มหาวิทยาลัย A“อ๊าย ในที่สุดกูก็เรียนจบสักที”ซันนี่ที่เดินออกมาจากอาคารชั้นเรียนกรีดร้องด้วยความดีใจเมื่อการฝึกงานสิ้นสุดลงเธอกับเพื่อนสาวอีกสองคนก็รีบพากันมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อทำเรื่องจบการศึกษาทันทีต่อจากนี้ไปพวกเธอก็ไม่ต้องตื่นแต่เช้าวิ่งหัวฟูเพื่อมาให้ทันเข้าเรียนภาคเช้าอีกแล้ว ฮือ ฮือ น้ำตาจะไหลซันนี่ดีใจที่สุด“เฮ้อ 4 ปีที่แสนทรมานในที่สุดกูหลุดพ้นสักที”ผิงผิงที่เดินตามหลังมาติดๆยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจในกลุ่มพวกเธอทั้งสามคนคนที่เรียนเก่งและรักเรียนที่สุดก็คงจะเป็นกอหญ้าเพื่อนสาวที่เรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งไปครองได้อย่างง่ายดายในขณะที่เธอกับซันนี่นั้นเกรดเฉลี่ยได้แค่สามกว่าๆเท่านั้น“แล้วเรื่องที่บ้านสรุปว่ายังไง ?”สีหน้าของผิงผิงที่เบิกบานใจพลันหม่นหมองลงทันทีเธอลืมคิดไปเลยว่าไม่กี่วันก่อนหน้านี้พ่อของเธอได้เรียกเธอไปคุยถึงเรื่องเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่ต่างประเทศซึ่งเธอได้เอ่ยคัดค้านหัวชนฝาในเมื่อเธอเรียนจบแล้วเธอก็อยากจะพักผ่อนและทำหัวสมองให้โล่งโดยที่ไม่ต้องมานั่งคิดหัวข้อการทำวิจัยหรือรายงานให้วุ่นวายแต่ดูเหมือนบิดาของเธอจะไม่เข้าใจถึงได้ยื่นค
“มึงจริงจัง”กอหญ้าเอ่ยถามด้วยแววตาที่ไหววูบเล็กน้อยถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกตื่นตระหนกตกใจมากแค่ไหนก็ตามแต่ก็ยังคงดึงสติกลับมาได้คืนในเวลาที่รวดเร็วส่วนซันนี่ที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปากก็พยักหน้ารับอย่างไม่อิดออดเธอคิดเพียงว่าอาการของกอหญ้าเหมือนพวกนางเอกละครหลังข่าวคงไม่ได้ตั้งท้องจริงๆเพื่อนสาวของเธอคนนี้ถึงแม้จะหลงใหลคลั่งใคล้ในตัวของภีมวัจน์มากแค่ไหนก็คงไม่ปล่อยให้ตัวเองตั้งท้องก่อนแต่งหรอกจริงไหม ? ขืนตั้งท้องจริงๆแม่แก้มใสคงได้หยิบปืนไล่ยิงคุณภีมวัจน์เหมือนตอนที่รู้ครั้งแรกว่าทั้งสองกำลังคบหาดูใจกันซันนี่เพียงคิดง่ายๆซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงๆแก้มใสก็ตัดใจทำไม่ลงเพราะเป็นตายอย่างไรกอหญ้าก็ไม่ยอมให้เธอลงโทษเจ้าตัวลูกเขยตัวร้ายท่าเดียวทำให้แก้มใสทำได้เพียงยอมจำนนให้ลูกสาวอย่างไม่เต็มใจเท่านั้น“หน้ากูเหมือนคนล้อเล่นมากหรือไงถึงกูจะติดเล่นแต่บางเวลาก็จริงจังนะเว้ยมึง”หลังจากที่กลืนอาหารลงท้องเรียบร้อยแล้วซันนี่ก็เอ่ยตอบกอหญ้าด้วยสีหน้าที่จริงจังส่วนผิงผิงที่นั่งอยู่ข้างๆรีบคว้าจับมือของกอหญ้าเอาไว้ทันที“ไปกันมึง ข้าวทงข้าวเที่ยงไม่ต้องแดกมันแล้วไปตรวจให้รู้กันไปเลยว่าท้องหรือไม่ท้องซั
ห้องฉุกเฉินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งมาทางห้องฉุกเฉินทำให้แก้มใสที่กำลังยืนมองส่งภีมวัจน์เข้าไปในห้องหันกลับมามองผู้มาใหม่ทันทีใบหน้าที่ซีดเซียวดวงตาที่แดงก่ำของกอหญ้าทำให้แก้มใสรู้สึกปวดใจไม่น้อยเธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเพราะเธอเคยผ่านมันมาแล้วแต่สถานการณ์ของภีมวัจน์ครั้งนี้ไม่รู้ว่าหนักหนาสาหัสเพียงใดเพราะเมื่อเธอมาถึงคนก็ถูกเข็นเข้าไปด้านในแล้ว“แม่แก้มขา ฮึก ฮือ แม่แก้ม”ทันทีที่กอหญ้าเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือมารดาร่างบอบบางของเธอก็พุ่งเข้ามากอดมารดาเอาไว้ทันทีน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ตลอดการเดินทางพลันไหลทะลักราวกับดอกไม้ต้องหยาดฝนทำเอาแก้มใสที่ไม่ทันตั้งตัวแววตาถึงกับไหววูบด้วยความตกใจปกติแล้วลูกสาวของเธอนั้นต่อให้เจอกับเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจมากแค่ไหนกอหญ้าก็คือกอหญ้าที่ยังคงไม่หวั่นไหวถึงแม้ว่าในใจจะเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตามแล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมลูกสาวของเธอถึงได้ร้องไห้ราวกับว่าโลกจะถล่มฟ้าจะทลายเช่นนี้ ?“ไม่ร้องนะคนเก่งของแม่ภีมวัจน์ต้องไม่เป็นอะไร แฟนของหนูร้ายกาจขนาดนี้แม่เชื่อว่ายมบาลไม่ชอบขี้หน้าของเขาหรอก”คำพูดติดตลกของแก้มใสไม่ได้ทำให้อารมณ์ที่เจ็บปวดขมขื่นและหดหู่
เช้าวันต่อมาโรงพยาบาล Nเมื่อภีมวัจน์ลืมตาตื่นขึ้นมาภาพที่สะท้อนเข้าสู่สายตาก็คือใบหน้าของชายชราที่วันหลายวันก่อนยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจหากแต่วันนี้กลับต่างออกไปเมื่อใบหน้าที่ภีมวัจน์เห็นนั้นช่างหม่นหมองราวกับว่าคุณปู่ของเขาแก่ลงไปอีกสักสิบปีดวงตาแดงก่ำที่รื้นน้ำตาทำให้ภีมวัจน์รู้สึกปวดใจไม่น้อย“ฟื้นสักทีนะหลานปู่”ยามที่เอ่ยประโยคนี้หยดน้ำตาพลันไหลกลิ้งลงจากหางตาหล่นกระทบลงบนใบหน้าที่เริ่มเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาอย่างมิอาจกลั้นไว้ได้อีกยิ่งทำให้หัวใจของภีมวัจน์หดเกร็งด้วยความเจ็บปวดราวกับมีเข็มนับพันทิ่มแทงหัวใจของเขา“ภีมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณปู่ต้องเป็นห่วง”ภีมวัจน์เอ่ยขอโทษภาสกรด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่ภาสกรกลับส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมยกมือขึ้นลูบหัวหลานชายเบาๆด้วยความรักใคร่เอ็นดูในใจพลันนึกตำหนิตัวเองที่ยอมให้ลูกชายแต่งงานกับคนเลวอย่างดารัณจนทำให้ภีมวัจน์ต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมายตั้งแต่เด็กจนโตก่อให้เกิดปมในใจซึ่งยากที่จะลบเลือนมันไปแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตามทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาที่ทำให้หลานชายต้องตกอยู่ในสภาพนี้“ภีมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดคนที่ผิดคือปู่ต่างหากท
ซ่าน้ำเย็นจัดถูกสาดไปที่ร่างของสองแม่ลูกที่ถูกมัดเอาไว้กับเป้ายิงปืนทำให้ดวงตาที่ปิดสนิทของดารัณค่อย ๆลืมตาตื่นขึ้นด้วยความงุนงงเธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอยังนั่งทานมื้อเย็นกับดนัยอยู่ที่บ้านอย่างมีความสุขแล้วอยู่ ๆเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ก่อนที่ดารัณจะทันได้คิดอะไรออกความรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือฉุดรั้งสติที่กำลังมึนงงและสับสนของดารัณให้กลับคืนมาเธอเพ่งมองข้อมือที่ถูกมัดเอาไว้จนเกิดรอยแดงก่อนที่เสียงกรีดร้องจะดังขึ้นไปทั่วบริเวณด้วยความตกใจ“กรี๊ด ใครก็ได้ช่วยที ช่วยฉันที นัยลูก ฮือ ฮือ ดนัยอยู่ไหนลูกช่วยแม่ด้วย ?”น้ำตาเม็ดโตพลันรินหยดไหลลงอาบแก้มของดารัณไหล่บอบบางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวก่อนที่ดวงตาพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตาจะเหลือบไปเห็นว่าดนัยลูกชายของเธอก็อยู่ที่นี่และถูกมัดไว้โดยที่สภาพไม่ได้ดีไปกว่าเธอเลยสักนิด“นัยลูก นัยตื่นเร็วๆลูก ฮือ ฮือ นัยตื่นเดี๋ยวนี้”เสียงกรีดร้องโวยวายของดารัณทำให้ดนัยที่หมดสติค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบากแสงแดดที่สาดส่องลงมาแยงตาทำให้เขาต้องปิดตาลงอย่างฉับพลันเมื่อไม่สามารถปรับสายตาให้รับกับแสงได้อย่างกะทันหันก่อนที่เขาจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้งใบหน
โรงพยาบาล N“พี่ภีมขา”ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเห็นว่าภีมวัจน์กำลังนั่งพิงพนักเตียงเหม่อมองออกไปด้านนอกเสียงสดใสก็เอ่ยเรียกเขาด้วยความดีใจก่อนที่กอหญ้าจะวิ่งเข้ามาโถมตัวเข้าใส่อ้อมกอดของภีมวัจน์อย่างลืมตัวว่าเขากำลังบาดเจ็บอยู่“อ๊ะ ซี๊ด”เสียงร้องของภีมวัจน์ทำให้ใบหน้าที่เพิ่งจะแนบติดไปกับอกแกร่งของเขาดีดออกมาแทบจะทันทีก่อนที่รอยยิ้มรู้สึกผิดจะถูกส่งไปให้ภีมวัจน์ที่กำลังทำหน้าเหยเกเมื่อรู้สึกเจ็บตรงรอยแผลผ่าตัด“ขอโทษค่ะกอหญ้าคิดถึงพี่ภีมมากเกินไปหน่อย”ภีมวัจน์ใจอ่อนยวบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของกอหญ้าก่อนที่เขาจะดึงเธอเข้ามาโอบกอดพร้อมก้มลงจูบหน้าผากมนด้วยความรักใคร่อย่างสุดซึ้ง“หายไปเล่นสนุกที่ไหนมาคะ ?”ภีมวัจน์เอ่ยถามกอหญ้าทั้ง ๆที่เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอหายไปไหนมา“ไปจัดการสารเลวสองแม่ลูกมาค่ะพรุ่งนี้พี่ภีมรอดูข่าวใหญ่ได้เลยขึ้นหน้าหนึ่งแน่นอน”“แฟนใครน้าทำไมถึงได้เก่งแบบนี้ หืม”ภีมวัจน์เอ่ยถามกอหญ้าเสียงอ่อนเสียงหวานก่อนที่กอหญ้าจะเงยหน้าที่ซบแผ่นอกกว้างขึ้นมาจูบคางของเขาเบาๆสายตาที่มองใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความรักใคร่อย่างสุดซึ้งไม่ต่างจากสายตาของภีมวัจน์ที่มองเธอเลย“ใครใช้ใ
เช้าวันต่อมาข่าวเรื่องที่ดนัยและดารัณวางแผนลอบฆ่าภีมวัจน์กลายเป็นข่าวใหญ่ที่โด่งดังไปทั่วประเทศสองแม่ลูกถูกนำไปทิ้งเอาไว้หน้าสถานีตำรวจพร้อมหลักฐานที่ชี้ชัดว่าทั้งคู่ได้จ้างวานให้คนลอบฆ่าภีมวัจน์มายาวนานนับสิบปีซึ่งทั้งหมดนี่คือฝีมือของกอหญ้าที่ต้องการจะส่งสองแม่ลูกเขาไปใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังต่อให้สองแม่ลูกปฏิเสธหรือพยายามแก้ต่างอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้เมื่อหลักฐานเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างส่วนทางด้านกอหญ้ากับภีมวัจน์นั้นหลังจากที่คุณตากฤษฎิ์คุณยายที่รักและน้าเก้าทัพกับน้านับดาวหอบของมาเยี่ยมมากมายกลับไปแล้วกอหญ้าก็เตรียมตัวพาภีมวัจน์ออกเดินทางไปที่สนามบินส่วนตัวของครอบครัวทันทีเมื่อเธอไปถึงก็พบกับซันนี่และผิงผิงที่มารออยู่ก่อนแล้วกำลังยืนคุยอยู่กับแม่แก้มใสของเธอด้วยท่าทีประหม่าเพราะกลัวจะเผลอหลุดพูดความลับของกอหญ้าออกไป“แม่ฝากหนูซันกับผิงผิงดูแลกอหญ้าด้วยนะลูก”แก้มใสเอ่ยฝากฝังลูกสาวกับเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พยักหน้ารับอย่างแข็งขันราวกับว่าทั้งคู่ได้รับภารกิจที่ยิ่งใหญ่อย่างไรอย่างนั้นเลย“แม่แก้มไม่ต้องห่วงนะคะซันนี่สัญญาว่าจะดูแลพี่ภีมให้ดีที่สุดเลยค่ะ อ๊ะ เจ็บนะนังผิง”ซันนี่หันมาถล
เงาภาพของสองคนที่กำลังพัวพันกันอยู่บนเตียงปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่างที่สาดส่องลงมายังหน้าต่างห้องนอนกอหญ้าที่กำลังนั่งคร่อมอยู่บนตักของภีมวัจน์ยกมือขึ้นโอบรอบคอของเขาเอาไว้พร้อมไล่ขบเม้มตั้งแต่ใบหูลงมาจนถึงริมฝีปากบางเฉียบที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง เธอขบเนื้อนุ่มของเขาเบาๆเป็นการหยั่งเชิงเมื่อเห็นว่าภีมวัจน์ไม่ได้ปฏิเสธกอหญ้าจึงดึงดูดกลีบปากบางจนเกิดรอยก่อนที่เธอจะใช้ลิ้นดันไรฟันของเขาแยกออกจากกันและแทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปควานหาความหอมหวานจากริมฝีปากของภีมวัจน์อย่างหิวกระหายท่าทางอดกลั้นของภีมวัจน์ปลุกให้ความปรารถนาของกอหญ้าลุกฮือลิ้นเล็กของเธอเกี่ยวกระหวัดรัดไล่ลิ้นของเขาอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจมือที่โอบอยู่รอบลำคอเริ่มเลื่อนลงมาลูบไล้บริเวณหน้าอกแกร่งที่มีผ้าพันแผลเธอแตะบริเวณที่เขาถูกยิงเบาๆราวกับต้องการปลอบประโลมความเจ็บของเขาให้หายในเร็ววันก่อนที่เธอจะผละจูบออกด้วยความเสียดาย ภีมวัจน์จ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มแดงฉ่ำของกอหญ้าตาปรอยสองมือยกขึ้นลูบไล้เอวบางภายใต้ชุดนอนที่แทบจะปกปิดความอวบอิ่มของเธอเอาไว้ไม่มิดและไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าร่างกายของกอหญ้าที่เขา