เอสเทล
"ยายขา ชุดนักศึกษาของเอสเป็นยังไงบ้างคะ"
ฉันใส่ชุดนักศึกษาก่อนจะรีบวิ่งมาถามยายของตัวเองที่นั่งอยู่กลางบ้าน ฉันชื่อเอสเทลค่ะ ซึ่งชื่อนี้คุณหมอเป็นคนตั้งให้ ฉันอายุสิบแปดย่างสิบเก้าปีและฉันเองก็กำลังจะเข้าเรียนมหาลัยแล้วนะ
"หลานยายโตเป็นสาวแล้วสินะ"ยายพูดแล้วยิ้มให้ฉัน
"เอสได้ทุนเรียนฟรีด้วยนะคะ"
ฉันรีบเดินเข้ามากอดก่อนจะยายไป ฉันได้ทุนเรียนฟรีตั้งแต่ประถมแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีมากเพราะมันประหยัดค่าใช้จ่ายของฉันตั้งเยอะ
"ตั้งใจเรียนนะลูก"
"ต่อไปถ้าเอสเรียนจบยายไม่ต้องทำขนมแล้วนะคะ เดี๋ยวเอสจะทำงานเลี้ยงยายเอง"
ฉันอยู่กับยายแค่สองคนค่ะ แม่ของฉันเสียไปตั้งแต่ฉันได้อายุสองขวบ ส่วนพ่อเขาทิ้งฉันไปตั้งแต่ฉันยังไม่เกิดเลย ชีวิตของฉันมีแค่ยาย และยายเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ฉัน ฉันไม่เคยน้อยใจเลยนะที่ชีวิตของฉันเป็นแบบนี้ถึงใครจะว่าฉันเป็นลูกไม่มีพ่อมีแม่ก็ตาม
"เอสรักยายนะคะ ฟอด"
ยายของฉันเป็นผู้หญิงที่เก่งมากถึงมากที่สุดท่านเลี้ยงฉันคนเดียวตั้งแต่แม่เสียไป ยายของฉันทำขนมไทยส่งโรงแรม ถึงรายได้มันจะไม่มากมายแต่มันก็ทำให้ฉันกับยายไม่ลำบาก
"พรุ่งนี้อย่าลืมไปบอกแม่เขาด้วยนะเอส ยายว่าแม่เขาคงดีใจ"ยายบอกฉัน
ฉันไปหาแม่เกือบทุกวันเลยนะ ฉันชอบไปนั่งแล้วเล่าว่าวันนี้ฉันเจออะไรมาบ้าง ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าท่านจะรับรู้หรือเปล่าแต่ฉันสบายใจเวลาได้เล่าเรื่องที่ฉันเจอมาให้แม่ฟัง
"ทำขนมช่วยยายเสร็จก่อนเอสค่อยไปค่ะ"
ยายของฉันอายุก็มากแล้วแต่ยายยังแข็งแรงอยู่เลยนะ ตื่นมาเตรียมของทำขนมตั้งแต่ตีสี่ส่วนฉันเองก็มีหน้าที่เป็นลูกมือคอยช่วยและฉันไม่เคยเหนื่อยที่จะทำมันเลย
"ยายขา พรุ่งนี้เอสจะไปเอาของที่เรียนพิเศษอาจจะกลับช้าหน่อยนะคะ"
"ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างก็ได้ลูก อยู่แต่กับยายไม่เบื่อบ้างหรือไง"
"เดี๋ยวพรุ่งนี้เอสพาเพื่อนมาที่บ้านดีกว่าค่ะ"
ฉันบอกยายไป เพราะเพื่อนฉันชอบมากินขนมที่บ้านฉันมากกว่า และเวลาเพื่อนฉันมาที่บ้านนะยายจะชอบทำกับข้าวและขนมไว้รอเยอะมากเพราะแบบนี้แหละเพื่อนฉันถึงได้ชอบมากัน
.
.
"แม่ขาเอสเข้ามหาลัยแล้วนะคะ เอสโตแล้วนะ"
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งคุยกับแม่อยู่ที่วัด แม่ของฉันเป็นคนสวยมาก แต่เพราะโรคร้ายมันทำให้เราสองคนต้องจากกันตลอดกาล
"ลูกสาวของแม่คนนี้จะเป็นเด็กดีจะตั้งใจเรียน และจะไม่ทำให้ยายต้องปวดหัวหรือหนักใจเลย แม่เป็นกำลังใจให้เอสด้วยนะคะ"
หลังจากที่ฉันคุยกับแม่เสร็จฉันก็รีบนั่งรถมาที่โรงเรียนพิเศษเพื่อมาเอาหนังสือที่ลืมไว้ และฉันเองก็นัดกับเพื่อนไว้ว่าจะพาไปกินขนมที่บ้าน
"เอสเทล บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าวิ่ง"ฉันมองคนที่ยืนดุฉันก่อนจะยิ้มให้
"ไปกันดีกว่าหิวขนมของคุณยายจะแย่ เราซื้อเสื้อไปฝากยายด้วยนะ"ฉันมองเพื่อนตัวเองที่ชูถุงเสื้อให้ดู
"เห็นแก่กิน"
"ใครเรียกเขามาอ่ะเอส"องศาเพื่อนรักของฉันถาม
"ตังเมเพื่อนรักขององศาเอง ก็เจอจอมพลนั่งอยู่เลยชวนไง"
"เอสกับตังเมไปกับเราก็ได้ ส่วนไอ้คนที่ถามเราเมื่อกี้รบกวนเดิน"จอมพลพูดเสียงดุก่อนจะเดินไปที่รถ
ฉันกับเพื่อนรักอีกสองคนรู้จักกันตั้งแต่เรียนประถมและก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาจนทุกวันนี้ ส่วนจอมพลเรามาสนิทกันตอนเรียนพิเศษ เพราะจอมพลเรียนโรงเรียนอินเตอร์และจอมพลก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันรองต่างองศากับตังเม
"เอสรับสายให้เราหน่อย"จอมพลบอแล้วยื่นมือถือให้ฉัน
"แล้วจะให้เอสบอกว่าอะไร"
"บอกว่าไม่อยากคุย เลิกโทรหาได้แล้ว"
ฉันมองมือถือที่มันดังอยู่ชื่อคีตะแล้วทำไมจอมพลถึงไม่อยากคุยด้วยอ่ะ เขานิสัยไม่ดีใช่มั้ย
ครืด ครืด
(ถ้าวันนี้มึงยังไม่โผล่หัวมานะจอมพล)
"สวัสดีค่ะ"
(ใคร แล้วมารับสายของน้องชายฉันได้ยังไง)
"พอดีจอมพลขับรถอยู่ค่ะ"
(ฉันไม่อยากรู้ว่ามันทำอะไรอยู่)
"จอมพลให้บอกคุณว่าไม่อยากคุยแล้วก็ไม่ต้องโทรหาแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ต้องพูดแบบนี้"
ฉันพูดจบก็ตัดสายทันที คนอะไรแค่เสียงยังดุจนน่ากลัว
"พี่ชายเราเองไม่มีอะไรหรอก"จอมพลรีบบอกฉัน
"เอสจำได้ว่าจอมพลมีพี่สาวคือพี่เจ้าขาไม่ใช่หรอ"
ฉันถามคนที่ขับรถอยู่เพราะพี่เจ้าขาเองฉันก็รู้จัก ส่วนคนที่ชื่อคีตะฉันพึ่งเคยได้ยินชื่ออีกอย่างจอมพลไม่เคยพูดถึงเขาเลย
"พ่อแม่เราเป็นเพื่อนกันน่ะก็เลยสนิทกัน ช่างเขาเถอะเดี๋ยวกลับไปค่อยคุย"
หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว จอมพลขับรถไม่นานก็มาถึงบ้านของฉันแล้ว และรถยังไม่ทันจะดับเครื่องเลยเพื่อนรักของฉันสองคนก็รีบวิ่งลงจากรถทันที
"สวัสดีครับคุณยาย"จอมพลเข้าไปกอดยายของฉันจนโดนองศามองอย่างเอาเรื่อง
"ยายทำกับข้าวและขนมไว้ให้แล้วนะลูก"
ยายฉันน่ะรักจอมพลมากเลยนะ เพราะแบบนี้ไงถึงได้ทะเลาะกับองศาบ่อย จอมพลเป็นคนพูดน้อยกับคนอื่นนะแต่กับฉันจอมพลพูดเยอะมาก
"ยายขาหนูซื้อเสื้อมาให้ด้วยนะคะ ยายต้องชอบแน่นเลย"
ฉันนั่งมองเพื่อนรักตัวเองที่กินขนมพรางคุยกับยายไปด้วย ยายไม่เคยเหงาเลยถ้าเพื่อนฉันมาที่บ้าน
"เอสฝากอันนี้ไปให้คุณอาด้วยนะ ฝากสวัสดีท่านด้วย"
ฉันเคยเจอคุณพ่อกับคุณแม่ของจอมพลและพวกท่านใจดีกับฉันมาก เวลาจอมพลมาที่บ้านยายฉันจะชอบฝากขนมไปให้
"เอสขนมอันนั้นเราขอซื้อได้มั้ยอ่ะ"จอมพลชี้ขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ
"ไม่ต้องซื้อหรอกยายทำไว้ให้เอสกินน่ะ เดี๋ยวเอสแบ่งให้นะ"ฉันบอกพรางเดินไปหยิบจานขนม
"เราจะเอาไปให้คนที่โทรหาเราน่ะเขาชอบกิน เราหาซื้อแล้วไม่ค่อยมีใครทำ"
กึก...ฉันหยุดก่อนจะหันมองจอมพลที่พูดอยู่ ยังมีคนชอบกินขนมพระพายเหมือนฉันอยู่อีกหรอเนี่ย ปกติยายก็ไม่ทำหรอกแต่เพราะฉันบ่นอยากกินยายก็เลยทำให้
"เอสชักอยากจะเจอหน้าพี่ชายจอมพลแล้วสิ"ฉันหันไปถามจอมพล
"อย่าเจอเลยเพราะถ้าเจอเอสจะอยู่ไม่เป็นสุข"
คีตะ"ทะเลาะอะไรกับน้องอีกล่ะเรา ไม่เบื่อบ้างหรือไงกันกับเจ้าขาก็อีกคน"ตอนนี้ผมกำลังหัวเสียกับไอ้จอมพลเพราะมันไม่รับสายผม แถมยังให้ผู้หญิงที่ไหนมารับสายแทนด้วยไง นี่ถ้าผมกำลังจะตายผมคงพึ่งมันไม่ได้เถอะ"มันผิดนัดตะอ่ะแม่ สองรอบแล้วนะ"ผมบอกแม่ไป ทั้งที่มันเป็นคนนัดผมจะไปดูคอมเล่นเกมส์ซึ่งผมก็รอจนอยากจะฆ่ามันตายอยู่แล้ว และที่สำคัญผมไม่ชอบคนที่พูดแล้วไม่เป็นคำพูด"น้องมีธุระด่วนหรือเปล่า""มันอยู่กับผู้หญิงครับนั่นแหละธุระของมัน ทั้งที่มันนัดตะแล้วนะแม่"ผมบอกแม่ไปครืด ครืดผมหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะดูชื่อที่โชว์อยู่ ตายยากก็มันนี่แหละ"ถ้าคำตอบไม่ประทับใจ กูฆ่ามึงแน่ไอ้จอมพล"(อยู่ข้างล่างลงมาดิ)ผมเดินลงมาข้างล่างแล้วมองน้องชายตัวเองที่นั่งเล่นมือถืออยู่ก่อนที่มันจะหันมามองผมแล้วยิ้มให้ นี่ถ้าไม่ใช่น้องของเจ้าขานะผมจะสั่งคนมาเก็บมันสะ"อ่ะของฝาก และหวังว่าจะไม่โกรธเรื่องที่น้องคนนี้ผิดนัดนะครับ"ไอ้จอมพลยื่นถุงให้ผม"ใครรับสายแทนมึง"ผมถาม"คนที่แบ่งขนมมาให้ และเป็นเพื่อนของผมเอง น่ารัก นิสัยดีมาก"ผมเปิดกล่องแล้วมองขนมที่อยู่ด้านในก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้จอมพลที่นั่งอยู่ข้างๆ ขนมอันนี้ไม่
คีตะผมยืนมองเด็กผู้หญิงที่ชนผมและกำลังวิ่งไปอีกฝั่งของถนน เสียงของเธอเมื่อกี้เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแต่ผมคิดไม่ออก"มองอะไรลูก"ผมหันไปมองแม่ตัวเองที่เดินเข้ามาถาม"มีคนวิ่งมาชนตะครับ"ผมบอกไปตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในรถแต่ยังไม่ได้ขยับไปไหนหรอก เพราะผมยังสงสัยเสียงของผู้หญิงคนเมื่อกี้อยู่ ทำไมผมเป็นคนขี้ลืมได้ขนาดนี้กัน"ใจเต้นแรงไปแล้วคีตะ เป็นอะไรหรือเปล่าลูก"แม่ผมพูดขึ้น"เต้นแรงหรอครับ"ใจผมเต้นแรงอย่างที่แม่ผมบอก"จะทะลุออกมาข้างนอกแล้วลูก"แม่ผมบอกแล้วยิ้มให้"เพราะตะยังไม่ได้นอนครับคุณน้อยหน่า"ผมรีบบอกไป"แม่ก็นึกว่าเพราะเด็กผู้หญิงคนนั้นสะอีก"แม่ผมเอ่ยแซว"ตะจะใจเต้นแรงเพราะเธอได้ยังไงกัน เธอเป็นใครตะก็ยังไม่รู้จักเลย"ผมบอกไปผมขับรถกลับบ้านเพราะตอนนี้ผมอยากจะนอนมาก คือไม่น่ารับปากแม่ว่าจะไปวัดด้วยเลย ทันทีที่ผมถึงบ้านผมก็รีบเดินเข้าห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอนครืด ครืด"กูจะนอนไอ้จอมพล"ผมตะคอกใส่ปลายสาย(แค่จะถามว่าจะกินอีกมั้ยขนม จะเอาไปฝาก)ผมดีดตัวขึ้นมานั่งเมื่อเป็นไอ้จอมพลที่โทรมาแต่สิ่งที่ผมสนใจคือคำถามที่มันถามผม ผมล่ะอยากเห็นหน้าคนที่มันตามจีบอยู่จริงๆ(จะเอาหรือไม่เอา)
คีตะเมื่อเช้าเธอเดินชนผมเมื่อเช้า แต่ตอนนี้เธอกลับมาถามผมว่าเคยเจอกันมาก่อนคืออะไรวะ สมองเสื่อมใช่มั้ยถึงได้ถามผมแบบนี้ให้ตายเถอะ นอกจากผมจะอารมณ์เสียกับไอ้จอมพลแล้วผมยังมาอารมณ์เสียกับคนที่ยืนตรงหน้าผมอีก"ขอโทษค่ะที่เสียมารยาท ทานขนมให้อร่อยนะคะ"เธอรีบบอกผมก่อนจะเลื่อนจานขนมให้ผม"เดี๋ยว""คะ...คุณเรียกฉันหรอคะ"ผมหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจ"ขนมนี่ที่ร้านทำเองหรอครับ"ผมถามเพราะขนมที่อยู่ตรงหน้าผมมันเป็นขนมที่ผมชอบกินไง"ขนมอันนี้ฉันทำเองค่ะ และที่ร้านไม่ได้มีขาย"เธอบอกผมก่อนจะยิ้มให้ทำเองอย่างนั้นหรออายุน่าจะรุ่นเดียวกับจอมพลไม่น่าเชื่อว่าจะทำขนมไทยโบราณแบบนี้เป็น ผมหยิบขนมขึ้นมาก่อนจะชิมและรสชาติมันเป็นรสชาติเดียวกันกับที่ผมกินเมื่อวาน"ทำเอง"ผมถาม"ใช่ค่ะขนมพระพายฉันทำเอง ส่วนอย่างอื่นคุณยายฉันเป็นคนทำค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ"เธอพูดเสร็จก็เดินลงไปชั้นล่างโดยที่ไม่รอให้ผมถามต่อ ผู้หญิงของไอ้จอมพลสินะถ้าผมเดาไม่ผิด หลังจากที่กินขนมหมดผมก็เดินลงมาด้านล่างเพราะตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว"ขอบคุณสำหรับขนม อร่อยมากครับ"ผมเดินมาบอกเจ้าของร้าน"มีแค่วันนี้แหละค่ะ เพราะคนทำไม่ค่อยได้มา"พี่เจ
คีตะ"พ่อไม่เคยเห็นแกยิ้มแบบนี้เลยนะคีตะ"พ่อผมถาม"ก็แค่แกล้งคนแล้วมันสนุกดีเท่านั้นเองครับ"ผมบอกไปผมโทรหายัยเด็กซื่อบื้อและที่ผมถาม ผมก็แค่อยากลองใจเธอดูว่าเธอซื่อจริงเหมือนที่ไอ้จอมพลบอกผมหรือเปล่า ถามว่าผมเชื่อมั้ยไม่รู้สิผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่เท่าที่ผมเห็นยัยเด็กนี่ไม่น่าเกิดมาเลย"พ่อชักอยากจะเห็นหน้าคนที่แกกำลังแกล้งแล้วสิ"พ่อผมถามก่อนจะมองหน้าอย่างจับผิด"งั้นๆ ครับ""ไม่งั้นแล้วมั้งพ่อว่า คนนั้นต้องมีอะไรพิเศษแน่ ถึงทำให้คนอย่างคีตะยิ้มได้แบบนี้"เนี่ยแล้วพ่อก็เป็นสะแบบนี้อ่ะ"เพื่อนของจอมพลครับ"ผมบอกไปตามตรง"อย่าให้มันมากเกินไปเพราะยังไงน้องก็เป็นผู้หญิง แกล้งไปแกล้งมาระวังจะตกหลุมรักน้องเข้าล่ะ"ตกหลุมรักยัยเด็กซื่อบื้อเนี่ยนะฝันไปเถอะ"เธอไม่มีอะไรที่เหมือนแม่เลยสักนิด"ผมบอกไป"ไม่มีใครเหมือนกันหมดหรอกนะคีตะ ทุกคนมีข้อดีข้อเสียกันทั้งนั้น ถ้าแกตั้งสเปคผู้หญิงที่จะเข้ามาว่าต้องเหมือนแม่ แล้วรู้หรือเปล่าว่าเวลาแม่โกรธมันน่ากลัวขนาดไหน"พ่อผมถามพรางชี้ไปในครัวผมไม่รู้หรอกนะว่าเวลาแม่โกรธเป็นยังไง เพราะคุณน้อยหน่าที่ผมเห็นคือเป็นผู้หญิงที่มีแต่รอยยิ้มแสนดีแถมยังฉลาดซึ่งต
คีตะ"หายโกรธหรือยัง"ผมถามคนที่ยืนยิ้มอยู่ คือแม่งนอกจากซื่อบื้อแล้วยังต่อปากต่อคำเก่งอีก มีอย่างที่ไหนบอกวิธีง้อตัวเองให้คนอื่นรู้ เพราะแบบนี้สินะเธอถึงได้ไม่เคยโกรธคนอื่นเลย"หายแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"เธอบอกผม"จะไปไหนไปขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง"ผมรีบจับสายเป้ก่อนจะลากเธอมานั่งที่รถ"ขอบคุณค่ะที่จะไปส่ง ว่าแต่คุณคีตะผิดนัดทำไมคะ ถ้าไม่ว่างก็ควรจะโทรบอกฉันหน่อยก็ได้เบอร์ฉันคุณคีตะก็มี"นี่ถ้าผมตอบไปคิดว่ายัยเด็กนี่จะทำยังทำขนมให้ผมกินมั้ยวะ"ขอโทษ พอดีเล่นเกมส์เพลินไปหน่อย"ผมบอกไป"ไม่เป็นไรค่ะ คุณคีตะง้อฉันแล้วฉันไม่โกรธแล้วค่ะ ส่วนขนมฉันจะทำให้กินนะคะ"ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่าเธอไม่น่าเกิดมาเลยอ่ะคือคนอะไรแม่งซื่อเกิน มิน่าไอ้จอมพลถึงได้หวงนักหวงหนา"วันหยุดค่อยทำ พรุ่งนี้ต้องทำกิจกรรมอีก"ผมบอกไป"ก็ได้ค่ะ ถ้าทำเสร็จเดี๋ยวฉันโทรบอกนะคะ"หลังจากนั้นผมก็ขับรถมาส่งยัยเด็กซื่อบื้อ และตลอดทางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็เอาแต่มองออกนอกรถแล้วยิ้ม ผมล่ะอยากรู้จริงๆ เลยว่าเธอเคยโมโหหรือโกรธใครเป็นบ้างหรือเปล่า"ถามจริงนะ เคยโกรธหรือโมโหใครคนเป็นมั้ย"ผมถาม"เคยค่ะโกรธและโมโหมากเลยจนอ
คีตะให้ตายเถอะแม่ง นี่ถ้าผมไม่เจอเพื่อนรักของยัยเด็กซื่อบื้อเที่ยงคืนเธอก็คงไม่ได้กลับบ้านหรอก และผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะเอาเอกสารอะไรไปให้อาจารย์ในเมื่อเธอยังไม่ได้เข้าเรียนเลยสักคาบ"เอสเทลไปทำอะไรที่ตึกห้าวะ อีกไม่ถึงสิบนาทีประตูก็จะปิดแล้ว"ไอ้หมอกหันมาบอกผม(อยู่ตรงนั้นเดี๋ยวฉันไปหา ห้ามเดินไปไหนเด็ดขาด) ผมพูดเสียงดุก่อนจะวิ่งไปที่อาคาร"ดะ..ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไฟกำลังดับจะหมดแล้วนะคะ"(อย่าวางสายเข้าใจมั้ย)"ชั้นไหนวะ ตึกห้าแม่งใหญ่จะตายห่า"ไอ้คิมถามผม"เป็นห่วงเป็นใย"ไอ้หมอกเอ่ยแซวผม"ปกติไอ้จอมพลไม่ค่อยปล่อยน้องมัน แล้ววันนี้มันไปไหน""ไปรับเจ้าขา"ผมบอกเพื่อนไปผมกับเพื่อนรีบวิ่งมาที่ตึกห้าก่อนจะแยกย้ายกันไปตามหา ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ชั้นไหน อย่าให้เจอนะจะด่าให้หายโง่เลยคอยดู(อยู่ตรงไหน) ผมถามคนที่อยู่ในสาย"ชั้นที่ห้าค่ะ"(กลัวมั้ย)"กลัวค่ะ คุณคีตะรีบมานะ"ผมวิ่งขึ้นมาชั้นที่ห้าก่อนจะมองหายัยเด็ดซื่อบื้อ ชั้นที่ห้าของเธอมันอยู่ฝั่งไหนของอาคารวะแม่ง"ฉันอยู่ชั้นที่ห้า เดินออกมาได้แล้ว"ผมบอกไปแต่เหมือนว่าจะไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ ผมมองมือถือตัวเองที่ตอนนี้สายหลุดไปแล้ว ให้ม
เอสเทล'ก็เธอไง' ฉันนั่งคิดคำพูดของคุณคีตะตั้งแต่เมื่อคืนจนมาถึงตอนนี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่เลย เธอไหนแล้วเธอคือใครกันเนี่ย และรู้มั้ยว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่คุณคีตะพูดจบหลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง พอส่งฉันเสร็จคุณคีตะก็ขับรถออกไปเลย ฉันโทรหาก็ไม่รับสายด้วย โกรธคนอื่นแล้วมาลงกับฉันมันใช่หรอเนี่ย.."ต่อไปเราคงปล่อยเอสอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว"องศาพูดเสียงดุ"นั่นดินี่มาเรียนแค่ไม่กี่วันยังโดนแกล้ง อยากจะรู้จริงๆ เลยว่าเอสไปทำอะไรให้ถึงได้ถูกแกล้งอยู่คนเดียว"ตังเมกับองศาพูดพลางจ้องหน้าฉัน ฉันโดนพี่มายแกล้งอย่างนั้นหรอ แล้วพี่เขาจะแกล้งฉันไปเพื่ออะไรกันในเมื่อเราก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว"นี่ถ้าพี่คีตะไม่ถามหาเอสเมื่อวานนะ ป่านนี้เอสยังไม่ได้ออกจากตึกเลยเถอะ""นี่ภาพที่พี่คีตะตอนทำหน้าดุโคตรจะน่ากลัวเลยอ่ะ ยังติดตาอยู่เลยเนี่ย"ตังเมหันมาบอกฉัน"คอยดูเถอะแกล้งเพื่อนกู กูจะเอาคืนให้สาสมเลย"องศากัดฟันพูดจนฉันต้องขยับหนี"ไม่ต้องถึงองศาหรอกค่ะ เพราะแค่จอมพลพวกนั้นก็รับมือไม่ไหวแล้ว"ฉันรีบหันไปเมื่อตังเมชี้จอมพลที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันและสีหน้าก็คงจะรู้เรื่องแล้ว"เอสมีอะไรเล่ามาให้หมดเลยนะ เพรา
เอสเทลฉันไม่เข้าใจคุณคีตะจริงๆ เลยนะว่าจะเอายังไงกับฉันกันแน่ เมื่อคืนนี่แทบจะกินหัวแต่พอมาวันนี้จะมาง้อฉัน วันนี้ฉันโกรธจริงๆ นะ โกรธจนแทบอยากจะฆ่าเขาเลย ฉันซื่อฉันโง่แล้วทำไมต้องว่าฉันด้วยล่ะ"งั้นเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะคะ"ฉันบอกคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่"อยากทำอะไรก็ทำเลย"แล้วดูเขาสิจะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไงกัน"เริ่มวันนี้เลยแล้วกัน"ฉันพูดเสียงดุหลังจากนั้นฉันก็เดินมารอรถกับเพื่อนรักเพื่อจะกลับบ้านโดยไม่สนใจคุณคีตะ ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นและถ้าคุณคีตะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด ฉันจะเปลี่ยนจากห้าวันเป็นหนึ่งเดือนหรือไม่เราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลย"ยังไม่หายโกรธพี่คีตะอีกหรอเอส"ตังเมถามฉัน"เขาว่าเอสนะ เขานิสัยไม่ดี"ฉันบอกเพื่อนไป"แต่อย่างน้อยเขาก็รีบไปช่วยเอสนะ"องศาบอกฉัน"เอสไม่อยากฟัง และตอนนี้เอสกำลังทำโทษคุณคีตะอยู่ ไว้ครบห้าวันเมื่อไหร่ค่อยมาคุย""งอนเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย"องศาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน"ไม่ใช่สักหน่อย คุณคีตะเขามีคนของเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเขาไม่มีวันที่จะมาชอบผู้หญิงอย่างเอสหรอก"ฉันบอกเพื่อนไปผู้หญิงอย่างฉันไม่มีใครชอบหรอก อาจจะเพราะฉันซื่อเกินไปแหละมั้งแถมยังไม่สวยอีกต่
คีตะคำถามแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีใครบอกเธอ และถ้าผมคิดไม่ผิดคงเป็นไอ้จอมพลอีกแน่ ไอ้เวรนี่แม่งจะเล่นผมให้ได้เลยเถอะ แล้วผมควรจะตอบเธอยังไงดีล่ะ แล้วถ้าผมตอบเธอไปตามตรงเธอจะเป็นยังไง"แล้วเธอคิดว่ายังไง"ผมถามเสียงดุ"ไม่ทราบค่ะ ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ได้ถ้าคุณคีตะไม่อยากตอบ"อย่างนี้ก็ได้หรอวะ"ไม่คิดจะถามกันบ้างเลยหรือไงว่าเป็นยังไงบ้าง"ผมถามคนที่เอาแต่นั่งมองนอกรถ"แล้วคุณคีตะได้ผลัดไหนคะ"แล้วแม่งดูยัยเด็กบ้านี่ถามผมดิ"ทำไมอยากให้ฉันไปขนาดนั้นเลย"ผมถามเสียงดุ"เปล่าสักหน่อยฉันไม่ได้อยากให้คุณคีตะไปไหนนะคะ ฉันอยากให้คุณคีตะอยู่ข้างฉันเพราะฉันรู้สึกปลอดภัย"คำพูดที่เธอพูดออกมาเธอคงไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่เป็นผมเองที่กำลังยิ้มอยู่ในใจ"แต่ถึงเธออยากจะให้ฉันไป แต่เสียใจด้วยนะฉันได้ใบดำ"ผมบอกไปทั้งผมและเพื่อนรักของผมได้ใบดำกันหมด พอเสร็จธุระผมก็รีบมาหาเลยเพราะตอนนี้แม่งจะค่ำแล้วด้วย ตามจริงผมจะพาเธอไปเที่ยวหัวหินแต่คงต้องไว้วันหลัง"วันนี้จอมพลบอกว่าชอบฉันค่ะ"อยู่ๆ ยัยเด็กซื่อบื้อก็หันมาพูดกับผมทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาคือจริงจัง ผมจอดรถข้างทางก่อนจะหันมองหน้าเธอ ไอ้จอมพลนี่มันจะเอายังไงของมั
คีตะ"ถืออะไรคะ แล้วจะถือทำไม"เฮ้อ...ผมได้แต่ถอนหายใจกับสิ่งที่เธอถาม ถึงผมจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนั้นแต่ก็กันไว้ก่อนไง และผมจะไม่มีทางยอมให้เธอไปด้วยเด็ดขาด อีกอย่างคือผู้ชายเยอะผมหวง"นะคะ คุณคีตะให้ฉันไปด้วยนะ ฉันสัญญาจะไม่วุ่นวายเลย"ให้ตายเถอะยัยเด็กบ้านี่จะมาอ้อนผมแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย"ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อน ยังไงก็ไม่ให้ไป รออยู่บ้านนี่แหละ"ผมพูดเสียงดุ"ก็ได้ค่ะ""เดี๋ยวพาไปเที่ยวโอเคมั้ย ถ้าเธอเชื่อฟังฉันจะรีบกลับมาพาเธอไปเที่ยว"ผมบอกไป"ไปเที่ยวหรอคะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังคุณคีตะค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะรอคุณคีตะอยู่ที่บ้านจะไม่ออกไปไหนเลย""เชื่อได้"ผมถาม"สัญญาค่ะ"เธอเกี่ยวก้อยผมแล้วยิ้มให้"แบบนี้ให้ทำแค่กับฉันคนเดียวพอนะ"ผมพูดเสียงดุ"ฉันเคยทำกับจอมพลแล้วค่ะ""ก็ต่อไปไงไม่ต้องไปทำกับใครแล้วเข้าใจมั้ย ส่วนเรื่องการบ้านไม่ต้องไอ้หมอกหรอก เดี๋ยวฉันสอนให้"ผมบอกไป"ไม่เอาอ่ะคุณคีตะดุ ฉันยังไม่อยากโดนหักคอหรอกนะ ดูสิแค่ยังไม่สอนก็ดุใส่ฉันแล้ว"เธอพูดพลางขยับออกห่างผมนับวันเธอยิ่งกวนประสาทผมและไม่ต้องถามหาคนสอนเลยมันมีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่สามารถสอนเธอให้ต่อต้านผมได้ จะว่าไปช
คีตะผมคงไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกแน่ ผมมองหน้าคนที่ยืนอยู่คือยัยเด็กซื่อบื้อวันนี้หน้าตาแม่งเอาเรื่องมาก แต่ก็ยังดีที่เธอไม่โกหกผมเพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมจะจับเธอหักคอ"ขอบคุณค่ะ""ดูท่าแล้วพวกนั้นไม่ยอมจบหรอกค่ะ"องศาพูดแล้วมองหน้าผม"ทำไมเอสไม่สู้บ้างล่ะ จะไปยอมพวกนั้นทำไม เขาทำไม่ดีกับเรานะเอสเทล"ไอ้หมอกพูดเสียงดุ"ไม่ค่ะ ในเมื่อเอสมีคุณคีตะอยู่ข้างๆ ทำไมเอสต้องสู้ด้วยล่ะคะ อีกอย่างหน้าที่ของเอสคือเรียนหนังสือค่ะ"ยัยเด็กบ้านี่เอาอีกแล้วนะ พักหลังมานี้เธอทำผมใจสั่นไปไม่รู้กี่รอบแล้ว และถ้าผมยิ้มไอ้สองตัวที่นั่งอยู่ข้างผมมันต้องล้อผมอีกแน่"แล้วเอสไม่คิดจะมีแฟนเลยหรอ เรียนไปมีแฟนไปก็ได้คนอื่นเขาก็ทำกันนะ"ไอ้คิมถามก่อนที่มันจะเตะขาผม"นั่นสิเอส พี่คิมพูดถูกนะ"ตังเมรีบพูดแทรกก่อนจะยิ้มให้ผม"ก็จอมพลบอกว่าแฟนมีตอนไหนก็ได้ไม่ใช่หรอคะ หน้าที่เราคือเรียนหนังสือ"ไอ้เวรจอมพล"พี่ว่าจอมพลพูดถูกแล้วแหละ ไว้เอสเรียนจบแล้วค่อยมีเนาะ"เอาเข้าไป"เอสยังไม่มีดีกว่า อยู่ให้คุณคีตะดูแลแบบนี้ดีจะตาย"ยัยเด็กซื่อบื้อพูดแล้วเอานิ้วจิ้มหลังผม"พูดมากว่ะ ไปเรียนได้แล้วไป"ผมพูดเสียงดุ"งั้นพวกเ
คีตะยัยเด็กซื่อบื้อจะรู้มั้ยว่าใจของผมมันกำลังเต้นแรงขนาดไหน ยิ่งตอนนี้หน้าของเธอมันอยู่ใกล้ผมแค่นิดเดียวเอง และผมก็ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาด้วยซ้ำแต่พอลืมตามาก็เจอเธอกำลังจ้องหน้าผมอยู่"กินยาหรือยังคะ"เธอถามผมเสียงเบา"ยังไม่กิน"ผมบอกไปที่ผมไม่สบายก็เพราะผมไม่ได้นอนเลยไง และสาเหตุก็มาจากเธอทั้งนั้นแหละ ผมจ้องหน้ายัยเด็กซื่อบื้อทำไมผมถึงได้ชอบเธอกันทั้งๆ ที่เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป"ตัวร้อนแล้วนะคะ"เธอเอามือมาแตะหน้าผากผมแล้วรีบบอก"อืม...รู้แล้ว"ผมบอกไปที่จริงก็อยากจะนอนอยู่คอนโดนะแต่เพราะวันนี้มันครบห้าวันแล้วไง"ไปหาหมอมั้ยคะ ถ้าไม่ไปก็กลับไปกินยาแล้วนอนพักผ่อน"เธอบอกผมและแววตาแบบนี้ผมพึ่งเคยเห็น"นอนพักเดี๋ยวก็หาย"ผมบอกไปและถ้าจะให้ผมไปหาหมอผมไม่ไปอยู่แล้ว"กลับบ้านกันค่ะ""บ้านใคร"ผมถาม"บ้านฉันค่ะ เดี๋ยวฉันทำข้าวต้มให้ ไม่สบายก็ต้องกินข้าวกินยารู้มั้ยคะ ลุกขึ้นค่ะกลับบ้านกัน"เธอลุกขึ้นก่อนจับมือผมสุดท้ายผมก็ต้องยอมกลับบ้านกับยัยเด็กซื่อบื้อ ที่ไอ้จอมพลเคยบอกว่าใครอยู่ใกล้เธอก็รักเธอหมด วันนี้ผมรู้แล้วว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริง เธอใช้เวลาเพียงไม่นานเลยในการทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นผม
คีตะผมขับรถมาที่ร้านกาแฟก่อนจะรีบเข้ามาในร้าน ไม่รู้ว่ายัยเด็กซื่อบื้อกลับบ้านไปหรือยัง ผมเข้ามาก่อนจะมองหาเธอทันทีแต่ก็ไม่เจอ ให้ตายเถอะนี่โกรธจริงใช่มั้ยวะ"นั่งอยู่ชั้นสองค่ะ แต่หน้าตาไม่รับแขกเลย"พี่เจ้าของร้านเดินมากระซิบผม"ปกติเวลาโกรธเธอเป็นแบบนี้ตลอดเลยหรอครับ"ผมถาม"ปกติเอสเทลไม่เคยเป็นแบบนี้นะ นี่ครั้งแรกเลยที่พี่เห็น"ผมควรจะดีใจใช่มั้ยวะที่โดนยัยเด็กซื่อบื้อโกรธเป็นคนแรก"เธอโกรธผมครับและโกรธมากด้วย"ผมบอกพี่เจ้าของร้านไปตามตรง"งั้นก็โชคดีนะคะ พี่เอาใจช่วย"พี่เจ้าของร้านพูดแล้วยิ้มให้ผมผมเดินขึ้นมาชั้นสองของร้านก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ คนที่นั่งเล่นมือถืออยู่ ผมว่ายัยเด็กซื่อบื้อติดนิสัยของไอ้จอมพลแล้วนะเรื่องการมองคนด้วยหางตา"ขอบคุณที่แบ่งขนมให้นะ"ผมบอกเธอไปไม่ได้สนใจกูเลยเถอะ นี่เธอกำลังเอาคืนกับสิ่งที่ผมทำกับเธอไว้สินะ ผมว่าเธอไม่ได้ซื่อหรอกเธอแค่กวนตีนผมเท่านั้นเองแหละ"จะไม่คุยด้วยจริงๆใช่มั้ย"ผมถามเสียงเบาก่อนที่เธอจะเบือนหน้าหนีอย่าให้ถึงทีผมบ้างแล้วกัน คอยดูเถอะจะเอาคืนให้ร้องไห้กลับบ้านเลย ผมนั่งจ้องหน้าไอ้คนที่เล่นมือถืออยู่คือยอมแพ้เลยว่ะ และผมก็ไม่เคยอดทนอะ
เอสเทลฉันไม่เข้าใจคุณคีตะจริงๆ เลยนะว่าจะเอายังไงกับฉันกันแน่ เมื่อคืนนี่แทบจะกินหัวแต่พอมาวันนี้จะมาง้อฉัน วันนี้ฉันโกรธจริงๆ นะ โกรธจนแทบอยากจะฆ่าเขาเลย ฉันซื่อฉันโง่แล้วทำไมต้องว่าฉันด้วยล่ะ"งั้นเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะคะ"ฉันบอกคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่"อยากทำอะไรก็ทำเลย"แล้วดูเขาสิจะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไงกัน"เริ่มวันนี้เลยแล้วกัน"ฉันพูดเสียงดุหลังจากนั้นฉันก็เดินมารอรถกับเพื่อนรักเพื่อจะกลับบ้านโดยไม่สนใจคุณคีตะ ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นและถ้าคุณคีตะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด ฉันจะเปลี่ยนจากห้าวันเป็นหนึ่งเดือนหรือไม่เราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลย"ยังไม่หายโกรธพี่คีตะอีกหรอเอส"ตังเมถามฉัน"เขาว่าเอสนะ เขานิสัยไม่ดี"ฉันบอกเพื่อนไป"แต่อย่างน้อยเขาก็รีบไปช่วยเอสนะ"องศาบอกฉัน"เอสไม่อยากฟัง และตอนนี้เอสกำลังทำโทษคุณคีตะอยู่ ไว้ครบห้าวันเมื่อไหร่ค่อยมาคุย""งอนเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย"องศาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน"ไม่ใช่สักหน่อย คุณคีตะเขามีคนของเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเขาไม่มีวันที่จะมาชอบผู้หญิงอย่างเอสหรอก"ฉันบอกเพื่อนไปผู้หญิงอย่างฉันไม่มีใครชอบหรอก อาจจะเพราะฉันซื่อเกินไปแหละมั้งแถมยังไม่สวยอีกต่
เอสเทล'ก็เธอไง' ฉันนั่งคิดคำพูดของคุณคีตะตั้งแต่เมื่อคืนจนมาถึงตอนนี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่เลย เธอไหนแล้วเธอคือใครกันเนี่ย และรู้มั้ยว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่คุณคีตะพูดจบหลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง พอส่งฉันเสร็จคุณคีตะก็ขับรถออกไปเลย ฉันโทรหาก็ไม่รับสายด้วย โกรธคนอื่นแล้วมาลงกับฉันมันใช่หรอเนี่ย.."ต่อไปเราคงปล่อยเอสอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว"องศาพูดเสียงดุ"นั่นดินี่มาเรียนแค่ไม่กี่วันยังโดนแกล้ง อยากจะรู้จริงๆ เลยว่าเอสไปทำอะไรให้ถึงได้ถูกแกล้งอยู่คนเดียว"ตังเมกับองศาพูดพลางจ้องหน้าฉัน ฉันโดนพี่มายแกล้งอย่างนั้นหรอ แล้วพี่เขาจะแกล้งฉันไปเพื่ออะไรกันในเมื่อเราก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว"นี่ถ้าพี่คีตะไม่ถามหาเอสเมื่อวานนะ ป่านนี้เอสยังไม่ได้ออกจากตึกเลยเถอะ""นี่ภาพที่พี่คีตะตอนทำหน้าดุโคตรจะน่ากลัวเลยอ่ะ ยังติดตาอยู่เลยเนี่ย"ตังเมหันมาบอกฉัน"คอยดูเถอะแกล้งเพื่อนกู กูจะเอาคืนให้สาสมเลย"องศากัดฟันพูดจนฉันต้องขยับหนี"ไม่ต้องถึงองศาหรอกค่ะ เพราะแค่จอมพลพวกนั้นก็รับมือไม่ไหวแล้ว"ฉันรีบหันไปเมื่อตังเมชี้จอมพลที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันและสีหน้าก็คงจะรู้เรื่องแล้ว"เอสมีอะไรเล่ามาให้หมดเลยนะ เพรา
คีตะให้ตายเถอะแม่ง นี่ถ้าผมไม่เจอเพื่อนรักของยัยเด็กซื่อบื้อเที่ยงคืนเธอก็คงไม่ได้กลับบ้านหรอก และผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะเอาเอกสารอะไรไปให้อาจารย์ในเมื่อเธอยังไม่ได้เข้าเรียนเลยสักคาบ"เอสเทลไปทำอะไรที่ตึกห้าวะ อีกไม่ถึงสิบนาทีประตูก็จะปิดแล้ว"ไอ้หมอกหันมาบอกผม(อยู่ตรงนั้นเดี๋ยวฉันไปหา ห้ามเดินไปไหนเด็ดขาด) ผมพูดเสียงดุก่อนจะวิ่งไปที่อาคาร"ดะ..ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไฟกำลังดับจะหมดแล้วนะคะ"(อย่าวางสายเข้าใจมั้ย)"ชั้นไหนวะ ตึกห้าแม่งใหญ่จะตายห่า"ไอ้คิมถามผม"เป็นห่วงเป็นใย"ไอ้หมอกเอ่ยแซวผม"ปกติไอ้จอมพลไม่ค่อยปล่อยน้องมัน แล้ววันนี้มันไปไหน""ไปรับเจ้าขา"ผมบอกเพื่อนไปผมกับเพื่อนรีบวิ่งมาที่ตึกห้าก่อนจะแยกย้ายกันไปตามหา ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ชั้นไหน อย่าให้เจอนะจะด่าให้หายโง่เลยคอยดู(อยู่ตรงไหน) ผมถามคนที่อยู่ในสาย"ชั้นที่ห้าค่ะ"(กลัวมั้ย)"กลัวค่ะ คุณคีตะรีบมานะ"ผมวิ่งขึ้นมาชั้นที่ห้าก่อนจะมองหายัยเด็ดซื่อบื้อ ชั้นที่ห้าของเธอมันอยู่ฝั่งไหนของอาคารวะแม่ง"ฉันอยู่ชั้นที่ห้า เดินออกมาได้แล้ว"ผมบอกไปแต่เหมือนว่าจะไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ ผมมองมือถือตัวเองที่ตอนนี้สายหลุดไปแล้ว ให้ม
คีตะ"หายโกรธหรือยัง"ผมถามคนที่ยืนยิ้มอยู่ คือแม่งนอกจากซื่อบื้อแล้วยังต่อปากต่อคำเก่งอีก มีอย่างที่ไหนบอกวิธีง้อตัวเองให้คนอื่นรู้ เพราะแบบนี้สินะเธอถึงได้ไม่เคยโกรธคนอื่นเลย"หายแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"เธอบอกผม"จะไปไหนไปขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง"ผมรีบจับสายเป้ก่อนจะลากเธอมานั่งที่รถ"ขอบคุณค่ะที่จะไปส่ง ว่าแต่คุณคีตะผิดนัดทำไมคะ ถ้าไม่ว่างก็ควรจะโทรบอกฉันหน่อยก็ได้เบอร์ฉันคุณคีตะก็มี"นี่ถ้าผมตอบไปคิดว่ายัยเด็กนี่จะทำยังทำขนมให้ผมกินมั้ยวะ"ขอโทษ พอดีเล่นเกมส์เพลินไปหน่อย"ผมบอกไป"ไม่เป็นไรค่ะ คุณคีตะง้อฉันแล้วฉันไม่โกรธแล้วค่ะ ส่วนขนมฉันจะทำให้กินนะคะ"ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่าเธอไม่น่าเกิดมาเลยอ่ะคือคนอะไรแม่งซื่อเกิน มิน่าไอ้จอมพลถึงได้หวงนักหวงหนา"วันหยุดค่อยทำ พรุ่งนี้ต้องทำกิจกรรมอีก"ผมบอกไป"ก็ได้ค่ะ ถ้าทำเสร็จเดี๋ยวฉันโทรบอกนะคะ"หลังจากนั้นผมก็ขับรถมาส่งยัยเด็กซื่อบื้อ และตลอดทางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็เอาแต่มองออกนอกรถแล้วยิ้ม ผมล่ะอยากรู้จริงๆ เลยว่าเธอเคยโมโหหรือโกรธใครเป็นบ้างหรือเปล่า"ถามจริงนะ เคยโกรธหรือโมโหใครคนเป็นมั้ย"ผมถาม"เคยค่ะโกรธและโมโหมากเลยจนอ