สำหรับคำเอื้องแล้วเหมือนว่าวันเวลาสามวันนี้เดินช้าเหลือเกิน เธอนั่งถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก มองตัวเองในกระจกหลังจากแต่งตัวเสร็จ เธอไม่ได้ถูกขังอยู่ในห้องซะทีเดียว เพราะกองบินพาออกไปทานมื้อเย็นข้างนอกทุกวันและเธอต้องทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟังเขาเพื่อจะได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อกลับหาพ่อตัวเองเพื่อที่ท่านจะได้ไม่เป็นห่วงตัวเอง แม้จะแค่วันละห้านาทีก็เถอะ
“ผมชอบเวลาคุณน่ารักแบบนี้แหละเด็กน้อยของผม เชื่อฟัง ไม่พยศกับผม วันนี้ผมจะให้คุณใช้มือถือนานกว่าห้านาที แต่แลกกับคืนนี้คุณต้องบริการผมจนพอใจ เพราะพรุ่งนี้เราจะแยกจากกันแล้ว เรากลับไทยก็จะต่างคนต่างเดิน แต่จำไว้คุณคือความทรงจำที่ดีของผมนะ ถึงแม้จะเกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ผม ‘ชอบ’ และ ‘ดีใจ’ ที่ได้รู้จักเด็กน้อยอย่างคุณ” ร่างเปลือยสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพาดคล้องคอเดินมาหยุดหลังคนที่นั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งส่องกระจกแล้วก้มตัวโน้มลงไปโอบกอดคอระหงของสาวเจ้า
“แต่สำหรับฉันมันคือนรก และฉันจะทิ้งมันไว้ที่ฝรั่งเศส ฉันจะไม่จดจำมันแม้แต่เสี้ยวเดียวว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันที่นี่” เธอจ้องมองเขาผ่านเงาในกระจกที่สะท้อนตรงหน้าแล้วแกะแขนแข็งแรงที่โอบกอดลำคอระหงตัวเองจากด้านหลังออก
“ไม่เอาไม่พูดแบบนี้สิ ตอนฉัน ‘เอา’ เอื้องก็ร้องครางมีความสุขนี่...ว่าไหม” แล้วกองบินก็หมุนเก้าอี้ตัวเล็กที่หญิงสาวนั่งให้หันมาหาตัวเองแล้วก็ก้มหน้าลงไปบดจูบปากแสนหวานของสาวเจ้าที่กำลังขยับจะโต้ตอบตนเอง มือใหญ่โอบกอดลำคอระหงรั้งท้ายทอยเล็กให้แหงนเงยขึ้นรับแรงบดจูบจากปากหนาสีเข้มของตนเอง
“อะ...อื้อ” เมื่อปากหนาทาบทับบดจูบบดคลึงลงมายังกลีบปากของตน คำเอื้องก็ได้แต่พยายามเบือนหน้าหลบหนี แต่ก็ถูกมือหนารั้งท้ายทอยไว้แน่นจึงหนีไม่ได้และยอมจำนนกับปากหนาที่กำลังบดจูบดุดันกับกลีบปากตัวเอง ไม่พอยังเปิดปากรับเรียวลิ้นอุ่นร้อนของคนถ่อยเข้ามาในปากตนเองปล่อยให้กองบินใช้ลิ้นควานกินความหวานทุกซอกมุมในปากตัวเองจนหนำใจ
“อ่า...อื้ม” ความหวานในโพรงปากของคำเอื้องทำให้กองบินไม่อาจถอดถอนจูบได้ เขาจึงบดจูบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และอ่อนโยนสลับกัน อีกมือที่ว่างก็เคลื่อนมากอบกุมอกอวบอูมที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อนอนตัวบางของสาวเจ้า
“อะ...อื้อ” คำเอื้องเจ็บใจตัวเองนัก ที่สุดท้ายแล้วก็พ่ายแพ้คนป่าเถื่อน เธอกำลังแอ่นเด้งอกตอบสนองมือใหญ่ที่เคล้นคลึงเต้าตัวเอง ไม่พอปากน้อยๆ ที่พยายามหลบหนีปากหนาก็จูบตอบ เธอหักห้ามความต้องการของร่างกายไม่ได้ ตอนนี้ร่างกายของเธอมันร้อนรุ่มและโหยหาสัมผัสของคนต่ำทรามจนแทบจะอ่อนระทวยละลายตกเก้าอี้ที่นั่งก็มิปาน
“อื้ม...เห็นไหมว่าเอื้องก็ต้องการฉัน อื้ม...หวานเหลือเกิน”
เขาผละปากออกมาเอ่ยรดใบหน้าหวานชื้นเหงื่อ แล้วก้มหน้าไปซุกซบซอกคอระหงแล้วเริ่มซุกไซ้ปลายจมูกโด่งคมสันได้รูปไปกับซอกคอเคลื่อนไล้มาตามเนินอกอวบ มือใหญ่ที่รั้งท้ายทอยก็เปลี่ยนมาเลิกเสื้อนอนตัวบางของคำเอื้องถอดออกทางหัวเหมือนที่เคยทำ
“อื้อ...ยะ...อย่าทำแบบนี้” เมื่อเสื้อนอนตัวบางถูกถอดออกเหลือยกทรง เธอก็บอกห้ามเขาพร้อมดันหน้าที่กำลังจะซุกลงหาหน้าอกตัวเองห้ามไว้ แต่กองบินก็จับมือน้อยทั้งสองมาจูบและดูดคลึงนิ้วแล้วก้มลงขบเม้มหน้าอกสวยงาม
“อ่า...อย่าห้ามผมเลยเอื้อง เราจะต่างคนต่างไปกันแล้วพรุ่งนี้”
เขาบอกเธอเสียงพร่าและเจ็บปวด โดยที่กองบินเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเจ็บปวดหน่วงๆ ในอกด้วยเมื่อต้องแยกจากกันกับคำเอื้อง แล้วเขาก็จัดการถอดกางเกงนอนตัวเล็กสั้นของเธอพร้อมกางเกงชั้นในสีเนื้อหญิงสาวออก เพียงเวลาไม่นานคำเอื้องก็เหลือแต่ยกทรงสีเนื้อตัวเดียวปกปิดทรวงอวบอูม
“อือ...คนถ่อย ฉันเกลียดคุณที่สุด อะ...อื้อ” แล้วเธอก็ต้องร้องครางเสียวออกมาเมื่อปากหนากัดงับยอดอกที่เพิ่งเด้งออกจากยกทรงและคนที่จัดการยกทรงของเธอก็เป็นกองบินเหมือนทุกครั้ง
“อืม...แข็งตึงให้ ‘ผัว’ ขนาดนี้ยังบอกว่าเกลียดอีก โกหกไม่เก่งเลยนะเอื้อง อ่า...ฉัน ‘ชอบ’ เวลาเธอตื่นตัวให้ฉันเบบี้” แล้วเขาก็ลากลิ้นวนรอบยอดอก อีกเต้าก็มีมือสากกร้านกอบกุมขยุ้มขยำเคล้นคลึงหนักหน่วง
คำเอื้องอยากกัดปากตัวเองนัก ตอนนี้อยากจะหนีจากตรงนี้ แต่แข้งขาอ่อนแรงและซ้ำเธอเองก็ต้องการความสยิวซาบซ่านจากคนต่ำทรามตรงหน้า ตอนนี้ร่างเล็กแอ่นเด้งไปกับสัมผัสหวามของมือหนาและปากหนาที่กำลังคลอเคลียเล้าโลมตัวเอง เพียงเวลาไม่ถึงสิบนาทีกองบินก็เปลื้องผ้าของเธอจนเปลือยเปล่า ส่วนตัวเขานั้นเปลือยอยู่แล้ว
“อะ...อื้อ” คำเอื้องครางกระเส่าแอ่นเด้งรับสัมผัสจากคนป่าเถื่อนที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าแทรกอยู่กลางหว่างขาตน
“อ่า...ฉ่ำแฉะแล้วเอื้อง อื้ม...” กองบินแยกเรียวขาเล็กทั้งสองออกกว้างแล้วมองดูน้ำเสียวของหญิงสาวไร้เดียงสาที่อาบฉ่ำให้ตนเอง ก่อนจะก้มหน้าลงไปซุกซบดอมดมกลิ่นกายสาวงามตรงหน้า
“อะ...อื้อ ยะ...อย่าทำแบบนี้คุณเหม อื้อ...” เธอพยายามร้องห้ามและดันหัวของคนตัวโตออกจากกลางหว่างขา แต่ก็ไม่เป็นผล เขากอดรัดเอวเล็กคอดเธอแน่นด้วยแขนแข็งแรงข้างเดียว อีกข้างที่ว่างกำลังสอดนิ้วทแยงเข้าออกในความคับแน่นพร้อมกับปลายลิ้นสากอุ่นร้อน
“อะ...อื้อ ยะ...อย่าทำแบบนี้กับฉัน อ่า...คุณเหมได้โปรดหยุด...อูว์” ร่างกายของเธอกับคำพูดกำลังเดินสวนทางกัน ร่างเล็กแอ่นเด้งไหวแรงลิ้นและแรงนิ้วแกร่ง สองเท้าจิกพื้นเกร็งเสียวจนเก้าอี้ไหวโยก
แอด! แอด! แอด!
เสียงเก้าอี้ไหวโยกกระแทกกับโต๊ะเครื่องแป้งด้านหลังหญิงสาว ตอนนี้เรียวลิ้นสากกำลังทแยงดุนดันเข้าออกในความคับแน่นฉ่ำแฉะของคำเอื้องพร้อมกับนิ้วแกร่ง ตลอดชีวิตจนอายุสามสิบเจ็ดปีย่างสามสิบแปดปี เขายังไม่เคยใช้ปากและลิ้นกับความเป็นสาวของใครมาก่อน แต่กับคำเอื้อง เขากลับทำมันอย่างง่ายดาย รวมถึงชอบกลิ่นและรสหวานของสาวเจ้าอีกด้วย
“อ่า...ทรมานเหลือเกินคุณเหม อื้อ...เอื้องร้อน” ความเกลียดแค้นชิงชังถูกไฟราคะครอบงำจนไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอแทนตัวเองสนิทสนมกับคนถ่อยและเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างสนิทสนมเช่นกัน สองมือเล็กจับขอบเก้าอี้ที่นั่งแน่นพร้อมแอ่นเด้งยกเอวรับแรงสวาทจากปลายลิ้นสากและนิ้วแกร่งบุรุษที่ซุกซบหน้าตรงกลางหว่างขาตัวเอง
“อ่า...ร้องดังๆ เด็กน้อย อ่า...หวานเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว อยาก ‘เอา’ แรงๆ ตอนนี้” แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นจากกลางหว่างขาร้อนของสาวเจ้า ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่ก็ยังจับสองขาเรียวเล็กของคำเอื้องยกขึ้นมากอดรัดเอวสอบตัวเองจนก้นเธอลอยจากเก้าอี้ แต่สองมือหญิงสาวก็จับเท้ายันขอบเก้าอี้ไว้ด้วยกลัวว่าตัวเองจะตกลงพื้นจนเจ็บตัว
“คะ...คุณเหม...”
“ว่าไงเอื้อง อ่า...เราจะอยู่บนเก้าอี้นี้แล้วค่อยไปที่เตียง”
“เอื้องต้องคุยกับพ่อ”
“เดี๋ยวได้คุย แต่ขอหนึ่งยกก่อน อะ...แน่น” แล้วความอหังการพร้อมกระแทกก็กระเสือกกระสนเข้าไปในกายสาวทีเดียวสุดโคนเนื้ออวบใหญ่
“อะ...คุณเหม”
“อ่า...แน่นเหลือเกินเอื้อง อูว์...ตอนนี้ทูนหัวกำลังตอดรัดผัวรู้ไหม อ่า...ไม่ไหวแล้ว” เขากอดอุ้มก้นกลมกลึงของคำเอื้องยกขึ้นรับเอวสอบตัวเองที่กำลังเคลื่อนไหวโยกเป็นจังหวะหนักหน่วง
แอด! พั่บ! แอด!
เสียงกระแทกเนื้อและเสียงเก้าอี้ไหวโยกดังประสานกันเป็นจังหวะ และตามด้วยเสียงครางของทั้งสอง คำเอื้องจับขอบเก้าอี้แน่นด้วยกลัวว่าตัวเองจะตกเก้าอี้ ตอนนี้เอวเล็กคอดของเธอถูกยกลอยโหนบนอากาศโดยมีเอวสอบของบุรุษกระแทกเด้งเร่าจังหวะเสียว แผ่นหลังเนียนก็พักพิงพนักเก้าอี้ แม้ไม่มั่นคงเท่าไหร่ แต่เธอเชื่อใจกองบินว่าเขาจะไม่ทำให้เธอเจ็บตัวแน่นอน
“อะ...อื้อ ไม่ไหวแล้วค่ะ เอื้องไม่ไหวแล้วคุณเหม อ่า...”
“อ่า...ฉันก็ไม่ไหวเด็กน้อย อ่า...เอื้อง พร้อมกันนะ อ่า...ตอดรัดดีเหลือเกิน อื้ม...อ่า...เสียว”
พั่บ! แอด! พั่บ!
พอเท้าแตะถึงพื้นสนามบินเมืองไทย คำเอื้องก็เรียกร้องอิสระของตัวเอง ให้กองบินคืนบัตรประชาชนของตัวเองและโทรศัพท์ให้ตัวเอง หลังจากได้กระเป๋าเดินทางของตัวเองแล้ว ใบหน้าของคำเอื้องก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เธอไม่แม้แต่จะพูดลากองบินสักคำ พอได้ทุกอย่างคืนก็เดินจากไป ส่วนกองบินก็รู้สึกใจหวิว แต่ก็ทำเพียงยิ้มให้กับตัวเองแล้วเดินไปอีกทาง คำเอื้องไปซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับภูเก็ตไปหาพ่อที่รักของตัวเองทันที ไม่ได้อยู่ค้างที่กรุงเทพฯ เพราะตอนนี้พ่อไลน์ตามแล้วคงอยากรู้เรื่องของกองบินนั่นแหละ เพราะก่อนหน้านี้เพชรกับไหมเพื่อนรักเดินทางกลับมาก่อนและท่านถามกับเพื่อนทั้งสองเลยเผลอหลุดปากพูดชื่อกองบินไปจนตอนนี้คนเป็นพ่อนอนไม่หลับ เพราะคิดห่วงลูกสาวกลัวโดนผู้ชายหลอก นี่แหละคือสาเหตุที่ทำไมเธอถึงอยู่เป็นโสดมายี่สิบสามปี แฟนสักคนก็ไม่มี เพราะพ่อ ‘หวง’ นั่นเอง ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! พอดูชื่อบนหน้าจอก็กลอกตาเล็กน้อยพร้อมอมยิ้มแล้วกดรับสาย
เมื่อเสร็จจากงานสำคัญ กองทัพก็หายหัวไปไม่บอกไม่กล่าว ไม่รู้รีบไปไหน กองพลมองน้องชายคนรองที่เดินมาหาตัวเอง จึงสาวเท้าเดินเข้าไปหา “มึงจะกลับกำแพงเพชรวันไหนไอ้เหม” เขาถามน้องชายคนรอง “เดี๋ยวเคลียร์เอกสารสัญญาเสร็จก็จะกลับแล้วแหละ” กองบินตอบพี่ชาย “อย่าอยู่นาน เพราะกูขี้เกียจตอบคำถามป้าบู่ว่าทำไมมึงยังไม่กลับบ้านอีก” “เออน่า...แล้วมึงเถอะ กลับเลยรึเปล่าวันนี้” “อือ...กลับแหละ ทิ้งเหมืองมานานไม่ได้ ช่วงนี้งานที่เหมืองยุ่งมากว่ะ” “แน่ใจว่างานที่เหมืองยุ่ง” กองบินกลอกตาเลิกคิ้วถามอย่างจับพิรุธในดวงตาสีทมิฬเหมือนตัวเองและกองพลก็หลบสายตาจับผิดของน้องชายตัวดีอย่างรู้กัน “อย่ามาจับผิดกู กูพี่มึงนะเว้ยไอ้เหม” “ก็พี่ไงวะไอ้หิน และมึ
เกษมมองลูกชายคนรองของตัวเองแล้วก็ถอนหายใจ ลูกชายทั้งสามของเขาไม่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที พอลูกชายคนรองกลับมาบ้าน ลูกชายคนที่อยู่บ้านด้วยก็หายไปอยู่ที่เหมือง“เมื่อไหร่พวกแกสามคนจะมีหลานให้พ่อสักทีไอ้เหม” เกษมถามกองบินที่กำลังตักกับข้าวเอาใจป้า“พ่อเษมก็ถามแต่เรื่องเดิมๆ เมื่อถึงเวลานั่นแหละน่า” บู่เอ่ยพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย ก็ทุกครั้งน้องชายมักถามแต่คำถามเดิมกับหลานๆ ของตน“เนี่ยไง พี่บู่ก็พูดแบบนี้ทุกที พวกมันเลยยังไม่แต่งงาน แต่มีเมียทุกที่ที่ไป” เกษมพูดตอบพี่สาว“อย่างที่ป้าบู่พูดนั่นแหละครับพ่อ ทานข้าวเถอะครับ นี่แกงเลียงกุ้งสด อร่อยมาก พ่อกินเยอะๆ นะครับ” แล้วเขาก็หันมาตักอาหารเอาใจพ่อบ้างหลังจากตักให้ป้าแล้ว“ไม่ต้องมาทำเป็นเอาใจพ่อไอ้เหม พวกแกแต่ละคนทำให้คนแก่อย่างฉันเป็นห่วง อายุก็ไม่น้อยแล้ว เมื่อไหร่จะมีครอบครัวกัน ควรคิดได้แล้วนะไอ้เหม รู้ไหมแม่พวกแกก็โทรมาถามฉันทุกวันว่าเมื่อไหร่ลูกชายทั้งสามจะมีสะใภ้ให้สักที” เกษมเอ่ยถึงนารี อดีตภรรยาและแม่ของลูกชายทั้งสาม“พ่อกับแม่เนี่ยใจร้อนกันจริงๆ แม่โทรหาผมทีไรก็ถามแ
ใจของคำเอื้องสั่นไหวแล้วสั่นไหวอีกแล้ว เพราะคนโอหังเผด็จการที่ดึงลากบังคับตัวเองมาที่ท่าเรือด้วย ตลอดการเดินทางมาในรถเขาก็ฉวยโอกาสลูบไล้เรียวขาเธอด้วยการสอดมือสากกร้านเข้าไปในชายกระโปรงแล้วจับคลึงความเป็นสาวโดยไม่อายคนขับรถ จนเธอต้องผลักเขาออกแล้วตบหน้าของเขาไปหนึ่งที ฝากรอยฝ่ามือไว้บนใบหน้าคมเข้มของบุรุษ เกลียดเขาที่ไม่ให้เกียรติตนและทำกับตนเหมือนผู้หญิงขายบริการ กรอด! กองบินขบกรามแน่นเมื่อถูกตบจนหน้าหันจนอายคนขับรถ “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนที่คุณเคยได้มาง่ายๆ” เธอรู้ว่ากองบินโกรธตัวเอง แต่เธอเองก็โกรธเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้กับตนเอง “แต่เธอก็ไม่ควรตบหน้าฉันแบบนี้เอื้อง” “ฉันอยากทำมากกว่าตบหน้าคุณด้วยซ้ำ” “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันปากเก่งจังเลยนะ” เขาเม้มปากแน่นแล้วยกอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก ไม่ส
กองบินยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของสาวน้อยที่ตนเองกักไว้แล้วก้มลงหมายจะจูบปากน้อย แต่ก็ถูกเธอห้าม “ยะ…อย่าค่ะ” เธอผลักกองบินออกห่าง แต่เขาก็เด้งกลับมาเหมือนเดิม“ทำไมฮึ?” เขาก้มโน้มหน้ากระซิบข้างแก้มนวลของคนที่ตัวเองดันเข้าชิดผนังลิฟต์กระจกด้านหลังพร้อมอีกมือลูบไล้เรียวขาเล็กผ่านเนื้อผ้าที่ห่อหุ้ม“ยะ…อย่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น ในลิฟต์มีกล้องวงจรปิด แถมเป็นลิฟต์กระจกอีก” เธอบอกเขาเสียงสั่นพร้อมใจที่เต้นแรง“หึหึ...แต่วันนี้กล้องวงจรปิดมันไม่ทำงานน่ะสิ มาเถอะ กว่าจะถึงชั้นเจ็ดสิบสาม ฉันคงดำว่ายลึกในตัวเธอแล้วเด็กน้อย” แล้วปากหนาก็ทาบทับปิดกลืนเสียงค้านของเธอที่กำลังเอ่ยทันที พร้อมมือสากกร้านก็เริ่มเคลื่อนไหวกล้องวงจรปิดทำงานปกติ แต่ในจุดที่เขายืนตรงนี้เป็นมุมที่กล้องวงจรปิดเห็นไม่ชัดและเขาก็ยืนบังร่างน้อยไว้มิดแทบจะมองไม่ออกว่ามีคนอยู่ในลิฟต์สองคน อีกอย่างลิฟต์กระจกนี้คนข้างนอกมองไม่เห็น แต่คนข้างในมองออกไปเห็นทุกอย่าง“อะ...อื้อ” เสียงครางกระเส่าดังลอดออกมาจากปากทั้งสอง มือใหญ่กำลังสอดเข้าไปในชา
พอขึ้นมาถึงชั้นเจ็ดสิบสามเข้ามาในห้องชุดสุดหรู กองบินก็ไม่รอช้ากระชากดึงร่างน้อยเปราะบางของคำเอื้องไปกับเตียงนอนนุ่มของตนเองแล้วตัวเองก็ตามไปคร่อมทับกดกักร่างน้อยไว้กับเตียงไม่ให้ลุกหนีจากเตียงนอน แควก! เสียงชุดถูกกระชากฉีกขาดผ่าครึ่งดังขึ้นทำให้คำเอื้องตกใจ ไม่คิดว่าคนป่าเถื่อนจะทำกับเสื้อที่ตนเองใส่ แล้วเขาก็ฉีกผ่าครึ่งจนมาถึงตัวกระโปรงชุดเดรสต่อกันกับเสื้อ “คุณมันบ้า!”คำเอื้องว่าคนเหนือร่างพร้อมจับมือของเขาที่จะกระชากดึงยกทรงตัวเองขาดตามชุดตนเอง “ก็ฉันอยากได้เธอนี่เด็กน้อย เธอก็รู้ว่าฉันตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในลิฟต์แล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่มี ‘เซ็กซ์’ กับเธอในลิฟต์ให้อายคน”เขาบอกเธอเสียงร้อนรนแล้วก็จัดการยกทรงสีเนื้อของสาวเจ้าออกจนสองเต้าอวบอูมเด้งออกมาอวดโฉม “อ่า...คิดถึงสอ
“อะ...นั่นแหละเอื้อง อ่า...ทำแบบนั้นแหละ” เขาจับหัวคนตัวเล็กที่จมหายอยู่ในน้ำโยกไหวเป็นจังหวะเมื่อปากน้อยเริ่มกลืนกินตัวเอง กองบินรู้ว่าคำเอื้องกลัว แต่เธอก็สู้เหลือเกิน แม้จะเป็นครั้งแรกที่ให้เธอได้ครอบครองกลืนกินตัวเองและแถมยังอยู่ใต้น้ำแบบนี้ด้วย เอวหนายกเด้งกระแทกบดเบียดเสียดสีท่อนเนื้ออหังการตัวเองเข้าออกในปากน้อยใต้น้ำจนน้ำกระฉอกไหลล้นออกนอกอ่างไหลเต็มพื้นห้องน้ำ “โอว์...เสียว อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...”ซ่า! คำเอื้องโผล่หัวขึ้นมาเหนือน้ำเมื่อกลั้นหายใจใต้น้ำไม่ไหว “อ่า...อือ” เธอหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเต็มแรงแล้วก็ลูบหน้าเสยผมที่เปียก แล้วยังไม่ทันได้หายใจเต็มปอดก็ถูกแขนแข็งแรงตวัดกอดรั้งเข้าไปซบอกแล้วท้ายทอยก็ถูกมือใหญ่รั้งให้แหงนเงยขึ้น จากนั้นปากหนาก็กดจูบหนักหน่วงถ่ายเทลมหายใจให้เธอ “อะ...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมา ไม่ว่าปาก
คำสิงห์แทบนอนไม่หลับเมื่อโทรหาลูกสาวแล้วมีผู้ชายรับสาย แถมยังตัดวางสายของตนทิ้งไม่พอ โทรกลับก็ปิดเครื่องไปแล้ว ยิ่งโทรศัพท์ของคำเอื้องปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ยิ่งห่วงจนต้องกดต่อสายโทรหาไหมเพื่อนสนิทของลูก ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! รอไม่นานปลายสายก็กดรับสายพร้อมกรอกเสียงหวานสุภาพส่งมาในสาย “สวัสดีค่ะป๊าคำสิงห์” “หนูไหม ป๊าขอคุยกับหนูเอื้องได้ไหม” คำสิงห์ไม่บอกว่าตนได้โทรหาลูกสาวแล้วมีผู้ชายรับสายแทน เงียบ! ไม่มีเสียงตอบกลับมาในสาย คำสิงห์จึงเอ่ยเรียกคนในสายที่เงียบไป “หนูไหม” “คะป๊าคำสิงห์ ขอโทษทีนะคะ พอดีเมื่อกี้รุ่นพี่ที่ทำงานเดินเข้ามาคุย หนูเลยไม่ได้ตอบป๊าค่ะ”ไหมเลือกที่จะพ
เมื่อพ่อบอกว่าให้ไปพักผ่อนไปอยู่กับเพื่อนได้ คำเอื้องก็เลยเลือกเดินทางไปหาเพชรกับไหมที่กรุงเทพฯเพื่อไปปรึกษาเรื่องชีวิตของตัวเอง เมื่อวันก่อนเธอได้แวะร้านขายยาซื้อที่ตรวจครรภ์ไปตรวจที่ห้องน้ำสาธารณะของปั๊มน้ำมันและผลมันก็เป็นอย่างที่คิดและสงสัย เธอกำลัง‘ท้อง’ลูกของกองบิน “ถึงแล้วนะแก เดี๋ยวนั่งแท็กซี่ไปคอนโดแกนะเพชร” พอลงจากเครื่อง เธอก็เปิดเครื่องโทรหาเพชรทันที โดยไม่ได้มองคนรอบข้างที่เดินผ่านตัวเอง “แล้วเจอกัน”พอกดวางสายจะเดินต่อ ไม่ทันได้มองและระวังก็เผลอสะดุดเท้าตัวเองล้ม แต่ยังไม่ทันได้ล้มก็มีใครบางคนอยู่ด้านหลังรับไว้ได้เสียก่อนว้าย! ใจของคำเอื้องตกไปอยู่ตาตุ่มด้วยกลัวว่าจะเป็นอันตรายกับลูกน้อยในท้อง แม้เขาจะเกิดมาโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้อยู่ในแผนชีวิต แต่พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คน เธอก็รู้สึกมีคว
‘ให้ตายเถอะ!’ นั่นคือคำเดียวที่กองบินอยากสบถออกมาตอนนี้ แต่ก็ได้แต่ขบกรามข่มความเกรี้ยวกราดไว้ในอกเมื่อมีสายเรียกเข้าสำคัญมาหาตัวเอง เมื่อวานก็ขาดงานแล้ว วันนี้จะขาดงานอีกไม่ได้ ยิ่งใกล้จะเปิดเส้นทางเดินเรือแล้วด้วย เขาควรหันมาโฟกัสกับงานที่สำคัญก่อน ส่วนคำเอื้องได้เจอดีแน่หากเจออีกครั้งหน้า และเขาเชื่อว่ามันต้องมีอีกครั้งแน่นอนสำหรับเขาและเธอ “อือ...จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” พอกดรับสายแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อจะออกไปทำงานสำคัญของตนเอง แม้จะเจ็บจุกความอหังการที่ตนภาคภูมิใจก็เถอะ แต่ก็กัดฟันข่มความเจ็บเดินตรงไปยังประตูห้อง เหมือนเวลาที่ผ่านมาจะเดินเร็วมาก แต่สำหรับคำเอื้องแล้วสองเดือนมานี้มันช่างเชื่องช้าเหลือเกิน เพราะเธอยังคงคิดถึงเฝ้าจดจำสัมผัสจากคนเผด็จการจนระยะนี้เหม่อลอยอยู่บ่อยๆ “หนูเอื้อง” คำสิงห์เรียกลูกสาวหลา
เกษมคุยกับอดีตภรรยาเรื่องลูกชายทั้งสามคนของตนเองแล้ววางสายถอนหายใจเดินออกจากห้องทำงานไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อพูดคุยปรึกษาพี่สาวตัวเอง แม้จะรู้ว่าปรึกษาไปก็เท่านั้น เพราะพี่สาวมักเข้าข้างกองพล กองบิน และกองทัพเสมอ “นารีว่ายังไงมั่งพ่อเษม” นางถามน้องชายที่เดินมานั่งโซฟาตรงข้ามกับตนเอง “เรื่องไอ้ลูกเวรของผมนั่นแหละพี่บู่” “คงไม่พ้นเรื่องแต่งงาน” “ครับ ผมกับนารีห่วงไอ้หิน ไอ้เหมกับไอ้เหิมว่าแก่ไปแล้วจะไม่มีคนดูแล แถมตอนนี้ก็ห่วงกลัวว่าจะติดโรคอีก พวกมันเล่นสำส่อนแบบนี้ผมกับแม่มันก็อดห่วงไม่ได้” เกษมเอ่ยตอบกลับพี่สาว “จะรีบร้อนไปทำไมพ่อเษม” “ไม่ให้รีบร้อนได้ยังไงพี่บู่ พวกมันอายุไม่น้อยกันแล้วนะ สามสิบกว่ากันแล้ว อีกคนก็สี่สิบแล้ว ผมกับพี่ก็ใช่จะอยู่ดูแลพวกมันได้ตลอด” เกษมเอ่ย&
เวลาผ่านไปนานเกือบสิบนาที ประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมกับคนตัวเล็กมีผ้าเช็ดตัวพันรอบอกออกมา และในมือก็กอดผ้าห่ม กองบินจึงลุกจากเก้าอี้นั่งที่โต๊ะทานอาหารเดินไปเปิดกระเป๋าเดินทางใบเล็กของคำเอื้องที่ให้พนักงานโรงแรมนำขึ้นมาไว้บนห้อง เขาค้นไม่นานก็เจอชุดนอนแบบกางเกงขาสั้นและเสื้อแขนสั้นเข้าชุดลายโดเรมอนของหญิงสาวแล้วก็ถือมันติดมือเดินไปหาคนที่ยืนหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูห้องน้ำไม่ยอมเดินมา “อะ...ชุดนอน” เขาส่งยื่นชุดนอนให้คนตัวเล็ก คำเอื้องรับมาแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบและไม่ลืมปิดประตูห้องน้ำ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็แต่งตัวเสร็จแล้วเปิดประตูออกมา แต่ก็ยังรู้สึกเขินอยู่ เพราะไม่ได้ใส่ชุดชั้นในข้างใน “ไปกินข้าวเถอะ แล้วจะได้นอนกันต่อ เนี่ยก็เที่ยงคืนแล้ว” กองบินคว้าข้อมือเล็กแล้วลากดึงเดินตามตัวเองไปยังโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก พอเดินมาถึงก็ดึงลากเก้าอี้ออกให้หญิงสาวนั่งทั้งๆ ที่ไม่เคยดึงลากเก้าอี้ออกให้ผู้หญิงคนไหนนั่งมาก่อน&
คำสิงห์แทบนอนไม่หลับเมื่อโทรหาลูกสาวแล้วมีผู้ชายรับสาย แถมยังตัดวางสายของตนทิ้งไม่พอ โทรกลับก็ปิดเครื่องไปแล้ว ยิ่งโทรศัพท์ของคำเอื้องปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ยิ่งห่วงจนต้องกดต่อสายโทรหาไหมเพื่อนสนิทของลูก ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! รอไม่นานปลายสายก็กดรับสายพร้อมกรอกเสียงหวานสุภาพส่งมาในสาย “สวัสดีค่ะป๊าคำสิงห์” “หนูไหม ป๊าขอคุยกับหนูเอื้องได้ไหม” คำสิงห์ไม่บอกว่าตนได้โทรหาลูกสาวแล้วมีผู้ชายรับสายแทน เงียบ! ไม่มีเสียงตอบกลับมาในสาย คำสิงห์จึงเอ่ยเรียกคนในสายที่เงียบไป “หนูไหม” “คะป๊าคำสิงห์ ขอโทษทีนะคะ พอดีเมื่อกี้รุ่นพี่ที่ทำงานเดินเข้ามาคุย หนูเลยไม่ได้ตอบป๊าค่ะ”ไหมเลือกที่จะพ
“อะ...นั่นแหละเอื้อง อ่า...ทำแบบนั้นแหละ” เขาจับหัวคนตัวเล็กที่จมหายอยู่ในน้ำโยกไหวเป็นจังหวะเมื่อปากน้อยเริ่มกลืนกินตัวเอง กองบินรู้ว่าคำเอื้องกลัว แต่เธอก็สู้เหลือเกิน แม้จะเป็นครั้งแรกที่ให้เธอได้ครอบครองกลืนกินตัวเองและแถมยังอยู่ใต้น้ำแบบนี้ด้วย เอวหนายกเด้งกระแทกบดเบียดเสียดสีท่อนเนื้ออหังการตัวเองเข้าออกในปากน้อยใต้น้ำจนน้ำกระฉอกไหลล้นออกนอกอ่างไหลเต็มพื้นห้องน้ำ “โอว์...เสียว อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...”ซ่า! คำเอื้องโผล่หัวขึ้นมาเหนือน้ำเมื่อกลั้นหายใจใต้น้ำไม่ไหว “อ่า...อือ” เธอหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเต็มแรงแล้วก็ลูบหน้าเสยผมที่เปียก แล้วยังไม่ทันได้หายใจเต็มปอดก็ถูกแขนแข็งแรงตวัดกอดรั้งเข้าไปซบอกแล้วท้ายทอยก็ถูกมือใหญ่รั้งให้แหงนเงยขึ้น จากนั้นปากหนาก็กดจูบหนักหน่วงถ่ายเทลมหายใจให้เธอ “อะ...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมา ไม่ว่าปาก
พอขึ้นมาถึงชั้นเจ็ดสิบสามเข้ามาในห้องชุดสุดหรู กองบินก็ไม่รอช้ากระชากดึงร่างน้อยเปราะบางของคำเอื้องไปกับเตียงนอนนุ่มของตนเองแล้วตัวเองก็ตามไปคร่อมทับกดกักร่างน้อยไว้กับเตียงไม่ให้ลุกหนีจากเตียงนอน แควก! เสียงชุดถูกกระชากฉีกขาดผ่าครึ่งดังขึ้นทำให้คำเอื้องตกใจ ไม่คิดว่าคนป่าเถื่อนจะทำกับเสื้อที่ตนเองใส่ แล้วเขาก็ฉีกผ่าครึ่งจนมาถึงตัวกระโปรงชุดเดรสต่อกันกับเสื้อ “คุณมันบ้า!”คำเอื้องว่าคนเหนือร่างพร้อมจับมือของเขาที่จะกระชากดึงยกทรงตัวเองขาดตามชุดตนเอง “ก็ฉันอยากได้เธอนี่เด็กน้อย เธอก็รู้ว่าฉันตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในลิฟต์แล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่มี ‘เซ็กซ์’ กับเธอในลิฟต์ให้อายคน”เขาบอกเธอเสียงร้อนรนแล้วก็จัดการยกทรงสีเนื้อของสาวเจ้าออกจนสองเต้าอวบอูมเด้งออกมาอวดโฉม “อ่า...คิดถึงสอ
กองบินยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของสาวน้อยที่ตนเองกักไว้แล้วก้มลงหมายจะจูบปากน้อย แต่ก็ถูกเธอห้าม “ยะ…อย่าค่ะ” เธอผลักกองบินออกห่าง แต่เขาก็เด้งกลับมาเหมือนเดิม“ทำไมฮึ?” เขาก้มโน้มหน้ากระซิบข้างแก้มนวลของคนที่ตัวเองดันเข้าชิดผนังลิฟต์กระจกด้านหลังพร้อมอีกมือลูบไล้เรียวขาเล็กผ่านเนื้อผ้าที่ห่อหุ้ม“ยะ…อย่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น ในลิฟต์มีกล้องวงจรปิด แถมเป็นลิฟต์กระจกอีก” เธอบอกเขาเสียงสั่นพร้อมใจที่เต้นแรง“หึหึ...แต่วันนี้กล้องวงจรปิดมันไม่ทำงานน่ะสิ มาเถอะ กว่าจะถึงชั้นเจ็ดสิบสาม ฉันคงดำว่ายลึกในตัวเธอแล้วเด็กน้อย” แล้วปากหนาก็ทาบทับปิดกลืนเสียงค้านของเธอที่กำลังเอ่ยทันที พร้อมมือสากกร้านก็เริ่มเคลื่อนไหวกล้องวงจรปิดทำงานปกติ แต่ในจุดที่เขายืนตรงนี้เป็นมุมที่กล้องวงจรปิดเห็นไม่ชัดและเขาก็ยืนบังร่างน้อยไว้มิดแทบจะมองไม่ออกว่ามีคนอยู่ในลิฟต์สองคน อีกอย่างลิฟต์กระจกนี้คนข้างนอกมองไม่เห็น แต่คนข้างในมองออกไปเห็นทุกอย่าง“อะ...อื้อ” เสียงครางกระเส่าดังลอดออกมาจากปากทั้งสอง มือใหญ่กำลังสอดเข้าไปในชา
ใจของคำเอื้องสั่นไหวแล้วสั่นไหวอีกแล้ว เพราะคนโอหังเผด็จการที่ดึงลากบังคับตัวเองมาที่ท่าเรือด้วย ตลอดการเดินทางมาในรถเขาก็ฉวยโอกาสลูบไล้เรียวขาเธอด้วยการสอดมือสากกร้านเข้าไปในชายกระโปรงแล้วจับคลึงความเป็นสาวโดยไม่อายคนขับรถ จนเธอต้องผลักเขาออกแล้วตบหน้าของเขาไปหนึ่งที ฝากรอยฝ่ามือไว้บนใบหน้าคมเข้มของบุรุษ เกลียดเขาที่ไม่ให้เกียรติตนและทำกับตนเหมือนผู้หญิงขายบริการ กรอด! กองบินขบกรามแน่นเมื่อถูกตบจนหน้าหันจนอายคนขับรถ “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนที่คุณเคยได้มาง่ายๆ” เธอรู้ว่ากองบินโกรธตัวเอง แต่เธอเองก็โกรธเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้กับตนเอง “แต่เธอก็ไม่ควรตบหน้าฉันแบบนี้เอื้อง” “ฉันอยากทำมากกว่าตบหน้าคุณด้วยซ้ำ” “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันปากเก่งจังเลยนะ” เขาเม้มปากแน่นแล้วยกอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก ไม่ส