“อึก!”“อ๊ะ! อูย! เจ็บนะ!”“ฉันก็เจ็บ!”ใบหน้าคมเงยขึ้นมาพูด รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ตัวเองเผลอกัดเต้างามของเธอเข้า แต่คนที่ทำเขาเจ็บก่อน มันเธอไม่ใช่หรือไง“พอ พอแล้วใช่ไหม?”“พอเหรอ แน่ใจเหรอว่าอยากให้ฉันพอแค่นี้?”มือหนาจับขาเรียวแยกออกจากกัน ขาเรียวสวยขาวจนเห็นเส้นเลือดสานทับกันไปมา สายตาคู่คมจับจ้องกางเกงในตัวจิ๋วสีดำสนิท ขยับนิ้วเกี่ยวปราการชิ้นนั้นออกไปช้าๆ ไล้ข้อนิ้วไปมาบนกลีบเนื้อสีสวยที่ดูสดใหม่ ปาดน้ำใสไปมาช้าๆ ช้อนสายตามองคนใต้ร่างอีกครั้ง“ว่าไง? ยังอยากพออยู่ไหม?”“อึก! คุณคิดดีแล้วเหรอ ที่ทำแบบนี้กับฉัน อื้อ!”“ฉันคิดดีแล้ว แล้วเธอล่ะ คิดมาอย่างดีแล้วสินะ ตอนที่เข้าหาฉันน่ะ พร้อมจะรับผลการกระทำของตัวเองหรือยัง”สิ่งที่เขากำลังจะทำกับเธอ ไม่ได้ทำเพราะต้องการเอาชนะ แต่ต้องการใช้ความสัมพันธ์นี้ผูกมัดเธอไว้กับตัวเอง เห็นแก่ตัวมากเขารู้ แต่ให้ทนดูเธอเป็นของคนอื่น มันทำไม่ได้จริงๆ“คุณ ไม่คิดจะเลิกใช่ไหม”“ไม่! ทั้งเลิกทำ หรือแม้กระทั่งเลิกกับเธอ มันไม่มีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัวของฉันเลย”“แล้ว แล้วคุณจะเสียใจ”“ปล่อยเธอไป ฉันจะเสียใจมากกว่า”มือใหญ่รวบเส้นผมดำยาวไปทัดไว้ข้างใบหู
“เมื่อคืนครั้งแรก แล้วคืนนั้นล่ะ?”เฟยหลงเปลี่ยนเรื่อง เขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น เขาเอากับใครกัน ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่เธอ“ทำไม? สงสัยเหรอ ฮะฮ่า” ลี่หมิงแผดเสียงหัวเราะลั่นห้อง เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาฉายความวิตกกังวลออกมา“ผู้หญิงคนนั้น ก็เป็นหนึ่งในแผนการของฉันนะสิ เป็นยังไงล่ะ ติดใจเลยใช่ไหม”“ไม่เด็ดเท่าเธอหรอก”“คนหน้าไม่อาย!”“ก็เธอถาม ฉันก็แค่ตอบ”การต่อล้อต่อเถียงกับเธอ ทำให้อารมณ์ดีมาก ปกติเขาไม่คุยกับคนที่เพิ่งมีอะไรกัน ไม่นอนค้างกับใครด้วย แค่นี้ก็รู้แล้วว่า สำหรับเขา เธอคือคนพิเศษ“ลุกไปได้แล้ว ไม่คิดว่าตัวเองตัวหนักบ้างหรือไง”ลี่หมิงดันแผ่นอกกว้างแรงๆ เฟยหลงยอมถอยออกไปก็จริง แต่เลือกนั่งอยู่ข้างๆตัวเธอ ใช้สายตามองหาเงาของถิงลี่หมิงคนก่อน เมื่อไม่เจอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ“เธอคือถิงลี่หมิงจริงๆสินะ”“ใช่! ฉันคือผู้หญิงคนนั้น ตกใจเหรอที่สุดท้ายแล้ว ก็หนีไม่พ้นคนอย่างฉัน” ลี่หมิงผลักคนที่นั่งอยู่ใกล้มือออกห่าง ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ความปวดร้าวทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดบริเวณกลางกายส่งผลให้น้ำตาคลอ ดวงตาแดงก่ำมองคนทำนิ่งๆ ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอ ทำไมไม่รู้จักอ่อนโย
“เห้อ! เอาเถอะ! รอให้เธอหายป่วย เราค่อยคุยกันอีกที อยู่นี่คนเดียวแป๊บนึงนะ พี่จะไปซื้อยากับข้าวมาให้ เธอกินยาคุมไปหรือยัง”“ยะ ยัง! สภาพแบบนี้ฉันจะไปที่ไหนได้”“รออยู่นี่ อย่าดื้อ เดี๋ยวมา”เฟยหลงถอนหายใจเบาๆ กำชับคนดื้อรั้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อ้อยอิ่งอยู่เพียงไม่นาน เมื่อคิดถึงอาการของคนป่วยก็รีบร้อนออกไปจากห้อง ในขณะที่เดิน ก็ใช้โทรศัพท์หาร้านขายยาที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย พบว่ามันอยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ของเธอนัก จึงเลือกเดินไปแทนการใช้รถกริ่ง!“สวัสดีค่ะ” พนักงานที่เป็นเภสัชกรเอ่ยทักทายตามปกติ แอบชื่นชมความหล่อเหลาบนใบหน้าคนตัวโตอยู่ในใจ คนที่ไม่เคยป่วย หรือถึงแม้จะป่วย ก็ไม่เคยมาซื้อยากินเอง ได้แต่ยืนขว้างอยู่หน้าประตู รู้ว่าเป็นไข้ต้องใช้ยาอะไรบ้าง แต่อาการของคนตัวเล็กอย่างหลังนี่สิ จะอธิบายให้เภสัชกรฟังแบบไหน“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” เภสัชกรสาวถามซ้ำเมื่อเห็นลูกค้ามีสีหน้าลำบากใจ“อ่า ผมอยากได้ยาลดไข้ แก้ปวด แล้วก็ … ยาคุมกำเนิด”“อ่า แบบฉุกเฉินใช่ไหมคะ?”เภสัชกรสาวยิ้มแห้ง ยาประเภทนี้ค่อนข้างขายดี เขาไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาซื้อด้วยอาการเขินอายแบบนี้“ครับ อยากได้ยาที่ลดอาการ
วันต่อมาลี่หมิงนอนซมตลอดทั้งวัน และป่วยไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ โดยช่วงเวลาเหล่านั้น มีมู่เฟยหลงคอยดูแลอยู่ข้างๆ มันเป็นเรื่องดี ในเวลาที่เราไม่สบายแล้วมีคนคอยดูแล แต่ตอนนี้เธอหายแล้ว ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ยอมกลับไปสักที ทำอย่างกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง“นี่คุณมู่ เมื่อไหร่คุณจะกลับบ้านตัวเอง?”ลี่หมิงเอ่ยปากถามคนที่นอนอยู่บนโซฟาตัวเล็ก รอบนี้เป็นรอบที่ห้าแล้ว อยากจะใช้คำพูดแรงๆไล่เขากลับ แต่เห็นแก่ที่เขาคอยดูแล จึงเลือกใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม และอีกเหตุผลที่ถาม มันเป็นเพราะเขาใช้โซฟาตัวเล็กนั่นเป็นที่นอน ผู้ชายตัวใหญ่ขนาดนั้นนอนขดกายบนโซฟาตัวเล็ก มันทำให้เธอเกิดความรู้สึกสงสารและเห็นใจ“คุณมู่? เหมือนเธอจะลืมข้อตกลงของเราเมื่อเช้า ให้ฉันทบทวนความทรงจำให้ไหม?”“ไม่! ไม่ต้อง! อย่าลุกมานะ!”คนตัวเล็กร้องห้าม ใบหน้าเห่อร้อนและซับสีเลือดข้อตกลงเมื่อเช้าน่าปวดหัวมาก เขาบีบบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่เฟยหลง แน่นอนว่าเธอไม่ยอม แต่เขาก็ทำให้เธอยอมจำนนด้วยร่างกายของเขา คนลามกนั่นลวนลามเธอ เขา … เขาทำเรื่องที่ไม่ควรทำกับร่างกายส่วนนั้นที่มันยังไม่หายบวม“เรียกพี่เฟยหลงสิ”“พะ พี่! เมื่อไหร่พี่จะกลับ!”เห้
สามชั่วโมงต่อมาแก๊ก! แก๊ก!“นี่! ปลดล็อกให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย!”คนตัวเล็กหันไปโวยวายใส่คนข้างๆ ให้เขาปลดล็อกประตูรถยนต์ เจ้าของรถยังคงนั่งนิ่ง ทอดสายตามองเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่แพงที่สุดของเมือง เมื่อสำรวจบ้านเสร็จแล้วก็หันมาสำรวจคนข้างๆต่อเธอไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งที่มีบ้านหลังโตขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังทำตัวเหมือนคนไม่มีอันจะกินเหมือนเดิม“มะ! มองแบบนี้ทำไม!”มือเล็กยกขึ้นกอดอกไว้ ปกป้องสองเต้าอวบของตัวเองจากดวงตาคู่คม เสียงหัวเราะหึดังมาให้ได้ยิน ริมฝีปากจิ้มลิ้มพึมพำถ้อยคำด่าทอหึ! อะไรย่ะ! ก็สายตาเขา เหมือนจะเปลื้องผ้าเธอจริงๆนี่นา เธอแค่ป้องกันตัวเองเถอะ“ค่ารถล่ะ?”“อะไร ค่ารถอะไร?”“ฉันไม่มีความคิดจะมาส่งเธอฟรีๆเลยนะลี่หมิง”“ชิ! เท่าไหร่?”เพราะเขารู้ตัวตนของเธอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเล่นละครเป็นฟูหลิน ผู้หญิงแสนดีไร้เดียงสา ไม่เพียงแค่เธอรู้สึกสบายใจที่ได้กลับมาเป็นตัวเธอเอง ยังแอบดีใจนิดๆด้วย ที่เขาไม่ทำท่าทีรังเกียจใส่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ“จูบ”“อะไรนะ!?” คนตัวเล็กร้องเสียงหลง เมื่อรู้ราคาค่าโดยสารรถในครั้งนี้“จูบเดียว แต่ถ้าช้ากว่านั้นอาจจะไม่! อึก!”มือเล็กเอื้
พรึ่บ!“อ๊ะ! จะทำอะไร!”“เธอเหมือนกระต่ายนะ ขี้ตกใจมากเลย”เฟยหลงยังคงมีความสุขกับการได้กลั่นแกล้งเธอ ใช้ช่วงเวลาในการคาดเข็มขัดนิรภัย ลวนลามผิวหอมกรุ่นด้วยปลายจมูก แอบใช้มันปัดผ่านผิวแก้มเนียนใสเบาๆ เมื่อไม่เหลืออะไรให้ใช้เป็นข้ออ้างในการลวนลามแล้ว ก็ถอยกลับไปนั่งอยู่แบบเดิม“คน! คนฉวยโอกาส!”“แล้วทำไมไม่ขัดขืนล่ะ?”“ฉันขัดขืนได้ที่ไหน ก็คุณเล่นโถมกายมาทับซะขนาดนั้น”“ถ้าเธอจะทำ ฉันว่าเธอทำได้ แต่เธอไม่ทำมันมากกว่า”“โอ้ย! คราวหลังไม่ต้องมารับเลยนะ!”ลี่หมิงระบายความโกรธด้วยการทิ้งแผ่นหลังเข้ากับเบาะ ใจเธออยากจะใช้หมัดซัดหน้าหล่อๆของเขาแหละ แต่มันติดตรงที่เขาตัวโตกว่าไง ถ้าเผลอไปทำให้เขาโกรธเข้า กลัวตัวเองไม่ได้เข้าบริษัทนะสิ“ยัยลามก”“อะไรนะ?”“คิดอะไรอยู่ทำไมหน้าตาถึงเป็นแบบนั้น คิดเรื่องที่เราทำด้วยกันอยู่เหรอ?”“อ๊าก!! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ!”ฝ่ามือเล็กเอื้อมไปด้านข้าง หวังฟาดมันลงบนบ่าแกร่ง แต่ข้อมือเธอถูกคว้าไปกำ ซ้ำยังถูกดึงรั้งจนถลาไปใกล้ร่างสูงใหญ่“คิดถึงเธอจัง”“อะ อะไรนะ?”ได้ยินแหละ แต่ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดมัน“คิดถึงเธอนะ”“อี๊!! ขนลุกไปหมดแล้ว”“เห้อ ไปแล้วนะ สายแล้ว”เ
“อะแฮ่ม! นินทาใครอยู่เหรอ?”ถิงซีเหวินยกมุมปากขึ้นยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของคนรัก เขาได้ยินคำถามของเธอ ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยที่เธอไม่เชื่อใจในตัวเขา“มาแล้วเหรอคะ? ปล่อยให้ฉันรออยู่ในรถตั้งนาน”“สิบห้านาที”“สำหรับพี่มันอาจจะแค่สิบห้านาที”หมับ!“ไปกันเถอะ เธอหิวใช่ไหม พี่ไปรออยู่ที่ร้านนะ รีบตามมาล่ะ”“ค่ะ”“พี่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ!”“ตามมาเงียบๆเถอะน่า ยิ่งพูดเยอะจะยิ่งหิวนะ”“พี่ซีเหวิน!”“หืม?”ใบหน้าคมโน้มต่ำลงไปจนปลายจมูกปัดผ่านผิวแก้มเนียน คนถูกแกล้งหน้าร้อนฉ่า ทั้งโกรธ ทั้งอาย อยากจะยกมือขึ้นประทุษร้ายเขา แต่เกรงใจตำแหน่งประธานบริษัท จึงทำได้แค่เดินฟึดฟัดนำหน้าเขาไปขึ้นรถของตัวเองลี่หมิงมองพี่ชายกับเพื่อนสนิทด้วยความอิจฉา แต่ก็แค่ไม่นาน ความรู้สึกนั้นก็เปลี่ยนเป็นความปิติยินดี ยินดีอยู่ได้ไม่นานก็ต้องรีบก้าวเดินตามหลังคนทั้งคู่ไป งานเลี้ยงในคืนนี้เธอคือตัวหลักของงานชั่วโมงต่อมารถยนต์สมรรถนะเยี่ยมขับเข้าไปจอดในลานจอดรถของร้านอาหารกึ่งผับ เมื่อประตูรถยนต์เปิดออก พนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าด่านแรก ก็รีบก้าวเข้ามาต้อนรับ ถิงลี่หมิงเปิดโทรศัพท์ให้พนักงานรายนั้นดู ว่าตัวเองเป็นหนึ่
“ใครเขาจะไปเชื่อคนแบบคุณ”“อยากลองสินะ”หมับ!มือเล็กยกขึ้นปิดริมฝีปากหยักลึกไว้แน่น ใช้ดวงตาปรามให้คนตัวโตหยุด คนที่ไม่คิดจะแพร่งพรายความลับให้เธอเสียหาย ใช้ริมฝีปากสัมผัสผิวเนียนนุ่มบนอุ้งมือ“อ๊ะ!”ลี่หมิงรีบชักมือกลับ มองคนลวนลามตาขวาง เมื่อเขาไม่สะทกสะท้านก็ลากสายตากลับมาที่แก้วเหล้า ยกมันขึ้นดื่มจนหมด วางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะช้าๆ“ฉันขอกลับก่อนนะพี่”“อ้าว! ทำไมล่ะ?”ซีเหวินถามด้วยความสงสัย คนถูกถามส่งสายตาไปทางสาเหตุ พี่ชายถึงกับส่ายหน้าไปมา“อ่า รบกวนคุณมู่ไปส่งน้องสาวผมหน่อยได้ไหมครับ ดูเหมือนเธอจะเมา”“เมาอะไร ฉันไม่ได้เมานะพี่ อ่า! ก็ได้!”ลี่หมิงรู้สึกโกรธพี่ชาย ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ของเธอเลย มือเล็กเอื้อมไปหยิบแก้วเหล้า ที่ถูกใครสักคนเติมเหล้าลงไปจนเต็ม ดื่มมันรวดเดียวหมด ท่ามกลางความตกใจของใครหลายๆ ยิ่งคนที่เริ่มนับจำนวนแก้วของเธอ ยิ่งตกใจหนักเพราะการดื่มอันรวดเร็ว“อึก! ฉันเมาจริงๆแล้วแหละพี่! ไปส่งฉันด้วยนะ”“รบกวนด้วยนะเฟยหลง”“พี่!”“ขอโทษนะลี่หมิง พี่ต้องดูแลคนอื่นๆ”ลี่หมิงลุกขึ้นยืนด้วยความน้อยใจ ปัดมือที่ยื่นมาช่วยเหลือออก พยุงร่างเดินออกไปอย่างรวดเร็ว อาการวิงเวียนเ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน
ตึก ตึก ตึก กึก!“หยุดเดินทำไม?”ร่างสูงหยุดก้าวตามคนตัวเล็ก ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย มือใหญ่เอื้อมไปดึงรั้งร่างสมส่วนเข้ามาใกล้ โอบกอดเธอไว้ในอ้อมอก ลูบเส้นผมนุ่มสลวยอย่างเบามือ“พี่ดูไม่เสียใจเลยที่เลิกกับเธอ”“ฉันเสียใจเพราะซูฮวามาเยอะแล้ว เคยรอคอยการกลับมาของเธอ ทำทุกวิถีทางเพื่อดึงเธอกลับมาอยู่ข้างกาย แต่ผลก็อย่างที่เห็น ตอนที่ฉันรอเธอไม่เคยกลับมาเลย”“พี่รักเธอมากเลยสินะ”“ใช่ แต่เคยรักนะ ตอนนี้ฉันรักเธอ และในอนาคตก็จะเป็นเธอ เธอจะเป็นคนเดียวที่ฉันรัก”เขายอมรับว่าในช่วงเวลานั้น เขารักซูฮวาจนหมดหัวใจ แม้จุดเริ่มต้นของเขากับเธอจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ตาม แต่ตอนนี้เธอไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะคนที่อยู่ด้วยกันตอนนี้ มีค่ามากกว่าสิ่งใด“ไม่ได้โกหกใช่ไหม ทั้งหมดที่พูดมา มันคือความจริงใช่หรือเปล่า”ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นถาม เฟยหลงมองเห็นระดับความเมาของเธอได้ชัดขึ้น เพราะแสงไฟจากบนเพดาน มือใหญ่เลื่อนขึ้นจับปลายคาง เชิ่ดมันให้สูงขึ้นอีกนิด กดใบหน้าลงต่ำ แนบริมฝีปากลงไปทันที ลิ้นร้อนปาดไล้กลีบปากนุ่มช้าๆ อ้อยอิ่งอยู่ด้านนอกไม่ยอมสอดเข้าไปชิมความหวานอย่างทุกที“ท
วันต่อมา@high barร่างสมส่วนในชุดเดรสสั้นของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ก้าวเดินเข้าไปในอาคารด้วยความคุ้นเคย แม้จะไม่ได้มาที่นี่อีกเลยหลังจากลาออก แต่เธอรู้ทุกซอกทุกมุมของอาคารหลายชั้นนี่ และรู้ด้วยว่าตอนนี้เจ้าของมันอยู่ที่ไหน“เอ่อ! มาแล้วเหรอครับคุณหนู”ผู้จัดการร้านกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม เพราะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว คนที่ถูกเรียกคุณหนู และถูกปฏิบัติอย่างดี แต่รู้สึกได้ถึงความห่างเหินคว่ำริมฝีปากลงเธอไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยแฮะ“เรียกฉันลี่หมิงก็ได้ค่ะคุณเฉิน”“แต่”“ไม่มีแต่ค่ะ!”“ก็ได้ครับคุณลี่หมิง”“เห้อ! คุณมู่ยังอยู่ที่โซนวีไอพีใช่ไหม?”“อ่า … อยู่ในห้องทำงานครับ”“ไม่ได้อยู่คนเดียวสินะ”ลี่หมิงจับความผิดปกติได้จากสีหน้าของคุณเฉิน มันดูกระอักกระอ่วน และมีความกังวลใจฉายออกมา และคำตอบก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ“ครับ เมื่อครึ่งชั่วโมงคุณซูฮวามาที่นี่”“จนถึงตอนนี้?”“ครับ”“ฉันไปรอตรงนั้นแล้วกัน”ลี่หมิงชี้มือไปบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ จากนั้นก็ก้าวเดินไปทันที สร้างความประหลาดใจให้กับผู้จัดการร้านเป็นอย่างมาก เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างกายเจ้านาย ล้วนชอบแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ ทั้งที่ไม่
“ขอบคุณนะที่กลับมา”“ขอบคุณคนที่เข้าหาตัวเองเพื่อหลอกเนี่ยนะ?”คนตัวเล็กปล่อยทั้งตัวทั้งหัวใจ ให้วูบไหวไปกับความอบอุ่นที่กำลังโอบกอดอยู่ ความรู้สึกเธอชัดเจนขึ้น ตั้งแต่ยอมมีอะไรกับเขาอีกครั้ง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รัก เรียนรู้ทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพราะเขา“สุดท้ายเราก็ลงเอยกัน พี่ไม่คิดถึงจุดเริ่มต้นหรอก”คนเป็นพี่มือไม้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข จนคนที่นั่งทับอยู่บนตักพลางพักเหนื่อย จับมือใหญ่ไว้แน่นไม่ให้บีบเค้นหน้าอกของตัวเอง แต่แรงเธอไม่สู้แรงเขาอยู่แล้ว ยึดไว้ได้แค่ไม่นาน ก็ต้องปล่อยให้สองมือนั้นทำตามใจ“สัปดาห์หน้า พ่อกับแม่พี่จะเข้าไปพบพ่อกับแม่ที่บ้าน เธอจะตอบตกลงเรื่องการแต่งงานไหม หรือเธอต้องการแบบไหน?”เฟยหลงถามด้วยน้ำเสียงมีกังวล กลัวคำตอบของคนตัวเล็กจะไม่เป็นอย่างที่ตัวเองหวัง กลัวทุกความรู้สึกมีเพียงเขา ที่รู้สึกมากอยู่ฝ่ายเดียว“ทำไมรีบร้อนนักล่ะ ยังไม่ถึงสามเดือนเลย”ลี่หมิงจำได้ว่าตัวเองขอเวลาไปเท่านั้น ถึงความรู้สึกมันจะชัดเจน แต่มันยังเร็วไปสำหรับการแต่งงาน เธออยากคบหาเขาไปแบบนี้ก่อน ไม่ได้รีบร้อนอยากมีครอบครัวด้วย การใช้ชีวิตอย่างตอนนี้ มันดีแล้วในความคิดเธอ“เ
“มา มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตื่นแล้ว ก็เอื้อมมือไปดึงเธอมาใกล้ เมื่อความอ่อนนุ่มของแผ่นหลังแนบชิดอยู่กับแผ่นอก ก็หลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยให้ร่างกายรับความผ่อนคลายจากกระแสน้ำอุ่น ปล่อยหัวใจรับการปลอบโยนจากความนุ่มนิ่มของผิวเนื้อ“อื้อ! ฉันจะขึ้นไปแล้ว”“ชู่ว! เงียบหน่อย”“นี่! ฉันจะขึ้นแล้ว อ๊ะ!”“ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่เงียบ จะไม่ได้มีแค่ฉันที่เหนื่อย”ร่างเย้ายวนสีขาวอมชมพูเพราะการแช่น้ำ ถูกพลิกไปจนแผ่นหลังแนบอยู่กับขอบอ่าง โดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับอยู่ด้านบน นิ้วเรียวสวยวนบนความอวบอั๋น ลากผ่านหน้าท้องช้าๆ หยุดมือและสายตาเหนือจุดกระสันสีชมพูหวานค่อยคุ้มค่าเหนื่อยหน่อย“มีคนเคยบอกไหม ว่าคุณเองก็ … คิดอะไรออกทางสีหน้าหมด”“เหรอ~ เธอคิดว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ ถ้าสิ่งที่เธอคิดว่าฉันคิด มันตรงกับที่ฉันคิดอยู่จริงๆ ฉันจะยอมหยุดมันไว้ ปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความคิด”“ฉัน”คนตัวเล็กรู้สึกลังเล เพราะความเสียดายถ้าหากตัวเองตอบถูก ความลังเลนั้นสร้างรอยยิ้ม ร่างสูงกำยำอัดแน่นด้วยมัดกล้ามพลิกตัวอีกครั้ง แนบแผ่นหลังเข้ากับอ่าง ดึงคนข้าง
“อึก! ฉันเหมือนคนป่วยเข้าไปทุกที เพราะรอยที่คุณทำ”คนตัวเล็กบ่น แต่ก็ยอมเอียงคอให้ริมฝีปากร้ายสัมผัส หัวใจล่องลอยไปไกล ตั้งใจเข้าหาเพื่อล่อลวงเขา สุดท้ายกลายเป็นเธอที่ถูกล่อลวงจนหัวปั่น“แค่ตอนนี้ หลังจากนี้ฉันก็ไม่ว่างแล้ว”“ทำไม?”“ฉันต้องเข้าไปทำงานช่วยพ่อ นั่นคือเงื่อนไขของท่าน”“เพราะฉัน?”“อื้อ เพราะเธอ”คนตัวโตยิ้ม ยอมรับอย่างไม่อายว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนไปเพราะคนตรงหน้า เขาไม่เคยชอบธุรกิจของพ่อ ชอบรถ และชอบการดื่มมาก จึงลงทุนทำโชว์รูมรถร่วมกับเพื่อน และเปิดร้านเหล้าไว้เป็นที่สังสรรค์ ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปทุกอย่าง เขาตั้งใจรับช่วงธุรกิจของพ่ออย่างเต็มตัว“… ก็ดี คุณใช้ชีวิตเหมือนคนว่างงาน”“ดีจริงๆเหรอ?”“ก็ต้องดีสิ”“เธอกำลังทำหน้าเสียดาย”“ฉันไม่ได้ทำ อือ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มถูกคว้ามาครอบครอง ลิ้นหนาแทรกผ่านความบางนุ่มเข้าไป เคล้าคลึงหนักๆ ก่อนจะคว้าเอาลิ้นเล็กมาดูด ปล่อยสองมือเล็กให้เป็นอิสระ เพื่อใช้ฝ่ามือของตัวเองสัมผัสเนื้อตัวเนียนนุ่ม“อืม”“อ๊ะ! นี่! ตรงนั้นมันบวมอยู่นะ!”เมื่อรสจูบเร่าร้อนขึ้น คนที่ส่วนสำคัญยังไม่หายบวม รีบผลักคนตัวโตออก ละล่ำละลักบอกเหตุผลที่ทำแบบนั้น คนตัว