ชาร์ลีคาดไม่ถึงว่าพอลจะถามคำถามตรงไปตรงมาแบบนี้! แต่ถึงอย่างไร เขารู้ว่าพอลคงจะเดาขึ้นมาเฉย ๆ และเขาจะไม่มีทางยอมรับมันเป็นอันขาดก่อนที่เขาจะปฏิเสธ จาค็อบก็หัวเราะขึ้น และพูดว่า “โถ่ พอล คุณคิดเรื่องนี้มากเกินไป ชาร์ลีเป็นลูกเขยในครอบครัวของเรา ถ้าเขามาจากตระกูลเวดแห่งอีสต์คริฟฟ์จริง ๆ มันคงเป็นนิทานเรื่อง ซินเดอเรลล่าไปแล้ว! พวกเราทุกคนคงจะรวยไปแล้ว!”ถึงแม้ว่าจาค็อบจะเป็นคนเกียจคร้านที่ไม่ได้ทำงานสักวันในชีวิต แต่เขาก็รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลเวดเป็นอย่างดีจะมีคนสักกี่คนในประเทศที่ไม่รู้จักตระกูลเวด เพราะพวกเขามีชื่อเสียงมากด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงมั่นใจมากว่าชาร์ลีไม่ใช่หนึ่งในนั้น เพราะมีคนจำนวนมากที่มีนามสกุลเวดในโลกนี้ แต่มีตระกูลเวดเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นยิ่งชีวิตของชาร์ลีนั้นเขารู้เป็นอย่างดี เพราะชาร์ลีอาศัยและเติบโตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนที่เขายังเด็ก จากนั้นเขาก็ทำงานในไซต์ก่อสร้างเมื่ออายุ 18 ปี ต่อมานายท่านวิลสันพาเขากลับบ้านเมื่อตอนที่เขาอายุ 20 ต้น ๆ และกลายเป็นลูกเขยของเขาผู้ชายคนนี้จะเป็นสมาชิกของตระกูลเวด แห่งอีสต์ คริฟฟ์ได้อย่างไร?ถ้าชาร์ลีเป็นสมาชิกขอ
มาทิลด้าพูดต่อว่า “ว้าว ฉันไม่ได้คาดหวังว่านายจะยังจำมันได้ทั้งหมดนะเนี่ย เอาจริง ๆ ฉันแทบจำอาหารบางจานไม่ได้ด้วยซ้ำนะ”จากนั้น เธอถอนหายใจและพูดต่อ “จริง ๆ แล้ว อาหารของซัดเบอร์รี่ก็อร่อยเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ฉันเรียนที่วิทยาลัย ฉันชอบอาหารของโอลรัสมากกว่า”จาค็อบพูดด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ “ฉันยังจำได้ว่าเธอพูดเสมอว่าต้องการทำอาหารซัดเบอร์รี่สองสามเมนูให้ฉันลอง แต่ก็น่าเสียดาย…”เขาถอนหายใจ และถามอย่างรวดเร็วว่า “จริงด้วยสิ มาทิลด้า เธอคิดยังไงกับการไปทำอาหารเย็นที่บ้านฉัน? บอกตามตรง ฉันรอมาหลายปีแล้ว ฉันหวังว่าความฝันของฉันจะเป็นจริงเข้าสักวันหนึ่งเสียที!”มาทิลด้าประทับใจกับคำพูดของเขา และพูดว่า “ฉันโอเคนะคะ แต่ฉันไม่รู้ว่าคืนนี้พอลจะว่างไหมเนี่ยสิ”จากนั้นเธอก็หันไปหาพอล และถามว่า “ลูกรัก คืนนี้ลูกยุ่งไหม? ถ้าไม่ เราจะไปทานอาหารเย็นที่บ้านของลุงวิลสันกันไหม? แม่อยากพบลูกสาวของเขาด้วย”พอลพยักหน้าอย่างสง่างาม "ไม่มีปัญหาครับ! ไปกันเถอะ”จาค็อบยิ้มอย่างมีชัย! เขาโพล่งว่า “งั้นตามนี้เลย! มาทิลด้า งั้นคืนนี้เธออยากจะทำอาหารอะไรให้ฉันทานดีล่ะ?”มาทิลด้ายิ้มอย่างเขินอาย
พอลเติบโตขึ้นมาในการอบรมเลี้ยงดูที่เข้มงวดและมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่ดีมาก เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ใจกว้างและเป็นกลาง ดังนั้น เขาจึงนิ่งเมื่อได้ยินชาร์ลีพูดถึง "งาน" ของเขาที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ที่มักจะมองเขาแตกต่างไปจากนี้สำหรับชาร์ลี ไม่มีอะไรให้เขาต้องอับอาย เขาเป็นลูกเขยที่ทำงานบ้านมาสามปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนที่จะคิดว่าเขาเป็นพวกไร้ประโยชน์ในเวลาเดียวกันนี้ พอลกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม ชาร์ลี ในเมื่อคุณรู้จักคุณคาเมรอนจากแชงกรีลา คุณสะดวกที่จะแนะนำเขาให้ผมรู้จักได้ไหมครับ? ผมตั้งใจที่จะขยายกิจการและเครือข่ายในงานของผมอย่างจริงจังที่โอลรัส ฮิลล์ เนื่องจากผมจะย้ายบริษัทของผมมาอยู่ที่นี่ ผมจะขอบคุณมากถ้าคุณสามารถช่วยผมได้”ชาร์ลีไม่ต้องการให้พอลรู้ว่าเขาสนิทกับไอแซค คาเมรอนแค่ไหน เขาเกือบจะเดาความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลเวดได้แล้วในตอนนี้ เป็นไปได้ที่เขาจะค้นพบรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมหากเขารู้จักไอแซคผ่านตัวเขา ดังนั้น เขาจึงกล่าวขอโทษว่า “พูดตามตรงนะ พอล คุณคาเมรอน กับผมเป็นแค่คนรู้จัก ผมเพิ่งรู้จักเพื่อนของเขาเป็นการส่วนตัว และมันค่อนข้างน่าละอายที่จะบอกว่าผมพบคนคนนี้ผ่า
จาค็อบเหลือบมองมาทิลด้าด้วยความงุนงง “มาทิลด้า เธอเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและบริษัทมากเลยเหรอ?”พอลหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณลุง อย่าประเมินแม่ผมต่ำไปนะครับ อันที่จริงแม่ก็จบปริญญาเอกด้วย แม่จบการศึกษาจากเยลเหมือนกันครับ แม่กับพ่อของผมพบกันตอนเรียนปริญญาโทที่เยลและแต่งงานกันหลังจากนั้น ต่อมา พ่อของผมได้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายและแม่ของผมก็อยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือเขาเสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของผม อาชีพของพ่อก็คงไม่ดำเนินไปอย่างราบรื่น”จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ผมยังไม่เก่งพอ ดังนั้นผมเลยต้องการความช่วยเหลือจากแม่เพื่อช่วยผม”มาทิลด้าหัวเราะ “โธ่ ลูกเอ๋ย ลูกทำได้ดีมากแล้วนะจ๊ะ แม่หวังว่าลูกจะสามารถเติบโตได้โดยเร็วที่สุดและเข้าบริหารบริษัททั้งหมด จากนั้นแม่จะได้มีความสุขกับการเกษียณได้ในที่สุด”เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันกลับมาที่ออสเกียและโอลรัส ฮิลล์แล้ว ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันไม่ใช่การเริ่มต้นธุรกิจของครอบครัวที่นี่หรอกค่ะ แต่ฉันต้องการใช้ชีวิตวัยเกษียณของหญิงชราอย่างชาวออสเคียนได้อย่างสงบสุขเท่านั้นเอง”จากนั้น เธอแอบมองไปที่จาค็อบและคิดในใจว่า 'ฉันใช้ชีวิตอย่างหนักใ
การได้มาร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่แชงกรีลานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเพลิดเพลินใจเป็นอย่างมาก จาค็อบและมาทิลด้าต่างก็รู้สึกมีความสุขไม่แพ้กัน เธอเศร้าเป็นอย่างมากหลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิต แต่ดูเหมือนว่าท้องฟ้าจะปลอดโปร่งขึ้นแล้วพอลรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นแม่ของเขามีความสุขแบบนี้แต่สำหรับชาร์ลี เขารู้สึกไม่ดีแทนพ่อตาของเขาเป็นอย่างมากเหตุผลก็คือมาทิลด้าเธอช่างสมบูรณ์แบบเกินไปสำหรับจาค็อบ เขานึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหญิงสาวผู้มั่งคั่ง สง่างาม แถมยังเป็นโสดได้กลับมาที่โอลรัส ฮิลล์ เธอจะเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการไล่ตามจีบของเหล่าชายชราผู้มั่งคั่งคนอื่น ๆ ซึ่งมันจะสะสมปัญหาให้กับจาค็อบเท่านั้นมาทิลด้าและพอลค่อนข้างเหนื่อยหลังจากเดินทางมาที่ออสเกียเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ดังนั้น หลังจากเสร็จอาหารกลางวัน จาค็อบและชาร์ลีจึงส่งพวกเขาไปที่ห้องของพวกเขาที่แชงกรีลาเป็นอีกครั้งที่จาค็อบดูตกใจเพราะมาทิลด้ และพอลได้เข้าเช็คอินที่ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีทสุดหรูห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีทในแชงกรีลาเป็นอันดับสองรองจากห้องเพรสซิเดนท์เชียล สวีทซึ่งสามา
จู่ ๆ จาค็อบก็หันไปหาชาร์ลี และถามด้วยความกังวลว่า “ชาร์ลี นายคิดว่าแม่ยายของนายจะกลับบ้านมาไหม?”ชาร์ลีขมวดคิ้วอย่างเชื่องช้า และพูดขึ้นว่า “พ่อครับ พ่ออยากได้ยินอะไรจากผม? ผมควรจะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่เหรอครับ?”จาค็อบสะดุ้งด้วยความงุนงงและพูดอย่างเขินอายว่า “นี่ อย่าเพิ่งพาลไปทั่วก่อนสิ ฉันรู้ว่านายก็ไม่ชอบแม่ยายของนายเหมือนฉันใช่ไหมล่ะ?”ชาร์ลีหันไปหาเขาด้วยความตกใจและอุทานว่า “พ่อ ผมไม่เคยพูดอย่างนั้นนะ!”จาค็อบมองเขา และกล่าวว่า “ให้มันเป็นเรื่องระหว่างเรา นายไม่จำเป็นต้องปิดบังกับฉันหรอกน่า แคลร์ไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย เราพูดอะไรกันก็ได้ที่เราต้องการ จริงไหม?”ชาร์ลีรู้ว่าพ่อตาของเขาคิดอะไรอยู่เขากำลังมองหาพันธมิตรในการกระทำความผิดครั้งนี้เขาไม่ต้องการให้เอเลนกลับบ้าน แต่แคลร์ต้องการให้หาแม่ของเธอให้เจอโดยเร็วที่สุดดังนั้นการเผชิญหน้าทางจิตวิทยาจึงเกิดขึ้นระหว่างพ่อกับลูกสาวซึ่งทำให้คะแนนปัจจุบันอยู่ที่ 1:1 ชาร์ลีเป็นคนกลางในเรื่องนี้ ในกรณีนี้ จาค็อบจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาเขามาเป็นพวกในครอบครัวเหลือเพียงสามคน ถ้าคนสองคนไม่ต้องการให้เอเลนกลับบ้าน ก็จะเป็นการลงค
ชาร์ลีไม่เคยคิดว่าพ่อตาของเขาจะแอบชั่วร้ายได้ขนาดนี้ แต่ชาร์ลีก็เข้าใจความรู้สึกของเขาได้เช่นกันเพราะผู้หญิงคนนั้นคือรักแรกที่เขาไม่ได้พบเจอมาเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ และเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน หากเขาเป็นจาค็อบ เขาเองก็คงไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเรื่องนี้ยิ่งไปกว่านั้น เอเลนเป็นเหมือนระเบิดเวลา ที่สำคัญแรงระเบิดของเธอนั้นจะรุนแรงมาก สามารถเทียบเท่ากับการระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์เลยทีเดียวดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษแต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เอเลนนั้นอยู่ในสถานกักกันซึ่งได้ถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็นตราบใดที่พวกเขาไม่ได้รับการยินยอมจากชาร์ลีเมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน แคลร์ก็เพิ่งกลับมาถึงบ้านด้วยพอดี ชาร์ลีเดินไปหาเธออย่างเร่งรีบและถามว่า “ที่รัก คุณไปโรงพักหรือยัง? ตำรวจว่ายังไงบ้างครับ? พวกเขามีข่าวเกี่ยวกับแม่บ้างไหม?”แคลร์หน้าซีดและดูเป็นกังวล “ตำรวจบอกฉันว่าพวกเขาได้ออกประกาศทั่วเมืองและติดต่อไปยังทีมกู้ภัยบลูสกายแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเจอแม่หรือรู้ว่าตอนนี้แม่อยู่ที่ไหนเลยค่ะ พวกเขาไม่พบเบาะแสใด ๆ
ถึงแม้ว่าแคลร์จะรู้ว่านั่นเป็นความคิดพ่อของเธอ แต่เธอก็อดรู้สึกที่จะผิดหวังไม่ได้ชาร์ลีรีบถามทันทีว่า “ที่รัก แล้วคุณจะไปไหนครับ?”แคลร์ตอบว่า “ฉันจะไปเจอเพื่อนของแม่และไปร้านเสริมสวยที่พวกเขาไปบ่อย ๆ ค่ะ”จาค็อบรีบพูดว่า “โอ้ แคลร์ วันนี้พ่อไม่ได้ไปไหน พ่อเลยชวนเพื่อนมาทานอาหารเย็นคืนนี้ คุณอาจะทำอาหารให้เราทานกันคืนนี้ พ่อเลยต้องเตรียมวัตถุดิบและอยู่เตรียมที่บ้านของเรานะ”แคลร์ถามด้วยความสงสัย “พ่อคะ เมื่อกี้พ่อไม่ได้ไปทานข้าวกลางวันกับเพื่อนมาเหรอคะ? ทำไมพ่อถึงต้องการพบเธออีกครั้งในคืนนี้ด้วย?”จาค็อบกระแอมและอธิบายว่า “อาหารกลางวันก็คืออาหารกลางวันและเราทานอาหารที่ร้านอาหาร พวกเขาเพิ่งมาจากอเมริกา ถือเป็นมารยาทของเราที่จะเชิญพวกเขามาที่บ้าน และรับประทานอาหารร่วมกัน นี่เป็นวิธีที่ดีในการต้อนรับแขกของเรานะ!”แคลร์อุทานด้วยความตกใจ “พ่อคะ ถึงพ่อจะต้องการต้อนรับแขกของพ่อ แต่พ่อได้สังเกตเห็นอะไรบ้างไหมคะ? แม่หายไป แล้วพ่อยังจะมีอารมณ์ชวนเพื่อนมาบ้านเราอยู่อีกเหรอ? ทำไมพ่อไม่รอให้แม่กลับบ้านก่อนล่ะคะ? แม่ก็เป็นเพื่อนร่วมวิทยาลัยของพ่อเหมือนกัน จะดีกว่าไหมถ้าพวกคุณทั้งสามคนได้เจอพร