หน้าหลัก / โรแมนติก / กลรติรส / กรุณาอย่าสบประมาทน้ำยาผม

แชร์

กรุณาอย่าสบประมาทน้ำยาผม

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-28 22:39:44

เอาล่ะ ถ้าเขาต้องการยั่วโมโหเธอล่ะก็ ดูเหมือนเขาจะทำสำเร็จแล้วล่ะ

“คุณทำแบบนี้ทำไมคะ”

“ทำอะไรครับ? ที่ผมตักอาหารให้เนี่ยเหรอ หรือว่า...”

“คุณให้ฉันมาเป็นเลขาคุณแทนคุณนุสบาทำไมคะ” หญิงสาวตัดสินใจถามตรงๆ

“ก็เขาทำงานไม่ได้เรื่อง” คนพูดเบ้ปากนิดๆ “แล้วผมก็ชอบกาแฟที่คุณชงมากกว่าที่เขาชงด้วย รสกาแฟคุณทั้งหอม หวาน อร่อยเหมือนคนชงไม่มีผิด”

“ได้โปรดเลิกพูดจาแบบนี้สักทีได้ไหมคะ ฉันขอร้อง” หญิงสาวตัดบทเสียงแข็ง

“แบบไหนล่ะ”

“ก็แบบที่คุณพูดอยู่ ฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องวันนั้นมันเป็นแค่อุบัติเหตุ ฉันไม่ติดใจอะไร คุณก็ควรลืมๆ มันไปซะ ระหว่างคุณและฉันจะมีแค่เรื่องงานเท่านั้น ส่วนเรื่องหนี้ที่ติดค้างไว้ ฉันก็บอกแล้วว่าจะทยอยจ่ายคืนให้ไม่ต้องห่วง จะหักจากเงินเดือนก็ได้ แล้วถ้าคุณอึดอัดหรือลำบากใจที่จะเห็นฉันทำงานที่นี่ ฉันก็จะลาออกให้”

“ผมพูดหรือว่าอึดอัด”

“คุณไม่พูด แต่ฉันรู้สึกแบบนั้น”

“นั่นมันเรื่องของคุณ แต่เรื่องลาออก ผมยังไม่รับไว้พิจารณา”

“ทำไมคะ” รุจารินถามอย่างเหลืออด “คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน”

“เจ้านาย เจ้าหนี้ และสามีโดยพฤตินัย สิทธิ์แค่นี้พอไหม หรืออยากได้สิทธิ์พ่อของลูกคุณอีกตำแหน่งดี”

“นี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลรติรส    อย่าบอกนะว่าไม่รู้สึกอะไรกับจูบเมื่อกี้

    “ไม่ต้องค่ะ ฉันจะกลับแท็กซี่เอง” เธอพยายามสะกดอารมณ์ไว้อย่างยากเย็น ก่อนสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมแล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปแบบไม่เหลียวหลังทำไมชีวิตเธอถึงเฮงซวยแบบนี้นะ ต้องมาพบเจอแต่ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ทั้งพ่อแท้ๆ ทั้งผู้ชายที่เธอเพิ่งผละหนีมาคนนั้น ทั้งๆ ที่มีคนรักมีคู่หมั้นแล้ว เขาก็ยังจะดึงเธอไว้ให้เป็นตัวสำรองอีกทำไม ทั้งที่เขาไม่ได้รักเธอซักนิด พ่อเสียอีกถึงยังรักแม่บ้างตอนที่คบหากันใหม่ๆ ถึงสุดท้ายจะมาหักหลังนอกใจกันก็เถอะ แต่ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นด้วยซ้ำ เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็แค่เหตุสุดวิสัยเท่านั้นไม่! เธอจะไม่ยอมทำร้ายหรือแย่งชิงคนรักของใครเหมือนเมียใหม่พ่อที่เคยทำร้ายแม่และเธอจนชีวิตแทบพังพินาศมาแล้ว ไม่เอาเด็ดขาดชีวิตนี้หากไม่เจอคนที่รักกันจริง รักเดียวใจเดียว เธอก็ขอเป็นโสดตลอดชีวิตดีกว่าร่างระหงเดินจ้ำพรวดๆ จนมาถึงหน้าร้าน ให้บังเอิญว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาจอดส่งผู้โดยสารพอดี เธอจึงรีบโบกรถทันที“อุ้ย!” ยังไม่ทันได้ขึ้นรถสมใจ จู่ๆ ร่างบางก็ถูกฉุดดึงจนเซถลาเข้าหาอกของคนตัวสูงที่วิ่งตามออกมา ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ฝ่ายนั้นก็รวบเธอเข้ามากอดและดึงให้เดินต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • กลรติรส    ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีกนะ

    “ก็ดี ผมจะได้หาเรื่องจูบคุณบ่อยๆ” ชายหนุ่มเอ่ยหน้าขรึม แต่แววตาแต้มรอยคุกรุ่นปนขัดใจ“ส่วนเรื่องที่ผมต้องการให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผมน่ะ ผมพูดจริง ที่ทำงานเราก็ยังคงเป็นเจ้านายเลขาตามปกติ จะไม่มีเรื่องชู้สาวใดๆ ต่อหน้าคนอื่น แต่พอเลิกงานแล้วเราสองคนค่อยหาเวลาส่วนตัวกัน และแน่นอนว่าทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ ให้ใครรู้ไม่ได้ ระหว่างเราจะมีแค่เรื่องงาน กับเรื่องบนเตียงเท่านั้น...”“จอดรถด้วยค่ะ! ฉันจะลงตรงนี้” หญิงสาวรีบตัดบทก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรที่ระคายหูมากไปกว่านี้“แต่ผมยังพูดไม่จบ”“นั่นมันเรื่องของคุณค่ะ แต่ฉันฟังจบแล้ว”“เลิกงอแงแล้วเรามาคุยกันอย่างที่ผู้ใหญ่เขาคุยให้จบสักที เอาล่ะ ผมไม่อ้อมค้อมล่ะนะ ผมติดใจในตัวคุณมาก วันที่เรามีเซ็กซ์กัน ผมรู้ว่าผมเป็นคนแรกของคุณ และคุณเองก็ยังไม่มีใคร แล้วผมก็ไม่เคยคิดเลี้ยงดูผู้หญิงคนไหนแบบที่กำลังชวนคุณอยู่นี่ ถ้าคุณตอบตกลงรับข้อเสนอเราก็ค่อยมาทำสัญญากัน อยากได้ค่าตอบแทนหรืออะไรก็ว่ามา เพนส์เฮาส์ รถคันใหม่ หรือว่าเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือน โบนัสรายสัปดาห์ หรือว่าจะไปเที่ยวที่ไหน...”ยิ่งฟังเล็บมนยิ่งจิกเบาะที่นั่งแน่น เพื่อระงับโทสะที่กำลังพลุ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • กลรติรส    ยายจ๋ามันก็ลูกพี่เหมือนกัน

    ค่ำวันนั้นนายปิยะเดินคอตกเข้าบ้านอย่างสิ้นหวัง เมื่อตัวเองคว้าน้ำเหลวในการเจรจากับลูกสาวคนโตที่จู่ๆ ก็โดดขึ้นรถใครก็ไม่รู้หนีหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างน่าเจ็บใจ และทั้งที่เขาพยายามขับรถไล่ตามไปแต่ทว่ารถมือสองคันเก่าเก็บหรือจะสู้ความไวของรถหรูหราราคาแพงระยับคันนั้นได้ เพียงเขาเผลอแผล็บเดียวเจ้ารถคันนั้นก็เลี้ยวเข้าซอยหายไปดื้อๆ แต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าคือสองแม่ลูกนั่นถึงขั้นย้ายที่อยู่หนีเขาไปโดยไม่บอกกล่าวนี่สิ ทำให้ตอนนี้เขาเองก็มืดแปดด้าน ยังดีที่เขารู้ว่ารุจารินทำงานที่ไหน อย่างน้อยก็ยังพอมีหวัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงตัวลูกสาวผู้ใจแข็งคนนี้“เฮ้อ...” คิดแล้วก็หนักใจ“กรี๊ดดด” ชายกลางคนสะดุ้งตกใจ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากในบ้าน“ปราณี!” ไวเท่าใจคิดเขารีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในบ้านทันทีที่ห้องนั่งเล่นกลางบ้าน นางปราณีหลับหูหลับตากรีดร้องเสียงหลง มือจิกทึ้งผมตัวเองราวกับคนคลุ้มคลั่งเสียสติ จนผู้เป็นสามีต้องรีบวิ่งเข้ารวบตัวไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำร้ายตัวเองหนักกว่านี้“อะไรกัน มีอะไรคุณณี”“พี่ยะ...ฮือๆ” เสียงที่เอ่ยโหยหวนชวนให้ใจคอไม่ดี“มีอะไร ค่อยๆ พูด เกิดอะไรขึ้น”“พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    มีคนรัก หรือแฟนหรือยัง

    หญิงสาวฟังแล้วนึกฉุน แต่ก็รีบเปิดประตูให้เจ้านายคนใหม่อย่างเสียไม่ได้“เชิญค่ะท่าน”“ขอบใจ” เขาเอ่ยก่อนก้าวผ่านเธอเข้าไปราวกับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นหรือเธอจะกลัวมากไปเอง ผู้ชายเพียบพร้อมอย่างเขาหรือจะมาจริงจังอะไรกับพนักงานธรรมดาๆ แบบเธอ ในเมื่อมีผู้หญิงดีๆ สวยๆ รอต่อคิวให้เลือกอีกเพียบ เฮ้อ...งั้นก็ค่อยยังชั่ว“คุณรุจาริน!” เพียงก้าวแรกที่เธอย่างเท้าเข้าไป เสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้น “ผมรบกวนขอกาแฟแก้วนึง อ้อ! แล้วก็ชงของคุณเข้ามาด้วยอีกแก้วเลย เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อนเริ่มงาน”หากไม่ใช่ที่ทำงานเธอคงหลีกเลี่ยงได้ แต่ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้หญิงสาวก็เพียงเงยหน้ารับชะตากรรม“กาแฟค่ะท่าน”“อืม...นั่งสิ” หญิงสาวค่อยๆ หย่อนกายลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามอย่างสำรวม เตรียมพร้อมในที“อืม...รสเข้มดี” อีกฝ่ายเอ่ยปากชม ก่อนมองสบตาเลขาคนใหม่ด้วยท่าทีจริงจังไม่ต่างกัน “คุณเป็นเลขาคนที่สามของผม รู้ใช่ไหม”“ทราบค่ะ”“ดี...ที่จริงผมไม่ชอบเปลี่ยนเลขาบ่อยๆ ฉะนั้นมีกฏสองสามข้อของผมที่คุณควรรู้และทำตามอย่างเคร่งครัดก่อนทำงานกับผม ข้อแรกผมไม่ชอบคนที่ไม่ตรงเวลา คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ คนไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง และคนที่ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส     ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่เป็นผู้หญิงของคุณแน่นอน

    “ดิฉันว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาค่ะ อย่างที่เคยบอกคุณไป ฉันยินดีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง จะไม่รบกวนใคร แม้แต่คุณก็ด้วยค่ะ แต่ถ้าคุณลำบากใจก็บอกมาได้ทุกเมื่อนะคะ ดิฉันยินดีย้ายไปอยู่แผนกอื่น หรือแม้กระทั่งลาออก...”อวดดี! อวดดีอย่างน่าหงุดหงิด เปล่าหรอกเขาเพียงสบถในใจไม่ได้เอ่ยออกมาให้คนตรงหน้าได้ยิน แม้จะคันปากแค่ไหนก็ตาม“งั้นก็ดี ผมเองก็ไม่ชอบมีปัญหาจุกจิกทีหลัง แต่เรื่องย้ายแผนกกับลาออกนั่น คุณคงต้องพับไปก่อน ก็อย่างที่บอกไป จนกว่าผมจะมั่นใจว่าคุณไม่มีของแถมจากผมติดท้องไปจริงๆ เราค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”“เท่านี้ใช่ไหมคะที่ท่านต้องการถามดิฉัน หากไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวไปทำงาน...” ยังไม่ทันพูดจบ คนพูดก็ต้องชะงักปาก เมื่อชายหนุ่มตรงหน้ายื่นของบางอย่างให้รุจารินมองซองเอกสารสีน้ำตาลในมือเจ้านายคนใหม่อย่างแปลกใจ “เปิดดูสิ”คำสั่งนั้นทำให้หญิงสาวจำต้องรับซองมาจากเขาอย่างไม่ไว้ใจ“นี่อะไรคะ”“กุญแจเพนส์เฮาส์ส่วนตัวผม ส่วนรถประจำตำแหน่งคุณคงต้องรอไปก่อน ผมให้คนจัดการให้แล้ว น่าจะได้ไม่เกินอาทิตย์หน้า...”คนฟังอ้าปากค้าง นึกอยากจะข่วนใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ยับเยิน ดูเหมือนว่าเขาจะฟังเธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    อย่าได้หลงเสน่ห์ผมเด็ดขาด

    “แต่คุณต้องไปทานข้าวกับมิสเตอร์แอนดูร์ที่โรงแรมเดอลักซ์นี่คะ แล้วทำไม...” ต้องเอาฉันไปด้วย หญิงสาวกลืนคำถามลงคอไป ตอนนี้เธอเป็นเลขาของคนตรงหน้า จากที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วยเลขามาไม่นานมาก แต่เธอก็เคยเห็นวรรณิภาต้องติดตามท่านประธานออกไปประชุมข้างนอกบ่อยๆ เหมือนกัน“เข้าใจแล้วค่ะ”“ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปกันได้เลย” ชายหนุ่มเอ่ยปาก ก่อนเดินนำออกไป รุจารินมองตามแผ่นหลังกว้างน่าซบนั่น พลางลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนหยิบข้าวของที่จำเป็นแล้วรีบเดินตามออกไป หากพอถึงลิฟต์ ร่างระหงก็ชะงักรีรอ จนคนก้าวนำไปก่อนต้องขมวดคิ้ว“รออะไร เข้ามาสิ”รอให้เขาลงลิฟต์ไปก่อนน่ะสิ เธอไม่อยากอยู่สองต่อสองในที่แคบกับคนตรงหน้าเอาเสียเลย มันรู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัยยังไงบอกไม่ถูก“อุ๊ย!” คิดไม่ทันตกเลย มือใหญ่ก็เอื้อมมาฉุดดึงข้อมือน้อยให้ตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวหน้าทิ่มพรวดเข้าหาแผ่นอกแกร่งราวกับถูกไฟชอร์ตทั้งร่าง รุจารินเงยหน้าสบตาคนมือไวตาเขียวปัด แต่เป็นเธอที่ต้องหลบสายตาคู่นั้นที่มองมานิ่งๆ แต่ทำเอาหน้าคนถูกมองร้อนวูบวาบ ไพล่คิดไปถึงเหตุการณ์หวามที่เคยได้ใกล้ชิดกับเขาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในคืนนั้นเธอนอนเบียดซุกในอ้อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    ถ้าเป็นลูกคุณ คุณจะเลือกชุดไหนดี

    แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องนั่งรถของเขา แต่จะกี่ครั้งรุจารินก็ยังรู้สึกเกร็งอึดอัดเหมือนเดิม ปกติท่านประธานใหญ่นั้นมักจะใช้บริการคนขับประจำตัว และหากเลขาได้นั่งไปด้วยก็จะนั่งด้านหน้าคู่คนขับ หากคนเป็นลูกชายนั้นกลับชอบขับรถเองมากกว่า และคงไม่เหมาะที่คนเป็นเลขาจะไปนั่งชูคอเป็นคุณนายอยู่เบาะหลัง“หิวเหรอ?” จู่ๆ พลขับกิตติมศักดิ์ก็หันมาเสวนาด้วย“คะ?”“ผมเห็นคุณนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่ออกมาจากบริษัท หรือว่าปวดท้อง...” คนฟังหน้าตึงๆ นิดๆ เมื่อเห็นตาคมๆ ก้มมองที่หน้าท้องก็เข้าใจความหมาย“ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ ขอบคุณที่กรุณาถาม เอ๊ะ!” หญิงสาวอุทานเมื่อจู่ๆ รถก็เลี้ยวไปคนละเส้นทางกับทางที่จะไปสถานที่นัดหมาย “นี่ไม่ใช่ทางไปโรงแรมเดอะลักซ์นี่คะ”“แล้วไง”“ก็คุณมีนัดกับมิสเตอร์ราล์ฟที่นั่น นี่มันก็ใกล้เวลานัดแล้วด้วย”“ผมยังไม่บอกหรือว่าเราเปลี่ยนที่นัดหมายและเวลาแล้ว และผมต้องไปที่อื่นก่อน”ยังไม่ทันได้ถามจุดหมายใหม่ที่จะไป รถของเขาก็เปิดไฟเลี้ยวเสียก่อนห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนหรูที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองปรากฏอยู่ตรงหน้าพร้อมคำถามมากมายในสมองของหญิงสาว“ไปเถอะ”“ไปไหนคะ”“ช็อปปิ้ง” คนเป็นเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • กลรติรส    ต่อยเจ้านายปากแตกตรงนี้ เธอจะถูกไล่ออกจากงานไหมนะ

    “กะ...ก็แล้วทำไมคุณไม่รีบบอกก่อนล่ะคะ”“ผมจะไปรู้เหรอว่าคุณจะหมกมุ่นกับลูกของเราขนาดนี้”โอ๊ย...จะบ้าตาย แค่นี้ก็ขายขี้หน้าจะแย่ อีตาบ้านี่ยังจะมาขยี้ให้เธออายซ้ำอีก นี่เขาคงเยาะเย้ยว่าเธอเป็นพวกคิดเองเออเองแน่ๆ เลย“แต่ที่จริงไหนๆ เราก็มาถึงที่แล้ว คุณก็ซ้อมเลือกเผื่อลูกเราเสียเลยก็ได้นะ”ต่อยเจ้านายปากแตกตรงนี้ เธอจะถูกไล่ออกจากงานไหมนะ หญิงสาวแอบเข่นเขี้ยวในใจ“ทางนั้นมีร้านกาแฟ ดิฉันว่าคุณควรไปนั่งรอที่นั่นก่อน ส่วนเรื่องเลือกของขวัญให้เป็นธุระของฉันคนเดียวดีกว่านะคะ”“วันนี้ผมดื่มกาแฟไปสองแก้วแล้ว ขืนต้องดื่มอีก คืนนี้คงตาค้างทั้งคืนแน่ และถ้าคุณลืมที่ผมพูดไปเมื่อกี้ ผมก็ขอย้ำอีกครั้งว่าผมต้องการเลือกของให้ลูกค้าคนสำคัญของเราด้วยตัวเอง”“โอเคค่ะ งั้นรีบไปเลือกของขวัญให้ลูกค้าคนสำคัญของคุณดีกว่านะคะ จะได้ไม่เสียเวลา” หญิงสาวกัดฟันประชดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งทั้งที่ในใจเดือดปุดๆ ก่อนจ้ำอ้าวกลับไปที่ร้านขายของเด็กอ่อนด้วยความเขินอาย โดยไม่ยอมมองหน้าเจ้านายหนุ่มภูเบศอมยิ้มมุมปาก ดวงตาทรงเสน่ห์พราวระยับ เดินตามเลขาสาวไปติดๆเวลาต่อมา“ไอ้นี่มันคืออะไร” คำถามของผู้ชายตัวโตที่กุมตำแหน่งเจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31

บทล่าสุด

  • กลรติรส    เธอจะเอาหัวใจของเขามาทำไม

    “เห็นไหม ยานั่นไม่ขมแล้ว”“คะ...คุณจูบฉันอีกแล้วนะคนฉวยโอกาส”“ผมป้อนยาคุณต่างหาก โอ๊ย!” ชายหนุ่มแสร้งร้องโอดโอยเมื่อถูกคนป่วยทุบอกปั๊กๆ ฐานขโมยจูบทีเผลอ“ทำแบบนี้ทำไม ถ้าแม่ฉันมาเห็นเข้าจะว่ายังไง”“ก็ไม่ว่าอะไร หรือคุณอยากให้ผมว่าอะไรล่ะ”“นี่คุณ อย่ามาเล่นลิ้นแบบนี้นะคะ ฉันไม่ชอบ”“แล้วคุณชอบแบบไหนล่ะ ผมจะได้จัดให้ตามที่คุณชอบ” สายตาวาวชวนหวามของคนพูดทำให้หญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เมื่อสบสายตายั่วเย้าคู่นั้น หัวใจก็เริ่มไม่เป็นของเธออีกครั้ง“ผมพูดจริงนะ หรือถ้าคุณโอเค จะให้ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่คุณฟังแล้วรับผิดชอบคุณก็ยังได้”“รับผิดชอบ? คุณจะรับผิดชอบฉันในฐานะอะไรล่ะคะ”“นั่นแล้วแต่คุณเลย อยากได้แบบไหนก็บอกมา”อยากได้แบบไหนเหรอ...หญิงสาวฉุกคิด นั่นสิ ที่แท้แล้วเธออยากคบเขาแบบไหนกันแน่นะ คนรักก็ไม่น่าใช่ คนรู้ใจก็ไม่เชิง หรือจะแบบคู่นอนก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ จู่ๆ สมองก็ดันมีผู้หญิงอีกคนโผล่แทรกเข้ามากวนใจให้สมองชะงัก“แต่คุณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ลืมแล้วหรือไงคะ”“ผมไม่ได้ลืม คุณต่างหากที่ลืม ผมบอกแล้วว่ากำลังจะหาทางขอยกเลิกการหมั้น” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ “ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น แต่ผมคิดมานานแล้

  • กลรติรส    เขาจูบเธอ!

    “นั่นคุณหัวเราะอะไรคะ แล้วมาบ้านฉันทำไมกันแน่”“ก็บอกแล้วว่ามาเยี่ยมไข้”“ไม่จริง มาจับผิดมากกว่า”“ก็แล้วคุณทำผิดอะไรไหมล่ะ” ภูเบศแกล้งเอ่ยหน้านิ่ง แต่ดวงตาพราว “ผมจะได้จับ...”“มะ...ไม่ เอ่อ...นี่คุณ!” “คุณอยู่กับแม่ที่นี่แค่สองคนเหรอ” เห็นอีกฝ่ายอึกอัก หน้าแดงเรื่อสมใจ เขาจึงยอมเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เธอเก้อเขินมากไปกว่านี้ พลางมองไปรอบกาย“ห้องสะอาดน่าอยู่ดีนะ แต่แคบไปหน่อย”“เรื่องของฉัน” คนป่วยสะบัดเสียงใส่อย่างไม่สบอารมณ์ “คุณรีบกินรีบกลับไปดีกว่าค่ะ ที่นี่ทั้งเล็กและแคบมาก ไม่เหมาะจะต้อนรับคนมีระดับอย่างคุณหรอกค่ะ”“ทำไมหนีมาไม่ยอมรอผมก่อน” นั่นไง นอกจากจะเป็นแมวแล้วยังเป็นฝ่ายสืบสวนอีกด้วย“ทำไมต้องรอคะ ตัวเราสองคนไม่ได้ติดกันเสียหน่อย” ภูเบศมองใบหน้าหวานที่อิดโรย ขอบตาบวมช้ำ แต่ยังอุตส่าห์มีแรงรวนเขาอย่างมันเขี้ยว“คุณแน่ใจหรือว่าเราไม่เคยตัวติดกัน ผมว่าเราสองคนน่ะยิ่งกว่าเคยตัวติดกันอีกนะ”“คนบ้า อย่ามาทะลึ่งที่บ้านฉันนะ” คนป่วยแหวเสียงเขียว ใบหน้าร้อนผ่าว“อย่าเพิ่งชวนทะเลาะเลยน่า ผมหิวแล้วกินข้าวกันเถอะ หรือว่าอยากให้ผมป้อนก็ได้นะ คุณไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ” แขกไม่ได้รับเ

  • กลรติรส    ทิ้งแมวไว้กับปลาย่าง

    “พอดีผมได้ยินว่าวันนี้คุณจ๋าเธอลางานไม่สบายเลยแวะมาเยี่ยม อ้อ...รอสักครู่นะครับ” ฝ่ายนั้นผลุนผลันไปที่รถและกลับมาอีกครั้งพร้อมกระเช้าผลไม้ในมือ“ของเยี่ยมไข้ครับ”“อ้าว งั้นเหรอคะ แล้วทำไมไม่เชิญเจ้านายลูกขึ้นไปข้างบนล่ะจ๊ะ”“คือพอดีจ๋าเห็นว่าท่านจะกลับแล้วน่ะค่ะแม่ ก็เลยไม่ได้เชิญ” คนป่วยเอ่ยหน้าตาเฉย “อะไรกันคะ เพิ่งมาจะรีบกลับแล้วเหรอคะ ทานอะไรมาหรือยัง ดิฉันตั้งโต๊ะอาหารเช้าไว้แล้ว ถ้าท่านไม่รังเกียจ...”โอ๊ะ เรียกผมธรรมดาดีกว่าครับ อย่าเรียกทงท่านเลย ผมไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างหรอกครับ” เขาเอ่ยพลางปรายตามองใครบางคนที่กำลังเบ้ปากกับนกกับไม้อย่างมันเขี้ยว“ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณภูเบศ”“เรียกผมเบสเถอะครับ”“ค่ะ หากคุณเบสไม่รังเกียจอาหารบ้านๆ ก็ขอเชิญ”“แม่คะ...” รุจารินร้องลั่น“ไม่รังเกียจหรอกครับ ถ้าคุณแม่ไม่ว่างั้นผมก็ขออนุญาตฝากท้องสักมื้อ” รุจารินอ้าปากค้าง หันไปมองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู“ด้วยความยินดีค่ะ ไปลูก เชิญค่ะคุณ”“แม่คะ แต่ว่า...”“ขอบคุณครับคุณแม่”โอ๊ย...เธออยากจะบ้าตาย ทำไมเรื่องมันกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะกลิ่นหอมๆ ของอาหารรสเด็ดลอยมาแตะจมูกตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในห้อ

  • กลรติรส    ผมกล้าหรือเปล่า เราลองดูก็ได้นี่

    คนถูกถามไม่ขำ รุจารินจ้องหน้าเจ้านายตัวแสบตาเขียวปัด ในใจคุกรุ่นจนแทบจะหักคออีกฝ่ายได้ แต่เธอต้องพยายามข่มอารมณ์ไว้เพราะเกรงใจพลกฤษณ์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยต้องพลอยมาผจญกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง“นี่ค่ะขนมของพี่พล”“อ่ะ...อ๋อ ครับ” พลกฤษณ์ที่โดนคู่ต่อสู้น็อกยังไม่หายงงยื่นมือไปรับถุงใส่กล่องขนม แต่อารามรีบร้อนปนตกประหม่าทำให้เผลอจับโดนมือคนส่งถุงเข้าอย่างจังหมับ!“อ๊ะ! พี่ขอโทษครับน้องจ๋า”คิ้วเข้มๆ ของใครบางคนกระตุกทันพลัน ตาดุกร้าวจ้องมือฝ่ายนั้นเขม็ง“ไม่เป็นไรค่ะ” รุจารินส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเข้าใจ โดยไม่ทันเห็นสายตาพิฆาตที่จ้องอยู่ ผิดกับพลกฤษณ์ที่เห็นสายตาคู่นั้นอย่างจัง“นี่ค่าขนมครับ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ”“ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่ช่วยอุดหนุน ฝากความคิดถึงให้น้าดวงด้วยนะคะ ถ้ามีโอกาสจ๋ากับแม่จะแวะไปเยี่ยมที่บ้านนะคะ”หญิงสาวเอ่ยด้วยไมตรี โดยทำเป็นไม่สนใจใครบางคนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับข้างๆ“ไหนคุณบอกว่าไม่สบายไงครับที่รัก ออกมาตากลมนานๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ไข้กลับกันพอดี” คำนั้นทำให้คนเป็นส่วนเกินแอบถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวก่อนนะครับ”คนตัวร้ายรวบเอาหญิงสาวม

  • กลรติรส    ที่รัก...ผมเป็นที่รักของผู้หญิงคนนี้

    รถเก๋งคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าหลบมุมที่อะพาร์ตเมนต์กลางเก่ากลางใหม่แห่งนั้นได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ทว่าคนขับยังคงนั่งแช่ในรถ ดวงตาคมเข้มมองไปที่ด้านหน้าประตูทางเข้า แม้จะมีที่อยู่จากเอกสารเรซูเม่พนักงานในมือก็เถอะ แต่การจะสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปมันก็ดูจะแปลกๆ ไปหรือเปล่ายัยนั่นไม่สบายมากไหมนะ จะว่าไปเมื่อเช้าหน้าเธอก็ดูซีดๆ อยู่เหมือนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ที่จริงเขาก็แค่อยากเห็นกับตาแค่นั้นว่าเธอไม่เป็นอะไรมากจะได้สบายใจ หรือถ้าเป็นมากก็จะได้ช่วยเหลือขณะที่ชายหนุ่มครุ่นคิด ตามองตรงไปที่ประตูทางเข้ารอคอย แล้วทันใดนั้นเองสายตาเขาก็เห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนเดินออกมา คิ้วเข้มหนาเลิกขึ้นนิดๆ คิดว่าตัวเองตาฝาดไป หากเมื่อเพ่งสายตามองชัดๆ ก็ยิ่งแน่ใจว่าใช่อย่างนี้หรือเปล่าที่เรียกว่าป่วยการเมือง ยัยนั่นตั้งใจหลบหน้าเขาชัดๆ มันน่า...อยากรู้นักว่าถ้าเจอหน้ากันเธอจะแก้ตัวยังไง“ทางนี้ครับน้องจ๋า”ยังไม่ทันที่จะได้ทำตามที่คิด จู่ๆ ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้นเสียก่อนภูเบศปรายตามองไปทางต้นเสียงที่ดังมาจากรถที่จอดเยื้องๆ เขาไปไม่ไกลนัก ก็ได้เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งโบกมือส่งยิ้มหวานให้เลขาสาวของเขาลูกตาเป็นปร

  • กลรติรส    เขาจะไปสนอะไรกับผู้หญิงอย่างเธอเล่า

    “ไปพักสักหน่อยดีไหมลูก เดี๋ยวที่เหลือแม่ทำต่อเอง”“ใกล้เสร็จแล้วนี่คะแม่ อีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาที่ลูกค้าจะมารับขนมแล้วด้วย ทำให้เสร็จก่อนค่อยไปพักทีเดียวดีกว่า” คำตอบกลับมายิ่งทำให้คนเป็นแม่หนักใจ ยิ่งเห็นใบหน้าซีดเซียวของลูกสาวสุดที่รักก็ยิ่งเป็นกังวลว่าอีกฝ่ายจะเป็นลมล้มป่วยไปตอนไหน“ยังพอมีเวลาอยู่ งั้นก็ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินอะไรรองท้องซักหน่อยดีไหมลูก เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปก่อน เหลือไม่เยอะแล้วเดี๋ยวแม่ทำต่อเอง”ถ้าขืนปฏิเสธมารดาของเธอคงเป็นห่วงกังวลไม่เลิกรา ทำให้หญิงสาวจำใจรามือจากขนมที่เพิ่งใส่ลงกล่องเสร็จไปอีกหนึ่ง“ก็ได้ค่ะ งั้นจ๋าขอไปล้างหน้าล้างตาหน่อยละกันนะคะ เดี๋ยวจะได้มาช่วยแพคของต่อ” สีหน้าอิดโรยของลูกสาวทำให้ผู้เป็นมารดาถึงกับตกใจ“ตายจริง ทำไมหน้าตาโทรมเป็นแบบนี้ล่ะลูก”รุจารินลูบใบหน้าตัวเอง พลางฝืนยิ้มกลบเกลื่อน “จ๋าไม่เป็นไรค่ะ”จะไม่โทรมอย่างไรได้ ในเมื่อต้องอดนอนเพราะเขาคนนั้นไม่ยอมให้เธอได้นอนง่ายๆ รุจารินกัดริมฝีปากเมื่อคิดถึงตัวการที่ทำให้เธอไม่ได้นอนทั้งคืน“ไปให้หมอตรวจหน่อยดีกว่านะแม่ว่า”“จ๋าไม่ได้เป็นอะไรเลยจริงๆ ค่ะแม่ แค่เพลียนิดหน่อย นอนพักหน่อยเดี

  • กลรติรส    หลบหน้า

    “เดี๋ยวครับ!” วรรณิภาชะงัก “ผมเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ต้องยกเลิกนัดแล้วนะครับ เท่านี้แหละ ขอบคุณครับ”คนรับคำสั่งถึงกับตาค้างเหวอไปอีกหนกับการเปลี่ยนคำสั่งแบบสายฟ้าแลบของท่านรองประธานหนุ่มรูปงาม วรรณิภาจำใจตอบรับคำสั่ง ในใจภาวนาให้เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องหายป่วยไวๆ จะได้มารับมือคุณเจ้านายสุดหล่อตรงหน้าเสียเองพอคล้อยหลังเลขาเฉพาะกิจ ภูเบศก็กระแทกลมหายใจหนักๆ รู้สึกหงุดหงิดกับทุกอย่างรอบตัวขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ หรือจะบอกให้ถูกคือ เขาไม่อยากยอมรับต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องว้าวุ่นใจอยู่ตอนนี้ต่างหากเป็นไข้เนี่ยนะ! เมื่อเช้าก็เห็นอาการยังดีๆ อยู่นี่นา หรือว่าจะช็อกกับเหตุการณ์เมื่อเช้าจนล้มป่วย หรือว่าเพราะเมื่อคืนเขาหักโหมกับเธอมากไปยิ่งคิดใบหน้าหล่อเหลาก็ยิ่งยุ่งเหยิง กองแฟ้มที่รอการเซ็นต์อนุมัติถูกผลักออกไปเบาๆ เพราะเจ้าตัวไม่มีอารมณ์จะอ่านเสียแล้ว จิตใจว้าวุ่นครุ่นคิดสะระตะเขาควรไปเยี่ยมเธอที่บ้านดีไหมนะ ถ้าไปเธอจะหลงคิดว่าตัวเองสำคัญกับเขาเกินกว่าฐานะเจ้านายลูกน้องไหม มันจะกลายเป็นว่าเขาให้ความหวังเธอมากไปหรือเปล่า จริงอยู่ที่ว่าเขาอยากจะถอนหมั้นกับสลิลดา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปักใจลงเอยกับ

  • กลรติรส    ผู้หญิงบ้า! ทำไมชอบขัดใจกันนักนะ

    เอาเถอะ ไว้เงินเดือนออกเธอจะเอามันมาใช้ให้เขาทุกบาททุกสตางค์ก็แล้วกัน แม้สิ่งที่เสียไปแล้วเธอเอากลับคืนมาไม่ได้ แต่เธอจะหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ เธอไม่ต้องการให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงหน้าด้านที่แย่งแฟนชาวบ้าน และไม่ต้องการทำร้ายผู้หญิงด้วยกันเหมือนที่ครั้งหนึ่งพ่อเธอเคยทำร้ายจิตใจแม่เด็ดขาดแต่ทำไมนะ...หัวใจถึงรู้สึกทรมานแบบนี้ มันทั้งเจ็บลึกและทรมานเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ เพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาคนนั้น ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดครอบครองเป็นเจ้าของเขาได้ แล้วต่อจากนี้ชีวิตเธอจะเป็นเช่นไร เธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดีเธอจะมองหน้าเขาติดได้อีกหรือเมื่อต้องทำงานด้วยกันร่างบางทรุดฮวดกอดเสื้อผ้าที่เขาซื้อให้แน่น ปลดปล่อยน้ำตาไหลริน สีหน้าหม่นหมอง ต่อจากนี้เธอควรทำยังไงดี...“อืม...ไม่เลวนี่ คุณดูดีใช้ได้เลย”ภูเบศมองเรือนร่างระหงในชุดทำงานแบบเพนท์สูทสีน้ำเงินเข้มอย่างพอใจ ด้วยดีไซน์หรูและแบบชุดทรงเข้ารูปทำให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของคนใส่ชัดเจนทำให้รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าซ่อนรูปไม่น้อยเลย แต่คงจะดูดีกว่านี้ถ้าเจ้าตัวจะยิ้มเสียบ้าง ไม่ใช่ทำหน้านิ่งเฉยเย็นชาเป็นราชินีหิมะอยู่เช่นนี้ “คุณรอ

  • กลรติรส     คุณกำลังทำให้ฉันกลายเป็นคนไร้ค่า

    ภูเบศส่ายหน้าไปมา มองตามหลังคู่หมั้นที่ปึงปังออกไปราวกับพายุทอร์นาโด ด้วยสีหน้าหนักใจ ถึงแม้จะเตรียมใจล่วงหน้าว่าต้องเจอเหตุการณ์นี้ตั้งแต่ที่คิดจะดึงเลขาสาวมาร่วมแผนปลดอิสรภาพของตนแบบลับๆ แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้อยากทำให้ฝ่ายนั้นเดือดร้อนเช่นนี้ เมื่อคิดถึงเลขาสาว เขาก็รีบปิดประตูหน้าบ้านพร้อมล็อกกลอนแน่นหนา เผื่อว่าคู่หมั้นสาวจะย้อนกลับมาอาละวาดอีกหน แล้วเดินปราดไปที่ห้องนอน“เปิดประตูได้แล้ว”เงียบกริบ...ไม่ใช่ว่ายัยนั่นตกใจจนช็อกตายไปแล้วหรอกนะ ชายหนุ่มชักห่วง รีบไปเอากุญแจสำรองมาไขประตูอย่างรวดเร็วห้องว่างเปล่า สายตาคมเข้มเหลียวมองหาร่างอรชรมาสะดุดตาที่ประตูตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มเล็กน้อย ร่างสูงจึงตรงเข้าไปกระชากมันออกภูเบศใจหายวาบเมื่อได้เห็นสภาพของเลขาสาวที่นั่งกอดเข่าคุดคู้หลบตัวสั่นเทาราวกับลูกนกตกจากรังน่าสงสารจับใจ ใบหน้าสวยหวานซีดเผือดไร้สีเลือดหม่นหมอง พอเงยหน้าเห็นเขาเธอก็สะดุ้งสุดตัว รีบขยับกายหนี แต่เขากลับเป็นฝ่ายดึงร่างเธอเข้ามากอดปลอบขวัญเสียเอง แม้อีกฝ่ายจะดิ้นขลุกขลักจะหนีจากอ้อมกอดนั้นแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเธอ คิดว่าอีกฝ่ายจะร้องไห้โฮแต่ก็กลับไม่ หากมีเพียงเสีย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status