มีโสมหลายชนิดในโลกนี้ โสมทั่วไป โสมอเมริกัน โสมแดง โสมม่วง และโสมป่า ในบรรดาโสมที่หายาก และแพงที่สุดก็คือ โสมสีม่วงนั่นเองยิ่งไปกว่านั้น โสมเองก็มีอายุขัย และส่วนใหญ่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าหนึ่งร้อยปี ดังนั้นหากไม่ขุดมันออกมา โสมอันนี้ก็อาจกลายเป็นโสมที่มีอายุหนึ่งศตวรรษ หรือโสมอายุไม่กี่ร้อยปีได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นก็จะถึงจุดจบในที่สุดโสมที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้สองหรือสามร้อยปีเป็นโสมชนิดที่ดีที่สุด นอกจากนี้โสมที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าห้าร้อยปีนั้นมีค่ามาก และหายากมาก บางคนที่เก็บโสมมาทั้งชีวิตอาจไม่มีโอกาสได้เห็นเลยด้วยซ้ำสำหรับโสมที่มีอายุมากกว่าพันปีนั้นมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด แทบจะมีอยู่ในตำนานเท่านั้น และหายากมากเกินกว่าที่ใครจะขุดหามาได้เลยดังนั้นโสมม่วงอายุสามร้อยปีนี้จึงเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่งในเวลานี้ห้องประมูลเต็มไปด้วยผู้คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากสาขาการแพทย์แผนจีนที่มาจากทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีแพทย์จีนเก่าแก่บางคนที่สามารถเรียกได้ว่า เป็นปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนอีกด้วยในหมู่พวกเขาหลายคนคุ้นเคยกับแอนโธนี และเมื่อได้เห็นแอนโธนี พวกเขาส่วนใหญ
เมื่อแอนโธนี่ได้ยินคำปฏิเสธอย่างโจ่งแจ้งของอิจิโร่ เขาตอบอย่างเย็นชากลับไปว่า “ผมจำได้ว่าคุณมียา 3 ชนิดที่วางขายอยู่ในตลาดทั่วโลก ได้แก่ แป้งทาท้อง แป้งล้างคอ และโลชั่นแก้กลากเกลื้อน ยาทั้งสามชนิดนี้ มีต้นกำเนิดมาจากยาจีน หนึ่งในนั้นมาจากแพทย์ชาวจีน ‘บทความเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและโรคเบ็ดเตล็ด’ ของจางจ้งจิ่ง หนึ่งในนั้นมาจาก ‘รายงานตำรับยาจากราชวงศ์ฮั่น’ และสุดท้ายมาจาก ‘สรุปเภสัชศาสตร์แผนจีน’ ผมพูดถูกไหมล่ะ?”แม้ในเวลานี้ การแสดงออกบนใบหน้าของอิจิโร่จะดูน่าเกลียดเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธต่อไป “ดร. ซิมมอนส์ คุณล้อเล่นหรือเปล่าครับ? เภสัชตำรับโบราณของจีน เมื่อหนึ่งหรือสองพันปีก่อนนั้นเป็นขยะไปแล้ว และไม่มีการประยุกต์มาใช้ทางการแพทย์ หรือพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เลย ทำไมบริษัทยาขนาดใหญ่อย่างโคบายาชิฟาร์มาต้องใช้เภสัชตำรับที่ล้าหลังตั้งแต่หนึ่งถึงสองพันปีก่อนแบบนั้น นี่มันดูถูกกันชัด ๆ !”เมื่อแพทย์ชาวจีนคนอื่น ๆ ในห้องโถงได้ยินว่า อิจิโร่ดูหมิ่นแก่นแท้ของยาจีนโบราณ ที่บรรพบุรุษของพวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง พวกเขาก็อดไม่ได้ ที่จะทำหน้าบึ้งตึง และสาปแช่งภายในใจแอนโธนี่ตอบด้วยน้ำเสียงที่ตรง
หลังจากที่เขาพูดจบ อิจิโร่ก็หันกลับไป และจากไปในทันทีในเวลานี้ ชาร์ลีพูดกับแอนโธนี่ไปว่า “ชายชาวญี่ปุ่นคนนี้ดูร้ายกาจ ถ้าเขาคิดว่า คุณมีใบสั่งยาสำหรับยาเม็ดแก้อัมพาตขั้นสูงนี้ คุณต้องระวังตัวให้มากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ถ้ายาวิเศษนี้ถูกผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก เขาก็จะสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากบนโลกใบนี้”มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งชื่อ 'ข้าไม่ใช่เทพแห่งโอสถ' เมื่อไม่นานมานี้ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชาวจีน เนื่องจากเขาไม่สามารถซื้อยาราคาแพงมากที่ผลิตโดยวัฒนธรรมตะวันตกได้ เขาจึงไปที่อินเดียเพื่อซื้อยาที่เลียนแบบได้เท่านั้นจากภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะได้เห็นว่า กลุ่มเภสัชกรรมขนาดใหญ่เหล่านั้นใจดำแค่ไหน เพียงเพราะพวกเขาต้องการหาเงิน เมื่อมีการพัฒนายาใหม่ ผู้ป่วยต้องใช้เงินอย่างน้อยสองสามแสนบาทต่อเดือนเพื่อซื้อยานั้น ผู้ป่วยจะสามารถทำอะไรได้อีก?นอกจากนี้ โคบายาชิฟาร์มายังต้องการร่วมมือกับยาพิเศษบางตัว ที่พวกเขาสามารถผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อขายในราคาที่สูงได้ นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาถึงเล็งไปที่แอนโธนี่ในความเป็นจริง อิจิโร่รู้สึกว่า ถ้าเขามีใบสั่งยาเพื่อสร้างเม็ดยาที่สา
ยิ่งไปกว่านั้นการปรับแต่งโอสถเฮือกสุดท้ายก็ไม่ใช่เรื่องยากสิ่งที่ต้องการก็มีเพียงวัตถุดิบยาทั่วไปบางส่วนเท่านั้น เนื่องจาก ยังไม่ถึงเวลาเริ่มในการประมูลโสมสีม่วง ชาร์ลีจึงใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ไปหาเกรแฮม ก่อนที่เขาจะให้รายชื่อสมุนไพร และวัตถุดิบที่เขาต้องการไปเป็นโหลเกรแฮมรีบรวบรวมสมุนไพรและวัตถุดิบทั้งหมดให้กับเขาหลังจากนั้น ชาร์ลีก็ไปที่ห้องพักผ่อนที่เกรแฮมเช่าไว้ ก่อนที่จะปรับแต่งโอสถเฮือกสุดท้ายสี่เม็ดที่นั่นเลยยาจีนมักทำจากสมุนไพรและวัตถุดิบต่าง ๆ ดังนั้น หลังจากต้มสมุนไพรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยาอะไรและไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร สีของยาก็ยังคงเป็นสีน้ำตาลเข้มเหมือนกันสำหรับยาจีนแล้ว มันก็เหมือนกันทั้งหมดสีของโอสถเฮือกสุดท้ายเกือบจะเหมือนกับยาวิเศษก่อนหน้านี้ที่เขาปรุงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ชาร์ลีจงใจทำให้ขนาดของโอสถเฮือกสุดท้ายมีขนาดเท่ากับเม็ดยาวิเศษก่อนหน้านี้ ด้วยวิธีนี้จะไม่มีใครสามารถแยกความแตกต่างของยาได้ด้วยตาเปล่าหลังจากที่เขาทำเสร็จ ชาร์ลีก็กลับไปที่ห้องประมูล และให้ยาสี่เม็ดแก่แอนโธนี่ในตอนที่ไม่มีใครสนใจพวกเขา เพื่อความปลอดภัยในตอนนี้ ชาร์ลียังเอายาวิเศษที่เหลืออ
เจฟฟรีย์รู้ดีว่า หากผู้คนยังคงประมูลโสมสีม่วงระดับพรีเมียมนี้ต่อไป ราคาของโสมสีม่วงอาจจะแพงถึงสองถึงสามร้อยล้านบาทในที่สุด ดังนั้นเขาจึงเพิ่มราคาโสมสีม่วงเป็นสองเท่าในการเสนอราคาครั้งแรก เพียงเพื่อที่เขาจะได้ทำให้บางคนตกใจ เขายังหวังว่า เขาจะสามารถนำโสมสีม่วงไปได้ในราคาที่ถูกกว่านี้แทน!“111 ล้าน” ชายวัยกลางคนในห้องโถงก็ตะโกนขึ้นขณะที่เขายกป้ายประกาศเจฟฟรีย์เหลือบมองชายคนนั้นอย่างดูถูกเหยียดหยาม ก่อนที่เขาจะยกป้ายขึ้นอีกครั้งและพูดว่า “115 ล้าน”“116 ล้าน”มีคนพูดขึ้นมาอีกครั้ง“250 ล้าน” เจฟฟรีย์ตะโกนขณะชูป้ายประกาศอีกครั้งในความเป็นจริง เจฟฟรีย์เพียงแค่ช่วยเคนเน็ธในการร่วมการประมูลในครั้งนี้เท่านั้น เคนเน็ธจะเป็นผู้ที่จ่ายเงินสำหรับการเสนอราคาประมูลในวันนี้ ดังนั้น เขาจึงไม่รู้สึกทุกข์ใจแต่อย่างใดราคาสองร้อบห้าสิบล้าน ทำให้หลายคนคิดยอมแพ้แม้ว่าโสมสีม่วงหายากจะดีและมีประสิทธิภาพมาก แต่ประสิทธิภาพของพืชก็มีจำกัดมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทจึงเป็นราคาที่สูงมากสำหรับการจ่ายเงินค่าโสมม่วงนี้ในเวลานี้ มีคนในห้องโถงตะโกนออกมาว่า “ผมให้ 300 ล้านบาท!”ทุกคนรี
หลายคนในที่นี้ รู้ว่าครั้งหนึ่งเคนเน็ธเคยคุกเข่าต่อหน้าชาร์ลี และเรียกเขาว่าพ่อและคุณปู่ ดังนั้นพวกเขาจึงหัวเราะออกมาดัง ๆ ทันทีที่ได้ยินคำพูดของชาร์ลีเคนเน็ธไม่อยากเสียหน้าอีกแล้ว เขาจึงกัดฟันพูดต่อไปว่า “ก็ได้! แกนี่กล้าจริง ๆ ! ฉันจะจ่าย 900 ล้านบาท!”เจฟฟรีย์ดึงแขนเสื้อก่อนจะพูดว่า “ประธานวิลสัน เงิน 900 ล้าน มันมากเกินไปสำหรับโสมสีม่วงนี่นะครับ! มันไม่คุ้มกับเงินมากขนาดนั้น อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเลย อย่าหลงกลไอ้ขยะนั่นสิครับ!”เก้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อโสมสีม่วงนั้นหรือ?! ไม่มีโสมที่ไหนมีค่ามากขนาดนั้น เว้นแต่จะเป็นโสมที่มีอายุมากกว่าพันปี!แม้ว่าเคนเน็ธจะร่ำรวยมาก แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนฟุ่มเฟือย หรือสิ้นเปลืองแต่อย่างใด เขารู้สึกแสบร้อนกระเป๋าตอนที่ต้องจ่ายหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเพื่อมีอะไรกับเวนดี้ ตอนนี้เคนเน็ธรู้สึกได้ถึงช่องโหว่ในกระเป๋าสตางค์ของเขา เขาจะต้องใช้เงินเก้าร้อยล้านบาทกับโสมหนึ่งชิ้นเท่านั้นแต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องหาทางรักษาตัวเองให้ได้!ผ่านมาหลายวันแล้ว และเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ราวกับว่าไม่มีอยู่เลยด้วยซ้ำ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปนานกว่านี้ เคนเน็ธคงรู้สึกว่า
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาโยนเช็คลงในเครื่องซักผ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ?โอ้พระเจ้า! มันน่าตกใจสำหรับพวกเขาที่คิดถึงเรื่องนี้ใบหน้าของเคนเน็ธกระตุกเบา ๆ ด้วยความโกรธ เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ ทำไมไอ้ขยะนี่ถึงมีเงินมากมายขนาดนี้ เขาเป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลวิลสันไม่ใช่เหรอ?ชาร์ลีถามพิธีกรไปว่า “ในเมื่อไม่มีใครสามารถเสนอราคาสูงกว่าผมได้ แล้วผมก็สามารถจ่ายเงินหนึ่งพันบ้านได้ โสมสีม่วงที่ยอดเยี่ยมนี้ควรเป็นของผมใช่ไหมครับ?”พิธีกรกลับมามีสติ และพูดออกไปทันทีว่า “ตอนนี้ ผมจะประกาศว่า โสมสีม่วงอายุสามร้อยปีนี้เป็นของ… ”ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เคนเน็ธก็รีบพูดไปว่า “หยุดก่อน! ผมจะเสนอราคาเพิ่ม!”ทุกคนในเหตุการณ์นั้นยังตกใจอีกครั้งการประมูลเริ่มต้นที่ห้าสิบล้านบาท และตอนนี้การประมูลอยู่ที่หนึ่งพันล้านบาท เขาจะประมูลเพิ่มราคาต่อไปจริง ๆ หรือ?โสมสีม่วงนั้นไม่คุ้มกับเงินมากขนาดนั้น! สองคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?เจฟฟรีย์รีบเตือนเขาไปทันทีว่า “ประธานวิลสัน! การเสียเงินหนึ่งพันล้านเพื่อซื้อโสมสีม่วงนั่น เป็นการเสียเงินเปล่า คุณทำอะไรได้มากกว่านี้ด้วยเงินจำนวนนั้นนะครับ! ทำไมคุณถึงอยา
ทุกคนมองไปที่เคนเน็ธในเวลานี้เคนเน็ธรู้สึกอับอายและรำคาญมาก เขาด่าออกมาดัง ๆ ว่า “แกมันก็แค่พวกไร้สมรรถภาพ! ทั้งตระกูลแกก็เป็นมันก็พวกไร้สมรรถภาพ! ฉันดีกว่าพวกแกตั้งเยอะ!”ชาร์ลียิ้มจาง ๆ ก่อนที่เขาจะพูดกลับไปว่า “ผู้ไร้สมรรถภาพย่อมรู้ตน บางคนไม่แข็งแล้วยังปากดีอีก นั่นพูดถึงใครกันแน่นะ?”ทุกคนหัวเราะออกมาดังลั่นในเวลานี้มันก็จริงไม่ใช่เหรอ? ประธานวิลสันที่มีชื่อเสียง มีหน้ามีตา ต้องสูญเสียความเป็นชายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่อย่างนั้นเขาจะพยายามขนาดนี้เพื่อประมูลโสมสีม่วงพรีเมียมทำไม? ยิ่งไปกว่านั้น เขายังอยู่ที่นี่กับเจฟฟรีย์จากตระกูลวีเวอร์ในวันนี้ด้วยทุกคนที่นี่ในวันนี้ เป็นคนจากสาขาการแพทย์ ทุกคนทราบดีว่า ตระกูลวีเวอร์กำลังศึกษายาตัวใหม่ที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของเพศชาย และฟื้นฟูความเป็นชายได้ ดูเหมือนว่า เหตุผลที่เคนเน็ธและเจฟฟรีย์อยู่ที่นี่ด้วยกันในวันนี้ เป็นเพราะเคนเน็ธต้องการเป็นคนแรกที่ได้ทดลองยาตัวนี้อย่างนั้นใช่ไหม?เคนเน็ธกัดฟันด้วยความโกรธในขณะที่เขาโพล่งออกมาทันทีว่า “นายนามสกุลเวด! อย่าพยายามทำให้คนอื่นเข้าใจผิดสิ! ฉันยังปึ๋งป