“ดีใจที่จะได้เจอหนุ่มหล่อแล้วเจ้าภีมลูกชายของเพื่อนแม่เราลูกจะเอาเขาไว้ตรงไหนกันล่ะ”“ไม่ต้องเอาไว้ตรงไหนหรอกค่ะ เพราะคุณภีมเขาไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวของท่านทั้งนั้น”เสียงที่ดังมาก่อนตัวทำให้ทั้งสามคนถึงกับหันมามองหน้ากันด้วยแปลกใจก่อนที่สาวสวยคนหนึ่งจะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าคนทั้งสามที่สีหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ ๆก็มีแขกรับเชิญที่ไม่รู้จักเดินเข้ามาในบ้านได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่มีใครมาขวางเอาไว้เลยสักคน“แก นังกอหญ้าแกเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง?”แพรวรัมภาที่ได้สติก่อนคนแรกตวาดกอหญ้าเสียงดังด้วยความโมโหอารมณ์เบิกบานใจก่อนหน้านี้พลันหายวับไปกับตาในขณะที่เปรมชัยโมโหจนหน้าเขียวคล้ำที่อยู่ ๆก็มีคนบุกรุกบ้านของเขาในยามวิกาลและยังเป็นการบุกรุกที่ไร้สุ้มเสียงอีกด้วย“ถามโง่ๆฉันก็เดินเข้ามาทางประตูไงหรือคิดว่าฉันหายตัวได้ล่ะ”คำตอบที่ยียวนกวนอารมณ์ของกอหญ้าทำให้สามคนพ่อแม่ลูกต่างชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจเป็นเปรมชัยที่ทนไม่ไหวตะโกนเรียกลูกน้องเสียงดังลั่นบ้าน“ใครก็ได้มาจับตัวนังเด็กคนนี้โยนออกไปนอกบ้านที”น้ำเสียงทรงอำนาจน่าเกรงขามของเปรมชัยไม่ได้ทำให้กอหญ้ารู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แ
คอนโด Aเสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดของคนที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่นอนหมดสติไปนานถึงสี่ชั่วโมงทำให้กฤษฎิ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาริมหน้าต่างค่อยๆหันหน้ากลับมามองภีมวัจน์ที่กำลังกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับสภาพการมองเห็นให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งความรู้สึกแรกที่ชายหนุ่มสัมผัสได้ในยามนี้ก็คืออาการมึนงงที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไรกับอาการปวดที่หัวไหล่ด้านซ้ายที่เขาเพียงแค่ขยับความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามาทันทีอย่างไม่คิดจะไว้หน้ากันเลยสักนิด“ฮาย หลานเขย”เสียงทักทายที่ดังขึ้นพร้อมร่างสูงของชายชราที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆเตียงของภีมวัจน์เมื่อไหร่ไม่รู้ทำให้คนที่หันมาเจอถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจพร้อมพยายามขยับตัวเพื่อถอยหนีทำให้อาการปวดที่หัวไหล่ด้านซ้ายทวีความรุนแรงมากขึ้นจนทำให้เขาต้องหยุดชะงักอยู่กับที่และเพ่งมองคนที่กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มอย่างรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนคุณตากำมะลอ!!“คะ คุณตามาอยู่ที่ห้องของผมได้ยังไงครับ?”น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยสายตาหวาดระแวงก่อนที่กฤษฎิ์จะหันไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมายื่นให้ภีมวัจน์ท
เรื่องที่เธอกับภีมวัจน์ถูกลอบทำร้ายถูกกอหญ้าปิดข่าวเอาไว้อย่างมิดชิดต่อให้หูตาของบางคนจะยื่นมายาวแค่ไหนกอหญ้าก็ฟาดกลับคืนไปอย่างไม่ไว้หน้ารวมถึงครอบครัวของภีมวัจน์ด้วยที่อยู่ ๆ ดนัยก็โผล่มาหาพี่ชายถึงหน้าห้องทำงานโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าซึ่งเรื่องนี้เธอก็เตรียมการเอาไว้แล้วเช่นกันหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้ภีมวัจน์จะพักฟื้นอยู่ที่บ้านเท่านั้นส่วนเรื่องงานเธอจะเป็นคนคอยช่วยดูแลและตัดสินใจแทนเขาในบางเรื่องเอง “ใครจุดธูปเรียกไม่ทราบถึงได้เสนอหน้ามาถึงที่นี่”รอยยิ้มยียวนบนใบหน้าของดนัยพลันแข็งค้างเมื่อได้ยินคำทักทายที่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่คิดจะให้เกียรติเขาเลยสักนิดทั้ง ๆที่ขาเป็นถึงน้องชายของท่านประธานบริษัทส่วนเธอที่เพิ่งเอ่ยถามเขาด้วยวาจาไม่น่าฟังเป็นเพียงแค่นักศึกษาฝึกงานที่พ่วงด้วยตำแหน่งคนรักของภีมวัจน์เท่านั้นแต่ถึงจะเป็นแฟนของภีมวัจน์แล้วอย่างไรมีสิทธิ์อะไรมาพูดจาล่วงเกินเขาแบบนี้“นี่ใช้ปากพูดเหรอ?หรือว่าใช้...”ดนัยแสร้งหลุบตาลงมองไปที่เรียวขาสวยของกอหญ้าสายตาของเขาตกกระทบลงบนตำแหน่งล่างสุดของร่างกายซึ่งกอหญ้ารู้ความนัยนั้นดีว่าหมายความว่าอย่างไร ใบหน้างดงามที่ราวกับหลุดออกมาจากภ
“เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงกลับบ้านมาด้วยสภาพแบบนี้” ดารัณเอ่ยถามลูกชายที่ถูกลูกน้องประคองเข้ามาภายในบ้านด้วยสภาพทุลักทุเลสีหน้าของดนัยในยามนี้แสดงออกว่าเจ็บปวดมากส่งผลให้เธอถึงกับรู้สึกปวดใจไม่ว่าลูกชายของเธอจะยังเป็นเด็กหรือเติบโตเป็นหนุ่มเช่นเวลานี้เธอก็มักจะรู้สึกเจ็บปวดเสมอในยามที่เขาได้รับบาดเจ็บกลับมา “หึ นัยไม่ทันระวังเลยโดนหมามันจับทุ่มเอา อูย เบาๆหน่อยไม่ได้หรือไงว่ะเจ็บจะตายห่าอยู่แล้ว”เสียงตวาดด้วยความเจ็บของดนัยทำให้ลูกน้องทั้งสองคนที่กำลังประคองเขาให้นั่งลงบนโซฟาถึงกับสะดุ้งตกใจจนแทบจะปล่อยมือเขาให้ล้มลงไปนั่งเองยังดีที่ดนัยคว้าแขนของคนทั้งคู่ไว้ได้ทันพร้อมถลึงตาใส่ลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวด้วยสีหน้าดุดัน“เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆไม่ได้เรื่องเลยสักคนจะไปไหนก็ไปรำคาญจริงๆเลย”เมื่อได้ยินผู้เป็นเจ้านายเอ่ยปากไล่ลูกน้องทั้งสองคนก็ไม่รอช้าที่จะเผ่นแนบออกไปทันทีขืนพวกเขายังอยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าดนัยจะโมโหคลุ้มคลั่งจนเผลอทำร้ายร่างกายของพวกเขาทั้งสองคนเหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่าพอได้ยินว่าเจ้านายรำคาญพวกเขาก็รู้สึกดีใจจนแทบจะกอดคอกันร้องไห้ทีเดียวเป็นลูกน้องค
คอนโด Aแกรกแอด“คุณกอหญ้าจ๋าเตชินทร์มาแล้ว”เสียงที่ดังมาก่อนตัวทำให้กอหญ้าที่กำลังไล่สายตาไปตามตัวอักษรบนเอกสารที่อยู่ในมือค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปทางต้นเสียงด้วยรอยยิ้มละมุนส่วนภีมวัจน์ที่นั่งอยู่ข้างๆใบหน้าหล่อเหลาพลันบึ้งตึงเมื่อคนที่เตชินทร์ตะโกนบอกการมาถึงของตัวเองคือกอหญ้าทั้ง ๆ ที่เขาต่างหากที่เป็นเจ้านายเหอะ พอมีเพื่อนใหม่เจ้านายอย่างเขาก็ไม่อยู่ในสายตาเสียแล้วมันช่างน่าเจ็บใจนักรอเพียงไม่นานเจ้าของน้ำเสียงสดใสก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของคนทั้งสองใบหน้าหล่อเหลาพลันฉีกยิ้มกว้างให้ทั้งคู่ด้วยความดีใจก่อนที่เตชินทร์จะรีบเดินเข้ามาหาภีมวัจน์และก้มหัวทำความเคารพเจ้านายส่วนกอหญ้าเตชินทร์ทำเพียงขยิบตาทักทายอีกฝ่ายเท่านั้น“ตกลงว่าฉันหรือกอหญ้ากันแน่ที่เป็นเจ้านายของแก มาถึงก็เรียกเมียฉันเสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะ”ภีมวัจน์เอ่ยถามเตชินทร์พร้อมถลึงตาใส่เขาไปรอบหนึ่งแล้วยกมือขึ้นกอดอกพร้อมเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาทำให้คนที่ลืมตัวเรียกหากอหญ้าก่อนภีมวัจน์ที่เป็นเจ้านายถึงกับลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดหวั่น เฮ้อ เตชินทร์นะเตชินทร์กลับมาทำงานทั้งทีก็หาเรื่องใส่ตัวซะแล้ว“เจ้านายของเตชินทร์ก็ต้องเ
คฤหาสน์เก้าทัพกลิ่นหอมของข้าวต้มหมูสับทรงเครื่องที่ลอยมาแตะจมูกทำให้รอยยิ้มอ่อนโยนพลันเผยขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยชุดสูทเรียบหรูแลดูภูมิฐานและน่ายำเกรงเขาค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องอาหารที่มีร่างบอบบางของใครบางคนกำลังวางแก้วน้ำส้มคั้นสดลงตรงตำแหน่งที่นั่งประจำของเขาอย่างเบามือ“ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังเลยคะพี่เก้าตื่นขึ้นมาบนเตียงก็ไม่มีคนให้นอนกอดแล้ว”น้ำเสียงอ่อนโยนที่มาพร้อมอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นทำให้คนที่เพิ่งจัดเตรียมมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยๆหันมามองใบหน้าหน้าหล่อเหลาที่ยู่ปากเล็กน้อยคล้ายกำลังน้อยใจที่เธอทิ้งให้เขาตื่นขึ้นมาเพียงลำพังทั้ง ๆที่ปกติแล้วทั้งคู่มักจะตื่นพร้อมกันเสมอ“นอนหลับสบายมาหลายวันแล้วนับก็อยากจะตื่นขึ้นมายืดเส้นยืดสายด้วยการทำมื้อเช้าให้พี่เก้าบ้าง”ถ้าหากเก้าทัพคือความอ่อนโยนนับดาวก็คงจะเป็นความหอมหวานละมุนที่ชวนให้เก้าทัพตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่าถึงแม้ว่าปัจจุบันทั้งคู่จะครองรักกันมานานหลายปีแล้วก็ตาม“มื้อเย็นนับเข้าครัวทำอาหารให้พี่เก้ากินทุกวันแล้ว มื้อเช้าก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านเขาทำไปเถอะค่ะพี่เก้าอยากให้นับพักผ่อนบ้างจะไ
ท่ามกลางบรรดานักธุรกิจที่กำลังเดินสวนกันไปมาบ้างก็หยุดทักทายเมื่อเจอคนรู้จักร่างสูงของใครบางคนที่กำลังเดินผ่านกลุ่มคนเหล่านั้นเรียกความสนใจจากสายตาทุกคู่ให้มองมาที่เขาด้วยความแปลกใจระคนสงสัยว่าเหตุใดทายาทรุ่นที่หนึ่งลำดับที่สองอย่างเก้าทัพ พิสิฐกุลวัตรดิลก ถึงได้ปรากฏตัวอยู่ ณ ที่แห่งนี้เวลานี้สำหรับทุกคนที่ต่างรู้จักคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเก้าทัพคือคนแปลกหน้าทว่าหน้าตาหล่อเหลาคมคายของเขากลับโดดเด่นเหนือใครชวนให้ผู้ที่พบเห็นไม่อาจละสายตาไปจากร่างสูงของเขาได้เลย ยกเว้นเพียงคนเดียวที่กลับชะงักฝีเท้าเบิกตากลมโตมองผู้ที่กำลังเดินตรงมายังบริเวณที่เธอกับภีมวัจน์ยืนอยู่ด้วยความตกใจจนเผลออุทานเรียกชื่อของเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว“น้าเก้า”ถึงแม้ว่าเสียงที่เปล่งออกมาจะแผ่วเบาคล้ายกำลังพึมพำกับตัวเองแต่เก้าทัพกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนรวมถึงคนข้างกายของกอหญ้าอย่างภีมวัจน์ด้วยเช่นกัน เก้าทัพเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือหลังจากที่เพิ่งอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาจบลงสายตาคู่คมมองหาบุคคลที่ส่งเสียงเรียกชื่อเขาจนกระทั่งดวงตาสองคู่ของหนึ่งน้าหลานสบตากันเข้าอย่างจัง“กอหญ้า?”เสียงเรียกชื่อกอหญ้าทำให้คิ้วเข้มข
คฤหาสน์แก้มใส“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สะใจจริงๆเลยวุ้ย”“หยุดหัวเราะได้แล้วครับระวังตีนกามันจะขึ้นจนแป้งที่โป๊ะอยู่บนหน้าจะปริออก”คำพูดเย้าหยอกของน้องชายทำให้แก้มใสหุบยิ้มแทบจะทันทีดวงตากลมโตถลึงมองเก้าทัพอย่างดุดันเรียวขาขาวที่อยู่ในชุดราตรีสีสวยยกขึ้นเล็งเป้าหมายจะถีบน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆทำให้วายุที่นั่งอยู่อีกฝั่งรีบตะโกนร้องห้ามภรรยาพร้อมกระโดดเข้ามานั่งแทนที่เก้าทัพที่ถอยหนีหลบเรียวขาสวยของพี่สาวอย่างรู้งานทันที“อูย แก้มใสจ๋าเอาขาลงค่ะเอาขาลงเป็นสาวเป็นนางไม่ยกขาแบบนี้นะคะทูนหัวของผัว อูย ใจหายใจคว่ำหมด”วายุมือหนึ่งจับขาของแก้มใสเอาไว้ส่วนอีกมือหนึ่งก็ยกขึ้นมาทาบหน้าอกเมื่อรู้สึกตื่นตระหนกจนความดันแทบพุ่ง“พี่หมอก็ดูน้องเก้าสิแก้มใสยังไม่แก่สักหน่อยปีนี้เพิ่งจะ 43 ขวบเอง”แก้มใสทำหน้าง้ำจ้องหน้าน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์สองขาที่ถูกรวบไว้ก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนที่แน่นราวกับคีมเหล็กของสามี ชิ เจ้าน้องบ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาว่าเธอแก่ถึงเธอจะนอนดึกบ่อย ๆ แต่เธอก็ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเธอทั้งออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ไหนจะหากิจกรรมคลายเครียดทำอย่างการชวนแก๊งเพื่อนมารวมตัว