ตอนที่2 Partอดีต…จุดเริ่มต้น
Part…อดีต (3 มิ.ย. 20XX - 7 ปีที่แล้ว) Dindan Jirayu talk… “ร้อนชิปหาย ไปซื้อน้ำแดกแปปเดี๋ยวมา” หลังจากหมดคาบพละเป็นคาบสุดท้ายของวัน ผม ไอ้กันต์ ไอ้หนึ่ง ก็พากันมานั้งพักที่โต๊ะม้าหินอ่อนข้างสนามฟุตบอลเพื่อนั้งพักเหนื่อย “เออ กูฝากด้วย/กูเอาด้วย” ไอ้กันต์และไอ้หนึ่งพูดขึ้นพร้อมกันพลางนั่งหอบเหนื่อย “เออๆ ฝากกระเป๋าด้วยเดี๋ยวกูมา” ผมบอกไว้เท่านั้นแล้วหันหลังเดินออกมา เดินตรงไปที่มินิมาร์ทของโรงเรียน แต่ในขณะเดินผ่านหน้าตึก วิทยาศาสตร์ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเดินลงจากตึกมาพอดี พวกเธอมีกันห้าคน ‘คนแรก(กิ๊ฟ) ก็ถือว่าสวยอยู่ ผิวขาวจัด มัดรวบผมหางม้าปล่อยปอยผมข้างหน้าลงมานิดหน่อย หน้าออกหมวยๆหน่อย ตัวเล็กๆส่วนสูงน่าจะไม่เกิน160เซน’ ‘คนที่สอง(โบว์วี่) หน้าออกไปทางลูกครึ่ง มัดรวบผมเช่นกันแต่ปล่อยผมหน้าม้าปัดข้าง ใบหน้าสวยเฉี่ยว ผิวขาวจัดเช่นกัน หุ่นค่อนข้างดี ความสูงน่าจะประมาณ170เซน‘ ‘คนที่สาม(อิงฟ้า) เดินอยู่ตรงกลางไม่ได้สวยเฉี่ยวสะดุดตาในคราแรก แต่น่ารักมาก ถักเปียสองข้างปล่อยผมหน้าม้าลงมาบางๆ รับกับใบหน้ารูปไข่ มีแก้มน่าฟัด มีเสน่ห์เหลือล้นมองนานๆได้ไม่มีเบื่อ ผิวไม่ได้ขาวมากเท่าสองคนแรกแต่ก็ถือว่าขาวอมชมพูในระดับนึง ตัวเล็กน่ารักความสูงน่าไม่เกิน165เซน’ ‘คนที่สี่(แป้งหอม) เป็นพี่ข้างบ้านผมเอง เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กๆเพราะพ่อแม่พวกเราเป็นเพื่อนกัน ก็ถือว่าเราสนิทกันอยู่พอสมควร พี่แป้งน่าสูงพอๆกับคนแรกแหละมั้งถ้าดูจากสายตาที่เดินเรียงกันมา รายนี้นิสัยจะออกแนวห้าวๆหน่อย เธอน่ารักสวยสดใส แต่ค่อนข้างปากร้าย โดยเฉพาะกับพี่ชายผม เจอหน้ากันทีไรเป็นทะเลาะกัดกันทุกที’ ‘ส่วนคนสุดท้าย(พอลลี่) ไม่ต้องบอกก็ดูออกว่าเป็นสาวสองแน่นอน ถึงจะหน้าตาหล่อเหลาแต่ก็ออกสาวแบบชัดเจน หน้าขาว ปากแดงแบบจัดเต็มมาก’ ตอนกำลังจะเดินผ่านกันพี่แป้งหอมก็ร้องทักผมขึ้นมา ”อ้าวดิน ไปซ้อมฟุตบอลมาอีกแล้วหรอ เหงื่อท่วมเชียว” “ครับ แล้วนี่กำลังจะกลับบ้านกันหรอ” ผมพยักหน้าพร้อมถามกลับ แต่สายตาของผมกลับเลยไปจดจ้องอยู่ที่อีกคน ที่ถักผมเปียสองข้างอย่างไม่ละสายตา พอเธอเห็นผมมอง เธอก็ยิ้มกลับมาให้ผมนิดหน่อยก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนอีกคนต่อ “อื้อใช่ แต่ก็ว่าจะแวะกินไอติมกันหน้าโรงเรียนก่อนกลับอะร้อนชะมัดวันนี้ต้องหาไรเย็นๆมากระแทกปากซะหน่อย งั้นพี่ไปก่อนนะเพื่อนรอแล้ว” พี่แป้งบอกพร้อมกับโบกมือเป็นการลา “ครับ” ผมพยักหน้าและยืนมองพวกเธอเดินจากไป แต่ชั่วขณะพี่สาวผมเปียก็หันกลับมามองผม เราสบตากันครู่นึงก่อนเธอจะหันกลับไป ผมได้แต่ยืนอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่แน่ใจว่าเพราะอากาศร้อนหรืออะไร แต่ก็ต้องสบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา และเดินไปซื้อน้ำ…หลังจากซื้อน้ำเรียบร้อยก็เดินกลับมาที่โต๊ะหินอ่อนที่เพื่อนๆนั้งรอกันอยู่ “โอ้โห!!!! ไอ้ห่าดินไปซะนานเลยกูนึกว่าไปเหมาร้านน้ำเหอะ” ไอ้กันต์บ่นอุบให้ผมตอนมันเห็นผมเดินมา “บ่นมาก ไม่ต้องแดก” ผมว่าพร้อมกับหย่อนก้นลงนั่ง “ขอโทษค้าบคุณเพื่อน หิวน้ำจะตายห่าอยู่แล้วไม่แดกได้ไง” มันพูดพร้อมเปิดฝาขวดยกน้ำดื่มจนเกือบจะหมดขวดดูท่าจะหิวน้ำกันจริงๆ หลังจากดื่มน้ำ นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็เก็บของกันเตรียมตัวกลับบ้าน พวกผมพากันเดินไปที่หน้าโรงเรียนเพื่อที่จะไปโรงจอดรถ ก็พอดีกับกลุ่มสาวๆที่คุยกันหน้าตึกวิทย์ ก่อนหน้านี้เดินออกมาจากร้านไอติมตรงข้ามโรงเรียนกันพอดี ผมจึงหยุดรอว่าจะถามพี่แป้งว่าจะกลับด้วยกันไหม หรือว่าจะรอคนขับรถมารับ ในขณะที่พวกเธอเดินข้ามถนนกันมาแล้ว คนสุดท้ายกำลังใกล้จะถึงริมฟุตบาท ผมก็หันไปเห็นรถมอไซค์ขับคู่กันมาด้วยความเร็ว ไวกว่าความคิดก็เท้าผมนี่แหละพุ่งตัวไปอย่างไว งงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน Ingfah Kawintra talk… . . “แฮ่ม ยืนเหม่อมองอะไรจ๊ะชะนี!!!” พอลลี่กระแอมไอขึ้น หลังจากเห็นฉันยืนมองไปทางฝั่งตรงข้ามที่มีกลุ่มน้องข้างบ้านของยัยแป้งหอมยืนอยู่อย่างเนิ่นนาน ฉันสะดุ้งนิดหน่อยพร้อมหันมายิ้มเจื่อนให้ยัยพอลลี่ “ปะ เปล่าซะหน่อย ก็เห็นน้องข้างบ้านยัยแป้งมองมาก่อนฉันสงสัยน่ะ ว่ามองมาทำไมก็เลยมองกลับไปก็แค่นั้นเอง ฉันแค่คิดว่าหรือน้องเค้าอาจจะรอยัยแป้งไง” ฉันตอบเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่เต็มเสียงนัก พร้อมหยิบยกหาเหตุผลมาตอบเพื่อน พลันหน้าฉันก็ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะอายกับความโป๊ะของตัวเอง เพื่อนทุกคนต่างก็หันมามองฉันเป็นตาเดียวกันหมด พากันหรี่สายตาจ้องหน้าฉันอย่างจับผิดแล้วยิ้มกริ่มมาให้ “จ้า…เชื่อ” เพื่อนทั้งกลุ่มพูดรับลากเสียงยาวพร้อมกัน ส่วนฉันได้แต่ยิ้มเขินไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี “ชอบไอเจ้าดินหรอแกยัยอิง ฉันเห็นนะว่าแกกับดินมองสบตากันตั้งแต่ในโรงเรียนแล้วอะ” แป้งหอมกระซิบถามฉันเสียงไม่เบานัก แต่ทุกคนก็ได้ยินกันหมด ไม่รู้จะทำท่ากระชิบทำไม “บะ บ้าหรอ พึ่งจะเจอกันเองจะไปชอบได้ไง ไร้สาระ” ฉันปฏิเสธเสียงติดขัดพร้อมหันหน้าหนีไปมองทางอื่น ระหว่างนั้นเราก็พากันเดินข้ามถนนเพื่อกลับไปฝั่งหน้าโรงเรียน เพื่อนฉันพากันเดินนำหน้าไป ส่วนฉันเดินรั้งท้ายสุด ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปถึงริมฟุตบาทหน้าโรงเรียนแล้วก็มีรถมอเตอร์ไซค์ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว “พี่ครับ ระวังงงง!!!!” “เห้ยยย ยัยอิง” ฉันได้ยินเสียงใครซักคนร้องดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของกลุ่มเพื่อนสาวของฉัน พร้อมกับรับรู้ได้ถึงแรงกระชากดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอดใครคนนึง เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันงงไปหมด ฉันได้แต่หลับตาปี๋ ยืนเกร็งแข็งไปชั่วขณะ แล้วก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มลึกข้างใบหู “เป็นอะไรไหมครับพี่” ฉันเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับตาคู่คมใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของน้องข้างบ้านยัยแป้งหอมนั่นเอง สมองฉันมึนเบลอไปชั่วขณะ ยืนอยู่ในอ้อมกอดเขาสบตากันนิ่ง “พี่ครับ…พี่สาวเจ็บตรงไหนไหมครับ” ผมมองใบหน้าน่ารักตรงหน้าและถามออกไปอีกครั้ง เมื่อเห็นเธอที่เอาแต่ยืนจ้องมองหน้าผมนิ่ง รอบนี้เธอน่าจะได้ยินแล้วสินะ เธอกระพริบตา ปริบๆพร้อมกับเด้งตัวผละออกจากอ้อมกอดผม ‘คนอะไรวะตัวนุ่มนิ่ม แถมผมหอมมากเลยว่ะ ให้ตายสิ น่ารักเป็นบ้า’ ผมได้แต่คิดในใจพร้อมอมยิ้มออกมา “เอ่อ...ขอบคุณนะคะที่ช่วยเราไว้ เราไม่เป็นอะไรค่ะไม่ได้เจ็บตรงไหน” เธอตอบผมสบตากับผมครู่นึงก่อนจะก้มหน้าลงหลบตาผม ‘หึ พี่สาวตัวนุ่มนิ่มคนนี้ดูท่าจะขี้อายไม่เบาเลยสินะ’ ผมคิดในใจพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย “ครับ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วงั้นผมขอตัวนะครับ” เธอพยักหน้ารับ จากนั้นผมจึงเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนตัวเองโดยลืมสิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่ตอนแรกเลยว่ายืนรอเพื่ออะไร “เท่ชิลหายเพื่อนกู วิ่งเข้าไปช่วยสาวแบบไม่คิดชีวิต”หลังจากเดินกลับมาหาเพื่อน ไอ้หนึ่งก็พูดแซวขึ้น “ช่วยสาวสวยซะด้วย ทำคะแนนเอาหน้าปะเนี่ย”ไอ้กันต์นี่ก็อีกคนแซวกันเข้าไป “เอาหน้าเหี้ยไร ก็แค่ช่วยเค้าเฉยๆ แม้แต่ชื่อกูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ” ผมส่ายหัวตอบอย่างเอือมๆความคิดมันตอนที่3 Part อดีต...เอามาให้เองจะดีกว่า“เอาหน้าเหี้ยไร ก็แค่ช่วยเค้าเฉยๆ แม้แต่ชื่อกูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ” ผมส่ายหัวตอบอย่างเอือมๆความคิดมัน“คนที่มึงช่วยเมื่อกี้อะ ชื่อพี่อิงฟ้า ส่วนคนที่หน้าตาออกไปทางหมวยๆหน่อยนั่นน่ะชื่อพี่กิ๊ฟ แล้วก็คนที่หน้าออกไปทางลูกครึ่งๆอะชื่อพี่โบว์วี่ แล้วผู้ชายคนเดียวในกลุ่มอะชื่อพี่พอลหรือพอลลี่ อีกคนคงไม่ต้องบอกมึงก็คงจะรู้จักกันอยู่แล้วเนอะ” เป็นไอ้กันย์ที่พูดแนะนำชื่อของแต่ละคนให้ได้รู้ ที่มันจะรู้จักชื่อของทุกคนก็คงไม่แปลก เพราะมันมาเรียนที่นี่ตั้งแต่ ม.1 เลยทำให้รู้จักทุกคนเป็นอย่างดี ส่วนผมกับไอ้หนึ่งเพิ่งจะย้ายมาต่อ ม.4 ที่นี่ด้วยกัน แต่เราทั้งสามคนก็ยังสนิทกันดีเนื่องจากรู้จักกันมานานแล้ว และพวกเรายังเรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาลเพิ่งจะมาแยกที่เรียนกัน ก็ตอนตอน ม.1 นี่เองพอหลังจากจบ ม.3 จากที่โรงเรียนเก่าผมกับไอ้หนึ่งเลยย้ายตามมันมาเรียนที่เดียวกับมัน“ออ รู้ดีไปหมดทุกเรื่องจริงๆนะมึงเนี่ย” ผมพยักหน้าเข้าใจพร้อมชมมันขึ้นมาบ้าง“แน่นอนครับ” มันรับคำพร้อมยักไหล่ใส่ผมอย่างกวนๆ“น่ารักใช่ไหมล่ะพี่อิงฟ้าน่ะ สนใจอยากจีบป่าวเดี๋ยวกูจัดให้ เอาป่าวๆ” ไอ้กันต
ตอนที่ 4 Part อดีต…ก็แค่อยากทักทาย..หลังจากวันนั้น ที่พี่อิงฟ้าเอาชานมไข่มุขมาให้ ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว และเหมือนเราจะได้บังเอิญเจอกันบ่อยมากขึ้น ทั้งเดินสวนกันที่โรงอาหาร เดินสวนกันตอนเปลี่ยนคาบเรียน แล้วก็เจอกันหลังเลิกเรียนแทบจะทุกวันเลยแต่ทุกครั้งที่เจอกันเพื่อนๆของเธอก็จะคอยสกิดเธอและชี้มาทางผม แต่เธอก็ทำเพียงแค่หันมามองแค่แวบเดียวแล้วก็หันหนีเหมือนพยายามจะหนีหน้าผม ไม่ได้อยากจะคุยด้วยไรงี้ไอ้กันต์เล่าให้ผมฟังว่าเธอเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆ และไม่เคยได้ยินข่าวว่าเธอเคยมีแฟนเลยซักคน แล้วก็คงไม่คิดจะมีแฟนเร็วๆนี้ด้วยมั้ง เพราะเธอเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียน หลังเลิกเรียนก็ไปเรียนพิเศษต่ออีกแล้วมันก็ยังเล่าต่อว่าเธอตั้งใจจะสอบเข้าคณะแพทย์เลยทำให้เธอสนใจมุ่งมั่นแค่การเรียนเป็นหลักแต่พอได้บังเอิญเจอกันบ่อยๆเข้า ผมก็เพิ่งจะสังเกตว่าทุกครั้งเธอจะหลบสายตาผมตลอดเลย เหมือนไม่อยากจะคุยหรือไม่อยากจะยุ่งอะไรด้วยซักเท่าไหร่ แต่เธอจะรู้ไหมยิ่งเธอทำแบบนี้มันยิ่งทำให้ผมชักจะสนใจเธอขึ้นมาแล้วสิ อยากจะเข้าไกล้เธอมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก จากที่ตอนแรกกะจะแกล้งเธอให้เขินผมเล่นๆ แต่เหมือนจะเป็นผมมากกว่าท
ตอนที่ 5 Part อดีต…ใครมาส่งหลังจากเลิกเรียนฉันก็มายืนรอพี่ชายของฉัน ‘อคิน กิตติภพ สิริวัฒนา อายุ 20 ปี เรียนวิศวะโยธาปี2’พี่อคินบอกว่าวันนี้หลังเลิกเรียนจะมารับ นี่ก็เลยเวลาเลิกเรียนมาจะยี่สิบนาทีแล้วก็ยังไม่มา เฮ้อฉันล่ะเบื่อกับความไม่ตรงต่อเวลาของเขาจริงๆพี่อคินเขาเรียนวิศวะที่มหาลัยดังแห่งหนึ่ง ซึ่งทีแรกแม่ฉันอยากให้เขาเรียนหมอแต่เขาก็ไม่ยอมขัดใจแม่ไปหมดทุกอย่าง ดื้อหัวรั้นไม่ฟังใคร จนแม่ฉันยอมเพราะขี้เกียจจะพูด เพราะถ้าพูดทีไรก็จะทะเลาะกันตลอด ถึงภาพลักษณ์พี่อคินจะดูดุดันไม่ยอมคน ติดเย็นชาไปหน่อยสำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันเขาคือคนที่อบอุ่นและรักฉันมากที่สุด ยอมอ่อนข้อให้ฉันตลอดซักพักก็มีรถบิ๊กไบค์มาจอดเทียบริมฟุตบาทข้างหน้าฉัน “ขึ้นรถเลยครับน้องสาว” พี่อคินจอดรถลงมายืนต่อหน้าฉัน ถอดหมวกกันน็อคใบโตพร้อมกับนำมันมาสวมหัวให้ฉันฉันมองหน้าพี่ชายพร้อมยิ้มให้ แต่ในขณะเดียวกันสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นแดนดิน เราสบตากันครู่นึงก่อนฉันจะหันกลับมาแล้วขึ้นรถกลับบ้านพร้อมพี่คินวันถัดมา วันศุกร์สุดสัปดาห์หลังเลิกเรียนฉันก็มาเรียนพิเศษตามปกติพอเรียนเสร็จก็เปิดประตูออกมา จังหวะนั้น ก็มีประตูห้องข
ตอนที่ 6 Part อดีต…เริ่มชอบเขาเข้าแล้วสินี่ก็หนึ่งเดือนผ่านมาแล้ว หลังจากวันนั้น ที่เขาอาสาไปส่งฉันที่บ้าน ฉันก็มักจะได้เจอเขาทุกวัน ทั้งตอนอยู่โรงเรียน และหลังเลิกเรียนพิเศษ เขามักจะมายืนรอรถที่บ้านมารับเป็นเพื่อนฉันประจำ เขาพยายามที่จะเข้าหาฉันมากขึ้น ชวนฉันคุย ทั้งที่เขาเป็นคนคุยไม่เก่งแต่ก็หาเรื่องมาชวนคุยได้ตลอดเลยจนเราเริ่มสนิทกันประมาณนึง ฉันเชื่อใจเขามากขึ้น กล้าสบตาเขามากขึ้น เลยยอมแลกช่องทางการติดต่อกันไว้เพื่อที่เขาจะได้ทักมาถามเรื่องที่เรียนไม่เข้าใจ เขาว่างั้นนะ และฉันก็เชื่อเขาเขาโทรหาฉันทุกวัน แรกๆก็โทรมาถามเรื่องการบ้าน หลังๆเริ่มไม่ใช่ละ เขามักจะโทรมา หาเรื่องมาเล่าและชวนคุยนู้นนี่นั่นไปเรื่อย เราเริ่มคุยกันนานขึ้น จากสิบนาที เป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงเป็นหลายชั่วโมงต่อวันบางวันฉันต้องทำการบ้านและอ่านหนังสือ ไม่ว่างคุยกับเขาเพราะปีนี้ไกล้จะจบแล้วต้องเตรียมตัวในการสอบเข้าคณะแพทย์ แต่เขาก็ขอโทรไลน์มาหาเพื่อมานั่งมองฉันอ่านหนังสือเงียบๆจนบางวันเขาก็นั่ง หลับฟุบคาโต๊ะก็มี แรกๆฉันก็เขินเหมือนกันนะ มีคนมานั้งจ้องกันขนาดนี้ แต่ตอนนี้ชักเริ่มจะชินแล้วล่ะ ชินแบบไม่รู
ตอนที่ 7 Part อดีต...เป็นแฟนกันนะสวนสาธารณะ 18:30 น. (สิ้นเดือน ก.ค 20XX)หลังจากกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขับรถพาฉันมาที่สวนสาธารณะของหมู่บ้านฉัน ว่าจะมาเดินย่อยอาหาร รับลมตอนเย็นกัน วันนี้พ่อแม่ฉันท่านบอกว่าจะกลับดึกเพราะต้องไปงานสมาคมเพื่อการกุศลของเพื่อนท่าน ส่วนพี่ชายฉันก็ไม่แน่ใจว่ากลับถึงบ้านหรือยังช่วงนี้ชอบกลับบ้านดึกๆ บางวันก็ไม่กลับเลยก็มี ไม่รู้ว่าไปติดสาวที่ไหนหรือเปล่าเขาจับมือฉันเดินมาเรื่อยๆโดยไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของเราทั้งคู่เลย แต่น่าแปลกที่มันไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยซักนิดอากาศยามเย็นค่อนข้างสดชื่น มีลมพัดมาตลอด ผู้คนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง บางคนเดินออกกำลังกาย บางคนปั่นจักรยานเล่น สวนสาธารณะที่นี่ค่อนข้างกว้างขวาง มีสระน้ำเป็นคลองธรรมชาติ และมีเก้าอี้เหล็กยาวตามจุดต่างๆให้นั่งชมดื่มด่ำกับบรรยากาศเขาจูงมือพาฉันเดินมานั่งที่เก้าอี้ริมสระน้ำ นั่งไปได้ซักครู่เขาก็พูดขึ้นมา“ในชีวิตนี้พี่อยากทำอะไรมากที่สุดครับ” ฉันหันไปมองเขาครู่นึง“อืมมม..คงอยากใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการมั้ง อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ อยากแต่งตัวแบบไหนก็แต่ง ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง ใช้ชีว
ตอนที่ 8 Part อดีต…มึงคบกับน้องกูหรอพอมาถึงหน้าบ้านเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอก็หันมา “ขอบคุณนะคะ”“ครับ ถึงบ้านแล้วเดี๋ยวโทรหานะครับ” พูดจบผมก็โน้มหน้าไปหอมแก้มเธอหนึ่งฟอด เธอจึงหันมาทำตาดุใส่ผม พร้อมเอามือกุมแก้มข้างที่โดนผมหอมไป ผมยิ้มกริ่มทำหน้าลอยอย่างกวนๆ พอขอเป็นแฟนปุ๊ป ผมก็อัพสกิลเพิ่มเลเวลทันที“เดี๋ยวเถอะ หลายรอบแล้วนะวันนี้อะ เห็นไม่ว่าหน่อย เอาใหญ่เลยนะคะ”“ยังไม่ได้เอาเลย...เอาใหญ่อะไรกันครับ” ผมทำมึน โน้มหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเธอเธอทำตาโตอ้าปากค้าง เมื่อได้ยินที่ผมพูดประโยคเมื่อกี้ไป “ทะลึ่ง” เธอผลักไหล่ผมออกเบาๆพร้อมกับหันไปเปิดประตูรถเตรียมจะลง แต่ก็เป็นอันต้องชะงักนิ่งค้างไปผมทอดสายตามองตามเธอไปหยุดอยู่ที่ประตูรั้วบ้านก็เจอเข้ากับพี่ชายของเธอ คนที่ผมเคยเห็นไปรับเธอที่หน้าโรงเรียนเมื่อเดือนก่อนพี่ชายเธอยืนกอดอก เอนไหล่พิงขอบประตู รั้วบ้านสายตาจ้องมองมาที่ผมนิ่ง“ใครมาส่ง” พี่ชายเธอถามเธอด้วยน้ำเสียงเข้มดุ แต่สายตายังมองมาที่ผมอย่างไม่ลดละ มองผมแบบนี้คือเห็นหมดแล้วสินะเมื่อกี้“เอ่อ…พี่คิน คะ คือว่า…” ในขณะที่เธออ้ำๆอึ้งๆพูดไม่ทันจบประโยคพี่เธอก็พูดสวนออกมาก่อน“มึง
ตอนที่9 Part อดีต...แฟนเราเองIngfah Kawintra talk…เช้าวันถัดมาระหว่างนั่งรอเข้าแถวอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึกเรียน“อะไรของพวกแกเนี่ย จะนั่งจ้องฉันอีกนานไหม” ฉันถามยัยเพื่อนตัวแสบสี่สาวที่เอาแต่ล้อมวงนั่งจ้องหน้าฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย“ยัยอิง แกมีอะไรจะบอกพวกฉันไหม” ยัยพอลล่าเป็นคนเปิดปากถามคนแรก“ไม่มี๊ จะมีอะไรได้ล่ะหรือพวกแกไปรู้อะไรมาก็พูดออกมาเถอะฉันขี้เกียจจะเดา” ฉันตอบพร้อมสายหัวไปมา“ตอบเสียงสูงเชียวนะแก” ยัยแป้งพูดขึ้นพร้อมยิ้มกริ่มเหมือนไปรู้อะไรมาซักอย่าง“พวกฉันเห็นนะว่าเมื่อวานแกไปกินข้าวกับใครที่ห้างมา” ยัยกิ๊ฟพูดขึ้นพร้อมหรี่ตามองอย่างจับผิดฉันเบิกตากว้างเมื่อได้ยินยัยกิ๊ฟพูด “ นี่อย่าบอกนะว่า ”“ใช่พวกฉันเห็นกันทั้งหมดนี่แหละ ว่าแกไปกินข้าวกับน้องแดนดินที่ห้างมาเมื่อวาน” ยัยพอลล่าพูดขึ้นอีก“สรุปเรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมแกถึงได้ไปนั่งกินข้าวกับดินมันได้” ยัยแป้งยังคงถามต่อ โอ๊ยยยย!! งานนี้ฉันโดนซักฟอกจนสะอาดแน่เลย มีอะไรไม่เคยปิดยัยพวกนี้ได้เลยสินะ เพราะรู้จักกันมานาน เรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาลเลยทำให้รู้ใส้รู้พุงเรื่องของกันและกันหมดทุกเรื่อง พวกเราทั้งห้าคนไม่เคยมี
ตอนที่10 Part อดีต...เที่ยวทะเลกัน4เดือนต่อมาวันนี้เป็นวันครบรอบที่เราครบกันมา4เดือนแล้วหลังจากที่ดินขอฉันเป็นแฟน ตลอดเวลาที่เราคบกันมาดินยังคงเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยน เขาดูแลเทคแคร์ฉันดีมากๆและที่สำคัญเขาเป็นคนที่ติดสกิลชิปสุดๆอยู่ด้วยกันสองต่อสองเป็นไม่ได้ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอมขี้อ้อนเป็นที่สุด แรกๆฉันก็ไม่ยอมแต่มีหรือคนมือไวมือปลาหมึกจะฟังกัน จนตอนนี้ฉันชักจะชินกับนิสัยเขาซะแล้ววันหยุดเขาก็มักจะพาฉันไปเดินห้าง ดูหนังบ้าง กินข้าวบ้างตามประสา มีหลายครั้งที่เขามักจะงอนฉันเพราะช่วงหลังๆมานี่ฉันต้องอ่านหนังสืออย่างหนัก จนไม่มีเวลาให้เขาเลย แต่เราก็ไม่เคยทะเลาะกันเลยซักครั้งวันนี้ฉันเลยให้เวลาเขาหนึ่งวันเพราะวันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ไม่มีเรียนพิเศษและตอนนี้เราก็อยู่ทะเลบางแสนกันขับรถจากกรุงเทพมาแค่2ชั่วโมงก็ถึง ซึ่งฉันก็ได้บอกพี่คินแล้วว่าจะมาเที่ยวกับดิน แต่ฉันเพิ่งจะรู้เมื่อกี้นี่แหละว่าเขาพาฉันมาที่ทะเล“ทำไมพามาทะเลล่ะดิน เราคิดว่าวันนี้ดินจะพาเราไปดูหนังเหมือนทุกครั้งซะอีก”“ก็ดินอยากพาอิงมาเที่ยวที่ไกลๆบ้าง ไปเดินแต่ห้างดินกลัวอิงจะเบื่อ แล้วที่สำคัญก็อยากมีช่วงเวลาดีๆร่วมกันกับอ
ตอนพิเศษ4 เดือนผ่านไปแว๊ อุแว๊ อุแว๊!!!! แอ้!!!!!เสียงแฝดน้อยส่งเสียงร้องพร้อมกันในห้องทำงานกว้าง ซึ่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่เลี้ยงเด็กไปเป็นเรียบร้อยแล้ว“ ใจเย็นๆครับลูก นมหม่ำๆกำลังมาแล้วนะครับ…โอ๋ๆไม่ร้องนะคะคนสวยของพ่อจ๋า ” มือข้างนึงของผมก็อุ้มลูกสาวโยกไปมา ส่วนอีกข้างก็ไกวเปลให้ลูกชายไปด้วยที่ผมต้องพาลูกมาทำงานด้วยเพราะมีเอกสารด่วนที่ต้องเซ็น ส่วนพี่เลี้ยงสองแฝดก็ลาหยุดหนึ่งวันกลับมาตอนเย็น คุณแม่คนสวยอย่างอิงฟ้าก็มีเคสพิเศษเข้ามาพอดี อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นใช่ไหมล่ะครับ แต่ก็นั่นแหละครับมันเป็นไปแล้วและตอนนี้ผมกำลังรอนมแม่ที่ให้ไอ้ทิวไปอุ่นอยู่ อิงฟ้าเธอค่อนข้างเก่งมาๆทีแรกน้ำนมไม่ค่อยเยอะเธอก็สรรหาของอะไรมาบำรุงเยอะแยะเต็มไปหมดผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เวลาเมียใช้ให้ไปซื้ออะไรก็หาอยู่นานทีเดียว“ ไอ้ทิวโว้ยยยย!!! ได้หรือยังวะ ลูกกูจะกินชาตินี้นะเว้ยไม่ใช่ชาติหน้า ” พอผมตะโกนว่าไอ้ทิวไปแบบนี้ลูปผมหยุดร้องไปทันที แล้วพากันมองมาที่ผมตาแป๋ว“ ได้แล้วๆ…ท่านรอง ต่อหน้าเด็กไม่ควรพูดคำหยาบนะครับ ถ้าคุณอิงฟ้ามาได้ยินท่านรองจะโดนบิดหูชาเหมือนวันนั้นนะครับ ”ใช่ครับที่
ตอนที่38 END….เจ้าสองแฝดหลังจากเพื่อนๆกลับไปกันหมดแล้ว ฉันก็มานั่งจับมือดินแล้วก็เอาไดอารี่ที่เขาเขียนไว้ขึ้นมาอ่านไปด้วยเริ่มตั้งแต่เล่มแรก เขาเป็นคนละเอียดใส่ใจเหมือนกันนะเนี่ย มีรูปฉันแปะหน้าสมุดทุกเล่มแถมมีเลขเขียนติดมาด้วยว่าเล่มไหนเป็นเล่มที่เท่าไหร่[ ถึงที่รักของดิน…อิงฟ้า]วันนี้เป็นวันที่เราตัดสินใจบอกเลิกอิงแต่รู้ไหมว่าเราเจ็บปวดมากแค่ไหนยิ่งเห็นตอนอิงร้องไห้ ใจเรามันเหมือนจะขาดตาม ที่เราพูดไปทั้งหมดวันนี้มันไม่จริงเลย อิงมีค่ากับดินมากที่สุดแต่เป็นดินเองที่ไม่ดี ดินอยากบอกให้อิงรู้ว่าอิงมีความหมายและสำคัญกับดินมากนะดินไม่เคยอยากเลิกกับอิงเลยแต่ดินไม่มีทางเลือกดินไม่อยากให้อิงเกลียดดินดินรักอิงนะ…รักมากที่สุด…รักมากกว่าชีวิต….....ดิน....ฉันอ่านไปก็ร้องไห้ไปดินเขียนไว้หมดทุกช่วงเวลาตลอด7ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งตอนที่เขาเรียนมหาลัยแล้วเขาเดินผ่านฉันเขาก็ยังเขียนไว้หมดเขาคงเจ็บปวดมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฉันเองก็ไม่ต่างกัน กว่าที่ฉันจะผ่านมาได้แต่ละวันมันช่างยากลำบาก ‘และฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขาจะรักฉันได้มากขนาดนี้ทุกเล่มที่เขียนเขามักจะลงท้ายด้วยคำว่า รักมากกว่าชีวิต ทุกหน
ตอนที่37 บันทึกแดนดิน3วันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพเหตุการณ์นั้นย้อนกลับเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันได้เสียเขาไปแล้วตลอดกาลจริงๆ ‘แดนดิน จิรายุ’ ผู้ชายคนเดียวที่ฉันรักหมดหัวใจ และไม่รู้ว่าจะสามารถรักใครได้เท่าเขาอีกหรือเปล่า แล้วเขายังฝากตัวแทนของเขาอีกหนึ่งชีวิตไว้กับฉันด้วย“ดิน ฮึก” ฉันตื่นขึ้นมามองไปบนเพดานห้องถึงได้รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนไข้ที่โรงพยาบาล“อิงฟ้าลูก ฟื้นแล้วหรอ” ทันทีที่แม่กับพ่อเห็นฉันขยับตัวก็รีบลุกจากโซฟามาดูฉันทันที“แม่คะ ฮือออ พ่อคะ…ดินอยู่ไหนคะ ฮึก”“ใจเย็นๆนะลูกร่างกายเพิ่งจะฟื้นตัวอย่าขยับเยอะ ไม่ห่วงตัวเองก็เป็นห่วงหลานแม่กับพ่อบ้าง”“พะ พ่อแม่รู้แล้วหรอคะ?” ฉันเบิกตากว้าง เงยหน้ามองพ่อกับแม่“ใช่…พ่อเป็นหมอนะทำไมพ่อจะไม่รู้” พ่อลูบหัวฉันพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม“ลูกท้องกับดินใช่ไหม หลานแม่ไม่ใช่ลูกของเสือใช่ไหมยัยอิง” แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่มีดุหรือด่าเลยซักคำ“...” ฉันได้แต่ก้มหน้าร้องไห้เงียบๆ แต่ทันใดนั้นก็มีคน เคาะประตู แล้วเปิดเข้ามา ฉันเคยเห็นพวกเขาผ่านจอทีวีมาบ้าง แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริงก็อกๆ ก็อกๆ คลืดดดดดดเป็นพ่อ แม่ น้องช
ตอนที่36 ขอร้อง ได้โปรดกลับมา“เห้ยยย ไอ้ดิน / อ๊ายยย / กรี๊ดดด” เสียงผู้คนอื้ออึงหลากหลายเสียง แต่สำหรับฉันเหมือนโลกแตกสลายหูดับไปชั่วขณะ“ไม่ๆๆ ดินทำแบบนี้ทำไม มาบังอิงไว้ทำไม ฮือๆๆ” ฉันร้องไห้นั่งกอดเขาราวกับจะขาดใจ“ไอ้คินเอารถออกเร็ววว” เสียงพี่เสือวิ่งมาหาฉัน “อิงๆเป็นอะไรรึเปล่า” พี่เสือถามด้วยความร้อนรน“มะ ไม่ค่ะ แต่ดิน ฮืออ! ดินลืมตามามองอิงก่อนนะห้ามหลับเด็ดขาดเลยนะ”แล้วพวกเพื่อนดินก็พากันมาแบกดินขึ้นรถ ฉันก็นั่งไปกับเขาโดยที่เขาหนุนตักฉัน“ไม่ เป็นไร นะ ดะ ดินไม่เจ็บเลย อย่าร้องไห้ เพราะ ดินอีกเลย นะ” ดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงพร่าเบาหวิวเอ่ยปลอบฉันที่เอาแต่กอดเขาร้องไห้“ไม่นะดิน ดินห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด อิงยังรักดินอยู่นะ รักมาตลอด ดินห้ามตายไม่งั้นอิงจะไม่รักดินแล้ว ฮึก ฮือออ”“ดิน ก็ รักอิงนะ อิงฟ้า ระ รักมากกว่า ชะ ชี…” เสียงเขาขาดห้วงไปในตอนท้ายมือของเขาจากที่จับแก้มฉันอยู่ก็ตกลงข้างลำตัวนิ่งสนิทไป“ไม่ๆๆไม่นะดิน ลืมตามาคุยกับอิงสิ ฮือๆ แล้วอิงจะอยู่ยังไง ลูกของเราเค้าก็ต้องการดินนะ ฮือๆๆ!” ฉันเพิ่งตรวจพบเมื่อวานนี้เอง ว่าฉันท้อง น่าจะได้เดือนกว่าๆแล้ว เพราะตั้งแต่วันนั้น
ตอนที่35 ทำไมทำแบบนี้วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองก่อนวันหมั้นจะเกิดขึ้นในอีกสองวันของฉัน และพี่เสือ ซึ่งฉันก็ได้เชิญเพื่อนทุกคนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมและมหาลัย วันนี้เป็นงานเลี้ยงแบบปิดรู้กันเฉพาะเพื่อนและคนรู้จักเท่านั้น เรามาจัดกันที่ผับของพี่คินกัน ถึงจะเป็นงานเลี้ยงแบบปิดแต่คนก็ยังเยอะอยู่ดีมีประมาณ 30 กว่าคนทั้งเพื่อนฉันเพื่อนพี่เสือ แล้วฉันก็ยังเชิญกลุ่มของน้องกันต์มาด้วย ซึ่งในนั้นก็มีแดนดิน แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่านะ“ยินดีด้วยค๊าาเพื่อนสาว เผลอแปปๆก็จะมีสามีก่อนเพื่อนคนอื่นๆซะแล้ว” พวกเพื่อนฉันต่างมายืนล้อมวงชนแก้วฉัน“ยังๆ สามงสามีอะไร คู่หมั้นก็พอไหม แกก็เวอร์เกิน” ฉันว่าให้ยัยกิ๊ฟ ที่พอเมาแล้วพูดเก่งกว่าใครเพื่อนเลย“เอาน่าอีกไม่กี่เดือนก็เป็นสามีแล้ว” ใช่ค่ะ ที่เพื่อนพูดก็มีส่วนถูก เพราะเราหมั้นกัน แล้วอีกสามเดือนก็จะเกิดงานแต่งขึ้นซึ่งมันไวมาก จนฉันก็แทบจะตั้งรับไม่ทันเพราะพวกผู้ใหญ่เค้าคุยและจัดการกันเองฉันเพิ่งจะมารู้เรื่องก็วันที่แม่โทรมาบอกให้ฉันไปลองชุดงานหมั้นที่บ้านนั่นเอง “เฮ้อ!!” ฉันได้แต่ถอนหายใจ“เป็นไรแก ไม่มีควาทสุขหรอจะได้หมั้นกับพ่อหนุ่มเทพบุตรเชียวนะ” ยัยแ
ตอนที่34 ทรมานจนไม่รู้จะอยู่ยังไงหลังจากปรับความเข้าใจกับอิงฟ้า ผมก็หอบสังขารกับใจที่แตกสลายกลับมาบ้านด้วยใจที่แสนจะเจ็บปวด ผมไม่มีวันได้เธอคืนมาจริงๆแล้วสินะ เธอใจแข็งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ผมคิดว่าถ้าผมได้บอกความจริงกับเธอไปแล้ว เธอจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ผมคิดผิด เธอยังคงยืนยันจะหมั้นกับผู้ชายคนนั้น ผมก็คงทำได้เพียงแค่ยินดีกับเธอขอให้เธอไม่เจ็บปวดเหมือนตอนคบกับผม และดูจากสายตาทุกครั้งที่ผู้ชายคนนั้นมองอิงฟ้ามันเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น หวังว่าเขาจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่าคนอย่างผมมาถึงบ้านผมก็หมกตัวอยู่แต่บนห้องนอน ในห้องผมจะมีห้องทำงานแยกออกไปอีก มีโซฟากลางห้องและมีทีวีจอยักติดผนังอยู่ซึ่งผมก็นั่งตรงนั้น ตรงโซฟาตัวยาวกลางห้องทำงาน จอภาพยังคงฉายวนซ้ำๆกับคลิปวิดิโอต่างๆที่ผมชอบถ่ายเก็บไว้เวลาผมกับอิงฟ้าใช้เวลาอยู่ด้วยกัน วันๆผมก็มักจะมาหมกตัวอยู่แต่ในห้องนี้ตลอด และเขียนไดอารี่ถึงเธอทุกครั้งที่คิดถึงผมนั่งกระดกเหล้าลงคอไม่รู้เป็นแก้วที่เท่าไหร่แล้ว เหม่อมองวิดิโอตอนที่เราไปเที่ยวทะเลและเล่นน้ำด้วยกันซ้ำๆ มันเล่นวนไปมาตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้ก็เช้าแล้ว ผมก็ยังไม่ลุกไปไหน[ ถึงท
ตอนที่33 ขอโอกาสได้ไหม…ครั้งสุดท้ายมาถึงไทยเป็นเวลาหกโมงเย็นของอีกวันผมก็ตรงมาที่ห้องของอิงฟ้าทันที“ก็อกๆๆ” รอไม่ทานเธอก็มาเปิดโดยที่ในมือยังถือโทรศัพท์เหมือนคุยกับใครอยู่ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่พอเห็นเป็นผมรอยยิ้มบนใบหน้าสวยก็หายไปทันที“พี่เสือคะงั้นแค่นี้ก่อนนะคะ” เจ็บกว่านี้คงไม่ไหวแล้วว่ะ ผมมองยืนมองหน้าเธอนิ่งดวงตาคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำใสที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ“คุณ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอยังคงใช้สรรพนามห่างเหิน“อิงครับ ดินขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ ขอร้องล่ะ” ผมพูดเสียงสั่น และสุดท้ายน้ำตาก็ไหลหยดลงมา“เข้ามาก่อนสิคะ” ฉันที่เห็นเขาดูจริงจัง น้ำตาไหลรินก็ใจอ่อนยวบ เขาคงมีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยากระบาย“ขอบคุณครับ” ผมเดินตามเข้าไปในห้องเธอ ก่อนจะโผกอดเธอจากข้างหลัง“ดินขอกอดอิงแบบนี้ซักแปปนะ อย่าพึ่งไล่กันนะครับ ฮึกกก”“....” ฉันได้แต่ยืนนิ่งให้เขากอด ทำไมใจฉันเจ็บแบบนี้นะแค่เห็นเขาร้องไห้ใจก็รวดร้าวเจ็บแปลบเขาผละกอดออกจากฉัน และเราก็หันหน้ามาเผชิญกัน“ดินอยากอธิบายเรื่องเมื่อ7ปีก่อน ได้โปรดอิงช่วยรับฟังดินซักครั้งได้ไหมครับ” ผมพูดเสียงสั่นๆ พอเห็นเธอมีท่าทีอ่อนลงแล้วพยักหน้าผมก็
ตอนที่32 ข่าวการหมั้นก่อนเลิกงานผมไม่ลืมที่จะกำชับไอ้ทิวให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับฝ้าย โดยสืบรวมไปที่ครอบครัวเธอด้วย ฝ้ายทำอิงฟ้าเจ็บปวดเท่าไหร่ ผมจะคืนความเจ็บปวดให้ฝ้ายคืนไปเป็นเท่าตัว ในเมื่อเคยเตือนแล้ว ไม่ฟังเองก็ช่วยไม่ได้ ความเป็นเพื่อนมันจบลงไปตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อนแล้วและผมก็รู้ความจริงของเรื่องเมื่อ 7 ปีก่อนแล้วด้วยที่ฝ้ายได้สร้างเรื่องขึ้นวันนั้น ตอนที่ผมรู้เรื่องนี้จากปากลูกน้องที่สั่งให้ไปคาดคั้นข่มขู่เพื่อนของฝ้ายอย่างฝนกับมีนามา ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมนี่โกรธจนแทบอยากจะไปฆ่าฝ้ายซะเดี๋ยวนั้นให้ได้เลยพวกเธอยอมสารภาพว่าได้ร่วมมือกับฝ้ายจัดฉาก และวางยานอนหลับผม ไอ้กันต์ ไอ้หนึ่ง พอพวกผมหลับกันไป ฝ้ายก็ให้คนขับรถที่บ้านเธอ แบกผมขึ้นไปนอนบนห้องแล้วจัดการถอดเสื้อผ้าผมออกจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ต้วเดียวติดกายจากนั้นก็ถอดเสื้อตัวเองออกให้เหลือแต่เกาะอก จัดท่าทางถ่ายรูปไว้แบล็กเมลผม ก่อนเธอจะผล็อยหลับตามผมไป เพราะดันไปกินไวน์ผิดแก้ว กินเข้ากับแก้วที่ตั้งใจจะเอาให้ผมดื่มยกสุดท้าย แต่ตัวเองดันเผลอดื่มไปซะเอง ผมก็คิดนะนี่เธอใส่ยานอนหลับให้ผมหลายแก้วขนาดนั้นได้ไงไม่คิดว่าผมจะหลับไ
ตอนที่31 เธอทำแบบนี้ทำไมวะDandin Jirayu talk…ผมตื่นขึ้นมาในช่วงสายๆของวัน มือก็ควานหาตัวคนที่นอนกอดกันทั้งคืนแต่พบเพียงความว่างเปล่า จนรีบลืมตาเด้งตัวขึ้นพรึบบบบบ!!! “หายไปไหน”ผมมองซ้ายขวาก็ไม่เจอก่อนจะรีบลุกไปดูที่น้องน้ำก็ไม่เจอ … เธอไปแล้ว …“โธ่เว้ย!! ยังไม่ทันจะได้คุยกันให้เข้าใจเลย หนีไปไหนอีกแล้วเนี่ยยย!!”ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปเคาะที่ห้องอิงฟ้าเป็นนานสองนาสก็ไม่เปิด “หรือจะไปทำงาน เดี๋ยวตอนเย็นเราได้คุยกันแน่อิงฟ้า”เพราะผมมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการไม่แพ้เรื่องของอิงฟ้า เลยขอไปจัดการก่อนดีกว่าตู๊ดดด ตู๊ดดด ตู๊ดดด “ฮัลโหล ว่าไงคะดินคิดถึงฝ้ายล่ะสิถึงโทรมาได้” ปลายสายจีบปากจีบคอพูดอย่างมั่นใจ“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ มาพบฉันที่บริษัทด้วยเดี๋ยวนี้” ผมไม่ถามหรอกว่าว่างหรือเปล่าเพราะผมต้องการคุยเดี๋ยวนี้เท่านั้น“แหม!! ดินใจร้อนจังเลยนะคะ รออีกหน่อยได้ไหมคะฝ้ายมีถ่ายงานอีก1เซ็ทเองค่ะ เสร็จแล้วเดี๋ยวฝ้ายไปหาน๊าาา” “ฉันให้เวลาเธอภายในหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”“โอเคๆเดี๋ยวฝ้ายจะรีบไปนะคะ” ตุ๊ดดด“หึ!! ฉันเคยเตือนเธอแล้วนะฝ้าย อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” ผมก