้าพูดตรง ๆ แบบนี้“อ้อ ! แล้วชุดนี้ พอดีคุณสามีเรียกเจ้าของห้องเสื้อมาวัดตัวตัดให้ด่วนค่ะ ราคาก็ไม่แพงเท่าไรหรอกค่ะ ไม่กี่หมื่น แต่ก็เฉียดแสนอยู่นะคะ แต่คงใส่ครั้งเดียวแหละค่ะ อีกหน่อยท้องโตกว่านี้คงใส่ไม่ได้แล้ว และพอคลอดแล้วก็คงตัดใหม่ พอดีไม่ชอบใส่ชุดซ้ำน่ะค่ะ”เธออดไม่ได้จริง ๆ นะ อดที่จะเก็บปากเก็บคำ แล้วพูดจาดี ๆ กับคนที่มาบูลลี่ยัยหนูในท้องของเธอไม่ได้หรอกนะ ยัยสองคนนี้ กล่าวหาว่าลูกสาวเธอมาก่อนเธอแต่งงาน จะมาก่อนหรือมาหลัง ลูกของเธอก็เกิดจากความรักของป๊ะป๋ากับหม่ามี้ และเธอเชื่อว่า ยัยหนูจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและมีความสุข และที่สำคัญ ลูกสาวของเธอจะไม่เป็นคนแบบยัยสองคนนี้แน่นอนถ้าเวทิศจะไม่พอใจที่เธอพูดจาไม่น่ารักกับคนพวกนี้ เธอก็จะบอกเขาว่า ทีหลังก็อย่าพาเธอมาออกงานแบบนี้อีก มาเจอคนใส่หน้ากากเข้าหา จิกกัดด้วยคำพูดและสายตาแบบนี้ มันเสียสุขภาพจิต พลอยทำให้ลูกสาวในท้องหงุดหงิดไปด้วย เพราะตอนที่เธอพูด ยัยหนูก็ดิ้นแรงเชียวหลังจากนั้น ทั้งโต๊ะก็มีแต่ความเงียบงัน ไม่มีใครกล้าทักท้วงทักถามอะไรเธออี
“ถ้าดาเลิกทำร้านแล้ว เวหมดสิทธิ์ทิ้งดาแล้วนะ ไม่อย่างนั้น ดาจะไม่มีตังค์ซื้อข้าวกิน แต่จะว่าไป ก็เสียดายร้านเหมือนกันนะ กว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้ เหนื่อยไม่ใช่เล่น”“อยากให้ผมซื้อร้านไว้มั้ยครับ แล้วให้คนอื่นบริหารให้ เวลาว่าง ๆ เราค่อยไปดูร้านกัน”“ได้เหรอ”“ได้สิครับ ถ้าที่รักอยากได้ ผมจะจัดการให้”“เว...ทำไมน่ารักอย่างนี้” ภริดาขยับตัวยุกยิก เธอพาตัวเองขึ้นไปนอนทับเขาไว้ทั้งตัว แล้วซุกหน้ากับซอกคอแกร่งเวทิศกอดเธอไว้หลวม ๆ เขาจูบกระหม่อมเธอเบา ๆ ด้วยความรักเต็มหัวใจ“ขอบคุณที่เลือกดานะ ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตผู้หญิงคนนี้ ดากับลูกรักเวมาก ๆ เลยนะ”ภริดาพูดเสียงอู้อี้กับซอกคอแกร่ง หญิงสาวสูดน้ำมูก สะอื้นไห้เบา ๆ ความเจ็บปวดในอดีต เรื่องราวแย่ ๆ ที่เคยพานพบ ความทรงจำที่เลวร้าย ถูกลบล้างและกลบฝังด้วยความรักและความเอาใจใส่จากเขา เธอรู้สึกว่า ตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลยเวทิศกระชับอ้อมแขนกอดเธอแน่นขึ้น“อยู่ด้วยกันตลอดไปนะครับ ผมจะดูแลที่รักเอง ใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ต้องกังวลอะไรเลยนะครับ”“อือ...ดารักเวนะคะ
“ผมกลัวที่รักเจ็บ” เวทิศบอกแนบอกอวบอิ่ม“งั้นก็ลงไปนอนเฉย ๆ เลย ดาทำเอง !”ภริดาผลักอกกว้าง กดสามีลงนอนหงาย ร่างอวบอัดเย้ายวนนั่งคร่อมหน้าท้องแกร่ง เธอชุ่มฉ่ำเต็มซอกขา แต่เขายังใจเย็นอยู่ได้ แบบนี้มันไม่ทันใจเอาเสียเลย“ที่รัก...เดี๋ยว อ่า...”เวทิศจิกกำผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ เขาสูดปากเสียว และเกร็งไปทั้งตัว เมื่อคนใจร้อน จับหัวมนทู่จี้จมเข้าสู่ปากทางสวาท แล้วขย่มลงมาสุดแรง“อ๊า ! ดีจังเลยเว”เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในตัวเธอ ภริดารู้สึกถึงความอวบใหญ่ที่อัดแน่นเต็มร่อง มันสะใจ มันดี มันเสียวจนเธอแทบแตกกระจาย“เวจ๋า...”ภริดาครางเสียงหวานเซ็กซี่ หญิงสาวโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย วางสองมือบนอกกว้าง กดหัวเข่าลงบนที่นอนและหนีบเอวสอบไว้แน่น ก่อนจะเริ่มขยับโยกอย่างเอาแต่ใจเวทิศปล่อยให้เจ้าสาวแสนเร่าร้อนจัดการเขาตามแต่ใจของเธอ ชายหนุ่มประคองเอวบางไว้ในสองมือ มองร่างเปลือยเปล่าร่ายรำกระเด้งกระดอนอยู่บนร่างกายของเขาร่องสาวอุ่นลื่นละมุนโอบรัดลำกายแกร่ง ถูครูด ดูดรัด ให้ความรู้สึกแสนเสียวและวิเศษที่สุด“เว...จะถึงแล้ว อ๊า...
เวทิศทุกขึ้นมารับเจ้าสาว ภากรมองหน้าเจ้าบ่าว และกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ฝากพี่ดาด้วยนะ อย่าทำให้พี่สาวกูเสียใจเด็ดขาด”เวทิศยิ้ม พยักหน้ารับ“ครับ ผมจะดูแลที่รักของผมให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ”ภากรจับมือพี่สาววางลงบนมือเจ้าบ่าว เขาปล่อยมือ และยืนมองเวทิศประคองพี่ดาไปเข้าพิธี จากนี้ไป เขาขอให้พี่สาวของเขามีแต่ความสุข ขอให้โลกใจดีกับพี่สาวของเขาให้มาก ๆ ด้วยพิธีแต่งงานที่ถูกกำหนดเอาไว้ว่าจะจัดปีหน้า ต้องถูกเลื่อนเข้ามาอย่างกะทันหัน เพราะเจ้าบ่าวทำเจ้าสาวป่อง ตั้งท้องลูกคนที่สอง ผู้หลักผู้ใหญ่ต่างก็ยินดีที่น้องไวท์จะมีน้อง แต่ก็อดที่จะพากันบ่นไม่ได้ว่า ทำอะไรไม่เกรงใจฤกษ์งามยามดีกันบ้างเลย พอบ่นแล้วก็พากันวุ่นวายหาฤกษ์ใหม่เอาที่ใกล้ที่สุด เรียกได้ว่า บ่นกันทั้งที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยินดีกันทั้งสองครอบครัวแม้งานแต่งงานจะจัดขึ้นแบบฉุกละหุก แต่ทุกอย่างก็ถูกจัดเตรียมอย่างดี และดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย อบอุ่น สมบูรณ์แบบพิธีช่วงเช้าจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าสาว เชิญเฉพาะแขกเหรื่อคนสำคัญและญาติสนิท ส่วนพิธีเลี้ยงฉลองสมรสในช่วงค่ำ จ
พอเห็นรูปหัวใจที่ตัวเองตั้งใจทำสุดฝีมือ แต่กลับไม่สวยอย่างที่คิด น้องไวท์ก็หน้าเสีย เขามองป๊ะป๋าด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร“ป๊ะป๋าฮะ ไวท์ตั้งใจทำสุดฝีมือแล้ว แต่มันไม่สวยเลย”หน้าเศร้าๆ และน้ำเสียงไม่มั่นใจของลูกชายทำให้เวทิศยิ้มเอ็นดู เขาอุ้มลูกขึ้นมากอดแนบอก“แค่ไวท์ตั้งใจทำเพื่อป๊ะป๋า ป๊ะป๋าก็ดีใจที่สุดแล้วครับ ค่อย ๆ หัดทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็สวยเอง”“มันจะอร่อยมั้ยฮะ”เพราะมันไม่สวย น้องไวท์เลยกลัวไม่อร่อย“อร่อยแน่นอนครับ เพราะไวท์ตั้งใจทำสุดฝีมือนี่นา ป๊ะป๋าจะกินให้หมด ไม่ให้เหลือติดจานเลยครับ”“งั้น...พรุ่งนี้ ไวท์ขอทำอีกได้มั้ยฮะ”“ได้สิครับ”“แล้วหัดทำทุกวันได้มั้ยฮะ”“ได้แน่นอนอยู่แล้วครับ”“แล้วป๊ะป๋าจะกินหัวใจของไวท์ทุกวันมั้ยฮะ”“ถ้าไวท์ทำทุกวัน ป๊ะป๋าก็จะกินทุกวันครับ”เด็กน้อยยิ้มกว้าง โผกอดคอป๊ะป๋าด้วยความดีใจ ปะป๋าของเขาน่ารักที่สุดในโลกเลยพอโผกอดคอของป๊ะป๋า น้องไวท์ก็หันไปเห็นหม่ามี้“หม่ามี้ !”พอลูกเรียกหม่ามี้ เวทิศก็หันไปมอง“ตื่นแล้วเหรอครับ มา
“สะ...เสียว เวจ๋า...” ภริดาครางเสียงหวานขาดห้วง ร่องรักร้อนฉ่า วูบวาบไปทั้งซอกขา“ชอบมั้ยครับ”“ชอบ...ชอบที่สุด อื๊อ ๆ” ภริดาขยับบั้นท้ายเด้งรับร้อนรน เธอเสียวจนใกล้จะถึงปลายทางเต็มที“คืนนี้...ผมขอเอาทั้งคืนนะครับ”“มะ...ไม่ได้ ลูก...” ภริดาเป็นห่วง กลัวว่าลูกตื่นมาไม่เห็นใครแล้วจะงอแง“ผมดูลูกเอง ที่รักอ้าขาให้ผมเอาก็พอ” เวทิศว่าอย่างเอาแต่ใจภริดาส่ายหน้า “ไม่ได้...”พอที่รักไม่ตามใจ คนตัวใหญ่ก็ชะลอจังหวะโจนจ้วง เขาขยับเชื่องช้า ถอดถอน สอดลึก ในจังหวะที่แสนขัดใจคนที่กำลังจะแตะเส้นชัย“เว...แรง ๆ” ภริดาบอกอย่างขัดใจ เธอขยับบั้นเอว เด้งเข้าหาลำกายแข็งคึกอย่างร้อนรน“บอกมาก่อนว่า จะให้ผมเอาทั้งคืน” เวทิศว่าพลางกดลำกายลึกสุด ควงบั้นเอวบดขยี้เน้น ๆ“อื๊อ ! เว...ทำให้ดา ทำแรง ๆ”“ที่รักยังไม่บอกเลยว่า จะให้ผัวเอาทั้งคืน”ภริดาลืมตาขึ้นสบตาคม เธอทรมานอยากปลดปล่อยใจจะขาด เขามันคนขี้แกล้ง ต่อให้เขาโตจนเป็นพ่อของลูกเธอแล้ว ทั้งยังทำงานในตำแหน่งผู้บริหาร มีภาระและมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แต่ยามนี้ ภริ
17 คุณคือของโปรดของผม“หม่ามี้ฮะ ป๊ะป๋าเล่นกีตาร์เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ วันนี้พวกเราได้เงินเยอะแยะเลยนะฮะ โตขึ้นไวท์จะเป็นนักร้องเหมือนป๊ะป๋า”เด็กน้อยนอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องบนคอนโดของหม่ามี้ เพราะว่าวันนี้ตระเวนมาทั้งวัน พอกลับถึงห้องหม่ามี้ก็อาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนให้น้องไวท์ทันที“คนเก่งของหม่ามี้ทำได้อยู่แล้วค่ะ”“ไวท์จะให้ป๊ะป๋าสอนเล่นกีตาร์ แล้วก็สอนร้องเพลงด้วย”“ป๊ะป๋าจะต้องสอนไวท์แน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้น้องไวท์นอนได้แล้วนะครับ ดึกมากแล้วลูก”“ไวท์ขอรอป๊ะป๋าก่อน ป๊ะป๋าอาบน้ำเสร็จหรือยังฮะ”เด็กน้อยผงกศีรษะขึ้นจากหมอน มองไปทางห้องน้ำ ป๊ะป๋าอาบน้ำเป็นคนสุดท้ายเพราะเมื่อครู่ ป๊ะป๋าอยู่เป็นเพื่อนเขา ตอนที่หม่ามี้อาบน้ำภริดายิ้มอ่อนโยน เธอลูบศีรษะเล็กเบา ๆ“รออีกแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวป๊ะป๋าก็ออกมา”สองแม่ลูกพูดคุยกันต่ออีกครู่หนึ่ง ป๊ะป๋าตัวโตก็เดินออกมาจากห้องน้ำน้องไวท์ลุกขึ้นนั่ง มองป๊ะป๋าด้วยความดีใจและภาคภูมิใจ พอป๊ะป๋าคลานขึ้นมาบนเตียง น้องไวท์ได้อยู
เสียงเปิดประตูทำให้สองแม่ลูกหันไปมอง พอเห็นร่างสูงใหญ่เดินผ่านประตูเข้ามาในห้อง น้องไวท์ก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาทันที“ป๊ะป๋า”เวทิศย่อตัวลงนั่ง กางแขนออก โอบอุ้มลูกชาย แล้วพาลุกขึ้นยืน“ไวท์คิดถึงป๊ะป๋าที่สุดเลยฮะ”เด็กน้อยเริ่มอ้อนทันที เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมา ป๊ะป๋าทำงานหนัก จนไม่มีเวลาไปหาเขาที่บ้าน เขาไม่เจอป๊ะป๋ามาตั้งหลายวันแล้วเวทิศหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่“ป๊ะป๋าก็คิดถึงน้องไวท์ครับ”“หม่ามี้ก็คิดถึงป๊ะป๋านะฮะ”เวทิศหันไปมองสบตาหม่ามี้ของลูกชาย เขาจึงเห็นว่า ภริดาจิกตาดุมองลูกชาย“ป๊ะป๋าก็คิดถึงหม่ามี้ครับ งั้นวันนี้ไปสมัครเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราไปกินข้าวที่ร้านของหม่ามี้ แล้วก็ไปนอนที่คอนโดของหม่ามี้กันนะครับ”“นอนด้วยกันสามคนเลยใช่มั้ยฮะ”“ครับ”“เย้ !” น้องไวท์กำมือและยกสองแขนขึ้นสูง“แต่ป๊ะป๋าไม่แน่ใจว่า หม่ามี้จะอนุญาตหรือเปล่า”พอป๊ะป๋าพูดแบบนั้น เจ้าหนูน้อยก็นหน้าจ๋อย น้องไวท์หันไปมองหน้าหม่ามี้“หม่ามี้ฮะ ได้มั้ยฮะ” แววตาน่าสงสาร น้ำเสียงออดอ้อนภริดามองคนแผนส