ตอนพิเศษ 6พร้อมหน้าพร้อมตา วันเวลาผ่านไปซือเมี่ยวก็ได้ให้กำเนิดคู่หงส์มังกรแก่เซี่ยลู่เหวินซึ่งหาได้ยากยิ่ง ทว่านางกลับสามารถให้กำเนิดเด็กที่สวรรค์ประทานให้มาอย่างง่ายดาย การคลอดก็แสนจะราบรื่น แม้นางจะเจ็บปวดเหมือนกับร่างกำลังจะแตกสลาย ทว่าความเจ็บนี้คงอยู่ไม่นานนัก เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าก้อนแป้งทั้งสองก็ลืมความเจ็บปวดไปเสียสิ้น คงเหลือไว้เพียงความดีใจเท่านั้น..."ยินดีกับฝ่าบาทด้วยเพคะ ฮองเฮาทรงให้กำเนิดองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยเพคะ เป็นคู่หงส์มังกรที่สวรรค์ประทานให้เพคะ" รั่วรั่วกับมิ่งจูอุ้มทารกที่อยู่ในผ้าแพรสีแดงไปตรงหน้าของเซี่ยลู่เหวิน การรอคอยที่แสนทรมานได้สิ้นสุดลงเสียที เขาต้องยืนรอนางอยู่หน้าห้องคลอดโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ความกังวลที่มีพลันมลายหายไปสิ้น เมื่อได้พบหน้าของเจ้าก้อนแป้งทั้งสองที่เขาเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน"อ่า... นี่ข้าได้ลูกแฝดชายหญิงเลยหรือนี่" เซี่ยลู่เหวินอุทานออกมาด้วยความตกใจและดีใจ คราแรกเขายังคิดว่าอาจจะได
ตอนพิเศษ 7ความซุกซนของเด็กน้อย "เสด็จพ่อทรงวิ่งเร็ว ๆ สิพ่ะย่ะค่ะ ลูกอยากไปหาเสด็จแม่เร็ว ๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ"'เซี่ยหยางหลง' องค์ชายใหญ่ผู้เป็นแฝดพี่เอ่ยเร่งเร้าพระราชบิดา ขณะที่ตัวเขาวิ่งนำหน้าไปก่อนเป็นคนแรก โดยมี 'เซี่ยหยางเฟิ่ง' องค์หญิงใหญ่ผู้เป็นแฝดน้องจับชายอาภรณ์ของเซี่ยลู่เหวินเดินตามมาไม่ห่าง เหตุเพราะพวกเขาเดินมาอย่างเชื่องช้าเพราะในอ้อมแขนซ้ายขวาของเซี่ยลู่เหวินนั้นได้อุ้ม 'เซี่ยหยางเหวิน' องค์ชายรองผู้เป็นแฝดผู้พี่ กับ 'เซี่ยหยางเจี้ยน' องค์ชายสามผู้เป็นแฝดผู้น้องผู้ใดจะคาดคิดว่าซือเมี่ยวให้กำเนิดฝาแฝดถึงสองคู่ โดยคู่แรกคือคู่หงส์มังกรส่วนคู่ที่สองคือคู่มังกร อายุของฝาแฝดทั้งสองคู่ห่างกันเพียงหนึ่งปีเท่านั้น!"พวกเจ้าช้า ๆ หน่อยเถิด พ่อยังอุ้มอาเหวินกับอาเจี้ยนจะให้ไปเร็วได้อย่างไร" เซี่ยลู่เหวินเอ่ยตอบบุตรชายคนโตด้วยความเหนื่อยใจ กายสูงรู้สึกเหนื่อยหอบยิ่งนัก เพราะต้องอุ้มเจ้าก้อนแป้งที่ตัวหนักจนแขนของเขาแทบจะหลุด และจะไม่อุ้ม
บทนำภายในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยเครื่องทองและเงินอย่างระยิบระยับ สตรีนางหนึ่งกำลังนั่งเขียนอักษรอยู่บนโต๊ะหนังสือด้วยท่าทางเคร่งเครียด ดวงหน้าหวานขมวดคิ้วจนแทบเป็นปมแน่น ริมฝีปากเล็กที่อวบอิ่มขบเม้มเมื่อได้อ่านตัวอักษรที่ตัวเองเขียนลงไปในกระดาษ ดวงตากลมโตที่มีขนตาเรียงเส้นเป็นแพหนาหลับตาลงอย่างคนปลงตก ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น 'ซือเมี่ยว' เจ้าของผู้มีใบหน้างดงามอ่อนหวานราวกับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ บุตรีคนโตของท่านเสนาบดีกรมคลังที่สูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก นางผู้เป็นคู่หมั้นของจวิ้นอ๋องโอรสลำดับที่ห้าของฮ่องเต้กับพระสนมเสียนเฟย และนางคือนางร้ายที่มีจุดจบอย่างอนาถในนิยายเรื่อง 'ลิขิตรักบุปผางาม' นางก็คือสตรีผู้นั้นนั่นเอง!!ทว่าในตอนนี้ดวงวิญญาณที่อยู่ในร่างของนี้หาใช่ซือเมี่ยวผู้เป็นนางร้ายไม่ แต่เป็นดวงวิญญาณของดาราสาวเจ้าบทบาทที่เล่นแต่บทนางเอกเจ้าน้ำตา นางคือคนที่จะมาเปลี่ยนโชคชะตาอันเลวร้ายของซือเมี่ยวให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ต้องไปสนใจคู่หมั้นที่แอบพลอดรักกับสหายสนิทอีกต่อไป แต่ควรเดินหน้าตามหารักครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิมผู้ที่ดีคือผู้ใหม่! นั
"คุณหนู... นะ นี่เป็นเพราะฮูหยินรองกลั่นแกล้งให้เงินคุณหนูน้อยกว่าความเป็นจริงต่างหากเจ้าค่ะ"ดวงตาคู่สวยสว่างวาบเมื่อคิดสิ่งใดออก "ข้ารู้แล้วว่าจะทำอย่างไร ขอบใจเจ้ามากนะมิ่งจูที่เอ่ยเตือนเรื่องนี้กับข้า""เจ้าค่ะ" มิ่งจูยิ้มกว้างที่ถูกคุณหนูเอ่ยชมเช่นนี้"เจ้าออกไปเรียกช่างตัดอาภรณ์มาตามเดิมเถิด ข้ามีหนทางแล้วล่ะว่าจะหาเงินได้อย่างไร แล้วอย่าลืมกำชับช่างด้วยเล่าว่าข้าขอผ้าเป็นโทนสีอ่อนอย่างเช่นสีชมพูกลีบบัว สีเหลืองสีส้มของสีใบไม้ร่วง สีเขียวของหยก และสีฟ้าของท้องฟ้าด้วยเล่า ตอนนี้ข้าไม่อยากสวมอาภรณ์สีแดง สีน้ำเงิน และสีม่วงแล้ว ใส่แล้วดูมีอายุเกินไปนัก""เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ"มิ่งจูรับคำทั้งที่มีคำถามอยู่ในใจ ทว่าสาวใช้เช่นนางมิควรซักถามผู้เป็นนาย มีแต่ต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น"เดี๋ยวก่อน! เจ้าแอบไปที่หอเฟิ่งจือให้ข้าด้วย บอกกับคนดูแลว่าข้าต้องการไปพบเจ้าของหอในอีกสามวันข้างหน้า ข้ามีข่าวที่น่าเชื่อถือได้ไปแลกเปลี่ยนกับเขา แต่จงจำไว้ว่าอย่าให้ผู้ใดพบเห็นเจ้าเป็นอันขาด""เจ้าค่ะคุณหนู" มิ่งจูรับคำเสียงเบา ก่อนจะไปทำตามที่คุณหนูบอกอย่างเคร่งครัดเช้าวันต่อมาซือเมี่ยวได้
บทที่ 1ซือเมี่ยวผู้รู้ความซือเหลียงเข้ามาหาบุตรสาวคนโตในเย็นวันนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปความหวั่นใจทว่าดวงตากลับมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ซือเมี่ยวพอจะคาดเดาได้ว่าบิดาจะมาเอ่ยเรื่องอะไร เพราะหากเป็นตามในนิยายหลังจากซือเมี่ยวคนเก่ารู้เรื่องนี้จะอาละวาดใหญ่โตทันที แล้วความสัมพันธ์พ่อลูกก็จะยิ่งเหินห่างขึ้นเรื่อย ๆ"เมี่ยวเอ๋อร์ พ่อมีเรื่องสำคัญจะมาบอกเจ้า และต้องการจะมาไถ่โทษขอให้เจ้าอย่าได้ถือสาความไม่รู้จักคิดของแม่รองเจ้าเลย ต่อไปพ่อจะให้พ่อบ้านสอดส่องเรื่องนี้จะไม่ทำให้เจ้าต้องได้รับความไม่เป็นธรรมอีก และพ่อจะมอบเงิน 500 ตำลึงทองเพื่อขอให้เจ้าให้อภัยแม่รอง เจ้าจะว่าอย่างไร" ซือเหลียงมองหน้าบุตรสาวด้วยความคาดหวัง หลายวันมานี้พ่อบ้านมารายงานว่าบุตรสาวของเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เขาเองก็หวังว่านางจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่"ข้าเองก็ไม่ได้นึกโกรธเคืองแม่รองหรอกเจ้าค่ะ เพียงแค่แปลกใจกับจำนวนเงินที่ได้รับจึงเอ่ยออกไปเช่นนั้น และแม่รองมาล้มป่วยเพราะข้าอีกข้ายิ่งไม่สบายใจนัก" ดวงตาคู่สวยมองบิดาด้วยความกังวลใจ เรียกความเอ็นดูให้แก่ผู้เป็นบิดาเป็นอย่างมาก"เจ้าคิดได้เช่นนี้ก็ดีแล้ว เราเป็นครอบครัวเดี
โรงน้ำชาซือเมี่ยวเข้าไปนั่งรอคู่หมั้นหนุ่มและสหายที่ห้องรับรองด้านในสุด นางนั่งรอไม่นานทั้งสองก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกัน จากรอยยิ้มละมุนที่จวิ้นอ๋องมอบให้สหายของนางนั้นพลันเรียบตึง เมื่อเห็นว่าซือเมี่ยวที่ควรจะมาสายทุกครั้งกลับมาก่อน ทั้งสองที่เดินจนแทบไหล่ชนกันพลันรีบแยกห่างกันทันที"วันนี้เจ้ามาเร็วยิ่งนัก"'จูหลิ่งฟาง' บุตรีคนเล็กของรองเสนาบดีกรมยุติธรรมเอ่ยเสียงใส นางรีบเดินไปนั่งข้างสหายพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเหลือบมองจวิ้นอ๋องที่นั่งตรงข้ามกับซือเมี่ยว"ข้ามีเรื่องยินดีจะมาบอกเจ้าเลยรีบมาเร็วกว่าทุกที" ซือเมี่ยวหันไปยิ้มหวานที่ไปไม่ถึงดวงตากับจวิ้นอ๋อง "ท่านอ๋องลองชิมขนมดอกกุ้ยฮวาดูสิเพคะ"ซือเมี่ยวเลื่อนจานขนมไปตรงหน้าของจวิ้นอ๋อง ทว่าตัวเขาหาได้สนใจไม่ กลับเลือกที่จะหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินให้ตัวเอง แล้วยังเผื่อแผ่ไปให้จูหลิ่งฟางด้วย'ถังหนิงเฉิง' โอรสคนสำคัญของฮ่องเต้แห่งแคว้นถัง กำเนิดจากพระสนมเสียนเฟยจากตระกูลหวังผู้เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เพราะต้องการให้บุตรชายมีอำนาจหนุนหลังจากตระกูลขุนนางชั้นสูง ฮ่องเต้และพระสนมเสียนเฟยจึงได้เลือกซือเมี่ยวมาเป็นพระชายาเอก"ว
บทที่ 2นายท่านแห่งหอเฟิ่งจือซือเมี่ยวเดินทางมาที่หอเฟิ่งจือพร้อมกับมิ่งจู ทั้งสองใช้ผ้าคลุมหน้าปิดบังใบหน้าของตนเพื่อไม่ให้ผู้ใดจำได้ ด้วยเรื่องที่จะมาพูดคุยกับนายท่านหอเฟิ่งจือคือเรื่องที่สำคัญมาก มิควรให้คนนอกพบเห็นการมาเยือนของนางผู้เป็นถึงบุตรีคนโตของท่านเสนาบดีกรมคลัง"นัดไว้แล้ว" มิ่งจูชูป้ายไม้ที่คนของหอเฟิ่งจือให้นางเมื่อครั้งก่อน คนดูแลรับมาดูก่อนจะเชิญพวกนางทั้งสองไปยังห้องชั้นบน อันเป็นสถานที่ที่สงวนไว้ให้กับแขกสูงศักดิ์ของนายท่านแห่งหอเฟิ่งจือซือเมี่ยวกวาดตามองโดยรอบอย่างพิจารณา ในนิยายที่นางอ่านมิได้บอกถึงตัวตนของเจ้าของหอเฟิ่งจือ เขาเป็นแค่ตัวประกอบที่ช่วยให้จวิ้นอ๋องกับองค์รัชทายาทเอาชนะชินอ๋องผู้เป็นตัวร้ายได้ ไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นผู้ใดกันแน่"ถึงแล้วขอรับ อีกสักครู่ข้าน้อยจะไปเชิญนายท่านให้มาพบขอรับ""ขอบใจเจ้ามาก" มิ่งจูยื่นก้อนตำลึงเงินให้บุรุษผู้นั้น ซือเมี่ยวนั่งลงบนเก้าอี้ที่บุนวมอย่างดี ในขณะที่มิ่งจูยืนอยู่ทางด้านหลัง นางกวาดสายตามองการตกแต่งห้องที่ดูเรียบง่าย ทว่าข้าวของทุกชิ้นล้วนเป็นของที่มีราคาแพงทั้งสิ้น ผิดกับห้องของนางที่ตกแต่งอย่างไร้ร
"แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านี่เป็นเรื่องจริง มิใช่ข่าวลวงที่คุณหนูจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรอกหรือ""นายท่านลู่ก็สืบเอาเองสิเจ้าคะว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ" นางยักไหล่ราวกับไม่สนใจ"ได้! ข้าจะส่งคนไปสืบเรื่องนี้ ถ้านี่เป็นเรื่องที่คุณหนูโป้ปดขึ้นมาเองก็ขอให้เตรียมตัวรับผลที่จะตามมาด้วยเล่า"ลู่เหวินเอ่ยขู่สตรีตรงหน้า ทว่าในแววตาของนางกลับไม่ได้สั่นไหวเพราะคำขู่ของเขาเลยแม้แต่น้อย นี่ยิ่งทำให้ลู่เหวินรู้สึกว่านางอาจจะพูดจริงก็เป็นได้"แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง นายท่านลู่ก็ต้องจ่ายค่าข่าวมาให้ข้าหนึ่งแสนตำลึงทองพร้อมกับช่วยเหลือข้าเล็ก ๆ น้อยด้วยนะเจ้าคะ""คุณหนูไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยหรือ"ลู่เหวินคิ้วกระตุกที่ได้ยินจำนวนเงินมากมายถึงเพียงนี้ ซือเมี่ยวผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ช่างหน้าเลือดมิต่างจากบิดาผู้เป็นเสนาบดีกรมคลัง"ไม่มากเกินไปหรอก เพราะข้ายังจะแถมที่ซ่อนคลังอาวุธของชินอ๋องให้ท่านด้วย"ซือเมี่ยวยักคิ้วให้กับลู่เหวิน นางเป็นถึงคนที่เคยอ่านนิยายมาเลยนะ เรื่องสำคัญเช่นนี้จะไม่รู้ได้อย่างไรกันเล่า"ว่าอย่างไรนะ!"ลู่เหวินที่เคยสุขุมพลันยินดีจนกักเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่มิด
ตอนพิเศษ 7ความซุกซนของเด็กน้อย "เสด็จพ่อทรงวิ่งเร็ว ๆ สิพ่ะย่ะค่ะ ลูกอยากไปหาเสด็จแม่เร็ว ๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ"'เซี่ยหยางหลง' องค์ชายใหญ่ผู้เป็นแฝดพี่เอ่ยเร่งเร้าพระราชบิดา ขณะที่ตัวเขาวิ่งนำหน้าไปก่อนเป็นคนแรก โดยมี 'เซี่ยหยางเฟิ่ง' องค์หญิงใหญ่ผู้เป็นแฝดน้องจับชายอาภรณ์ของเซี่ยลู่เหวินเดินตามมาไม่ห่าง เหตุเพราะพวกเขาเดินมาอย่างเชื่องช้าเพราะในอ้อมแขนซ้ายขวาของเซี่ยลู่เหวินนั้นได้อุ้ม 'เซี่ยหยางเหวิน' องค์ชายรองผู้เป็นแฝดผู้พี่ กับ 'เซี่ยหยางเจี้ยน' องค์ชายสามผู้เป็นแฝดผู้น้องผู้ใดจะคาดคิดว่าซือเมี่ยวให้กำเนิดฝาแฝดถึงสองคู่ โดยคู่แรกคือคู่หงส์มังกรส่วนคู่ที่สองคือคู่มังกร อายุของฝาแฝดทั้งสองคู่ห่างกันเพียงหนึ่งปีเท่านั้น!"พวกเจ้าช้า ๆ หน่อยเถิด พ่อยังอุ้มอาเหวินกับอาเจี้ยนจะให้ไปเร็วได้อย่างไร" เซี่ยลู่เหวินเอ่ยตอบบุตรชายคนโตด้วยความเหนื่อยใจ กายสูงรู้สึกเหนื่อยหอบยิ่งนัก เพราะต้องอุ้มเจ้าก้อนแป้งที่ตัวหนักจนแขนของเขาแทบจะหลุด และจะไม่อุ้ม
ตอนพิเศษ 6พร้อมหน้าพร้อมตา วันเวลาผ่านไปซือเมี่ยวก็ได้ให้กำเนิดคู่หงส์มังกรแก่เซี่ยลู่เหวินซึ่งหาได้ยากยิ่ง ทว่านางกลับสามารถให้กำเนิดเด็กที่สวรรค์ประทานให้มาอย่างง่ายดาย การคลอดก็แสนจะราบรื่น แม้นางจะเจ็บปวดเหมือนกับร่างกำลังจะแตกสลาย ทว่าความเจ็บนี้คงอยู่ไม่นานนัก เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าก้อนแป้งทั้งสองก็ลืมความเจ็บปวดไปเสียสิ้น คงเหลือไว้เพียงความดีใจเท่านั้น..."ยินดีกับฝ่าบาทด้วยเพคะ ฮองเฮาทรงให้กำเนิดองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยเพคะ เป็นคู่หงส์มังกรที่สวรรค์ประทานให้เพคะ" รั่วรั่วกับมิ่งจูอุ้มทารกที่อยู่ในผ้าแพรสีแดงไปตรงหน้าของเซี่ยลู่เหวิน การรอคอยที่แสนทรมานได้สิ้นสุดลงเสียที เขาต้องยืนรอนางอยู่หน้าห้องคลอดโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ความกังวลที่มีพลันมลายหายไปสิ้น เมื่อได้พบหน้าของเจ้าก้อนแป้งทั้งสองที่เขาเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน"อ่า... นี่ข้าได้ลูกแฝดชายหญิงเลยหรือนี่" เซี่ยลู่เหวินอุทานออกมาด้วยความตกใจและดีใจ คราแรกเขายังคิดว่าอาจจะได
ตอนพิเศษ 5เจ้าก้อนแป้งมาแล้ว ผลสุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดผ่านการคัดเลือกเป็นพระสนมเลยสักคนเดียว นั่นจึงทำให้เหล่าขุนนางต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังต้องอับอายเมื่อบุตรสาวที่เลี้ยงดูมาอย่างดียังต้องถูกลงโทษโบย 60 ไม้ และต้องสูญเงินอีกกว่า 60,000 ตำลึงทองเลย "ฝ่าบาท นี่มันไม่ยุติธรรมนะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางหนึ่งในเก้าคนขึ้นมาเป็นพระสนมนะพ่ะย่ะค่ะ" แม่ทัพหลี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจนัก"ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งการที่ต้องไปช่วยดูแลคนป่วยนั้นเป็นหน้าที่ของบ่าวรับใช้นะพ่ะย่ะค่ะ หาใช่หน้าที่ของพระสนมไม่ ขอฝ่าบาททรงไตร่ตรองด้วยพ่ะย่ะค่ะ" มู่จื้อหยางรีบเอ่ยขึ้นทันที"อย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าพวกนางทำไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ ดูอย่างฮองเฮาสิ ทุกวันนี้นางยังอยู่ที่เมืองจิงเพื่อเฝ้าดูแลผู้ป่วยอยู่เลย ทั้งนางยังเป็นคนออกความคิดเรื่องการดูแลผู้ป่วย ทำให้ตอนนี้สามารถควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ เจ้าลองบอกกับข้าสิว่าพวกนางนั้นคู่ควรที่จะมาเป็นพระสนมของข้าหรือไ
ตอนพิเศษ 4ผู้ชนะ ด่านที่สองจัดขึ้นในสามวันให้หลัง โดยให้แต่ละคนแสดงความสามารถของศิลปะทั้ง 4 ออกมา เริ่มจากการดีดฉิน หมากล้อม เขียนอักษร และวาดภาพ พวกนางจะต้องทำได้ดีทั้ง 4 อย่าง หากพลาดเพียงนิดจะถูกคัดให้ออกทันที โดยครั้งนี้มีสตรีที่ผ่านด่านที่สองทั้งหมด 20 นาง "คุณหนูที่ไม่ผ่านด่านทดสอบเชิญก้าวออกมาข้างหน้าด้วยเจ้าค่ะ" มิ่งจูเอ่ยขึ้นหลังจากประกาศผลแล้ว"..." สตรีทั้งสอบก้าวออกมาด้านหน้าด้วยความอับอาย พวกนางพลาดเพียงนิดเดียวก็ถูกคัดออกโดยไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย ช่างน่าเจ็บใจนัก"คุณหนูที่ถูกคัดออกจะต้องโทษโบยคนละ 40 ไม้ และจ่ายค่าด่านทดสอบ 2 ด่านรวมเป็น 20,000 ตำลึงทองเจ้าค่ะ""ว่าอย่างไรนะ! มิใช่แค่โดนลงโทษโบย 20 ไม้และเงินอีก 10,000 ตำลึงทองหรือ เหตุใดถึงเพิ่มเป็นเท่าตัวเช่นนี้เล่า"มิ่งจูหันไปยิ้มหวานให้กับบุตรีของท่านรองเสนาบดี "เรียนคุณหนูท่านนี้ โทษโบยจะถูกเพิ่มด่านละ 20 ไม้เจ้าค่ะ เช่นเดียวกับการท
ตอนพิเศษ 3การทดสอบด่านแรก เพียงประโยคเดียวของซือเมี่ยวก็ได้สร้างคลื่นลมให้กับราชสำนักแล้ว หลังจากเซี่ยลู่เหวินจากไปเขาก็ได้นำคำพูดของซือเมี่ยวไปขบคิด ก่อนจะรู้สึกเห็นด้วยกับนางที่อยากจะจัดการบ้านเมืองให้เรียบร้อยเสียก่อนถึงจะยอมมีบุตรชายหญิงได้ เมื่อนี่เป็นความต้องการของนางเขาย่อมไม่คัดค้าน มีแต่จะสนับสนุนเพื่อให้นางมั่นใจแล้วยอมตั้งครรภ์ลูกในท้องของเขาเสียที"เจ้าจงนำสารลับนี้ส่งไปยังเมืองชายแดนทันที" เซี่ยลู่เหวินเขียนจดหมายสำคัญให้ไปส่งเว่ยหมิงจิ้นที่อยู่ชายแดนที่อยู่ติดกับแคว้นซ่ง เวลานี้เขากับถังหนิงหลงได้ร่วมมือกันที่จะตีแคว้นซ่งแล้ว รอเพียงไม่นานจะต้องเอาชัยเหนือแคว้นซ่งเป็นแน่ "พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" ขันทีข้างกายน้อมรับคำสั่ง"แล้วก็ไปบอกกับจงเหยาด้วยว่าข้าให้ซื้อปืนยาวไฟของพวกตาสีฟ้า มีเท่าไหร่ก็ซื้อทั้งหมดแล้วส่งไปให้แม่ทัพเว่ย การศึกครั้งนี้เห็นทีจะต้องพึ่งปืนไฟพวกนี้เสียแล้ว""แต่ปืนไฟพวกนี้มีราคาแพงมากเลยไม่ใช่ห
ตอนพิเศษ 2การแข่งขันของสาวงาม จวนตระกูลเป็นมู่จื้อหยางรีบนำข่าวดีนี้มาบอกบุตรสาวด้วยความยินดียิ่ง ในที่สุดฝ่าบาทก็มิอาจขัดความต้องการของเหล่าขุนนางได้ แม้ในราชโองการจะมีข้อบังคับหลายประการ อีกทั้งพระสนมที่จะถูกแต่งตั้งก็เป็นเพียงพระสนมขั้นผิน หาใช่ขั้นเฟยที่เขาต้องการให้บุตรสาวไม่ ทว่านี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เขาเชื่อว่าเมื่อฝ่าบาทได้ยลโฉมบุตรสาวอีกครั้งจะต้องหลงใหลนางอย่างแน่นอน และอาจจะมากกว่าฮองเฮาผู้เป็นคนต่างแคว้นนั่นด้วย!"เมิ่งเอ๋อร์ ในที่สุดฝ่าบาทก็มีราชโองการรับพระสนมเข้าวังแล้ว เจ้าจะต้องแย่งชิงตำแหน่งนั้นมาให้จงได้ เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อโปรดวางใจ ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้ฝ่าบาทหลุดมือข้าไปอีกเป็นครั้งที่สอง และตำแหน่งฮองเฮาของแผ่นดินจะต้องเป็นของข้าเจ้าค่ะ" 'มู่ซูเมิ่ง' บุตรีเพียงคนเดียวของมู่จื้อหยางเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ครั้งนั้นนางพลาดตำแหน่งฮองเฮาไปเพราะฝ่าบาทยังไม่เคยพบหน้านางเลยสักครั้ง นางไม่เชื่อหรอกว่าด้วยรูปโฉมและความสาม
ตอนพิเศษ 1ขอแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่ซือเมี่ยวได้ขึ้นเป็นฮองเฮาช่วยปกครองแคว้นเซี่ยร่วมกับเซี่ยลู่เหวิน ที่ผ่านมานางก็ตั้งใจศึกษางานและทำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยเหลือชาวประชา นำความรู้ที่เคยได้รับเมื่อชีวิตครั้งก่อนมาปรับใช้กับคนที่นี่ ทำให้คนแคว้นเซี่ยมีความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ราษฎร์ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญว่าฮองเฮาทรงเป็นสตรีที่มากด้วยปัญญา เหมาะสมกับฮ่องเต้กับพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง ทว่าจะมีเพียงแค่หนึ่งเรื่องที่ขุนนางในราชสำนักมิอาจปล่อยวางได้ นั่นก็คือการที่ฮ่องเต้ของพวกเขาไม่ยอมรับพระสนมเข้าสู่วังหลังเลย นี่ถือเป็นเรื่องที่พวกเขามิอาจยอมรับได้โดยง่าย แม้จะยำเกรงในอำนาจของเซี่ยลู่เหวิน แต่เพราะต้องการผลประโยชน์เช่นกันพวกเขาจึงได้ยื่นฎีกาเรื่องรับพระสนมในเช้าวันนี้"นี่มันเรื่องอะไรกัน! พวกเจ้าไม่คิดจะห่วงใยราษฎร์รายงานเรื่องโรคระบาดในทิศทักษิณ และเรื่องการรบของแคว้นซ่งบ้างเลยหรือ" เซี่ยลู่เหวินโยนฎีกาฉบับนั้นทิ้งลงพื้นด้วยความกริ้ว เขาเบ
บทส่งท้าย หลังจากทั้งคู่พากันเสร็จสมไปแล้วครั้งแรก เซี่ยลู่เหวินก็ได้อุ้มซือเมี่ยวที่หมดแรงจากการควบขี่เขาไปวางบนโต๊ะกลางห้อง เนื่องจากเตียงหักเสียแล้วมิอาจใช้นอนได้อีก เขาเดินไปหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาปกปิดร่างกายของนางและตนเอง ก่อนจะเดินออกไปสั่งให้คนเตรียมห้องให้เขาใหม่ เว่ยหมิงจิ้นและมิ่งจูต่างพากันสงสัย แต่ก็ทำตามคำสั่งของเจ้านายแต่โดยดี ทว่าเมื่อพวกเขาเข้ามายังในห้องกลับต้องพบกับความตกใจ องค์รัชทายาทช่างรุนแรงกับพระชายายิ่งนัก ค่ำคืนแรกยังหนักหน่วงถึงเพียงนี้เลยหรือนี่..."อื้อ... ท่านพี่ ยังไม่พออีกหรือเจ้าคะ"เมื่อย้ายมาห้องใหม่แล้ว เซี่ยลู่เหวินก็ยังเข้ามาคลอเคลียนางไม่ห่าง ริมฝีปากร้อนลวกจูบเม้มไปตามแผ่นหลังเล็กของซือเมี่ยว"พี่ขออีกสักครั้งนะเมี่ยวเมี่ยว เจ้าลองจับดูสิ" เซี่ยลู่เหวินจับมือเล็กของนางให้ไปกอบกุมแท่งหยกของตน ที่เวลานี้ได้ขยายใหญ่จนแม้แต่นางก็ยังกำไม่รอบเลย บ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขามีอารมณ์อย่างมาก อยากจะกลืนกินนางอีกแล้ว
"อ่า..."จูบของเซี่ยลู่เหวินนั้นร้อนแรงมาก เขาจูบนางอย่างเนิ่นนานก่อนจะเริ่มขยับสะโพกสอบอย่างช้า ๆ เพื่อให้นางคุ้นชินกับความใหญ่โตของเขา กายแกร่งแตะครูดไปที่ผนังเนื้ออ่อนนุ่มด้านในอย่างแนบแน่น"อื้อ... ท่านพี่ อึก! ข้าจุกเจ้าค่ะ""อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะคุ้นชินแล้วล่ะเมี่ยวเมี่ยว"เซี่ยลู่เหวินเอ่ยปลอบหญิงสาวที่มีใบหน้าบิดเบี้ยวจากความเจ็บและจุก ก่อนที่เขาจะเร่งจังหวะเร็วขึ้นทีละนิด ในตอนนี้ตัวเขาเองก็รู้สึกปวดหนึบเช่นกัน ภายในของนางช่างคับแน่นยิ่ง ทำเอาเขาแทบจะหายใจไม่ออก พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่โหมกระหน่ำเข้าไปในกายของนาง หากทำเช่นนั้นนางคงเจ็บปวดน่าดู"อ๊ะ อ๊ะ อ๊า"เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชิน ความรู้สึกเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดนั้น ซือเมี่ยวร้องครวญครางออกมาอย่างมีความสุข กายสาวโยกคลอนไปตามการขยับของคนบนร่าง กลีบดอกไม้งามเบื้องล่างรัดรึงเข้าหาท่อนลำขนาดใหญ่ของเซี่ยลู่เหวิน สะโพกมนโยกขยับไปตามการชักจูงของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ บทรักของพวกเขาจึงยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"อ๊า... ซี๊ด เจ้ารัดพี่แน่นเหลือเกิน"