เช้าวันต่อมาAK Groupเสียงซุบซิบนินทาทั้งระยะไกลและระยะเผาขนไม่ได้ทำให้คนที่กำลังเดินเข้ามาภายในอาคารหยุดชะงักเลยแม้แต่น้อยเรียวขาสวยที่โผล่พ้นชุดทำงานแบรนด์ดังยังคงเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงจนกระทั่งหยุดยืนอยู่ข้างๆกลุ่มพนักงานที่กำลังนินทาเรื่องของเธออย่างสนุกสนานโดยที่ทุกคนไม่รู้เลยว่าคนที่พวกเธอกำลังนินทาอยู่นั้นกำลังยืนฟังคำพูดใส่ร้ายป้ายสีนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยพนักงานคนที่ 1 : หน้าตาก็สวยแต่ไม่คิดเลยว่าจะชอบเอาตัวเข้าแลกแบบนี้พนักงานคนที่ 2 : แกก็น่าจะรู้ว่าเด็กสมัยนี้มันร้ายแค่ไหน เพื่อนน้องสาวของฉันบางคนยังยอมเป็นเมียน้อยพวกเสี่ยพุงพลุ้ยเลยแก งานสบายรายได้ดีไม่ต้องทำอะไรแค่นอนอ้าขารอผู้ชายมาหาแค่นั้นเองประโยคสุดท้ายถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะก้มตัวลงไปกระซิบกระซาบเสียงเบามากแค่ไหนแต่คนที่ประสาทสัมผัสไวอย่างกอหญ้าก็ยังคงได้ยินอยู่ดี หึ งานสบายๆแค่นอนอ้าขาอย่างนั้นเหรอ?คนเรานี่ก็แปลกดีเรื่องของตัวเองกลับไม่ยอมใส่ใจทำให้ดีส่วนเรื่องของคนอื่นต่อให้ดีหรือไม่ดีก็มักจะใส่ใจจนเกินคำว่าพอดีพนักงานคนที่ 3 : แกก็พูดเวอร์ไปน้องมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดกันก็ได้ เพิ่งมาฝึกงานว
กอหญ้าเอ่ยบอกเตชินทร์พร้อมฉีกยิ้มรูปพระจันทร์เสี้ยวด้วยความสดใสฉับพลันนั้นเตชินทร์รู้สึกว่ารอยยิ้มของหญิงสาวนั้นเบิกบานน่ามองราวกับว่าตัวเขานั้นกำลังเดินเล่นอยู่ในทุ่งดอกทานตะวัน นี่ขนาดเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ใจแข็งและเย็นชาเหมือนท่านประธานเมื่อเจอรอยยิ้มหวานละมุนของคนตรงหน้าเข้าไปถึงกับใจสั่นเบาๆทีเดียว “คุณกอหญ้าเคยเรียนชงกาแฟมาก่อนเหรอครับ” ท่าทางที่คล่องแคล่วของกอหญ้ายามหยิบจับส่วนผสมทำให้เตชินทร์ที่ยืนอยู่ข้างๆอดที่จะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจไม่ได้“ค่ะ กอหญ้าเคยลงเรียนคอร์สระยะสั้นตอนปิดเทอมซัมเมอร์ที่อิตาลีช่วงนั้นว่างมากคุณแม่เลยส่งไปเรียนชงกาแฟซะเลยจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน” คำตอบที่อยู่เหนือความคาดหมายของเตชินทร์ทำให้เขาถึงกับอึ้งไปเขาไม่คิดเลยว่าคนที่มีฝีปากคมกริบเหมือนลับมีดเป็นประจำอย่างสาวสวยคนนี้จะลงเรียนชงกาแฟเธอไม่ได้มีดีแค่ความสวยแต่กลับมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดให้คนอยากทำความรู้จักและค้นหามากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงตัวเขาเองที่ก็อยากรู้เช่นกันว่านอกจากชงกาแฟแล้วเธอยังทำอย่างอื่นเป็นไหม“รสชาติผ่านอาจารย์ให้เต็มสิบใช่ไหมครับ”“อาจารย์บอกว่าให้สิบเอ็ดไปเ
เสียงสั่นของนาฬิกาปลุกที่ดังอยู่บนหัวเตียงทำให้ร่างบอบบางที่กำลังนอนหลับสนิทค่อยๆขยับเปลือกตาลืมขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนที่เธอจะผุดลุกขึ้นจากเตียงพร้อมยกมือบิดตัวไปมาเพื่อขับไล่ความง่วงงุนที่ยังคงมีอยู่เล็กน้อยหลังจากที่เมื่อวานกลับมาถึงคอนโดกอหญ้าก็ลงมือเตรียมเครื่องปรุงสำหรับมื้อเช้าในวันนี้ทำให้เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว หลังจากที่จัดการล้างหน้าเรียกความสดชื่นและแปรงฟันเรียบร้อยแล้วกอหญ้าก็พาตัวเองออกจากห้องนอนไปที่ห้องครัวเพื่อทำข้าวต้มหมูสับเห็ดหอมมื้อเช้าที่เธอตั้งใจเตรียมให้เขาคนนั้น ในเมื่อเขาไม่ชอบที่จะใส่ใจตัวเองกอหญ้าก็จะขอเป็นคนที่ใส่ใจในตัวเขาแทนก็แล้วกันผู้ชายของเธอๆจะยอมให้เขาสุขภาพไม่ดีได้อย่างไรล่ะจริงไหม? “อืม ฝีมือไม่ตกเลยแฮะ” กลิ่นน้ำซุปที่หอมชวนน้ำลายสอกับรสชาติที่อร่อยลงตัวทำให้กอหญ้าเผยรอยยิ้มรูปพระจันทร์เสี้ยวออกมาด้วยความพึงพอใจกับฝีมือการทำอาหารของตัวเองที่ทุกคนในครอบครัวต่างยกนิ้วให้ด้วยความชื่นชมก่อนที่เธอจะรีบไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเดินทางไปหาใครบางคนที่ตอนนี้คงกำลังนอนหลับอยู่บนที่นอนนุ่มอย่างมีความสุขคอนโด A เสียงกดกริ่งที่ดัง
“คุณดารัณขอเข้าพบท่านประธานค่ะ”กอหญ้าเบ้ปากเล็กน้อยเมื่อได้รับโทรศัพท์จากพนักงานต้อนรับด้านล่างว่าแม่เลี้ยงของภีมวัจน์มาหาหลังจากที่เธอตอบปฏิเสธการเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับแพรวรัมภาตามคำสั่งของภีมวัจน์ หึ ไวจริงๆนะงานเลี้ยงหรืองานจับคู่ดูตัวให้ลูกสาวกันแน่ทำเป็นยกเรื่องต้อนรับกลับบ้านมาจัดงานเลี้ยงใหญ่โตที่จริงก็แค่อยากจัดงานเปิดตัวบุปผาล่อผึ้งแค่นั้นเองคิดว่าเธอมองไม่ออกรู้ไม่ทันหรืออย่างไร ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์“คุณภีมคะ คุณแม่ของคุณแวะมาหาค่ะตอนนี้อยู่ชั้นล่าง”ภีมวัจน์เงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าทันทีเมื่อได้ยินว่าดารัณแวะมาหาเขายกนิ้วขึ้นคลึงขมับเบาๆด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่เร่งสะสางงานมาทั้งวันจนเกือบจะไม่ยอมทานมื้อเที่ยงถ้าไม่ถูกเลขาคนใหม่ที่แสนเจ้าเล่ห์ทั้งบังคับแกมขมขู่เขาคงไม่ยอมเสียเวลาแตะมื้อเที่ยงแม้แต่คำเดียวอย่างแน่นอน เขามีงานอีกมากมายที่ต้องจัดการให้เสร็จเรียบร้อยแต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ยอมรามือทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าเขางานยุ่งมากแค่ไหน หึ ผู้หญิงที่ใช้เสน่ห์หลอกล่อจนบิดาของเขาตกหลุมพรางยอมแต่งงานใหม่ทั้ง ๆ ที่เคยให้คำมั่นสัญญาแก่มารดาของเขาเอาไว้ว่าจะไม่มีทางแต่งงานใหม่เด็ดขา
ภาพสาวสวยที่อยู่ในชุดราตรีสีแดงเพลิงร้อนแรงที่นั่งรอเขาอยู่บนโซฟาด้านล่างคอนโดทำให้ภีมวัจน์ถึงกับชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าใบหน้ารูปไข่เนียนสวยที่มักจะเผยรอยยิ้มรูปพระจันทร์เสี้ยวให้เขาเสมอถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามส่งผลให้ใบหน้าที่เย็นชาของภีมวัจน์แต้มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความความพึงพอใจก่อนที่เขารีบหุบยิ้มทันทีเมื่อกอหญ้าเงยหน้าขึ้นมาทันได้เห็นรอยยิ้มของเขา“ยิ้มแบบนี้ชอบใจที่เห็นกอหญ้าสวยขนาดนี้ใช่ไหมคะ”กอหญ้าเอ่ยถามภีมวัจน์ด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะยื่นแขนของตัวเองออกไปคล้องแขนเขาเอาไว้อย่างมั่นคงซึ่งคนที่ถูกแสดงความสนิทสนมก็ไม่มีความคิดที่จะสะบัดออกแต่อย่างใดในเมื่อเธออยากคล้องแขนก็ตามใจเขาจะไปทำอะไรได้นอกจากตามใจเธอเท่านั้น“หึ เปล่าสักหน่อยหัดคิดเองเออเองตั้งแต่เมื่อไหร่”“แหนะ อย่ามาเฉไฉนะกอหญ้าเห็นชัดเจนเต็มสองตาว่าคุณแอบยิ้มตอนที่เดินออกมาคิดว่ากอหญ้าตาบอดหรือไง”“แล้วคิดว่าตัวเองตาดีมากหรือไงถึงได้เที่ยวบอกว่าคนอื่นเขาแอบยิ้ม”“ตาดีมากแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ตามวอแวกับผู้ชายที่หน้าตาดีเหมือนคุณหรอก”คำพูดชื่นชมพร้อมแววตาที่วาววับทอประกายเจ้าเล่ห์ของกอหญ้าทำให้ภีมวัจน์ถึ
“ไม่คิดเลยว่าพี่ภีมจะกล้าควงเลขามาออกงานสังคมทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับเชิญ”เสียงแมลงหวี่ที่ดังอยู่ข้างหูชวนให้กอหญ้าที่กำลังถือแก้วไวน์ชมดอกไม้อยู่ในสวนถึงกับหันมามองเจ้าของคำพูดดูถูกเหยียดหยามด้วยความสนใจมุมปากของเธอพลันกระตุกน้อยๆก่อนที่จะยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดอย่างไม่แยแสสายตาดูแคลนจากอีกฝ่าย“นึกไม่ถึงว่าเจ้าของงานเลี้ยงในวันนี้จะมีฝีปากคล้ายแม่ค้าแถวๆตลาดที่กอหญ้าเคยไปเลยค่ะ”ประโยคตอบโต้ที่เผ็ดร้อนไร้การให้เกียรติและเกรงใจเจ้าของงานทำให้แพรวรัมภาที่แสร้งทำตัวเป็นเป็นคนดีมีมารยาทมีสีหน้าที่ไม่ชวนมองอีกทั้งดวงตากลมโตยังถลึงใส่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจอีกด้วยซึ่งถ้าอยู่กันเพียงลำพังแพรวรัมภามั่นใจว่าเธอต้องเข้าไปกระชากหัวอีกฝ่ายพร้อมตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้ามั่นๆนั้นจนบวมปูดแน่นอน“ต่อหน้าทำเป็นพูดจาอ่อนหวานลับหลังร้ายกาจสิ้นดีผู้หญิงไร้มารยาทแบบนี้ไม่นานพี่ภีมคงเฉดหัวส่ง”“ดูเหมือนว่าคุณแพรวจะรู้ดีจังเลยนะคะ เมียหลวงก็ไม่ใช่คนใกล้ชิดยิ่งไม่มีทางแค่รู้จักรายทางอย่าสะเออะมาตัดสินใจแทนคนอื่นเขาเลยค่ะว่าเขาจะทำอะไร”“นี่แกกล้าว่าฉันเหรอนังเด็กบ้า”เพราะคิดว่าเป็นงานเลี้ยงของตัวเองอีกทั้งในงานย
เช้าวันนี้กอหญ้ายังคงตื่นแต่เช้าเช่นเคยร่างบางที่สวมเพียงชุดนอนสายเดี่ยวกำลังตัดแบ่งแซนวิชเป็นชิ้นเล็กขนาดพอดีคำอย่างพิถีพิถันพร้อมจัดเรียงใส่กล่องจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปหยิบส้มสายน้ำผึ้งในตู้เย็นมาผ่าแบ่งเป็นสองซีกจนได้จำนวนที่ต้องการจึงลงมือคั้นน้ำส้มและเทใส่ขวดแก้วปิดฝาเรียบร้อยกอหญ้ามองมื้อเช้าที่แสนเรียบง่ายด้วยสายตามีความสุขก่อนที่เธอจะจัดการทำความสะอาดห้องครัวจนกลับสู่สภาพเดิมพร้อมเดินตัวปลิวกลับไปที่ห้องนอนเพื่อจัดการอาบน้ำแต่งตัวสวยๆไปหาภีมวัจน์ที่คอนโดคอนโด Aภีมวัจน์ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างไม่เร่งรีบสองหูก็คอยฟังเสียงกริ่งหน้าห้องที่ตอนนี้ก็ยังคงเงียบกริบคิ้วเข้มของเขาพลันขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจเมื่อคนที่เขารอคอยอยู่นั้นยังเดินทางมาไม่ถึงสักทีหรือว่าวันนี้เธอจะไม่ว่างกันนะอยู่ ๆ ภีมวัจน์ก็รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูกมือที่ติดกระดุมคล้ายจะหมดแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ความรู้สึกหดหู่แบบนี้มันคืออะไรกันแค่เธอไม่มาเขาถึงกับรู้สึกแบบนี้นี่เขาคงไม่ได้ตกหลุมรักเธอแล้วใช่ไหม?กริ๊งเสียงกริ๊งที่ดังขึ้นคล้ายสัญญาณที่ปลุกให้ภีมวัจน์ตื่นจากภวังค์ความรู้สึกหดหู่ก่อนหน
หลังจากมาถึงที่ทำงานเมื่องานที่กองเท่าภูเขาถูกจัดการจนเสร็จเรียบร้อยแล้วภีมวัจน์ก็เริ่มโปรเจ็กต์งานใหม่ทันทีซึ่งครั้งนี้เป็นการหานักออกแบบเครื่องประดับคนใหม่มาร่วมงานแทนคนเก่าที่ไม่พอใจเรื่องผลประโยชน์และขอยกเลิกสัญญาไปเพราะคิดว่าฝีมือการออกแบบของตัวเองนั้นสวยงามเป็นที่ต้องการของตลาดซึ่งจริงๆแล้วน้อยคนนักที่จะรู้จักชื่อนักออกแบบคนนี้“วันนี้มีประชุมตอนบ่ายสามนะคะ”ภีมวัจน์พยักหน้ารับโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังตั้งใจอ่านอยู่เพราะเข้ารู้อยู่แล้ว่ากอหญ้ากำลังจับตามองเขาอยู่ซึ่งหลังจากที่ทำงานร่วมกันมาสักพักภีมวัจน์จึงได้รู้ว่าเธอเป็นคนที่ช่างสังเกตุและจับความรู้สึกของคนได้ไวมากไม่มีการแสดงออกไหนบนใบหน้าที่จะรอดพ้นสายตาของเธอไปได้เลยยิ่งยามที่สนทนาเพื่อขอความคิดเห็นจากเธอดวงตากลมโตที่ทอประกายสดใสคู่นั้นแทบจะไม่ละไปจากใบหน้าของเขาเลย“ยอดขายเครื่องเพชรไม่เป็นไปตามเป้าเหรอคะ?”คำถามของกอหญ้าทำให้คิ้วเข้มของภีมวัจน์เลิกขึ้นน้อยๆก่อนที่เขาจะยอมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ก็พบว่ากอหญ้ากำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่แล้ว“อืม ยอดขายลดลงมากทีเดียวหลังๆมานี่แทบมองไม่เห็นกำไรไม