“ฟูหลิน! เธอดื่มไปเยอะแค่ไหนแล้วเนี่ย?”ถามคนที่นั่งไม่ค่อยตรงด้วยน้ำเสียงห่วงใย สังเกตอาการก็พอรู้ ว่าแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเธอนั้น มากพอสมควร เจ้านายบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะมาถึง ซึ่งมันนานเกินไปสำหรับเธอที่ยกแก้วขึ้นกระดก ราวกับกำลังดื่มน้ำ“ยุ่งน่า! วันนี้ฉันเป็นลูกค้าคุณนะ!”“ฉันรู้ แต่มันเยอะเกินไปแล้ว เดี๋ยวกลับไม่ไหว พรุ่งนี้เธอต้องมาทำงานไม่ใช่หรือไง”“มาหรือไม่มา ฉันก็ไม่อดตายหรอกน่า ถอยไปได้แล้วค่ะคุณเฉิน!”ลี่หมิงพยายามคุมอารมณ์ แต่มันยากเพราะวิสกี้ที่เธอดื่มเข้าไป สมองอื้ออึงจนลิ้นเริ่มพันกัน ร่างกายก็โงนเงนไปมาอ่า … เธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่ตื่นนอน เมาเร็วขนาดนี้ เพราะสาเหตุนั้นแน่เลย“เตือนแล้วนะ”“อื้อ ฉันจะดื่มให้น้อยลง”เพราะคุณเฉินทำสีหน้าลำบากใจอยู่หรอกนะ เธอถึงยอมรับปากเขาไป ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ที่นี่ ในตอนที่ตัวเองสติสัมปชัญญะถดถอยลงไป อีกเหตุผลคือเธอรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ เมื่อคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าของสถานที่แต่วันนี้เขาเองก็ติดธุระเหมือนกัน คงไม่มีเวลาว่างมาหวงเธอหรอก คงไปงานนัดดูตัวที่ครอบครัวเขาหาให้ ข่าววงในของเธอบอกมาแบบนั้น“ชิ!
“คุณจะไปส่งฉันใช่ไหม ไปสิ ฉันอยากกลับแล้ว”เฟยหลงขยับมือซ้ายเลื่อนลงต่ำ ช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้ม ใบหน้าสวยหวานซบลงบนอกกว้างแน่น หลับตาลงช้าๆเพื่อซึมซับเอาความอบอุ่นจากร่างแกร่ง รู้สึกถึงการก้าวอยู่ตลอด มั่นใจว่าเขาจะไปส่งเธออย่างที่พูด จึงปล่อยให้สติล่องลอยไปกับห้วงนิทราหมับ!“ปล่อยเธอซะ!”“ใครวะ!”“บอกให้ปล่อย!”“พี่จางหมิ่น! มาที่นี่ได้ยังไง!”“มานี่เลยลี่หมิง!”“ไม่! ปล่อยนะ!”จางหมิ่นพยายามดึงรั้งคนตัวเล็ก ออกมาจากอ้อมกอดของชายแปลกหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยโทสะ หัวใจถูกไฟบางอย่างแผดเผา ยิ่งเห็นเธอซุกตัวเข้าหาอกนั่นอย่างหวาดกลัว เขายิ่งโกรธจัด เปลี่ยนการกระทำของตัวเองรวดเร็ว วาดหมัดใส่คนที่ยืนงงพรึ่บ!“ลี่หมิง?”เฟยหลงหลบหมัดนั้นได้ เพราะเขาเรียนยูโดมาก่อน ถอยมายืนห่างๆ วางคนในอ้อมกอดลงพื้น มองใบหน้าซีดเผือดของคนตรงหน้าอย่างค้นหา มุมปากยกขึ้นสูง เมื่อความจริงบางอย่างกระจ่างชัดก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาเจอกับฟูหลินแล้ว ฟูหลินตัวจริงกำลังเดตอยู่กับถิงซีเหวิน พี่ชายของถิงลี่หมิง การบังเอิญนั้นทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงที่เขาสนใจ ไม่ได้มีชื่อว่าฟูหลิน แต่เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะเป็นถิงลี่หมิง เด็กผู้หญิ
“หลีกทางด้วยค่ะ”น้ำเสียงหวานดังผ่านริมฝีปากอวบอิ่ม ร่างอ้วนท้วนพยายามจะแทรกกายไปด้านซ้าย เพื่อเดินผ่านร่างสูงใหญ่ของเขาไป แต่เฟยหลงขยับตัวตาม ตอนนี้ทั้งเธอและเขา ต่างยืนชิดกำแพงรั้วโรงเรียนเธอแล้ว“ฉันจะไปทางนี้แล้วกัน”“เธอมีเวลาว่างไหม ไปด้วยกันหน่อยสิ”เฟยหลงพยายามเข้าหาเธอให้เป็นธรรมชาติ แบกความรู้สึกผิดไว้บนหลัง แต่ถ้าไม่ทำ เพื่อนของเขาจะไม่เลิกพูดถึงเธอแบบเสียๆหายๆ เขากลัวว่าอู๋ท่งจะไม่หยุดแค่การพูด ถ้าปล่อยให้มันลุกลามมากไปกว่านี้ คนที่ลำบากยังไงก็หนีไม่พ้นเธออยู่แล้ว“พี่โดนตีหัวมาหรือเปล่า”“ฉันปกติดี”“แล้วทำไมถึงมาชวนฉันล่ะ พี่ไม่ชอบฉันไม่ใช่เหรอ?”คนที่มีความสูงน้อยกว่ามาก เอียงศีรษะไปทางขวาเล็กน้อย ดวงตากลมโตฉายความประหลาดใจ ช้อนตามองจนคนถูกจ้องต้องเบือนหน้าหนี ความรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นทีละนิด แต่จะล้มเลิกสิ่งที่คิดจะทำก็ไม่ได้“ฉันแค่ … อยากพิสูจน์บางอย่าง”คนตัวโตไม่ยอมตอบคำถาม เปลี่ยนประโยคเป็นสิ่งที่ตัวเองเกิดความสงสัยอยู่ เขาต้องการพิสูจน์บางอย่างจริงๆ นั่นคือความรู้สึกที่มีต่อเธอ มันคืออะไรกันแน่ เกลียดเธออย่างที่เพื่อนๆเป็นไหม นั่นคือสิ่งที่เขาอยากรู้“อะไรเหรอคะ?”“
หมับ!“ฮึก! พี่คะ! ช่วยฉันด้วย!”“ซูฮวา! มานี่!”“ไม่เอา! อย่าเข้ามานะ ฉันกลัว!”“ถอยไป!”“ชิ!”ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความต่างของร่างกายหรือเปล่า ที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นตัดสินใจเดินหนีไป แต่จะเป็นเพราะอะไรก็ช่าง เขาไม่อยากใช้กำลังมากไปกว่านี้ ร่างสูงหมุนตัวกลับไป ดันคนที่ยังกอดอยู่ออกห่าง แต่ยิ่งดันร่างเธอยิ่งแนบชิด เมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงปล่อยให้เธอกอดอยู่แบบนั้น“ฮึก ฮือๆ”“อย่า ร้องไห้สิ”มือใหญ่ลูบไล้เบาๆบนไหล่เล็ก เขาปลอบใครไม่เป็นเลย เวลาเจอคนร้องไห้ มักจะทำตัวเก้ๆกังๆ นั่นก็เพราะไม่รู้จะปลอบยังไง“ฮึก! พี่ พี่อย่าบอกพี่อู๋ท่งนะ!”“อือ ฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอก”“อื้อ พี่ พี่ช่วยไปส่งฉันที่หอหน่อยได้ไหม ฉันไม่กล้ากลับคนเดียว”“อ่า … อื้อ ไปสิ”เฟยหลงไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้คิดล่วงเกิน และคิดว่าเธอก็ไม่ต่างจากน้องของตัวเองเท่าไหร่ แต่เหมือนเขาจะคิดน้อยไป การที่หญิงชายอยู่ใกล้ชิดกัน มันมักจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นพรึ่บ!“พี่! พี่เกลียดฉันเหรอ?”คนที่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนเอ่ยถาม เมื่อเขาผลักร่างเธอออกห่างเพื่อปฎิเสธ ก่อนหน้านี้เขาไม่ทันระวังตัว ตอนที่ขึ้นมาส่งเธอถึงหน้าห้อง โดนเธอดึ
“พี่รักฉันเหรอ?” ลี่หมิงถาม“ … มันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่พี่ … ชอบเธอนะ”“ฉัน … ขอเวลาคิดหน่อยได้ไหม ฉัน … สับสน”เพราะเขายอมอ่อนข้อให้ เธอจึงอยากได้เวลาในการตัดสินใจ ถ้าเขาเปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ โอกาสก็น่าจะเหมาะกับเขา เรื่องความรู้สึกช่างมันไปก่อน เธอเห็นหลายคู่เลยที่ไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก แต่ก็อยู่กันยืดจนถึงแก่เฒ่า“พี่สัญญาว่าเธอจะเป็นที่หนึ่ง”“ … ไม่ใช่คนเดียวเหรอ?”“หึ! นั่นมันก็อยู่ที่เธอ ถ้าหากเธอทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีพอ เธอยังจะกล้าขอให้พี่มีแค่เธออยู่ไหมละ”“เหอะ! ฉันนึกว่าพี่จะเปลี่ยน แต่พี่ไม่เปลี่ยนเลย น่าผิดหวังจริงๆ”ใบหน้าสวยฉายความเศร้า แววตาเจือความผิดหวัง และหยาดน้ำที่คลอขึ้นมา วูบหนึ่งของความคิด เธอตัดสินใจว่าจะแต่งกับเขา สร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ได้ยินแบบนั้นแล้วมันไม่ไหวจริงๆ และมันจะไม่มีโอกาสให้เขาอีกแล้ว“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอหรอกนะลี่หมิง ถ้าเธอไม่แต่ง ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”มุมปากหยักเหยียดตรง ถอยใบหน้าออกมา มองคนตรงหน้านิ่งๆ ถิงลี่หมิงน่าสนใจก็จริง แต่เธอไม่ได้ดึงดูดมากขนาดนั้น ตอนนี้เขาชอบเธอมาก แต่ในอนาคตเขาไม่รู้ พูดไปแบบนั้นมันคือความจริง ถ
“ดีใจขนาดนั้นเลยหรือไง?”มุมปากหยักคล้ำเหยียดกว้าง ดวงตากลมโตฉายความตกใจสุดขีด คนพูดก้มหน้าลงไปอีก ปล่อยให้หน้าผากของตัวเองสัมผัสกับของเธออย่างตั้งใจ“มาทำไม! คุณรู้แล้วนี่ว่าฉันเป็นใคร มีเหตุผลอะไรให้มาที่นี่”“ปั่นหัวฉันเล่น สนุกมากเลยใช่ไหมลี่หมิง”“มาเพื่อถามแค่นั้นหรือไง? สนุกสิ สนุกมาก!” คนตัวเล็กตอบเสียงห้วน คนที่ถูกปั่นหัว มันน่าจะเป็นเธอมากกว่า“นี่คงจะเป็นตัวตนจริงๆของเธอสินะ ผู้หญิงในคืนนั้นคือภาพมายาที่เธอเอามาใช้ล่อลวงผู้ชายเหรอลี่หมิง ไม่ใช่สิ! ตัวตนในคืนนั้น คือภาพลวงตาที่เธอใช้เพื่อล่อลวงฉันสินะ”เฟยหลงแก้ประโยคสุดท้ายให้มันถูกต้อง คืนนั้นเธอไม่ได้ต้องการล่อลวงใครเลย ตั้งใจมาเพื่อล่อลวงเขาโดยเฉพาะ ใช้รูปลักษณ์น่าหลงใหล ใช้ท่าทางเหมือนเหยื่อล่อลวงให้เขาตกหลุมพลางต้องยอมรับว่าเธอเก่งมาก ที่สามารถล่อลวงเขาได้ภายในคืนเดียว“ปล่อย! ปล่อยนะ”คนตัวเล็กเริ่มดิ้นรนหนี หวาดกลัวสายตาคมเข้มที่อ่านความรู้สึกไม่ได้ เมื่อเธอเริ่มดิ้น เขาก็เริ่มขยับ ดันเธอเข้าไปในห้อง ลี่หมิงรีบร้องขอความช่วยเหลือ“กรี๊ด! อึก! อ่อย!”ร่างเล็กถูกหมุนอย่างรวดเร็ว ถูกดันเข้าหากำแพงห้องด้านใน ประตูถูกขาเ
“อึก!”“อ๊ะ! อูย! เจ็บนะ!”“ฉันก็เจ็บ!”ใบหน้าคมเงยขึ้นมาพูด รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ตัวเองเผลอกัดเต้างามของเธอเข้า แต่คนที่ทำเขาเจ็บก่อน มันเธอไม่ใช่หรือไง“พอ พอแล้วใช่ไหม?”“พอเหรอ แน่ใจเหรอว่าอยากให้ฉันพอแค่นี้?”มือหนาจับขาเรียวแยกออกจากกัน ขาเรียวสวยขาวจนเห็นเส้นเลือดสานทับกันไปมา สายตาคู่คมจับจ้องกางเกงในตัวจิ๋วสีดำสนิท ขยับนิ้วเกี่ยวปราการชิ้นนั้นออกไปช้าๆ ไล้ข้อนิ้วไปมาบนกลีบเนื้อสีสวยที่ดูสดใหม่ ปาดน้ำใสไปมาช้าๆ ช้อนสายตามองคนใต้ร่างอีกครั้ง“ว่าไง? ยังอยากพออยู่ไหม?”“อึก! คุณคิดดีแล้วเหรอ ที่ทำแบบนี้กับฉัน อื้อ!”“ฉันคิดดีแล้ว แล้วเธอล่ะ คิดมาอย่างดีแล้วสินะ ตอนที่เข้าหาฉันน่ะ พร้อมจะรับผลการกระทำของตัวเองหรือยัง”สิ่งที่เขากำลังจะทำกับเธอ ไม่ได้ทำเพราะต้องการเอาชนะ แต่ต้องการใช้ความสัมพันธ์นี้ผูกมัดเธอไว้กับตัวเอง เห็นแก่ตัวมากเขารู้ แต่ให้ทนดูเธอเป็นของคนอื่น มันทำไม่ได้จริงๆ“คุณ ไม่คิดจะเลิกใช่ไหม”“ไม่! ทั้งเลิกทำ หรือแม้กระทั่งเลิกกับเธอ มันไม่มีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัวของฉันเลย”“แล้ว แล้วคุณจะเสียใจ”“ปล่อยเธอไป ฉันจะเสียใจมากกว่า”มือใหญ่รวบเส้นผมดำยาวไปทัดไว้ข้างใบหู
“เมื่อคืนครั้งแรก แล้วคืนนั้นล่ะ?”เฟยหลงเปลี่ยนเรื่อง เขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น เขาเอากับใครกัน ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่เธอ“ทำไม? สงสัยเหรอ ฮะฮ่า” ลี่หมิงแผดเสียงหัวเราะลั่นห้อง เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาฉายความวิตกกังวลออกมา“ผู้หญิงคนนั้น ก็เป็นหนึ่งในแผนการของฉันนะสิ เป็นยังไงล่ะ ติดใจเลยใช่ไหม”“ไม่เด็ดเท่าเธอหรอก”“คนหน้าไม่อาย!”“ก็เธอถาม ฉันก็แค่ตอบ”การต่อล้อต่อเถียงกับเธอ ทำให้อารมณ์ดีมาก ปกติเขาไม่คุยกับคนที่เพิ่งมีอะไรกัน ไม่นอนค้างกับใครด้วย แค่นี้ก็รู้แล้วว่า สำหรับเขา เธอคือคนพิเศษ“ลุกไปได้แล้ว ไม่คิดว่าตัวเองตัวหนักบ้างหรือไง”ลี่หมิงดันแผ่นอกกว้างแรงๆ เฟยหลงยอมถอยออกไปก็จริง แต่เลือกนั่งอยู่ข้างๆตัวเธอ ใช้สายตามองหาเงาของถิงลี่หมิงคนก่อน เมื่อไม่เจอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ“เธอคือถิงลี่หมิงจริงๆสินะ”“ใช่! ฉันคือผู้หญิงคนนั้น ตกใจเหรอที่สุดท้ายแล้ว ก็หนีไม่พ้นคนอย่างฉัน” ลี่หมิงผลักคนที่นั่งอยู่ใกล้มือออกห่าง ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ความปวดร้าวทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดบริเวณกลางกายส่งผลให้น้ำตาคลอ ดวงตาแดงก่ำมองคนทำนิ่งๆ ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอ ทำไมไม่รู้จักอ่อนโย
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน