หลังจากที่กองทัพไปทำงานแล้วนับดาวก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์ของแก้มใสพอดี เพราะวันนี้เธอมีนัดสอนเจ้าขาทำอาหารที่ล้วนแต่เป็นของโปรดของกองทัพ โดยที่แก้มใสได้จัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบเอาไว้ให้นับดาวเรียบร้อยแล้ว“ลูกชายของแม่เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย บางครั้งนะแค่ข้าวผัดไข่ธรรมดา ๆ กับไข่เจียวหรือไข่ดาวพี่ทัพก็อิ่มท้องแล้ว เมนูง่าย ๆ แบบนั้นเจ้าขาทำเป็นใช่ไหมลูก”นับดาวหันมาถามเจ้าขาที่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะจัดเตรียมวัตถุดิบทำอาหารไปด้วย ซึ่งเมนูในวันนี้เธอเลือกมาแต่ของโปรดลูกชายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง น้ำพริกลงเรือ แกงเขียวหวาน เนื้อเค็มต้มกะทิ และแกงรัญจวน ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่คุณยายปรานีชอบทำให้กองทัพกินตั้งแต่เด็ก เขาจึงชอบมากและมักจะทำทานเองอยู่เสมอในวันที่ว่าง“อาหารง่าย ๆ ที่ขั้นตอนไม่ค่อยยุ่งยากนับก็พอจะทำเป็นอยู่ค่ะคุณแม่ อย่างไข่ลูกเขย ผัดกะเพรา หมูทอดกระเทียม แต่ถ้าเป็นอาหารที่ต้องใช้เครื่องปรุงเยอะนับไม่ค่อยถนัดเลยค่ะ”เจ้าขาบอกนับดาวที่เริ่มลงมือหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว โดยที่มีเจ้าขาคอยเป็นลูกมือ ส่วนพวกเนื้อก็ให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านที่มาช่วยหั่นเตรียมเอาไว้ให้ เพราะเจ้าขากำล
ชุดนอนผ้าลื่นที่เจ้าขาสวมอยู่ถูกดึงทีเดียวก็ร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกองทัพที่กวาดสายตามองร่างบางที่อวบอิ่ม เพราะกำลังตั้งครรภ์ด้วยความหื่นกระหายในรสสัมผัส ผิวของเจ้าขาเนียนละเอียดนุ่มมือชวนให้น่าลูบไล้ จากการที่เธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เขาจึงไม่แปลกใจเลยที่ใคร ๆ ต่างก็ชมเจ้าขาว่าเป็นนักแสดงที่ผิวสวยมากและเมื่อได้มาสัมผัสก็ยิ่งทำให้เขาหลงใหลในตัวเธออย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนรู้สึกอยากขอบคุณความใจกล้าของเจ้าขาที่เดินตามเขามาในวันนั้นจนทำให้เขาและเธอมีกันในวันนี้รักครั้งแรกของเขาในวัยเยาว์ ก็คือรักครั้งสุดท้ายของเขาในวันนี้“พี่ทัพคิดถึงเจ้าขามาก ๆ เลยค่ะ”ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงซุกไซ้ไปที่ซอกคอหอมกรุ่นทำเอาเจ้าขาหลับตาพริ้มพร้อมกับยกมือขึ้นมากอดกองทัพเอาไว้หลวม ๆ เมื่อพี่ทัพของเธอเริ่มบรรเลงเพลงรักที่เธอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายเลยว่าเธอเองก็โหยหาเขาไม่น้อยเช่นกัน ทุกสัมผัสของกองทัพยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอเสมอ เธอรู้สึกโหยหาเขาทุกครั้งที่ต้องห่างกัน นี่เธอไม่ได้หื่นนะทุกคนแต่คุณหมอบอกว่ามันเป็นอาการปกติสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์“อ๊ะ”เจ้าขาร้องอุทานขึ้
หลังจากวันนั้นกองทัพก็แวะเวียนมาทานมื้อเช้าและมื้อเย็นกับเจ้าขาทุกวัน เพราะเขาทนคิดถึงเธอไม่ไหวทำให้ต้องเสนอหน้ามาให้ป้าแก้มใสด่าทุกวันเป็นว่าเล่น ทำเอาบ้านที่ไม่เคยสงบสุขอยู่แล้วยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่ จากการต่อปากต่อคำของแก้มใสกับหลานชายที่ปากแซ่บไม่เคยแผ่ว ซึ่งบางวันทั้งคู่ก็แค่พูดโต้กันไปโต้กันมา แต่บางวันแก้มใสก็วิ่งไล่ตีหลานชายราวกับหลงลืมอายุของตัวเอง ทำเอาวายุที่ได้แต่นั่งมองเมียกับหลานตีกันถึงกับกุมขมับไม่เว้นแต่ละวัน ยกเว้นเจ้าขาที่นั่งมองดูพี่กองทัพกับป้าแก้มไล่ตีกันด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข และในที่สุดวันที่กองทัพรอคอยก็มาถึง วันที่เขากับเจ้าขากำลังจะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ขบวนเจ้าบ่าวกำลังเคลื่อนมาที่หน้าโรงแรมที่ใช้จัดงาน ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของตระกูลพิสิฐกุลวัตรดิลกนั่นเองขบวนเจ้าบ่าวนำทีมโดยกฤษฎิ์กับที่รักที่เดินนำหน้าขบวนเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเงินประตูทองด่านแรก ตามมาด้วยคุณปู่เรย์และคุณย่าพลอยไพลินที่บินมาจากอิตาลี เพื่อมาร่วมงานแต่งของกองทัพหลานชายที่เรย์รักมากไม่ต่างจากเก้าทัพผู้เป็นพ่อ ส่วนเก้าทัพกับนับดาวแล้วก็แก้มใสก็เด
พิธีรดน้ำสังข์ผ่านไปเรื่อย ๆ เจ้าขาเฝ้ารอใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ แต่ผ่านไปคนแล้วคนเล่าคนที่เธอรอคอยก็ยังไม่มาสักที ใบหน้าสวยหวานที่ยิ้มแย้มรับคำอวยพรในครั้งแรกพลันเศร้าหมองลง เมื่อถึงคนสุดท้ายแล้ว แต่กลับไร้วี่แววของ จันทร์กนก มารดาของเธอ แม้จะรู้อยู่ลึก ๆ ว่ามารดาไม่ได้รับปากว่าจะมางานแต่ง เพราะตั้งแต่ที่มารดากับบิดาของเธอแยกทางกัน มารดาก็ไม่เคยกลับมาเหยียบที่เมืองไทยอีกเลยเหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะบิดากับมารดาของเธอจบกันด้วยไม่ดี เลยทำให้มารดาลั่นวาจาว่าจะไม่ขอกลับมาที่เมืองไทยและจะไม่มาให้บิดาเห็นหน้าอีก คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาเจ้ากรรมก็พาลไหลออกมาดื้อ ๆ จนกองทัพที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องรีบขยับเข้ามากอดปลอบเจ้าขาด้วยความห่วงใยก่อนที่เสียงฝีเท้าของใครบางคนจะเดินขึ้นมาบนเวทีตึก ตึก ตึกจันทร์กนกที่อยู่ในชุดราตรีสีแดงและสวมแว่นตาดำปกปิดใบหน้าเดินขึ้นเวทีมาท่ามกลางสายตาแปลกใจของใครหลาย ๆ คนที่มองมาอย่างให้ความสนใจ เพราะแขกคนสุดท้ายที่รดน้ำสังข์อวยพรคู่บ่าวสาวได้เดินลงมาจากเวทีนาน แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกลับยังนั่งอยู่ที่เดิมราวกับกำลังรอคอยใครบางคน“ร้องไห้ทำไมกันคะลูกสาวคนสวยของแม่”จันทร์กนกท้วง
หลังจากที่งานแต่งงานผ่านไปได้เพียงสามวัน กองทัพกับเจ้าขาก็เก็บกระเป๋าเตรียมบินมาฮันนีมูนที่อิตาลี ประเทศที่เต็มไปด้วยความทรงจำและสถานที่ซึ่งเป็นรักแรกพบของทั้งคู่ ซึ่งกองทัพกับเจ้าขานั้นใจตรงกันเมื่อต้องเลือกประเทศที่จะไปฮันนีมูน ทั้งคู่ต่างก็ตอบพร้อมกันอย่างไม่ลังเลเลยว่าอยากกลับไปฮันนีมูนที่อิตาลีโดยในวันที่ทั้งคู่ออกเดินทางแฟนคลับต่างพร้อมใจกันมาส่งที่สนามบินทำให้เจ้าขาและกองทัพซาบซึ้งใจมากกับความรักที่แฟนคลับมีให้เจ้าขา ทุกคนต่างโบกมือและส่งทั้งคู่ออกเดินทางด้วยรอยยิ้มทำให้วันนั้นว่าที่คุณแม่มีความสุขจนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความอ่อนไหวทางอารมณ์ ซึ่งเป็นปกติของคุณแม่มือใหม่ที่มักจะมีความรู้สึกที่อ่อนไหวทางความรู้สึกง่าย “มื้อเช้ามาแล้วครับ ข้าวต้มร้อน ๆ ฝีมือพ่อกองทัพ นี่พ่อตั้งใจทำให้คุณภรรยากับคุณลูกอย่างสุดฝีมือเลยนะ”กองทัพยกข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ มาเสิร์ฟให้ภรรยาที่นั่งรอด้วยความหิว ซึ่งไม่รู้ว่าเธอเองที่หิวหรือเจ้าตัวเล็กในท้องหิวกันแน่ ยิ่งได้กลิ่นหอม ๆ ของน้ำซุปเจ้าขาก็ไม่รอช้าที่จะตักข้าวต้มเข้าปาก รสชาติที่คุ้นเคยของสามีที่รู้ใจทำให้เจ้าขารู้สึกว่าชีวิตของเธอในตอนนี้ช่างม
เจ้าขากับกองทัพใช้เวลาท่องเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ ที่อิตาลีด้วยความสุขและสนุกสนาน เพราะการเดินทางท่องเที่ยวของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน กองทัพตามใจภรรยาทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องสถานที่เที่ยว เจ้าขาอยากไปไหนกองทัพก็พาไป เจ้าขาอยากกินอะไรก็กองทัพก็ไม่ขัด ทำให้เจ้าขามีความสุขมากตลอดทริปฮันนีมูนจนกระทั่งกลับมาถึงเมืองไทยเจ้าขาก็พบว่า...“กรี๊ดดดดดด พี่เอมมี่ขาทำไมหน้าเจ้าขากลมขนาดนี้”เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากห้องนอนทำเอาเอมมี่ที่กำลังจะนั่งลงบนโซฟาถึงกับสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนก็พบกับเจ้าขาที่กำลังยืนหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจก ด้วยใบหน้าที่เริ่มเบะราวกับกำลังจะร้องไห้“เป็นอะไรไปคะลูกสาว กรี๊ดเสียงดังลั่นไปถึงข้างนอกเชียว”เอมมี่เดินมาถามเจ้าขาด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เจ้าขาจะโผเข้ากอดผู้จัดการส่วนตัวด้วยความรู้สึกที่เริ่มกังวลใจ เพราะรูปร่างของเธอกำลังจะเปลี่ยนไป อีกทั้งเจ้าขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเธอนั้นเพลิดเพลินกับอาหารการกินที่บางอย่างก็ไม่ได้มีประโยชน์กับลูกน้อยเลย แต่ด้วยความอร่อยทำให้เจ้าขาอดใจไม่ไหวจริง ๆ โดยเฉพาะขนมหวานที่เจ้าขามักจะชอบแอบกองทัพกินบ่อย ๆ
เย็นวันนั้นหลังจากที่กองทัพกลับมาจากทำงานและทำมื้อเย็นให้เจ้าขาทาน ก็สัมผัสได้ว่าภรรยาทานมื้อเย็นไปเพียงนิดเดียวไม่ได้ทานเยอะเฉกเช่นเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ทำให้คุณพ่อรู้สึกแปลกใจไม่น้อย“ทำไมวันนี้คุณแม่อิ่มไวจังเลยคะ ปกติต้องเติมข้าวอีกครึ่งทัพพีแล้วนะเนี่ย”คำทักท้วงของกองทัพทำเอาเจ้าขาถึงกับสะอึกเล็กน้อย เพราะไม่ว่าจะมื้อไหน ๆ เจ้าขาก็จัดเต็มสูบ กินจนพุงกาง แต่พอมาวันนี้ที่เธอเริ่มรู้สึกว่าหุ่นของเธอเริ่มจะกลายเป็นแม่หมีทำให้เจ้าขากินน้อยลงมากกว่าเดิม เพราะเธอไม่อยากให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากกว่าเกณฑ์ที่คุณหมอกำหนด“เจ้าขากินเยอะเกินไปแล้วค่ะ เติมข้าวทุกวันจนหุ่นจะเป็นแม่หมีอยู่แล้ว”คำพูดของเจ้าขาเรียกเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูจากกองทัพไม่น้อย ทำเอาเจ้าขาถึงกับหน้าคว่ำที่สามีหัวเราะเธอ ก่อนที่กองทัพจะเดินไปนั่งลงข้างเจ้าขาที่กำลังน้อยใจ เมื่อสามีหัวเราะที่เธอบอกว่าเป็นแม่หมี“เจ้าขากำลังตั้งท้องนี่คะ จะกินเยอะก็ไม่แปลก เพราะเจ้าตัวเล็กจะได้รับแต่สารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ที่เจ้าขากินเข้าไป อาหารที่พี่ทัพทำให้เจ้าขามีแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อลูกของเราทั้งนั้นนะคะ กินเยอะ ๆ น่ะดีแล้ว”กองท
สองสามีภรรยากดจูบดูดสลับลิ้นร้อนด้วยความร้อนแรงจนแทบขาดอากาศหายใจ ก่อนที่กองทัพจะดึงชุดนอนที่บางเสียจนแทบจะปิดสัดส่วนที่อวบอิ่มของเจ้าขาเอาไว้ไม่มิดออก ชุดนอนตัวบางที่ราคาแสนแพงฉีกขาดจนแทบไม่เหลือเค้าชุดสวยของพี่เอมมี่ ที่เอ่ยปากชมการออกแบบของชุดว่าสวยมาก ก่อนที่กองทัพจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเมื่อเจ้าขาตอบสนองเขาอย่างร้อนแรงเสียจนเขาแทบอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวแฮ่ก แฮ่ก แฮ่กเจ้าขาหอบหายใจเอาเอาอากาศเข้าปอด เมื่อลมหายใจของเธอถูกกองทัพช่วงชิงไปจนเธอแทบขาดอากาศหายใจ ยังดีที่สามียังปรานีจึงได้รีบถอนจูบออก ไม่อย่างนั้นคนที่เต็มไปด้วยความต้องการสามีแบบเธอมีทุบคนตรงหน้าจนกระอักอย่างแน่นอน“พี่ทัพอะ ชุดสวยของเจ้าขาขาดหมดแล้ว”เจ้าขาเงยหน้าขึ้นบอกสามีด้วยน้ำเสียงที่แกล้งงอน ๆ ก่อนที่กองทัพจะยิ้มอย่างรู้ทันว่าเจ้าขาไม่ได้นึกเสียดายชุดสวยเลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ติดว่าเมียของเขาจะเขินคงกระชากชุดตัวเองออก ก่อนที่เขาจะกระชากเสียอีก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ความใหญ่โตที่แข็งกร้าวอยู่ภายใต้ชุดนอนก็รู้สึกปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว กับไฟปรารถนาที่กำลังลามเลียแผดเผาเขากับเจ้าขาอยู่“ขาดก็ซื้อใหม่ได้ค่ะ ผัวเจ้าขารวยมา
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป