บทที่ 9 มะปราง
กำนันจอมพล ผู้ที่กำลังถูกพูดถึงนั่งสบายใจริมระเบียงหลังเล็กในหมู่บ้านห่างไกลจากบางปลาม้าราวแปดสิบกิโลเมตร
มองท้องฟ้ามืดมิดผ่านทุ่งราวข้าวยาวสุดลูกตา ฤดูเกี่ยวข้าวกำลังใกล้เข้ามา ปีนี้ข้าวออกรวงดีน้ำท่าสมบูรณ์ เขาคงต้องวุ่นสักหน่อย
“พี่พล”
เสียงหวานใสนุ่มของมะปราง สาวร่างอวบอิ่มผิวสีน้ำผึ้งแต่เนียนลออ ทำให้เขาเอี้ยวหน้ากลับไปทางโซฟาอีกด้าน
“ว่าไง”
“ปีนี้มะปรางเรียนจบแล้ว”
“แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะทำงานที่ไหน”
“มะปรางว่าจะสมัครลูกจ้างชั่วคราวแถวนี้ จะได้อยู่รับใช้พี่พลใกล้ ๆ”
จอมพลดับบุหรี่แล้วหยิบแก้วเบียร์ขึ้นจิบก่อนวางแก้วลงหันไปหาเด็กสาวตรง ๆ
“มะปรางไม่ต้องอยู่รับใช้พี่ก็ได้ ไปทำงานที่อยากทำ ลองไปสมัครงานที่กรุงเทพไหม”
“แต่มะปรางอยากอยู่กับพี่พล”
สาวร่างอวบพุ่งตัวสวมกอดโดยพลันซบใบหน้าถูลำตัวเข้ากับร่างแข็งแกร่งจนคนร่างโตต้องสวมกอดไว้
“เราเคยคุยกันหลายครั้งแล้วว่าระหว่างเราไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่ไม่เคยว่าถ้ามะปรางมีคนอื่น”
“แต่มะปรางรักพี่พล”
“มะปราง! เริ่มแรกเราตกลงกันไว้ว่าอย่างไร”
มือแกร่งบีบต้นแขนสาวร่างอวบดันออกแล้วจ้องหน้าจนมะปรางต้องหลุบตาหนี
“ค่ะมะปรางจำได้ พี่พลจะส่งเสียมะปรางจนเรียนจบโดยห้ามมีข้อผูกมัด ทั้งทางใจทางกาย”
“ใช่มะปราง แล้วมะปรางก็รู้ว่าพี่ไม่ได้ส่งเสียมะปรางแค่คนเดียว”
“มะปรางทราบแล้วค่ะ แต่ใจของมะปรางก็อดคิดไม่ได้นี่ค่ะ พี่พลทั้งหล่อ แข็งแรง สุภาพกับมะปรางตลอดเวลา”
“พี่ว่าเราหยุดพูดเรื่องนี้เถอะ เอาเป็นว่าพี่จะอยู่กับมะปรางคืนนี้คืนสุดท้ายแล้วกัน หลังจากนั้นพี่จะไม่หาอีก ยังส่งเงินให้จนกว่ามะปรางจะหางานทำได้”
“พี่พล!”
สาวร่างอวบอิ่มนิ่งงันไปก่อนคิดได้ในที่สุดว่าคนอย่างกำนันจอมพล พูดคำไหนคำนั้น แข็งกร้าวและดุดัน ลองคิดไว้แล้วไม่มีวันเปลี่ยนใจ ยิ่งถ้าพูดออกมาแล้วไม่เคยกลืนน้ำลายตัวเอง
“ค่ะ ถ้าอย่างงั้น คืนนี้พี่พลทำให้มะปรางมีความสุขหลาย ๆ ครั้งนะคะ”
กำนันหนุ่มค่อยผ่อนคลายลงรั้งร่างอวบอิ่มเข้าหาตัวเอง
“พี่ทำแบบนั้นอยู่แล้วเสมอไม่ใช่เหรอ มานี่มา”
มือแกร่งรั้งร่างเข้าหาดึงจนมะปรางขึ้นไปบนตักรั้งท้ายทอยลงมาจูบ
กริ๊ง!! กริ๊ง!!
เสียงโทรศัพท์ดังแทรกทำให้กำนันหนุ่มผละออกเอื้อมมือหยิบขึ้นดู ก่อนจะวางคว่ำหน้าลงกับโต๊ะเล็กด้านหน้าระเบียง หันกลับมาสนใจร่างอวบบนตักต่อ
“พี่พลไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ”
“เบอร์ไม่รู้จัก ถ้าสำคัญมากคงโทรเข้ามาอีก”
พลันมือแกร่งดึงเสื้อกล้ามสีอ่อนของมะปรางออกจากร่างก่อนโน้มใบหน้าลงกลางทรวงอก
สองหนุ่มสาวพันพัวกันอีกสักพักจนร่างของมะปรางค่อยเลื่อนลงกลางลำตัว
กริ๊ง!! กริ๊ง!!
โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคมเข้มเหลือบมองเห็นเป็นเบอร์เดิม จึงเอื้อมมือคว้าขึ้นมาจากโต๊ะ
“ครับ”
เสียงต่ำพร่าขึ้นเมื่อปากเล็กของมะปรางกำลังไต่อยู่ขอบกางเกงยีนส์ มือเริ่มปลดกระดุม
“ใช่เบอร์กำนันจอมพลหรือเปล่าคะ”
กำนันหนุ่มขมวดคิ้ว เสียงหวานนุ่มคุ้นหู เสียงที่เขาไม่ได้ยินมานาน
“ใช่ครับ”
บทที่ 10 จันทน์กะพ้อคนร่างโตยืดกายขึ้นเตรียมพร้อม ส่วนมะปรางลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้านล่างแล้วความเงียบผ่านเข้ามาในโทรศัพท์อยู่สักพัก จอมพลได้ยินเสียงสูดลมหายใจก่อนตามมาด้วยเสียงถอนหายใจ ปากหนาจึงคลี่ออกยิ้มมุมปากรอคอยให้เธอเอ่ยชื่อออกมา“ฉัน ฉัน บ้าจริง!”รอยยิ้มยิ่งกว้างกว่าเดิมเมื่อคนปลายสายสบถออกมา มือแกร่งจับศีรษะของมะปรางไว้ดันลงระหว่างรอฟังชื่อ“ฉันไอริณ”“ผมไม่รู้จักคนชื่อนี้”มือเรียวบางกำโทรศัพท์แน่นแหงนใบหน้าขึ้นสูงสะกดกลั้นอารมณ์โกรธ หลับตาแน่นตะโกนด่าท่ออยู่ในใจก่อนกัดฟันพูดลอดไรฟัน“กำนันคงจำเสียงผู้หญิงได้ไม่หมด เพราะคงผ่านหูมาเยอะ”แผ่นหลังไอริณสะท้านขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ ยิ่งทำให้ดาราสาวโกรธจัดจนอยากขว้างโทรศัพท์ทิ้ง“ถ้าไม่มีอะไร ผมคงขอตัวก่อน กำลัง เออ ค่อนข้างยุ่ง”“บ้าจริง! กำนัน อย่าวางหูนะ ฉัน ฉันจันทน์กะพ้อ”ปลายสายเงียบงันไปอย่างน่าแปลกใจจนไอริณคิดว่ากำนันหนุ่มวางสายไปแล้ว แต่แล้วกลับได้ยินเสียงผู้หญิงแผ่วเบาจึงทำให้รู้ว่าค่อนข้างยุ่งคงหมายถึงกำลังอยู่กับผู้หญิง“ฉันคงโทรเข้ามาขัดจังหวะพอดี ต้องขออภัยกำนันคนดังด้วย”“ไม่เลย พี่ว่างคุยกับน้
บทที่ 11 ทองประศรี“จริงหรือเปล่าจ้ะพ่อ”เสียงหวานใสดั่งเด็กหญิงอ่อนวัยแปดขวบปีดวงตากลมโตหวานซึ้งผิดไปจากผู้พ่อที่ดวงตาคมเข้มแข็งกร้าว“จริง ลูกก็รู้ว่าคนอย่างพ่อไม่พูดเล่น”รอยยิ้มกว้างพลันปรากฏบนใบหน้าหวานกระโดดขึ้นจากพื้นเรือนกลางวงกินข้าว“เย้ เย้ คุณไอริณจะมาบ้านเรา”“เบา ๆ หน่อย กระโดกกระเดกปานนี้ คุณไอริณมาเห็นเขาเดี๋ยวจะหาว่าย่าไม่สั่งไม่สอน”ทองประศรีฉุดมือหลานสาวกระตุกให้นั่งลงดั่งเก่า ใบหน้าหญิงวัยกลางคนค่อนไปทางสูงวัยยิ้มกว้างเหมือนหลานสาวจนรอยย่นขึ้นหางตา กำนันคนดังไม่ยิ้มหัวด้วย ยังคงนั่งกินข้าวล้อมวงกับพื้นข้างบิดา“มึงไม่ดีใจหรือ ไอ้พล”“ไม่เลยสักนิด จันทน์กะพ้อจะนำปัญหามา”“แต่มึงก็รับปากเขาไปแล้ว”จอมพลชะงักมือเพียงเล็กน้อยก่อนตักข้าวด้วยช้อนแกงแบบสั้นที่พบเห็นทั่วไปตามวัด ที่บ้านยังนั่งทานข้าวล้อมวงกับพื้นเรือนตรงชานกลางเรือน เพราะพ่อกับแม่ต้องการให้หลานสาวได้รู้จักวิถีดั้งเดิมของที่บ้านตัวเขาปกติมานอนเพียงวันจันทน์ถึงวันพุธ ส่วนวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์กลับไปนอนบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งปลูกมาได้ไม่กี่ปี“เอ็งต้องเลิกเรียกหนูไอริณว่าจันทน์กะพ้อได้แล้ว เขาเป็นดาราดัง เปลี
บทที่ 12 มาแล้วบางปลาม้ารถตู้โดยสารขับออกจากกรุงเทพมหานครมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ไอริณเงยหน้าขึ้นจากแผนงานคร่าว ๆ อันใหม่ที่เชอรี่เพิ่งได้รับมาเมื่อเช้า“นอนบ้านกำนัน!! อะไรกัน! ทำไมนอนบ้านกำนัน ไม่ ไม่เด็ดขาด! ฉันจะกลับไปนอนบ้าน”ผู้กำกับเป็กเอี้ยวหน้ามาจากเบาะหน้าก่อนเบะปาก“คงไม่ได้ ถามจริงเถอะไอริณ คุณสร้างบ้านใหญ่โตมโหฬารปานนั้น ยิ่งกว่าบ้านเจ้าสัวในกรุงเทพ ขืนเราไปถ่ายทำนอนบ้านคุณ แล้วเรตติ้งคุณมันจะดีขึ้นได้ยังไง”ไอริณหน้าแดงก่ำ อันที่จริงเธอค่อนข้างภาคภูมิใจกับบ้านหลังนั้นด้วยซ้ำเพราะมันคือเงินที่เธอหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่พอออกจากปากผู้กำกับลามกเธอกลับอาย เพราะแท้จริงเธอต้องการให้ทุกคนในหมู่บ้านรับรู้ว่าเธอรวยแค่ไหน โดยเฉพาะกำนันคนดัง“แต่เราถ่ายกันกลางวัน กลางคืนฉันขอกลับไปนอนบ้าน”“ดูท่าไอริณจะยังอ่านแผนงานไม่หมด เราทำเรียลริตี้ยี่สิบสี่ชั่วโมง”“ห๊ะ!! อะไรนะ อะไรนะ”“ได้ยินไม่ผิด ในห้องนอนจะติดกล้องวงจรปิดเพื่อให้ผู้ชมดูคุณจนถึงสี่ทุ่มถึงตัดเป็นฉายวนซ้ำของเมื่อกลางวัน”“นี่มันบ้าชัด ๆ เราทำแบบนั้นไม่ได้นะ มันสดและเรียลเกินไป พวกคุณจะยิ่งทำให้มันเสีย”เชอรี่ทนไม่ไหวแทรกขึ้น
บทที่ 13 ถึงบ้านกำนันแล้ว“ทวดของทวดเป็นไทยพวนมาจากลาว เข้ามารู้สึกจะช่วงรัชกาลที่ห้า ฝรั่งเศสรุกหนักจนเมืองลาวเสียเมืองไป บางส่วนจึงพากันอพยพลงมากระจัดกระจายไปทั่ว ทวดของทวด หรืออาจจะยิ่งกว่าทวด ตัวฉันเองก็ไม่แน่ใจนักเดินเท้ามาด้วยและหยุดที่เมืองนี้”ดวงตาไอริณคล้ายระลึกความหลังมองไปยังแปลงผักข้างลำน้ำท่าจีน“เราก็อยู่อย่างพวกไทยพวนเป็นกลุ่มก้อนในหมู่บ้านเล็ก ยายทำแปลงผักส่วนแม่ไปขายของตลาดเก้าห้อง รายได้ยังน้อยจนซื้อชุดใหม่ไม่ได้ ฉันแช่เสื้ออยู่หลายวันแต่มันก็ซักไม่ออก เลยต้องใส่ไปโรงเรียนทั้งแบบนั้น”ไอริณหยุดชะงักไปเหมือนนึกอะไรขึ้นได้“แล้วยังไง เสื้อมันแค่เปื้อนหรือเปล่า ไม่เห็นเป็นอะไร”“พวกเพื่อนต่างชี้มาแล้วล้อว่ามันเปื้อนเพราะฉัน ฉันนอนกับพื้น”“อะไรนะ นอนกับพื้น คืออะไร!”ไอริณมองหน้าเพื่อนนิ่งแล้วยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มเศร้าอย่างเด็กสาวคนที่เชอรี่เคยเห็นเมื่อครั้งไอริณเพิ่งเข้าเมืองกรุง“มันเป็นเรื่องเก่าน่ะ อย่าไปใส่ใจเลย”“ถึงแล้ว”เสียงผู้กำกับแทรกเข้ามาทำให้ไอริณและเชอรี่มองออกไปข้างนอก หัวรถกำลังเลี้ยวเข้ารั้วบ้านหลังใหญ่แบบเรือนแฝดไทยโบราณ“หลังใหญ่เหมือนกันนะไอริณ”“ร
บทที่ 14 ผูกขวัญเชอรี่ หรือ ชุมพล ผู้จัดการส่วนตัวดาราสาวถึงกลับอ้าปากค้างยืนนิ่งอยู่ตรงรั้วบ้านเมื่อรถตู้จอดส่งพวกเธอลงตรงลานจอดรถ“ยายไอริณ!! นี่มันคฤหาสน์ชัด ๆ แกจะสร้างให้ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้เพื่อ!!”“โธ่! แก ต้องเข้าใจฉันหน่อยสิ ฉันเป็นดาราดังนะจะให้มาสร้างบ้านหลังเล็กให้แม่กับยายฉันอยู่ได้ยังไง ไป ไป เข้าบ้าน”ร่างระหงในชุดเดินทางตัวเดิมกางเกงยีนส์รัดรูปอวดเรือนร่างเสื้อยืดพอดีตัวฟิตไปกับหน้าอกขนาดอวบอิ่มที่แม่ให้มาแต่กำเนิดโดยไม่ต้องศัลยกรรม“ยายจ๋า ยาย ยาย!”เสียงตะโกนหวานใส่ตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ปลูกขึ้นตรงที่ดินผืนงามริมแม่น้ำท่าจีน ดั่งโอ้อวดความร่ำรวยมั่งมี“เออ ใครมาตะโกนโวยวายหน้าบ้าน”ไอริณลากกระเป๋าใบใหญ่ตามด้วยเจ้าเปี๊ยกเด็กคนสนิทที่เธอหอบหิ้วมาด้วย“แม่!! ไอริณมาแล้วว”ใบหน้าสวยคมคล้ายไอริณโผล่ออกมาจากบ้านหลังใหญ่ด้วยรอยยิ้มกว้างดวงตาสุกใสคล้ายยังไม่สูงวัยทั้ง ๆ ที่วัยเกือบห้าสิบปี“จันทน์!! แม่ แม่ เจ้าจันทน์มาแล้ว”“แม่จ๋า”เชอรี่เพิ่งเคยเห็นดาราดังใบหน้าอ่อนแสงไร้พิษสงก็วันนี้เมื่อเห็นแม่กับยายตัวเอง วิ่งโผเข้าสวมกอดน้ำตารื้นไร้เสแสร้ง“เอ็งมาแล้ว ยายคิดถึงเอ็งเหลือเ
บทที่ 15 จอมใจ“ย่า ย่า มาแล้ว ๆ”เสียงตะโกนดังพลางวิ่งตึงตังมาจากด้านหลังบ้านของเด็กหญิงวัยแปดขวบ ทำให้ผู้เป็นย่าและปู่เดินออกมาชะโงกหน้าตรงระเบียง มองรถหรูสีครีมกำลังเลี้ยวลงมาจากถนนหน้าบ้านเข้าสู่เขตรั้ว“มากันแล้วจริง ๆ ด้วย”จอมทัพพูดพลางยิ้ม หลังจากเมื่อวานนี้กองถ่ายมาถึงไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากกางเต้นท์เตรียมของ ส่วนไอริณและผู้จัดการส่วนตัวขอกลับไปนอนบ้านปัง!ร่างระหงกระแทกประตูรถหรูคันงามที่เธอซื้อไว้ให้แม่ใช้ หากแต่แม่หยาดทิพย์ยังคงขับมอเตอรไซค์คันเก่าอยู่ดีใบหน้างามปกปิดด้วยแว่นกันแดดอันโตเกือบครึ่งหน้ากวาดตามองโดยรอบ ยังไม่เจอเจ้าบ้านร่างโตค่อยผ่อนลมหายใจออกมา“มากันแล้ว พวกคุณมาสาย”เสียงผู้กำกับเป็กตะโกนมาจากใต้ถุนบ้าน เธอเหลือบมองกองถ่ายเตรียมของเซตไฟ“เปี๊ยก เอากระเป๋าของพี่ขึ้นไปไว้บนบ้าน ถามคุณน้าทองประศรีว่าให้ไว้ห้องไหน”เด็กสาวร่างเล็กยกกระเป๋าใบโตกว่าตัวเองออกมาแล้วลากผ่านลานคอนกรีตไปยังบันไดบ้านไอริณเพียงชำเลืองมองเจ้าเปี๊ยกแล้วเดินเข้าไปหาผู้กำกับมาดใหญ่โต นั่งบนเก้าอี้พับสีดำกอดอกจ้องมาทางเธอเขม็ง“ก็มาแล้ว ไม่ได้บอกให้มากี่โมง”ไอริณกระชากแว่นกันแดดออกใส่กระเ
บทที่ 16 เจอหน้าครั้งแรกในรอบแปดปีเสียงเด็กน้อยยังเถียงไม่หยุดจนใบหน้าไอริณร้อนผ่าวแดงซ่าน คุกเข่าลงตรงหน้าเด็กน้อย“มันแค่ภาพตัดต่อ ไม่จริงสักหน่อย น้าไม่ได้เป็นชู้กับใครทั้งนั้น”“อ้อ ภาพตัดต่อ แล้วคุณน้ามีแฟนหรือยังคะ”“ยังคะ ไหนมานี่สิขอน้ากอดหน่อย อืม ตัวนิ่มจัง”เด็กตัวเล็กได้โอกาสรีบใช้มือโอบร่างนุ่มของดาราสาวไว้แน่นซบหน้าลงอกพลางส่งเสียงเล็ก ๆ ออกมา“ถ้าคุณน้าไม่มีแฟน ทำไมไม่ลองเป็นแฟนกับพ่อหนูล่ะค่ะ พ่อหนูก็ยังหาเมียไม่ได้”“จอมใจ!!”ทองประศรีตะโกนเสียงดังตกใจที่หลานสาวใจกล้าพูดออกมาพลางชำเลืองมองดาราสาวหน้าเผือดสีลงแต่ยังกอดเด็กสาวไว้“น้ากับพ่อหนูไม่เหมาะกันหรอกค่ะ น้ามาถ่ายหนังแค่สองเดือนเดี๋ยวก็กลับแล้ว ส่วนพ่อหนูน้าเชื่อว่ามีคนรอต่อคิวอีกเยอะ”“รอต่อคิวคืออะไรคะ”ไอริณนึกอยากตบปากตัวเองเมื่อพูดออกไปฟังคล้ายประชดประชัน จะยิ่งทำให้เข้าใจผิด“น้าขอโทษด้วย น้าหมายถึงอีกหน่อยพ่อของหนูก็มีแฟน เชื่อน้าเถอะ อ้อ น้าทองประศรีคะ พอมีผ้าถุงให้ยืมก่อนไหมคะ ไอริณไม่ได้เตรียมมา ประเดี๋ยวตอนเย็นค่อยไปซื้อในตลาด”“ได้ ๆ น้ามีเยอะเลย รอเดี๋ยวนะ ไป ๆ จอมใจ ไปกับย่า”ไอริณปล่อยเด็กสาวแล้ว
บทที่ 17 นี่ขนาดเจอกันวันแรกไอริณพยายามตั้งสติสบตาสีนิลล้ำลึกกำลังเปล่งประกายบางอย่างน่ากลัวอยากปิดปากนักใช่ไหม นี่แน่ะ!!ฟันขาวเล็กเรียงเป็นระเบียบงับลงกลางฝ่ามือเต็มแรง กัดไม่ปล่อยพร้อมสะบัดหน้าไปมา“โอ๊ย!! บ้าฉิบ จันทน์กะพ้อ!!”“ฉันไม่ได้ชื่อจันทน์กะพ้อ! ไอ้บ้าปล่อยนะ”แรงชายยังมากกว่าอยู่ดีด้วยส่วนสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ร่างหนาแกร่งอย่างชายทำงานหนักดันร่างระหงถอยหลังก่อนโถมตัวลงใช้น้ำหนักตัวกดทับ“ดูเหมือนสาวเมืองกรุงจะชอบซาดิสต์ เจอหน้ากันก็กัดสะแล้ว”“ไอ้กำนันถ่อย ปล่อยนะ ฉันร้องจริง ๆ ด้วย!!”ดวงตากลมโตเบิกกว้างสบนัยน์ตาสีนิลพราวระยับถูกใจพร้อมรอยยิ้มกว้างที่เธอยังเห็นว่ามันกวนใจเธอมาเสมอ รอยตีนกาเพิ่มมากขึ้นตรงหางตา ผิวสีเข้มขึ้นกว่าเมื่อก่อน บางสิ่งบางอย่างทำให้ไอริณหยุดชะงักไปเผลอจ้องมองหลงอยู่วังวนแห่งอดีตเดิมกำนันคนดังเองพลันหยุดหัวเราะ กวาดตามองใบหน้างามกว่าเดิมอย่างวัยผู้ใหญ่ เธอมีร่องรอยของการใช้ชีวิตต่างไปจากเด็กสาวมัธยมคนเดิมหลุบตาต่ำลงมองลำคอระหงกำลังกลืนน้ำลายพร้อมกันกับเขา ผิวขาวเนียนลออไร้สิวฝ้า หน้าอกอวบอิ่มยิ่งกว่าเมื่อก่อน มือแกร่งกระชับร่างระหงขึ้น
ตอนพิเศษ 2“คัท คัท!!”ดาราสาวเงยหน้าขึ้นจากพื้นในท่าก้มกราบเมื่อได้ยินเสียงผู้กำกับสั่งคัท ใบหน้าหวานยังเปื้อนคราบน้ำตาจากบทนางวันทองในเรื่องขุนแผนขุนช้างฉบับรีเมคไอริณกวาดตามองโดยรอบผ่านนัยน์ตาฉ่ำน้ำ เห็นเด็กในกองกำลังปิดไฟเก็บของ ตอนนี้คงราวสามทุ่มแล้ว“คุณไอริณคะ”เสียงเปี้ยกดังขึ้นด้านข้างพร้อมผ้าเช็ดหน้ายื่นส่งมาให้เธอ“ขอบใจจ๊ะ”“กำนันรอนานแล้วค่ะ”“บอกให้เขารออีกเดี๋ยว ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”ไอริณ ดาราดังลุกขึ้นจากพื้นเรือนไม้ทรงไทยโบราณริมลำน้ำสุพรรณบุรี เดินลงบ้านหางตามองเห็นคนร่างสูงแกร่งผิวสีเข้มยืนหน้าเง้ารอ ตั้งแต่เมื่อเย็นฮึ สมน้ำหน้า คนร่างเล็กเดินตัดใต้ถุนเรือนตรงไปยังเต้นท์สำหรับนักแสดงเพื่อเปลี่ยนชุด“เชอรี่”“ว่าไง”“คืนนี้นอนบ้านแม่เราหรือเปล่า”“คงไม่ ขับกลับกรุงเทพเลย ผู้กำกับสั่งพักกองสามวัน”“สามวัน! อะไรกัน พักอีกแล้ว”เชอรี่เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ เพ่งมองเพื่อนรักกำลังถอดชุดเปลี่ยนเสื้อผ้า“ก็ผัวใครล่ะ มายืนหน้าบึ้งรอเมียอยู่ได้”“กะ ก็ พี่พลเขาแค่เป็นห่วง”ดาราสาวเสียงอ่อยลงหยิบเสื้อผ้าชุดเดรสขึ้นสวม แม้ปากพูดประชดประชันแต่ใจจริงนั่นพองฟู“ห่วงหรือหวง
ตอนพิเศษ 01“อื้อ อื้อ ม่ะ ม่ะ”เสียงเล็กอู้อี้ดังขัดใจยามโดนแย่งของรักไปจากมือ ดวงตาคมกล้าแม้ว่ายังกลมโตและใสซื่อดั่งเด็กน้อยวัยแปดเดือน แต่เมื่อมองให้ดีรู้ได้เลยว่าโตมาเมื่อไรได้กลายเป็นตัวปัญหาของหมู่บ้านแน่นอน โดยเฉพาะสาว ๆจอมพลจ้องหน้าลูกชายนิ่งในมือเขาคือของเล่นนุ่มนิ่มที่ลูกชายเอาเข้าปากมาแล้วสักพัก“จอมภพ อันนี้มันเอาเข้าปากไม่ได้”ดวงตาเล็กดื้อดึงคล้ายตัวเขาแต่ในฉบับย่อเล็กกว่ากำลังจ้องตอบก่อนตั้งท่าเบะปากคล้ายตะโกนร้องไห้หาคนช่วยคนร่างโตชะงักมองซ้ายขวาหาเมียจ๋าสุดที่รักพลันนึกได้ว่าวันนี้มีออกกองถ่ายทำซีรีซ์ที่ถ่ายค้างไว้เมื่อปีกลายเพราะท้องดันโตสะก่อน“แม่จันทน์ไม่อยู่วันนี้ มางอแงไม่ได้นะ”เสียงเข้มต่ำพยายามทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหวาดหวั่น แต่เด็กชายคนนี้รู้ดีฉลาดเกินเด็ก น้ำเสียงดุดันไม่ได้ทำให้จอมภพกลัวแต่อย่างใด ยังส่งสายตาดื้อรั้นอ้าปากเตรียมแผดเสียงร้อง“พ่อจ๋า พ่อทำอะไรอยู่น่ะ เดี๋ยวจอมใจไปโรงเรียนสาย”ตึก ตึก ตึกจอมใจวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน ตั้งแต่แม่ไอริณแต่งงานกับพ่อก็ให้รับจอมใจมาอยู่ด้วยที่บ้านใหญ่ กลับไปนอนกับปู่ย่าเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์“ก็น้องเอาอันนี้เข
บทที่ 47**NC จบบริบูรณ์แควก!!เสียงสไบขาดทำให้ไอริณผละหน้าออกทันที“กำนัน นี่ชุดกองถ่าย”“ช่างมัน ซื้อใหม่”“อื้อ อือ”จอมพลโถมร่างให้คนร่างเล็กล้มลงนอนหงายแล้วกระชากสไบลงจนพ้นเนินนมใหญ่ทั้งสองข้าง“ไม่ใส่ชุดชั้นในเมียจ๋า”“ก็ชุดไทย ใส่แต่จุกปิดหัวนม”ไอริณดึงจุกปิดหัวนมออกทั้งสองโยนลงพื้น แล้วค่อยกอบขึ้นให้เต้าชิดกัน“กำนันชอบนมจันทน์ไหม”“อ่า สวย ชอบมากเมียจ๋า อืม เลียหน่อยนะ อ่า”จอมพลโน้มหน้าลงหาทันทีปาดลิ้นเลียวนยอดหัวนมทั้งสองข้างสลับไปมาซ้ายขวาทั้งดูดขมเม้ม“อ่า ดูดแรง ๆ สิกำนัน”“อือ เมียชอบแรง ๆ เหรอจ๊ะ กำนันจัดให้”ปากหนาครอบลงดูดแรงอีกมือคลึงขยำเต้าบีบจนเนื้อปลิ้นล้นมือ ขยับฟันกัดหัวนม“อ่า จันทน์ชอบ แรง ๆ”สองมือขยำเต้าแรงขึ้นปากครอบหัวดูดดึงเคลื่อนลงตามรอบเต้าใหญ่ทั้งขบเม้มกัด ทั้งดูดจนขึ้นรอยจ้ำทั่วใบหน้าเข้มเลื่อนลงมือกระชากผ้าถุงขึ้นตลบจนพ้นเนินสวาทแล้วมุดหน้าลงทันทีไม่รอช้า ให้ไหล่ดันต้นขาคนร่างเล็กไว้เปิดออก เอานิ้วเปิดแหวกปาดลิ้นขึ้นลงกระหายหิว“พี่รอตั้งนาน หิวจันทน์จะแย่ อยากเลียดูดแบบนี้ อ่า ซู้ดด”จอมพลใช้ปากดูดเม็ดอ่อนไหวเลื่อนนิ้วเข้าทางรักแสนหวานขยับถี่“อ่
บทที่ 46***NCปัง!!“เบา ๆ สิพี่พล รถราคาตั้งแพง”ดาราสาวบ่นอุบเมื่อลงจากรถมามองมือสีเข้มกระแทกประตูปิดใจร้อน แล้วลากมือคนร่างเล็กเข้าไปในบ้าน“เดี๋ยวซื้อให้ใหม่”“ฮื้อ รวยขนาดนั้น จันทน์ไม่ทำงานแล้วดีกว่า”“ก็ดี นอนอ้าขาอย่างเดียวพี่ชอบ”“พี่พล!”คนร่างเล็กเดินซอยเท้าถี่ตามแต่ไม่ทันใจคนร่างสูงกว่าจึงก้มลงช้อนร่างขึ้นเข้าวงแขนพาเข้าบ้านท่ามกลางสีหน้าตื่นตกใจของคนงานและป้าอ้วนที่ยืนชะเง้อมองมาจากทางโรงจอดรถเกี่ยวข้าว“มาช้า พี่รอตั้งเดือนกว่าแล้ว นี่ถ้าขืนมาช้ากว่านี้พี่คงอกแตกตาย”“แล้วทำไมไม่ไปตาม”“เรื่องอะไร เป็นคนหนีไปเองแท้ ๆ”“ชิ รู้งี้ปล่อยให้รออีกดีกว่า”จอมพลก้าวกระโดดคราวละสองขั้นขึ้นบันไดกว้างตรงไปทางห้องนอนใหญ่ทันควัน ใบหน้ายังยิ้มกว้างก้มมองคนร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยใจพองโต“ถ้าปล่อยให้รออีกพี่จะไปบวช”“บวช!!”“ใช่ บวชมันสะเลย ให้จันทน์มาคอยยืนตักบาตรชะเง้อมองแทนบ้าง”“โรคจิต ฮ่า ฮ่า บวช คิดได้ไง ว้ายยยย!!”ตุบ!!“พูดมากนักนะเมียจ๋า”จอมพลโยนคนร่างเล็กลงเตียงแล้วปลดกางเกงพร้อมบ็อกเซอร์โยนลงพื้น เอื้อมมือหยิบสร้อยพระเครื่องออกจากรอบคอประนมมือสวดลาแล้ววางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ปลด
บทที่ 45 ใจพองเลยพ่อกำนัน อิ อิปัง!!“พี่พล พี่พล!!”“หนูไอริณ”ทองประศรีชะโงกหน้าออกมาจากบนบ้านตาโตเบิกกว้างเมื่อเห็นดาราสาวในชุดไทยสีชมพูกลีบบัวยืนอยู่ตีนบันไดบ้าน“น้าทองประศรี พี่พลล่ะ พี่พล!”“วันนี้วันพฤหัส ไอ้พลมันไปทำงาน”“ทำงาน? ทำงานที่ไหนน้าทองประศรี”“วันนี้อยู่ อบต.”“อบต.? อบต.”ไอริณผละออกจากบันไดตรงไปที่รถหรู“เดี๋ยว ๆ น้าไปด้วย น้าไปด้วย”ทองประศรีรีบสับขาลงจากบนบ้านในชุดผ้าถุงสีน้ำเงินเข้มลายดอกชบาเสื้อผ้าฝ้ายลูกไม้ธรรมดาอยู่บ้าน สวมรองเท้าแตะหูคีบง่าย ๆ วิ่งตามไปยังรถกลัวไม่ทัน“ไปทางนี้หนูไอริณ”ทองประศรีนั่งในรถทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะโหลดเตี้ยแต่ยังนั่งได้ มือเกร็งจับคอนโซลหน้าไว้เพราะดาราสาวซิ่งเร็วจนร่างคนแก่กระชากกระแทกเบาะนั่งเอี๊ยด!!ดาราสาวกระโดดลงจากรถวิ่งขึ้นบันไดหน้าตึกที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางปลาม้า กวาดตามองหากำนันร่างสูงแต่ไม่มี“หาใครคะ ว้าย ว้าย คุณไอริณ”เสียงน้องผู้หญิงที่บังเอิญเดินออกมาพอเห็นว่าเป็นใครร้องเสียงหลงวิ่งวนไปมาหน้าตื่น“กำนัน กำนันจอมพลอยู่ไหน”“กำนัน กำนันอยู่ไหน? กำนันไปงานในเมือง วันนี้ที่วัดหลวงพ่อโตมีงานสมโภช”“วัดหลวงพ่
บทที่ 44 เก้าสิบเจ็ดกิโลเมตรทุกอย่างเหมือนวนกลับยังจุดเดิมเรื่องราวเมื่อแปดปีก่อนราวกับว่าเหตุการณ์ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ความฝันดาราสาวนั่งนิ่งภายในเต้นท์แต่งตัวเพื่อเตรียมบวงสรวงเปิดกล้องซีรีซ์เรื่องใหม่ตั้งแต่ออกจากบางปลาม้าตัวเธอไม่เคยร้องไห้อีกเลยแม้ว่าภายในร่างกายบอบช้ำสักเพียงใด ดวงตากลมโตดั่งกวางอันเป็นเอกลักษณ์หม่นแสงลงทุกวัน“ไอริณ”“ว่าไง”“ไอ้ภูมิมันจะหย่าเมีย”หน้าหวานเอี้ยวหน้าไปมองหน้าผู้จัดการเพื่อนสนิททันควัน เวลาหลายปีมาแล้วที่เธอและภูมิต้องปลอมเข้าใส่ทุกคน คงถึงเวลาแล้วสินะ“เมื่อไร แล้วทรัพย์สิน”“มันยอมหารครึ่ง”“หารครึ่ง!”“ใช่ แกจะโทรหามันไหม มันอยากคุยกับแก”“ไม่อ่ะ ฉันไม่พร้อม ดีใจกับมันด้วยที่คิดได้”“เดี๋ยวนักข่าวคงอยากให้แกแถลงข่าว”“อืม เอาสิ แล้วเรียลริตี้เมื่อไรจะออนแอร์”“วันนี้ช่วงเวลาไพร์ไทม์ ออนตอนแรก”“ดีเลย สู้อุตส่าห์ไปตั้งไกลในที่สุดจะได้เวลาฉายสักที”“แกโอเคหรือเปล่า”“โอเค๊ มีอะไรที่ฉันผ่านไม่ได้อีกเชอรี่ ไม่มีแล้ว”“งั้นออกไปเถอะ เผื่อนักข่าวจะขอสัมภาษณ์”“อืม”ไอริณค่อยลุกขึ้นในชุดไทยพีเรียดเรื่องใหม่ขุนช้างขุนแผน ผนวกเวลาพอเหม
บทที่ 43 มะปราง“มาทำไม!!”“มะปราง มะปราง”สาวร่างเล็กพูดตะกุกตะกัก มองไปรอบลานบ้านเห็นคนมากมายกำลังเก็บของต่างพากันมองมาทางเธอเป็นทางเดียว ดาราสาวเองที่นั่งอยู่ใต้ถุนบ้านก็มองมายังเธอเช่นกัน“กำนัน มะปรางมันมาขอความช่วยเหลือ”ฝ้ายรีบชิงพูดแทนเพื่อนเมื่อเห็นว่ามะปรางกำลังจะไม่ไหวแล้ว“เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว ได้บอกเพื่อนหรือเปล่า”“ฝ้ายรู้ แต่กำนัน มะปรางมันกำลังแย่ มันโดนของ”“ของ?”กำนันจอมพลหันกลับไปทางมะปราง สาวร่างเล็กดูหน้าหมองคล้ำนัยน์ตาลอย สติไม่อยู่กับตัวเท่าไร“เกิดอะไรขึ้น”“ฉันเล่าเอง”ฝ้ายเดินเข้าไปใกล้กำนัน เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยิน“มะปรางมันไปอาศรมพ่อเฒ่ามา”เพียงเท่านี้จอมพลก็เข้าใจหันกลับไปมองมะปรางด้วยสายตารังเกียจเดินถอยหลังออกมา“พี่คงช่วยมะปรางไม่ได้ กลับไปสะเถอะ”“กำนัน!! เมื่อเย็นเราเกือบโดนรถบรรทุกชนตายข้างถนน”“นั่นมันแล้วแต่เวรกรรม คนถือศีลทำหมั่นทำความดีย่อมมีสิ่งคุ้มครอง ส่วนผู้คิดร้ายย่อมทำลายตนเอง เป็นธรรมดาสัจธรรมของโลก”“กำนัน! ไม่เห็นใจไอ้มะปรางมันบ้าง มันรักกำนันมากเลยต้องทำแบบนั้น ถ้ามันตายไปบาปกรรมมันก็ตกไปที่กำนัน”“ปกติพี่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี
บทที่ 42 เอาแล้วมะปราง“มะปราง”“ว่าไงฝ้าย”“แกเอาหุ่นไปฝังแล้วหรือยัง”ฝ้ายลงนั่งข้างเพื่อนสาวตรงชุดม้าหินอ่อนหน้าคณะเรียน จ้องหน้าเพื่อนดูสีหน้าไม่ดีเลยหมองคล้ำแปลก ๆ“ฝังแล้ว ตรงแยกใหญ่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย”“กี่วันแล้ว”ฝ้ายยืนน้ำหวานให้เพื่อนเมื่อเห็นมะปรางยกมือปาดเหงื่อบนหน้าผากเม็ดใหญ่ทั้ง ๆ ที่อากาศไม่ร้อน“ขอบใจนะ หลายวันแล้วล่ะ ตั้งแต่วันที่เจอกับพี่พลครั้งสุดท้ายตรงตลาดเก้าห้อง ก็เอาไปฝังเลย”“หลายวันน่ะกี่วัน”“สามวัน”“สามวันแล้ว? มีอะไรผิดปกติไหม”“ไม่นะ ไม่มี”มะปรางเองชักใจคอไม่ดีหันมองหน้าเพื่อนมือสั่นขณะยกน้ำขึ้นดื่ม เหงื่อไหลลงปลายคางหยดลงพื้นโต๊ะหินอ่อน“ฉันว่าไม่ดีแน่ ๆ กำนันจอมพลไม่ติดต่อมาเลยใช่ไหม”“ไม่เลย ทำยังไงดี ฉันกลัว”“ตาแก่นั่นมันบอกแล้วว่าไม่รับแก้ของ เอางี้ไหม ไปเอาขึ้นมาไปคืนมัน”“จะได้ผลเหรอ รออีกสักสองวันไหม”“ไม่รอแล้วแก มองไปดูหน้าดำขนาดนี้ เหงื่อหยดไหลตลอดเวลา ฉันว่าแกจะโดนของเข้าถ้าขืนชักช้าจะแก้ไม่ทัน”มะปรางยังลังเลแต่เพื่อนสาวฉุดมือดึงขึ้น รวบกระเป๋าหนังสือเรียนขึ้นมาด้วย“ไปรถฉัน ฉันขับเอง”ฝ้ายจัดการพาเพื่อนเข้าไปนั่งในรถพาออกจากมหาวิทยาลัยใ
บทที่ 41**NC“อยู่กับพี่ กลับมาเป็นเมียพี่ กำนันบ้านนอกคนนี้ได้ไหม จันทน์คนดี”นัยน์ตาสีนิลจ้องมองนิ่งคมกล้าทั้งคาดคั้นต้องการคำตอบ แต่ไอริณไม่อาจรับปากได้จึงนิ่งเงียบ“ไม่เป็นไร พี่จะรอจนกว่าจันทน์จะพร้อม ถือสะว่าเป็นบทลงโทษของพี่”คนร่างโตโน้มหน้าลงแตะริมฝีปากหนาอุ่นบนริมฝีปากสีแดงเย้ายวน มือโอบแผ่นหลังเลื่อนไปยังซิปรูดลงพร้อมลิ้นฉกเข้าสอดใส่เอนร่างเล็กลงพื้นกระดานเย็นเยียบจากอากาศยามค่ำกลิ่นกายชายโอบล้อมคนร่างเล็กไว้ยามชะโงกง้ำด้านบนส่งจูบอ่อนหวานผิดไปจากหลายวันที่ผ่านมา ทั้งเว้าวอน ชอนไชกวาดหาน้ำหวานในโพรงปากเชื่องช้ามือเลื่อนเสื้อลงทีละน้อยจนพ้นเนินทรวง จึงเลื่อนใบหน้าลงหน้าเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงขาวนวล“พี่พล อ่า”กายสาวแอ่นขึ้นยามปากเข้าครอบครองหัวนมเล็ก ลิ้นปาดไล้กระหวัดหยอกล้อ เร่งเร้าให้ยอดไตแข็งชันสู้ความสาก“จันทน์ อ่า”จอมพลเลื่อนหน้าขึ้นอีกครั้งสอดลิ้นเข้าสู่ปากไอริณร้อนแรงขึ้น ส่งกระแสไฟแห่งรักเข้าสู่โพรงปาก ให้คนร่างเล็กใต้ร่างได้รับรู้ว่าตัวเขานั่นเร่าร้อนมากขนาดไหน มือกระชากดึงชุดเดรสออกจากร่าง“พี่พล ที่นี่ อื้อ”“พี่ฝันถึงมานานมากจันทน์ พี่อยากให้จันทน์กลับมา แล้วพี่