ชาร์ลีเข้าใจทันทีว่าคนชราทั้งสองคนจะต้องมีความทรงจำที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับ "การทำอาหาร" หรือ "การกลับบ้านพร้อมกับเขา" ซึ่งทำให้พวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเคอะเขินไปเลยทีเดียวพอลยังสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ด้วย แต่เขาอายเกินกว่าจะแสดงให้เห็น ดังนั้นเขาจึงหันไปหาชาร์ลี และพูดว่า “ชาร์ลี งั้นไปที่ห้องสวีทของเรากันก่อนแล้วกัน”จากนั้นเขาก็หันไปหามาทิลด้า และพูดว่า “แม่ครับ แม่อยู่บนเครื่องบินมากว่าสิบชั่วโมง แม่คงเหนื่อยมาก ไปที่ห้องสวีทกันก่อนแล้วค่อยคุยกันถ้าแม่มีเรื่องจะพูดกับลุงวิลสัน”จู่ ๆ มาทิลด้าก็สงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง เธอนึกถึงอดีตของเธอกับจาค็อบและนึกถึงรายละเอียดของประสบการณ์การร่วมรักครั้งแรกของพวกเขา เธอหน้าแดงอย่างเขินอายและพูดว่า “โอ้ ให้ตายสิ ฉันไม่คิดอะไรซะหน่อย! ใช่แล้ว งั้นเราไปที่ห้องสวีทของเรากันก่อนแล้วค่อยคุยกันนะ!”จาค็อบรีบพูดขึ้น “ใช่แล้ว ไปที่ห้องสวีทกันเถอะ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันพูดไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย!”ชาร์ลีส่ายหัวและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาเป็นเหมือนถ่านไฟเก่าที่โหมกระหน่ำที่มาบรรจบพบกันหลังจากผ่านไป 2 ทศวรรษ! หากพวกเขามีโอกาสได้พบเจอกัน ไ
ชาร์ลีคาดไม่ถึงว่าพอลจะถามคำถามตรงไปตรงมาแบบนี้! แต่ถึงอย่างไร เขารู้ว่าพอลคงจะเดาขึ้นมาเฉย ๆ และเขาจะไม่มีทางยอมรับมันเป็นอันขาดก่อนที่เขาจะปฏิเสธ จาค็อบก็หัวเราะขึ้น และพูดว่า “โถ่ พอล คุณคิดเรื่องนี้มากเกินไป ชาร์ลีเป็นลูกเขยในครอบครัวของเรา ถ้าเขามาจากตระกูลเวดแห่งอีสต์คริฟฟ์จริง ๆ มันคงเป็นนิทานเรื่อง ซินเดอเรลล่าไปแล้ว! พวกเราทุกคนคงจะรวยไปแล้ว!”ถึงแม้ว่าจาค็อบจะเป็นคนเกียจคร้านที่ไม่ได้ทำงานสักวันในชีวิต แต่เขาก็รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลเวดเป็นอย่างดีจะมีคนสักกี่คนในประเทศที่ไม่รู้จักตระกูลเวด เพราะพวกเขามีชื่อเสียงมากด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงมั่นใจมากว่าชาร์ลีไม่ใช่หนึ่งในนั้น เพราะมีคนจำนวนมากที่มีนามสกุลเวดในโลกนี้ แต่มีตระกูลเวดเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นยิ่งชีวิตของชาร์ลีนั้นเขารู้เป็นอย่างดี เพราะชาร์ลีอาศัยและเติบโตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนที่เขายังเด็ก จากนั้นเขาก็ทำงานในไซต์ก่อสร้างเมื่ออายุ 18 ปี ต่อมานายท่านวิลสันพาเขากลับบ้านเมื่อตอนที่เขาอายุ 20 ต้น ๆ และกลายเป็นลูกเขยของเขาผู้ชายคนนี้จะเป็นสมาชิกของตระกูลเวด แห่งอีสต์ คริฟฟ์ได้อย่างไร?ถ้าชาร์ลีเป็นสมาชิกขอ
มาทิลด้าพูดต่อว่า “ว้าว ฉันไม่ได้คาดหวังว่านายจะยังจำมันได้ทั้งหมดนะเนี่ย เอาจริง ๆ ฉันแทบจำอาหารบางจานไม่ได้ด้วยซ้ำนะ”จากนั้น เธอถอนหายใจและพูดต่อ “จริง ๆ แล้ว อาหารของซัดเบอร์รี่ก็อร่อยเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ฉันเรียนที่วิทยาลัย ฉันชอบอาหารของโอลรัสมากกว่า”จาค็อบพูดด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ “ฉันยังจำได้ว่าเธอพูดเสมอว่าต้องการทำอาหารซัดเบอร์รี่สองสามเมนูให้ฉันลอง แต่ก็น่าเสียดาย…”เขาถอนหายใจ และถามอย่างรวดเร็วว่า “จริงด้วยสิ มาทิลด้า เธอคิดยังไงกับการไปทำอาหารเย็นที่บ้านฉัน? บอกตามตรง ฉันรอมาหลายปีแล้ว ฉันหวังว่าความฝันของฉันจะเป็นจริงเข้าสักวันหนึ่งเสียที!”มาทิลด้าประทับใจกับคำพูดของเขา และพูดว่า “ฉันโอเคนะคะ แต่ฉันไม่รู้ว่าคืนนี้พอลจะว่างไหมเนี่ยสิ”จากนั้นเธอก็หันไปหาพอล และถามว่า “ลูกรัก คืนนี้ลูกยุ่งไหม? ถ้าไม่ เราจะไปทานอาหารเย็นที่บ้านของลุงวิลสันกันไหม? แม่อยากพบลูกสาวของเขาด้วย”พอลพยักหน้าอย่างสง่างาม "ไม่มีปัญหาครับ! ไปกันเถอะ”จาค็อบยิ้มอย่างมีชัย! เขาโพล่งว่า “งั้นตามนี้เลย! มาทิลด้า งั้นคืนนี้เธออยากจะทำอาหารอะไรให้ฉันทานดีล่ะ?”มาทิลด้ายิ้มอย่างเขินอาย
พอลเติบโตขึ้นมาในการอบรมเลี้ยงดูที่เข้มงวดและมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่ดีมาก เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ใจกว้างและเป็นกลาง ดังนั้น เขาจึงนิ่งเมื่อได้ยินชาร์ลีพูดถึง "งาน" ของเขาที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ที่มักจะมองเขาแตกต่างไปจากนี้สำหรับชาร์ลี ไม่มีอะไรให้เขาต้องอับอาย เขาเป็นลูกเขยที่ทำงานบ้านมาสามปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนที่จะคิดว่าเขาเป็นพวกไร้ประโยชน์ในเวลาเดียวกันนี้ พอลกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม ชาร์ลี ในเมื่อคุณรู้จักคุณคาเมรอนจากแชงกรีลา คุณสะดวกที่จะแนะนำเขาให้ผมรู้จักได้ไหมครับ? ผมตั้งใจที่จะขยายกิจการและเครือข่ายในงานของผมอย่างจริงจังที่โอลรัส ฮิลล์ เนื่องจากผมจะย้ายบริษัทของผมมาอยู่ที่นี่ ผมจะขอบคุณมากถ้าคุณสามารถช่วยผมได้”ชาร์ลีไม่ต้องการให้พอลรู้ว่าเขาสนิทกับไอแซค คาเมรอนแค่ไหน เขาเกือบจะเดาความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลเวดได้แล้วในตอนนี้ เป็นไปได้ที่เขาจะค้นพบรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมหากเขารู้จักไอแซคผ่านตัวเขา ดังนั้น เขาจึงกล่าวขอโทษว่า “พูดตามตรงนะ พอล คุณคาเมรอน กับผมเป็นแค่คนรู้จัก ผมเพิ่งรู้จักเพื่อนของเขาเป็นการส่วนตัว และมันค่อนข้างน่าละอายที่จะบอกว่าผมพบคนคนนี้ผ่า
จาค็อบเหลือบมองมาทิลด้าด้วยความงุนงง “มาทิลด้า เธอเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและบริษัทมากเลยเหรอ?”พอลหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณลุง อย่าประเมินแม่ผมต่ำไปนะครับ อันที่จริงแม่ก็จบปริญญาเอกด้วย แม่จบการศึกษาจากเยลเหมือนกันครับ แม่กับพ่อของผมพบกันตอนเรียนปริญญาโทที่เยลและแต่งงานกันหลังจากนั้น ต่อมา พ่อของผมได้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายและแม่ของผมก็อยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือเขาเสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของผม อาชีพของพ่อก็คงไม่ดำเนินไปอย่างราบรื่น”จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ผมยังไม่เก่งพอ ดังนั้นผมเลยต้องการความช่วยเหลือจากแม่เพื่อช่วยผม”มาทิลด้าหัวเราะ “โธ่ ลูกเอ๋ย ลูกทำได้ดีมากแล้วนะจ๊ะ แม่หวังว่าลูกจะสามารถเติบโตได้โดยเร็วที่สุดและเข้าบริหารบริษัททั้งหมด จากนั้นแม่จะได้มีความสุขกับการเกษียณได้ในที่สุด”เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันกลับมาที่ออสเกียและโอลรัส ฮิลล์แล้ว ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันไม่ใช่การเริ่มต้นธุรกิจของครอบครัวที่นี่หรอกค่ะ แต่ฉันต้องการใช้ชีวิตวัยเกษียณของหญิงชราอย่างชาวออสเคียนได้อย่างสงบสุขเท่านั้นเอง”จากนั้น เธอแอบมองไปที่จาค็อบและคิดในใจว่า 'ฉันใช้ชีวิตอย่างหนักใ
การได้มาร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่แชงกรีลานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเพลิดเพลินใจเป็นอย่างมาก จาค็อบและมาทิลด้าต่างก็รู้สึกมีความสุขไม่แพ้กัน เธอเศร้าเป็นอย่างมากหลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิต แต่ดูเหมือนว่าท้องฟ้าจะปลอดโปร่งขึ้นแล้วพอลรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นแม่ของเขามีความสุขแบบนี้แต่สำหรับชาร์ลี เขารู้สึกไม่ดีแทนพ่อตาของเขาเป็นอย่างมากเหตุผลก็คือมาทิลด้าเธอช่างสมบูรณ์แบบเกินไปสำหรับจาค็อบ เขานึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหญิงสาวผู้มั่งคั่ง สง่างาม แถมยังเป็นโสดได้กลับมาที่โอลรัส ฮิลล์ เธอจะเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการไล่ตามจีบของเหล่าชายชราผู้มั่งคั่งคนอื่น ๆ ซึ่งมันจะสะสมปัญหาให้กับจาค็อบเท่านั้นมาทิลด้าและพอลค่อนข้างเหนื่อยหลังจากเดินทางมาที่ออสเกียเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ดังนั้น หลังจากเสร็จอาหารกลางวัน จาค็อบและชาร์ลีจึงส่งพวกเขาไปที่ห้องของพวกเขาที่แชงกรีลาเป็นอีกครั้งที่จาค็อบดูตกใจเพราะมาทิลด้ และพอลได้เข้าเช็คอินที่ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีทสุดหรูห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีทในแชงกรีลาเป็นอันดับสองรองจากห้องเพรสซิเดนท์เชียล สวีทซึ่งสามา
จู่ ๆ จาค็อบก็หันไปหาชาร์ลี และถามด้วยความกังวลว่า “ชาร์ลี นายคิดว่าแม่ยายของนายจะกลับบ้านมาไหม?”ชาร์ลีขมวดคิ้วอย่างเชื่องช้า และพูดขึ้นว่า “พ่อครับ พ่ออยากได้ยินอะไรจากผม? ผมควรจะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่เหรอครับ?”จาค็อบสะดุ้งด้วยความงุนงงและพูดอย่างเขินอายว่า “นี่ อย่าเพิ่งพาลไปทั่วก่อนสิ ฉันรู้ว่านายก็ไม่ชอบแม่ยายของนายเหมือนฉันใช่ไหมล่ะ?”ชาร์ลีหันไปหาเขาด้วยความตกใจและอุทานว่า “พ่อ ผมไม่เคยพูดอย่างนั้นนะ!”จาค็อบมองเขา และกล่าวว่า “ให้มันเป็นเรื่องระหว่างเรา นายไม่จำเป็นต้องปิดบังกับฉันหรอกน่า แคลร์ไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย เราพูดอะไรกันก็ได้ที่เราต้องการ จริงไหม?”ชาร์ลีรู้ว่าพ่อตาของเขาคิดอะไรอยู่เขากำลังมองหาพันธมิตรในการกระทำความผิดครั้งนี้เขาไม่ต้องการให้เอเลนกลับบ้าน แต่แคลร์ต้องการให้หาแม่ของเธอให้เจอโดยเร็วที่สุดดังนั้นการเผชิญหน้าทางจิตวิทยาจึงเกิดขึ้นระหว่างพ่อกับลูกสาวซึ่งทำให้คะแนนปัจจุบันอยู่ที่ 1:1 ชาร์ลีเป็นคนกลางในเรื่องนี้ ในกรณีนี้ จาค็อบจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาเขามาเป็นพวกในครอบครัวเหลือเพียงสามคน ถ้าคนสองคนไม่ต้องการให้เอเลนกลับบ้าน ก็จะเป็นการลงค
ชาร์ลีไม่เคยคิดว่าพ่อตาของเขาจะแอบชั่วร้ายได้ขนาดนี้ แต่ชาร์ลีก็เข้าใจความรู้สึกของเขาได้เช่นกันเพราะผู้หญิงคนนั้นคือรักแรกที่เขาไม่ได้พบเจอมาเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ และเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน หากเขาเป็นจาค็อบ เขาเองก็คงไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเรื่องนี้ยิ่งไปกว่านั้น เอเลนเป็นเหมือนระเบิดเวลา ที่สำคัญแรงระเบิดของเธอนั้นจะรุนแรงมาก สามารถเทียบเท่ากับการระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์เลยทีเดียวดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษแต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เอเลนนั้นอยู่ในสถานกักกันซึ่งได้ถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็นตราบใดที่พวกเขาไม่ได้รับการยินยอมจากชาร์ลีเมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน แคลร์ก็เพิ่งกลับมาถึงบ้านด้วยพอดี ชาร์ลีเดินไปหาเธออย่างเร่งรีบและถามว่า “ที่รัก คุณไปโรงพักหรือยัง? ตำรวจว่ายังไงบ้างครับ? พวกเขามีข่าวเกี่ยวกับแม่บ้างไหม?”แคลร์หน้าซีดและดูเป็นกังวล “ตำรวจบอกฉันว่าพวกเขาได้ออกประกาศทั่วเมืองและติดต่อไปยังทีมกู้ภัยบลูสกายแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเจอแม่หรือรู้ว่าตอนนี้แม่อยู่ที่ไหนเลยค่ะ พวกเขาไม่พบเบาะแสใด ๆ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล