หน้าหลัก / โรแมนติก / กลรติรส / อย่าบอกนะว่าไม่รู้สึกอะไรกับจูบเมื่อกี้

แชร์

อย่าบอกนะว่าไม่รู้สึกอะไรกับจูบเมื่อกี้

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-28 22:40:33

“ไม่ต้องค่ะ ฉันจะกลับแท็กซี่เอง” เธอพยายามสะกดอารมณ์ไว้อย่างยากเย็น ก่อนสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมแล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปแบบไม่เหลียวหลัง

ทำไมชีวิตเธอถึงเฮงซวยแบบนี้นะ ต้องมาพบเจอแต่ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ทั้งพ่อแท้ๆ ทั้งผู้ชายที่เธอเพิ่งผละหนีมาคนนั้น ทั้งๆ ที่มีคนรักมีคู่หมั้นแล้ว เขาก็ยังจะดึงเธอไว้ให้เป็นตัวสำรองอีกทำไม ทั้งที่เขาไม่ได้รักเธอซักนิด พ่อเสียอีกถึงยังรักแม่บ้างตอนที่คบหากันใหม่ๆ ถึงสุดท้ายจะมาหักหลังนอกใจกันก็เถอะ แต่ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นด้วยซ้ำ เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็แค่เหตุสุดวิสัยเท่านั้น

ไม่! เธอจะไม่ยอมทำร้ายหรือแย่งชิงคนรักของใครเหมือนเมียใหม่พ่อที่เคยทำร้ายแม่และเธอจนชีวิตแทบพังพินาศมาแล้ว ไม่เอาเด็ดขาด

ชีวิตนี้หากไม่เจอคนที่รักกันจริง รักเดียวใจเดียว เธอก็ขอเป็นโสดตลอดชีวิตดีกว่า

ร่างระหงเดินจ้ำพรวดๆ จนมาถึงหน้าร้าน ให้บังเอิญว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาจอดส่งผู้โดยสารพอดี เธอจึงรีบโบกรถทันที

“อุ้ย!” ยังไม่ทันได้ขึ้นรถสมใจ จู่ๆ ร่างบางก็ถูกฉุดดึงจนเซถลาเข้าหาอกของคนตัวสูงที่วิ่งตามออกมา ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ฝ่ายนั้นก็รวบเธอเข้ามากอดและดึงให้เดินต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลรติรส    ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีกนะ

    “ก็ดี ผมจะได้หาเรื่องจูบคุณบ่อยๆ” ชายหนุ่มเอ่ยหน้าขรึม แต่แววตาแต้มรอยคุกรุ่นปนขัดใจ“ส่วนเรื่องที่ผมต้องการให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผมน่ะ ผมพูดจริง ที่ทำงานเราก็ยังคงเป็นเจ้านายเลขาตามปกติ จะไม่มีเรื่องชู้สาวใดๆ ต่อหน้าคนอื่น แต่พอเลิกงานแล้วเราสองคนค่อยหาเวลาส่วนตัวกัน และแน่นอนว่าทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ ให้ใครรู้ไม่ได้ ระหว่างเราจะมีแค่เรื่องงาน กับเรื่องบนเตียงเท่านั้น...”“จอดรถด้วยค่ะ! ฉันจะลงตรงนี้” หญิงสาวรีบตัดบทก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรที่ระคายหูมากไปกว่านี้“แต่ผมยังพูดไม่จบ”“นั่นมันเรื่องของคุณค่ะ แต่ฉันฟังจบแล้ว”“เลิกงอแงแล้วเรามาคุยกันอย่างที่ผู้ใหญ่เขาคุยให้จบสักที เอาล่ะ ผมไม่อ้อมค้อมล่ะนะ ผมติดใจในตัวคุณมาก วันที่เรามีเซ็กซ์กัน ผมรู้ว่าผมเป็นคนแรกของคุณ และคุณเองก็ยังไม่มีใคร แล้วผมก็ไม่เคยคิดเลี้ยงดูผู้หญิงคนไหนแบบที่กำลังชวนคุณอยู่นี่ ถ้าคุณตอบตกลงรับข้อเสนอเราก็ค่อยมาทำสัญญากัน อยากได้ค่าตอบแทนหรืออะไรก็ว่ามา เพนส์เฮาส์ รถคันใหม่ หรือว่าเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือน โบนัสรายสัปดาห์ หรือว่าจะไปเที่ยวที่ไหน...”ยิ่งฟังเล็บมนยิ่งจิกเบาะที่นั่งแน่น เพื่อระงับโทสะที่กำลังพลุ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • กลรติรส    ยายจ๋ามันก็ลูกพี่เหมือนกัน

    ค่ำวันนั้นนายปิยะเดินคอตกเข้าบ้านอย่างสิ้นหวัง เมื่อตัวเองคว้าน้ำเหลวในการเจรจากับลูกสาวคนโตที่จู่ๆ ก็โดดขึ้นรถใครก็ไม่รู้หนีหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างน่าเจ็บใจ และทั้งที่เขาพยายามขับรถไล่ตามไปแต่ทว่ารถมือสองคันเก่าเก็บหรือจะสู้ความไวของรถหรูหราราคาแพงระยับคันนั้นได้ เพียงเขาเผลอแผล็บเดียวเจ้ารถคันนั้นก็เลี้ยวเข้าซอยหายไปดื้อๆ แต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าคือสองแม่ลูกนั่นถึงขั้นย้ายที่อยู่หนีเขาไปโดยไม่บอกกล่าวนี่สิ ทำให้ตอนนี้เขาเองก็มืดแปดด้าน ยังดีที่เขารู้ว่ารุจารินทำงานที่ไหน อย่างน้อยก็ยังพอมีหวัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงตัวลูกสาวผู้ใจแข็งคนนี้“เฮ้อ...” คิดแล้วก็หนักใจ“กรี๊ดดด” ชายกลางคนสะดุ้งตกใจ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากในบ้าน“ปราณี!” ไวเท่าใจคิดเขารีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในบ้านทันทีที่ห้องนั่งเล่นกลางบ้าน นางปราณีหลับหูหลับตากรีดร้องเสียงหลง มือจิกทึ้งผมตัวเองราวกับคนคลุ้มคลั่งเสียสติ จนผู้เป็นสามีต้องรีบวิ่งเข้ารวบตัวไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำร้ายตัวเองหนักกว่านี้“อะไรกัน มีอะไรคุณณี”“พี่ยะ...ฮือๆ” เสียงที่เอ่ยโหยหวนชวนให้ใจคอไม่ดี“มีอะไร ค่อยๆ พูด เกิดอะไรขึ้น”“พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    มีคนรัก หรือแฟนหรือยัง

    หญิงสาวฟังแล้วนึกฉุน แต่ก็รีบเปิดประตูให้เจ้านายคนใหม่อย่างเสียไม่ได้“เชิญค่ะท่าน”“ขอบใจ” เขาเอ่ยก่อนก้าวผ่านเธอเข้าไปราวกับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นหรือเธอจะกลัวมากไปเอง ผู้ชายเพียบพร้อมอย่างเขาหรือจะมาจริงจังอะไรกับพนักงานธรรมดาๆ แบบเธอ ในเมื่อมีผู้หญิงดีๆ สวยๆ รอต่อคิวให้เลือกอีกเพียบ เฮ้อ...งั้นก็ค่อยยังชั่ว“คุณรุจาริน!” เพียงก้าวแรกที่เธอย่างเท้าเข้าไป เสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้น “ผมรบกวนขอกาแฟแก้วนึง อ้อ! แล้วก็ชงของคุณเข้ามาด้วยอีกแก้วเลย เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อนเริ่มงาน”หากไม่ใช่ที่ทำงานเธอคงหลีกเลี่ยงได้ แต่ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้หญิงสาวก็เพียงเงยหน้ารับชะตากรรม“กาแฟค่ะท่าน”“อืม...นั่งสิ” หญิงสาวค่อยๆ หย่อนกายลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามอย่างสำรวม เตรียมพร้อมในที“อืม...รสเข้มดี” อีกฝ่ายเอ่ยปากชม ก่อนมองสบตาเลขาคนใหม่ด้วยท่าทีจริงจังไม่ต่างกัน “คุณเป็นเลขาคนที่สามของผม รู้ใช่ไหม”“ทราบค่ะ”“ดี...ที่จริงผมไม่ชอบเปลี่ยนเลขาบ่อยๆ ฉะนั้นมีกฏสองสามข้อของผมที่คุณควรรู้และทำตามอย่างเคร่งครัดก่อนทำงานกับผม ข้อแรกผมไม่ชอบคนที่ไม่ตรงเวลา คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ คนไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง และคนที่ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส     ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่เป็นผู้หญิงของคุณแน่นอน

    “ดิฉันว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาค่ะ อย่างที่เคยบอกคุณไป ฉันยินดีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง จะไม่รบกวนใคร แม้แต่คุณก็ด้วยค่ะ แต่ถ้าคุณลำบากใจก็บอกมาได้ทุกเมื่อนะคะ ดิฉันยินดีย้ายไปอยู่แผนกอื่น หรือแม้กระทั่งลาออก...”อวดดี! อวดดีอย่างน่าหงุดหงิด เปล่าหรอกเขาเพียงสบถในใจไม่ได้เอ่ยออกมาให้คนตรงหน้าได้ยิน แม้จะคันปากแค่ไหนก็ตาม“งั้นก็ดี ผมเองก็ไม่ชอบมีปัญหาจุกจิกทีหลัง แต่เรื่องย้ายแผนกกับลาออกนั่น คุณคงต้องพับไปก่อน ก็อย่างที่บอกไป จนกว่าผมจะมั่นใจว่าคุณไม่มีของแถมจากผมติดท้องไปจริงๆ เราค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”“เท่านี้ใช่ไหมคะที่ท่านต้องการถามดิฉัน หากไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวไปทำงาน...” ยังไม่ทันพูดจบ คนพูดก็ต้องชะงักปาก เมื่อชายหนุ่มตรงหน้ายื่นของบางอย่างให้รุจารินมองซองเอกสารสีน้ำตาลในมือเจ้านายคนใหม่อย่างแปลกใจ “เปิดดูสิ”คำสั่งนั้นทำให้หญิงสาวจำต้องรับซองมาจากเขาอย่างไม่ไว้ใจ“นี่อะไรคะ”“กุญแจเพนส์เฮาส์ส่วนตัวผม ส่วนรถประจำตำแหน่งคุณคงต้องรอไปก่อน ผมให้คนจัดการให้แล้ว น่าจะได้ไม่เกินอาทิตย์หน้า...”คนฟังอ้าปากค้าง นึกอยากจะข่วนใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ยับเยิน ดูเหมือนว่าเขาจะฟังเธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    อย่าได้หลงเสน่ห์ผมเด็ดขาด

    “แต่คุณต้องไปทานข้าวกับมิสเตอร์แอนดูร์ที่โรงแรมเดอลักซ์นี่คะ แล้วทำไม...” ต้องเอาฉันไปด้วย หญิงสาวกลืนคำถามลงคอไป ตอนนี้เธอเป็นเลขาของคนตรงหน้า จากที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วยเลขามาไม่นานมาก แต่เธอก็เคยเห็นวรรณิภาต้องติดตามท่านประธานออกไปประชุมข้างนอกบ่อยๆ เหมือนกัน“เข้าใจแล้วค่ะ”“ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปกันได้เลย” ชายหนุ่มเอ่ยปาก ก่อนเดินนำออกไป รุจารินมองตามแผ่นหลังกว้างน่าซบนั่น พลางลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนหยิบข้าวของที่จำเป็นแล้วรีบเดินตามออกไป หากพอถึงลิฟต์ ร่างระหงก็ชะงักรีรอ จนคนก้าวนำไปก่อนต้องขมวดคิ้ว“รออะไร เข้ามาสิ”รอให้เขาลงลิฟต์ไปก่อนน่ะสิ เธอไม่อยากอยู่สองต่อสองในที่แคบกับคนตรงหน้าเอาเสียเลย มันรู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัยยังไงบอกไม่ถูก“อุ๊ย!” คิดไม่ทันตกเลย มือใหญ่ก็เอื้อมมาฉุดดึงข้อมือน้อยให้ตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวหน้าทิ่มพรวดเข้าหาแผ่นอกแกร่งราวกับถูกไฟชอร์ตทั้งร่าง รุจารินเงยหน้าสบตาคนมือไวตาเขียวปัด แต่เป็นเธอที่ต้องหลบสายตาคู่นั้นที่มองมานิ่งๆ แต่ทำเอาหน้าคนถูกมองร้อนวูบวาบ ไพล่คิดไปถึงเหตุการณ์หวามที่เคยได้ใกล้ชิดกับเขาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในคืนนั้นเธอนอนเบียดซุกในอ้อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    ถ้าเป็นลูกคุณ คุณจะเลือกชุดไหนดี

    แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องนั่งรถของเขา แต่จะกี่ครั้งรุจารินก็ยังรู้สึกเกร็งอึดอัดเหมือนเดิม ปกติท่านประธานใหญ่นั้นมักจะใช้บริการคนขับประจำตัว และหากเลขาได้นั่งไปด้วยก็จะนั่งด้านหน้าคู่คนขับ หากคนเป็นลูกชายนั้นกลับชอบขับรถเองมากกว่า และคงไม่เหมาะที่คนเป็นเลขาจะไปนั่งชูคอเป็นคุณนายอยู่เบาะหลัง“หิวเหรอ?” จู่ๆ พลขับกิตติมศักดิ์ก็หันมาเสวนาด้วย“คะ?”“ผมเห็นคุณนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่ออกมาจากบริษัท หรือว่าปวดท้อง...” คนฟังหน้าตึงๆ นิดๆ เมื่อเห็นตาคมๆ ก้มมองที่หน้าท้องก็เข้าใจความหมาย“ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ ขอบคุณที่กรุณาถาม เอ๊ะ!” หญิงสาวอุทานเมื่อจู่ๆ รถก็เลี้ยวไปคนละเส้นทางกับทางที่จะไปสถานที่นัดหมาย “นี่ไม่ใช่ทางไปโรงแรมเดอะลักซ์นี่คะ”“แล้วไง”“ก็คุณมีนัดกับมิสเตอร์ราล์ฟที่นั่น นี่มันก็ใกล้เวลานัดแล้วด้วย”“ผมยังไม่บอกหรือว่าเราเปลี่ยนที่นัดหมายและเวลาแล้ว และผมต้องไปที่อื่นก่อน”ยังไม่ทันได้ถามจุดหมายใหม่ที่จะไป รถของเขาก็เปิดไฟเลี้ยวเสียก่อนห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนหรูที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองปรากฏอยู่ตรงหน้าพร้อมคำถามมากมายในสมองของหญิงสาว“ไปเถอะ”“ไปไหนคะ”“ช็อปปิ้ง” คนเป็นเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    ต่อยเจ้านายปากแตกตรงนี้ เธอจะถูกไล่ออกจากงานไหมนะ

    “กะ...ก็แล้วทำไมคุณไม่รีบบอกก่อนล่ะคะ”“ผมจะไปรู้เหรอว่าคุณจะหมกมุ่นกับลูกของเราขนาดนี้”โอ๊ย...จะบ้าตาย แค่นี้ก็ขายขี้หน้าจะแย่ อีตาบ้านี่ยังจะมาขยี้ให้เธออายซ้ำอีก นี่เขาคงเยาะเย้ยว่าเธอเป็นพวกคิดเองเออเองแน่ๆ เลย“แต่ที่จริงไหนๆ เราก็มาถึงที่แล้ว คุณก็ซ้อมเลือกเผื่อลูกเราเสียเลยก็ได้นะ”ต่อยเจ้านายปากแตกตรงนี้ เธอจะถูกไล่ออกจากงานไหมนะ หญิงสาวแอบเข่นเขี้ยวในใจ“ทางนั้นมีร้านกาแฟ ดิฉันว่าคุณควรไปนั่งรอที่นั่นก่อน ส่วนเรื่องเลือกของขวัญให้เป็นธุระของฉันคนเดียวดีกว่านะคะ”“วันนี้ผมดื่มกาแฟไปสองแก้วแล้ว ขืนต้องดื่มอีก คืนนี้คงตาค้างทั้งคืนแน่ และถ้าคุณลืมที่ผมพูดไปเมื่อกี้ ผมก็ขอย้ำอีกครั้งว่าผมต้องการเลือกของให้ลูกค้าคนสำคัญของเราด้วยตัวเอง”“โอเคค่ะ งั้นรีบไปเลือกของขวัญให้ลูกค้าคนสำคัญของคุณดีกว่านะคะ จะได้ไม่เสียเวลา” หญิงสาวกัดฟันประชดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งทั้งที่ในใจเดือดปุดๆ ก่อนจ้ำอ้าวกลับไปที่ร้านขายของเด็กอ่อนด้วยความเขินอาย โดยไม่ยอมมองหน้าเจ้านายหนุ่มภูเบศอมยิ้มมุมปาก ดวงตาทรงเสน่ห์พราวระยับ เดินตามเลขาสาวไปติดๆเวลาต่อมา“ไอ้นี่มันคืออะไร” คำถามของผู้ชายตัวโตที่กุมตำแหน่งเจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • กลรติรส    รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น

    “นั่นคุณขำอะไร”บุรุษสุดเนี้ยบตวัดสายตาคมเฉียบมองเลขาสาวที่พยายามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต เรือนร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงดูเท่ในชุดพ่อหมีสุขสันต์เข้าคู่กับเธอเป๊ะ กลายเป็นครอบครัวพ่อแม่หมีหรรษาน้อยๆ ไปในทันที“ว้าว พวกคุณดูดีน่ารักมากๆ เลยค่ะ ให้ดิฉันช่วยถ่ายรูปคู่ให้ไหมคะ” คุณพนักงานสาวใหญ่ชมเปราะ พลางเสนอความช่วยเหลือที่ไม่มีใครร้องขอ“อย่าดีกว่าค่ะ...”“งั้นก็รบกวนด้วยครับ” เลขาสาวหันไปมองพ่อหมีข้างกายตาค้าง แต่ไม่ทันได้ขัดขืน ร่างระหงก็ถูกมือหนาดึงเข้ามาโอบชิดใกล้เพื่อให้พนักงานถ่ายภาพคู่พ่อแม่สุขสันต์ให้เสียแล้ว“คุณแม่ยิ้มหน่อยค่ะ”“ยิ้มหน่อยสิคุณ” ชายหนุ่มแอบสะกิดเบาๆ“จำเป็นด้วยเหรอคะ” หญิงสาวกัดฟันถามหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ“เอาน่า คิดซะว่ากำลังเล่นบทแม่หมีก็แล้วกัน ยิ้มๆ ไปเถอะ”ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ถ้าไม่ใช่หน้าที่ เธอคงจะปฏิเสธคล่องปากกว่านี้ แต่นี่ไม่มีทางเลือกเธอจึงต้องเหยียดริมฝีปากฝืนยิ้มออกมาตามคำสั่งอย่างเสียไม่ได้“คุณพ่อหอมแก้มคุณแม่หน่อยสิคะ”“อย่านะ...อุ๊ย!” ยังไม่ทันห้าม ริมฝีปากอุ่นๆ ก็โน้มลงมาที่ข้างแก้มของเธอทันพลันตาบ้านี่บังอาจหอมแก้มเธอ!“นี่คุณ...”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31

บทล่าสุด

  • กลรติรส    เธอจะเอาหัวใจของเขามาทำไม

    “เห็นไหม ยานั่นไม่ขมแล้ว”“คะ...คุณจูบฉันอีกแล้วนะคนฉวยโอกาส”“ผมป้อนยาคุณต่างหาก โอ๊ย!” ชายหนุ่มแสร้งร้องโอดโอยเมื่อถูกคนป่วยทุบอกปั๊กๆ ฐานขโมยจูบทีเผลอ“ทำแบบนี้ทำไม ถ้าแม่ฉันมาเห็นเข้าจะว่ายังไง”“ก็ไม่ว่าอะไร หรือคุณอยากให้ผมว่าอะไรล่ะ”“นี่คุณ อย่ามาเล่นลิ้นแบบนี้นะคะ ฉันไม่ชอบ”“แล้วคุณชอบแบบไหนล่ะ ผมจะได้จัดให้ตามที่คุณชอบ” สายตาวาวชวนหวามของคนพูดทำให้หญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เมื่อสบสายตายั่วเย้าคู่นั้น หัวใจก็เริ่มไม่เป็นของเธออีกครั้ง“ผมพูดจริงนะ หรือถ้าคุณโอเค จะให้ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่คุณฟังแล้วรับผิดชอบคุณก็ยังได้”“รับผิดชอบ? คุณจะรับผิดชอบฉันในฐานะอะไรล่ะคะ”“นั่นแล้วแต่คุณเลย อยากได้แบบไหนก็บอกมา”อยากได้แบบไหนเหรอ...หญิงสาวฉุกคิด นั่นสิ ที่แท้แล้วเธออยากคบเขาแบบไหนกันแน่นะ คนรักก็ไม่น่าใช่ คนรู้ใจก็ไม่เชิง หรือจะแบบคู่นอนก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ จู่ๆ สมองก็ดันมีผู้หญิงอีกคนโผล่แทรกเข้ามากวนใจให้สมองชะงัก“แต่คุณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ลืมแล้วหรือไงคะ”“ผมไม่ได้ลืม คุณต่างหากที่ลืม ผมบอกแล้วว่ากำลังจะหาทางขอยกเลิกการหมั้น” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ “ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น แต่ผมคิดมานานแล้

  • กลรติรส    เขาจูบเธอ!

    “นั่นคุณหัวเราะอะไรคะ แล้วมาบ้านฉันทำไมกันแน่”“ก็บอกแล้วว่ามาเยี่ยมไข้”“ไม่จริง มาจับผิดมากกว่า”“ก็แล้วคุณทำผิดอะไรไหมล่ะ” ภูเบศแกล้งเอ่ยหน้านิ่ง แต่ดวงตาพราว “ผมจะได้จับ...”“มะ...ไม่ เอ่อ...นี่คุณ!” “คุณอยู่กับแม่ที่นี่แค่สองคนเหรอ” เห็นอีกฝ่ายอึกอัก หน้าแดงเรื่อสมใจ เขาจึงยอมเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เธอเก้อเขินมากไปกว่านี้ พลางมองไปรอบกาย“ห้องสะอาดน่าอยู่ดีนะ แต่แคบไปหน่อย”“เรื่องของฉัน” คนป่วยสะบัดเสียงใส่อย่างไม่สบอารมณ์ “คุณรีบกินรีบกลับไปดีกว่าค่ะ ที่นี่ทั้งเล็กและแคบมาก ไม่เหมาะจะต้อนรับคนมีระดับอย่างคุณหรอกค่ะ”“ทำไมหนีมาไม่ยอมรอผมก่อน” นั่นไง นอกจากจะเป็นแมวแล้วยังเป็นฝ่ายสืบสวนอีกด้วย“ทำไมต้องรอคะ ตัวเราสองคนไม่ได้ติดกันเสียหน่อย” ภูเบศมองใบหน้าหวานที่อิดโรย ขอบตาบวมช้ำ แต่ยังอุตส่าห์มีแรงรวนเขาอย่างมันเขี้ยว“คุณแน่ใจหรือว่าเราไม่เคยตัวติดกัน ผมว่าเราสองคนน่ะยิ่งกว่าเคยตัวติดกันอีกนะ”“คนบ้า อย่ามาทะลึ่งที่บ้านฉันนะ” คนป่วยแหวเสียงเขียว ใบหน้าร้อนผ่าว“อย่าเพิ่งชวนทะเลาะเลยน่า ผมหิวแล้วกินข้าวกันเถอะ หรือว่าอยากให้ผมป้อนก็ได้นะ คุณไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ” แขกไม่ได้รับเ

  • กลรติรส    ทิ้งแมวไว้กับปลาย่าง

    “พอดีผมได้ยินว่าวันนี้คุณจ๋าเธอลางานไม่สบายเลยแวะมาเยี่ยม อ้อ...รอสักครู่นะครับ” ฝ่ายนั้นผลุนผลันไปที่รถและกลับมาอีกครั้งพร้อมกระเช้าผลไม้ในมือ“ของเยี่ยมไข้ครับ”“อ้าว งั้นเหรอคะ แล้วทำไมไม่เชิญเจ้านายลูกขึ้นไปข้างบนล่ะจ๊ะ”“คือพอดีจ๋าเห็นว่าท่านจะกลับแล้วน่ะค่ะแม่ ก็เลยไม่ได้เชิญ” คนป่วยเอ่ยหน้าตาเฉย “อะไรกันคะ เพิ่งมาจะรีบกลับแล้วเหรอคะ ทานอะไรมาหรือยัง ดิฉันตั้งโต๊ะอาหารเช้าไว้แล้ว ถ้าท่านไม่รังเกียจ...”โอ๊ะ เรียกผมธรรมดาดีกว่าครับ อย่าเรียกทงท่านเลย ผมไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างหรอกครับ” เขาเอ่ยพลางปรายตามองใครบางคนที่กำลังเบ้ปากกับนกกับไม้อย่างมันเขี้ยว“ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณภูเบศ”“เรียกผมเบสเถอะครับ”“ค่ะ หากคุณเบสไม่รังเกียจอาหารบ้านๆ ก็ขอเชิญ”“แม่คะ...” รุจารินร้องลั่น“ไม่รังเกียจหรอกครับ ถ้าคุณแม่ไม่ว่างั้นผมก็ขออนุญาตฝากท้องสักมื้อ” รุจารินอ้าปากค้าง หันไปมองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู“ด้วยความยินดีค่ะ ไปลูก เชิญค่ะคุณ”“แม่คะ แต่ว่า...”“ขอบคุณครับคุณแม่”โอ๊ย...เธออยากจะบ้าตาย ทำไมเรื่องมันกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะกลิ่นหอมๆ ของอาหารรสเด็ดลอยมาแตะจมูกตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในห้อ

  • กลรติรส    ผมกล้าหรือเปล่า เราลองดูก็ได้นี่

    คนถูกถามไม่ขำ รุจารินจ้องหน้าเจ้านายตัวแสบตาเขียวปัด ในใจคุกรุ่นจนแทบจะหักคออีกฝ่ายได้ แต่เธอต้องพยายามข่มอารมณ์ไว้เพราะเกรงใจพลกฤษณ์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยต้องพลอยมาผจญกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง“นี่ค่ะขนมของพี่พล”“อ่ะ...อ๋อ ครับ” พลกฤษณ์ที่โดนคู่ต่อสู้น็อกยังไม่หายงงยื่นมือไปรับถุงใส่กล่องขนม แต่อารามรีบร้อนปนตกประหม่าทำให้เผลอจับโดนมือคนส่งถุงเข้าอย่างจังหมับ!“อ๊ะ! พี่ขอโทษครับน้องจ๋า”คิ้วเข้มๆ ของใครบางคนกระตุกทันพลัน ตาดุกร้าวจ้องมือฝ่ายนั้นเขม็ง“ไม่เป็นไรค่ะ” รุจารินส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเข้าใจ โดยไม่ทันเห็นสายตาพิฆาตที่จ้องอยู่ ผิดกับพลกฤษณ์ที่เห็นสายตาคู่นั้นอย่างจัง“นี่ค่าขนมครับ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ”“ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่ช่วยอุดหนุน ฝากความคิดถึงให้น้าดวงด้วยนะคะ ถ้ามีโอกาสจ๋ากับแม่จะแวะไปเยี่ยมที่บ้านนะคะ”หญิงสาวเอ่ยด้วยไมตรี โดยทำเป็นไม่สนใจใครบางคนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับข้างๆ“ไหนคุณบอกว่าไม่สบายไงครับที่รัก ออกมาตากลมนานๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ไข้กลับกันพอดี” คำนั้นทำให้คนเป็นส่วนเกินแอบถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวก่อนนะครับ”คนตัวร้ายรวบเอาหญิงสาวม

  • กลรติรส    ที่รัก...ผมเป็นที่รักของผู้หญิงคนนี้

    รถเก๋งคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าหลบมุมที่อะพาร์ตเมนต์กลางเก่ากลางใหม่แห่งนั้นได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ทว่าคนขับยังคงนั่งแช่ในรถ ดวงตาคมเข้มมองไปที่ด้านหน้าประตูทางเข้า แม้จะมีที่อยู่จากเอกสารเรซูเม่พนักงานในมือก็เถอะ แต่การจะสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปมันก็ดูจะแปลกๆ ไปหรือเปล่ายัยนั่นไม่สบายมากไหมนะ จะว่าไปเมื่อเช้าหน้าเธอก็ดูซีดๆ อยู่เหมือนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ที่จริงเขาก็แค่อยากเห็นกับตาแค่นั้นว่าเธอไม่เป็นอะไรมากจะได้สบายใจ หรือถ้าเป็นมากก็จะได้ช่วยเหลือขณะที่ชายหนุ่มครุ่นคิด ตามองตรงไปที่ประตูทางเข้ารอคอย แล้วทันใดนั้นเองสายตาเขาก็เห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนเดินออกมา คิ้วเข้มหนาเลิกขึ้นนิดๆ คิดว่าตัวเองตาฝาดไป หากเมื่อเพ่งสายตามองชัดๆ ก็ยิ่งแน่ใจว่าใช่อย่างนี้หรือเปล่าที่เรียกว่าป่วยการเมือง ยัยนั่นตั้งใจหลบหน้าเขาชัดๆ มันน่า...อยากรู้นักว่าถ้าเจอหน้ากันเธอจะแก้ตัวยังไง“ทางนี้ครับน้องจ๋า”ยังไม่ทันที่จะได้ทำตามที่คิด จู่ๆ ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้นเสียก่อนภูเบศปรายตามองไปทางต้นเสียงที่ดังมาจากรถที่จอดเยื้องๆ เขาไปไม่ไกลนัก ก็ได้เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งโบกมือส่งยิ้มหวานให้เลขาสาวของเขาลูกตาเป็นปร

  • กลรติรส    เขาจะไปสนอะไรกับผู้หญิงอย่างเธอเล่า

    “ไปพักสักหน่อยดีไหมลูก เดี๋ยวที่เหลือแม่ทำต่อเอง”“ใกล้เสร็จแล้วนี่คะแม่ อีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาที่ลูกค้าจะมารับขนมแล้วด้วย ทำให้เสร็จก่อนค่อยไปพักทีเดียวดีกว่า” คำตอบกลับมายิ่งทำให้คนเป็นแม่หนักใจ ยิ่งเห็นใบหน้าซีดเซียวของลูกสาวสุดที่รักก็ยิ่งเป็นกังวลว่าอีกฝ่ายจะเป็นลมล้มป่วยไปตอนไหน“ยังพอมีเวลาอยู่ งั้นก็ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินอะไรรองท้องซักหน่อยดีไหมลูก เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปก่อน เหลือไม่เยอะแล้วเดี๋ยวแม่ทำต่อเอง”ถ้าขืนปฏิเสธมารดาของเธอคงเป็นห่วงกังวลไม่เลิกรา ทำให้หญิงสาวจำใจรามือจากขนมที่เพิ่งใส่ลงกล่องเสร็จไปอีกหนึ่ง“ก็ได้ค่ะ งั้นจ๋าขอไปล้างหน้าล้างตาหน่อยละกันนะคะ เดี๋ยวจะได้มาช่วยแพคของต่อ” สีหน้าอิดโรยของลูกสาวทำให้ผู้เป็นมารดาถึงกับตกใจ“ตายจริง ทำไมหน้าตาโทรมเป็นแบบนี้ล่ะลูก”รุจารินลูบใบหน้าตัวเอง พลางฝืนยิ้มกลบเกลื่อน “จ๋าไม่เป็นไรค่ะ”จะไม่โทรมอย่างไรได้ ในเมื่อต้องอดนอนเพราะเขาคนนั้นไม่ยอมให้เธอได้นอนง่ายๆ รุจารินกัดริมฝีปากเมื่อคิดถึงตัวการที่ทำให้เธอไม่ได้นอนทั้งคืน“ไปให้หมอตรวจหน่อยดีกว่านะแม่ว่า”“จ๋าไม่ได้เป็นอะไรเลยจริงๆ ค่ะแม่ แค่เพลียนิดหน่อย นอนพักหน่อยเดี

  • กลรติรส    หลบหน้า

    “เดี๋ยวครับ!” วรรณิภาชะงัก “ผมเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ต้องยกเลิกนัดแล้วนะครับ เท่านี้แหละ ขอบคุณครับ”คนรับคำสั่งถึงกับตาค้างเหวอไปอีกหนกับการเปลี่ยนคำสั่งแบบสายฟ้าแลบของท่านรองประธานหนุ่มรูปงาม วรรณิภาจำใจตอบรับคำสั่ง ในใจภาวนาให้เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องหายป่วยไวๆ จะได้มารับมือคุณเจ้านายสุดหล่อตรงหน้าเสียเองพอคล้อยหลังเลขาเฉพาะกิจ ภูเบศก็กระแทกลมหายใจหนักๆ รู้สึกหงุดหงิดกับทุกอย่างรอบตัวขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ หรือจะบอกให้ถูกคือ เขาไม่อยากยอมรับต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องว้าวุ่นใจอยู่ตอนนี้ต่างหากเป็นไข้เนี่ยนะ! เมื่อเช้าก็เห็นอาการยังดีๆ อยู่นี่นา หรือว่าจะช็อกกับเหตุการณ์เมื่อเช้าจนล้มป่วย หรือว่าเพราะเมื่อคืนเขาหักโหมกับเธอมากไปยิ่งคิดใบหน้าหล่อเหลาก็ยิ่งยุ่งเหยิง กองแฟ้มที่รอการเซ็นต์อนุมัติถูกผลักออกไปเบาๆ เพราะเจ้าตัวไม่มีอารมณ์จะอ่านเสียแล้ว จิตใจว้าวุ่นครุ่นคิดสะระตะเขาควรไปเยี่ยมเธอที่บ้านดีไหมนะ ถ้าไปเธอจะหลงคิดว่าตัวเองสำคัญกับเขาเกินกว่าฐานะเจ้านายลูกน้องไหม มันจะกลายเป็นว่าเขาให้ความหวังเธอมากไปหรือเปล่า จริงอยู่ที่ว่าเขาอยากจะถอนหมั้นกับสลิลดา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปักใจลงเอยกับ

  • กลรติรส    ผู้หญิงบ้า! ทำไมชอบขัดใจกันนักนะ

    เอาเถอะ ไว้เงินเดือนออกเธอจะเอามันมาใช้ให้เขาทุกบาททุกสตางค์ก็แล้วกัน แม้สิ่งที่เสียไปแล้วเธอเอากลับคืนมาไม่ได้ แต่เธอจะหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ เธอไม่ต้องการให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงหน้าด้านที่แย่งแฟนชาวบ้าน และไม่ต้องการทำร้ายผู้หญิงด้วยกันเหมือนที่ครั้งหนึ่งพ่อเธอเคยทำร้ายจิตใจแม่เด็ดขาดแต่ทำไมนะ...หัวใจถึงรู้สึกทรมานแบบนี้ มันทั้งเจ็บลึกและทรมานเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ เพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาคนนั้น ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดครอบครองเป็นเจ้าของเขาได้ แล้วต่อจากนี้ชีวิตเธอจะเป็นเช่นไร เธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดีเธอจะมองหน้าเขาติดได้อีกหรือเมื่อต้องทำงานด้วยกันร่างบางทรุดฮวดกอดเสื้อผ้าที่เขาซื้อให้แน่น ปลดปล่อยน้ำตาไหลริน สีหน้าหม่นหมอง ต่อจากนี้เธอควรทำยังไงดี...“อืม...ไม่เลวนี่ คุณดูดีใช้ได้เลย”ภูเบศมองเรือนร่างระหงในชุดทำงานแบบเพนท์สูทสีน้ำเงินเข้มอย่างพอใจ ด้วยดีไซน์หรูและแบบชุดทรงเข้ารูปทำให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของคนใส่ชัดเจนทำให้รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าซ่อนรูปไม่น้อยเลย แต่คงจะดูดีกว่านี้ถ้าเจ้าตัวจะยิ้มเสียบ้าง ไม่ใช่ทำหน้านิ่งเฉยเย็นชาเป็นราชินีหิมะอยู่เช่นนี้ “คุณรอ

  • กลรติรส     คุณกำลังทำให้ฉันกลายเป็นคนไร้ค่า

    ภูเบศส่ายหน้าไปมา มองตามหลังคู่หมั้นที่ปึงปังออกไปราวกับพายุทอร์นาโด ด้วยสีหน้าหนักใจ ถึงแม้จะเตรียมใจล่วงหน้าว่าต้องเจอเหตุการณ์นี้ตั้งแต่ที่คิดจะดึงเลขาสาวมาร่วมแผนปลดอิสรภาพของตนแบบลับๆ แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้อยากทำให้ฝ่ายนั้นเดือดร้อนเช่นนี้ เมื่อคิดถึงเลขาสาว เขาก็รีบปิดประตูหน้าบ้านพร้อมล็อกกลอนแน่นหนา เผื่อว่าคู่หมั้นสาวจะย้อนกลับมาอาละวาดอีกหน แล้วเดินปราดไปที่ห้องนอน“เปิดประตูได้แล้ว”เงียบกริบ...ไม่ใช่ว่ายัยนั่นตกใจจนช็อกตายไปแล้วหรอกนะ ชายหนุ่มชักห่วง รีบไปเอากุญแจสำรองมาไขประตูอย่างรวดเร็วห้องว่างเปล่า สายตาคมเข้มเหลียวมองหาร่างอรชรมาสะดุดตาที่ประตูตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มเล็กน้อย ร่างสูงจึงตรงเข้าไปกระชากมันออกภูเบศใจหายวาบเมื่อได้เห็นสภาพของเลขาสาวที่นั่งกอดเข่าคุดคู้หลบตัวสั่นเทาราวกับลูกนกตกจากรังน่าสงสารจับใจ ใบหน้าสวยหวานซีดเผือดไร้สีเลือดหม่นหมอง พอเงยหน้าเห็นเขาเธอก็สะดุ้งสุดตัว รีบขยับกายหนี แต่เขากลับเป็นฝ่ายดึงร่างเธอเข้ามากอดปลอบขวัญเสียเอง แม้อีกฝ่ายจะดิ้นขลุกขลักจะหนีจากอ้อมกอดนั้นแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเธอ คิดว่าอีกฝ่ายจะร้องไห้โฮแต่ก็กลับไม่ หากมีเพียงเสีย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status