ในไม่ช้า รูเบนก็ขับรถออกจากบ้านมากับจัสมิน และพวกเขามุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลจิตเวชคาสเซอร์พีคในย่านชานเมืองในโรงพยาบาลจิตเวชคาสเซอร์พีค พยาบาลเพิ่งให้อาหารเคียนซึ่งตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่งอยู่ในที่สุดเคียนก็ฟื้นคืนสติหลังจากให้อาหารเขา เช็ดปาก ล้างปาก และล้างท้องให้เขา เคียนมีสีหน้าพึงพอใจอย่างมาก ในขณะที่เขานอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลโดยถูกมัดมือและเท้าของเขาไว้พยาบาลสองสามคนต่อต้านการอาเจียนขณะที่พวกเขาเดินออกจากห้องไอซียูไปยังห้องพักแขกด้านนอกที่มีอ่างที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกที่พวกเขาเพิ่งล้างออกจากท้องของเคียนในเวลานี้ โดนัลด์พ่อของเคียน และฌอนพี่ชายของเขากำลังนั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆหลังจากออกจากห้องไอซียูแล้ว พยาบาลคนหนึ่งก็ทักทายพวกเขาด้วยความเคารพ "นายท่านเวบบ์ และนายน้อยเวบบ์ ผู้ป่วยกลับมามีสติแล้วค่ะ”โดนัลด์ถามอย่างเย็นชาว่า “คุณล้างกระเพาะเขาเสร็จแล้วหรือยัง?”พยาบาลพยักหน้าก่อนจะกระซิบ “ค่ะ เราทำตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว!”"ครับ" โดนัลด์ถามอีกครั้ง “สิ่งที่คุณได้ให้อาหารเขาในครั้งนี้… คุณฆ่าเชื้อแล้วใช่ไหม?”พยาบาลตอบอย่างเร่งรีบว่า “เราฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล
เคียนนอนอยู่บนเตียงด้วยน้ำตาคลอเบ้าพลางมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ เขาสามารถได้กลิ่นเหม็นจากลมหายใจของเขาทุกครั้งที่เขาหายใจ และเขารู้สึกรังเกียจตัวเองมาก“เคียน”เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่เศร้าหมอง และอ้างว้างบนใบหน้าของลูกชาย โดนัลด์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นทุกข์เคียนไม่ได้มองเขา แต่ยังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง เขากระแอมและพูดว่า “พ่อ ทำไมพ่อไม่ปล่อยให้ผมตายล่ะ? ผมใกล้จะตายแล้วจริง ๆ เพราะผมต้องทำเรื่องน่าขยะแขยงทุก ๆ ชั่วโมง…”โดนัลด์รีบก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่จับมือลูกชายและพูดว่า “ลูกรักของพ่อ แกต้องจำไว้ว่าการมีชีวิตอยู่ดีกว่าตายเสมอ!”เคียนร้องไห้ออกมาก่อนจะพูดว่า “แต่ใครจะมีชีวิตที่น่าสังเวชกว่าผมอีก? ถ้าผมต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต ผมยอมตายตอนนี้เลยดีกว่า…”โดนัลด์รู้สึกทุกข์มาก และเขาพูดอย่างจริงจังว่า “เคียน ไม่ต้องกังวลนะ พ่อจะรักษาแกให้หายแน่นอน ไม่ว่าพ่อจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม พ่อสัญญา!"เคียนหันหน้ามามองพ่อของเขา ก่อนที่เขาจะถามโดยไม่รู้ตัวว่า “พ่อ พ่อพูดจริง ๆ เหรอ?”ขณะที่เคียนพูดขึ้นนั้น กลิ่นเหม็นรุนแรงจากปากของเขากระทบโดนโดนัลด์จัง ๆดวงตาของโดนัลด์แดงขึ้นทันที แ
โดนัลด์และฌอนลูกชายของเขาเพิ่งออกมาจากห้องไอซียู เมื่อพยาบาลพารูเบน และจัสมินเข้าไปในห้องรับรองก่อนฌอนสามารถมองเห็นจัสมินที่เพรียวบาง และสง่างามได้ในพริบตา เขาผงะไปครู่หนึ่ง และกลับมามีสติได้ภายในไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นโดนัลด์ยังแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นจัสมินเขาเป็นผู้อาวุโสของจัสมิน ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยมีการติดต่อ หรือปฏิสัมพันธ์กับจัสมินมากนัก พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่า ตอนนี้เด็กสาวคนนี้สวยและน่าดึงดูดยิ่งกว่าเมื่อก่อน เธอสวยไม่แพ้ดาราดังพวกนั้นเลย!ในเวลานี้ รูเบนก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ คุณลุงเวบบ์ ผมรูเบนจากตระกูลมัวร์ และนี่คือจัสมินลูกพี่ลูกน้องของผม คุณปู่ของผมได้ยินมาว่า คุณอยู่ในโอลรัสฮิลล์l คุณปู่ก็เลยอยากให้พวกเรามาเยี่ยมคุณลุงครับ”รูเบนกล่าวต่อว่า “พอดีตอนนี้พ่อของผมไม่ได้อยู่ที่โอลรัสฮิลล์ เขาก็เลยมาเยี่ยมด้วยตัวเองไม่ได้ ให้อภัยในความหยาบคายของพวกเราด้วยนะครับ”โดนัลด์รีบตอบ “โอ้! นายท่านมัวร์สุภาพเกินไป ลุงควรจะไปเยี่ยมเขา แต่พอดีบ้านเรามีเรื่องเกิดขึ้น ลุงก็เลยยังไม่ได้ไปหาเลย ลุงเองแหละที่เป็นฝ่ายหยาบคาย”แม้ว่
หากทั้งสองตระกูลสามารถทำงานร่วมกันได้หลังแต่งงาน ทั้งสองตระกูลอาจมีโอกาสเป็นผู้นำและควบคุมพื้นที่ทางตอนใต้ทั้งหมดขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขายิ้มและถามขึ้นว่า “จัสมิน เธอช่างโดดเด่นและสวยมากนะ ลุงเลยอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเธอแต่งงานแล้วหรือยัง?”จัสมินรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “คุณลุงเวบบ์ คุณลุงคงล้อเล่นแน่ ๆ เลยค่ะ ถ้าหนูจะต้องแต่งงาน คุณปู่ของหนูคงแจ้ง และเชิญคุณมาที่งานเลี้ยงงานแต่งงานของหนูไปแล้วค่ะ!”โดนัลด์ยิ้มในขณะที่เขาพยักหน้าเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก และเธอรู้ดีว่าจะพูดอะไรหลังจากนั้น เขาก็ถามอีกครั้งว่า “แล้วตอนนี้เธอมีแฟนหรือยังล่ะ? ถ้ามีแฟนแล้ว แล้วเขามาจากตระกูลไหนล่ะ?”ทันทีที่ฌอนได้ยินคำถามของพ่อของเขา เขาก็รีบมองไปที่จัสมินด้วยสีหน้ากังวลใจขณะที่เขาตั้งตารอคำตอบของจัสมินจัสมินนึกถึงชาร์ลีทันทีจะดีแค่ไหนถ้าชาร์ลียังไม่แต่งงาน? เธอคงจะสารภาพความรู้สึกกับเขาไปแล้วยิ่งไปกว่านั้น จัสมินเชื่อว่า ชาร์ลีจะไม่ปฏิเสธคำสารภาพของเธอ เพราะเธอถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีกว่าในหมู่สาว ๆ ทุกคนที่สนใจเขา หากเป็นกรณีนี้ เมื่อมีคนถามคำถามแบบนี้กับเธอ… เธอสามารถตอบได
ในเวลาเดียวกันนี้ รูเบนซึ่งไม่ได้พูดมาสักพัก ก็จ้องมองทั้งสองคนอย่างเย็นชา เพราะเขาสามารถบอกได้ว่าทั้งพ่อและลูกชายจากตระกูลเวบบ์นั้นสนใจจัสมินน้องสาวของเขาเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยมันคงจะดีมากถ้าจัสมินสามารถแต่งงานกับตระกูลเวบบ์ได้!เพราะในเวลานั้นเมื่อจัสมิสแต่งงานกับตระกูลเวบบ์และกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพวกเขา เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เธอย่อมไม่สามารถแข่งขันกับเขาเพื่อทรัพย์สินและมรดกของตระกูลมัวร์ได้ เขาจะกลายเป็นทายาทที่เหมาะสมที่สุดจากตระกูลมัวร์โดยทันทีอันที่จริงรูเบนก็กลัวว่า จัสมินจะลงเอยกับชาร์ลีเช่นเดียวกันเขาไม่รู้จักตัวตน และสถานะที่แท้จริงของชาร์ลี เขารู้เพียงว่าชาร์ลีดูเหมือนจะมีพลังเหนือธรรมชาติ และนั่นเป็นเหตุผลที่ปู่ของเขาเคารพชาร์ลีมากถ้าจัสมินลงเอยกับชาร์ลี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ถ้าชาร์ลีได้แต่งงานกับตระกูลมัวร์ ในเวลานั้นเขาจะต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน!จัสมินเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของเขาอยู่แล้วเมื่อต้องแย่งชิงทรัพย์สินและมรดกของตระกูลมัวร์ ถ้าเธอไม่ได้แต่งงานออกไปไกล ๆ เธอก็จะยังคงเป็นคู่แข่งของเขาอยู่เสมอยิ่งไปกว่านั้น รูเบนรู้ว่า ปู่ขอ
หลังจากที่ได้เจอเธอในวันนี้ ความปรารถนาและความรู้สึกลึก ๆ ทั้งหมดของเขาที่มีต่อจัสมินก็จุดประกายขึ้นอีกครั้งดังนั้นเขาจึงต้องการค้นดูรูปภาพทุกรูปในแวดวงเพื่อนของจัสมินเขาแอบส่องทุกภาพของจัสมินและเพื่อน ๆ ของเธออย่างระมัดระวัง ขณะที่เขากำลังดูรูปของเธอ เขาถอนหายใจขณะที่เขาคิดกับตัวเองว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ช่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ และไม่มีข้อติแม้แต่น้อยที่เขาพบในตัวเธอเลยดังนั้นเขาจึงสาบานกับตัวเองว่า เขาจะต้องได้จัสมินไม่ว่าเขาจะต้องทำอะไรก็ตาม!***ระหว่างทางกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลมัวร์ รูเบนพูดกับจัสมินอย่างคร่าว ๆ ว่า “จัสมิน ฉันคิดว่าฌอนน่าจะสนใจเธอนะ!”จัสมินตอบเรียบ ๆ “อ๋อ”“อ๋อ?” รูเบนล้อเลียนเสียงของเธอก่อนจะถามด้วยความสงสัย “ทำไมเธอถึงดูเย็นชาและเฉยเมยขนาดนี้ล่ะ?”“แล้วไง?” จัสมินถามว่า “เขามีความหมายอะไรกับฉันงั้นเหรอ? ก็ไม่นะ เขาไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับฉันเลย นี่ฉันต้องทำเป็นตื่นเต้นมากเพียงเพราะเขาสนใจฉันงั้นเหรอ?”รูเบนถามต่อว่า “ฌอนหล่อมากเลยนะ นี่เธอไม่สนใจเขาสักนิดเหรอ?”จัสมินส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับเขาเลย อันที่จริงเขาไม่ใช่แม้แต่เพื่อนข
ในเวลาเดียวกันนี้ แอนโธนีกำลังอยู่ที่คลินิกซีรีนเวิลด์ และกำลังอยู่ในอาการงุนงงขณะที่เขาจ้องไปที่ยาฟื้นฟูที่ชาร์ลีมอบให้เขาเขากำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ชาร์ลีพูดกับเขา ชาร์ลีบอกเขาว่า ยานี้จะทำให้เขาอ่อนวัยลงไปสิบปี และยังช่วยยืดอายุของเขาไปอีกสิบปีได้ด้วยแม้ว่าเขาจะรู้ว่า ชาร์ลีมีพลังวิเศษ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าแผลการรักษาแบบนี้เป็นเพียงจินตนาการดังคำกล่าวที่ว่า เมื่อบุพผาเบิกบานมนุษย์ก็ร่วงโรยมนุษย์สามารถควบคุมอะไรก็ได้ในโลกนี้ แต่เวลาเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้จะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่สามารถปรุงยาอายุวัฒนะที่สามารถย้อนเวลาได้?อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชาร์ลีได้ให้ยาแก่เขา แอนโธนีจึงมั่นใจในความสามารถของตัวยาอย่างเต็มที่เขารู้ว่าชาร์ลีไม่มีวันหลอกลวงหรือโกหกเขา ถ้าชาร์ลีบอกว่า ยามีความมหัศจรรย์ เขาก็เชื่อว่าชาร์ลีหมายความแบบนั้นดังนั้นแอนโธนีจึงตัดสินใจกินยาตามคำแนะนำของชาร์ลีแอนโธนีวางยาอายุวัฒนะอย่างระมัดระวังเข้าไปในปาก ตอนแรกเขาคิดว่า มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะกลืนยาเม็ดนี้ ยาละลายทันทีโดยไม่คาดคิด และมีรสหวานที่ไหลตรงเข้าสู่ช่องท้องของเขาตามด้วยช่วง
หากมียาอายุวัฒนะ และยาวิเศษเช่นนั้นจริง ๆ แม้ว่าจะมีมูลค่าหนึ่งล้านหรือหนึ่งพันล้านบาท คนชราและเศรษฐีเหล่านั้นก็จะรีบซื้อมันอย่างแน่นอนท้ายที่สุดแล้ว อะไรคือการหาเงินมากขึ้นหากพวกเขาแก่ตัวลงและอายุมากขึ้น? หากพวกเขาสามารถใช้เงินนั้นเพื่อฟื้นฟูความเยาว์วัยได้ มหาเศรษฐีเหล่านั้นที่มีเงินหลายหมื่นล้านบาทก็ต้องย่อมเต็มใจที่จะใช้ความมั่งคั่งครึ่งหนึ่ง หรือเกือบทั้งหมดเพื่อให้พวกเขาต่อชีวิตได้อีกสิบถึงยี่สิบปีโดยไม่ลังเลเลย!นี่คือวิธีที่พวกเขาสามารถซื้อเวลาให้ตัวเองได้!แอนโธนีอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นเต้นในขณะนี้!เขาอดไม่ได้ที่จะร้องไห้อย่างขมขื่นจากนั้นเขาก็หยิบมือถือออกมาแล้วส่งข้อความถึงชาร์ลีว่า [คุณเวด ผมกินยาอายุวัฒนะที่คุณให้มาแล้ว ขอบคุณสำหรับรางวัลของคุณ ผมจะทำให้ดีที่สุด และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อคุณในอนาคตอย่างแน่นอน!]ชาร์ลีตอบอย่างนุ่มนวล [ถ้ายาได้ผลดี นั่นแหละดีที่สุด แต่นอกเหนือจากไซล่าแล้ว คุณไม่ควรบอกใครเกี่ยวกับยานี้นะครับ]เพราะท้ายที่สุด ชาร์ลีต้องการโสมม่วงอายุสามร้อยปีระดับพรีเมียมเพื่อสร้างยาอายุวัฒนะอันนี้ มันเป็นยาที่หายาก และมีค่ามากจริง ๆในเ