“เห้อ! เอาเถอะ! รอให้เธอหายป่วย เราค่อยคุยกันอีกที อยู่นี่คนเดียวแป๊บนึงนะ พี่จะไปซื้อยากับข้าวมาให้ เธอกินยาคุมไปหรือยัง”“ยะ ยัง! สภาพแบบนี้ฉันจะไปที่ไหนได้”“รออยู่นี่ อย่าดื้อ เดี๋ยวมา”เฟยหลงถอนหายใจเบาๆ กำชับคนดื้อรั้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อ้อยอิ่งอยู่เพียงไม่นาน เมื่อคิดถึงอาการของคนป่วยก็รีบร้อนออกไปจากห้อง ในขณะที่เดิน ก็ใช้โทรศัพท์หาร้านขายยาที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย พบว่ามันอยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ของเธอนัก จึงเลือกเดินไปแทนการใช้รถกริ่ง!“สวัสดีค่ะ” พนักงานที่เป็นเภสัชกรเอ่ยทักทายตามปกติ แอบชื่นชมความหล่อเหลาบนใบหน้าคนตัวโตอยู่ในใจ คนที่ไม่เคยป่วย หรือถึงแม้จะป่วย ก็ไม่เคยมาซื้อยากินเอง ได้แต่ยืนขว้างอยู่หน้าประตู รู้ว่าเป็นไข้ต้องใช้ยาอะไรบ้าง แต่อาการของคนตัวเล็กอย่างหลังนี่สิ จะอธิบายให้เภสัชกรฟังแบบไหน“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” เภสัชกรสาวถามซ้ำเมื่อเห็นลูกค้ามีสีหน้าลำบากใจ“อ่า ผมอยากได้ยาลดไข้ แก้ปวด แล้วก็ … ยาคุมกำเนิด”“อ่า แบบฉุกเฉินใช่ไหมคะ?”เภสัชกรสาวยิ้มแห้ง ยาประเภทนี้ค่อนข้างขายดี เขาไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาซื้อด้วยอาการเขินอายแบบนี้“ครับ อยากได้ยาที่ลดอาการ
วันต่อมาลี่หมิงนอนซมตลอดทั้งวัน และป่วยไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ โดยช่วงเวลาเหล่านั้น มีมู่เฟยหลงคอยดูแลอยู่ข้างๆ มันเป็นเรื่องดี ในเวลาที่เราไม่สบายแล้วมีคนคอยดูแล แต่ตอนนี้เธอหายแล้ว ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ยอมกลับไปสักที ทำอย่างกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง“นี่คุณมู่ เมื่อไหร่คุณจะกลับบ้านตัวเอง?”ลี่หมิงเอ่ยปากถามคนที่นอนอยู่บนโซฟาตัวเล็ก รอบนี้เป็นรอบที่ห้าแล้ว อยากจะใช้คำพูดแรงๆไล่เขากลับ แต่เห็นแก่ที่เขาคอยดูแล จึงเลือกใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม และอีกเหตุผลที่ถาม มันเป็นเพราะเขาใช้โซฟาตัวเล็กนั่นเป็นที่นอน ผู้ชายตัวใหญ่ขนาดนั้นนอนขดกายบนโซฟาตัวเล็ก มันทำให้เธอเกิดความรู้สึกสงสารและเห็นใจ“คุณมู่? เหมือนเธอจะลืมข้อตกลงของเราเมื่อเช้า ให้ฉันทบทวนความทรงจำให้ไหม?”“ไม่! ไม่ต้อง! อย่าลุกมานะ!”คนตัวเล็กร้องห้าม ใบหน้าเห่อร้อนและซับสีเลือดข้อตกลงเมื่อเช้าน่าปวดหัวมาก เขาบีบบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่เฟยหลง แน่นอนว่าเธอไม่ยอม แต่เขาก็ทำให้เธอยอมจำนนด้วยร่างกายของเขา คนลามกนั่นลวนลามเธอ เขา … เขาทำเรื่องที่ไม่ควรทำกับร่างกายส่วนนั้นที่มันยังไม่หายบวม“เรียกพี่เฟยหลงสิ”“พะ พี่! เมื่อไหร่พี่จะกลับ!”เห้
สามชั่วโมงต่อมาแก๊ก! แก๊ก!“นี่! ปลดล็อกให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย!”คนตัวเล็กหันไปโวยวายใส่คนข้างๆ ให้เขาปลดล็อกประตูรถยนต์ เจ้าของรถยังคงนั่งนิ่ง ทอดสายตามองเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่แพงที่สุดของเมือง เมื่อสำรวจบ้านเสร็จแล้วก็หันมาสำรวจคนข้างๆต่อเธอไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งที่มีบ้านหลังโตขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังทำตัวเหมือนคนไม่มีอันจะกินเหมือนเดิม“มะ! มองแบบนี้ทำไม!”มือเล็กยกขึ้นกอดอกไว้ ปกป้องสองเต้าอวบของตัวเองจากดวงตาคู่คม เสียงหัวเราะหึดังมาให้ได้ยิน ริมฝีปากจิ้มลิ้มพึมพำถ้อยคำด่าทอหึ! อะไรย่ะ! ก็สายตาเขา เหมือนจะเปลื้องผ้าเธอจริงๆนี่นา เธอแค่ป้องกันตัวเองเถอะ“ค่ารถล่ะ?”“อะไร ค่ารถอะไร?”“ฉันไม่มีความคิดจะมาส่งเธอฟรีๆเลยนะลี่หมิง”“ชิ! เท่าไหร่?”เพราะเขารู้ตัวตนของเธอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเล่นละครเป็นฟูหลิน ผู้หญิงแสนดีไร้เดียงสา ไม่เพียงแค่เธอรู้สึกสบายใจที่ได้กลับมาเป็นตัวเธอเอง ยังแอบดีใจนิดๆด้วย ที่เขาไม่ทำท่าทีรังเกียจใส่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ“จูบ”“อะไรนะ!?” คนตัวเล็กร้องเสียงหลง เมื่อรู้ราคาค่าโดยสารรถในครั้งนี้“จูบเดียว แต่ถ้าช้ากว่านั้นอาจจะไม่! อึก!”มือเล็กเอื้
พรึ่บ!“อ๊ะ! จะทำอะไร!”“เธอเหมือนกระต่ายนะ ขี้ตกใจมากเลย”เฟยหลงยังคงมีความสุขกับการได้กลั่นแกล้งเธอ ใช้ช่วงเวลาในการคาดเข็มขัดนิรภัย ลวนลามผิวหอมกรุ่นด้วยปลายจมูก แอบใช้มันปัดผ่านผิวแก้มเนียนใสเบาๆ เมื่อไม่เหลืออะไรให้ใช้เป็นข้ออ้างในการลวนลามแล้ว ก็ถอยกลับไปนั่งอยู่แบบเดิม“คน! คนฉวยโอกาส!”“แล้วทำไมไม่ขัดขืนล่ะ?”“ฉันขัดขืนได้ที่ไหน ก็คุณเล่นโถมกายมาทับซะขนาดนั้น”“ถ้าเธอจะทำ ฉันว่าเธอทำได้ แต่เธอไม่ทำมันมากกว่า”“โอ้ย! คราวหลังไม่ต้องมารับเลยนะ!”ลี่หมิงระบายความโกรธด้วยการทิ้งแผ่นหลังเข้ากับเบาะ ใจเธออยากจะใช้หมัดซัดหน้าหล่อๆของเขาแหละ แต่มันติดตรงที่เขาตัวโตกว่าไง ถ้าเผลอไปทำให้เขาโกรธเข้า กลัวตัวเองไม่ได้เข้าบริษัทนะสิ“ยัยลามก”“อะไรนะ?”“คิดอะไรอยู่ทำไมหน้าตาถึงเป็นแบบนั้น คิดเรื่องที่เราทำด้วยกันอยู่เหรอ?”“อ๊าก!! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ!”ฝ่ามือเล็กเอื้อมไปด้านข้าง หวังฟาดมันลงบนบ่าแกร่ง แต่ข้อมือเธอถูกคว้าไปกำ ซ้ำยังถูกดึงรั้งจนถลาไปใกล้ร่างสูงใหญ่“คิดถึงเธอจัง”“อะ อะไรนะ?”ได้ยินแหละ แต่ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดมัน“คิดถึงเธอนะ”“อี๊!! ขนลุกไปหมดแล้ว”“เห้อ ไปแล้วนะ สายแล้ว”เ
“อะแฮ่ม! นินทาใครอยู่เหรอ?”ถิงซีเหวินยกมุมปากขึ้นยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของคนรัก เขาได้ยินคำถามของเธอ ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยที่เธอไม่เชื่อใจในตัวเขา“มาแล้วเหรอคะ? ปล่อยให้ฉันรออยู่ในรถตั้งนาน”“สิบห้านาที”“สำหรับพี่มันอาจจะแค่สิบห้านาที”หมับ!“ไปกันเถอะ เธอหิวใช่ไหม พี่ไปรออยู่ที่ร้านนะ รีบตามมาล่ะ”“ค่ะ”“พี่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ!”“ตามมาเงียบๆเถอะน่า ยิ่งพูดเยอะจะยิ่งหิวนะ”“พี่ซีเหวิน!”“หืม?”ใบหน้าคมโน้มต่ำลงไปจนปลายจมูกปัดผ่านผิวแก้มเนียน คนถูกแกล้งหน้าร้อนฉ่า ทั้งโกรธ ทั้งอาย อยากจะยกมือขึ้นประทุษร้ายเขา แต่เกรงใจตำแหน่งประธานบริษัท จึงทำได้แค่เดินฟึดฟัดนำหน้าเขาไปขึ้นรถของตัวเองลี่หมิงมองพี่ชายกับเพื่อนสนิทด้วยความอิจฉา แต่ก็แค่ไม่นาน ความรู้สึกนั้นก็เปลี่ยนเป็นความปิติยินดี ยินดีอยู่ได้ไม่นานก็ต้องรีบก้าวเดินตามหลังคนทั้งคู่ไป งานเลี้ยงในคืนนี้เธอคือตัวหลักของงานชั่วโมงต่อมารถยนต์สมรรถนะเยี่ยมขับเข้าไปจอดในลานจอดรถของร้านอาหารกึ่งผับ เมื่อประตูรถยนต์เปิดออก พนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าด่านแรก ก็รีบก้าวเข้ามาต้อนรับ ถิงลี่หมิงเปิดโทรศัพท์ให้พนักงานรายนั้นดู ว่าตัวเองเป็นหนึ่
“ใครเขาจะไปเชื่อคนแบบคุณ”“อยากลองสินะ”หมับ!มือเล็กยกขึ้นปิดริมฝีปากหยักลึกไว้แน่น ใช้ดวงตาปรามให้คนตัวโตหยุด คนที่ไม่คิดจะแพร่งพรายความลับให้เธอเสียหาย ใช้ริมฝีปากสัมผัสผิวเนียนนุ่มบนอุ้งมือ“อ๊ะ!”ลี่หมิงรีบชักมือกลับ มองคนลวนลามตาขวาง เมื่อเขาไม่สะทกสะท้านก็ลากสายตากลับมาที่แก้วเหล้า ยกมันขึ้นดื่มจนหมด วางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะช้าๆ“ฉันขอกลับก่อนนะพี่”“อ้าว! ทำไมล่ะ?”ซีเหวินถามด้วยความสงสัย คนถูกถามส่งสายตาไปทางสาเหตุ พี่ชายถึงกับส่ายหน้าไปมา“อ่า รบกวนคุณมู่ไปส่งน้องสาวผมหน่อยได้ไหมครับ ดูเหมือนเธอจะเมา”“เมาอะไร ฉันไม่ได้เมานะพี่ อ่า! ก็ได้!”ลี่หมิงรู้สึกโกรธพี่ชาย ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ของเธอเลย มือเล็กเอื้อมไปหยิบแก้วเหล้า ที่ถูกใครสักคนเติมเหล้าลงไปจนเต็ม ดื่มมันรวดเดียวหมด ท่ามกลางความตกใจของใครหลายๆ ยิ่งคนที่เริ่มนับจำนวนแก้วของเธอ ยิ่งตกใจหนักเพราะการดื่มอันรวดเร็ว“อึก! ฉันเมาจริงๆแล้วแหละพี่! ไปส่งฉันด้วยนะ”“รบกวนด้วยนะเฟยหลง”“พี่!”“ขอโทษนะลี่หมิง พี่ต้องดูแลคนอื่นๆ”ลี่หมิงลุกขึ้นยืนด้วยความน้อยใจ ปัดมือที่ยื่นมาช่วยเหลือออก พยุงร่างเดินออกไปอย่างรวดเร็ว อาการวิงเวียนเ
“ใช่ เธอทำ เธอกำลังยั่วฉัน และฉันกำลังจะหมดความอดทน”“ตรงนี้เหรอ?”คนเมาคิดไปไกลกว่าคนพูด มองรอบตัวช้าๆ เมื่อเห็นว่าตัวเองกับเขาอยู่ในรถ สมองก็เกิดความสงสัย แคบขนาดนี้เขายังมีอารมณ์เหรอ แล้วปกติคนอื่นเขาทำกันที่เตียงไม่ใช่หรือไงเอ๊ะ! หรือว่าที่ไหนก็ได้“เธอ … แกล้งฉันหรือเปล่า”“ฉันแค่ถามว่าตรงนี้เหรอ ฉันแกล้งตรงไหน?”“ให้ตายสิ! ฉันชักจะทนไม่ไหวจริงๆแล้วนะ”ถิงลีหมิงไม่รู้ตัวเองเลยหรือไง ว่าร่างกายและสีหน้าของเธอในตอนนี้ มันทั้งยั่วให้มีอารมณ์ ทั้งกลั่นแกล้งให้เขาเกิดความต้องการอย่างหนัก แต่ความสัมพันธ์ที่มันไม่ชัดเจนระหว่างเขากับเธอ มันทำให้เขาทำตัวบุ่มบ่ามไม่ได้ เธอรู้ … แต่ก็ยังยั่วให้เขาหมดความอดทน“คุณทนอะไร ฉันต่างหากที่ต้องอดทน”มือเล็กลูบวนไปตามส่วนโค้งของคาง ลากขึ้นตามกรอบหน้าด้านขวา เลื่อนจนไปหยุดอยู่ด้านหลังท้ายทอยทุยสวย ขยุ้มเส้นผมสีดำสนิทเบาๆ เพื่อระบายอารมณ์ปรารถนา อารมณ์ที่มันเกิดเฉพาะตอนอยู่กับเขา“ทน? เธอทนอะไรล่ะ?”คนถามรู้สึกตื่นเต้น และสนุกเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาคนตรงหน้า คนถูกถามย่นคิ้ว เขาช่ำชองเรื่องแบบนี้มากกว่า แล้วยังมาถามให้เธออับอาย ต้องการแกล้งเธอใช่ไหม แล
“ไปต่อที่ห้องคุณได้ไหม ตรงนี้มันแคบ ฉัน ฉันไม่ชอบเลย”“หึ! กอดฉันไว้สิ”“หะ? เรา จะไปทั้งอย่างนี้เหรอ?”“เร็วสิ! กอดฉันไว้”เฟยหลงเอ่ยเร่ง ไม่อยากให้เธอห่างหาย เพราะอารมณ์ที่กำลังเผาไหม้ มันอาจจะมอดดับลง มือเล็กลดลงไปด้านหลังคอ โอบกอดคนตัวโตไว้ ซบใบหน้าวางบนไหล่ จะได้ไม่บดบังวิสัยทัศน์ขณะขับรถรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว คนตัวโตพยายามผ่อนลมหายใจ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้น เขาอาจจะแวะโรงแรมแถวนี้ แทนการขับรถไปให้ถึงเพนท์เฮ้าส์ของตัวเองที่อยู่ไกลกว่า คนบนตัวก็ขยับหยุกหยิกอยู่ตลอด เหมือนกำลังทดสอบความอดทนของเขาอีกแล้วชั่วโมงต่อมาเพนท์เฮ้าส์หรูกลางเมืองร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ขาเรียวเล็กกอดเกี่ยวสะโพกหนาไว้ เมื่อถูกอุ้มมาหยุดอยู่หน้าประตู ใบหูถูกกระซิบถ้อยคำหวานหยด คนตัวเล็กจึงเงยหน้าขึ้นจากไหล่ ค่อยๆลดขาลงไปทรงตัวยืน“เปลี่ยนใจได้แค่ตอนนี้”“คุณนี่! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”คนตัวเล็กบ่น ขยับใบหน้าไปแผ่นอกเหมือนเดิม ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ เธอคงบอกเขาตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว ไม่ปล่อยให้เขาอุ้มมาถึงตรงนี้หรอก เธอเมาจริงๆ แต่ก็ไม่ได้เมามากจนไม่มีสติ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันเป็นความต้องก
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน