“เธอคือคนที่ทำลายชีวิตลูกชายของฉัน! คิดว่าฉันจะสามารถชดเชยความสุขตลอดชีวิตของลูกชายได้ด้วยการทำร้ายเธอสองสามครั้งเนี่ยเหรอ?”ผู้ต้องขังทุกคนในห้องขังทั้งหมดตกตะลึงในตอนนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเอเลนจะทำเรื่องไร้ยางอายขนาดนี้ได้ในตอนนั้น!คนเป็นผู้หญิงเกลียดอะไรมากที่สุด? ผู้ชายเจ้าชู้และเมียน้อยของเขาไงล่ะ!คำพูดของคุณท่านวิลสัน กระตุ้นความเกลียดชัง และความน่ารังเกียจให้กับเอเลนจากทุกคนได้สำเร็จอีกครั้ง!ทุกคนเริ่มรุมด่าเธอ“ผู้หญิงที่น่ารังเกียจ และไร้ยางอายคนนี้กล้าทำเรื่องไร้ยางอายตั้งแต่อายุยังน้อยเลยหรือนี่! ทุเรศสิ้นดี!”“จริงด้วย ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนถึงพยายามที่จะมีหลับนอนกับผู้ชายที่เมาแล้วด้วยล่ะ? เธอเป็นคนที่ไร้ยางอายได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”“เธอนี่มันน่าขยะแขยงจริง ๆ ! วิธีเดียวที่จะสอนนังจิ้งจอกไร้ยางอายอย่างเธอคือการทุบตีเธอ เพื่อที่เธอจะได้เรียนรู้บทเรียนอย่างหนักหน่วงไปเลย!”เมื่อคุณท่านวิลสันเห็นว่าเธอปลุกระดมสร้างความเกลียดชังของผู้ต้องขังทุกคนในห้องขังที่มีต่อเอเลนได้สำเร็จ คุณท่านวิลสันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า ‘เอเลน นังส
เอเลนไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทนต่อการถูกทุบตีและชดใช้สำหรับผลที่ตามมาจากการกระทำของเธอ เนื่องจากเรื่องมาทิลด้าผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้วตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะสามารถโน้มน้าวให้เจนนิเฟอร์เข้าข้างเธอได้ เธอไม่ได้คิดว่าคุณท่านวิลสันจะล้มล้างความพยายามทั้งหมดของเธอเพียงแค่นำเรื่องนี้ขึ้นมา ในเวลานี้เธอกำลังจมลงสู่ขุมนรกที่ไม่มีที่สิ้นสุดผู้หญิงสองสามคนที่มาทุบตีเธออย่างรุนแรงล้วนประสบกับเรื่องราวที่น่าสลดใจจากบุคคลที่สามที่แทรกแซงการแต่งงาน และความสัมพันธ์ของพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาทุบตีและเตะเธอ พวกเขาก็คิดไปถึงความเกลียดชังเก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้นและพวกเขาไม่ได้แสดงความเมตตาต่อเอเลนเลยเอเลนเจ็บปวดมากจนเธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะตายหลังจากที่เธอถูกทุบตีอีกครั้ง เอเลนรู้สึกช็อคหมดสติไปสองสามครั้ง แต่เธอถูกปลุกให้ตื่นเมื่อผู้ต้องขังคนอื่น ๆ เริ่มเตะและทุบตีเธอหลังจากที่กลุ่มคนทุบตีเอเลนเสร็จแล้ว คุณท่านวิลสันกล่าวต่อว่า “ฉันคิดว่าเราควรพาผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ไปที่ห้องน้ำเพื่อที่เธอจะได้ไม่ทำให้เราหงุดหงิดใจอีกต่อไป!”"ใช่!" นักโทษคนหนึ่งรีบวิ่งไปข้างหน้าก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “ป้าพูดถูก! เรา
เอเลนพยักหน้าอย่างงุนงงก่อนจะพูดว่า “พี่เจนนิเฟอร์ ขอฉันกินข้าวหน่อยเถอะนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องตายจริง ๆ…”เจนนิเฟอร์หัวเราะเยาะก่อนจะเทข้าวต้มที่เหลือในกล่องอาหารกลางวันลงบนพื้น หลังจากนั้น เธอใช้นิ้วเท้าแตะโจ๊กบนพื้นก่อนจะเย้ยหยันและพูดว่า “แกอยากกินนักใช่ไหม? ถ้าอยากกินก็เลียบนพื้นได้เลย!”เมื่อเจนนิเฟอร์บอกให้เอเลนเลียโจ๊กจากพื้นเมื่อวานนี้ เธอไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้นนั่นเป็นเพราะเอเลนรู้สึกว่าเธอไม่สามารถคุกเข่าลง และทำเรื่องน่าอับอายขายหน้าเพื่อขอกินอาหารได้อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้กลัวที่จะเสียหน้า และเสียชื่อของเธอได้อีกต่อไป ใครจะสนเรื่องพวกนั้นกันล่ะ ตราบเท่าที่เธอสามารถอิ่มท้องได้? แล้วถ้าเธอต้องคุกเข่าและเลียโจ๊กจากพื้นล่ะ?ดังนั้นเอเลนจึงคุกเข่าลง และเริ่มใช้ลิ้นเลียโจ๊กเย็น ๆ จากพื้นคอนกรีตโดยไม่ลังเลเลยคุณท่านวิลสันตกตะลึงเมื่อเห็นฉากนี้ด้วยตัวเองเมื่อเธอนึกถึงความเป็นไปได้ที่เอเลนจะถูกขังไว้เป็นเวลาสิบถึงยี่สิบปีข้างหน้า เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นมากเอเลนเริ่มเลียโจ๊กออกจากพื้นทีละน้อย และถึงแม้เธอจะกินทรายไปพร้อมกับโจ๊ก เธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยในเวลา
หลังถูกนำตัวส่งโรงพัก เอเลนก็ถูกนำตัวไปที่ห้องสอบสวนทันทีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามนายเข้ามาก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเธอและพูดว่า “คุณเอเลน คุณกลับไปคิดมาบ้างหรือยังในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้? คุณพร้อมที่จะสารภาพความผิดทั้งหมดของคุณแล้วหรือยัง?”เอเลนเริ่มร้องไห้ขณะที่เธอพูดว่า “เจ้าหน้าที่ ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันทำผิดพลาดไป…”เจ้าหน้าที่สูดจมูกอย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “อะไรกัน? คุณคิดว่านี่เป็นวันแรกที่เราสอบปากคำผู้ต้องสงสัยของเรางั้นเหรอ? หากเราไม่สามารถบอกชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดของคุณได้ เราก็จะมอบอาชญากรรมทั้งหมดให้กับคุณ! หากเป็นกรณีนี้ คุณอาจจะถูกจับในข้อหาก่ออาชญากรรม!”ทันทีที่เอเลนได้ยินแบบนี้ เธอตื่นตระหนก และเริ่มอ้อนวอนทันที “เจ้าหน้าที่! ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้วว่าบัตรใบนี้ไม่ใช่ของฉัน!”“ฉันแค่หยิบบัตรธนาคารออกจากกระเป๋าของลูกเขย รหัสผ่านสำหรับบัตรธนาคารของลูกเขยของฉันคือวันเกิดของเขา นั่นน่าจะเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าบัตรธนาคารเป็นของลูกเขยของฉันไม่ใช่ฉัน! เนื่องจากคุณบอกว่าบัตรธนาคารนี้เกี่ยวข้องกับแผนการฉ้อโกงระหว่างประเทศ ดังนั้นผู้บงการที่แท้จริงเบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงไม
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พูดต่อไปว่า “ลูกเขยของคุณเป็นคนตรงไปตรงมา และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เขาไม่มีความโลภในตัวเขาเลย ทันทีที่เขาได้รับบัตรธนาคารนี้ และพบยอดเงินคงเหลือในบัตรธนาคารนี้ เขาก็แจ้งความกับตำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราบอกเขาว่าอย่าทำตัวเร่งรีบเกินไป แต่คุณกลับขโมยบัตรธนาคารของเขา และตรงไปที่ซิตี้แบงก์เพื่อถอนเงิน!”เอเลนอุทานด้วยความเสียใจ “โอ้! ถ้าฉันรู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่ขโมยบัตรธนาคารของเขาไปหรอก แม้ว่าคุณจะฆ่าฉันก็ตาม!”ขณะที่เอเลนพูด เธอไม่สามารถหยุดร้องไห้อย่างขมขื่นได้ เธอไม่คิดว่าจะเดินเข้าไปในกับดักแบบนี้จริง ๆ !ปรากฎว่าองค์กรอาชญากรรมได้ขโมยข้อมูลส่วนตัวของชาร์ลี ปลอมแปลงบัตรธนาคารก่อนที่จะส่งตรงไปยังชาร์ลี!พวกเขาเพียงแค่ทำสิ่งนี้เพื่อล่อชาร์ลี และหลอกให้เขาโลภเงินจำนวน 2.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในบัตรธนาคาร!หลังจากนั้นชาร์ลีก็จะไปที่ธนาคารเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเขาเอง!ด้วยวิธีนี้ ชาร์ลีจะช่วยให้พวกเขาเข้าสู่กระบวนการฉ้อโกงธนาคารได้สำเร็จทั้งหมด และพวกเขาก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ทั้งหมดและรับเงินในมือมาได้อย่างง่ายดาย!หลังจากโอนเ
เอเลนเชื่อเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเธออย่างหมดใจสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกักขังเธอไว้ในศูนย์กักกันต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้เธอเผยแพร่ข่าวลือใด ๆ หากเป็นแบบนั้นล่ะก็ เธอก็จะไม่รู้ว่าเธอจะได้อิสรภาพกลับคืนมาเมื่อไหร่เอเลนมองเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสายตาอ้อนวอนขณะที่เธอร้องไห้และพูดว่า “คุณเจ้าหน้าที่ ฉันจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้กับใครเลยจริง ๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป หากคุณยังคงขังฉันไว้ในสถานกักขัง ฉันจะต้องตายในห้องขังอย่างแน่นอน…”เจ้าหน้าที่ตำรวจส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “คุณเอเลน ผมไม่อยากเชื่อคุณเลย เพราะผมเคยเจอคนแบบคุณมาเยอะ เพราะคุณจะบอกเราว่าคุณจะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทันทีที่เราปล่อยคุณไป คุณจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอนเพราะปากของคุณ”หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พูดต่อไปว่า “นอกจากนี้ คุณไม่ควรคิดว่าเหตุผลที่เราขังคุณไว้ในศูนย์กักขังก็เพราะว่าเราต้องการคลี่คลายคดี เพราะอันที่จริงที่เราทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง!”“ถ้าเราปล่อยคุณออกไป และคุณไปพูดเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับเรื่องนี้ องค์กรอาชญากรรมจะรู้ทันเรื่องนี้อย่าง
ในเวลาเดียวกันนี้ เอเลนถามคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อว่า “เจ้า… เจ้าหน้าที่… ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับลูกเขยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวที่บ้านเลยเหรอคะ?”เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นวายร้ายตบโต๊ะอย่างโกรธจัด ก่อนที่เขาจะมองดูเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นพระเอก และพูดว่า “ผมบอกไปแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อใจผู้หญิงโง่คนนี้! นี่คุณอยากจะปล่อยเธอออกจากศูนย์กักกันอีกงั้นเหรอ? ได้ยินที่เธอพูดไหม? เธอต้องการไปคุยกับชาร์ลีเกี่ยวกับเรื่องนี้! เธอจะไม่เพียงทำลายคดีของเรา แต่ยังทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยไม่ใช่เหรอ?”สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเล่นเป็นพระเอกมืดลงในทันที เขาจ้องที่เอเลนก่อนจะตอบอย่างเย็นชาว่า “คุณเอเลน คุณทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ ผมคิดว่าคุณจะสามารถเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวได้โดยไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณคิดที่จะไปพูดคุยกับลูกเขยของคุณเพื่อแก้แค้นเขา! นี่เราพยายามคุยกับคุณและอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังโดยไม่มีเหตุผลเลยงั้นเหรอ?”เอเลนเริ่มตื่นตระหนกในตอนนี้ เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เจ้าหน้าที่ พูดตามตรง เหตุผลที่ฉันต้อง
เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าสิ้นหวังบนใบหน้าของเอเลน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ชำเลืองมองกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นพระเอกก็ถามว่า “เอเลน ทางเราพิจารณาปล่อยคุณไปได้แล้ว แต่มีบางประเด็นที่เราจะต้องคุยกับคุณก่อน ก่อนอื่น หากเราอนุญาตให้คุณกลับบ้านได้ในวันนี้ คุณจะบอกอะไรกับครอบครัวของคุณหากพวกเขาถามคุณเกี่ยวกับที่อยู่ของคุณในช่วงสองวันที่ผ่านมา?”เอเลนรีบตอบ “ฉัน… ฉันจะบอกพวกเขาว่า…ในสองวันที่ผ่านมา…ในสองวันนี้…”เอเลนลังเลอยู่นานโดยไม่พูดอะไรเลย เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรหรือจะอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้สามี และลูกสาวฟังเมื่อกลับถึงบ้านได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม เธอก็ได้หายตัวไปเป็นเวลาสองวันสองคืนโดยไม่มีเหตุผลเลย สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือไม่มีจุดไหนบนร่างกายของเธอที่ไม่มีรอยฟกช้ำเลยนอกจากนี้ เอเลนยังสูญเสียฟันหน้าสองซี่ของเธอ และเธอดูเศร้าหมองมากในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นพระเอกมองไปที่เอเลนก่อนจะพูดอย่างเฉยเมยว่า “ทำไมไม่ทำอย่างนี้ล่ะ? ผมจะให้แนวคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรบอกกับครอบครัวของคุณ หลังจากนั้นเราจะหารือเรื่องนี้ และตัดสินใจว่าเราต้องการปล่อยคุณไปหล