Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2024-11-18 22:41:04

“กินอะไรเอ่ยทิป”

เวรุณีสะดุ้งเฮือก พจนารถยิ้มเผล่วางจานข้าวแกงลง แล้วนั่งร่วมโต๊ะตรงหน้า

“ข้าวมันไก่น่ะ แล้วนารถไปไหนทำไมวันนี้มาช้า”

ปรกติเดินผ่านไปชงกาแฟจะเห็นเขานั่งที่โต๊ะ แต่วันนี้พจนารถกระหืดกระหอบมาเอาตอนสิบโมงเช้า

“ลาสองชั่วโมง วันนี้ครบรอบวันตายแม่ เลยไปถวายภัตตาหารที่วัด”

เธอมองเขาแล้วเปรียบเทียบกับตัวเอง สักวันเธอต้องมีรอยยิ้มมาจากใจจริง โดยไม่เสแสร้งว่าตัวเองเข้มแข็งดังที่เป็นอยู่

“เมื่อวานนี้ซีอีโอคุณธรณ์เรียกทิปไป มีอะไรหรือเปล่า”

ธนาคารสำนักงานใหญ่แห่งนี้ใหญ่โต แต่ก็ไม่เล็กนักสำหรับข่าวคราวต่างๆ ยิ่งเรื่องแปลกๆ อย่างผู้บริหารใหญ่เรียกพบพนักงานตำแหน่งเล็กๆ เพียงลำพัง

“อ๋อ...”

เวรุณียิ้มกลบเกลื่อน

“เขา เอ๊ย! ท่านเป็นคนรู้จักกับพ่อแม่ฉันน่ะ เลยถามข่าวเรื่องไทม์”

พจนารถเห็นว่าเป็นเรื่องเวลา ซึ่งกระทบใจเธอ เขาจึงไม่เซ้าซี้ถามต่อ แต่ชวนคุยเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็พอทำให้เวรุณียิ้มได้บ้าง

“คาเฟทีเรียของเราสะอาด ได้รับรางวัลรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย ขายอาหารราคาถูกเพื่อลดภาระค่าครองชีพของพนักงาน”

ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลอธิบายนำชมสถานที่อย่างตั้งอกตั้งใจ ธรณ์ทำทีเป็นฟัง สายตากวาดไปทั่วบริเวณ แล้วสะดุดอยู่ที่สองหนุ่มสาว

เวรุณีหัวเราะสดใสอยู่กับพนักงานชายคนหนึ่ง ความรู้สึกไม่พอใจแล่นขึ้นใบหน้าเป็นริ้วๆ แต่ธรณ์ซ่อนไว้แนบเนียนภายใต้หน้ากากผู้บริหารอันสุขุม

ขณะเขาเศร้าเสียใจกับการจากไปของน้องสาว เวรุณีที่ปากบอกเสียน้องชายกลับหัวเราะ ยิ้ม ...หลายวันที่เขาดังตกนรก เธอกลับมีความสุข ไม่ยุติธรรมเลย

โลกธุรกิจโหดร้าย ธรณ์ต้องบริหารทรัพย์สินพ่อแม่ตั้งแต่ยังหนุ่ม สูญเสียช่วงเวลาวัยรุ่นไปกับภาระรับผิดชอบอันหนักอึ้ง คมเขี้ยวของคนรอบข้างที่พร้อมเอาเปรียบและแย่งทึ้งทรัพย์สมบัติ

ธิณาเท่านั้นที่เป็นดังน้ำทิพย์ชโลมใจอันแห้งแล้ง น้องสาวเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่ธรณ์เชื่อใจที่สุด แสงสว่างอันสดใสในชีวิต บัดนี้ดับลงแล้วด้วยวัยอันเยาว์

...เหลือเพียงตัวเขาคนเดียวในโลก และความรู้สึกผิด โทษตัวเองว่าน่าจะดูแลเธอให้ดีกว่านี้ พาลไปโกรธตัวต้นเหตุอย่างเวลา และพี่สาวของมัน ที่ยังยิ้มระรื่นอยู่ได้

เวรุณีเม้มปากกอดอก เมื่อเขามายื่นหน้าบ้าน เวลาเดิมเป๊ะ

“เราจะคุยกันเรื่องเดิม”

โดยไม่ต้องขยายความว่าเรื่องไหน เธอยอมเปิดประตูให้อย่างไม่เต็มใจ ธรณ์เดินตามหลังร่างในชุดพนักงานธนาคาร  ชุดเข้ารูป อวดอกอิ่ม เอวเว้า และก้นงอน

หุ่นเธอไม่บาง มีทรงน่าสัมผัสลูบไล้เหมือนนาฬิกาทราย เขาเห็นแล้วนึกไปถึงภาพเธอหัวเราะแล้วยิ่งขัดใจ

“นัดวันฉีดอสุจิเมื่อไรล่ะ ฉันจะได้คำนวณวันไข่ตก”

เป็นการสนทนาทางวิทยาศาสตร์อันแห้งแล้ง ไร้ซึ่งความโรแมนติกเหลือเกินในความคิดเวรุณี ทำอย่างไรได้เล่า ...ก็เขาหวังแค่ทายาท ส่วนเธอก็ไม่เต็มใจช่วยก่อกำเนิดให้นัก

“ไม่มีการฉีด ผมขอวิธีธรรมชาติ”

เวรุณีหยุดนิ่ง อ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก

“คุณกับผมก็แค่คนไม่ใช่สเปคมานอนด้วยกัน ...แค่สัมพันธ์ทางกาย”

“ฉันเคยคิดว่าคุณน่ะบ้า ตอนนี้ไม่คิดแล้ว คุณน่ะเป็นคนบ้าจริงๆ”

ดวงตาคมดำจ้องร่างอวบที่นั่งอยู่ตรงหน้า ไล่ตั้งแต่ผมยาวสีธรรมชาติมัดสูงเป็นหางม้า ดวงหน้ากลมขาวกระจ่างใส แพขนตายาวกระพริบถี่ยามตกใจ จมูกโด่งนิด ริมฝีปากอิ่ม อกหยุ่น เอวเว้า สะโพกผาย ที่ก่อกวนใจเขาตั้งแต่เมื่อวาน

ธรณ์ไม่เคยยุ่งกับพนักงานในบริษัท ไม่ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด แม้จะมีสาวใจกล้าทอดสะพานให้บ่อยๆ ก็ตาม แต่กับเวรุณี เธอกับเขาเจอกันในสถานการณ์ไม่ปรกติ

เขาพยายามไม่คิดคิดถึงเธอ ลบความรู้สึกละมุนมือยามสัมผัสความนุ่มนิ่ม ทำเป็นลืมๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อคืน พยายามแล้ว แต่ใจกลับลอยไปวนเวียนเรื่องเธอโดยอัตโนมัติ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ยิ่งโกรธปนหงุดหงิด จนเขาต้องถามตัวเองว่ากำลังเป็นบ้าอะไร

“คุณไม่มีใครไม่ใช่เหรอ”

“จะมีหรือไม่มีก็ไม่เกี่ยว แต่คุณกำลัง ...ขอมีอะไรกับฉัน”

เธอหน้าแดงซ่าน ยางอายหายไปจากหน้าเขาหมดแล้วกระมัง

“ไม่ได้ขอ แต่ต้องมีต่างหาก ไม่อย่างนั้นจะมีลูกผมได้ยังไง”

นานแล้วที่ธรณ์ไม่ได้เห็นผู้หญิงหน้าแดงจริงๆ โดยไม่ได้เกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือการแต่งหน้า

“งั้นก็ไปหาคนอื่นเถอะ ฉันยกเลิกข้อเสนอ”

“เสียใจในเมื่อรับปากแล้วก็คือรับปากเปลี่ยนใจไม่ได้”

“คุณขี้โกงที่สุด”

เขาเลิกคิ้วยียวน

“ผมเป็นนายธนาคารนะคุณ ไม่โกงใคร แล้วก็ไม่ชอบให้ใครโกงด้วย”

“แต่คุณก็เอาเปรียบฉัน”

เธอจ้องอาฆาต เขาได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งตัวเธอ ทั้งลูก

“คุณจะหาว่าผมเอาเปรียบอีกไหม ถ้าผมให้เงินอีกสิบล้าน”

“ค่าอะไร!”

“ค่าอะไรแล้วแต่คุณจะคิด อาจเป็นค่าเสียเวลา ค่าเช่ามดลูก”

แต่ละคำที่ออกมาจากปากเจ็บจี๊ด และกรีดเนื้อ เฉือนใจ เวรุณีอยากรู้จริงๆ ในชีวิตธรณ์เจอผู้หญิงตอแหลถึงขั้นไหน จึงทำให้ทัศนคติเขาแย่เช่นนี้

“งั้นแฟร์ๆ ก็แล้วกัน ผมให้เวลาคุณตัดสินใจสามวัน จากนั้นจะมาเอาคำตอบ”

เขาแบมือทำท่ายอมแพ้ แต่เธอมองเป็นการล้อเลียนมากกว่า

“อย่าตุกติกเชียวนะเวรุณี ผมไม่ใช่คนใจดีอะไรนัก”

หญิงสาวเชื่อหมดใจ ธรณ์ไม่ใช่คนใจดี เขาร้ายกาจแถมยังบ้ามากอีกด้วย เวรุณีนอนคิดวิธีรับมือกับเขาทั้งคืน นอนไม่หลับจนต้องเปิดคอมพิวเตอร์เล่นเฟซบุค แล้วก็พบคำตอบ

พจนารถทำหน้างงตอนเธอยื่นจดหมายให้

“ฝากถึงผู้การวันพรุ่งนี้นะ”

“แล้วทำไมไม่เอาให้เอง”

“มีเหตุจำเป็นนิดหน่อย นารถ ...ขอบใจนะที่เป็นเพื่อนที่ดีของฉันมาตลอด”

เขารับฟังเธองงๆ หลังจากนอนคิดทั้งคืนจนหาทางออกได้ เธอจะหนีไปจังหวัดแถบอีสาน เพื่อนเก่าคนหนึ่งได้สามีเป็นสารวัตร

ธรณ์พูดเองว่าเขาเป็นนายธนาคาร อย่างไรเสียก็ต้องเคารพกฎหมาย หากเวรุณีอยู่ภายใต้ความคุ้มกันของตำรวจ เขาจะทำอะไรได้

งานก็ฝากจดหมายลาออกไปกับพจนารถแล้ว ส่วนเรื่องบ้านค่อยกลับมาจัดการทีหลัง ตอนนี้ขอหลบพายุร้ายที่ชื่อธรณ์ก่อน

“โหย! คิดถึงจัง ตัดสินใจมาปุ๊บปั๊บเลยนะเธอ”

ลลิตาเพื่อนเก่ามารับถึงสถานีขนส่งในตัวจังหวัด

“อุดมสมบรูณ์ขึ้นนะเนี่ย แม่สาวแบงค์”

เพื่อนล้อบีบลำแขนนิ่มขาวอวบ

“แล้วทิ้งน้องชายไว้ได้เหรอ เห็นตัวติดกันจะตาย”

“ไทม์ตายแล้ว”

ลลิตาหน้าสลด ตบหลังปลอบ หลังจากนั้นเธอไม่ถามอะไรเกี่ยวกับกรุงเทพฯเลย คิดว่าเวรุณีมาพักผ่อนทำใจเรื่องน้องชาย

จนกระทั่งวันที่สาม สามีลลิตากลับมาทานข้าวเย็นด้วยกันตามปรกติ เสียงกริ่งและรถตู้ดำเลี้ยวผ่านรั้วเข้ามา ร่างสูงของคนไม่อยากเจอปรากฏขึ้นแทนที่

“ใครน่ะ”

ลลิตาส่งสายตาอยากรู้ หลังจากผู้มาใหม่แจ้งว่าต้องการพบเพื่อน เวรุณีหน้าซีด อยากเป็นลมหนีไปให้เสียพ้นๆ

“มาคุยกันหน่อย ตามลำพัง คุณคงไม่อยากเล่าทุกเรื่องให้เพื่อนฟังหรอกจริงไหม”

ธรณ์กระซิบพอได้ยินกันสองคน

“ผมมาเอาคำตอบ”

ทั้งสองหยุดอยู่หลังบ้านซึ่งไกลตาผู้คน

“คำตอบของฉันคือไม่ค่ะ ขอปฏิเสธทุกข้อเสนอ”

เธอกอดออกอย่างถือดี ด้วยคิดว่าอยู่ในบ้านตำรวจ เขาคงไม่กล้าทำอะไรมาก

“คุณเล่นตุกติก คุณหนีมา”

คนมาตามเธอหรี่ตามองอย่างตำหนิ

“จะหนีหรือเปล่าก็เรื่องของฉัน แต่ตอนนี้คำตอบเรื่องที่คุณถามคือไม่ค่ะ กลับไปได้แล้ว”

“คิดเหรอว่าอยู่บ้านตำรวจแล้วจะช่วยคุณได้”

“ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ไม่มีใครหนีพ้นหรอกค่ะ”

“คุณเจ้าเล่ห์กว่าที่ผมคิดเยอะนะเวรุณี”

เขายกมือเท้าสะเอวหัวเสีย ดวงตาดำเข้มดุดัน

“ยังไงก็น้อยกว่าคุณละกัน”

“เอ่อ... ทิปจ้ะ”

ลลิตามายืนลับๆ ล่อๆ

“ยังไงทานข้าวเย็นกันก่อนไหมคะ แล้วค่อยคุยกันต่อทีหลัง”

ด้วยความเกรงใจและกลัวเพื่อนจะสงสัยมาก เธอจึงจำต้องพาเขาไปร่วมโต๊ะอาหารเย็นด้วย

Related chapters

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 5

    “คุณอยู่สายบังคับบัญชาของท่านพิรุณหรือเปล่าครับ”ธรณ์ที่เวรุณีแนะนำกับทุกคนว่าเพื่อนเริ่มคุยกับสามีลลิตา“ผมเจอท่านบ่อยๆ ในก๊วนกอล์ฟ ท่านเป็นเพื่อนพ่อผม”เขาเล่านิ่ง ใบหน้ายิ้ม แต่ทำคนฟังครั่นเกรงในความกว้างขวาง“กลับกันได้แล้ว ถ้าไม่อยากให้เพื่อนคุณเดือดร้อน”เมื่อเจ้าของบ้านเก็บจานชามเข้าครัว ปล่อยแขกนั่งในห้องรับรอง เขาก็เริ่มทำตามจุดประสงค์ต่อมา“คุณอย่าขู่เลยน่า”“ผมไม่ได้ขู่ แต่ทำได้จริง”“คุณแย่ที่สุด”เวรุณีต่อว่าและมองเขาอย่างไม่พอใจ“สายตาคุณบอกว่าผมยิ่งกว่าแย่ ...ชนิดด่าว่าเลวที่สุดเลย”ธรณ์พูดเหมือนมานั่งกลางใจ“ไม่เป็นไรผู้ชายเลวกับผู้หญิงตอแหล ก็เหมาะสมกันดี”เขาคว้าแขนเธอ ท่ามกลางการบิดรั้งหนีของเจ้าตัว“คุณลลิตาครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ผมกับเพื่อนคุณจะกลับแล้ว”ธรณ์ร้องบอกเจ้าของบ้าน“จริงๆ เราเป็นแฟนกัน เธองอนผมนิดหน่อย”ลลิตาพยักหน้าเลิกแคลงใจในท่าทางแปลกๆ ของสองคนนี้“ไปเก็บของ ถ้าคิดหนีอีก ผมจะจัดการคุณที่นี่ เดี๋ยวนี้ ต่อหน้าเพื่อนคุณนี่แหละ!”เขากระซิบขู่ได้ทั้งๆ หน้ายิ้มให้ลลิตา เวรุณีสะบัดมือที่หลุดจากการเกาะกุม ใบหน้าบึงตึง เข้าไปเก็บข้าวของในห้องส่วนตัวทันที

    Last Updated : 2024-11-18
  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 6

    “เดี๋ยวก่อนๆ”เวรุณียกมือข้างหนึ่งเป็นเชิงห้ามเมื่อรถแล่นเข้าสู่ตัวบ้าน เขากึ่งลากกึ่งจูงเธอ เข้าไปยังห้องหนึ่ง แล้วประตูก็ปิดลง“เรามีเรื่องต้องตกลงกัน”เธอบังคับเสียงไม่ให้ตระหนก เมื่อกวาดตาไปสะดุดกับเตียงใหญ่“ว่ามา...”เขาเดินเลี่ยงไปถอดเข็มขัดวางบนโต๊ะ ดึงเสื้อออกนอกกางเกง“เรื่องเงินสิบล้าน”เขาผินหน้าส่งยิ้มเยาะ“คุณจะได้ทันทีหลังลูกผมคลอด”“หน้าที่การงานต้องยังคงเดิม หลังท้องฉันต้องได้ชีวิตเดิมกลับมา”“ไหนคุณยื่นใบลาออกแล้วยังไงล่ะ”เขาย้อน เธอฝากมากับหนุ่มหน้าขาวท่าทางหงอๆ เลขาฯที่สั่งให้จับตาดูเวรุณี เอามารายงานแทบจะทันทีที่จดหมายถึงมือผู้จัดการเธอ“ก็...”หญิงสาวกลอกตา คิดหาคำแก้ตัว“ก็คุณตามฉันเจอแล้วนี่ เท่ากับการหนีเป็นโมฆะ”“คุณนี่ขี้โกงนะรู้ไหม”ธรณ์หันกลับมาเต็มตัวพร้อมแสยะยิ้มร้าย“ไม่เท่าคุณหรอกน่า”เวรุณีมองตาท้าทาย ไม่กลัวการข่มขู่นั้นเลย“ผู้ชายเลวกับผู้หญิงตอแหล เราสองคนก็พอๆ กันนะเวรุณี คุณมีชื่อเล่นไหม ชื่อจริงยาวเป็นบ้า”“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก คุณอยากเรียกฉันว่ายังไงก็เรียก”“หวงกระทั่งชื่อเล่นหรือยังไง”ธรณ์ไพล่นึกไปถึงแต่หนุ่มคนส่งจดหมายลาออกของเธอ“ยังไงเรา

    Last Updated : 2024-11-18
  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 7

    ปรกติธรณ์เป็นคนตื่นเช้า แม้จะทำงานดึกสักเพียงใด แต่วันนี้ชายหนุ่มพลิกตัวด้วยความเกียจคร้าน มือยาวควานไปทั่วเตียงกว้าง ก่อนค่อยๆ ลืมตา แล้วพบว่าตนอยู่เพียงลำพังเขานิ่วหน้ากัดฟันกรอดเมื่อระลึกได้ว่าเมื่อคืนใช้เวลาบนเตียงอยู่กับใคร เวรุณีหนีไปอีกแล้ว ผู้หญิงเลี้ยงไม่เชื่อง จอมโกหก!ธรณ์หยิบกางเกงบนพื้นมาใส่ลวกๆ เปลือยอกออกไปนอกห้อง สาวใช้ที่กำลังขึ้นบันไดมาถึงกับผวา ด้วยเจ้านายของบ้านหน้าถมึงทึง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผิดจากมาดเนี๊ยบๆ ที่เคย“เห็นผู้หญิงที่มากับฉันเมื่อคืนนี้ไหม”สาวใช้สั่นหน้า พอดีกับป้าเอื้อง แม่บ้านใหญ่ตั้งแต่รุ่นพ่อตามหลังเธอมาพอดี“เธออยู่ในห้องพระค่ะ”ธรณ์สาวเท้ายาวๆ ไปตามทางที่บอกทันที ร่างอวบอัดนั่งพับเพียบเหม่อมองพระพุทธรูปและโกศอัฐิบนหิ้ง เบื้องหน้าเธอมีกระเป๋าสตางค์บรรจุซองอัฐิที่เขาเคยเห็นวางเลยถัดจากหัวเข่าเขาคบกับผู้หญิงก็มาก ร่วมเตียงมาก็บ่อย เวรุณีคนเดียวเท่านั้นที่มาหลบอยู่ในห้องพระ“นั่นพ่อแม่กับน้องสาวผม”เธอสะดุ้งเฮือกหันขวับมองตาวาว เขากอดอกพิงไหล่สบายๆ กับกรอบประตู“ในโกศยังไงล่ะ”“คุณตื่นแล้วก็ดี ฉันจะได้กลับบ้าน”“กลับไปทำไม”ตาคมโลมเลียใบหน้ากระจ่

    Last Updated : 2024-12-10
  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 8

    “ฉันไม่ใช่เมียเก็บใคร!”เวรุณีตวาด ใบหน้าร้อนผ่าว ผู้มาใหม่กอดอกเอียงคอ เบ้ปาก“เออ! จริงด้วยสิเนอะ อ้วนออกอย่างนี้ ธรณ์คงไม่รสนิยมแย่ลงหรอก”“พูดดีๆ สิคุณ มาว่าคนเพิ่งเคยเจอกันอย่างนี้ เสียมารยาทนะ”เธอพยายามข่มอารมณ์ กำมือสองข้างแน่น“เธอมาอยู่ที่นี่มืดๆ ค่ำๆ ได้ยังไง แต่งตัวอย่างนี้เป็นพนักงานธนาคารธรณ์ใช่ไหม”ดวงตาแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีตสำรวจเธอ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“แล้วจะขึ้นไปชั้นสองทำไม นั่นน่ะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้านายนะ”“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”เวรุณีตีรวนเชิดคอบ้าง ผู้มาใหม่กลับมองเป็นท้าทาย“จองหองนักนะเธอ เป็นแค่พนักงานบริษัทเขาแท้ๆ รู้ไหมฉันเป็นใคร”“ไม่รู้สิคะ ฉันไม่ได้อัลไซเมอร์เหมือนคุณ กระทั่งไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร”ป้าเอื้องเลิกคิ้ว ทึ่งในพิษสงของสาวอวบ ส่วนอีกคนทิ้งแขนลงข้างตัว ปากสั่นเตรียมจะกรี๊ด“แก...แก”“ฉันไม่ได้ชื่อแกค่ะ ชื่อเวรุณี อยากรู้ว่าฉันเป็นใครก็ให้ถามคุณธรณ์เอง”ว่าแล้วก็เดินขึ้นบันได แต่ผมกลับโดนจิกทึ้ง กระทั่งเธอต้องยึดราวไว้ไม่ให้ล้ม“งั้นวันนี้เธอจะได้รู้ว่าฉันเป็นใคร”สาวคนนั้นออกแรงกระตุก จนศีรษะเวรุณีหงายเชิด จำต้องปล่อยมือ หน้าเหยเ

    Last Updated : 2024-12-10
  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 1

    รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างคันนั้นเคลื่อนออกไป ทิ้งไว้เพียงควันเทาจากท่อไอเสียลอยอ้อยอิ่ง ร่างอ่อนล้าเหลือเกินค่อยๆ เลื่อนประตูรั้วเหล็กเข้าทาวเฮ้าส์หลังเล็ก ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด เวรุณีเหลียวดูลานจอดรถซึ่งเว้าเข้าไปในบ้าน ใกล้หน้าต่าง ข้างระเบียง ...ว่างเปล่า ไร้มอเตอร์ไซด์นายเวลาผู้เป็นน้องชาย แสดงว่ายังไม่กลับเธอแบ่งแกงจืดเต้าหู้หมูสับและยำปลาทูใส่ตู้ไว้ให้ ส่วนตัวเองยกอาหารมาจัดการหน้าโทรทัศน์ ว่าจะลดมื้อเย็นแล้วเชียวแต่วันนี้เหนื่อยจริงๆ เงินหายไปยี่สิบห้าสตางค์ ต้องรื้องบบัญชีมาตรวจใหม่ ป้ายหน้าธนาคารบอกปิดบ่ายสามครึ่ง แต่ความจริงกว่าจะออกมาได้ก็เกือบหนึ่งทุ่มเวรุณีดูโทรทัศน์สลับกดโทรศัพท์มือถือติดต่อน้องชาย เวลาอายุครบยี่สิบเดือนหน้า กำลังจะจบปวส. เขาคุยกับเธอขอทำงานสักหนึ่งปี แล้วค่อยสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อแบ่งเบาภาระ เวรุณีไม่ขัดน้อง ดีเสียอีกจะได้มีเวลาตั้งตัวเก็บเงินบ้างเงินเดือนพนักงานธนาคารกับการกินอยู่สองปากในเมืองหลวง ทำเอาชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่บ่อยๆ โชคดีที่บ้านไม่ต้องผ่อน เพราะเป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่ผู้ล่วงลับหน้าจอตัดเข้าสู่ข่าวซึ่งในสื่อโซเซียลรายงานตัดหน้าไป

    Last Updated : 2024-11-18
  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 2

    เวรุณีใจหล่นวูบลงตาตุ่ม เมื่อสมองประมวลผลออก เสียงนี้เธอจำได้ ...ผู้ชายในโรงพยาบาล พี่ชายธิณา! เธอเหลียวหาผู้จัดการและหนุ่มซึ่งเคยอยู่กับเขาในโรงพยาบาล เห็นหลังทั้งสองไวๆ ก่อนประตูปิดลงหญิงสาวหน้าซีดตัวแข็งทื่อ ริมฝีปากสีเข้มบางเหยียดยิ้มร้าย ยกมือกอดอกพิงหลังกับหน้าต่าง ตาคมปลาบมองเธอตั้งแต่ตัวจรดเท้า“คะ...คุณตามฉันมาทำไม”เธอยังจำคำกล่าวหาร้ายกาจในโรงพยาบาลได้ ...เขาโทษเวลาพาธิณาไปตาย“ก็นี่บริษัทผม ...ผมเป็นซีอีโอ”เวรุณีไม่ได้จำชื่อผู้บริหารใหม่ เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวกับตน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคู่กรณีกับน้องชาย เขาเรียกมาอย่างนี้มีจุดประสงค์อะไร“คุณเป็นพนักงานยังไงน่ะฮึ! เวรุณี จำเจ้านายตัวเองไม่ได้”“เรื่องจำไม่ได้ฉันแย่เองค่ะ ฉันยอมรับ”หญิงสาวสูดลมหายใจเชิดหน้าเรียกความมั่นใจขึ้น ...ต้องไม่กลัว เขาทำอะไรเธอไม่ได้ เวรุณีไม่ใช่คนผิด“แต่ตามสายงานบังคับบัญหาคุณอยู่สูงสุด ฉันต่ำสุด ไม่เคยรู้จักคุณก็ไม่แปลก แล้วคุณเรียกฉันมามีอะไรเหรอคะ”แต่กระนั้นใจก็ยังอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้ เขาเรียกเธอมาไล่ออกหรือเปล่า ...พาลจริงๆ แต่คิดอีกทีหากถูกไล่ออกเธอก็ไม่สนใจ ดีเสียอีกเป็นการแสดงความรับผิด เหม

    Last Updated : 2024-11-18
  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 3

    “ถ้าไม่มีอะไร ดิฉันกลับแล้วนะคะท่านซีอีโอ จะไล่ฉันออกก็กรุณาจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานด้วย อ้อ! อย่าลืมแจ้งให้ฉันรู้ก่อนหนึ่งเดือนด้วยนะคะ”ทีแรกเวรุณีจะยอมรับการไล่ออก เดินไปจากที่นี่ดีๆ แต่เมื่อเขาแรงมาอย่างนี้ เธอก็แรงกลับ สมน้ำสมเนื้อกันดี“ลาล่ะค่ะ”ร่างกลมกลึงหันหลังเดินตัวปลิว เปิดประตูเข้าลิฟท์กลับไปชั้นสำนักงานตนด้วยใจเต้นระรัวทันทีบ้านที่มีเวรุณีเพียงลำพังนั้นเงียบเหงา เธอซื้อเพียงน้ำเต้าหู้เป็นมื้อเย็น เทใส่แก้วและเปิดโทรทัศน์ดูอย่างเหม่อลอย คิดถึงอนาคตอันลางเลือนของตน หากธรณ์ไล่ออก เศรษฐกิจแบบนี้จะไปสมัครงานที่ไหน จะกินอยู่อย่างไร จะใช้ชีวิตคนเดียวได้หรือไม่คิดด้วยสมองอันสับสนอยู่นานจนปวดหัว จึงไปอาบน้ำ แต่งตัวขึ้นไปไหว้พระในห้องชั้นบนของบ้าน ซึ่งมีอัฐิพ่อแม่และเวลา ระหว่างนั้นได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้านรัว รถคันงามสีดำปลาบจอดนิ่งอยู่“มาหาใครเหรอคะ”เวรุณียืนห่างประตูรั้วประมาณวา คะเนให้ ...หากคนกดออกเป็นผู้ร้ายเอื้อมไม่ถึงตัวเธอแน่“มาหาคุณนั่นแหละ เปิดประตูทีสิ”ธรณ์ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น“คุณมาที่นี่ได้ยังไง ทำไมรู้จักบ้านฉัน”เธอพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ในใจกลัวสุ

    Last Updated : 2024-11-18

Latest chapter

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 8

    “ฉันไม่ใช่เมียเก็บใคร!”เวรุณีตวาด ใบหน้าร้อนผ่าว ผู้มาใหม่กอดอกเอียงคอ เบ้ปาก“เออ! จริงด้วยสิเนอะ อ้วนออกอย่างนี้ ธรณ์คงไม่รสนิยมแย่ลงหรอก”“พูดดีๆ สิคุณ มาว่าคนเพิ่งเคยเจอกันอย่างนี้ เสียมารยาทนะ”เธอพยายามข่มอารมณ์ กำมือสองข้างแน่น“เธอมาอยู่ที่นี่มืดๆ ค่ำๆ ได้ยังไง แต่งตัวอย่างนี้เป็นพนักงานธนาคารธรณ์ใช่ไหม”ดวงตาแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีตสำรวจเธอ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“แล้วจะขึ้นไปชั้นสองทำไม นั่นน่ะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้านายนะ”“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”เวรุณีตีรวนเชิดคอบ้าง ผู้มาใหม่กลับมองเป็นท้าทาย“จองหองนักนะเธอ เป็นแค่พนักงานบริษัทเขาแท้ๆ รู้ไหมฉันเป็นใคร”“ไม่รู้สิคะ ฉันไม่ได้อัลไซเมอร์เหมือนคุณ กระทั่งไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร”ป้าเอื้องเลิกคิ้ว ทึ่งในพิษสงของสาวอวบ ส่วนอีกคนทิ้งแขนลงข้างตัว ปากสั่นเตรียมจะกรี๊ด“แก...แก”“ฉันไม่ได้ชื่อแกค่ะ ชื่อเวรุณี อยากรู้ว่าฉันเป็นใครก็ให้ถามคุณธรณ์เอง”ว่าแล้วก็เดินขึ้นบันได แต่ผมกลับโดนจิกทึ้ง กระทั่งเธอต้องยึดราวไว้ไม่ให้ล้ม“งั้นวันนี้เธอจะได้รู้ว่าฉันเป็นใคร”สาวคนนั้นออกแรงกระตุก จนศีรษะเวรุณีหงายเชิด จำต้องปล่อยมือ หน้าเหยเ

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 7

    ปรกติธรณ์เป็นคนตื่นเช้า แม้จะทำงานดึกสักเพียงใด แต่วันนี้ชายหนุ่มพลิกตัวด้วยความเกียจคร้าน มือยาวควานไปทั่วเตียงกว้าง ก่อนค่อยๆ ลืมตา แล้วพบว่าตนอยู่เพียงลำพังเขานิ่วหน้ากัดฟันกรอดเมื่อระลึกได้ว่าเมื่อคืนใช้เวลาบนเตียงอยู่กับใคร เวรุณีหนีไปอีกแล้ว ผู้หญิงเลี้ยงไม่เชื่อง จอมโกหก!ธรณ์หยิบกางเกงบนพื้นมาใส่ลวกๆ เปลือยอกออกไปนอกห้อง สาวใช้ที่กำลังขึ้นบันไดมาถึงกับผวา ด้วยเจ้านายของบ้านหน้าถมึงทึง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผิดจากมาดเนี๊ยบๆ ที่เคย“เห็นผู้หญิงที่มากับฉันเมื่อคืนนี้ไหม”สาวใช้สั่นหน้า พอดีกับป้าเอื้อง แม่บ้านใหญ่ตั้งแต่รุ่นพ่อตามหลังเธอมาพอดี“เธออยู่ในห้องพระค่ะ”ธรณ์สาวเท้ายาวๆ ไปตามทางที่บอกทันที ร่างอวบอัดนั่งพับเพียบเหม่อมองพระพุทธรูปและโกศอัฐิบนหิ้ง เบื้องหน้าเธอมีกระเป๋าสตางค์บรรจุซองอัฐิที่เขาเคยเห็นวางเลยถัดจากหัวเข่าเขาคบกับผู้หญิงก็มาก ร่วมเตียงมาก็บ่อย เวรุณีคนเดียวเท่านั้นที่มาหลบอยู่ในห้องพระ“นั่นพ่อแม่กับน้องสาวผม”เธอสะดุ้งเฮือกหันขวับมองตาวาว เขากอดอกพิงไหล่สบายๆ กับกรอบประตู“ในโกศยังไงล่ะ”“คุณตื่นแล้วก็ดี ฉันจะได้กลับบ้าน”“กลับไปทำไม”ตาคมโลมเลียใบหน้ากระจ่

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 6

    “เดี๋ยวก่อนๆ”เวรุณียกมือข้างหนึ่งเป็นเชิงห้ามเมื่อรถแล่นเข้าสู่ตัวบ้าน เขากึ่งลากกึ่งจูงเธอ เข้าไปยังห้องหนึ่ง แล้วประตูก็ปิดลง“เรามีเรื่องต้องตกลงกัน”เธอบังคับเสียงไม่ให้ตระหนก เมื่อกวาดตาไปสะดุดกับเตียงใหญ่“ว่ามา...”เขาเดินเลี่ยงไปถอดเข็มขัดวางบนโต๊ะ ดึงเสื้อออกนอกกางเกง“เรื่องเงินสิบล้าน”เขาผินหน้าส่งยิ้มเยาะ“คุณจะได้ทันทีหลังลูกผมคลอด”“หน้าที่การงานต้องยังคงเดิม หลังท้องฉันต้องได้ชีวิตเดิมกลับมา”“ไหนคุณยื่นใบลาออกแล้วยังไงล่ะ”เขาย้อน เธอฝากมากับหนุ่มหน้าขาวท่าทางหงอๆ เลขาฯที่สั่งให้จับตาดูเวรุณี เอามารายงานแทบจะทันทีที่จดหมายถึงมือผู้จัดการเธอ“ก็...”หญิงสาวกลอกตา คิดหาคำแก้ตัว“ก็คุณตามฉันเจอแล้วนี่ เท่ากับการหนีเป็นโมฆะ”“คุณนี่ขี้โกงนะรู้ไหม”ธรณ์หันกลับมาเต็มตัวพร้อมแสยะยิ้มร้าย“ไม่เท่าคุณหรอกน่า”เวรุณีมองตาท้าทาย ไม่กลัวการข่มขู่นั้นเลย“ผู้ชายเลวกับผู้หญิงตอแหล เราสองคนก็พอๆ กันนะเวรุณี คุณมีชื่อเล่นไหม ชื่อจริงยาวเป็นบ้า”“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก คุณอยากเรียกฉันว่ายังไงก็เรียก”“หวงกระทั่งชื่อเล่นหรือยังไง”ธรณ์ไพล่นึกไปถึงแต่หนุ่มคนส่งจดหมายลาออกของเธอ“ยังไงเรา

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 5

    “คุณอยู่สายบังคับบัญชาของท่านพิรุณหรือเปล่าครับ”ธรณ์ที่เวรุณีแนะนำกับทุกคนว่าเพื่อนเริ่มคุยกับสามีลลิตา“ผมเจอท่านบ่อยๆ ในก๊วนกอล์ฟ ท่านเป็นเพื่อนพ่อผม”เขาเล่านิ่ง ใบหน้ายิ้ม แต่ทำคนฟังครั่นเกรงในความกว้างขวาง“กลับกันได้แล้ว ถ้าไม่อยากให้เพื่อนคุณเดือดร้อน”เมื่อเจ้าของบ้านเก็บจานชามเข้าครัว ปล่อยแขกนั่งในห้องรับรอง เขาก็เริ่มทำตามจุดประสงค์ต่อมา“คุณอย่าขู่เลยน่า”“ผมไม่ได้ขู่ แต่ทำได้จริง”“คุณแย่ที่สุด”เวรุณีต่อว่าและมองเขาอย่างไม่พอใจ“สายตาคุณบอกว่าผมยิ่งกว่าแย่ ...ชนิดด่าว่าเลวที่สุดเลย”ธรณ์พูดเหมือนมานั่งกลางใจ“ไม่เป็นไรผู้ชายเลวกับผู้หญิงตอแหล ก็เหมาะสมกันดี”เขาคว้าแขนเธอ ท่ามกลางการบิดรั้งหนีของเจ้าตัว“คุณลลิตาครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ผมกับเพื่อนคุณจะกลับแล้ว”ธรณ์ร้องบอกเจ้าของบ้าน“จริงๆ เราเป็นแฟนกัน เธองอนผมนิดหน่อย”ลลิตาพยักหน้าเลิกแคลงใจในท่าทางแปลกๆ ของสองคนนี้“ไปเก็บของ ถ้าคิดหนีอีก ผมจะจัดการคุณที่นี่ เดี๋ยวนี้ ต่อหน้าเพื่อนคุณนี่แหละ!”เขากระซิบขู่ได้ทั้งๆ หน้ายิ้มให้ลลิตา เวรุณีสะบัดมือที่หลุดจากการเกาะกุม ใบหน้าบึงตึง เข้าไปเก็บข้าวของในห้องส่วนตัวทันที

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 4

    “กินอะไรเอ่ยทิป”เวรุณีสะดุ้งเฮือก พจนารถยิ้มเผล่วางจานข้าวแกงลง แล้วนั่งร่วมโต๊ะตรงหน้า“ข้าวมันไก่น่ะ แล้วนารถไปไหนทำไมวันนี้มาช้า”ปรกติเดินผ่านไปชงกาแฟจะเห็นเขานั่งที่โต๊ะ แต่วันนี้พจนารถกระหืดกระหอบมาเอาตอนสิบโมงเช้า“ลาสองชั่วโมง วันนี้ครบรอบวันตายแม่ เลยไปถวายภัตตาหารที่วัด”เธอมองเขาแล้วเปรียบเทียบกับตัวเอง สักวันเธอต้องมีรอยยิ้มมาจากใจจริง โดยไม่เสแสร้งว่าตัวเองเข้มแข็งดังที่เป็นอยู่“เมื่อวานนี้ซีอีโอคุณธรณ์เรียกทิปไป มีอะไรหรือเปล่า”ธนาคารสำนักงานใหญ่แห่งนี้ใหญ่โต แต่ก็ไม่เล็กนักสำหรับข่าวคราวต่างๆ ยิ่งเรื่องแปลกๆ อย่างผู้บริหารใหญ่เรียกพบพนักงานตำแหน่งเล็กๆ เพียงลำพัง“อ๋อ...”เวรุณียิ้มกลบเกลื่อน“เขา เอ๊ย! ท่านเป็นคนรู้จักกับพ่อแม่ฉันน่ะ เลยถามข่าวเรื่องไทม์”พจนารถเห็นว่าเป็นเรื่องเวลา ซึ่งกระทบใจเธอ เขาจึงไม่เซ้าซี้ถามต่อ แต่ชวนคุยเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็พอทำให้เวรุณียิ้มได้บ้าง“คาเฟทีเรียของเราสะอาด ได้รับรางวัลรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย ขายอาหารราคาถูกเพื่อลดภาระค่าครองชีพของพนักงาน”ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลอธิบายนำชมสถานที่อย่างตั้งอกตั้งใจ ธรณ์ทำทีเป็นฟัง สายตากวาด

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 3

    “ถ้าไม่มีอะไร ดิฉันกลับแล้วนะคะท่านซีอีโอ จะไล่ฉันออกก็กรุณาจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานด้วย อ้อ! อย่าลืมแจ้งให้ฉันรู้ก่อนหนึ่งเดือนด้วยนะคะ”ทีแรกเวรุณีจะยอมรับการไล่ออก เดินไปจากที่นี่ดีๆ แต่เมื่อเขาแรงมาอย่างนี้ เธอก็แรงกลับ สมน้ำสมเนื้อกันดี“ลาล่ะค่ะ”ร่างกลมกลึงหันหลังเดินตัวปลิว เปิดประตูเข้าลิฟท์กลับไปชั้นสำนักงานตนด้วยใจเต้นระรัวทันทีบ้านที่มีเวรุณีเพียงลำพังนั้นเงียบเหงา เธอซื้อเพียงน้ำเต้าหู้เป็นมื้อเย็น เทใส่แก้วและเปิดโทรทัศน์ดูอย่างเหม่อลอย คิดถึงอนาคตอันลางเลือนของตน หากธรณ์ไล่ออก เศรษฐกิจแบบนี้จะไปสมัครงานที่ไหน จะกินอยู่อย่างไร จะใช้ชีวิตคนเดียวได้หรือไม่คิดด้วยสมองอันสับสนอยู่นานจนปวดหัว จึงไปอาบน้ำ แต่งตัวขึ้นไปไหว้พระในห้องชั้นบนของบ้าน ซึ่งมีอัฐิพ่อแม่และเวลา ระหว่างนั้นได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้านรัว รถคันงามสีดำปลาบจอดนิ่งอยู่“มาหาใครเหรอคะ”เวรุณียืนห่างประตูรั้วประมาณวา คะเนให้ ...หากคนกดออกเป็นผู้ร้ายเอื้อมไม่ถึงตัวเธอแน่“มาหาคุณนั่นแหละ เปิดประตูทีสิ”ธรณ์ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น“คุณมาที่นี่ได้ยังไง ทำไมรู้จักบ้านฉัน”เธอพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ในใจกลัวสุ

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 2

    เวรุณีใจหล่นวูบลงตาตุ่ม เมื่อสมองประมวลผลออก เสียงนี้เธอจำได้ ...ผู้ชายในโรงพยาบาล พี่ชายธิณา! เธอเหลียวหาผู้จัดการและหนุ่มซึ่งเคยอยู่กับเขาในโรงพยาบาล เห็นหลังทั้งสองไวๆ ก่อนประตูปิดลงหญิงสาวหน้าซีดตัวแข็งทื่อ ริมฝีปากสีเข้มบางเหยียดยิ้มร้าย ยกมือกอดอกพิงหลังกับหน้าต่าง ตาคมปลาบมองเธอตั้งแต่ตัวจรดเท้า“คะ...คุณตามฉันมาทำไม”เธอยังจำคำกล่าวหาร้ายกาจในโรงพยาบาลได้ ...เขาโทษเวลาพาธิณาไปตาย“ก็นี่บริษัทผม ...ผมเป็นซีอีโอ”เวรุณีไม่ได้จำชื่อผู้บริหารใหม่ เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวกับตน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคู่กรณีกับน้องชาย เขาเรียกมาอย่างนี้มีจุดประสงค์อะไร“คุณเป็นพนักงานยังไงน่ะฮึ! เวรุณี จำเจ้านายตัวเองไม่ได้”“เรื่องจำไม่ได้ฉันแย่เองค่ะ ฉันยอมรับ”หญิงสาวสูดลมหายใจเชิดหน้าเรียกความมั่นใจขึ้น ...ต้องไม่กลัว เขาทำอะไรเธอไม่ได้ เวรุณีไม่ใช่คนผิด“แต่ตามสายงานบังคับบัญหาคุณอยู่สูงสุด ฉันต่ำสุด ไม่เคยรู้จักคุณก็ไม่แปลก แล้วคุณเรียกฉันมามีอะไรเหรอคะ”แต่กระนั้นใจก็ยังอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้ เขาเรียกเธอมาไล่ออกหรือเปล่า ...พาลจริงๆ แต่คิดอีกทีหากถูกไล่ออกเธอก็ไม่สนใจ ดีเสียอีกเป็นการแสดงความรับผิด เหม

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 1

    รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างคันนั้นเคลื่อนออกไป ทิ้งไว้เพียงควันเทาจากท่อไอเสียลอยอ้อยอิ่ง ร่างอ่อนล้าเหลือเกินค่อยๆ เลื่อนประตูรั้วเหล็กเข้าทาวเฮ้าส์หลังเล็ก ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด เวรุณีเหลียวดูลานจอดรถซึ่งเว้าเข้าไปในบ้าน ใกล้หน้าต่าง ข้างระเบียง ...ว่างเปล่า ไร้มอเตอร์ไซด์นายเวลาผู้เป็นน้องชาย แสดงว่ายังไม่กลับเธอแบ่งแกงจืดเต้าหู้หมูสับและยำปลาทูใส่ตู้ไว้ให้ ส่วนตัวเองยกอาหารมาจัดการหน้าโทรทัศน์ ว่าจะลดมื้อเย็นแล้วเชียวแต่วันนี้เหนื่อยจริงๆ เงินหายไปยี่สิบห้าสตางค์ ต้องรื้องบบัญชีมาตรวจใหม่ ป้ายหน้าธนาคารบอกปิดบ่ายสามครึ่ง แต่ความจริงกว่าจะออกมาได้ก็เกือบหนึ่งทุ่มเวรุณีดูโทรทัศน์สลับกดโทรศัพท์มือถือติดต่อน้องชาย เวลาอายุครบยี่สิบเดือนหน้า กำลังจะจบปวส. เขาคุยกับเธอขอทำงานสักหนึ่งปี แล้วค่อยสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อแบ่งเบาภาระ เวรุณีไม่ขัดน้อง ดีเสียอีกจะได้มีเวลาตั้งตัวเก็บเงินบ้างเงินเดือนพนักงานธนาคารกับการกินอยู่สองปากในเมืองหลวง ทำเอาชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่บ่อยๆ โชคดีที่บ้านไม่ต้องผ่อน เพราะเป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่ผู้ล่วงลับหน้าจอตัดเข้าสู่ข่าวซึ่งในสื่อโซเซียลรายงานตัดหน้าไป

DMCA.com Protection Status