เมื่อเอเลนเห็นว่า ฮันนาห์ยกมือขึ้นพร้อมก้าวมาหาตน เธอก็ถอยกลับไปสองสามก้าวทันทีและพูดอย่างเย็นชาว่า “ให้ฉันบอกอะไรให้นะ อย่ามาทำให้ฉันไม่พอใจจะดีกว่า เก็บมือลงไปซะ!”ในเวลานี้ ฮันนาห์ตอบอย่างดุร้ายว่า “อย่าทำให้แกไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ! ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ฉีกปากแก ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าฮันนาห์ ควีน!”เอเลนถอนลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะโต้กลับ “ชาร์ลี ลูกเขยฉันเก่งการต่อสู้มากนะ ฉันเชื่อว่าพี่คงยังไม่ลืมวิธีที่เขาจัดการกับบอดี้การ์ดที่พวกพี่จ้างมา หรือแม้แต่วิธีที่เขาสอนลูกชายที่ไร้ประโยชน์ของพี่หรอกนะ แฮโรลด์น่ะ บทเรียนที่เขาจะไม่มีวันลืมยังไงล่ะ? จะบอกให้นะ ถ้าพี่พยายามยั่วโมโหฉันวันนี้ ฉันจะโทรหาชาร์ลีให้เขามาจัดการพวกพี่ทันที!”ฮันนาห์ตัวสั่นทันทีที่ได้ยินคำพูดของเอเลน เธอรู้สึกหงุดหงิดและรู้สึกราวกับว่าความโกรธและความเกลียดชังที่เธอรู้สึกได้หายไปแล้ว...พูดตามตรง ชาร์ลีทิ้งเงาทางจิตวิทยาที่แข็งแกร่งมากกับเธอเธอไม่เข้าใจว่า ทำไมเศษขยะที่น่าสมเพชอย่างชาร์ลีซึ่งถูกรังแกและดูถูกอยู่เสมอ จริง ๆ แล้วสามารถต่อสู้ได้เก่งมาก เขาบ้าและตอนที่เขาทุบตีผู้คนนั้นก็ควบคุมไม่ได้จริง ๆ!คริสโตเฟอร์ก็กลัวช
หลังจากนั้น คริสโตเฟอร์ก็พาฮันนาห์ออกจากวิลล่าทันทีตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เดินตามหลังพวกเขาอย่างช้า ๆ หลังจากฟังคำพูดของเอเลน เธอก็รู้สึกดูถูกลูกค้าสองคนนี้เช่นกัน แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องติดตามพวกเขาเพราะลูกค้าคือพระเจ้าเสมอเมื่อซัมเมอร์เห็นทั้งคู่จากไป เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดว่า “พี่เอเลน ญาติของพี่นี่แปลกจริง ๆ พวกเขาทำกับฉันเหมือนคนโง่หรือยังไง? กล้าขอซื้อบ้านของฉันในราคาแปดสิบล้านเนี่ยนะ…”เอเลนยิ้มก่อนจะตอบว่า “พวกเขากำลังจะล้มละลายในไม่ช้านี้ อันที่จริง พวกเขาเป็นเพียงพวกคนยากจนที่ไม่มีเงินเลย ฉันคิดว่าพวกเขาซื้อไม่ได้หรอก ต่อให้เธอจะขายในราคาแปดสิบล้านก็เถอะ!”ซัมเมอร์พยักหน้าก่อนจะพูดว่า “น่าผิดหวังจริง ๆ อย่าไปสนใจพวกเขาเลย ไปเล่นไพ่นกกระจอกของเราต่อดีกว่า!”***หลังจากที่สองสามีภรรยาออกจากวิลล่า คริสโตเฟอร์และฮันนาห์ก็เริ่มสาปแช่งสาเหตุหลักที่พวกเขาไม่กล้าสาปแช่ง หรือสบถด่าต่อหน้าเอเลนก็เพราะพวกเขาทั้งคู่กลัวชาร์ลีลูกเขยของเธอหากพวกเขาโดนชาร์ลีทุบตี พวกเขาก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่ตามหลังพวกเขาไป เธอรอหล
เอเลนไม่รู้ว่าทั้งคริสโตเฟอร์และฮันนาห์ได้เริ่มวางแผนที่จะขโมยทรัพย์สินของเธอ และคฤหาสน์สุดหรูที่ธอมป์สันเฟิร์ส ซึ่งมีชาร์ลีลูกเขยของเธอเป็นเจ้าของเธอยังคงเล่นไพ่นกกระจอกที่วิลล่าของซัมเมอร์กับเพื่อน ๆ จนถึงดึก แถมยังไม่สนใจที่จะกลับบ้านไปทานอาหารค่ำด้วยซ้ำ ผู้หญิงทั้งสี่คนตัดสินใจสั่งเคเอฟซีมากินที่บ้านแทน สาวใหญ่ทั้งสี่กำลังกินไก่ทอด และเพลิดเพลินกับน่องไก่ระหว่างเล่นไพ่นกกระจอก พวกหล่อนไม่สามารถหยุดยิ้มได้ในขณะที่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกต่อไปชาร์ลีเตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว และกำลังทานอาหารมื้อนี้อย่างเพลิดเพลินไปกับภรรยาและพ่อตาของเขา แคลร์อดไม่ได้ที่จะบ่นเมื่อเห็นว่าแม่ของเธอไม่กลับมาบ้าน หลังจากนั้น แคลร์ก็พูดว่า “พ่อคะ! พ่อช่วยเริ่มคุมแม่บ้างได้ไหม? พ่อควรพยายามหยุดแม่เรื่องไปเล่นไพ่นกกระจอกแล้วก็พวกการพนันตลอดเวลาได้แล้วนะคะ!”“ให้คุมแม่น่ะเหรอ?” จาค็อบพ่นลมหายใจก่อนจะพูดว่า “พ่อจะไปทำอะไรได้ ทำไมลูกไม่ลองเองล่ะ? ถ้าพ่อควบคุมแม่ของลูกได้จริง ๆ ลูกคิดว่า วันนี้พ่อจะอยู่ในสภาพนี้ไหมล่ะ? ลูกรู้ไหมว่าทำไมคุณย่าของลูกถึงชอบลุงของลูกแทนที่จะเป็นพ่อ?”แคลร์ประหลาดใจมากเมื่อถามพ่อของเธ
แต่อย่างไรก็ตาม ช่างน่าเสียดายที่เขาเลือกทำผิดวิธี นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมลูกกตัญญูผู้นี้จึงถูกทุกคนมองว่าเป็นคนชั่วร้ายหลังจากนั้นสองวัน การเสียชีวิตของมาซาโอะ โคบายาชิ ประธานบริษัทโคบายาชิฟาร์มาได้ปลุกความสนใจอย่างมากในญี่ปุ่นภายใต้การโฆษณาชวนเชื่ออันรุนแรงที่เปิดตัวโดยจิโรลูกชายคนที่สองของมาซาโอะ ทำให้อิจิโร่กลายเป็นแกนนำผู้กระทำผิด ซึ่งวางยาพิษให้บิดาผู้ให้กำเนิดของเขาเสียชีวิต ฐานพยายามที่จะเข้ารับตำแหน่งแทนบิดาของเขาในฐานะประธานของโคบายาชิฟาร์มาในเวลานี้ คนทั้งญี่ปุ่นกำลังด่าว่าอิจิโร่ เพราะพวกเขาคิดว่า ชายผู้นี้เป็นลูกชายนอกรีตที่สุดในญี่ปุ่น ผู้คนถึงกับเรียกเขาว่าความอัปยศของญี่ปุ่น!ในเวลาเดียวกัน จิโร่ยังได้เพิ่มรางวัลเงินสดให้กับพี่ชายของเขา ค่าหัวของอิจิโร่จากหนึ่งพันล้านเยนกลายมาเป็นสามพันล้านเยนอีกด้วยเขาต้องการเข้ารับตำแหน่งประธานของโคบายาชิฟาร์มาโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแน่ใจว่า พี่ชายของเขาเสียชีวิตโดยเร็ว และเขาไม่ควรได้รับอนุญาตให้กลับไปญี่ปุ่นก่อนที่เขาจะตายจิโร่รู้ดีว่า พี่ชายของเขาไม่เคยตั้งใจจะฆ่าพ่อของพวกเขา แม้ว่าเขาต้องกา
จิโร่เกลียดชาร์ลีจนสุดหัวใจแต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะไปยุ่งกับชาร์ลีดังนั้นเขาจึงทำได้แค่พยายามต่อรองกับอัลเบิร์ตเท่านั้นน้ำเสียงของเขาเคร่งเครียดมากเช่นกัน “ดอน อัลเบิร์ต คุณช่วยส่งข้อความของผมถึงคุณเวดได้ไหม? บัญชีธนาคารของโคบายาชิฟาร์มาเหลือเงินอยู่ประมาณสองสามหมื่นล้านบาทเท่านั้น ลูกหนี้ของเราหลายเจ้ามากยังไม่ได้จ่ายเงินคืนให้เรา ตอนนี้เรายังเป็นหนี้ธนาคารอยู่หลายหมื่นล้านเหมือนกัน เราอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมากจริง ๆ !”อัลเบิร์ตตอบว่า “คุณเวดหมายความตามที่เขาพูดมาโดยตลอด ดังนั้นอย่าคิดว่า คุณจะสามารถต่อรองกับคุณเวดเมื่อไหร่ก็ได้!”จิโร่ขอร้อง “ดอน อัลเบิร์ต ตอนนี้ผมลำบากมาก เอาแบบนี้ดีไหม? บอกคุณเวดว่า ให้เวลาผมสองเดือน ผมจะโอนเงินให้เขาภายในสองเดือนอย่างแน่นอน แต่ในช่วงสองเดือนนี้ เขาต้องแน่ใจว่า พี่ชายของผมจะไม่พูดอะไร หรือแสดงตัวของเขาในที่สาธารณะ หรือกลับมาญี่ปุ่นไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม!"สองเดือน?" อัลเบิร์ตคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ถ้างั้นรอสักครู่ ผมจะขอความเห็นจากคุณเวด”หลังจากนั้น อัลเบิร์ตก็ส่งข้อความหาชาร์ลีทันที และบอกเขาเกี่ยวกับคำขอของจิโร่ที่จะให
อัลเบิร์ตถามอย่างเร่งรีบ “งั้นคุณต้องการให้ผมฆ่า และกำจัดอิจิโร่ตอนนี้เลยไหมครับ? ผมควรถ่ายวิดีโอการฆ่าเพื่อให้จิโร่ดูด้วยไหมครับ?”ชาร์ลีตอบว่า “ผมต้องการให้คุณซ่อนอิจิโร่ไว้ที่ไหนสักแห่ง แล้วหาคนที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์วิดีโอพิเศษได้ ผมอยากให้คุณถ่ายภาพหัวที่โดนยิงของอิจิโร่แล้วส่งวิดีโอนั้นไปให้จิโร่หลังจากที่คนคนนั้นใช้เทคนิคพิเศษบางอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่าจิโร่จะเชื่อว่าพี่ชายของเขาตายแล้ว”อัลเบิร์ตถามด้วยความประหลาดใจ “คุณเวด คุณกำลังพยายามช่วยชีวิตอิจิโร่อยู่เหรอครับ?”ชาร์ลีตอบว่า “ใช่ ผมคิดว่าการให้อิจิโร่ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปคงเป็นประโยชน์กับเราสักวันหนึ่ง บางทีผมอาจใช้อิจิโร่เพื่อรับมือกับโคบายาชิฟาร์มาได้ในอนาคต มันคงง่ายเกินไปถ้าผมฆ่าอิจิโร่เพื่อเขา แค่หนึ่งพันล้านเยน”หลังจากนั้นชาร์ลีก็พูดอีกครั้งว่า “แล้วคุณไม่ควรคิดมากเกินไปเกี่ยวกับศีลธรรม หรือความน่าเชื่อถือของคุณเมื่อพูดเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วเราไม่ได้เป็นหนี้คนญี่ปุ่นเลย ในทางตรงกันข้าม ยิ่งพวกเขาน่าเวทนามากเท่าไร มันก็จะดีสำหรับเรามากขึ้นเท่านั้น!”"ผมเข้าใจแล้วครับ!" อัลเบิร์ตรีบตอบ “ไม่ต้องกังวลครับคุณเวด จากนี
รูเบนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมปู่ของเขาถึงเคารพชาร์ลีมากขนาดนี้นายท่านมัวร์ถือว่า ชาร์ลีเป็นพระเจ้า เหตุผลของเขาคล้ายกับเหตุผลที่แอนโธนีให้ความเคารพชาร์ลีมาก ทั้งสองคนเป็นคนชรา ยิ่งพวกเขารู้ชะตากรรมที่จะมาถึงของพวกเขามากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวมันมากขึ้นเท่านั้นอย่างไรก็ตาม รูเบนอายุยังไม่ถึงสามสิบปี หากใครบอกเขาว่า เขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกห้าปีหลังจากกินยาวิเศษ เขาคงปฏิเสธมันอย่างง่ายดาย ตรงกันข้าม สำหรับชายชราที่ใกล้จะลาโลก คนที่บอกเขาว่า เขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกห้าปีถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่เปรียบได้กับพรของพระเจ้าอย่างแท้จริงจัสมินสามารถเข้าใจความคิดทางจิตใจของคุณปู่ของเธอไม่มากก็น้อย ท้ายที่สุด เธอก็เป็นเจ้าของยาวิเศษที่ชาร์ลีให้มา ซึ่งต่างกับรูเบน เธอซ่อนเม็ดยาวิเศษไว้ในรถของเธอ และมีเพียงชาร์ลี และตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้เรื่องยาวิเศษนี้ด้วยยาเม็ดวิเศษนี้ จัสมินมีความสงบในใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเธอรู้ว่า ถึงแม้มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอ เธอจะมีโอกาสรอดชีวิต และกลับมามีลมหายใจต่อได้ตราบเท่าที่ยาอยู่ในมือของเธอถ้าคนอื่นมีโอกาสแบบนี้ พวกเขาคงไม่คิดว่ามัน
ในเวลาเดียวกันนี้จัสมินถามขึ้นมาว่า “คุณปู่คะ ให้พวกเรานำของขวัญไปด้วยไหมคะ?”นายท่านมัวร์ตอบว่า “มีคนให้หยกชิ้นหนึ่งกับปู่เมื่อสองสามปีก่อน มันส่งผลทำให้จิตใจสงบและให้ความสงบแก่เจ้าของ ปู่อยากให้หลานมอบมันให้โดนัลด์ และบอกเขาว่ามันเป็นของลูกชายของเขา แม้ว่ามันอาจจะมีผลเพียงเล็กน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”จัสมินพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ได้ค่ะคุณปู่ รับทราบค่ะ"ทันใดนั้น นายท่านมัวร์ลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดว่า “จัสมิน มากับปู่หน่อย”“ได้ค่ะคุณปู่” จัสมินลุกขึ้นยืนโดยไม่ลังเล และรีบตามคุณปู่เข้าไปในห้องทำงานของเขาเมื่อเข้าไปในห้องทำงาน นายท่านมัวร์นั่งลงบนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีแล้วถามจัสมินว่า “จัสมิน ปู่อยากถามหลานว่า ช่วงนี้หลานมีความคืบหน้าอะไรกับคุณเวดบ้างไหม?”จัสมินหน้าแดงทันทีที่ได้ยินคำพูดของปู่ของเธอ “คุณปู่ หนู… หนู… เอ่อ…”นายท่านมัวร์ยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่กระวนกระวายใจของจัสมิน “หลานของปู่ ทำไมหลานถึงเขินอายได้ขนาดนี้? บอกมาเถอะว่าไปถึงไหนกันแล้ว!”จัสมินเขินอายมากขณะที่เธอตอบว่า “คุณปู่คะ พูดตามตรง คุณเวดช่วงนี้งานยุ่งมาก แทบไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยค่ะ…”นายท่านมัวร์รู้สึก
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล