“อ่า...ถ้าผมอดทนได้ ผมคงไม่ฉุดกระชากคุณเข้ามาในห้องหรอกคนสวย อ่า...ไม่ไหวแล้ว ผมอยากได้คุณตอนนี้ อ่า...ทรมานเหลือเกิน” น้ำเสียงทุ้มพร่าดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาสีเข้มจากการดูดบุหรี่เป่ารดเนินอกอวบแล้ว เขาก็ใช้มือกอดรั้งเอวเล็กคอดนั้นจัดการปลดถอดกางเกงตัวเองเพื่อปลดปล่อยความใหญ่โตดุดันตัวเองออกมาด้านนอก
เมื่อความอหังการของเขาออกมาหายใจด้านนอกได้ก็ไม่รอช้าจะจรดปลายท่อนเนื้ออวบใหญ่เต็มลำแข็งแกร่งของตัวเองจดจ่อกับปากทางรักสวาทของสาวเจ้าในความมืด แม้เธอจะดิ้นรนต่อต้านขัดขืนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่เขาก็กอดรั้งเธอไว้ด้วยมือแข็งแรงเพียงข้างเดียว ส่วนมือทั้งสองของหล่อนก็พยายามทุบตีผลักไสตนเต็มแรง แต่มีหรือเขาจะสะทกสะท้านไปกับแรงมดของหญิงสาว
“ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะค่ะ อะ...เจ็บ!” แล้วความเจ็บปวดกลางกายก็เกิดขึ้นเมื่อถูกคนถ่อยต่ำช้ายัดเยียดความอหังการเข้ามาในร่างจนต้องบิดเอวเล็กคอดส่ายหนี แต่ก็ถูกแขนแข็งแรงของเขากอดรัดไว้แน่น
“โอว์...พระเจ้า! คุณยังซิง อ่า...แน่นเป็นบ้า” กองบินไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะได้รับสิ่งที่วิเศษเช่นนี้ในค่ำคืนนี้ ใจที่ด้านชาของเขามันมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเมื่อได้รับความสวยงามของเจ้าหล่อนจนไม่อาจขยับตัวโยกคลึงเอาแต่ใจได้
“ฉันเจ็บ! ได้โปรดออกไปเถอะ อื้อ...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่นเครือทั้งน้ำตาในความมืด สองมือน้อยเกาะไหล่หนาทั้งสองแน่นจนเล็บยาวสวยจิกเนื้อของบุรุษ
“ชูว์...ผ่อนคลายเบบี้ อ่า...ผ่อนคลายแล้วทุกอย่างมันจะดีเชื่อผม อ่า...ผมขอโทษ” กองบินขอโทษหญิงสาวจากใจ แต่ก็ไม่อาจถอดถอนตัวเองออกจากความคับแน่นของเจ้าหล่อนได้
“ถ้ารู้สึกผิดอย่างที่พูดก็ได้โปรดหยุด อือ...”
“ชูว์...ผมหยุดไม่ได้คนสวย อ่า...ตอนนี้ขอเดินหน้าต่อนะ ผมไม่ไหวแล้ว ข้างในของคุณตอดรัดผมแรงจริงๆ อ่า...ว่าแต่คุณชื่ออะไร ผมชื่อกองบินหรือจะเรียกว่าเหมก็ได้ อ่า...ไม่ไหวแล้ว ซี้ด...” ยิ่งเขานิ่งไม่ขยับ ภายในของสาวเจ้าก็ยิ่งเร่งเร้าทรมานตอดรัดตัวเองหนักหน่วงขึ้นจนต้องขยับโยกคลึงเอวสอบไหวโยกเข้าออกในร่างน้อยของเจ้าหล่อน
“อือ...ทำไมฉันต้องบอกชื่อกับผู้ชายที่ข่มขืนฉันด้วย อะ...อื้อ เจ็บ!”
“ผมรู้ว่าผมทำไม่ถูก แต่หลังจากนี้ผ่อนคลายไปกับผมเบบี้ อ่า...แล้วคุณจะมีความสุข ไม่เจ็บปวด ไปด้วยกันนะ โอว์...ไม่ไหวแล้ว บอกชื่อมาคนสวย” แม้จะทรมานเจ็บปวด แต่เขาก็หยุดเอวสอบไม่เคลื่อนไหวจนกว่าหญิงสาวจะยอมบอกชื่อกับตนเอง เขาไม่ชอบมี ‘เซ็กซ์’ กับคนที่ไม่รู้จักกัน ถึงจะไม่รู้จักกัน แต่ก็ขอรู้ชื่อก็ยังดี
แม้จะอยู่ในความมืด แต่คำเอื้องก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกสายตาของอีกฝ่ายจ้องมองอยู่ และรับรู้ได้ถึงความดุดันเผด็จการในน้ำเสียงของเขาจนเธอต้องกลั้นเสียงสะอื้นไห้ไว้ในอกแล้วยอมเปิดปากบอกชื่อตัวเองไปอย่างง่ายดาย
“คะ...คำเอื้อง”
“ชื่อเล่นล่ะ”
“เอื้อง”
“ว่าง่ายๆ แบบนี้ผมชอบ มีความสุขกันเถอะ เก็บความเสียใจไว้ก่อน อยากร้องไห้ก็ค่อยร้องหลังจากที่ผม ‘เอา’ คุณจนอิ่มก็แล้วกัน อื้อ...ไม่ไหวแล้ว แน่นเหลือเกิน อูว์...”
ปกติได้ยินแต่ชื่อทันสมัย ไม่เคยได้ยินชื่อไทยๆ แบบนี้ และมันก็ช่างเป็นชื่อที่เพราะเหลือเกินสำหรับกองบินในตอนนี้ เอวหนาโยกไหวเคลื่อนย้ายตัวเองซอยถี่เข้าออกเป็นจังหวะหนักหน่วงเมื่อภายในของคำเอื้องตอดรัดคลึงเร่งเร่าจังหวะ และยิ่งตอนนี้เธอผ่อนคลายไปกับตนก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเข้าถึงตัวของหญิงสาวได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
“อ่า...ได้โปรดชะ...ช่วยด้วย อื้อ...” เธอร้อนรุ่มไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าทั้งๆ ที่ฝรั่งเศสอุณหภูมิติดลบ แต่เธอกลับร้อนมีเหงื่อไคลไหลอาบท่วมตัว
“อ่า...ผมรู้ว่าคุณกำลังทรมาน ผมเองก็ทรมานเอื้อง อ่า...เสียวเอ็น อื้อ...ซี้ด” ปากหนาร้องครางเสียวสูดปากเสียวแล้วเร่งสาวเอวหนาหนักหน่วงพร้อมกอดรัดร่างน้อยขึ้นหาตัวเองแน่นแล้วก็ปิดกลืนกินเสียงลมหายใจเสียงครางของคำเอื้องเพื่อให้เธอไม่ได้จดจ่อกับความเจ็บปวดกับพรหมจรรย์ที่เพิ่งถูกพรากไป
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
จังหวะกายทั้งสองกระทบกระทั่งกันหนักหน่วง คำเอื้องโอบกอดคนถ่อยแน่นตามสัญชาตญาณทั้งๆ ที่รังเกียจเหลือแสน แต่ตอนนี้เธอกำลังจะได้พบความสุข ปากน้อยเผลอจูบตอบกลับไม่ประสีประสาปากคนเถื่อนจนเขาต้องสอนเธอจูบและเอวสอบก็ยังกดคลึงไหวโยก
“โอว์...ดีเหลือเกินเอื้อง อ่า...แน่นดีเหลือเกิน อื้ม...” เขาผละปากออกมาคำรามชื่นชมความคับแน่นของเจ้าหล่อนแล้วก็กระแทกปากบดจูบปากน้อยอีกครั้งพร้อมเร่งสาวเอวเร็วถี่กว่าเดิมเพื่อส่งตัวเองและเจ้าหล่อนไปให้ถึงสวรรค์ชั้นฟ้าตรงหน้า
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
กองบินเฝ้าวนจูบคนที่นอนหลับสนิทในอ้อมกอดตัวเอง ยิ่งได้มองใบหน้าจิ้มลิ้มของสาวน้อยที่ตนตักตวงความสุขมาเมื่อคืนก็ยิ่งรู้สึก ‘ชอบ’ และอยากโอบกอดและครอบครองหล่อนทุกคืน ใบหน้าเนียนนุ่ม ผิวขาวอมชมพู ปากอวบอิ่มและบวมเจ่อจากการจูบหนักหน่วงแล้วก็ทำให้มุมปากหนายกยิ้มขึ้น “สวย” นั่นคือคำที่เขาบัญญัติให้หญิงสาวในอ้อมแขนแข็งแรงในตอนนี้ ตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนได้นอนซุกซบในวงแขนและไม่เคยให้ใครได้นอนบนเตียงตนเอง พอเสร็จกิจอิ่มแล้วก็แยกจาก แต่กับคนตัวเล็กนี้เธอหลับคาอก จะปลุกแล้วไล่กลับก็กระไร จึงอุ้มมานอนบนเตียงด้วยกันพร้อมกับเช็ดตัวและทำความสะอาดคราบเลือดที่โคนขาให้เธอด้วย และนั่นยืนยันว่าเธอเป็นสาว ‘พรหมจรรย์’ ที่ตนเพิ่งได้ฉีกกระชากมันขาด กระเป๋าสะพายใบเล็กที่มีเสียงสั่นเตือนมาตลอดทั้งคืนนั้นเขาก็ได้เสียมารยาทกดรับสายแทนเจ้าของโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงทันสมัย และได้เสียมารยาทต่อค้นดูพวกบัตรของเธอในกระเป๋าแล้วก็พอจะรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนมีฐานะน่าดู ดูจากเสื้อผ้า กระเป๋า ทุกอย่างล้วนเป็นของแบรนด์เนม และไม่มีทางเป็นเด็กเสี่ย เพราะถ้าเป็นเด็กเสี่ยมีหรือจะเหลือพรหมจรร
เวลาผ่านไปจนบ่ายโมงกว่า กองบินได้ไปเอากระเป๋าเดินทางของคำเอื้องมาไว้บนห้องพักตัวเองแล้ว ดีที่วันนี้เขาไม่ได้มีงานอะไร จึงได้อยู่กับเธอทั้งวัน แต่จนตอนนี้คำเอื้องก็ยังนอนไม่ตื่น เขาได้สั่งอาหารไว้รอหญิงสาวจนเย็นชืดไปหมดแล้วจนต้องเรียกพนักงานมานำไปเก็บแล้วสั่งมาใหม่ แต่เจ้าหล่อนก็ยังนอนหลับ ไม่ยอมตื่นสักที “คนอะไรขี้เซาได้น่ารักจริงๆ” เขาพึมพำกับคนนอนหลับสนิทบนเตียงแล้วก้มโน้มหน้าลงไปหาหมายจะจุ๊บแก้มนุ่มนิ่ม แต่เจ้าของแก้มลืมตาตื่นขึ้นมาเสียก่อน กรี๊ด! คำเอื้องตกใจร้องกรี๊ดผลักหน้าที่ก้มโน้มลงมาใกล้ตัวเองออกห่างพร้อมขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องสูดปากร้องครางเจ็บกลางหว่างขาจนต้องเปลี่ยนมากอดตัวเองและผ้าห่มไว้แน่นเมื่อภาพเหตุการณ์เมื่อคืนฉายชัดในหัวของเธอ “คนสารเลว!” เธอด่าว่าชายแปลกหน้าที่ข่มเหงพรากพรหมจรรย์ของตนไปเมื่อคืน “อะไรกัน เมื่อคืนเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนี่ ผมมีความสุข คุณเองก็มีความสุขนี่คนสวย สุขจนหลับคาอก” “ไม่ต้องมาพูด คุณข่มขืนฉัน” เธอชี้หน้าของคนที่ขยับมานั่งปลายเตียงที่ตนนอนอยู่ “เฮ้! ข่มขืนยังไงกัน จริงอยู่ผมผิดที่ฉุดก
มือที่จับกดข้อมือน้อยพาดไขว้เหนือหัวผละออกมาจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองโดยที่ยังคร่อมทับกดร่างเปลือยของคำเอื้องไว้ใต้ร่างไม่ปล่อยให้เธอได้หนีลงจากเตียง เพียงเวลาไม่นานเขาก็จัดการปลดเปลื้องชุดตัวเองโยนทิ้งไปกองไว้ข้างเตียง เมื่อจัดการตัวเองจนเปลือยเปล่าแล้วก็ไม่รอช้าจะจับเรียวขาทั้งสองข้างของคำเอื้องแยกกว้างเปิดทางสวาทให้ตัวเองได้กระแทกเด้งตัว “ยะ...อย่าทำแบบนี้กับฉัน” “เมื่อคืนก็ทำมาแล้ว จะทำอีกรอบจะเป็นไรไป...ว่าไหม อะ...อื้อ” แล้วความอหังการของบุรุษก็กระแทกกดกายเข้าไปฝากฝังตัวเองในกายคับแน่นของสาวน้อยเต็มลำกายใหญ่โต “อะ...เจ็บ!” แม้จะผ่านครั้งแรกมาแล้ว แต่ครั้งนี้เธอยังไม่พร้อมเมื่อถูกยัดเยียดความใหญ่โตเข้ามาในร่าง เอวเล็กคอดก็บิดส่ายดิ้นถอยหนี แต่ถูกแขนแข็งแรงโอบกอดรัดเอวเล็กคอดของเธอรั้งไว้แล้วกระแทกเด้งเร่าตอบรับกับเอวสอบตัวเองที่กำลังเคลื่อนไหวโยกเร่าจังหวะดุดันเสียดสีเข้าออกในกายคับแน่นของสาวเจ้า 
สำหรับคำเอื้องแล้วเหมือนว่าวันเวลาสามวันนี้เดินช้าเหลือเกินเธอนั่งถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก มองตัวเองในกระจกหลังจากแต่งตัวเสร็จ เธอไม่ได้ถูกขังอยู่ในห้องซะทีเดียว เพราะกองบินพาออกไปทานมื้อเย็นข้างนอกทุกวันและเธอต้องทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟังเขาเพื่อจะได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อกลับหาพ่อตัวเองเพื่อที่ท่านจะได้ไม่เป็นห่วงตัวเอง แม้จะแค่วันละห้านาทีก็เถอะ “ผมชอบเวลาคุณน่ารักแบบนี้แหละเด็กน้อยของผม เชื่อฟัง ไม่พยศกับผม วันนี้ผมจะให้คุณใช้มือถือนานกว่าห้านาที แต่แลกกับคืนนี้คุณต้องบริการผมจนพอใจ เพราะพรุ่งนี้เราจะแยกจากกันแล้ว เรากลับไทยก็จะต่างคนต่างเดิน แต่จำไว้คุณคือความทรงจำที่ดีของผมนะ ถึงแม้จะเกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ผม‘ชอบ’และ‘ดีใจ’ที่ได้รู้จักเด็กน้อยอย่างคุณ” ร่างเปลือยสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพาดคล้องคอเดินมาหยุดหลังคนที่นั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งส่องกระจกแล้วก้มตัวโน้มลงไปโอบกอดคอระหงของสาวเจ้า&nbs
พอเท้าแตะถึงพื้นสนามบินเมืองไทย คำเอื้องก็เรียกร้องอิสระของตัวเอง ให้กองบินคืนบัตรประชาชนของตัวเองและโทรศัพท์ให้ตัวเอง หลังจากได้กระเป๋าเดินทางของตัวเองแล้ว ใบหน้าของคำเอื้องก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เธอไม่แม้แต่จะพูดลากองบินสักคำ พอได้ทุกอย่างคืนก็เดินจากไป ส่วนกองบินก็รู้สึกใจหวิว แต่ก็ทำเพียงยิ้มให้กับตัวเองแล้วเดินไปอีกทาง คำเอื้องไปซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับภูเก็ตไปหาพ่อที่รักของตัวเองทันที ไม่ได้อยู่ค้างที่กรุงเทพฯ เพราะตอนนี้พ่อไลน์ตามแล้วคงอยากรู้เรื่องของกองบินนั่นแหละ เพราะก่อนหน้านี้เพชรกับไหมเพื่อนรักเดินทางกลับมาก่อนและท่านถามกับเพื่อนทั้งสองเลยเผลอหลุดปากพูดชื่อกองบินไปจนตอนนี้คนเป็นพ่อนอนไม่หลับ เพราะคิดห่วงลูกสาวกลัวโดนผู้ชายหลอก นี่แหละคือสาเหตุที่ทำไมเธอถึงอยู่เป็นโสดมายี่สิบสามปี แฟนสักคนก็ไม่มี เพราะพ่อ ‘หวง’ นั่นเอง ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! พอดูชื่อบนหน้าจอก็กลอกตาเล็กน้อยพร้อมอมยิ้มแล้วกดรับสาย
เมื่อเสร็จจากงานสำคัญ กองทัพก็หายหัวไปไม่บอกไม่กล่าว ไม่รู้รีบไปไหน กองพลมองน้องชายคนรองที่เดินมาหาตัวเอง จึงสาวเท้าเดินเข้าไปหา “มึงจะกลับกำแพงเพชรวันไหนไอ้เหม” เขาถามน้องชายคนรอง “เดี๋ยวเคลียร์เอกสารสัญญาเสร็จก็จะกลับแล้วแหละ” กองบินตอบพี่ชาย “อย่าอยู่นาน เพราะกูขี้เกียจตอบคำถามป้าบู่ว่าทำไมมึงยังไม่กลับบ้านอีก” “เออน่า...แล้วมึงเถอะ กลับเลยรึเปล่าวันนี้” “อือ...กลับแหละ ทิ้งเหมืองมานานไม่ได้ ช่วงนี้งานที่เหมืองยุ่งมากว่ะ” “แน่ใจว่างานที่เหมืองยุ่ง” กองบินกลอกตาเลิกคิ้วถามอย่างจับพิรุธในดวงตาสีทมิฬเหมือนตัวเองและกองพลก็หลบสายตาจับผิดของน้องชายตัวดีอย่างรู้กัน “อย่ามาจับผิดกู กูพี่มึงนะเว้ยไอ้เหม” “ก็พี่ไงวะไอ้หิน และมึ
เกษมมองลูกชายคนรองของตัวเองแล้วก็ถอนหายใจ ลูกชายทั้งสามของเขาไม่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที พอลูกชายคนรองกลับมาบ้าน ลูกชายคนที่อยู่บ้านด้วยก็หายไปอยู่ที่เหมือง“เมื่อไหร่พวกแกสามคนจะมีหลานให้พ่อสักทีไอ้เหม” เกษมถามกองบินที่กำลังตักกับข้าวเอาใจป้า“พ่อเษมก็ถามแต่เรื่องเดิมๆ เมื่อถึงเวลานั่นแหละน่า” บู่เอ่ยพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย ก็ทุกครั้งน้องชายมักถามแต่คำถามเดิมกับหลานๆ ของตน“เนี่ยไง พี่บู่ก็พูดแบบนี้ทุกที พวกมันเลยยังไม่แต่งงาน แต่มีเมียทุกที่ที่ไป” เกษมพูดตอบพี่สาว“อย่างที่ป้าบู่พูดนั่นแหละครับพ่อ ทานข้าวเถอะครับ นี่แกงเลียงกุ้งสด อร่อยมาก พ่อกินเยอะๆ นะครับ” แล้วเขาก็หันมาตักอาหารเอาใจพ่อบ้างหลังจากตักให้ป้าแล้ว“ไม่ต้องมาทำเป็นเอาใจพ่อไอ้เหม พวกแกแต่ละคนทำให้คนแก่อย่างฉันเป็นห่วง อายุก็ไม่น้อยแล้ว เมื่อไหร่จะมีครอบครัวกัน ควรคิดได้แล้วนะไอ้เหม รู้ไหมแม่พวกแกก็โทรมาถามฉันทุกวันว่าเมื่อไหร่ลูกชายทั้งสามจะมีสะใภ้ให้สักที” เกษมเอ่ยถึงนารี อดีตภรรยาและแม่ของลูกชายทั้งสาม“พ่อกับแม่เนี่ยใจร้อนกันจริงๆ แม่โทรหาผมทีไรก็ถามแ
ใจของคำเอื้องสั่นไหวแล้วสั่นไหวอีกแล้ว เพราะคนโอหังเผด็จการที่ดึงลากบังคับตัวเองมาที่ท่าเรือด้วย ตลอดการเดินทางมาในรถเขาก็ฉวยโอกาสลูบไล้เรียวขาเธอด้วยการสอดมือสากกร้านเข้าไปในชายกระโปรงแล้วจับคลึงความเป็นสาวโดยไม่อายคนขับรถ จนเธอต้องผลักเขาออกแล้วตบหน้าของเขาไปหนึ่งที ฝากรอยฝ่ามือไว้บนใบหน้าคมเข้มของบุรุษ เกลียดเขาที่ไม่ให้เกียรติตนและทำกับตนเหมือนผู้หญิงขายบริการ กรอด! กองบินขบกรามแน่นเมื่อถูกตบจนหน้าหันจนอายคนขับรถ “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนที่คุณเคยได้มาง่ายๆ” เธอรู้ว่ากองบินโกรธตัวเอง แต่เธอเองก็โกรธเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้กับตนเอง “แต่เธอก็ไม่ควรตบหน้าฉันแบบนี้เอื้อง” “ฉันอยากทำมากกว่าตบหน้าคุณด้วยซ้ำ” “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันปากเก่งจังเลยนะ” เขาเม้มปากแน่นแล้วยกอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก ไม่ส
เมื่อพ่อบอกว่าให้ไปพักผ่อนไปอยู่กับเพื่อนได้ คำเอื้องก็เลยเลือกเดินทางไปหาเพชรกับไหมที่กรุงเทพฯเพื่อไปปรึกษาเรื่องชีวิตของตัวเอง เมื่อวันก่อนเธอได้แวะร้านขายยาซื้อที่ตรวจครรภ์ไปตรวจที่ห้องน้ำสาธารณะของปั๊มน้ำมันและผลมันก็เป็นอย่างที่คิดและสงสัย เธอกำลัง‘ท้อง’ลูกของกองบิน “ถึงแล้วนะแก เดี๋ยวนั่งแท็กซี่ไปคอนโดแกนะเพชร” พอลงจากเครื่อง เธอก็เปิดเครื่องโทรหาเพชรทันที โดยไม่ได้มองคนรอบข้างที่เดินผ่านตัวเอง “แล้วเจอกัน”พอกดวางสายจะเดินต่อ ไม่ทันได้มองและระวังก็เผลอสะดุดเท้าตัวเองล้ม แต่ยังไม่ทันได้ล้มก็มีใครบางคนอยู่ด้านหลังรับไว้ได้เสียก่อนว้าย! ใจของคำเอื้องตกไปอยู่ตาตุ่มด้วยกลัวว่าจะเป็นอันตรายกับลูกน้อยในท้อง แม้เขาจะเกิดมาโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้อยู่ในแผนชีวิต แต่พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คน เธอก็รู้สึกมีคว
‘ให้ตายเถอะ!’ นั่นคือคำเดียวที่กองบินอยากสบถออกมาตอนนี้ แต่ก็ได้แต่ขบกรามข่มความเกรี้ยวกราดไว้ในอกเมื่อมีสายเรียกเข้าสำคัญมาหาตัวเอง เมื่อวานก็ขาดงานแล้ว วันนี้จะขาดงานอีกไม่ได้ ยิ่งใกล้จะเปิดเส้นทางเดินเรือแล้วด้วย เขาควรหันมาโฟกัสกับงานที่สำคัญก่อน ส่วนคำเอื้องได้เจอดีแน่หากเจออีกครั้งหน้า และเขาเชื่อว่ามันต้องมีอีกครั้งแน่นอนสำหรับเขาและเธอ “อือ...จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” พอกดรับสายแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อจะออกไปทำงานสำคัญของตนเอง แม้จะเจ็บจุกความอหังการที่ตนภาคภูมิใจก็เถอะ แต่ก็กัดฟันข่มความเจ็บเดินตรงไปยังประตูห้อง เหมือนเวลาที่ผ่านมาจะเดินเร็วมาก แต่สำหรับคำเอื้องแล้วสองเดือนมานี้มันช่างเชื่องช้าเหลือเกิน เพราะเธอยังคงคิดถึงเฝ้าจดจำสัมผัสจากคนเผด็จการจนระยะนี้เหม่อลอยอยู่บ่อยๆ “หนูเอื้อง” คำสิงห์เรียกลูกสาวหลา
เกษมคุยกับอดีตภรรยาเรื่องลูกชายทั้งสามคนของตนเองแล้ววางสายถอนหายใจเดินออกจากห้องทำงานไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อพูดคุยปรึกษาพี่สาวตัวเอง แม้จะรู้ว่าปรึกษาไปก็เท่านั้น เพราะพี่สาวมักเข้าข้างกองพล กองบิน และกองทัพเสมอ “นารีว่ายังไงมั่งพ่อเษม” นางถามน้องชายที่เดินมานั่งโซฟาตรงข้ามกับตนเอง “เรื่องไอ้ลูกเวรของผมนั่นแหละพี่บู่” “คงไม่พ้นเรื่องแต่งงาน” “ครับ ผมกับนารีห่วงไอ้หิน ไอ้เหมกับไอ้เหิมว่าแก่ไปแล้วจะไม่มีคนดูแล แถมตอนนี้ก็ห่วงกลัวว่าจะติดโรคอีก พวกมันเล่นสำส่อนแบบนี้ผมกับแม่มันก็อดห่วงไม่ได้” เกษมเอ่ยตอบกลับพี่สาว “จะรีบร้อนไปทำไมพ่อเษม” “ไม่ให้รีบร้อนได้ยังไงพี่บู่ พวกมันอายุไม่น้อยกันแล้วนะ สามสิบกว่ากันแล้ว อีกคนก็สี่สิบแล้ว ผมกับพี่ก็ใช่จะอยู่ดูแลพวกมันได้ตลอด” เกษมเอ่ย&
เวลาผ่านไปนานเกือบสิบนาที ประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมกับคนตัวเล็กมีผ้าเช็ดตัวพันรอบอกออกมา และในมือก็กอดผ้าห่ม กองบินจึงลุกจากเก้าอี้นั่งที่โต๊ะทานอาหารเดินไปเปิดกระเป๋าเดินทางใบเล็กของคำเอื้องที่ให้พนักงานโรงแรมนำขึ้นมาไว้บนห้อง เขาค้นไม่นานก็เจอชุดนอนแบบกางเกงขาสั้นและเสื้อแขนสั้นเข้าชุดลายโดเรมอนของหญิงสาวแล้วก็ถือมันติดมือเดินไปหาคนที่ยืนหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูห้องน้ำไม่ยอมเดินมา “อะ...ชุดนอน” เขาส่งยื่นชุดนอนให้คนตัวเล็ก คำเอื้องรับมาแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบและไม่ลืมปิดประตูห้องน้ำ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็แต่งตัวเสร็จแล้วเปิดประตูออกมา แต่ก็ยังรู้สึกเขินอยู่ เพราะไม่ได้ใส่ชุดชั้นในข้างใน “ไปกินข้าวเถอะ แล้วจะได้นอนกันต่อ เนี่ยก็เที่ยงคืนแล้ว” กองบินคว้าข้อมือเล็กแล้วลากดึงเดินตามตัวเองไปยังโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก พอเดินมาถึงก็ดึงลากเก้าอี้ออกให้หญิงสาวนั่งทั้งๆ ที่ไม่เคยดึงลากเก้าอี้ออกให้ผู้หญิงคนไหนนั่งมาก่อน&
คำสิงห์แทบนอนไม่หลับเมื่อโทรหาลูกสาวแล้วมีผู้ชายรับสาย แถมยังตัดวางสายของตนทิ้งไม่พอ โทรกลับก็ปิดเครื่องไปแล้ว ยิ่งโทรศัพท์ของคำเอื้องปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ยิ่งห่วงจนต้องกดต่อสายโทรหาไหมเพื่อนสนิทของลูก ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! รอไม่นานปลายสายก็กดรับสายพร้อมกรอกเสียงหวานสุภาพส่งมาในสาย “สวัสดีค่ะป๊าคำสิงห์” “หนูไหม ป๊าขอคุยกับหนูเอื้องได้ไหม” คำสิงห์ไม่บอกว่าตนได้โทรหาลูกสาวแล้วมีผู้ชายรับสายแทน เงียบ! ไม่มีเสียงตอบกลับมาในสาย คำสิงห์จึงเอ่ยเรียกคนในสายที่เงียบไป “หนูไหม” “คะป๊าคำสิงห์ ขอโทษทีนะคะ พอดีเมื่อกี้รุ่นพี่ที่ทำงานเดินเข้ามาคุย หนูเลยไม่ได้ตอบป๊าค่ะ”ไหมเลือกที่จะพ
“อะ...นั่นแหละเอื้อง อ่า...ทำแบบนั้นแหละ” เขาจับหัวคนตัวเล็กที่จมหายอยู่ในน้ำโยกไหวเป็นจังหวะเมื่อปากน้อยเริ่มกลืนกินตัวเอง กองบินรู้ว่าคำเอื้องกลัว แต่เธอก็สู้เหลือเกิน แม้จะเป็นครั้งแรกที่ให้เธอได้ครอบครองกลืนกินตัวเองและแถมยังอยู่ใต้น้ำแบบนี้ด้วย เอวหนายกเด้งกระแทกบดเบียดเสียดสีท่อนเนื้ออหังการตัวเองเข้าออกในปากน้อยใต้น้ำจนน้ำกระฉอกไหลล้นออกนอกอ่างไหลเต็มพื้นห้องน้ำ “โอว์...เสียว อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...”ซ่า! คำเอื้องโผล่หัวขึ้นมาเหนือน้ำเมื่อกลั้นหายใจใต้น้ำไม่ไหว “อ่า...อือ” เธอหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเต็มแรงแล้วก็ลูบหน้าเสยผมที่เปียก แล้วยังไม่ทันได้หายใจเต็มปอดก็ถูกแขนแข็งแรงตวัดกอดรั้งเข้าไปซบอกแล้วท้ายทอยก็ถูกมือใหญ่รั้งให้แหงนเงยขึ้น จากนั้นปากหนาก็กดจูบหนักหน่วงถ่ายเทลมหายใจให้เธอ “อะ...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมา ไม่ว่าปาก
พอขึ้นมาถึงชั้นเจ็ดสิบสามเข้ามาในห้องชุดสุดหรู กองบินก็ไม่รอช้ากระชากดึงร่างน้อยเปราะบางของคำเอื้องไปกับเตียงนอนนุ่มของตนเองแล้วตัวเองก็ตามไปคร่อมทับกดกักร่างน้อยไว้กับเตียงไม่ให้ลุกหนีจากเตียงนอน แควก! เสียงชุดถูกกระชากฉีกขาดผ่าครึ่งดังขึ้นทำให้คำเอื้องตกใจ ไม่คิดว่าคนป่าเถื่อนจะทำกับเสื้อที่ตนเองใส่ แล้วเขาก็ฉีกผ่าครึ่งจนมาถึงตัวกระโปรงชุดเดรสต่อกันกับเสื้อ “คุณมันบ้า!”คำเอื้องว่าคนเหนือร่างพร้อมจับมือของเขาที่จะกระชากดึงยกทรงตัวเองขาดตามชุดตนเอง “ก็ฉันอยากได้เธอนี่เด็กน้อย เธอก็รู้ว่าฉันตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในลิฟต์แล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่มี ‘เซ็กซ์’ กับเธอในลิฟต์ให้อายคน”เขาบอกเธอเสียงร้อนรนแล้วก็จัดการยกทรงสีเนื้อของสาวเจ้าออกจนสองเต้าอวบอูมเด้งออกมาอวดโฉม “อ่า...คิดถึงสอ
กองบินยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของสาวน้อยที่ตนเองกักไว้แล้วก้มลงหมายจะจูบปากน้อย แต่ก็ถูกเธอห้าม “ยะ…อย่าค่ะ” เธอผลักกองบินออกห่าง แต่เขาก็เด้งกลับมาเหมือนเดิม“ทำไมฮึ?” เขาก้มโน้มหน้ากระซิบข้างแก้มนวลของคนที่ตัวเองดันเข้าชิดผนังลิฟต์กระจกด้านหลังพร้อมอีกมือลูบไล้เรียวขาเล็กผ่านเนื้อผ้าที่ห่อหุ้ม“ยะ…อย่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น ในลิฟต์มีกล้องวงจรปิด แถมเป็นลิฟต์กระจกอีก” เธอบอกเขาเสียงสั่นพร้อมใจที่เต้นแรง“หึหึ...แต่วันนี้กล้องวงจรปิดมันไม่ทำงานน่ะสิ มาเถอะ กว่าจะถึงชั้นเจ็ดสิบสาม ฉันคงดำว่ายลึกในตัวเธอแล้วเด็กน้อย” แล้วปากหนาก็ทาบทับปิดกลืนเสียงค้านของเธอที่กำลังเอ่ยทันที พร้อมมือสากกร้านก็เริ่มเคลื่อนไหวกล้องวงจรปิดทำงานปกติ แต่ในจุดที่เขายืนตรงนี้เป็นมุมที่กล้องวงจรปิดเห็นไม่ชัดและเขาก็ยืนบังร่างน้อยไว้มิดแทบจะมองไม่ออกว่ามีคนอยู่ในลิฟต์สองคน อีกอย่างลิฟต์กระจกนี้คนข้างนอกมองไม่เห็น แต่คนข้างในมองออกไปเห็นทุกอย่าง“อะ...อื้อ” เสียงครางกระเส่าดังลอดออกมาจากปากทั้งสอง มือใหญ่กำลังสอดเข้าไปในชา
ใจของคำเอื้องสั่นไหวแล้วสั่นไหวอีกแล้ว เพราะคนโอหังเผด็จการที่ดึงลากบังคับตัวเองมาที่ท่าเรือด้วย ตลอดการเดินทางมาในรถเขาก็ฉวยโอกาสลูบไล้เรียวขาเธอด้วยการสอดมือสากกร้านเข้าไปในชายกระโปรงแล้วจับคลึงความเป็นสาวโดยไม่อายคนขับรถ จนเธอต้องผลักเขาออกแล้วตบหน้าของเขาไปหนึ่งที ฝากรอยฝ่ามือไว้บนใบหน้าคมเข้มของบุรุษ เกลียดเขาที่ไม่ให้เกียรติตนและทำกับตนเหมือนผู้หญิงขายบริการ กรอด! กองบินขบกรามแน่นเมื่อถูกตบจนหน้าหันจนอายคนขับรถ “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนที่คุณเคยได้มาง่ายๆ” เธอรู้ว่ากองบินโกรธตัวเอง แต่เธอเองก็โกรธเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้กับตนเอง “แต่เธอก็ไม่ควรตบหน้าฉันแบบนี้เอื้อง” “ฉันอยากทำมากกว่าตบหน้าคุณด้วยซ้ำ” “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันปากเก่งจังเลยนะ” เขาเม้มปากแน่นแล้วยกอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก ไม่ส