เพียะ“โอ๊ย เมียจ๋าตีผัวทำไมเนี่ย”“ก็แล้วไปถีบเขาทำไมคะพี่ทัพ นั่นน่ะกายเพื่อนของเจ้าขาเอง”เจ้าขาฟาดมือลงบนต้นแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างแรง พร้อมกับดุกองทัพที่หน้าจ๋อยลงในทันที เมื่อรู้ว่าผู้ชายที่ตัวเองเพิ่งถีบตกน้ำไปคือเพื่อนของเมียจ๋า ก่อนที่จะกายจะว่ายเข้ามาที่ริมสระน้ำเจ้าขามองกองทัพด้วยสายตากดดัน ทำให้เขาจำต้องยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อดึงเพื่อนของเจ้าขาให้ขึ้นมาบนฝั่ง ท่ามกลางสายตาที่กระเง้ากระงอดเขาของกาย แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อกองทัพไม่ทันตั้งตัวกายเพียงกระตุกแขนเล็กน้อยร่างของกองทัพก็ลอยละลิ่วลงสู่ผืนน้ำตู้มมมมม!!!!“ฮิ้ว ก็ลงมาเล่นน้ำด้วยกันไปเลยสิคะคุณหมอขา คิก ๆ คุณหมอจะหึงใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กายคนนี้ค่ะ”กายปรบมือโห่ร้องด้วยความถูกอกถูกใจที่ได้เอาคืนแฟนเพื่อนที่ผุดขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับสะบัดผมไปมา แต่ท่าทางที่สุดแสนจะเซ็กซี่ของเขาทำเอากายถึงกับมองด้วยสายตาที่ตกตะลึงรวมไปถึงสาว ๆ ในกองด้วย เมื่อเสื้อผ้าเปียกแนบลู่ไปกับร่างกาย ก็เผยให้เห็นมัดกล้ามที่แน่นเป็นมัด ๆ รวมไปถึงหน้าท้องที่โชว์ซิกซ์แพ็กลอนสวยช่างน่าลูบไล้เสียจริง“ว้าว เจ้าขาผัวเธอโคตรน่ากินอะ
หลังจากที่นิตยสารวางขายกระแสความนิยมในตัวของเจ้าขาก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมทุกคนต่างพากันยินดีกับชีวิตของเจ้าขาที่กำลังจะมีสมาชิกครอบครัวเพิ่มและต่างอวยพรให้เธอมีความสุข อีกทั้งความหล่อของกองทัพก็ทำให้เจ้าขามีแฟนคลับเพิ่มขึ้นไม่น้อยรวมไปถึงกองทัพด้วยที่ก็มีกลุ่มแฟนคลับที่เมื่อได้เห็นคุณหมอหนุ่มที่โรงพยาบาล ต่างก็พากันวิ่งเข้ามาขอถ่ายรูปหรือขอลายเซ็น แต่กองทัพกับกล่าวขอโทษอย่างสุภาพ เพราะกำลังอยู่ในเวลางานที่ทุกนาทีมีค่า ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าเมียหายกองทัพก็พร้อมที่จะโดดงานได้ทุกเมื่อ โดยที่กองทัพไม่รู้เลยว่า เมียคนสวยกำลังจะถูกขโมยตัวหายไปในอีกไม่ช้า ด้วยฝีมือของใครบางคนที่แสบจนเขาต้องยอม“ตั้งใจทำงานนะคะ”เจ้าขาเดินมาส่งกองทัพที่หน้าประตูก่อนที่จะกระโดดหอมแก้มว่าที่คุณพ่อฟอดใหญ่ทำเอากองทัพถึงกับยิ้มหน้าบานที่เจ้าขาหอมแก้มเขาทุกวันก่อนไปทำงาน ก่อนที่กองทัพจะรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ ๆ อย่างแนบชิดแล้วจุ๊บที่ปากนุ่มหนัก ๆ อย่างชื่นใจ“เย็นนี้เจอกันค่ะ พี่ทัพจะรีบกลับมาทำกับข้าวให้เจ้าขากับลูกกินนะคะทูนหัว”กองทัพบอกเจ้าขาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะยื่นกระเป๋าทำงานส่งให้ลูกน้องและเดินจากไปโดยที่ไม่ลืมหัน
ร้านอาหาร“พอทานได้ไหมจ๊ะหนูเจ้าขา”แก้มใสถามเจ้าขาที่ตักอาหารตรงหน้าทานด้วยความเอร็ดอร่อยโดยไร้เสียงพูดคุย เพราะเธอกำลังเพลิดกับรสชาติของอาหารที่อร่อยเสียจนเธออยากจะฟาดให้เรียบ ก่อนที่เจ้าขาจะเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ป้าแก้มใสที่มองเด็กสาวด้วยความเอ็นดู ด้วยรู้สึกว่าเจ้าขาจะอร่อยเสียจนข้าวติดแก้ม“ดูจากหลักฐานที่ข้างแก้มก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าอร่อยหรือไม่อร่อย”นับดาวแซวว่าที่ลูกสะใภ้ยิ้ม ๆ ก่อนที่จะหยิบเม็ดข้าวที่ข้างแก้มออกให้อย่างอ่อนโยน ทำเอาเจ้าขายิ้มจนตาหยีด้วยความเขินที่กินข้าวเที่ยงด้วยความเอร็ดอร่อยจนแลดูเหมือนตะกละไม่ทันระวังจนข้าวติดแก้ม ก่อนที่นับดาวจะตักกับข้าวมาใส่จานให้เจ้าขาอีก“ถ้าอร่อยก็ทานเยอะ ๆ นะจ๊ะ หลานออกมาจะได้แข็งแรง”นับดาวบอกเจ้าขาด้วยรอยยิ้มก่อนที่เจ้าขาจะยิ้มน้อย ๆ แล้วลงมือทานอาหารตรงหน้าด้วยความเอร็ดอร่อย โดยที่แก้มใสและนับดาวคอยตักอาหารให้อยู่ตลอด ทำให้เจ้าขารู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากที่ครอบครัวของพี่กองทัพให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดีรวมถึงดูแลเอาใจใส่เธอราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้แต่งงานกับพี่กองทัพด้วยซ้ำ“เฮ้อ อิ่มมากท้องจะแตก”แก้มใสที่
เมื่อแก้มใสกับเจ้าขาเดินลงจากรถ กองทัพก็ปรี่เข้ามาเพื่อที่จะมาพาเจ้าขากลับคอนโดคืน มือใหญ่กำลังจะจับคว้าเข้าที่มือของเมียสุดที่รัก แต่ผู้เป็นป้ากลับดึงเจ้าขาให้มาหลบอยู่ที่ข้างหลังพร้อมยกมือขึ้นมาปัดมือของกองทัพที่สวนแก้มใสมาด้วยวิชาการต่อสู้ที่ต่างคนต่างถนัด ถึงแม้ว่าแก้มใสจะอายุมากแล้ว แต่เธอกลับรับกระบวนท่าต่อสู้ของหลานชายได้ทุกกระบวนท่าอย่างว่องไวโดยที่ไม่มีติดขัดเลยแม้แต่น้อยเพราะคุณป้าแก้มใสเรียนรู้วิชาการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก โดยที่มีบิดาอย่างกฤษฎิ์เป็นผู้ถ่ายทอดวิชานี้ให้ท่ามกลางความตกใจของเจ้าขา เมื่อเห็นผู้เป็นป้าและหลานชายออกท่าทางใช้กำลังและท่าต่อสู้ที่เธอเคยเห็นแต่ในละครทีวีหลังข่าว แต่วันนี้ทั้งคู่กลับฟาดฟันใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร แลดูจริงจังมากเพื่อหาผู้ชนะและผู้แพ้ ก่อนที่กองทัพจะเผลอแก้มใสก็ตรงเข้าล็อกคอเอาไว้อย่างรวดเร็วด้วยความสะใจทันที“โอ๊ย ป้าแก้มพี่ทัพเจ็บนะ”กองทัพร้องขึ้นเสียงดังเป็นเชิงบอกให้แก้มใสปล่อยพร้อมกับตบมือลงไปเบา ๆ ที่แขนของแก้มใส ก่อนที่คุณป้าสุดเฟียร์สจะยอมปล่อยหลานชายให้เป็นอิสระในที่สุด ซึ่งทันทีที่หลุดพ้นจากการถูกล็อกคอกองทัพก็เดินเข้าไปเจ้าขา
หลังจากที่กองทัพไปทำงานแล้วนับดาวก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์ของแก้มใสพอดี เพราะวันนี้เธอมีนัดสอนเจ้าขาทำอาหารที่ล้วนแต่เป็นของโปรดของกองทัพ โดยที่แก้มใสได้จัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบเอาไว้ให้นับดาวเรียบร้อยแล้ว“ลูกชายของแม่เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย บางครั้งนะแค่ข้าวผัดไข่ธรรมดา ๆ กับไข่เจียวหรือไข่ดาวพี่ทัพก็อิ่มท้องแล้ว เมนูง่าย ๆ แบบนั้นเจ้าขาทำเป็นใช่ไหมลูก”นับดาวหันมาถามเจ้าขาที่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะจัดเตรียมวัตถุดิบทำอาหารไปด้วย ซึ่งเมนูในวันนี้เธอเลือกมาแต่ของโปรดลูกชายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง น้ำพริกลงเรือ แกงเขียวหวาน เนื้อเค็มต้มกะทิ และแกงรัญจวน ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่คุณยายปรานีชอบทำให้กองทัพกินตั้งแต่เด็ก เขาจึงชอบมากและมักจะทำทานเองอยู่เสมอในวันที่ว่าง“อาหารง่าย ๆ ที่ขั้นตอนไม่ค่อยยุ่งยากนับก็พอจะทำเป็นอยู่ค่ะคุณแม่ อย่างไข่ลูกเขย ผัดกะเพรา หมูทอดกระเทียม แต่ถ้าเป็นอาหารที่ต้องใช้เครื่องปรุงเยอะนับไม่ค่อยถนัดเลยค่ะ”เจ้าขาบอกนับดาวที่เริ่มลงมือหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว โดยที่มีเจ้าขาคอยเป็นลูกมือ ส่วนพวกเนื้อก็ให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านที่มาช่วยหั่นเตรียมเอาไว้ให้ เพราะเจ้าขากำล
ชุดนอนผ้าลื่นที่เจ้าขาสวมอยู่ถูกดึงทีเดียวก็ร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกองทัพที่กวาดสายตามองร่างบางที่อวบอิ่ม เพราะกำลังตั้งครรภ์ด้วยความหื่นกระหายในรสสัมผัส ผิวของเจ้าขาเนียนละเอียดนุ่มมือชวนให้น่าลูบไล้ จากการที่เธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เขาจึงไม่แปลกใจเลยที่ใคร ๆ ต่างก็ชมเจ้าขาว่าเป็นนักแสดงที่ผิวสวยมากและเมื่อได้มาสัมผัสก็ยิ่งทำให้เขาหลงใหลในตัวเธออย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนรู้สึกอยากขอบคุณความใจกล้าของเจ้าขาที่เดินตามเขามาในวันนั้นจนทำให้เขาและเธอมีกันในวันนี้รักครั้งแรกของเขาในวัยเยาว์ ก็คือรักครั้งสุดท้ายของเขาในวันนี้“พี่ทัพคิดถึงเจ้าขามาก ๆ เลยค่ะ”ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงซุกไซ้ไปที่ซอกคอหอมกรุ่นทำเอาเจ้าขาหลับตาพริ้มพร้อมกับยกมือขึ้นมากอดกองทัพเอาไว้หลวม ๆ เมื่อพี่ทัพของเธอเริ่มบรรเลงเพลงรักที่เธอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายเลยว่าเธอเองก็โหยหาเขาไม่น้อยเช่นกัน ทุกสัมผัสของกองทัพยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอเสมอ เธอรู้สึกโหยหาเขาทุกครั้งที่ต้องห่างกัน นี่เธอไม่ได้หื่นนะทุกคนแต่คุณหมอบอกว่ามันเป็นอาการปกติสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์“อ๊ะ”เจ้าขาร้องอุทานขึ้
หลังจากวันนั้นกองทัพก็แวะเวียนมาทานมื้อเช้าและมื้อเย็นกับเจ้าขาทุกวัน เพราะเขาทนคิดถึงเธอไม่ไหวทำให้ต้องเสนอหน้ามาให้ป้าแก้มใสด่าทุกวันเป็นว่าเล่น ทำเอาบ้านที่ไม่เคยสงบสุขอยู่แล้วยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่ จากการต่อปากต่อคำของแก้มใสกับหลานชายที่ปากแซ่บไม่เคยแผ่ว ซึ่งบางวันทั้งคู่ก็แค่พูดโต้กันไปโต้กันมา แต่บางวันแก้มใสก็วิ่งไล่ตีหลานชายราวกับหลงลืมอายุของตัวเอง ทำเอาวายุที่ได้แต่นั่งมองเมียกับหลานตีกันถึงกับกุมขมับไม่เว้นแต่ละวัน ยกเว้นเจ้าขาที่นั่งมองดูพี่กองทัพกับป้าแก้มไล่ตีกันด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข และในที่สุดวันที่กองทัพรอคอยก็มาถึง วันที่เขากับเจ้าขากำลังจะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ขบวนเจ้าบ่าวกำลังเคลื่อนมาที่หน้าโรงแรมที่ใช้จัดงาน ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของตระกูลพิสิฐกุลวัตรดิลกนั่นเองขบวนเจ้าบ่าวนำทีมโดยกฤษฎิ์กับที่รักที่เดินนำหน้าขบวนเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเงินประตูทองด่านแรก ตามมาด้วยคุณปู่เรย์และคุณย่าพลอยไพลินที่บินมาจากอิตาลี เพื่อมาร่วมงานแต่งของกองทัพหลานชายที่เรย์รักมากไม่ต่างจากเก้าทัพผู้เป็นพ่อ ส่วนเก้าทัพกับนับดาวแล้วก็แก้มใสก็เด
พิธีรดน้ำสังข์ผ่านไปเรื่อย ๆ เจ้าขาเฝ้ารอใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ แต่ผ่านไปคนแล้วคนเล่าคนที่เธอรอคอยก็ยังไม่มาสักที ใบหน้าสวยหวานที่ยิ้มแย้มรับคำอวยพรในครั้งแรกพลันเศร้าหมองลง เมื่อถึงคนสุดท้ายแล้ว แต่กลับไร้วี่แววของ จันทร์กนก มารดาของเธอ แม้จะรู้อยู่ลึก ๆ ว่ามารดาไม่ได้รับปากว่าจะมางานแต่ง เพราะตั้งแต่ที่มารดากับบิดาของเธอแยกทางกัน มารดาก็ไม่เคยกลับมาเหยียบที่เมืองไทยอีกเลยเหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะบิดากับมารดาของเธอจบกันด้วยไม่ดี เลยทำให้มารดาลั่นวาจาว่าจะไม่ขอกลับมาที่เมืองไทยและจะไม่มาให้บิดาเห็นหน้าอีก คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาเจ้ากรรมก็พาลไหลออกมาดื้อ ๆ จนกองทัพที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องรีบขยับเข้ามากอดปลอบเจ้าขาด้วยความห่วงใยก่อนที่เสียงฝีเท้าของใครบางคนจะเดินขึ้นมาบนเวทีตึก ตึก ตึกจันทร์กนกที่อยู่ในชุดราตรีสีแดงและสวมแว่นตาดำปกปิดใบหน้าเดินขึ้นเวทีมาท่ามกลางสายตาแปลกใจของใครหลาย ๆ คนที่มองมาอย่างให้ความสนใจ เพราะแขกคนสุดท้ายที่รดน้ำสังข์อวยพรคู่บ่าวสาวได้เดินลงมาจากเวทีนาน แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกลับยังนั่งอยู่ที่เดิมราวกับกำลังรอคอยใครบางคน“ร้องไห้ทำไมกันคะลูกสาวคนสวยของแม่”จันทร์กนกท้วง