ที่สำคัญกว่านั้นเขาต้องหาวิธีสร้างชื่อเสียงของตัวเองในหมู่อดีตเพื่อนร่วมวิทยาลัยอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นเขาจะอวดต่อหน้าเพื่อน ๆ ในอนาคตได้อย่างไรหลังจากถูกชาร์ลีทำให้อับอายถึงสองครั้งแบบนั้น?ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีการกู้คืนศักดิ์ศรีของเขา ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นที่ประตูทางเข้าของร้านอาหารอย่างกะทันหันเช่นกันเสียงดังดึงดูดความสนใจของทุกคนและพวกเขามองไปที่ประตูกลุ่มวัยรุ่นที่มีลักษณะมุ่งร้ายบุกเข้าไปในร้านอาหาร พวกเขามีรอยสักทั่วแขนขาและลำตัว พวกนั้นต่างถือไม้เบสบอล ท่อแป๊บ และอื่น ๆ ในมือ พวกเขาดูเหมือนไม่ได้มาที่นี่เพื่อทานอาหารเลยทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมากเมื่อเห็นภาพที่น่ากลัว โดยเฉพาะดักลาสและลิลี่ ดวงตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความหวาดกลัวชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าเห็นได้ชัดว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาก้าวไปข้างหน้าสแกนห้องโถงจากนั้นชี้ไปที่ดักลาสด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “บอสทำไมคุณไม่มาทักทายก่อนพิธีเปิดล่ะ? คุณมองไม่เห็นพวกเราเหรอ?”เหมือนเลือดไหลออกจากใบหน้าของลิลี่ เธอยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "พวกนาย… พวกนายต้องการอะไรจากเรา?”ก่อนการเปิดตัวลิลี่ได้ยินว่ามีนักเลงแอบซุ่มอยู่
คลินตันรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับปฏิกิริยาที่ฉับพลันของคุณลี และรู้สึกรำคาญมาก แต่ในขณะที่เพื่อนของเขายังคงเฝ้าดูเขาอยู่ เขาจึงกัดฟันและค้นหาผู้ติดต่อคนอื่นตอนนี้ เขาได้โทรไปหาผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรประจำพื้นที่เขาจำได้ว่าคนคนนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพ่อของเขาด้วยเมื่อเขารับสายเขาก็เริ่มทันที “สวัสดีครับ คุณเคนท์ ผมชื่อคลินตัน คลินตัน ทัคเกอร์ ผมมีปัญหาบางอย่างในเขตพัฒนาขื้นใหม่…”เขาอธิบายเรื่องนี้อีกครั้งชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสายกระแอมอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และพูดว่า “คลินตัน เขาเป็นคนของบิล และบิลเป็นคนของดอน อัลเบิร์ต ฉันคิดว่าเธอไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะดีกว่า”คลินตันถามด้วยความสับสนว่า “นี่คุณไม่อยากทำอะไรกับเรื่องนี้เลยเหรอ?”“เธอควรรู้สถานะของดอน อัลเบิร์ตในเมืองนี้นะ ที่สำคัญมันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของฉันด้วย”คลินตันรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยกับคำตอบที่เขาพูดซึ่งฟังดูตื่นตระหนก “คุณช่วยผมคุยกับเขาสักหน่อยไม่ได้เหรอ?”ผู้ชายหัวเราะเบา ๆ “โทษทีนะ แต่ฉันทำอะไรไม่ได้”คลินตันรู้สึกกระวนกระวายใจและคำราม “นี่คุณเคนท์ ผมจำได้ว่าคุณหวังให้เอ็มแกรนด์กรุ๊ปบริจ
ขณะที่นักเลงคนนั้นหันหน้ามาและสะดุดกับชาร์ลีใน ตอนแรกเขายังงงงวย จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่งฉับพลัน! เขาตกใจมากและรีบคุกเข่าลงบนพื้น!ก่อนที่ใครจะได้สติกลับมา หัวหน้านักเลงโยนมีดทิ้งเริ่มตบตัวเองและร้องว่า “คุณเวด ผมขอโทษครับ! ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ ผมขอโทษอย่างที่สุด!”ชาร์ลีรู้สึกตกใจกับปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน "รู้จักผมเหรอ?"นักเลงคนนั้นพยักหน้าอย่างลนลานและพูดว่า “ใช่ครับ คุณเวด บิลเป็นพี่ใหญ่ของผม ผมเจอคุณเมื่อวันก่อนที่เฮเว่นสปริงส์…”ชาร์ลีก็รู้แจ้งในทันใดช่างน่าสนใจบิลคือคนของดอน อัลเบิร์ตผู้ซึ่งทรมานเจอรัลด์และแฮโรลด์ที่เฮเว่นสปริงส์วันก่อน ผู้ชายคนนี้คือคนของบิลนี่เองไม่แปลกใจเลยที่เขากลัวชาร์ลีมากแม้แต่ขาของดอน อัลเบิร์ตก็เป็นวุ้นเมื่อเขาเห็นชาร์ลีนับประสาอะไรกับเด็กของเขา...ทุกคนตกใจกับที่เกิดเหตุ! ลิลี่ก็อ้าปากค้างเหมือนกัน!พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมนักเลงชั่วร้ายที่เพิ่งจัดการคลินตันถึงยอมคุกเข่าต่อหน้าชาร์ลี? ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเขาจะกลัวชาร์ลีมากด้วย!แคลร์ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เธอดึงแขนของชาร์ลีแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? คุณรู้จักเขาด้
แคลร์สงสัยมากเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ประการแรก เหตุการณ์การแข่งรถ ทำไม BMW 520 ของชาร์ลี ถึงเร็วกว่ารุ่น 540 ของคลินตันถึงสองเท่าประการที่สอง ภาพวาดโบราณที่มีมูลค่าหลายล้านบาท!ประการที่สาม ชาร์ลีรู้จักผู้คนจากโลกใต้ดินได้อย่างไร? ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าพวกนั้นสุภาพและให้เกียรติต่อชาร์ลีแค่ไหนระหว่างทางกลับบ้านชาร์ลีได้ให้คำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดประการแรก BMW 520 เป็นรถทดลองขับที่โชว์รูมได้รับการปรับแต่งเพื่อให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดว่ารถรุ่นดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากแคลร์ไม่รู้เรื่องรถยนต์มากนักเธอจึงเชื่อเขาประการที่สอง เขาอธิบายเกี่ยวกับภาพวาดเมื่อพวกเขาอยู่ที่ร้านอาหาร เขาซื้อมันในราคาต่ำจากคนรู้จักและเขามอบให้ดักลาสเป็นของขวัญเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอย่างไรก็ตามเรื่องของนักเลงคนนั้นค่อนข้างยุ่งยาก เขาต้องหาคำอธิบายที่ฟังดูน่าเชื่อถือเพื่อปกปิดความสัมพันธ์ของพวกเขา เนื่องจากแคลร์ได้เห็นด้วยตัวเองว่านักเลงคนนั้นมีความเคารพยำเกรงเขาเพียงใดสุดท้ายนี้เขาสามารถอ้างได้เพียงว่า พี่ชายของนักเลงคนนั้นเป็นญาติของเพื่อนที่พวกเขาเคยพบกันในงานรวมตัวมาก่อน
แคลร์ขมวดคิ้วด้วยความสับสน นี่คือที่ที่ชาร์ลีจองอาหารค่ำวันครบรอบของพวกเขาในคืนนี้อย่างนั้นเหรอ?เธออดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัยว่า “คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”ชาร์ลีหัวเราะอย่างยินดี “แน่นอนว่าไม่ใช่!”จากนั้นเขาพูดต่อว่า “ผมจองไว้เมื่อสองสามวันก่อน เข้าไปดูกันดีกว่า ถ้าคุณไม่เชื่อผม”แคลร์ส่ายหัว ชาร์ลีไม่เคยหลอกเธอเลยสักครั้งตั้งแต่แต่งงานกันมาสามปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่ในวันสำคัญเช่นวันนี้ เธอจึงพูดว่า “ไม่ค่ะ ฉันเชื่อคุณ”เธอเอียงศีรษะอย่างสงสัยและถามว่า “นี่คุณจองสกายการ์เด้นไว้ด้วยหรือเปล่า? มีผู้ชายวีไอพีบางคนจองสถานที่ทั้งหมดสำหรับวันนี้ใช่ไหม?”ชาร์ลีอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ที่นั่งที่ผมจองไว้ติดกับสกายการ์เด้น มันบังเอิญมองเห็นวิวด้านในของสวน เราสามารถดูว่าใครในโลกที่จองสถานที่นี้ภายหลัง! คุณคิดยังไง?"แคลร์หัวเราะคิกคัก “ฉันไม่ใช่คนอยากรู้อยากเห็นเหมือนคุณซะหน่อย!”จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในโรงแรมแชงกรีลาขณะที่พวกเขากำลังรอลิฟต์ เสียงทักทายกรีดหูก้องเข้ามาในหูของพวกเขา “อ้าว แคลร์ ทำไมเธอมาที่นี่!”แคลร์เงยหน้าขึ้น และเห็นคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังเดินมาหาพวกเขาชายค
จูลี่ไม่ได้สังเกตว่าการแสดงออกของแคลร์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอดึงชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอพร้อมกับรอยยิ้มมั่นหน้าของเธอและพูดว่า "ฉันขอแนะนำสามีของฉันให้รู้จักนะ นี่คุณไคล์!"จากนั้นเธอกล่าวชมว่า “เขาเป็นนายน้อยของตระกูลซัลลิแวนและยังเป็นทายาทของตระกูลที่มีสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้าน!”แคลร์พยักหน้าอย่างสุภาพในทางกลับกันชาร์ลีจ้องมองคู่หนุ่มสาวด้วยความรำคาญเขาพาภรรยามาที่นี่เพื่อฉลองวันครบรอบแต่งงาน ใครจะไปรู้ว่าไอ้คนน่ารำคาญจะโผล่มาขวางทางพวกเขา!จูลี่พูดต่อด้วยน้ำเสียงอวดดี “โอ้ พอดีสามีของฉันเป็นสมาชิกระดับแพลทินัมน่ะ เขาก็เลยได้รับสิทธิประโยชน์มากมายที่นี่ ฉันเดาว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ชาร์ลีจะได้รับคือห้องสวีทธรรมดาใช่ไหม? ให้ใครอัปเกรดให้พวกเธอเป็นลักซ์ชัวรี่ดีไหมนะ?”แคลร์กำลังจะปฏิเสธข้อเสนอของเธอเมื่อชาร์ลีหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “พอดีว่าที่ที่ฉันจองไว้ค่อนข้างดีทีเดียว ขอบคุณนะ แต่ไม่ดีกว่า”เขาจองสกายการ์เด้นทั้งหมดเพื่อจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับภรรยาที่รักของเขา ทำไมเธอถึงได้ภูมิใจนักที่ได้เป็นเพียงสมาชิกระดับแพลตทินัม?นอกจากนี้ครอบครัวของเขายังเป็นเจ้าของเครือโรงแรม
"ในช่วงที่คุณอยู่ปีหนึ่งตามบันทึก เธอได้เข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าร้อยครั้งกับผู้ชายแปดคนรวมถึงเบร็ต คูเล่ย์, แจ็ค เพียซ และ ออสติน แคนนอน"ใบหน้าของจูลี่ซีดลงดวงตาของเธอเบิกกว้างและอ้าปากค้างด้วยความตกใจสุดขีด เธอโพล่งด้วยความโกรธ “นี่นายกำลังพูดถึงอะไร! ฉันจะฟ้องนายในข้อหาใส่ร้าย!”ในทางกลับกัน รอยย่นขมวดคิ้วลึกเริ่มก่อตัวบนหน้าผากของไคล์ เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจและชอกช้ำชาร์ลีเริ่มพูดต่อ “โอ้โห อันนี้เจ๋งมาก มีไม่กี่ครั้งที่คุณเช็คอินในห้องพักในโรงแรมกับผู้ชายสองคน เบ็น เด็คเคอร์และเจย์ เด็คเกอร์ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ? พวกคุณปาร์ตี้ทรีซัมสามคนกันหรือเปล่า”จูลี่ร้องลั่นด้วยความตกใจ “หุบปาก! หุบปาก! มันเป็นเรื่องไร้สาระ!”ชาร์ลีไม่สนใจเธอและพูดต่อ “แล้วตอนที่เธออยู่ปีสอง เธอมีเสี่ยเลี้ยงซะด้วย เขาเป็นรองประธานของฮีโรลูชันส์เอ็นเตอไพรส์ แถมจ่ายเงินให้เธอสามแสนต่อเดือนเป็นเวลาสามปีด้วย ในช่วงเวลานั้นเธอทำแท้ง 4 ครั้งและทำที่โรงพยาบาลสตรีโอลรัสทั้งหมด ในระหว่างการทำแท้งครั้งล่าสุดแพทย์ได้แจ้งว่าเธอจะมีบุตรได้ยาก”เขามองไปที่ไคล์และถามอย่างสงสัย “นี่คุณซ
ใบหน้าของไคล์ เป็นสีเขียวและน่าเกลียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อระงับการระเบิดของเขาเขาก็รู้สึกได้ว่าภรรยาของเขานอกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า!ในที่สุดเขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปและเริ่มตบจูลี่อย่างรุนแรงพร้อมกับคำด่าว่า “นังแพศยา! แกโกหกฉันมาตลอด! นังร่าน! ฉันจะฆ่าแก อีตัว! ฉันจะฆ่าแก!”จูลี่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและคร่ำครวญเสียงดัง ผมของเธอปลิวว่อนไปทั่วไคล์ตะโกนขณะที่ตบเธอ “ตอนนี้ฉันต้องการหย่า! แกจะไม่ได้เงินจากฉันแม้แต่บาทเดียว! ไม่อย่างนั้นฉันจะให้คนมาจัดการพ่อแม่และพี่ชายของแกให้หายไปจากโลกนี้ซะ!”จูลี่พังพินาศในที่สุดเธอพยายามที่จะแต่งงานกับตระกูลซัลลิแวนและในที่สุดเธอก็ประสบความสำเร็จ เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นภรรยาที่ร่ำรวยไปตลอดชีวิต แต่วันนี้ความฝันของเธอพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง!ทั้งหมดเป็นเพราะชาร์ลี เวดเธอเกลียดชาร์ลีมาก แต่ชาร์ลีเพียงแค่ยิ้มอย่างดูถูกและพูดกับแคลร์ว่า “ที่รัก ให้พวกเขาจัดการกันต่อเถอะ เราไปกันดีกว่า"เขาจูงมือแคลร์แล้วเดินไปที่ลิฟต์ดวงตาที่เป็นประกายของแคลร์สั่นเล็กน้อยเธอยังตกใจไม่หายและไม่สามารถสงบอารมณ์ได้ ชาร์ลีรู้ความลับของจูลี่ได้อย่างไร?เธอหันไป
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล