จัสมินเหลือบมองพอลอย่างซาบซึ้ง “เอาล่ะ งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว หาเวลามาเจอกันหน่อยก็แล้วกันนะคะ แล้วเจอกันค่ะ!"พอลมี IQ และ EQ สูงมาก เขาสามารถเห็นได้ชัดว่าจัสมินตกหลุมรักชาร์ลีเข้าอย่างจัง ดังนั้นเขาเปรียบดั่งสุภาพบุรุษที่ได้ช่วยเธออีกด้วยจัสมินหันไปหาชาร์ลี และพูดว่า “ไปกันเถอะค่ะ ปรมาจารย์เวด!”ชาร์ลีพยักหน้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ “ขอบคุณที่ต้องมาส่งผมนะครับ”จัสมินยิ้ม ใบหน้าของเธอพลันแดงระเรื่อ “ด้วยความเต็มใจของฉันนะคะปรมาจารย์เวด”***จัสมินให้บอดี้การ์ดของเธอถือกระเช้าดอกไม้ไปที่ห้องทำงานของพอล เธอกดลิฟต์ และผายมือไปทางประตู แล้วพูดว่า “ปรมาจารย์เวด เชิญคุณก่อนเลยค่ะ!”ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยแล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์จากนั้นจัสมินก็เดินตามเข้าไปเมื่อประตูลิฟต์ปิดลง กลิ่นหอมจาง ๆ อันหรูหราบนร่างของจัสมินก็ค่อย ๆ ซึมเข้าไปในจมูกของชาร์ลี จากนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นเขาต้องยอมรับว่าจัสมินมีรสนิยมที่ยอดเยี่ยม ท็อปโน๊ตของน้ำหอมบนร่างกายของเธอนั้นเบามากและติดทนนาน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นมากเท่านั้น แต่กลิ่นของเธอไม่ได้ฉุนเกินไปและมันยังทำให้คนติดกลิ่นนี้อีกด้วย
หลังจากที่เอเลนกลับมาที่สถานกักกันจากสถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ เธอรู้สึกกังวล และกระสับกระส่ายอย่างมากขณะที่กำลังรอฟังผลเธอไม่รู้ว่าตำรวจจะปล่อยเธอไปหรือเปล่า เธอจึงได้แต่อธิษฐานอย่างสุดหัวใจในสองวันนับตั้งแต่ถูกขังอยู่ในสถานกักกัน เธอได้รับความทรมานอย่างที่เธอไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต ตอนนี้เธอใกล้จะทรุดลงแล้ว เธอกลัวว่าเธอจะตายที่นี่ถ้าพวกเขาไม่ปล่อยเธอออกไปคุณท่านวิลสันรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อรู้ว่าเอเลนถูกเรียกตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำเมื่อเช้านี้ เธอกังวลว่าเอเลนจะสารภาพต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการถูกกลั่นแกล้งที่เธอได้รับในห้องขังจากเธอและเจนนิเฟอร์เธอยังกังวลอีกด้วยว่าเอเลนจะขอเปลี่ยนห้องขังหากเจ้าหน้าที่พาเธอไป ความสุขเดียวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอในสถานกักกันจะหายไปทันที!เป็นเวลานานแล้วที่คุณท่านวิลสันต้องถูกเขี่ยทิ้งเพราะความโชคร้ายและความยากลำบากที่เกิดขึ้นกับตระกูลวิลสัน ความเศร้าโศกยังคงอยู่จนกระทั่งเอเลนถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกันกับเธอซึ่งเธอได้รับความสนุกสนานของชีวิตกลับคืนมาเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดว่าเธอจะถูกปล่อยตัวภายในสิบวัน ขณะที่เอเลนอาจต้องติดคุ
คุณท่านวิลสันพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “แกทำอะไรผิดงั้นเหรอ นี่แกยังจะมาถามฉันอีกเหรอ? ฟังนะ แกมันผิดตราบใดที่แกยังยังหายใจและมีชีวิตอยู่! ทางเลือกเดียวของแกคือตายและไม่ต้องเสียออกซิเจนในโลกนี้!”ความเจ็บปวดจากหูของเอเลนทำให้เธอตัวสั่นด้วยความกลัว เธอรู้สึกเหมือนหูของเธอจะถูกดึงออก แต่เธอไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังเลยแม้แต่น้อย เธอทำได้เพียงกลืนความขมขื่น และอดทนต่อความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างสุดกำลัง'อีกไม่นาน อีกไม่นาน ฉันจะได้ออกจากขุมนรกนี้แล้ว!''หลังจากที่ฉันออกไป นังแก่ที่ไร้ประโยชน์นี้ก็จะถูกปล่อยตามออกมาในอีกสองสามวัน จนกว่าจะถึงตอนนั้น เธอจะไม่มีที่อยู่ ไม่มีอาหารกิน และเธออาจจะตายบนถนน! ถึงตอนนั้นฉันจะได้แก้แค้น!'นังแก่นี่คิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะถูกกักขังไว้สิบห้าปี? หล่อนยังกล้าที่จะใฝ่ฝันที่จะไปอาศัยอยู่ที่วิลล่า ที่ธอมป์สัน เฟิร์สด้วยจดหมายโง่ ๆ นั่นเนี่ยนะ! ตลกสิ้นดี!นังแก่นี่คงไม่เคยคิดมาก่อนสินะว่าเธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ถูกขังนานถึงสิบห้าปี แต่เธอจะได้รับการปล่อยตัวในไม่ช้า!เธอไม่สามารถรอวันที่ผู้คุมดูแลปล่อยเธอไป หญิงชราคนนั้นคงจะตกตะลึงและหดหู่ เธอจะหงุดหงิดมากเช่นกัน!เ
เอเลนอารมณ์เสียมาก แต่เธอรู้ว่าผู้คุมมีอำนาจ ดังนั้นเธอจึงได้แต่เดินตามทุกคนออกจากห้องขังอย่างช่วยไม่ได้เมื่อพวกเขามาถึงสนาม ผู้คุมก็สั่งว่า “ก่อนอื่น วิ่งรอบสนามสามรอบ จากนั้นคุณสามารถพักผ่อนได้อย่างอิสระเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น เข้าแถวที่ทางเข้าลานแล้วกลับไปที่ห้องขังของคุณ!”ทุกคนตั้งแถวกันอย่างรวดเร็ว เจนนิเฟอร์เป็นหัวหน้าห้องขัง เธอจึงจัดคิว เธอจ้องไปที่เอเลนด้วยความตกใจและดุว่า “นี่ แกมายืนข้างหน้า ทุกคนจะจับตาดูแก ถ้าแกวิ่งไม่ถูกต้อง ฉันจะทุบหัวแกให้เละเลย!”จากนั้นเธอก็หันไปหาผู้ต้องขังคนอื่นและพูดว่า “เธอ แล้วก็เธอ ช่วยป้าวิ่งช้า ๆ นะ ช่วยกันดูแลป้าด้วย”คุณท่านวิลสันหัวเราะอย่างอบอุ่น “โอ้ เจนนิเฟอร์ เธอใจดีเกินไป ฉันแก่แล้ว แต่ฉันยังค่อนข้างฟิตและแข็งแรง ฉันไม่ต้องการให้ใครช่วยหรอก ฉันจะเดินช้า ๆ ข้างหลังเธอก็แล้วกัน”เจนนิเฟอร์พยักหน้าและตะโกนขึ้นว่า “เตรียมตัวให้พร้อม วิ่ง!”เอเลนเจ็บปวดจากการถูกเฆี่ยนตีและอ่อนแอมากเนื่องจากเธอไม่ได้กินอะไรมาเลยในช่วงสองวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขณะที่เธอยืนอยู่หน้าแถว เธอกัดฟันเมื่อได้ยินคำสั่ง และเริ่มวิ่งโดยมีทุกคนวิ่งตาม
ทุกคนเริ่มถอยหนีเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่มีแผลเป็นช่างน่ากลัวเพียงใด แต่รอยยิ้มอันน่ารื่นรมย์บนใบหน้าของคุณท่านวิลสันกลับตรงกันข้ามกับการแสดงออกของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง เธอมีความสุขมากเมื่อเห็นเอเลนถูกทำร้ายเวนดี้ก็มีความสุขเหมือนกัน การทำร้ายที่เอเลนได้รับในช่วงสองวันที่ผ่านมาไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับการตบที่เธอได้รับในวันนี้ ผู้หญิงที่มีแผลเป็นต้องแข็งแรงมากจึงจะสามารถตบเอเลนลงไปกับพื้นได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวในทางกลับกัน เอเลนสั่นสะท้านด้วยความกลัวสุดขีด!การถูกทุบตีไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธออีกต่อไป เพราะเธอได้สัมผัสมันโดยตรงในช่วงสองวันที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงที่มีแผลเป็นถึงต้องทุบตีเธอเธอเป็นสมาชิกของกลุ่มหลอกลวงข้ามชาติที่มาที่นี่เพื่อแก้แค้นหรือไม่?ขณะที่เอเลนตัวสั่นด้วยความตกใจ เจนนิเฟอร์ยิ้มให้กับผู้หญิงที่มีแผลเป็นและพูดว่า “พี่สาว เราไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ ถ้าคุณต้องการที่จะจัดการเธอก็ทำได้เลยนะ คุณยังสามารถจัดการเธอให้ตายได้ตามใจชอบ แต่เราต้องวิ่งต่อก่อน งั้นพวกเราขอวิ่งต่อไปได้ไหม?”หญิงที่มีแผลเป็นคำราม "นี่ไม่ใช่เรื่องของแก อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า! ไ
เมื่อผู้หญิงอีกสองคนได้ยินเรื่องนี้ ทั้งคู่ก็พุ่งไปข้างหน้าทันทีและทั้งสามคนยังคงตบตี และเตะเอเลนด้วยกันทั้งหมัดและลูกเตะของพวกเขาโดนเอเลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอเลนไม่สามารถหยุดตัวเองจากการร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดได้อันที่จริง ไอแซคส่งคนสามคนนี้มาที่นี่เพื่อทำให้เอเลนตกใจและสอนบทเรียนให้เธอ เขาต้องการให้เอเลนเชื่อว่าเธอกำลังเจอปัญหาใหญ่อยู่จริง ๆด้วยวิธีนี้ เธอจะไม่กล้าสร้างปัญหาให้กับชาร์ลีเมื่อเธอได้รับการปล่อยตัวจากศูนย์กักกันในเวลาเดียวกันนี้ เอเลนกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดหลังจากถูกทุบตีเป็นเวลานาน เธอกรีดร้องและขอความเมตตาอย่างไม่สิ้นสุดผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ยังคงวิ่งอยู่ในขณะนี้ แต่พวกเขาหยุดเดินขณะที่พวกเขาจ้องมองที่เอเลนและกลุ่มผู้หญิงด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเอเลนแม้ว่าเจนนิเฟอร์จะมีส่วนในการทุบตีเอเลนด้วย แต่เธอก็ไม่เคยโหดร้ายเท่าผู้ต้องขังอีกสามคน นี่รู้สึกได้เหมือนกับว่าพวกเขากำลังพยายามจะฆ่าเอเลนเลยด้วยซ้ำ…เห็นได้ชัดว่าสามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา“โอ้ เธอช่างน่าสงสารจริง ๆ ! เธอตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชจริง ๆ !” เจนนิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะที่เธ
ผู้ต้องขังบางคนรู้สึกเห็นใจเธอ บางคนก็รู้สึกเพลิดเพลินกับสิ่งที่เห็น และบางคนก็กลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่เอเลนถูกนำตัวกลับห้องขัง ชาร์ลีก็ได้รับโทรศัพท์จากไอแซคไอแซคแจ้งชาร์ลีทางโทรศัพท์ว่า “นายน้อยครับ ผมได้ส่งคนไปสอนบทเรียนให้กับเอเลนแล้ว ผมเชื่อว่าเธอจะไม่กล้าพูดกับคุณแม้แต่คำเดียวหลังจากที่เธอออกจากสถานกักขัง”ชาร์ลีตอบเบา ๆ “เอาล่ะ คุณทำได้ดีมากในเรื่องนี้”ไอแซคตอบว่า “นายน้อย ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยที่พูดแบบนี้ แต่ผมคิดว่าแม่ยายของคุณนี่ทำเกินไป เธอพยายามขโมยเงินมากมายจากคุณ คุณไม่คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าคุณส่งเธอให้ตำรวจและปล่อยให้พวกเขาจัดการกับเธอตามกฎหมายงั้นเหรอครับ? อย่างน้อยเธอก็ควรได้รับโทษประหารชีวิต คุณจะปล่อยเธอกลับมาอีกทำไม?”ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณไม่เข้าใจหรอกครับ แม่ยายของผมคือใบเบิกทางของผม”ไอแซครีบถามต่อว่า “ใบเบิกทาง? นายน้อย คุณหมายความว่าอย่างไร?”ชาร์ลีไม่สามารถบอกไอแซคได้โดยตรงว่าเอเลนแม่ยายของเขาเป็นใบเบิกทางให้เขาได้ขึ้นเตียงภรรยาของเขา ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างเฉยเมยว่า “เอาล่ะ อย่าถามคำถามผมมากมายนักเลย คุณไปเตรียมการที่จำเป็นได้แล้ว ใก
คำพูดของผู้คุมขังทำให้ทุกคนในห้องขังตะลึง!คุณท่านวิลสันและเวนดี้แทบไม่เชื่อหูของพวกเธอเอง!ว่าไงนะ?พวกเขาไม่ได้บอกหรือว่าเอเลนมีความผิดฐานฉ้อโกง?พวกเขาไม่ได้บอกหรือว่าเธอจะถูกขังอยู่ในสถานกักกันนี้อย่างน้อยสิบปี ยี่สิบปี หรือนานกว่านี้?แล้วทำไมพวกเขาถึงปล่อยเธอไปตอนนี้?ถ้าเอเลนได้รับการปล่อยตัวในตอนนี้ พวกเขาจะได้ไปอาศัยอยู่ในวิลล่าที่ธอมป์สัน เฟิร์สได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักกันภายในสิบวัน?คุณท่านวิลสันตื่นตระหนกเป็นอย่างมากในเวลานี้!ในขณะเดียวกันนี้ เอเลนซึ่งเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็กระโดดออกจากเตียงด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุม!เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการถูกทุบตีก่อนหน้านี้! เอเลนรู้สึกราวกับว่าเธอได้รับชีวิตใหม่หลังจากได้ยินประโยคนี้ขอบคุณพระเจ้า! ในที่สุดเธอก็สามารถออกจากศูนย์กักกันนี้ได้แล้ว!เอเลนร้องอย่างตื่นเต้น “ฮ่าฮ่าฮ่า! เยี่ยมมาก! ฉันจะได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักกันแล้วในตอนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก! ฉันจะออกไปอาศัยอยู่ในวิลล่าของฉันที่ ธอมป์สัน เฟิร์สเดี๋ยวนี้!”หลังจากที่เธอพูด
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล