ชาร์ลีไม่ได้สนใจโชคชะตาของตระกูลเวดและการย้ายหลุมฝังศพของบรรพบุรุษมากนักเขาไม่ได้สนใจสมาชิกและกิจการของตระกูลเวดมากมายอะไร ตลอดเวลาที่ผ่านมามีอยู่สองสิ่งเท่านั้นที่เขาให้ความสนใจในตระกูลเวด หนึ่งก็คือพ่อแม่ของเขาถูกฝังอยู่ที่ไหนและเขาสามารถไปแสดงความเคารพได้ไหม สองคือใครเป็นคนทำให้พ่อแม่ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานและคนคนนั้นมาจากตระกูลเวดหรือไม่ สำหรับเรื่องอื่น ๆ ในตระกูลเวด เขาไม่ต้องการเก็บมาใส่ใจ ดังนั้นหลังจากได้ฟังยูลพูดถึงภูเขาวินทรี่แล้ว ชาร์ลีก็ถามขึ้นมาว่า “ผมไปเคารพหลุมฝังศพของพ่อกับแม่ที่ภูเขาวินทรี่ได้ไหมครับคุณอา?” ยูลตอบว่า “ภูเขาวินทรี่เป็นหลุมฝังศพบรรพบุรุษของตระกูลเวด นับเป็นสถานที่แห่งความโชคดีและโชคลาภ โดยปกติตระกูลเวดจะควบคุมพื้นที่อย่างเคร่งครัดและไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป ถึงแม้ว่าฉันจะไปก็ต้องเข้าไปทักทายสมาชิกของตระกูลเวดก่อน แล้วถึงจะนัดหมายว่าจะเข้าไปเมื่อไหร่ แต่เนื่องจากเธอเป็นทายาทของตระกูลเวด เธอก็ควรจะเข้าไปได้เมื่อทักทายพวกเขาเสร็จแล้ว” ชาร์ลีส่ายหัวแล้วตอบว่า “บอกตามตรงนะครับอา ผมไม่อยากให้ตระกูลเวดรู้ว่าผมอยู่ในอีสต์คลิฟฟ์ ในเวลานี้ผ
เมื่อดูจากรูปลักษณ์พ่อแม่ของชาร์ลี พวกเขาดูแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างแน่นอนพ่อของชาร์ลีหล่อมาก ส่วนแม่ของชาร์ลีก็ดูสง่างามมาก เธอมีหน้าตาที่ดูสวยงามเป็นพิเศษ ขนาดราเชลยังสวยสู้เธอไม่ได้เลย ไม่ว่าจะอยู่ในยุคไหนเธอก็เป็นเพียงคนเดียวที่มีหน้าตาที่ดูโดดเด่นมากน่าเสียดายที่คู่รักที่มีพรสวรรค์และความสามารถของอีสต์คลิฟฟ์ได้จากไปนานแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือไว้คือภาพถ่ายที่เลือนรางและความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่ในเวลานั้นยูลยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นในช่วงพิธีแต่งงาน เขาจึงยืนอยู่คนเดียวข้าง ๆ พ่อของชาร์ลีและถ่ายรูปกับพ่อแม่ของชาร์ลีจากนั้นก็เป็นภาพแต่งงานของยูลกับราเชล พ่อแม่ของชาร์ลีก็อยู่ในงานด้วยเพื่อไปแสดงความยินดีกับเขา ดังนั้นพวกเขาทั้งสี่คนจึงถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน รูปถัดมาก็เป็นตอนที่ชาร์ลีเกิด คนสี่คนในรูปถ่ายกลายเป็นห้าคน เขาถูกห่อผ้าเอาไว้แล้วมีแม่เป็นคนอุ้ม หลังจากนั้นควินน์ก็เกิดตามมาส่งผลให้กลายเป็นหกคนในภาพถ่าย จากหกคนนี้ เด็กสองคนเปลี่ยนจากการถูกห่อผ้ามายืนอยู่ข้าง ๆ พ่อแม่ของแต่ละคน เด็กสองคนนี้ก็คือชาร์ลีกับควินน์ จากนั้นก็มีการถ่ายรูปคู่ของเด็กสองคน ชาร์ลีส
ตอนนี้ในห้องผู้ป่วยระดับเฟิร์สคลาสของโรงพยาบาลโกลดิ้งกรุ๊ป เอเดรียนและโรแกนซึ่งเป็นน้องชายคนที่สองและคนที่สามของยูลได้รับการรักษาขั้นต้นหลังทำซีทีสแกนในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บผลการทำซีทีสแกนแสดงให้เห็นว่าข้อมือของเอเดรียนหัก ในขณะที่กระเพาะปัสสาวะของโรแกนได้รับความเสียหาย ถึงแม้ว่าอาการเหล่านี้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ก็ต้องใช้เวลารักษาสักระยะหนึ่ง ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณชาร์ลี โรงพยาบาลโกลดิ้งกรุ๊ปเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ตระกูลโกลดิ้งเข้ามาลงทุน ถึงแม้ว่าความสามารถโดยรวมจะไม่ดีเท่าโรงพยาบาลชั้นนำอย่างแฟร์วิว แต่ก็จัดได้ว่าเป็นผู้นำในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนอย่างไม่ต้องสงสัยตระกูลชั้นนำทั้งหมดในอีสต์คลิฟฟ์ล้วนมีโรงพยาบาลส่วนตัวเป็นของตนเอง ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลเหล่านี้จะระบุในเอกสารว่าเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาไม่รับผู้ป่วยจากภายนอกโดยพื้นฐานแล้วโรงพยาบาลเหล่านี้มีไว้ใช้ภายในครอบครัวเท่านั้น ตอนนี้นอกจากเอเดรียนและโรแกนแล้ว ผู้คนที่ถูกชาร์ลีไล่ออกมาจากบ้านยูลก็มาที่นี่เช่นกัน โดยกำลังพูดคุยถึงมาตรการรับมือด้วยสีหน้าที่ดูไม่เป็นสุขนักเหตุการณ์
อย่างไรก็ตาม ปรมาจารย์ที่ถอนตัวออกจากยุทธภพแล้วก็ต้องทำตามกฎพื้นฐานไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงมีคนสูญเสียพลังของตัวเองเพียงเพราะถูกบีบคอเท่านั้นล่ะ?มันเหมือนกับการลูบไล้ใบหน้าใครสักคนแล้วทำให้เขากลายเป็นคนไร้สมรรถภาพไป ช่างเป็นตรรกะที่ย้อนแย้งเสียงจริง ๆ !ทั้งสองครอบครัวต่างโศกเศร้าและกำลังมองหาโอกาสที่จะได้สั่งสอนคนของพี่ชายคนโต แต่พวกเขาไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ภูมิหลังของเขาเลยข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดก็คือทั้งจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนต่างก็ไม่แม้แต่จะเอาชนะเขาได้ แล้วจะมีใครที่ไหนที่เขาสามารถขอความช่วยเหลือเพื่อกำจัดคนคนนี้ได้อีกล่ะ?เอเดรียนรู้สึกหดหู่ใจเพราะเขาไม่เพียงแต่สูญเสียจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนเท่านั้นแต่ชาร์ลียังหักแขนเขาด้วย นี่จึงนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเขาก็ว่าได้เอเดรียนไม่เคยรู้สึกหมดหนทางเลยสักครั้ง ตอนนี้เขาแค่ต้องการฆ่าครอบครัวของชาร์ลีให้หมดน่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าจะลงมือแก้แค้นได้อย่างไรโรแกนใช้มือกุมกระเพาะปัสสาวะที่รู้สึกเจ็บปวดอย่างหนัก ในขณะที่เห็นพี่ชายคนที่สองของเขากำลังกัดฟันอย่างโกรธแค้น เขาจึงรีบเสนอไอเดียออกไปว่า “พี่รอง… ผมคิดว่าเรายังไม่ค
เมื่อเอเดรียนและโรแกนกำลังวางแผนเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิมอยู่นั้น ริกลีย์และวิลเฮล์มที่อยู่ข้าง ๆ ก็จ่อมจมอยู่กับการใช้ความคิดเช่นกันพี่น้องตระกูลโกลดิ้งสามคนมีลูกรวมกันทั้งหมดแปดคนยูล โกลดิ้งมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือควินน์ โกลดิ้งในขณะเดียวกันเอเดรียนมีลูกสามคน… ลูกสาวสองคนและลูกชายหนึ่งคนคือริกลีย์ โกลดิ้งในทางตรงกันข้ามโรแกน โกลดิ้งมีลูกสี่คน… ลูกสาวสามคนและลูกชายหนึ่งคนคือวิลเฮล์ม โกลดิ้งด้วยความที่ในตระกูลมีผู้ชายอยู่น้อย ดังนั้นริกลีย์และวิลเฮล์มจึงเป็นทายาทของตระกูลที่จะสืบทอดทรัพย์สินของบิดาในอนาคตวิลเฮล์มมองเห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพ่อกับลุงรองของเขาและอดไม่ได้ที่จะมองมาที่ตัวเองกับริกลีย์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องและยืนอยู่ข้าง ๆ เขา เขาคิดกับตัวเองว่า ‘เมื่อฉันรับมรดกและหุ้นของพ่อในอนาคต ฉันจะต้องทำอะไรเหมือนพ่อไหม? ฉันต้องหาวิธีโกงลุงรองของฉันหรือเปล่า? โกงลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง? ถ้าฉันจำเป็นต้องใช้เขาเพื่อบรรลุเป้าหมายในอนาคต ฉันก็ควรไปเลียแข้งเลียขาเขาในตอนนี้เลยใช่ไหม? ส่วนเรื่องลูกพี่ลูกน้องของริกลีย์นั้น เขาคิดว่าวิลเฮล์มเป็นคนที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย และเขาก
”ได้เลย!” ริกลีย์ตอบอย่างไม่รีรอวันนี้เขาถูกชาร์ลีดูถูกเหยียดหยามแล้วรู้สึกอารมณ์หดหู่เหลือเกิน เมื่อวิลเฮล์มเสนอโอกาสให้เขาได้ระบายความโกรธอย่างไม่ทันได้คิดเขาจึงตอบตกลงอย่างไม่ต้องสงสัยทันที…ค่ำวันนั้นวิลเฮล์มและริกลีย์เดินออกจากโรงพยาบาลไปด้วยกัน พวกเขาขับรถไปที่คลับระดับไฮเอนด์ในอีสต์คลิฟฟ์ ซึ่งโด่งดังมากและรู้จักกันในนามคฤหาสน์หมายเลขหนึ่งที่คฤหาสน์หมายเลขหนึ่งนี้ต้องใช้เงินอย่างน้อย ๆ ร้อยลเานบาทในการเป็นสมาชิกระดับวีไอพีนี่เป็นเพราะสมาชิกระดับวีไอพีของที่นี่จะมีห้องสวีทสุดหรูของตัวเองซึ่งรวมถึงการเข้าไปใช้บริการในร้านอาหาร ห้องคาราโอเกะ โรงอาบน้ำ น้ำพุร้อน บริการต่าง ๆ ในสปา ห้องประชุม และห้องเล่นการพนันนอกจากนี้สมาชิกระดับวีไอพียังมีพ่อบ้านส่วนตัวและผู้ช่วยส่วนตัวด้วย ถ้าใครได้ไปที่นั่นพวกเขาจะเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตดุจราชา!คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าสมาชิกส่วนใหญ่ที่ไปที่นั่น สามารถดื่ม กิน และเริงเล่นได้อย่างเต็มที่ แถมยังสามารถจัดประชุมและจัดงานเลี้ยงทางธุรกิจได้อีกด้วยนอกจากนี้ความเป็นส่วนตัวของที่นี่ยังจัดให้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นสมาชิกจึงไม่ต้องเป็นห่
พี่น้องสองคนนี้เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วและตอนนี้ทั้งคู่รีบกลับเข้าไปอีกครั้ง พวกเขาต้องการรู้ว่าโรคแปลกประหลาดที่พวกเขาเป็นอยู่นั้นคือะไรกันแน่ พวกเขาเชื่อใจหมอประจำตระกูลเท่านั้น และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายข่าวลือโดยไม่จำเป็น พวกเขาจึงไม่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอื่นถ้าผู้ติดตามของเขาได้ยินข่าวว่าสองพี่น้องตระกูลโกลดิ้งกลายเป็นคนไร้น้ำยา ข่าวนี้ก็จะสร้างความอัปยศอดสูให้กับครอบครัวของแต่ละคน!ถ้าข่าวลือนี้แพร่สะพัดออกไป ใคร ๆ ต่างก็ต้องซุบซิบนินทาแล้วผู้คนก็จะเยาะเย้ยพวกเขาไปทั่วอีสต์คลิฟฟ์!ทั้งสองคนกลับมาที่โรงพยาบาลโดยไม่สนใจพ่อของพวกเขาที่กำลังพักฟื้นอยู่ในห้องและรีบตรงไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลทันทีผู้อำนวยการกำลังเตรียมจะเลิกงานอยู่แล้ว แต่จู่ ๆ ก็เห็นนายน้อยของตระกูลโกลดิ้งสองคนรีบเดินเข้ามาหา เขาจึงถามขึ้นทันทีว่า “สวัสดีครับคุณริกลีย์ คุณวิลเฮล์ม วันนี้มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”ริกลีย์โพล่งออกมาว่า “ผู้อำนวยการ! คุณช่วยเตรียมการตรวจร่างกายให้เราทั้งคู่อย่างเร่งด่วนได้ไหม? เราทั้งคู่ป่วยมาก!”ผู้อำนวยการถามด้วยความประหลาดใจ “พ
เอเดรียนตัวสั่นในขณะที่ถามผู้อำนวยการแผนกบุรุษเวชวิทยาว่า “เกิดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? คุณพบต้นตอของปัญหาหรือยัง?”ผู้อำนวยการปาดเหงื่อแล้วตอบว่า “คุณเอเดรียนครับ เรื่องนี้ชวนงงมากเลยครับ เราได้พยายามตรวจสอบปัญหาหลายวิธีแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบว่าทำไมถึงมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ผมทำการศึกษาทางด้านบุรุษเวชวิทยามาหลายสิบปีแล้วแต่ไม่เคยพบกรณีแบบนี้มาก่อนเลยครับ…”เอเดรียนมองไปที่ชายสองคนที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “โรคนี้ไม่มีทางรักษาเลยเหรอ?”ผู้อำนวยการตอบอย่างอาย ๆ ว่า “คุณเอเดรียนครับ เรื่องที่จะรักษาได้หรือไม่ได้นั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอกครับ ตอนนี้ปัญหาสำคัญคือเราต้องสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเราต่างสับสนกับสถานการณ์นี้มากเลยครับ…”เอเดรียนรู้สึกเลือดวิ่งพล่านและจิตใจก็เริ่มขุ่นมัวและสับสน เขาคิดกับตัวเองว่า ‘นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย?!’“เด็กสองคนนี้ยังอยู่ในวัยยี่สิบกว่า ๆ และยังไม่แก่เลย แล้ววิลเฮล์มก็เพิ่งมีอายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเอง แล้วชายหนุ่มที่ควรจะมีสุขภาพดี กลับกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพแบบนี้ได้ยังไง?!”‘ตระกูลโกลดิ้งมีลูกชายแค่สองคนเองน
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล