ทุกคนต่างมองการแสดงของซือเมี่ยวด้วยความตกตะลึง การร่ายรำนั้นพวกเขาคุ้นชินกันอยู่แล้ว ทว่าท่วงท่าร่ายรำที่หมุนตัวไปมา พร้อมกับกระโดดฉีกขาอย่างแข็งแรงของซือเมี่ยวนั้นช่างน่าตกตะลึงเหลือเกิน ซ่งเฟยฉีเหม่อมองร่างอันพลิ้วไหวของซือเมี่ยวอย่างไม่วางตา ในขณะที่เซี่ยลู่เหวินมองสตรีในดวงใจด้วยความภาคภูมิใจในตัวนางนางช่างทำให้เขาประหลาดใจได้ทุกครั้งเลย!แปะ แปะ แปะ!!"งดงามและน่าตื่นเต้นยิ่งนัก เจ้าช่างทำให้ข้ากับทุกคนประหลาดใจเหลือเกิน การร่ายรำเมื่อครู่นี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ช่างเป็นท่วงท่าที่พลิ้วไหวอ่อนหวานทว่ากลับแข็งแรง โดยเฉพาะท่าฉีกขาตอนจบของเจ้านั้นทำข้าประหลาดใจนัก คนเราจะสามารถฉีกขากว้างให้ราบไปกับพื้นได้เลยหรือ"ฮ่องเต้ตรัสขึ้นด้วยความชื่นชม พระองค์ตราตรึงใจกับการแสดงของซือเมี่ยวมาก"เอ่อ... นี่เป็นการระบำที่หม่อมคิดค้นด้วยตนเองเพคะ"ซือเมี่ยวหน้าตาเลิ่กลั่กเมื่อนางรู้ว่าตัวเองพลาดไปเสียแล้ว จะอ้างว่ามีคนสอนก็ไม่ได้เพราะนางไม่รู้จักใครเลย มีแต่ต้องบอกว่าคิดด้วยตนเองเท่านั้น นางไม่คิดว่าที่นี่จะยังไม่เคยมีการร่ายรำ
บทที่ 23มีคนรักอยู่แล้ว ซือเมี่ยวได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตกใจมากเกินไปนัก แม้นางจะประหลาดใจที่เขาไม่ได้เลือกจูหลิ่งฟางก่อน ทว่าจากอะไรหลาย ๆ อย่างก็ทำให้นางมั่นใจว่าคนที่จะได้รับเลือกจากรุ่ยอ๋องก็คงเป็นตัวนาง หรือไม่ก็จูหลิ่งฟางผู้นั้น ทว่านางก็มิได้ยินยอมที่จะแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วหญิงสาวผู้ถูกรับเลือกให้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์พลันคลี่ยิ้มหวานออกมา นางหันไปสบตากับซ่งเฟยฉีก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้เขาเกรี้ยวกราด"หม่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเพคะที่รุ่ยอ๋องอยากจะแต่งงานกับหม่อมฉัน ทว่า... หม่อมฉันมีคนรักอยู่แล้ว จึงมิอาจจะรับความรักของรุ่ยอ๋องได้ โปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ"สิ้นคำพูดของซือเมี่ยว ภายในห้องโถงที่จัดงานเลี้ยงพลันเงียบเสียงลง หากแม้นว่าเข็มหล่นลงพื้นย่อมจะได้ยินกันถ้วนทั่วเป็นแน่"เจ้าว่าอย่างไรนะ! นี่เจ้าคิดจะหยามเกียรติข้าเช่นนั้นหรือ""หามิได้เพคะ อนึ่งหม่อมฉันคงต้องทูลตามจริงว่าหม่อมฉันนั้นเป็นสตรีที่เคยถูกถอนหมั้นมาก่อน ทว่าคนรักของหม่อมฉันกลับยอมรับเรื่องนี้ได้ เราสองจึงตกลงป
“....?!”สายตาอันแข็งกร้าวตวัดมองไปยังบัลลังก์มังกรของฮ่องเต้แคว้นถัง ก่อนจะปรายตาไปทางซ่งเฟยฉีอย่างไม่นึกหวั่นเกรง"หากผู้ใดยังกล้าบีบบังคับสตรีของข้าไม่เลิกรา กองทัพเกราะทองแห่งแคว้นเซี่ยก็พร้อมจะทำศึกทันที!!"สิ้นเสียงคำประกาศนี้ของเซี่ยลู่เหวิน ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างพากันตกตะลึง โดยเฉพาะถังหนิงเฉิงกับจูหลิ่งฟางที่มองมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองฮ่องเต้ตรัสขึ้นด้วยสีพระพักตร์ที่เปลี่ยนไป "ที่แท้คนรักของเจ้าก็เป็นฮ่องเต้เซี่ยลู่เหวินนี่เอง ในเมื่อรู้เช่นนี้ข้าย่อมไม่ทำให้แคว้นเซี่ยต้องขุ่นเคืองใจเป็นแน่ ทั้งยังจะช่วยจัดงานมงคลนี้ของพวกท่านทั้งสองที่แคว้นถังอย่างยิ่งใหญ่ด้วย""ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเข้าใจ แล้วรุ่ยอ๋องเล่าคิดอยากจะแต่งงานกับนางอีกหรือไม่"ซ่งเฟยฉีกำหมัดแน่นเมื่อต้องพ่ายแพ้ให้กับฮ่องเต้หนุ่มตรงหน้า ใจของเขาอยากจะแย่งชิงซือเมี่ยวมาจากอีกฝ่ายนัก ทว่าเพราะการเจรจากันครั้งก่อนนั้นทำให้เขามิอาจกระทำการอย่างไร้สติได้"ในเมื่อนางเป็นว่าที่ฮองเฮาของฝ่าบาท ข้าก็มิคิดจะแย่งชิงมาพ่ะย่ะค่ะ""ได
บทที่ 24 แต้มพรหมจรรย์ ซือเมี่ยวลอบนับถือจูหลิ่งฟางในใจที่กล้าเอ่ยเช่นนี้ออกมาได้ ทว่านี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่กลับเป็นการสร้างปัญหามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก คิดว่าพูดเช่นนี้แล้วจะสามารถหลบหนีการแต่งงานได้อย่างนั้นหรือ ช่างน่าขันนัก! "รู้หรือไม่ว่าโกหกเบื้องสูงจะต้องโทษเช่นไร!" สวีฮองเฮาทรงตรัสถามจูหลิ่งฟางอีกครั้ง ในขณะที่หวังเสียนเฟยแทบจะเป็นลมไปเสียแล้ว "หม่อมฉันมิกล้าโกหกเพคะ เพียงแต่นี่เป็นความจริงที่หม่อมฉันไม่อาจจะโป้ปดต่อหน้าของรุ่ยอ๋องและทุกคนได้เพคะ" "ดี! หลัวมามาเจ้าไปตรวจสอบแต้มพรหมจรรย์ของนางเสีย หากไม่มีข้าจะให้นางได้แต่งงานเป็นพระชายารองของจวิ้นอ๋อง
ซ่งเฟยฉียังไม่ยอมหยุดเพียงแค่นั้น ในเมื่อแคว้นถังหมิ่นเกียรติของเขาก่อนก็ต้องชดเชยให้เขาเสียบ้าง เพียงแค่การแต่งงานกับจูหลิ่งฟางคงไม่เพียงพอให้เขาหยุดสงครามได้! "ฝ่าบาท... ทรงไม่คิดว่าการแต่งงานครั้งนี้มีปัญหาหรือพ่ะย่ะค่ะ" "รุ่ยอ๋องหมายจะพูดว่าอะไรกันแน่" ฮ่องเต้ทรงหวาดระแวงกับสีหน้าแย้มยิ้มของรุ่ยอ๋องผู้นี้ "กระหม่อมคิดว่าเราควรจะเชื่อมสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีกนะพ่ะย่ะค่ะ น้องสาวของกระหม่อมเป็นถึงองค์หญิงสามที่ถึงวัยออกเรือนพอดีเลย ตัวนางเองก็ชื่นชมจวิ้นอ๋องมิน้อย มิสู้ให้จวิ้นอ๋องได้แต่งงานกับองค์หญิงสามดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ" "ได้! ภายในสามเดือนนี้จะมีงานมงคลคู่ระหว่างแคว้นถังกับแคว้นซ่ง" เซี่ยลู่เหวินที่นั่งมองความรื่นเริงนี้มานานก็อดจะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้บ้าง "เห็นทีงานมงคลนี้จะไม่ได้มีเพียงสองคู่เท่านั้น เพราะหลังจากนี้ภายในสามเดือนข้าเองก็จะส่งคนมาสู่ขอซือเมี่ยวไปเป็นฮองเฮาเช่นกัน ถือเป็นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไปด้วยเลยดีหรือไม่ ฝ่าบาทเห็นว่าอย่างไร"
บทที่ 25คนผิดคือนาง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น รุ่ยอ๋องกลับแคว้นของตนโดยถือหนังสือสงบศึกยี่สิบปีกับแคว้นถัง ตัวเขาได้นำตัวจูหลิ่งฟางที่เพิ่งดีขึ้นกลับไปด้วยเลย โดยให้เหตุผลว่าเขานั้นอยากจะรีบแต่งงานกับนางโดยไว ทว่าแท้จริงแล้วเพราะต้องการอยากจะลงโทษนางที่กล้าดูหมิ่นเขาต่อหน้าผู้คนต่างหากเล่า"เจ้าเป็นชายารองของข้าแล้วก็จงทำตัวดี ๆ ซะ เผื่อข้าจะยอมเมตตาเจ้าบ้าง"ฝ่ามือหนาบีบลำคอระหงของจูหลิ่งฟางอย่างไม่ออมแรง นางช่างเป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามนัก ช่างน่าเสียดายที่ตัวนางนั้นกลับโง่เขลาเบาปัญญา"ฮึก ๆ ท่านอ๋องโปรดเมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ"จูหลิ่งฟางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เมื่อคืนนี้นางถูกซ่งเฟยฉีรังแกทั้งคืนจนปวดระบมไปทั้งตัว ตัวเขาแม้อายุจะมากแล้วทว่ากำลังวังชายังเหลือล้น ทั้งยังชมชอบการร่วมรักแบบพิสดารด้วย เมื่อคืนนี้เขาได้เอาเทียนมาลนกับผิวกายของนางจนปวดแสบปวดร้อนไปหมด ทั้งยังทุบตีนางขณะที่เสพสมบนกายของนางด้วย"ข้าย่อมต้องเมตตาคนงามเช่นเจ้าอยู่แล้วสิ คืนนี้ก็จงเตรียมตัวให้พร้อมด้วยเล่า ข้าเพิ
"ใช่แล้ว เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไรกับคนที่กล้าหลอกลวงเจ้ากันเล่า""ข้าย่อมต้องทำให้นางเสียใจที่กล้าหลอกลวงข้า เช่นนั้นแผนการที่เสด็จอาวางเอาไว้ข้าจะเข้าร่วมโดยไม่บ่ายเบี่ยงเลย หากเสด็จอาชิงบัลลังก์มาได้แล้ว ขอเสด็จอายกซือเมี่ยว และคนตระกูลซือทั้งหมดให้กับข้าได้หรือไม่"ถังจ้าวหย่งมองดูถังหนิงเฉิงด้วยความพอใจ "แล้วเจ้าไม่ต้องการตำแหน่งใดเลยหรือ""แล้วแต่เสด็จอาจะเมตตาประทานให้ข้า ขอเพียงได้ซือเมี่ยวมาอยู่ในกำมือของข้าก็เพียงพอแล้ว""ได้! หากข้าได้บัลลังก์จะยกนางให้กับเจ้า ทั้งยังยอมทำศึกกับแคว้นเซี่ยเพื่อเจ้าด้วย เพราะข้าเองก็ต้องการครอบครองแคว้นเซี่ยเช่นกัน""เช่นนั้นก็ขอให้แผนการของเราราบรื่น จอกนี้กระหม่อมขอดื่มให้กับฮ่องเต้พระองค์ใหม่พ่ะย่ะค่ะ"ถังหนิงเฉิงยกจอกสุราคารวะถังจ้าวหย่งด้วยความนอบน้อม สร้างความพึงพอใจให้กับถังจ้าวหย่งเป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ผิดเลยที่ใช้ซือเมี่ยวมาเป็นเหยื่อล่อให้ถังหนิงเฉิงร่วมมือกับเขา! เซี่ยลู่เหวินยังคงอยู่ที่แคว้นถัง โดยเขายังมีภารกิจที่จะต้องทำนั่นก็คือผ่านด่านพ่อตา ซ
บทที่ 26กบฏชินอ๋อง หลังจากที่เซี่ยลู่เหวินพูดคุยเรื่องสำคัญกับซือเหลียงเสร็จแล้ว เขาก็ได้ขอตัวมาพบกับซือเมี่ยวเสียก่อน เพราะวันพรุ่งเขาจะต้องกลับแคว้นเซี่ยเพื่อเตรียมการเรื่องงานแต่งงาน"เมี่ยวเมี่ยว พรุ่งนี้ข้าจะต้องกลับแคว้นเซี่ยแล้ว ภายในสามเดือนเราสองก็จะได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้ว เจ้าเต็มใจหรือไม่"ซือเมี่ยวมองค้อนบุรุษตรงหน้า เขาจัดการทุกอย่างพร้อมสรรพแล้วยังจะมาถามนางอีกทำไมเล่า"ความเห็นของข้าสำคัญด้วยหรือเจ้าคะ ในเมื่อท่านจัดการทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่การเตรียมงานเท่านั้นเอง"เซี่ยลู่เหวินรีบตรงเข้ามาจับมือนุ่มนิ่มของซือเมี่ยว "ข้าขอโทษที่ไม่ปรึกษาเจ้าก่อน ทว่าวันนั้นพวกเขาบีบคั้นเจ้าจนข้ามิอาจอยู่เฉยได้อีกแล้ว แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่เจ้าคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วมิใช่หรือไร" สายตาคู่คมทอดมองสตรีตรงหน้าอย่างรู้ทันเขารู้ว่านางต้องการเช่นไร เขาจึงได้กล้าพูดเช่นนั้นออกไปอย่างไรเล่า มิเช่นนั้นหากนางไม่ยินยอมคงได้คัดค้านคำพูดของเขาไปแล้ว แต่นี่นางกลับนั่งยิ้มเฉยราวกับเป็นคนนอกเสียไ
ตอนพิเศษ 7ความซุกซนของเด็กน้อย "เสด็จพ่อทรงวิ่งเร็ว ๆ สิพ่ะย่ะค่ะ ลูกอยากไปหาเสด็จแม่เร็ว ๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ"'เซี่ยหยางหลง' องค์ชายใหญ่ผู้เป็นแฝดพี่เอ่ยเร่งเร้าพระราชบิดา ขณะที่ตัวเขาวิ่งนำหน้าไปก่อนเป็นคนแรก โดยมี 'เซี่ยหยางเฟิ่ง' องค์หญิงใหญ่ผู้เป็นแฝดน้องจับชายอาภรณ์ของเซี่ยลู่เหวินเดินตามมาไม่ห่าง เหตุเพราะพวกเขาเดินมาอย่างเชื่องช้าเพราะในอ้อมแขนซ้ายขวาของเซี่ยลู่เหวินนั้นได้อุ้ม 'เซี่ยหยางเหวิน' องค์ชายรองผู้เป็นแฝดผู้พี่ กับ 'เซี่ยหยางเจี้ยน' องค์ชายสามผู้เป็นแฝดผู้น้องผู้ใดจะคาดคิดว่าซือเมี่ยวให้กำเนิดฝาแฝดถึงสองคู่ โดยคู่แรกคือคู่หงส์มังกรส่วนคู่ที่สองคือคู่มังกร อายุของฝาแฝดทั้งสองคู่ห่างกันเพียงหนึ่งปีเท่านั้น!"พวกเจ้าช้า ๆ หน่อยเถิด พ่อยังอุ้มอาเหวินกับอาเจี้ยนจะให้ไปเร็วได้อย่างไร" เซี่ยลู่เหวินเอ่ยตอบบุตรชายคนโตด้วยความเหนื่อยใจ กายสูงรู้สึกเหนื่อยหอบยิ่งนัก เพราะต้องอุ้มเจ้าก้อนแป้งที่ตัวหนักจนแขนของเขาแทบจะหลุด และจะไม่อุ้ม
ตอนพิเศษ 6พร้อมหน้าพร้อมตา วันเวลาผ่านไปซือเมี่ยวก็ได้ให้กำเนิดคู่หงส์มังกรแก่เซี่ยลู่เหวินซึ่งหาได้ยากยิ่ง ทว่านางกลับสามารถให้กำเนิดเด็กที่สวรรค์ประทานให้มาอย่างง่ายดาย การคลอดก็แสนจะราบรื่น แม้นางจะเจ็บปวดเหมือนกับร่างกำลังจะแตกสลาย ทว่าความเจ็บนี้คงอยู่ไม่นานนัก เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าก้อนแป้งทั้งสองก็ลืมความเจ็บปวดไปเสียสิ้น คงเหลือไว้เพียงความดีใจเท่านั้น..."ยินดีกับฝ่าบาทด้วยเพคะ ฮองเฮาทรงให้กำเนิดองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยเพคะ เป็นคู่หงส์มังกรที่สวรรค์ประทานให้เพคะ" รั่วรั่วกับมิ่งจูอุ้มทารกที่อยู่ในผ้าแพรสีแดงไปตรงหน้าของเซี่ยลู่เหวิน การรอคอยที่แสนทรมานได้สิ้นสุดลงเสียที เขาต้องยืนรอนางอยู่หน้าห้องคลอดโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ความกังวลที่มีพลันมลายหายไปสิ้น เมื่อได้พบหน้าของเจ้าก้อนแป้งทั้งสองที่เขาเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน"อ่า... นี่ข้าได้ลูกแฝดชายหญิงเลยหรือนี่" เซี่ยลู่เหวินอุทานออกมาด้วยความตกใจและดีใจ คราแรกเขายังคิดว่าอาจจะได
ตอนพิเศษ 5เจ้าก้อนแป้งมาแล้ว ผลสุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดผ่านการคัดเลือกเป็นพระสนมเลยสักคนเดียว นั่นจึงทำให้เหล่าขุนนางต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังต้องอับอายเมื่อบุตรสาวที่เลี้ยงดูมาอย่างดียังต้องถูกลงโทษโบย 60 ไม้ และต้องสูญเงินอีกกว่า 60,000 ตำลึงทองเลย "ฝ่าบาท นี่มันไม่ยุติธรรมนะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางหนึ่งในเก้าคนขึ้นมาเป็นพระสนมนะพ่ะย่ะค่ะ" แม่ทัพหลี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจนัก"ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งการที่ต้องไปช่วยดูแลคนป่วยนั้นเป็นหน้าที่ของบ่าวรับใช้นะพ่ะย่ะค่ะ หาใช่หน้าที่ของพระสนมไม่ ขอฝ่าบาททรงไตร่ตรองด้วยพ่ะย่ะค่ะ" มู่จื้อหยางรีบเอ่ยขึ้นทันที"อย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าพวกนางทำไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ ดูอย่างฮองเฮาสิ ทุกวันนี้นางยังอยู่ที่เมืองจิงเพื่อเฝ้าดูแลผู้ป่วยอยู่เลย ทั้งนางยังเป็นคนออกความคิดเรื่องการดูแลผู้ป่วย ทำให้ตอนนี้สามารถควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ เจ้าลองบอกกับข้าสิว่าพวกนางนั้นคู่ควรที่จะมาเป็นพระสนมของข้าหรือไ
ตอนพิเศษ 4ผู้ชนะ ด่านที่สองจัดขึ้นในสามวันให้หลัง โดยให้แต่ละคนแสดงความสามารถของศิลปะทั้ง 4 ออกมา เริ่มจากการดีดฉิน หมากล้อม เขียนอักษร และวาดภาพ พวกนางจะต้องทำได้ดีทั้ง 4 อย่าง หากพลาดเพียงนิดจะถูกคัดให้ออกทันที โดยครั้งนี้มีสตรีที่ผ่านด่านที่สองทั้งหมด 20 นาง "คุณหนูที่ไม่ผ่านด่านทดสอบเชิญก้าวออกมาข้างหน้าด้วยเจ้าค่ะ" มิ่งจูเอ่ยขึ้นหลังจากประกาศผลแล้ว"..." สตรีทั้งสอบก้าวออกมาด้านหน้าด้วยความอับอาย พวกนางพลาดเพียงนิดเดียวก็ถูกคัดออกโดยไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย ช่างน่าเจ็บใจนัก"คุณหนูที่ถูกคัดออกจะต้องโทษโบยคนละ 40 ไม้ และจ่ายค่าด่านทดสอบ 2 ด่านรวมเป็น 20,000 ตำลึงทองเจ้าค่ะ""ว่าอย่างไรนะ! มิใช่แค่โดนลงโทษโบย 20 ไม้และเงินอีก 10,000 ตำลึงทองหรือ เหตุใดถึงเพิ่มเป็นเท่าตัวเช่นนี้เล่า"มิ่งจูหันไปยิ้มหวานให้กับบุตรีของท่านรองเสนาบดี "เรียนคุณหนูท่านนี้ โทษโบยจะถูกเพิ่มด่านละ 20 ไม้เจ้าค่ะ เช่นเดียวกับการท
ตอนพิเศษ 3การทดสอบด่านแรก เพียงประโยคเดียวของซือเมี่ยวก็ได้สร้างคลื่นลมให้กับราชสำนักแล้ว หลังจากเซี่ยลู่เหวินจากไปเขาก็ได้นำคำพูดของซือเมี่ยวไปขบคิด ก่อนจะรู้สึกเห็นด้วยกับนางที่อยากจะจัดการบ้านเมืองให้เรียบร้อยเสียก่อนถึงจะยอมมีบุตรชายหญิงได้ เมื่อนี่เป็นความต้องการของนางเขาย่อมไม่คัดค้าน มีแต่จะสนับสนุนเพื่อให้นางมั่นใจแล้วยอมตั้งครรภ์ลูกในท้องของเขาเสียที"เจ้าจงนำสารลับนี้ส่งไปยังเมืองชายแดนทันที" เซี่ยลู่เหวินเขียนจดหมายสำคัญให้ไปส่งเว่ยหมิงจิ้นที่อยู่ชายแดนที่อยู่ติดกับแคว้นซ่ง เวลานี้เขากับถังหนิงหลงได้ร่วมมือกันที่จะตีแคว้นซ่งแล้ว รอเพียงไม่นานจะต้องเอาชัยเหนือแคว้นซ่งเป็นแน่ "พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" ขันทีข้างกายน้อมรับคำสั่ง"แล้วก็ไปบอกกับจงเหยาด้วยว่าข้าให้ซื้อปืนยาวไฟของพวกตาสีฟ้า มีเท่าไหร่ก็ซื้อทั้งหมดแล้วส่งไปให้แม่ทัพเว่ย การศึกครั้งนี้เห็นทีจะต้องพึ่งปืนไฟพวกนี้เสียแล้ว""แต่ปืนไฟพวกนี้มีราคาแพงมากเลยไม่ใช่ห
ตอนพิเศษ 2การแข่งขันของสาวงาม จวนตระกูลเป็นมู่จื้อหยางรีบนำข่าวดีนี้มาบอกบุตรสาวด้วยความยินดียิ่ง ในที่สุดฝ่าบาทก็มิอาจขัดความต้องการของเหล่าขุนนางได้ แม้ในราชโองการจะมีข้อบังคับหลายประการ อีกทั้งพระสนมที่จะถูกแต่งตั้งก็เป็นเพียงพระสนมขั้นผิน หาใช่ขั้นเฟยที่เขาต้องการให้บุตรสาวไม่ ทว่านี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เขาเชื่อว่าเมื่อฝ่าบาทได้ยลโฉมบุตรสาวอีกครั้งจะต้องหลงใหลนางอย่างแน่นอน และอาจจะมากกว่าฮองเฮาผู้เป็นคนต่างแคว้นนั่นด้วย!"เมิ่งเอ๋อร์ ในที่สุดฝ่าบาทก็มีราชโองการรับพระสนมเข้าวังแล้ว เจ้าจะต้องแย่งชิงตำแหน่งนั้นมาให้จงได้ เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อโปรดวางใจ ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้ฝ่าบาทหลุดมือข้าไปอีกเป็นครั้งที่สอง และตำแหน่งฮองเฮาของแผ่นดินจะต้องเป็นของข้าเจ้าค่ะ" 'มู่ซูเมิ่ง' บุตรีเพียงคนเดียวของมู่จื้อหยางเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ครั้งนั้นนางพลาดตำแหน่งฮองเฮาไปเพราะฝ่าบาทยังไม่เคยพบหน้านางเลยสักครั้ง นางไม่เชื่อหรอกว่าด้วยรูปโฉมและความสาม
ตอนพิเศษ 1ขอแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่ซือเมี่ยวได้ขึ้นเป็นฮองเฮาช่วยปกครองแคว้นเซี่ยร่วมกับเซี่ยลู่เหวิน ที่ผ่านมานางก็ตั้งใจศึกษางานและทำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยเหลือชาวประชา นำความรู้ที่เคยได้รับเมื่อชีวิตครั้งก่อนมาปรับใช้กับคนที่นี่ ทำให้คนแคว้นเซี่ยมีความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ราษฎร์ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญว่าฮองเฮาทรงเป็นสตรีที่มากด้วยปัญญา เหมาะสมกับฮ่องเต้กับพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง ทว่าจะมีเพียงแค่หนึ่งเรื่องที่ขุนนางในราชสำนักมิอาจปล่อยวางได้ นั่นก็คือการที่ฮ่องเต้ของพวกเขาไม่ยอมรับพระสนมเข้าสู่วังหลังเลย นี่ถือเป็นเรื่องที่พวกเขามิอาจยอมรับได้โดยง่าย แม้จะยำเกรงในอำนาจของเซี่ยลู่เหวิน แต่เพราะต้องการผลประโยชน์เช่นกันพวกเขาจึงได้ยื่นฎีกาเรื่องรับพระสนมในเช้าวันนี้"นี่มันเรื่องอะไรกัน! พวกเจ้าไม่คิดจะห่วงใยราษฎร์รายงานเรื่องโรคระบาดในทิศทักษิณ และเรื่องการรบของแคว้นซ่งบ้างเลยหรือ" เซี่ยลู่เหวินโยนฎีกาฉบับนั้นทิ้งลงพื้นด้วยความกริ้ว เขาเบ
บทส่งท้าย หลังจากทั้งคู่พากันเสร็จสมไปแล้วครั้งแรก เซี่ยลู่เหวินก็ได้อุ้มซือเมี่ยวที่หมดแรงจากการควบขี่เขาไปวางบนโต๊ะกลางห้อง เนื่องจากเตียงหักเสียแล้วมิอาจใช้นอนได้อีก เขาเดินไปหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาปกปิดร่างกายของนางและตนเอง ก่อนจะเดินออกไปสั่งให้คนเตรียมห้องให้เขาใหม่ เว่ยหมิงจิ้นและมิ่งจูต่างพากันสงสัย แต่ก็ทำตามคำสั่งของเจ้านายแต่โดยดี ทว่าเมื่อพวกเขาเข้ามายังในห้องกลับต้องพบกับความตกใจ องค์รัชทายาทช่างรุนแรงกับพระชายายิ่งนัก ค่ำคืนแรกยังหนักหน่วงถึงเพียงนี้เลยหรือนี่..."อื้อ... ท่านพี่ ยังไม่พออีกหรือเจ้าคะ"เมื่อย้ายมาห้องใหม่แล้ว เซี่ยลู่เหวินก็ยังเข้ามาคลอเคลียนางไม่ห่าง ริมฝีปากร้อนลวกจูบเม้มไปตามแผ่นหลังเล็กของซือเมี่ยว"พี่ขออีกสักครั้งนะเมี่ยวเมี่ยว เจ้าลองจับดูสิ" เซี่ยลู่เหวินจับมือเล็กของนางให้ไปกอบกุมแท่งหยกของตน ที่เวลานี้ได้ขยายใหญ่จนแม้แต่นางก็ยังกำไม่รอบเลย บ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขามีอารมณ์อย่างมาก อยากจะกลืนกินนางอีกแล้ว
"อ่า..."จูบของเซี่ยลู่เหวินนั้นร้อนแรงมาก เขาจูบนางอย่างเนิ่นนานก่อนจะเริ่มขยับสะโพกสอบอย่างช้า ๆ เพื่อให้นางคุ้นชินกับความใหญ่โตของเขา กายแกร่งแตะครูดไปที่ผนังเนื้ออ่อนนุ่มด้านในอย่างแนบแน่น"อื้อ... ท่านพี่ อึก! ข้าจุกเจ้าค่ะ""อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะคุ้นชินแล้วล่ะเมี่ยวเมี่ยว"เซี่ยลู่เหวินเอ่ยปลอบหญิงสาวที่มีใบหน้าบิดเบี้ยวจากความเจ็บและจุก ก่อนที่เขาจะเร่งจังหวะเร็วขึ้นทีละนิด ในตอนนี้ตัวเขาเองก็รู้สึกปวดหนึบเช่นกัน ภายในของนางช่างคับแน่นยิ่ง ทำเอาเขาแทบจะหายใจไม่ออก พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่โหมกระหน่ำเข้าไปในกายของนาง หากทำเช่นนั้นนางคงเจ็บปวดน่าดู"อ๊ะ อ๊ะ อ๊า"เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชิน ความรู้สึกเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดนั้น ซือเมี่ยวร้องครวญครางออกมาอย่างมีความสุข กายสาวโยกคลอนไปตามการขยับของคนบนร่าง กลีบดอกไม้งามเบื้องล่างรัดรึงเข้าหาท่อนลำขนาดใหญ่ของเซี่ยลู่เหวิน สะโพกมนโยกขยับไปตามการชักจูงของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ บทรักของพวกเขาจึงยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"อ๊า... ซี๊ด เจ้ารัดพี่แน่นเหลือเกิน"