จัสมินเหลือบมองพอลอย่างซาบซึ้ง “เอาล่ะ งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว หาเวลามาเจอกันหน่อยก็แล้วกันนะคะ แล้วเจอกันค่ะ!"พอลมี IQ และ EQ สูงมาก เขาสามารถเห็นได้ชัดว่าจัสมินตกหลุมรักชาร์ลีเข้าอย่างจัง ดังนั้นเขาเปรียบดั่งสุภาพบุรุษที่ได้ช่วยเธออีกด้วยจัสมินหันไปหาชาร์ลี และพูดว่า “ไปกันเถอะค่ะ ปรมาจารย์เวด!”ชาร์ลีพยักหน้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ “ขอบคุณที่ต้องมาส่งผมนะครับ”จัสมินยิ้ม ใบหน้าของเธอพลันแดงระเรื่อ “ด้วยความเต็มใจของฉันนะคะปรมาจารย์เวด”***จัสมินให้บอดี้การ์ดของเธอถือกระเช้าดอกไม้ไปที่ห้องทำงานของพอล เธอกดลิฟต์ และผายมือไปทางประตู แล้วพูดว่า “ปรมาจารย์เวด เชิญคุณก่อนเลยค่ะ!”ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยแล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์จากนั้นจัสมินก็เดินตามเข้าไปเมื่อประตูลิฟต์ปิดลง กลิ่นหอมจาง ๆ อันหรูหราบนร่างของจัสมินก็ค่อย ๆ ซึมเข้าไปในจมูกของชาร์ลี จากนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นเขาต้องยอมรับว่าจัสมินมีรสนิยมที่ยอดเยี่ยม ท็อปโน๊ตของน้ำหอมบนร่างกายของเธอนั้นเบามากและติดทนนาน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นมากเท่านั้น แต่กลิ่นของเธอไม่ได้ฉุนเกินไปและมันยังทำให้คนติดกลิ่นนี้อีกด้วย
หลังจากที่เอเลนกลับมาที่สถานกักกันจากสถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ เธอรู้สึกกังวล และกระสับกระส่ายอย่างมากขณะที่กำลังรอฟังผลเธอไม่รู้ว่าตำรวจจะปล่อยเธอไปหรือเปล่า เธอจึงได้แต่อธิษฐานอย่างสุดหัวใจในสองวันนับตั้งแต่ถูกขังอยู่ในสถานกักกัน เธอได้รับความทรมานอย่างที่เธอไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต ตอนนี้เธอใกล้จะทรุดลงแล้ว เธอกลัวว่าเธอจะตายที่นี่ถ้าพวกเขาไม่ปล่อยเธอออกไปคุณท่านวิลสันรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อรู้ว่าเอเลนถูกเรียกตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำเมื่อเช้านี้ เธอกังวลว่าเอเลนจะสารภาพต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการถูกกลั่นแกล้งที่เธอได้รับในห้องขังจากเธอและเจนนิเฟอร์เธอยังกังวลอีกด้วยว่าเอเลนจะขอเปลี่ยนห้องขังหากเจ้าหน้าที่พาเธอไป ความสุขเดียวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอในสถานกักกันจะหายไปทันที!เป็นเวลานานแล้วที่คุณท่านวิลสันต้องถูกเขี่ยทิ้งเพราะความโชคร้ายและความยากลำบากที่เกิดขึ้นกับตระกูลวิลสัน ความเศร้าโศกยังคงอยู่จนกระทั่งเอเลนถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกันกับเธอซึ่งเธอได้รับความสนุกสนานของชีวิตกลับคืนมาเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดว่าเธอจะถูกปล่อยตัวภายในสิบวัน ขณะที่เอเลนอาจต้องติดคุ
คุณท่านวิลสันพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “แกทำอะไรผิดงั้นเหรอ นี่แกยังจะมาถามฉันอีกเหรอ? ฟังนะ แกมันผิดตราบใดที่แกยังยังหายใจและมีชีวิตอยู่! ทางเลือกเดียวของแกคือตายและไม่ต้องเสียออกซิเจนในโลกนี้!”ความเจ็บปวดจากหูของเอเลนทำให้เธอตัวสั่นด้วยความกลัว เธอรู้สึกเหมือนหูของเธอจะถูกดึงออก แต่เธอไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังเลยแม้แต่น้อย เธอทำได้เพียงกลืนความขมขื่น และอดทนต่อความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างสุดกำลัง'อีกไม่นาน อีกไม่นาน ฉันจะได้ออกจากขุมนรกนี้แล้ว!''หลังจากที่ฉันออกไป นังแก่ที่ไร้ประโยชน์นี้ก็จะถูกปล่อยตามออกมาในอีกสองสามวัน จนกว่าจะถึงตอนนั้น เธอจะไม่มีที่อยู่ ไม่มีอาหารกิน และเธออาจจะตายบนถนน! ถึงตอนนั้นฉันจะได้แก้แค้น!'นังแก่นี่คิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะถูกกักขังไว้สิบห้าปี? หล่อนยังกล้าที่จะใฝ่ฝันที่จะไปอาศัยอยู่ที่วิลล่า ที่ธอมป์สัน เฟิร์สด้วยจดหมายโง่ ๆ นั่นเนี่ยนะ! ตลกสิ้นดี!นังแก่นี่คงไม่เคยคิดมาก่อนสินะว่าเธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ถูกขังนานถึงสิบห้าปี แต่เธอจะได้รับการปล่อยตัวในไม่ช้า!เธอไม่สามารถรอวันที่ผู้คุมดูแลปล่อยเธอไป หญิงชราคนนั้นคงจะตกตะลึงและหดหู่ เธอจะหงุดหงิดมากเช่นกัน!เ
เอเลนอารมณ์เสียมาก แต่เธอรู้ว่าผู้คุมมีอำนาจ ดังนั้นเธอจึงได้แต่เดินตามทุกคนออกจากห้องขังอย่างช่วยไม่ได้เมื่อพวกเขามาถึงสนาม ผู้คุมก็สั่งว่า “ก่อนอื่น วิ่งรอบสนามสามรอบ จากนั้นคุณสามารถพักผ่อนได้อย่างอิสระเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น เข้าแถวที่ทางเข้าลานแล้วกลับไปที่ห้องขังของคุณ!”ทุกคนตั้งแถวกันอย่างรวดเร็ว เจนนิเฟอร์เป็นหัวหน้าห้องขัง เธอจึงจัดคิว เธอจ้องไปที่เอเลนด้วยความตกใจและดุว่า “นี่ แกมายืนข้างหน้า ทุกคนจะจับตาดูแก ถ้าแกวิ่งไม่ถูกต้อง ฉันจะทุบหัวแกให้เละเลย!”จากนั้นเธอก็หันไปหาผู้ต้องขังคนอื่นและพูดว่า “เธอ แล้วก็เธอ ช่วยป้าวิ่งช้า ๆ นะ ช่วยกันดูแลป้าด้วย”คุณท่านวิลสันหัวเราะอย่างอบอุ่น “โอ้ เจนนิเฟอร์ เธอใจดีเกินไป ฉันแก่แล้ว แต่ฉันยังค่อนข้างฟิตและแข็งแรง ฉันไม่ต้องการให้ใครช่วยหรอก ฉันจะเดินช้า ๆ ข้างหลังเธอก็แล้วกัน”เจนนิเฟอร์พยักหน้าและตะโกนขึ้นว่า “เตรียมตัวให้พร้อม วิ่ง!”เอเลนเจ็บปวดจากการถูกเฆี่ยนตีและอ่อนแอมากเนื่องจากเธอไม่ได้กินอะไรมาเลยในช่วงสองวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขณะที่เธอยืนอยู่หน้าแถว เธอกัดฟันเมื่อได้ยินคำสั่ง และเริ่มวิ่งโดยมีทุกคนวิ่งตาม
ทุกคนเริ่มถอยหนีเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่มีแผลเป็นช่างน่ากลัวเพียงใด แต่รอยยิ้มอันน่ารื่นรมย์บนใบหน้าของคุณท่านวิลสันกลับตรงกันข้ามกับการแสดงออกของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง เธอมีความสุขมากเมื่อเห็นเอเลนถูกทำร้ายเวนดี้ก็มีความสุขเหมือนกัน การทำร้ายที่เอเลนได้รับในช่วงสองวันที่ผ่านมาไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับการตบที่เธอได้รับในวันนี้ ผู้หญิงที่มีแผลเป็นต้องแข็งแรงมากจึงจะสามารถตบเอเลนลงไปกับพื้นได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวในทางกลับกัน เอเลนสั่นสะท้านด้วยความกลัวสุดขีด!การถูกทุบตีไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธออีกต่อไป เพราะเธอได้สัมผัสมันโดยตรงในช่วงสองวันที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงที่มีแผลเป็นถึงต้องทุบตีเธอเธอเป็นสมาชิกของกลุ่มหลอกลวงข้ามชาติที่มาที่นี่เพื่อแก้แค้นหรือไม่?ขณะที่เอเลนตัวสั่นด้วยความตกใจ เจนนิเฟอร์ยิ้มให้กับผู้หญิงที่มีแผลเป็นและพูดว่า “พี่สาว เราไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ ถ้าคุณต้องการที่จะจัดการเธอก็ทำได้เลยนะ คุณยังสามารถจัดการเธอให้ตายได้ตามใจชอบ แต่เราต้องวิ่งต่อก่อน งั้นพวกเราขอวิ่งต่อไปได้ไหม?”หญิงที่มีแผลเป็นคำราม "นี่ไม่ใช่เรื่องของแก อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า! ไ
เมื่อผู้หญิงอีกสองคนได้ยินเรื่องนี้ ทั้งคู่ก็พุ่งไปข้างหน้าทันทีและทั้งสามคนยังคงตบตี และเตะเอเลนด้วยกันทั้งหมัดและลูกเตะของพวกเขาโดนเอเลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอเลนไม่สามารถหยุดตัวเองจากการร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดได้อันที่จริง ไอแซคส่งคนสามคนนี้มาที่นี่เพื่อทำให้เอเลนตกใจและสอนบทเรียนให้เธอ เขาต้องการให้เอเลนเชื่อว่าเธอกำลังเจอปัญหาใหญ่อยู่จริง ๆด้วยวิธีนี้ เธอจะไม่กล้าสร้างปัญหาให้กับชาร์ลีเมื่อเธอได้รับการปล่อยตัวจากศูนย์กักกันในเวลาเดียวกันนี้ เอเลนกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดหลังจากถูกทุบตีเป็นเวลานาน เธอกรีดร้องและขอความเมตตาอย่างไม่สิ้นสุดผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ยังคงวิ่งอยู่ในขณะนี้ แต่พวกเขาหยุดเดินขณะที่พวกเขาจ้องมองที่เอเลนและกลุ่มผู้หญิงด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเอเลนแม้ว่าเจนนิเฟอร์จะมีส่วนในการทุบตีเอเลนด้วย แต่เธอก็ไม่เคยโหดร้ายเท่าผู้ต้องขังอีกสามคน นี่รู้สึกได้เหมือนกับว่าพวกเขากำลังพยายามจะฆ่าเอเลนเลยด้วยซ้ำ…เห็นได้ชัดว่าสามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา“โอ้ เธอช่างน่าสงสารจริง ๆ ! เธอตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชจริง ๆ !” เจนนิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะที่เธ
ผู้ต้องขังบางคนรู้สึกเห็นใจเธอ บางคนก็รู้สึกเพลิดเพลินกับสิ่งที่เห็น และบางคนก็กลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่เอเลนถูกนำตัวกลับห้องขัง ชาร์ลีก็ได้รับโทรศัพท์จากไอแซคไอแซคแจ้งชาร์ลีทางโทรศัพท์ว่า “นายน้อยครับ ผมได้ส่งคนไปสอนบทเรียนให้กับเอเลนแล้ว ผมเชื่อว่าเธอจะไม่กล้าพูดกับคุณแม้แต่คำเดียวหลังจากที่เธอออกจากสถานกักขัง”ชาร์ลีตอบเบา ๆ “เอาล่ะ คุณทำได้ดีมากในเรื่องนี้”ไอแซคตอบว่า “นายน้อย ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยที่พูดแบบนี้ แต่ผมคิดว่าแม่ยายของคุณนี่ทำเกินไป เธอพยายามขโมยเงินมากมายจากคุณ คุณไม่คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าคุณส่งเธอให้ตำรวจและปล่อยให้พวกเขาจัดการกับเธอตามกฎหมายงั้นเหรอครับ? อย่างน้อยเธอก็ควรได้รับโทษประหารชีวิต คุณจะปล่อยเธอกลับมาอีกทำไม?”ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณไม่เข้าใจหรอกครับ แม่ยายของผมคือใบเบิกทางของผม”ไอแซครีบถามต่อว่า “ใบเบิกทาง? นายน้อย คุณหมายความว่าอย่างไร?”ชาร์ลีไม่สามารถบอกไอแซคได้โดยตรงว่าเอเลนแม่ยายของเขาเป็นใบเบิกทางให้เขาได้ขึ้นเตียงภรรยาของเขา ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างเฉยเมยว่า “เอาล่ะ อย่าถามคำถามผมมากมายนักเลย คุณไปเตรียมการที่จำเป็นได้แล้ว ใก
คำพูดของผู้คุมขังทำให้ทุกคนในห้องขังตะลึง!คุณท่านวิลสันและเวนดี้แทบไม่เชื่อหูของพวกเธอเอง!ว่าไงนะ?พวกเขาไม่ได้บอกหรือว่าเอเลนมีความผิดฐานฉ้อโกง?พวกเขาไม่ได้บอกหรือว่าเธอจะถูกขังอยู่ในสถานกักกันนี้อย่างน้อยสิบปี ยี่สิบปี หรือนานกว่านี้?แล้วทำไมพวกเขาถึงปล่อยเธอไปตอนนี้?ถ้าเอเลนได้รับการปล่อยตัวในตอนนี้ พวกเขาจะได้ไปอาศัยอยู่ในวิลล่าที่ธอมป์สัน เฟิร์สได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักกันภายในสิบวัน?คุณท่านวิลสันตื่นตระหนกเป็นอย่างมากในเวลานี้!ในขณะเดียวกันนี้ เอเลนซึ่งเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็กระโดดออกจากเตียงด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุม!เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการถูกทุบตีก่อนหน้านี้! เอเลนรู้สึกราวกับว่าเธอได้รับชีวิตใหม่หลังจากได้ยินประโยคนี้ขอบคุณพระเจ้า! ในที่สุดเธอก็สามารถออกจากศูนย์กักกันนี้ได้แล้ว!เอเลนร้องอย่างตื่นเต้น “ฮ่าฮ่าฮ่า! เยี่ยมมาก! ฉันจะได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักกันแล้วในตอนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก! ฉันจะออกไปอาศัยอยู่ในวิลล่าของฉันที่ ธอมป์สัน เฟิร์สเดี๋ยวนี้!”หลังจากที่เธอพูด