“ไม่คิดเลยว่าพี่ภีมจะกล้าควงเลขามาออกงานสังคมทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับเชิญ”เสียงแมลงหวี่ที่ดังอยู่ข้างหูชวนให้กอหญ้าที่กำลังถือแก้วไวน์ชมดอกไม้อยู่ในสวนถึงกับหันมามองเจ้าของคำพูดดูถูกเหยียดหยามด้วยความสนใจมุมปากของเธอพลันกระตุกน้อยๆก่อนที่จะยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดอย่างไม่แยแสสายตาดูแคลนจากอีกฝ่าย“นึกไม่ถึงว่าเจ้าของงานเลี้ยงในวันนี้จะมีฝีปากคล้ายแม่ค้าแถวๆตลาดที่กอหญ้าเคยไปเลยค่ะ”ประโยคตอบโต้ที่เผ็ดร้อนไร้การให้เกียรติและเกรงใจเจ้าของงานทำให้แพรวรัมภาที่แสร้งทำตัวเป็นเป็นคนดีมีมารยาทมีสีหน้าที่ไม่ชวนมองอีกทั้งดวงตากลมโตยังถลึงใส่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจอีกด้วยซึ่งถ้าอยู่กันเพียงลำพังแพรวรัมภามั่นใจว่าเธอต้องเข้าไปกระชากหัวอีกฝ่ายพร้อมตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้ามั่นๆนั้นจนบวมปูดแน่นอน“ต่อหน้าทำเป็นพูดจาอ่อนหวานลับหลังร้ายกาจสิ้นดีผู้หญิงไร้มารยาทแบบนี้ไม่นานพี่ภีมคงเฉดหัวส่ง”“ดูเหมือนว่าคุณแพรวจะรู้ดีจังเลยนะคะ เมียหลวงก็ไม่ใช่คนใกล้ชิดยิ่งไม่มีทางแค่รู้จักรายทางอย่าสะเออะมาตัดสินใจแทนคนอื่นเขาเลยค่ะว่าเขาจะทำอะไร”“นี่แกกล้าว่าฉันเหรอนังเด็กบ้า”เพราะคิดว่าเป็นงานเลี้ยงของตัวเองอีกทั้งในงานย
เช้าวันนี้กอหญ้ายังคงตื่นแต่เช้าเช่นเคยร่างบางที่สวมเพียงชุดนอนสายเดี่ยวกำลังตัดแบ่งแซนวิชเป็นชิ้นเล็กขนาดพอดีคำอย่างพิถีพิถันพร้อมจัดเรียงใส่กล่องจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปหยิบส้มสายน้ำผึ้งในตู้เย็นมาผ่าแบ่งเป็นสองซีกจนได้จำนวนที่ต้องการจึงลงมือคั้นน้ำส้มและเทใส่ขวดแก้วปิดฝาเรียบร้อยกอหญ้ามองมื้อเช้าที่แสนเรียบง่ายด้วยสายตามีความสุขก่อนที่เธอจะจัดการทำความสะอาดห้องครัวจนกลับสู่สภาพเดิมพร้อมเดินตัวปลิวกลับไปที่ห้องนอนเพื่อจัดการอาบน้ำแต่งตัวสวยๆไปหาภีมวัจน์ที่คอนโดคอนโด Aภีมวัจน์ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างไม่เร่งรีบสองหูก็คอยฟังเสียงกริ่งหน้าห้องที่ตอนนี้ก็ยังคงเงียบกริบคิ้วเข้มของเขาพลันขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจเมื่อคนที่เขารอคอยอยู่นั้นยังเดินทางมาไม่ถึงสักทีหรือว่าวันนี้เธอจะไม่ว่างกันนะอยู่ ๆ ภีมวัจน์ก็รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูกมือที่ติดกระดุมคล้ายจะหมดแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ความรู้สึกหดหู่แบบนี้มันคืออะไรกันแค่เธอไม่มาเขาถึงกับรู้สึกแบบนี้นี่เขาคงไม่ได้ตกหลุมรักเธอแล้วใช่ไหม?กริ๊งเสียงกริ๊งที่ดังขึ้นคล้ายสัญญาณที่ปลุกให้ภีมวัจน์ตื่นจากภวังค์ความรู้สึกหดหู่ก่อนหน
หลังจากมาถึงที่ทำงานเมื่องานที่กองเท่าภูเขาถูกจัดการจนเสร็จเรียบร้อยแล้วภีมวัจน์ก็เริ่มโปรเจ็กต์งานใหม่ทันทีซึ่งครั้งนี้เป็นการหานักออกแบบเครื่องประดับคนใหม่มาร่วมงานแทนคนเก่าที่ไม่พอใจเรื่องผลประโยชน์และขอยกเลิกสัญญาไปเพราะคิดว่าฝีมือการออกแบบของตัวเองนั้นสวยงามเป็นที่ต้องการของตลาดซึ่งจริงๆแล้วน้อยคนนักที่จะรู้จักชื่อนักออกแบบคนนี้“วันนี้มีประชุมตอนบ่ายสามนะคะ”ภีมวัจน์พยักหน้ารับโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังตั้งใจอ่านอยู่เพราะเข้ารู้อยู่แล้ว่ากอหญ้ากำลังจับตามองเขาอยู่ซึ่งหลังจากที่ทำงานร่วมกันมาสักพักภีมวัจน์จึงได้รู้ว่าเธอเป็นคนที่ช่างสังเกตุและจับความรู้สึกของคนได้ไวมากไม่มีการแสดงออกไหนบนใบหน้าที่จะรอดพ้นสายตาของเธอไปได้เลยยิ่งยามที่สนทนาเพื่อขอความคิดเห็นจากเธอดวงตากลมโตที่ทอประกายสดใสคู่นั้นแทบจะไม่ละไปจากใบหน้าของเขาเลย“ยอดขายเครื่องเพชรไม่เป็นไปตามเป้าเหรอคะ?”คำถามของกอหญ้าทำให้คิ้วเข้มของภีมวัจน์เลิกขึ้นน้อยๆก่อนที่เขาจะยอมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ก็พบว่ากอหญ้ากำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่แล้ว“อืม ยอดขายลดลงมากทีเดียวหลังๆมานี่แทบมองไม่เห็นกำไรไม
“ท่านประธานคะคุณดนัยขอเข้าพบค่ะ”ทันทีที่พนักงานต้อนรับจากชั้นล่างที่พาดนัยมาพบเขาส่งเสียงแจ้งเรื่องภีมวัจน์ที่ยังไม่ทันขานตอบอนุญาตประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างอุกอาจทันทีทำให้ภีมวัจน์ที่กำลังยกมือเช็ดริมฝีปากที่เปื้อนเลือดถึงกับชะงักไปด้วยความไม่พอใจที่อยู่ ๆ น้องชายต่างมารดาก็เปิดประตูเข้ามาในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตส่วนกอหญ้าที่กำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะก็หันกลับมามองแขกที่บุกเข้ามาในห้องด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจเช่นกันที่ผ่านมาเธอพบเห็นคนที่ไม่มีมารยาทมามากแต่ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเดินเข้ามาในห้องโดยที่ไม่รอคำอนุญาตเลยแม้แต่คำเดียวช่างใจกล้ามากจริงๆ“โอ๊ะโอ๋ ผมมาขัดจังหวะความหวานหรือเปล่าครับ?”คำพูดหยอกล้อที่ไร้ความเกรงใจของผู้มาใหม่ทำให้กอหญ้าตวัดสายตาดุดันมองอีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบังเพื่อให้เขารู้ว่าเธอไม่ชอบใจคำพูดของเขาอีกทั้งสายตาแทะโลมของเขาที่กำลังมองเธออยู่นี่มันอะไรกันทั้ง ๆ ที่ภีมวัจน์ยังนั่งอยู่ตรงนี้แต่ผู้ชายคนนี้กลับใช้สายตาโลมเลียแทะโลมเธออย่างไม่เกรงใจกันเลยสักนิดเดี๋ยวแม่ก็จิกให้ตาบอดเสียเลยนี่ไอ้คนหื่นกาม“จะพูดจะจาอะไรก็ระวังปากหน่อยที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านและก็ไม่
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้กอหญ้าก็รีบเก็บเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจกลับคืนมาทันทีพร้อมปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือใบหน้าซื่อ ๆ ตาใส ๆ ที่เธอจงใจแสดงออกมาเพื่อไม่ให้ภีมวัจน์จับผิดเธอได้ เธอไม่ได้อยากปิดบังตัวตนที่แท้จริงแต่ก็ไม่อยากจะบอกเขาว่าเธอคือใครเธออยากใช้ตัวตนลูกคนรวยที่ชอบสืบเรื่องชาวบ้านมามัดหัวใจของเขามากกว่าลูกหลานตระกูลพิสิฐกุลวัตรดิลกเพราะเธอก็อยากจะทดสอบความรักและความจริงใจของเขาเช่นกันถึงแม้ว่าการคิดแบบนี้อาจจะดูคล้ายสาวน้อยที่กำลังเพ้อฝันแต่เธอระลึกอยู่เสมอว่าใจคนไม่แน่นอนบางทีถ้าเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอเขาอาจจะกระโจนกางเขี้ยวเล็บตะครุบเธอเพราะหวังจะพึ่งพาบารมีและนามสกุลของครอบครัวเธอก็ได้เพราะฉะนั้นเธอก็จงเป็นกอหญ้า การต์รวี เกียรติมงคลรัตน ต่อไปแล้วก็มารอดูกันว่าเธอจะสามารถใช้ตัวตนนี้พิชิตใจของภีมวัจน์ได้ไหม“คุยเรื่องอะไรกันคะผัวจ๋าอยากคุยอะไรกับเมียว่ามาเลยจ้ะ”น้ำเสียงอ่อนหวานออดอ้อนของกอหญ้าไม่ได้ทำให้ใบหน้ามึนตึงของภีมวัจน์คลายลงได้เลยเขายังคงจ้องมองใบหน้าที่สวยราวกับภาพวาดของกอหญ้าด้วยสายตาเข้มครึมในใจพลันครุ่นคิดอยู่เงียบ
Blood moon pubเมื่อเดินทางมาถึงผับที่นัดหมายหัวคิ้วของกอหญ้าก็ขมวดเข้าหากันจนแทบผูกโบว์เมื่อผับที่นัดคุยงานมีการ์ดตัวโตเฝ้าอยู่หน้าทางเข้าดูน่ากลัวพอสมควรที่นี่ดูเหมือนถิ่นของมาเฟียมากกว่าที่จะเป็นผับชื่อดังสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาหาความสุขและสนุกจากที่นี่เสียอีก กอหญ้าแอบหันหน้าไปทางด้านหลังเล็กน้อยก่อนที่เธอจะขยิบตาให้จินกับจิโร่ลูกน้องคู่ใจที่คอยตามดูแลเธอมาตลอดคนที่เธอยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อตัวพวกเขามาจากมารดาเพียงเพราะไม่ต้องการให้ทั้งคู่รายงานเรื่องของภีมวัจน์ให้มารดารับรู้ซึ่งทั้งคู่ก็ปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดีที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะค่าจ้างมหาศาลที่ได้รับแต่เพราะทั้งคู่คอยตามดูแลกอหญ้ามาตั้งแต่ห้าขวบความรักและความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้คุณหนูกอหญ้าจึงมากกว่าความภักดีที่มีให้มารดาของเด็กสาวอย่างแก้มใสอยู่เล็กน้อยความลำเอียงจึงเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวทำให้ทั้งคู่ยอมทำผิดกฎเพื่อช่วยให้คุณหนูสมหวังในความรักที่แม้อาจจะดูขัดตาขัดใจทั้งคู่ไปบ้างแต่เพื่อความสุขของคุณหนูกอหญ้าแล้วทั้งคู่ยอมทุ่มเทเต็มที่“ทำไมมันดูน่ากลัวลึกลับจังเลยค่ะ พอเมาแล้วจะโดนคนลากไปทำมิดีมิร้ายไหมคะ”กอหญ
เมื่อเข้ามาในห้องภีมวัจน์ก็ปล่อยให้กอหญ้าเป็นอิสระแต่กอหญ้ากลับเข้ามาเกาะแกะเขาไม่หยุดมือเรียวบางพยายามที่จะแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกใบหน้าสวยเนียนในยามนี้แดงระเรื่อเต็มไปด้วยอารมณ์กระหายในความใคร่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งๆที่พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว“กอหญ้าไม่เอาแบบนี้ ปล่อยผมก่อนคนดี”ถึงแม้กลิ่นกายที่หอมกรุ่นผสมกลิ่นเหล้าจางๆจะกระตุ้นอารมณ์ดิบของเขาให้พลุ่งพล่านมากแค่ไหนแต่ภีมวัจน์ก็ไม่อาจทำตัวเป็นคนเลวช้าต่ำทรามที่ล่วงเกินสาวงามตอนที่ไม่มีสติไม่ได้หรอก เขาไม่เคยใช้กำลังบังคับใครและก็ไม่เคยนอนกับใครโดยที่ไม่เต็มใจเพราะฉะนั้นในเวลานี้เขาจึงต้องตั้งสติและพยายามประคองความเป็นสุภาพบุรุษของตัวเองเอาไว้สุดกำลัง“อื้อ คุณภีมขา ให้กอหญ้าเถอะนะคะคนดีขอหญ้าขอ”เสียงหวานกระเส่าร้องขอภีมวัจน์อย่างลืมอายเมื่อความต้องการสั่งให้มือของเธอออกแรงดึงกระชากเสื้อของภีมวัจน์ที่ตอนนี้ขาดตามแรงดึงของเธอก่อนที่กอหญ้าจะถูกภีมวัจน์พาตัวเข้ามาในห้องน้ำและยืนอยู่ใต้ฝักบัวเขากดปุ่มปรับอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ในระดับที่ไม่เย็นมากจนเกินไปก่อนที่สายน้ำเย็นฉ่ำจะราดรดลงบนตัวของกอหญ้าที่หยุดชะงักมือที่กำลังดึงกระ
เช้าวันต่อมาลมหายหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้กอหญ้าที่แอบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของภีมวัจน์เผยรอยยิ้มหวานละมุนออกมาอย่างยากที่ใครจะได้พบเห็นกันง่ายๆเพราะไม่เคยแยแสสิ่งใดและไม่เคยสนใจใครรอยยิ้มที่งดงามในยามนี้ของกอหญ้าจึงมีเพียงแค่ครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่มักจะได้เห็นจนชินตาและตอนนี้กอหญ้าก็เพิ่มภีมวัจน์เข้ามาเป็นคนสำคัญอีกคนที่จะได้เห็นรอยยิ้มหวานละมุนเช่นนี้ของเธอในทุกๆวันไปจนตลอดชีวิตของเขา“ขี้เซาจริงๆเลยนะพ่อคุณทูนหัว”กอหญ้ายื่นนิ้วไปจิ้มที่แก้มของภีมวัจน์เบาๆด้วยความเอ็นดูในยามที่ผู้ชายคนนี้หลับเขาก็แค่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูไร้พิษสงแต่อย่าให้เขาตื่นขึ้นมาเชียวน้าฝีปากพ่อคมกริบพ่นมลพิษออกมาฆ่าคนตายได้ไม่แพ้เธอเลยทีเดียว หึ ผู้ชายแบบนี้แหละที่คู่ควรกับตำแหน่งสามีของเธอถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่เก่งเรื่องการต่อสู้หรือสืบข่าวเรื่องราวของใครเธอก็ไม่ติดเพราะสิ่งที่พูดมานั้นเธอล้วนเก่งกาจไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่คอยพึ่งพาผู้ชายอยู่ฝ่ายเดียวและเธอก็หวังว่าตัวเองจะเป็นที่พึ่งพาให้ผู้ชายที่เป็นคนรักของเธอได้เช่นกันเธอรู้ดีว่าภายใต้ใบหน้าที่เย็นชาไร้รอยยิ้มนั้นซ่อนความ
โรงเรียนอนุบาลมือเล็กขาวนุ่มนิ่มของเด็กชายตัวน้อยค่อยๆยื่นไปอุ้มเจ้าลูกแมวตัวเล็กที่ส่งเสียงร้องด้วยความสงสารดวงตากลมโตราวกับผลองุ่นจ้องมองแมวน้อยด้วยแววตาทอแสงเป็นประกายก่อนที่เด็กชายจะยื่นเจ้าแมวสีขาวที่เลอะคราบดินให้เด็กชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออกพร้อมกับหันกลับไปอุ้มเจ้าแมวน้อยอีกตัวมาไว้ในอ้อมแขนพีร์ รณพีร์ : เราจะพาเจ้าแมวน้อยสองตัวนี้กลับไปเลี้ยงจริงๆเหรอครับพี่ภาคย์ ?เด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชายด้วยสีหน้ากังวลใจเพราะเขากลัวว่าบิดาและมารดาจะไม่เอ็นดูเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนเหมือนเขากับพี่ชายที่รู้สึกสงสารลูกแมวน้อยที่กำพร้าแม่ตั้งแต่แรกเห็นพี่ชายของเขาจึงตัดสินใจที่จะพาเจ้าตัวเล็กทั้งสองกลับไปด้วยเพื่อขออนุญาตบิดาและมารเลี้ยงเอาไว้ภาคย์ ภูบดินทร์ : อืม แมวน้อยน่าสงสารไม่มีแม่แล้วต่อไปเราสองคนต้องตั้งใจเลี้ยงให้ดีนะรู้ไหม ?ผู้เป็นพี่ชายเอ่ยบอกน้องชายด้วยรอยยิ้มก่อนที่สองพี่น้องจะพากันเดินไปที่หน้าโรงเรียนเพื่อนั่งรอบิดากับมารดามารับระหว่างทางที่เดินไปเด็กสาวบางคนต่างก็หันมาจ้องมองพี่น้องฝาแฝดด้วยความสนใจบางคนถึงกับแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอายแต่เด็กชายทั้งสอ
เวลาที่ผ่านไปวันแล้ววันเล่าในที่สุดกำหนดคลอดของกอหญ้าก็ใกล้เข้ามาทุกทีทุกคนในครอบครัวต่างพากันตื่นเต้นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะบรรดาผู้อาวุโสอย่างคุณตากฤษฎิ์ คุณยายที่รัก รวมไปถึงคุณปู่ภาสกรของภีมวัจน์ที่ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจเนื่องจากท้องของกอหญ้านั้นค่อนข้างใหญ่มากเพราะเจ้าเด็กตัวอ้วนในท้องนั้นเป็นเด็กแฝด ซึ่งตั้งแต่นั้นมาทุกคนต่างก็สั่งห้ามไม่ให้เธอเข้าครัวทำอาหารแต่มีหรือที่คนดื้อรั้นอย่างกอหญ้าจะฟังทันทีที่ไร้สายตาคอยจับจ้องกอหญ้าก็ยังคงเพลิดเพลินกับการเรียนรู้วิธีทำอาหารที่หลากหลายเหมือนเดิมจนกระทั่งเหลือเวลาอีกเพียงสามอาทิตย์ก่อนที่เธอจะคลอดกิจกรรมที่เธอชอบทำทุกอย่างจึงถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดซึ่งกอหญ้าก็ยอมเชื่อฟังแต่โดยดีเพราะตอนนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไรเธอจึงทำได้เพียงแค่นั่งๆนอนๆจนแทบจะขึ้นรากลายเป็นปลาเค็มตากแห้งอยู่แล้ววันนี้เธอจึงถือโอกาสที่ภีมวัจน์หยุดงานชวนเขาออกมาเดินเล่นด้านล่างเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ดีกว่านอนอุดอู้อยู่ภายในบ้าน“หืม ทำไมคุณตากับคุณยายถึงได้มาอยู่ที่นี่ล่ะคะ ? แล้วนั่นใช่คุณปู่ของพี่ภีมไหมคะ ?”เมื่อเดินมาถึงบริเวณสวนดอกไม้สายตาของกอหญ้าก็พลัน
เมื่อเดินทางกลับมาจากฮันนีมูนภีมวัจน์ก็กลับไปทำงานตามปกติส่วนกอหญ้าที่อายุครรภ์เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆก็มองหากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้ตัวเองว่างจนฟุ้งซ่านเมื่อต้องอยู่บ้านเพียงลำพังในช่วงที่เพิ่งกลับมาจากฮันนีมูนกอหญ้าเคยขอตามภีมวัจน์ไปที่บริษัทเพื่อช่วยเขาทำงานแต่กลับถูกวาจาออดอ้อนอ่อนหวานที่บอกให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลครรภ์ใจของกอหญ้าพลันอ่อนยวบและยอมทำตามคำขอร้องของสามีอย่างว่าง่ายเพราะเธอเข้าใจดีว่าภีมวัจน์นั้นเป็นห่วงเธอกับลูกกิจกรรมที่กอหญ้าเลือกทำในระหว่างที่พักผ่อนอยู่บ้านส่วนใหญ่แล้วเธอจะเปิดเพลงฟังพร้อมทั้งทำอาหารไปด้วยซึ่งตั้งแต่ที่เดินทางกลับจากฮันนีมูนกอหญ้าก็เริ่มมีความสนใจอยากจะเรียนทำอาหารจีนแล้วเพราะก่อนหน้านี้ตอนที่เธออยู่อิตาลีเธอเคยลงเรียนทำอาหารและขนมหลักสูตรระยะสั้นช่วงปิดเทอมทำให้กอหญ้ามีความรู้เรื่องการทำอาหารไม่น้อยและครั้งนี้กอหญ้าเริ่มเรียนรู้การทำอาหารด้วยตัวเองโดยการดูจากสื่อตามช่องทางต่างๆด้วยความที่เธอเป็นคนหัวไวเรียนรู้เพียงไม่นานฝีมือการทำอาหารของกอหญ้านั้นเรียกได้ว่าพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากยิ่งกว่าแม่แก้มใสของเธอเสียอีกและวันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่ก
หลังจากที่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยและส่งบรรดาคุณลุงคุณป้าคุณปู่คุณย่ารวมไปถึงน้อง ๆของกอหญ้ากลับต่างประเทศเรียบร้อยแล้วภีมวัจน์ก็จัดการโยนงานทั้งหมดให้เตชินทร์ดูแลทันทีทำเอาคนที่เพิ่งไปเที่ยวกลับมาอย่างมีความสุขหน้าหงิกหน้างอไม่น่ามองไปหลายวันเลยทีเดียว ยังดีที่กลับมาจากต่างประเทศครั้งนี้เตชินทร์มีเคทกลับมาด้วยในฐานะแฟนทำให้เขาที่เคยถูกทอดทิ้งให้ทำงานคนเดียวเพียงลำพังไม่ต้องอยู่อย่างเหงาๆอีกต่อไปอีกทั้งยังมีพ่อตากับแม่ยายของท่านประธานที่คอยช่วยงานเตชินทร์จึงไม่ค่อยกังวลใจสักเท่าไรมีเพียงความโมโหเล็กน้อยจากการที่ถูกท่านประธานช่วงชิงเวลาที่เขาจะสวีทหวานกับเคทไปเท่านั้นที่ทำให้เตชินทร์โมโหจนเผลอก่นด่าเจ้านายไปหลายคำทีเดียวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนอึกกอหญ้าลอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายเมื่อเห็นคนต่อแถวซื้อชานมชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยก่อนหน้าที่เธอจะเลือกเดินทางมาฮันนีมูนที่ประเทศจีนเธอได้หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารชื่อดังเอาไว้มากมายหลายร้านทีเดียวและเมนูชานมไข่มุกก็คือเมนูแรกที่เธออยากจะลองชิมหลังจากที่เดินทางมาถึงที่นี่“พี่ภีมขากอหญ้าอยากกินชานมร้านนั้น”กอหญ้าเอ่ยบอกภีม
เมื่อขบวนเจ้าบ่าวมาถึงทุกคนถึงกับรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะกับด่านประตูเงินประตูทองที่ดูเหมือนเป็นด่านศูนย์รวมคนหน้าตาดีที่หน้าตาหล่อเหลาคมคายยิ่งกว่าดาราชื่อดังเสียอีกสาวๆที่มากับขบวนแห่ขันหมากต่างพากันหน้าแดงหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นจนกระทั่งเริ่มด่านประตูเงินประตูทองด่านแรกสาวๆที่หน้าแดงก่อนหน้านี้พลันยิ้มไม่ออกในทันทีเมื่อเงื่อนไขของการผ่านด่านนั้นยากจนเกินไปรามสูร : จะถอยก็ได้นะถ้าสู้ไม่ไหวน้ำเสียงของรามสูรฟังดูเนือยๆก็จริงแต่สายตาที่เขากำลังมองไปที่ภีมวัจน์กลับทำให้เจ้าตัวรู้สึกชาวาบที่หนังศีรษะในใจพลันลอบคิดว่านี่เป็นการมองข่มขู่อย่างไรสุ้มเสียงและไม่ยอมให้เขาปฏิเสธซึ่งภีมวัจน์เองก็ไม่คิดที่จะเอ่ยปฏิเสธแต่อย่างใดนี่คืองานแต่งของเขาเชียวน้ากว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมถอยขนาดด่านทดสอบความแข็งแกร่งของแม่แก้มใสเขายังผ่านมาได้เลยนับประสาอะไรกับแค่ด่านประตูเงินประตูทองด่านแรกที่เขาต้องกินอาหารตรงหน้าให้หมดภาสกร : หลานจะกินหมดนี่จริงๆเหรอ ?ภาสกรที่ยืนอยู่ข้างๆภีมวัจน์เอ่ยถามด้วยความกังวลระคนห่วงใยเมื่อเห็นเมนูอาหารที่อยู่ตรงหน้าซึ่งรสชาติอย่าใ
“ฮึก คุณปู่ขา ฮือ ฮือ”กอหญ้าโผเข้าสู่อ้อมกอดของเรียวอิจิที่อ้าแขนกว้างโอบรั้งหลานสาวเข้าสู่อ้อมกอดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจฝ่ามือใหญ่ที่คอยอุ้มชูเธอมาตั้งแต่เด็กค่อยๆลูบหลังที่สะสั่นท้านด้วยแรงสะอื้นอย่างปลอบโยนในขณะที่กอหญ้ารีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลด้วยความดีใจอย่างลวกๆยังดีที่เครื่องสำอางที่ช่างใช้แต่งหน้าให้เธอคือชนิดกันน้ำไม่อย่างนั้นใบหน้าของเธอคงเลอะไปด้วยคราบเครื่องสำอางอย่างแน่นอน“ไม่ร้องนะคนเก่งของปู่วันนี้หนูสวยมากๆขืนร้องไห้อีกคนสวยของปู่คงได้กลายเป็นคนขี้เหร่แน่ ๆ”น้ำเสียงอ่อนโยนของเรียวอิจิเอ่ยชมหลานสาวด้วยภาษาญี่ปุ่นที่เขามักจะใช้พูดคุยกับหลานสาวเป็นประจำเพราะว่าเรียวอิจิอยากให้กอหญ้าเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆเขาจึงมักจะใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดคุยสนทนากับหลานสาวอยู่เสมอจนกระทั่งกอหญ้าค่อยๆซึมซับภาษาญี่ปุ่นทีละน้อยจนกลายเป็นว่าสามารถพูดได้คล่องในที่สุด“กอหญ้าแค่ดีใจมากไปหน่อยน่ะค่ะก็เลยกลั้นไว้ไม่อยู่ว่าแต่คุณปู่มาได้ยังไงคะเนี่ย ?”“เฮอะ แต่งงานทั้งทีก็ไม่คิดจะส่งข่าวไปบอกปู่บ้างเลยนะเรา”เรียวอิจิแค่นเสียงเฮอะขึ้นจมูกพร้อมตอบกลับหลานสาวด้วยน้ำเสียงแง่งอนทำให้กอหญ้าได้แ
เช้าวันต่อมารามสูรค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบากทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองคล้ายกำลังถูกบางสิ่งบางอย่างทับอยู่ร่างสูงจึงลุกขึ้นพรวดด้วยความตกใจทำให้กอหญ้าที่ปีนขึ้นมานอนบนตัวของพี่ชายราวกับเด็กน้อยลื่นไถลลงบนที่นอนทันทีทำเอาคนขี้เซาถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเช่นกัน ดวงตาคู่งามกระพริบปริบๆด้วยความงุนงงก่อนที่จะสบเข้ากับดวงตาที่ดูไม่สบอารมณ์ของรามสูรทันใดนั้นกอหญ้าก็ตื่นเต็มตาทันทีในใจพลันมีลางสังหรณ์ไม่ดีเธอจึงรีบขยับตัวออกห่างจากพี่ชายอย่างเนียนๆแต่ก็ช้ากว่ารามสูรที่ยื่นขามาถีบก้นของกอหญ้าเบาๆคนทั้งคนก็ถลาล้มลงไปนอนราบบนเตียงอย่างหมดสภาพ็ช้ากสวว่รมสรท“เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยปีนขึ้นมานอนบนตัวคนอื่นแล้วนอนน้ำลายไหลยืดสักที”น้ำเสียงดุดันที่แฝงไปด้วยความเอือมระอาเล็กน้อยทำให้กอหญ้าที่ล้มลงบนที่นอนรีบดีดตัวเองลุกขึ้นนั่งและจ้องหน้ารามสูรกลับคืนอย่างดุดันไม่แพ้กัน“พี่รามบ้าถีบมาได้กอหญ้าโตแล้วนะ”น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ต่อว่ารามสูรพร้อมถีบขารัวๆไปทางเขาที่กระโดดลงจากเตียงหลบฝ่าเท้าของน้องสาวได้อย่างหวุดหวิด“โตแล้วก็ควรจะเลิกปีนขึ้นมานอนน้ำลายไหลยืดบนตัวพี่รามสักทีเหอ
“พี่รามของยาย”ทันทีที่เห็นหน้าหลานชายที่รักก็รีบวิ่งเข้าไปกอดรามสูรด้วยความดีใจใบหน้าของเธอในยามนี้แย้มยิ้มด้วยความยินดีเพราะเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วที่รามสูรไม่ได้กลับมาเมืองไทย“พี่รามเองก็คิดถึงคุณยายมากเหมือนกันครับ”รามสูรเอ่ยบอกผู้เป็นยายด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทำให้กอหญ้าที่เดินตามหลังเข้ามาทันได้ยินประโยคนี้เข้าพอดีถึงกับเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ทีกับเธอไม่เห็นว่าพี่ชายจะพูดจาออดอ้อนแบบนี้บ้างเลยเขานี่มันสองมาตรฐานชัดๆ“ปากบอกว่าคิดถึงแต่ตัวไม่ยอมกลับมาหายายบ้างเลยนะเราหรือว่าเดี๋ยวนี้พอมีสาวแล้วก็เลยลืมยาย”คำว่า มีสาวแล้ว ของที่รักทำให้รามสูรที่ไม่เคยคิดจะมีความรักพลันรีบส่ายหน้าปฏิเสธสุดชีวิตทันทีต่อให้เขาจะชอบมีความสัมพันธ์ข้ามคืนกับสาวๆมากหน้าหลายตาแต่เรื่องความรักก็ไม่เคยอยู่ในหัวของเขาหรอกนะ ฮึ้ย คิดถึงเรื่องความรักแล้วขนลุกชะมัด“มีสาวที่ไหนกันคะคุณยายปากดีไม่มีใครเกินแบบนี้จะมีสาวที่ไหนมาชายตามองกันล่ะคะ ? ”กอหญ้าที่เดินไปนั่งลงข้างๆกฤษฎิ์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นในขณะที่รามสูรได้แต่หันขวับกลับไปถลึงตาใส่น้องสาวที่ลอยหน้าลอยตาหยิบองุ่นส่งเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อยทั้งๆที่เพิ่งพูด
โรงพยาบาล K“ไปดื่มด้วยกันหน่อยไหมคะ ?”ฝีเท้าของคุณหมอหนุ่มที่กำลังก้าวเดินไปยังลานจอดรถของโรงพยาบาลพลันชะงักเล็กน้อยเขาเหลือบมองสาวสวยที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปเพียงแวบเดียวก่อนที่จะดึงสายตากลับมาคืนและเดินไปยังรถ Rolls-Royce รุ่นล่าสุดที่ผลิตเพียงห้าคันในโลกโดยที่ไม่ตอบคำถามของสาวสวยที่มาดักรอพบเพื่อพูดคุยกับเขาแต่อย่างใดทำให้หญิงสาวที่หวังจะได้รับความสนใจจากคุณหมอหนุ่มได้แต่กระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ“หึ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะราฟสักวันฉันจะทำให้คุณยอมสยบแทบเท้าฉันให้ได้”เรน่าได้แต่หมายหมาดอยู่ในใจก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถหรูราคาแพงและขับออกไปจากโรงพยาบาลทันทีVictoria PubRolls-Royce ที่ขับออกมาจากโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของประเทศอิตาลีค่อยๆเลี้ยวเข้ามายังผับประจำที่เขาชอบมานั่งดื่มหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการผ่าตัดมาทั้งคืนก่อนที่ร่างสูงจะเปิดประตูและโยนกุญแจรถให้พนักงานภายในผับอย่างสนิทสนมคุ้นเคยและเดินเข้าไปภายในผับทันทีเสียงเพลงที่เปิดเบาๆคลอไปกับบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายทำให้ลำคอของรามสูรแห้งผากอย่างบอกไม่ถูกเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เขายุ่งอยู่กับการผ่าตัดจนแทบไม่มีเวลามาพักผ