หลังจากเมื่อคืนนี้กอหญ้าถูกภีมวัจน์หลอกล่อจนทำให้เธอใจอ่อนและยอม ขย่ม เขาจนครบห้าครั้งตามที่เคยได้ลั่นวาจาเอาไว้เช้านี้กอหญ้าก็แทบจะไม่มีแรงลุกขึ้นมาทำมื้อเช้าให้คนที่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นความรับผิดชอบก็สั่งให้เธอพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีงัดตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากเตียงแต่กลับถูกอ้อมกอดของคนที่แสร้งหลับรัดเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทำให้กอหญ้ารู้ว่าที่จริงเขาตื่นก่อนเธอนานแล้วแค่เพียงแกล้งนอนหลับไม่ยอมตื่นเท่านั้นหึ คนเจ้าเล่ห์นี่เขาจะแอบลักหลับเธอหรือยังไงกันกอหญ้าได้แอบคิดอยู่ในใจทั้ง ๆ ที่ภีมวัจน์ไม่ได้มีความคิดเรื่องนี้อยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อยชายชาตรีอย่างเขาไม่จำเป็นต้องลักหลับเธอเพราะถ้าหากเขารู้สึก อยาก ขึ้นมาเมื่อไหร่เขาก็แค่เอ่ยปากบอกเธอไปตามตรงแค่นั้นเองส่วนเธอจะยินยอมหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องที่เขาคิดว่าคงจัดการได้ไม่ยาก“จะรีบลุกไปไหนแต่เช้าคะเพิ่งนอนตอนตีหนึ่งนี่เอง”คำว่า เพิ่งนอนตอนตีหนึ่ง ทำให้แก้มเนียนของกอหญ้าค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายอยู่ภายใต้ความมืดที่กอหญ้านึกอยากจะขอบคุณเสียเหลือเกินไม่อย่างนั้นถ้าเขาเห็นแก้มเธอแดงคงล้อเธอไม่หยุดแน่นอนล
AK GROUPกอหญ้านั่งเท้าคางมองใบหน้าหล่อเหลารูปงามของภีมวัจน์ด้วยสายตาหลงใหลหลังจากที่เมื่อเช้าถูกเขาออดอ้อนจนเธอใจแทบละลายครั้งแล้วครั้งเล่าตอนนี้ภีมวัจน์ก็กลับเข้าสู่ช่วงเวลาจริงจังอีกครั้งฝ่ามือเรียวยาวดุจแท่งเทียนที่ค่อยๆพลิกหน้าอ่านรายละเอียดบนเอกสารด้วยความตั้งใจดึงดูดสายตาของกอหญ้ามาได้สักพักแล้วก่อนหน้านี้เธอกำลังเปิดดูการ์ดเชิญงานเลี้ยงที่ถูกส่งมาเมื่อวานแต่ในจังหวะที่เธอเงยหน้าขึ้นสติของเธอก็ถูกทัศนียภาพความหล่อเหลาของเขาดึงดูดไปจนหมดจึงทำให้เธอทิ้งงานในมือและนั่งมองเขาด้วยรอยยิ้มหวานละมุนอย่างมีความสุขมาเป็นเวลาเกือบยี่สิบนาทีแล้ว ซึ่งการกระทำที่น่ารักน่าเอ็นดูของเธอตกอยู่ในสายตาของภีมวัจน์ทุกอย่างมุมปากของเขาที่คล้ายจะยกยิ้มถูกกดลงครั้งแล้วครั้งแล้วเพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขากำลังชอบใจที่เธอเอาแต่นั่งมองเขาแบบนี้กอหญ้า การต์รวี เกียรติมงคลรัตนข้อดี1.ฉลาดรู้ทันคน2.ชงกาแฟรสชาติกลมกล่อม3.ทำอาหารมื้อเช้าอร่อย4.เอาใจใส่5.รวยมากไปหน่อยเลยชอบใส่ใจเรื่องของคนอื่น6.สกิลการด่าแซบไฟลุกข้อเสีย1.ขี้อ่อย2.ดื้อรั้น3.ความน่ารักของเธอทำให้เขาเสียสมาธิในการทำงาน(ในบางครั้ง)“อ
เมื่อจัดการคัดเลือกการ์ดเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ถูกส่งมาเหลือเพียงห้าใบแล้วกอหญ้าก็นำการ์ดเชิญเหล่านั้นไปให้ภีมวัจน์เพื่อให้เขาตัดสินใจอีกครั้งถึงแม้ว่าเขาจะยกหน้าที่ตรงนี้ให้เธอเป็นคนตัดสินใจและตอบรับคำเชิญเหล่านี้แล้วก็ตามแต่กอหญ้าก็ยังคงอยากจะให้เขาเป็นคนตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองอยู่ดี“การ์ดเชิญที่ถูกส่งมามีทั้งหมดสิบใบกอหญ้าอ่านรายละเอียดของงานคร่าวๆแล้วค่ะ ที่น่าสนใจมีแค่นี้”การ์ดเชิญห้าใบถูกวางลงตรงหน้าของภีมวัจน์ที่วางเอกสารในมือลงและหันมาหยิบการ์ดขึ้นมาดูทีละใบสุดท้ายแล้วจึงคัดเลือกเหลือเพียงสองใบเท่านั้นส่วนที่เหลือเขาผลักไปด้านข้างอย่างไม่คิดจะใยดี งานเลี้ยงอวดความร่ำรวยอีกสามงานนั้นคงไม่เหมาะกับเขาสักเท่าไหร่ขืนตอบรับคำเชิญและไปปรากฏตัวในงานเขาคงทนปั้นหน้ายกยอเจ้าของงานไม่ไหวแน่นอน“แหม ใจตรงกันเลยนะคะ กอหญ้าคิดว่างานวันเกิดของท่านพัลลภจะต้องมีคนใหญ่คนโตมาร่วมงานเยอะแน่นอนค่ะแหล่งรวมลูกค้าชั้นดีแบบนี้คุณจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ส่วนงานประชุมสมาคมโรงพยาบาลเอกชนงานนี้ยิ่งต้องไปเพราะมันสำคัญมากๆอีกอย่างคุณไม่เคยพลาดเลยสักปีตั้งแต่เขามารับตำแหน่งท่านประธาน”หึ งานประชุมครั้งนี้สำคัญ
“กอหญ้าขออนุญาตไปทักทายเพื่อนก่อนนะคะ”เมื่อสบโอกาสกอหญ้าก็เงยหน้าขึ้นบอกภีมวัจน์กับท่านหญิงรสาที่กำลังคุยกันอย่างออกรสก่อนที่เธอจะลุกขึ้นและเดินตรงมาหาสายขิมที่กำลังจ้องหน้าคู่ปรับเก่าด้วยโทสะที่กำลังคุกรุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในใจเธออยากจะกรีดร้องและอาละวาดด่าทออีกฝ่ายที่ทำตัวเป็นตาอยู่ที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรด้วยความพยายามเหมือนเธอแต่กลับลอยหน้าลอยตาได้ภีมวัจน์ไปครอบครองแทบตายแต่ก็ได้เพียงกดข่มความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้เพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอจะแสดงความเอาใจแต่ใจออกมาแบบไหนก็ได้ภาพความสนิทสนมของหนุ่มสาวทั้งสองคนต่อให้กอหญ้าไม่พูดแต่สายขิมไม่ใช่คนโง่เธอย่อมมองออกอยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่ใช่เพียงแค่เลขากับท่านประธานอย่างแน่นอน อีกอย่างก่อนหน้านี้ก็มีสายในแผนกบริหารที่เธอซื้อตัวเอาไว้ทักมาบอกเธอว่าภีมวัจน์เปิดตัวกอหญ้าเป็นคนรักอย่างออกหน้าออกตาแต่สายขิมเลือกที่จะไม่เชื่อเพราะเธอไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง มาถึงวันนี้เธอเชื่อแล้วว่าข่าวที่ได้รับมานั้นไม่มีผิดพลาดเลยแม้แต่น้อยเป็นตัวเธอเองที่ไม่อยากจะยอมรับความจริงนี้ต่างหากความจริงที่ชวนให้รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจแบบนี้เธอรับไม
งานเลี้ยงวันเกิดท่านพัลลภเสียงฮือฮาพลันดังขึ้นทันทีเมื่อหน้าทางเขาของงานเลี้ยงปรากฏร่างสูงสง่าของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ไม่ค่อยออกงานสังคมเดินควงแขนมากับสาวสวยที่หน้าตาพริ้มเพรางดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของจิตรกรชื่อดัง ทั้งคู่เดินควงแขนกันมาอย่างแนบชิดจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้ลมพัดผ่านก่อนที่ร่างบอบบางจะเซถลาเล็กน้อยไปซบอกร่างสูงของชายหนุ่มรูปงามที่คว้าเอวของเธอเอาไว้ได้ทันและทำตัวเป็นหลักให้เธอได้ยึดเกาะเมื่ออยู่ ๆก็ถูกคนๆหนึ่งชนเข้าที่ไหล่อย่างไม่ทันตั้งตัว“นี่คุณ!!”ริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มทำงานทันทีที่ตั้งหลักยืนได้อย่างมั่นคงแต่คำพูดที่เตรียมจะต่อว่ายังไม่ทันจะถูกพ่นออกจากปากดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อใบหน้าที่คุ้นเคยของคนที่ตั้งใจกลั้นแกล้งเธอกระทบเข้าสู่ม่านตาO_O“ขอโทษด้วยนะจ๊ะหนู พอดีตาแก่แล้วเดินเหินไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ พอออกจากบ้านมาร่วมงานเลี้ยงก็ทำเรื่องขายหน้าเข้าให้แล้ว”ปากเอ่ยถ้อยคำขอโทษแต่ใบหน้ากลับพราวระยับไปด้วยรอยยิ้มใจดีที่แฝงไปด้วยเลศนัยกอหญ้าถึงกับปากตากระตุกทันทีส่วนภีมวัจน์เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนอยู่ใกล้กับกอหญ้ามากจนเกินไปความหึงหวงก็พลันทำงา
งานวันเกิดของท่านพัลลภเป็นศูนย์รวมนักธุรกิจและบุคคลที่มีชื่อเสียงทุกแวดวงการอย่างแท้จริงก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมางานเลี้ยงกอหญ้าได้ศึกษาข้อมูลของเขามาแล้วเธอจึงไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใดที่เขาเป็นที่รู้จักของคนมากมายขนาดนี้ ชื่อเสียงและผลประโยชน์ที่คนบางกลุ่มภายในงานได้ทำการแลกเปลี่ยนกับเขานั้นคุ้มค่ามากพอที่จะทำให้ใครต่อใครเดินเข้ามาทำความรู้จักกับเขาอย่างไม่ลังเล แต่ที่กอหญ้าสงสัยเอามากๆนั้นคือคุณตาของเธอรู้จักกับคนๆนี้ได้อย่างไรทั้ง ๆที่ท่านไม่ค่อยชอบคบค้าสมาคมกับใครเพื่อนของท่านที่เธอรู้จักต่อให้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมายังแทบนับนิ้วได้ด้วยซ้ำ“อดทนหน่อยนะคะไม่นานงานเลี้ยงก็เลิกแล้ว”เมื่อคิดว่าชายหนุ่มรูปงามที่นั่งอยู่ข้างๆคงกำลังอึดอัดใจที่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกับบุคคลที่มีชื่อเสียงแล้วเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายกอหญ้าก็หันมาส่งยิ้มหวานละมุนให้เขาอย่างต้องการปลอบใจพร้อมยื่นมือไปกุมมือของเขาและบีบเบาๆอย่างอ่อนโยน ส่งผลให้กฤษฎิ์ที่กำลังนั่งมองบรรยากาศภายในงานและบังเอิญหันมาเจอภาพความหวานนี้เข้าถึงกับหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ทันทีทั้ง ๆที่เขารู้ดีถึงความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวสองคนนี้ว
พระจันทร์เต็มดวงลอยอยู่บนฟ้าแสงจันทร์นวลผ่องส่องผ่านผ้าม่านลงมากระทบพื้นเผยให้เห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังยืนพิงกรอบหน้าต่างคล้ายกำลังจมอยู่ในภวังค์ความคิดที่ยังคงหาทางออกไม่เจอ ดวงตาคู่งามจ้องมองบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองหลวงด้วยแววตาครุ่นคิดในใจพลันหวนคิดไปถึงท่าทีกระซิบกระซาบระหว่างกอหญ้ากับคุณตากำมะลอที่ภีมวัจน์มั่นใจมากว่าเขาเพิ่งเคยเห็นหน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกท่าทีพูดคุยที่ดูสนิทสนมกันของทั้งคู่ทำให้เขาอดที่จะรู้สึกเคลือบแคลงและสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริงของกอหญ้าไม่ได้ว่าจริงๆแล้วเธอคือใครกันแน่ครืด ครืด ครืดเสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเก้าอี้โซฟาที่ตั้งอยู่ข้างๆทำให้ความคิดที่กำลังจมอยู่ในภวังค์พลันถูกดึงกลับคืนมาภีมวัจน์รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าใครคือคนที่โทรมา“ว่า”“ไม่พบข้อมูลเลยครับนาย ข้อมูลที่สืบมาได้ตรงตามที่คุณกอหญ้าบอกทุกอย่างไม่มีเพิ่มเติมเลยสักนิดส่วนผู้ชายที่ชื่อกฤษฎิ์ไม่ว่าจะพยายามสืบหาตัวตนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เลยครับ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีการป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้เป็นอย่างดีทั้งข้อมูลและการเข้าถึงตัวยากมากกว่าทุกคนที่ผมเ
โรงพยาบาล Nเมื่อรถหยุดลงที่หน้าประตูทางเข้าของโรงพยาบาลกอหญ้าก็รีบเปิดประตูและตะโกนเรียกให้บุรุษพยาบาลเข้ามาพาตัวภีมวัจน์ที่กำลังสลบไสลไม่ได้สติเข้าไปทำแผลที่ห้องฉุกเฉินก่อนที่เธอจะวิ่งตามรถเข็นไปด้วยความเป็นห่วงจนกระทั่งมาถึงห้องฉุกเฉิน ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวตามเข้าไปมือบางของเธอกลับถูกมือใหญ่ที่แข็งแรงของใครบางคนดึงรั้งเอาไว้ทำให้เธอถึงกับเซถลาไปเล็กน้อยก่อนที่สายตาขุ่นเคืองจะตวัดมองคนที่กล้ากระชากเธอไม่ให้ตามภีมวัจน์เข้าไปในห้องฉุกเฉิน“ใจเย็นๆนังหนู แค่โดนยิงเฉียด ๆ ไม่ได้ตัดขั้วหัวใจถึงตายสักหน่อยร้องไห้เป็นเด็กน้อยไปได้”น้ำเสียงอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความเหนื่อยอกเหนื่อยใจเล็กน้อยของกฤษฎิ์ทำให้กอหญ้าเริ่มเบะปากอีกครั้งก่อนที่เธอจะโผเข้ากอดผู้เป็นตาและปล่อยโฮเหมือนครั้งที่ยังเป็นเด็กและถูกพี่ชายกลั่นแกล้งจนร้องไห้เสียงดังลั่นวิ่งไปฟ้องคุณตาทั้งเสียงสะอึกสะอื้น“พะ เพราะกอหญ้าเขาถึงถูกยิง ฮือ ฮือ คุณตาขาถ้ากอหญ้าไม่ประมาทเขาคงไม่เป็นอันตราย”เดิมทียามที่เห็นหลานสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำหูน้ำตาไหลกฤษฎิ์ควรจะรู้สึกสงสารและเห็นใจแต่ตอนนี้กลับแปลกออกไปดวงตาคมกริบของเขากลอกขึ้นบนลงล่างไปมา