ตอนที่ 7 Part อดีต...เป็นแฟนกันนะ
สวนสาธารณะ 18:30 น. (สิ้นเดือน ก.ค 20XX) หลังจากกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขับรถพาฉันมาที่สวนสาธารณะของหมู่บ้านฉัน ว่าจะมาเดินย่อยอาหาร รับลมตอนเย็นกัน วันนี้พ่อแม่ฉันท่านบอกว่าจะกลับดึกเพราะต้องไปงานสมาคมเพื่อการกุศลของเพื่อนท่าน ส่วนพี่ชายฉันก็ไม่แน่ใจว่ากลับถึงบ้านหรือยังช่วงนี้ชอบกลับบ้านดึกๆ บางวันก็ไม่กลับเลยก็มี ไม่รู้ว่าไปติดสาวที่ไหนหรือเปล่า เขาจับมือฉันเดินมาเรื่อยๆโดยไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของเราทั้งคู่เลย แต่น่าแปลกที่มันไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยซักนิด อากาศยามเย็นค่อนข้างสดชื่น มีลมพัดมาตลอด ผู้คนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง บางคนเดินออกกำลังกาย บางคนปั่นจักรยานเล่น สวนสาธารณะที่นี่ค่อนข้างกว้างขวาง มีสระน้ำเป็นคลองธรรมชาติ และมีเก้าอี้เหล็กยาวตามจุดต่างๆให้นั่งชมดื่มด่ำกับบรรยากาศ เขาจูงมือพาฉันเดินมานั่งที่เก้าอี้ริมสระน้ำ นั่งไปได้ซักครู่เขาก็พูดขึ้นมา “ในชีวิตนี้พี่อยากทำอะไรมากที่สุดครับ” ฉันหันไปมองเขาครู่นึง “อืมมม..คงอยากใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการมั้ง อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ อยากแต่งตัวแบบไหนก็แต่ง ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง ใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระเสรี แต่คงได้แค่คิดแหละ บางทีเราก็ทำอย่างที่ใจปราถนาทุกอย่างไม่ได้” ฉันยิ้มขื่นให้กับชีวิตตัวเอง แล้วหันไปมองผิวน้ำเบื้องหน้า …End Ingfah Kawintra… Dandin Jirayu talk… ผมหันไปมองเธอที่ทำหน้าซึมมองไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า แล้วถามต่อ “ทำไมถึงคิดงั้นล่ะครับ” “ก็เพราะว่าทั้งชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่จำความได้เราไม่เคยได้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการเลยน่ะสิ แม่สั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำตาม ห้ามถาม ห้ามสงสัยเพราะสิ่งที่ท่านเลือกให้ย่อมดีที่สุดแล้ว” เธอตอบออกมาเสียงเศร้า โดยไม่ได้หันมามองผมขณะพูด ตั้งแต่ได้รู้จักและโทรคุยกันมาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน ถึงมันจะไม่ได้นานอะไร แต่ผมก็พอจะรู้มาบ้างว่าเธอเหนื่อย และอึดอัดแค่ไหน เธอต้องอ่านหนังสืออย่างหนักทุกวัน ต้องเรียนพิเศษทุกวัน แทบไม่มีวันได้หยุดพักสมอง ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว ไปกินข้าวสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเท่าไหร่ เธอเคยบอกผมว่าความจริงแล้วเธอไม่ได้อยากเป็นหมอเลย เธออยากเรียนนิเทศทำงานเบื้องหลังโฆษณา แต่เธอไม่กล้าบอกครอบครัวเธอ กลัวแม่ของเธอจะผิดหวัง และหาว่าไร้สาระ เธออยากให้แม่เธอมีความสุขถึงแม้จะขัดกับความต้องการของตัวเองก็ไม่เป็นไร พอผมเห็นเธอทำหน้าเศร้าก็คิดว่าเปลี่ยนเรื่องคุยน่าจะดีกว่า “ไม่เอาละ เราไม่พูดเรื่องเศร้ากันละ เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าเนอะ” เธอหันมายิ้มให้ผมนิดๆ “อื้อ เอาสิคะ” “แล้วพี่เกลียดอะไรที่สุดอะครับ” ผมถามไปอย่างไม่รู้จะถามอะไร ก็อย่างที่รู้แหละผมมันเป็นคนคุยไม่ค่อยเก่ง ไม่รู้จะหาอะไรมาพูดคุยกับเธอดี ซึ่งเธอก็เป็นคนคุยไม่ค่อยเก่งเหมือนกัน ถ้าไม่ชวนคุยก่อน ทีนี้ก็ลำบากว้าวุ่นเลย ฮ่าๆ…. จริงๆผมก็อยากรู้ด้วยนั่นแหละ ผมสนใจทุกอย่างที่เป็นเธอ อยากรู้ว่าเธอชอบ หรือไม่ชอบอะไร ผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าจะสนใจเรื่องของเธออะไรขนาดนั้นทั้งที่เมื่อก่อนไม่ได้คิดจะชอบหรือคิดจะจีบเธอเลยด้วยซ้ำ “สิ่งที่เกลียดหรอ อืมมม” เธอทำท่าคิดครู่หนึ่ง “เราเกลียดการโดนคนไกล้ชิดหักหลังอะ เกลียดการโดนโกหก เราไม่ชอบความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนโง่ เราว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะเราให้ใจใครเราให้เต็มร้อยเสมอ” “แล้วถ้าโดนคนไกล้ชิดหักหลังงี้ หรือโดนโกหกพี่จะทำไงอะ จะแก้แค้นไหม?” ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมผมถึงถามไปแบบนั้น ก็คงอยากรู้แหละมั้ง ว่าเธอจะจัดการยังไงต่อ “เราก็คงเกลียด ไม่อยากจะพูดหรือมองหน้าคนๆนั้น และจะไม่มีวันให้อภัยคนแบบนี้เด็ดขาด ส่วนเรื่องแก้แค้นเราว่าไม่จำเป็นอะ เพราะเราไม่ได้อยากยุ่งอะไรด้วยอยู่แล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกนึง แต่ก็นะผมไม่ได้จะหักหลังหรือโกหกเธอซะหน่อย จะประหม่าตื่นกลัวไปทำไมก็ไม่รู้ “น่ากลัวจังเลยนะครับ แต่ผมสัญญานะผมจะไม่มีวันโกหกพี่เด็ดขาด….ด้วยเกียรติของลูกเสือเลยอะ” ผมยืดตัวขึ้นพร้อมชูสามนิ้วขึ้นมาทำท่ายืนยัน ท่าทางของผมทำให้เธอหลุดหัวเราะออกมา “ทำอะไรของเธอเนี่ยยย ฮ่าๆๆ” คนอะไรยิ้มแล้วสวยชะมัดผมชอบดูเวลาเธอยิ้มมากๆ จนไม่อยากละสายตาไปไหนเลย “เพราะผมคงทนไม่ได้ ถ้าพี่ต้องเกลียดผม” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและผมก็คิดแบบที่พูดจริงๆ เราสองคนสบตากันเนิ่นนาน เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งที่ตรงนี้มีแค่เราสองคน ท้องฟ้าเริ่มมืด มีเพียงแสงไฟสลัวจากหลอดไฟเล็กๆบางจุดในสวนสาธารณะที่ส่องสว่างเข้ามา พอให้ได้เห็นใบหน้าซึ่งกันและกันได้จัดเจน ผมมองริมฝีปากเธออยู่หลายครั้ง ปากเธอชมพูธรรมชาติน่าสัมผัสจังว่าจะนุ่มแค่ไหน คิดได้ดังนั้นผมก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปไกล้ใบหน้าเธอ ไกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจซึ่งกันและกัน “ผมขอจูบพี่ได้มั้ยครับ” ยังไม่ทันได้ฟังคำอนุญาตหรือปฏิเสธผมก็ขยับริมฝีปากประกบเข้ากับปากเธอ แขนข้างนึงรวบเอวบางเข้ามาแนบชิด ส่วนอีกข้างจับอยู่ที่ท้ายทอยเธอเพื่อไม่ให้ขยับหนีและปรับองศาของใบหน้าให้รับจูบได้ถนัดยิ่งขึ้น ผมขบเม้มริมฝีปากบน สลับกับล่างไปมา ก่อนจะส่งลิ้นชื้นเปิดปากบาง ค่อยๆสอดแทรกลิ้นเข้าไปควานหาความหวานจากปากของเธอ ตวัดลิ้นกวาดต้อนหยอกล้อลิ้นเธอไปทั่วโพรงปาก แล้วดูดดึงลิ้นเธอเบาๆ ‘หวานมากปากเธอชั่งหวาน นุ่ม ละมุน ชวนหลงไหลเป็นที่สุด’ ผมคิดในใจ ทั้งๆที่เธอเป็นจูบแรกของผมแต่มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก และตราตรึงใจเป็นที่สุด “อืมมม..จุ๊บบบ..จ๊วบบบ” เราสองคนจูบกันเนิ่นนานก่อนผมจะตัดใจค่อยๆผละออกจากเธออย่างยากลำบาก อยากจูบต่ออีกแต่กลัวเธอจะขาดอากาศซะก่อน หลังจากผละจูบออกจากกัน เธอก็หันหน้าหนีและก้มหน้าลงเล็กน้อย แขนข้างเดิมผมยังคงกอดตัวนุ่มนิ่มเธอไว้อยู่ คนอะไรหอมไปหมดจนอยากกอดไว้นานๆอีกหน่อย “พี่อิงฟ้าครับ” ผมเรียกเธอพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับคางเธอเบาๆให้หันหน้ามามองสบตากัน “เป็นแฟนกันนะครับ เป็นแฟนผมนะ” เธอมองหน้าผมเงียบๆ โดยยังไม่ได้ตอบตกลงในทันที จนผมเริ่มใจเสีย “ดินแน่ใจแล้วใช่ไหม...ถ้าเราคบกันแล้ว ดินจะไม่เปลี่ยนไปใช่ไหม แล้วดินจะมีคนอื่นอีกหรือเปล่า” เธอถามผมอย่างเนิบนาบ จ้องหน้าผมอย่างรอคำตอบ ผมส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอก่อนจะลูบหัวเธอเบาๆ “ผมไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อนพี่คือผู้หญิงคนแรกที่ผมรู้สึกดีด้วย ผมสัญญาว่าผมจะไม่เปลี่ยนไปครับและจะมีแค่พี่คนเดียว ผมชอบพี่นะ และเหมือนจะชอบมากขึ้นไปเรื่อยๆทุกๆวัน” ผมมองตาเธอหวานซึ้งและพูดอย่างที่ใจคิด “ตกลงค่ะ เราจะเป็นแฟนกับดิน” เยสสส….ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง พร้อมกับยิ้มออกมาเผยให้เห็นเหล็กดัดฟัน ‘น่ารัก น่ารักที่สุดเลยว่ะ ตอนนี้ในสมองผมมีแต่คำนี้เต็มหัวไปหมด’ ผมยิ้มกว้างดีใจที่เธอตอบตกลง แล้วดึงเธอมากอดไว้แนบอก ก่อนจะหอมไปที่หัวเธอ และหอมแก้มสูดเอาความหอมเข้าปอดอีกฟอดใหญ่ ’เห้อ ชื่นใจจัง’ “ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆที่ยอมตกลงเป็นแฟนผม” ผมพูดออกไปพร้อมยิ้มกว้าง หลังจากนั้นผมก็ขับรถพาเธอกลับไปส่งที่บ้านของเธอตอนที่ 8 Part อดีต…มึงคบกับน้องกูหรอพอมาถึงหน้าบ้านเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอก็หันมา “ขอบคุณนะคะ”“ครับ ถึงบ้านแล้วเดี๋ยวโทรหานะครับ” พูดจบผมก็โน้มหน้าไปหอมแก้มเธอหนึ่งฟอด เธอจึงหันมาทำตาดุใส่ผม พร้อมเอามือกุมแก้มข้างที่โดนผมหอมไป ผมยิ้มกริ่มทำหน้าลอยอย่างกวนๆ พอขอเป็นแฟนปุ๊ป ผมก็อัพสกิลเพิ่มเลเวลทันที“เดี๋ยวเถอะ หลายรอบแล้วนะวันนี้อะ เห็นไม่ว่าหน่อย เอาใหญ่เลยนะคะ”“ยังไม่ได้เอาเลย...เอาใหญ่อะไรกันครับ” ผมทำมึน โน้มหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเธอเธอทำตาโตอ้าปากค้าง เมื่อได้ยินที่ผมพูดประโยคเมื่อกี้ไป “ทะลึ่ง” เธอผลักไหล่ผมออกเบาๆพร้อมกับหันไปเปิดประตูรถเตรียมจะลง แต่ก็เป็นอันต้องชะงักนิ่งค้างไปผมทอดสายตามองตามเธอไปหยุดอยู่ที่ประตูรั้วบ้านก็เจอเข้ากับพี่ชายของเธอ คนที่ผมเคยเห็นไปรับเธอที่หน้าโรงเรียนเมื่อเดือนก่อนพี่ชายเธอยืนกอดอก เอนไหล่พิงขอบประตู รั้วบ้านสายตาจ้องมองมาที่ผมนิ่ง“ใครมาส่ง” พี่ชายเธอถามเธอด้วยน้ำเสียงเข้มดุ แต่สายตายังมองมาที่ผมอย่างไม่ลดละ มองผมแบบนี้คือเห็นหมดแล้วสินะเมื่อกี้“เอ่อ…พี่คิน คะ คือว่า…” ในขณะที่เธออ้ำๆอึ้งๆพูดไม่ทันจบประโยคพี่เธอก็พูดสวนออกมาก่อน“มึง
ตอนที่9 Part อดีต...แฟนเราเองIngfah Kawintra talk…เช้าวันถัดมาระหว่างนั่งรอเข้าแถวอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึกเรียน“อะไรของพวกแกเนี่ย จะนั่งจ้องฉันอีกนานไหม” ฉันถามยัยเพื่อนตัวแสบสี่สาวที่เอาแต่ล้อมวงนั่งจ้องหน้าฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย“ยัยอิง แกมีอะไรจะบอกพวกฉันไหม” ยัยพอลล่าเป็นคนเปิดปากถามคนแรก“ไม่มี๊ จะมีอะไรได้ล่ะหรือพวกแกไปรู้อะไรมาก็พูดออกมาเถอะฉันขี้เกียจจะเดา” ฉันตอบพร้อมสายหัวไปมา“ตอบเสียงสูงเชียวนะแก” ยัยแป้งพูดขึ้นพร้อมยิ้มกริ่มเหมือนไปรู้อะไรมาซักอย่าง“พวกฉันเห็นนะว่าเมื่อวานแกไปกินข้าวกับใครที่ห้างมา” ยัยกิ๊ฟพูดขึ้นพร้อมหรี่ตามองอย่างจับผิดฉันเบิกตากว้างเมื่อได้ยินยัยกิ๊ฟพูด “ นี่อย่าบอกนะว่า ”“ใช่พวกฉันเห็นกันทั้งหมดนี่แหละ ว่าแกไปกินข้าวกับน้องแดนดินที่ห้างมาเมื่อวาน” ยัยพอลล่าพูดขึ้นอีก“สรุปเรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมแกถึงได้ไปนั่งกินข้าวกับดินมันได้” ยัยแป้งยังคงถามต่อ โอ๊ยยยย!! งานนี้ฉันโดนซักฟอกจนสะอาดแน่เลย มีอะไรไม่เคยปิดยัยพวกนี้ได้เลยสินะ เพราะรู้จักกันมานาน เรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาลเลยทำให้รู้ใส้รู้พุงเรื่องของกันและกันหมดทุกเรื่อง พวกเราทั้งห้าคนไม่เคยมี
ตอนที่10 Part อดีต...เที่ยวทะเลกัน4เดือนต่อมาวันนี้เป็นวันครบรอบที่เราครบกันมา4เดือนแล้วหลังจากที่ดินขอฉันเป็นแฟน ตลอดเวลาที่เราคบกันมาดินยังคงเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยน เขาดูแลเทคแคร์ฉันดีมากๆและที่สำคัญเขาเป็นคนที่ติดสกิลชิปสุดๆอยู่ด้วยกันสองต่อสองเป็นไม่ได้ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอมขี้อ้อนเป็นที่สุด แรกๆฉันก็ไม่ยอมแต่มีหรือคนมือไวมือปลาหมึกจะฟังกัน จนตอนนี้ฉันชักจะชินกับนิสัยเขาซะแล้ววันหยุดเขาก็มักจะพาฉันไปเดินห้าง ดูหนังบ้าง กินข้าวบ้างตามประสา มีหลายครั้งที่เขามักจะงอนฉันเพราะช่วงหลังๆมานี่ฉันต้องอ่านหนังสืออย่างหนัก จนไม่มีเวลาให้เขาเลย แต่เราก็ไม่เคยทะเลาะกันเลยซักครั้งวันนี้ฉันเลยให้เวลาเขาหนึ่งวันเพราะวันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ไม่มีเรียนพิเศษและตอนนี้เราก็อยู่ทะเลบางแสนกันขับรถจากกรุงเทพมาแค่2ชั่วโมงก็ถึง ซึ่งฉันก็ได้บอกพี่คินแล้วว่าจะมาเที่ยวกับดิน แต่ฉันเพิ่งจะรู้เมื่อกี้นี่แหละว่าเขาพาฉันมาที่ทะเล“ทำไมพามาทะเลล่ะดิน เราคิดว่าวันนี้ดินจะพาเราไปดูหนังเหมือนทุกครั้งซะอีก”“ก็ดินอยากพาอิงมาเที่ยวที่ไกลๆบ้าง ไปเดินแต่ห้างดินกลัวอิงจะเบื่อ แล้วที่สำคัญก็อยากมีช่วงเวลาดีๆร่วมกันกับอ
ตอนที่11 Partอดีต…(NC20+) ดินขอนะ“ดิน นี่ดินจำได้ด้วยหรอ...ขอบคุณนะคะ” ฉันพูดเสียงเบาใจเต้นแรง นี่เขาใส่ใจขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ฉันรับดอกไม้มากอดไว้พร้อมยิ้มกว้าง“จำได้สิ ดินจำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับอิงทั้งหมดนั่นแหละ…ดินมีอะไรจะให้อิงด้วยนะ”เขายิ้มอบอุ่นให้ฉัน พร้อมชูสร้อยสีเงินมีจี้ล็อกเกตรูปหัวใจ ยื่นมาตรงหน้าฉัน“นั่งลงสิเดี๋ยวดินใส่ให้” เขาพูดพร้อมจับไหล่ฉันให้นั่งลงที่เตียง ฉันพยักหน้านั้งลงที่เตียงตามที่เขาบอก พอใส่เสร็จแล้วฉันก็หันไปยิ้มให้เขา“ขอบคุณนะดิน” เขายิ้มตอบพร้อมเอามือมาลูบหัวฉันเบาๆ“สร้อยนี่มันเหมาะกับอิงมากเลย…เปิดดูข้างในสิ มันเปิดได้นะ” นี่เปิดได้ด้วยหรอน่ารักจัง...ฉันเปิดออกดูก็ต้องสตั๊นเงยหน้าขึ้นมองเขานี่มันรูปแรกที่เราถ่ายด้วยกันวันที่เขาขอฉันเป็นแฟนนี่ “ดินนน…” มันตื้นตันในอกพูดไม่ออกน้ำตาคลอไม่คิดว่าเขาจะทำให้ขนาดนี้“ดินรักอิงนะครับ รักคนเดียวและจะรักตลอดไป” เขาพูดพร้อมเอามือมาจับแก้มฉัน“อิงก็รักดินนะ” พูดจบฉันก็โผตัวไปกอดเขาแน่น จนฉันลืมไปเลยว่าฉันอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียวและในตอนนั้นเองฉันก็รู้สึกถึงมือเขาที่ค่อยเลื่อนลูบไล้เอวฉัน “ตัวหอมจัง” ว่าจบเ
ตอนที่12 Part อดีต (NCเบาๆ)ไม่ทงไม่ทนมันแล้วผมนอนมองคนที่อยู่ในอ้อมกอด นอนหลับตาพริ้ม ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่อกอวบ“อึก” เสียงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “คนอะไรเซ็กซี่จังวะ” ว่าจบก็ค่อยๆเลื่อนมาไปลูบไล้ทรวงอกอวบเบาๆกลัวเธอจะตื่น “อ่าาาส์ เธอไม่ตื่นแต่กูเนี่ยตื่นเต็มที่ ไม่มีลงเลย สัส...!!” ผมบ่นเสียงกระเส่า มีอารมณ์ชิบหาย “ไม่ทงไม่ทนมันแล้ว ขออีกทีนะที่รัก” พูดจบก็ค่อยๆจับมือเธอมาลูบตัวตนที่ยังยังไม่ยอมหลับไหลผมเบาๆ“อ่าาาส์ มือนิ่มชิบหาย มือยังนิ่มขนาดนี้ปากจะนิ่มขนาดไหนวะ” คิดได้ดังนั้นก็ก้มไปจูบดูดปากเธอเบาๆทั้งที่เธอยังคงหลับอยู่ และไม่คิดจะตื่นมาสนใจกันซักนิด ส่วนมือก็ยังคงทำหน้าที่กุมมือเธอชักรูดเร็วขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์“อ่าาาส์ซี๊ดด ที่รัก…เสียวหัวชิบบบ อ๊าาา อีกนิดๆที่รัก อืมมม ดี…!!”ผมหลับตาพริ้ม พร่ำพรรณาคนเดียวจินตนาการว่าเธอเป็นคนทำให้“ซี๊ดดด อ๊าาไม่ไหวแล้วโว้ยยยย” ผมครางลั่นเพราะเสียวชิบหาย ทั้งที่เธอก็ยังไม่ได้ทำอะไร หรือเล้าโลมผมเลยซักนิด“ขอลองหน่อยนะที่รัก ตื่นมาก็อย่าโกรธกันเลยนะ”ว่าจบก็จับตัวเธอนอนหงายแล้วทำการขึ้นคร่อมไปอยู่ที่หน้าอกอว
ตอนที่13 Part อดีต…ดินยังรักอิงอยู่หรือเปล่าIngfah Kawintra talk…พอคุยแชทกับดินเสร็จฉันก็นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบกลางภาคในเดือนธันวา และต่อด้วยสอบปลายภาคเดือนกุมภา เลยทำให้ฉันต้องอ่านหนังสือมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเพราะต้องสอบไล่ๆกันเลย ไหนจะสอบเข้าคณะแพทย์อีกเฮ้อ...เกิดเป็นฉันทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ อ่านหนังสือไปได้ชั่วโมงนึงก็มีเสียงข้อความแจ้งเตือนดังขึ้นมารัวๆ“ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง” ฉันละจากหนังสือกดดูข้อความจากIG ที่ใครส่งรูปอะไรมาก็ไม่รู้ ลังเลอยู่ครู่นึงจึงกดเปิดอ่าน ฉันสตั้นนิ่งไปกับภาพที่เห็นMN : (รูปภาพ) 20:15 น.MN : (รูปภาพ) 20:15 น.MN : (รูปภาพ) 20:15 น.MN : พี่อิงฟ้า นี่ใช่แฟนพี่ปะ มินนี่เห็นเขายืนกอดกับใครก็ไม่รู้อะ ทีแรกมินนี่คิดว่าเป็นพี่ แต่พอดูดีๆจากส่วนสูงกับเสื้อผ้าที่ใส่ไม่น่าจะใช่ เลยถ่ายส่งมาให้พี่ดู 20:16 น.เป็นมินนี่น้องที่เรียนติวเตอร์เดียวกัน มินนี่เรียนอยู่มอห้า เรียนอีกโรงเรียนนึง น้องทักมาหาฉัน ส่งรูปดินยืนกอดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนนั้นคือเพื่อนผู้หญิงห้องเดียวกันกับดินที่ชื่อฝ้ายนั่นเองฉันมองดูรูปในมือถือ น้ำนาคลอ สองมือกำแน่นจนเจ็
ตอนที่14 Part อดีต…ดินต้องรับผิดชอบเช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวอย่างหนัก ค่อยๆลืมตาขึ้นมองเพดานขาวสะอาด ยกมือขึ้นมานวดคลึงขมับ พยายามปรับโฟกัสสาวตาให้กลับมาปกติพอหันไปด้านข้างทำให้ผมตกใจสุดขีด รีบเด้งตัวขึ้นก้มมองตัวเองที่เหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว“เห้ย!! ฝ้าย” ผมพูดอะไรไม่ออกเลย พูดได้แค่นั่นจริงๆ พอฝ้ายได้ยินเสียงผมเธอรีบเด้งตัวขึ้นนั่งพร้อมเอามือดึงผ้าห่มมาปิดช่วงบนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ทำหน้าตกใจ ไม่ต้องเดาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น คิดดีไม่ได้เลย‘แม่งเอ๊ย!!เกิดอะไรขึ้นวะ’ ผมได้แต่คิด“นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะฝ้าย” ผมถามออกไปเสียงเข้มกว่าปกติ แล้วก้มมองหาเสื้อผ้าที่ตกอยู่ที่พื้นกระจัดกระจาย รีบหยิบขึ้นมาใส่ด้วยความเร็ว แล้วหันหลังให้ฝ้าย“เธอรีบไปจัดการตัวเองเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ผมได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ก็หันไปมองที่เตียงนิ่งอย่างใช้ความคิด ผมจำได้แค่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ดันเจอฝ้ายก่อน เธอเดินเข้ามากอดผมแล้วก็จูบผม ผมจำได้แค่นั้นจริงๆ หลังจากนั่นเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ จำไม่ได้เลยซักนิด“แม่งเอ๊ย!! กูทำเหี้ยอะไรลงไปวะเนี่ย” ผมใข้มือดึงทึ้งผมตัวเองแรงๆ พร้อมกับนั่งลงที่
ตอนที่15 Part อดีต…เกิดเรื่องIngfah Kawintra talk…หลังจากเมื่อคืนที่แชทคุยกันกับดิน เขาก็เงียบหายไปเลย ปกติเช้ามาวันสอบแบบนี้เขาจะต้องส่งข้อความมาหาฉัน เพื่อเป็นกำลังใจให้แล้ว แต่นี่เงียบหายไปเลยหรือเมื่อคืนอาจจะเมาหนักนะ ตอนนี้เลยยังไม่ตื่นแต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะต้องจดจ่ออยู่กับการสอบในครั้งนี้ฉันสอบเสร็จช้าสุดและออกจากห้องสอบคนสุดท้ายของห้องเลยวันนี้ จริงๆฉันทำเสร็จซักพักแล้วแต่อยากอ่านทบทวนอีกรอบเพื่อความชัวร์ ‘ฉันจะผิดพลาดไม่ได้’“ช้าจังวะแก พวกฉันรอจนรากจะงอก” ออกจากห้องสอบลงมาข้างล่างก็เจอกับยัยเพื่อนสี่สาวนั่งรอกันอยู่ ก่อนที่จะมีเสียงยัยกิ๊ฟบ่นให้ได้ยินดังขึ้น“ใครเขาจะไปออกห้องเป็นคนแรกแบบแกล่ะ ยัยแม่คนเก่ง” พอลลี่หยอกล้อยัยกิ๊ฟกลับไปหนึ่งกรุบ ส่วนฉันได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา“จิ๊ ก็คนมันเก่ง” ยัยกิ๊ฟกอดอกยิ้มภูมิใจพวกเรานั่งคุยหยอกล้อกันได้เพียงครู่เดียวเสียงข้อความแจ้งเตือนของฉันก็ดังขึ้น จึงหยิบมาดูว่าเป็นคนที่รอคอยอยู่หรือเปล่าฉันยิ้มให้กับหน้าจอ ใช่เขาจริงๆด้วย“แหม!!...ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะยะ ได้กำลังใจดีแหละเนอะ” ยัยโบว์วี่ยิ้มแซวๆแต่ฉันไม่ได้สนใจเพียงไห
ตอนพิเศษ4 เดือนผ่านไปแว๊ อุแว๊ อุแว๊!!!! แอ้!!!!!เสียงแฝดน้อยส่งเสียงร้องพร้อมกันในห้องทำงานกว้าง ซึ่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่เลี้ยงเด็กไปเป็นเรียบร้อยแล้ว“ ใจเย็นๆครับลูก นมหม่ำๆกำลังมาแล้วนะครับ…โอ๋ๆไม่ร้องนะคะคนสวยของพ่อจ๋า ” มือข้างนึงของผมก็อุ้มลูกสาวโยกไปมา ส่วนอีกข้างก็ไกวเปลให้ลูกชายไปด้วยที่ผมต้องพาลูกมาทำงานด้วยเพราะมีเอกสารด่วนที่ต้องเซ็น ส่วนพี่เลี้ยงสองแฝดก็ลาหยุดหนึ่งวันกลับมาตอนเย็น คุณแม่คนสวยอย่างอิงฟ้าก็มีเคสพิเศษเข้ามาพอดี อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นใช่ไหมล่ะครับ แต่ก็นั่นแหละครับมันเป็นไปแล้วและตอนนี้ผมกำลังรอนมแม่ที่ให้ไอ้ทิวไปอุ่นอยู่ อิงฟ้าเธอค่อนข้างเก่งมาๆทีแรกน้ำนมไม่ค่อยเยอะเธอก็สรรหาของอะไรมาบำรุงเยอะแยะเต็มไปหมดผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เวลาเมียใช้ให้ไปซื้ออะไรก็หาอยู่นานทีเดียว“ ไอ้ทิวโว้ยยยย!!! ได้หรือยังวะ ลูกกูจะกินชาตินี้นะเว้ยไม่ใช่ชาติหน้า ” พอผมตะโกนว่าไอ้ทิวไปแบบนี้ลูปผมหยุดร้องไปทันที แล้วพากันมองมาที่ผมตาแป๋ว“ ได้แล้วๆ…ท่านรอง ต่อหน้าเด็กไม่ควรพูดคำหยาบนะครับ ถ้าคุณอิงฟ้ามาได้ยินท่านรองจะโดนบิดหูชาเหมือนวันนั้นนะครับ ”ใช่ครับที่
ตอนที่38 END….เจ้าสองแฝดหลังจากเพื่อนๆกลับไปกันหมดแล้ว ฉันก็มานั่งจับมือดินแล้วก็เอาไดอารี่ที่เขาเขียนไว้ขึ้นมาอ่านไปด้วยเริ่มตั้งแต่เล่มแรก เขาเป็นคนละเอียดใส่ใจเหมือนกันนะเนี่ย มีรูปฉันแปะหน้าสมุดทุกเล่มแถมมีเลขเขียนติดมาด้วยว่าเล่มไหนเป็นเล่มที่เท่าไหร่[ ถึงที่รักของดิน…อิงฟ้า]วันนี้เป็นวันที่เราตัดสินใจบอกเลิกอิงแต่รู้ไหมว่าเราเจ็บปวดมากแค่ไหนยิ่งเห็นตอนอิงร้องไห้ ใจเรามันเหมือนจะขาดตาม ที่เราพูดไปทั้งหมดวันนี้มันไม่จริงเลย อิงมีค่ากับดินมากที่สุดแต่เป็นดินเองที่ไม่ดี ดินอยากบอกให้อิงรู้ว่าอิงมีความหมายและสำคัญกับดินมากนะดินไม่เคยอยากเลิกกับอิงเลยแต่ดินไม่มีทางเลือกดินไม่อยากให้อิงเกลียดดินดินรักอิงนะ…รักมากที่สุด…รักมากกว่าชีวิต….....ดิน....ฉันอ่านไปก็ร้องไห้ไปดินเขียนไว้หมดทุกช่วงเวลาตลอด7ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งตอนที่เขาเรียนมหาลัยแล้วเขาเดินผ่านฉันเขาก็ยังเขียนไว้หมดเขาคงเจ็บปวดมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฉันเองก็ไม่ต่างกัน กว่าที่ฉันจะผ่านมาได้แต่ละวันมันช่างยากลำบาก ‘และฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขาจะรักฉันได้มากขนาดนี้ทุกเล่มที่เขียนเขามักจะลงท้ายด้วยคำว่า รักมากกว่าชีวิต ทุกหน
ตอนที่37 บันทึกแดนดิน3วันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพเหตุการณ์นั้นย้อนกลับเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันได้เสียเขาไปแล้วตลอดกาลจริงๆ ‘แดนดิน จิรายุ’ ผู้ชายคนเดียวที่ฉันรักหมดหัวใจ และไม่รู้ว่าจะสามารถรักใครได้เท่าเขาอีกหรือเปล่า แล้วเขายังฝากตัวแทนของเขาอีกหนึ่งชีวิตไว้กับฉันด้วย“ดิน ฮึก” ฉันตื่นขึ้นมามองไปบนเพดานห้องถึงได้รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนไข้ที่โรงพยาบาล“อิงฟ้าลูก ฟื้นแล้วหรอ” ทันทีที่แม่กับพ่อเห็นฉันขยับตัวก็รีบลุกจากโซฟามาดูฉันทันที“แม่คะ ฮือออ พ่อคะ…ดินอยู่ไหนคะ ฮึก”“ใจเย็นๆนะลูกร่างกายเพิ่งจะฟื้นตัวอย่าขยับเยอะ ไม่ห่วงตัวเองก็เป็นห่วงหลานแม่กับพ่อบ้าง”“พะ พ่อแม่รู้แล้วหรอคะ?” ฉันเบิกตากว้าง เงยหน้ามองพ่อกับแม่“ใช่…พ่อเป็นหมอนะทำไมพ่อจะไม่รู้” พ่อลูบหัวฉันพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม“ลูกท้องกับดินใช่ไหม หลานแม่ไม่ใช่ลูกของเสือใช่ไหมยัยอิง” แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่มีดุหรือด่าเลยซักคำ“...” ฉันได้แต่ก้มหน้าร้องไห้เงียบๆ แต่ทันใดนั้นก็มีคน เคาะประตู แล้วเปิดเข้ามา ฉันเคยเห็นพวกเขาผ่านจอทีวีมาบ้าง แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริงก็อกๆ ก็อกๆ คลืดดดดดดเป็นพ่อ แม่ น้องช
ตอนที่36 ขอร้อง ได้โปรดกลับมา“เห้ยยย ไอ้ดิน / อ๊ายยย / กรี๊ดดด” เสียงผู้คนอื้ออึงหลากหลายเสียง แต่สำหรับฉันเหมือนโลกแตกสลายหูดับไปชั่วขณะ“ไม่ๆๆ ดินทำแบบนี้ทำไม มาบังอิงไว้ทำไม ฮือๆๆ” ฉันร้องไห้นั่งกอดเขาราวกับจะขาดใจ“ไอ้คินเอารถออกเร็ววว” เสียงพี่เสือวิ่งมาหาฉัน “อิงๆเป็นอะไรรึเปล่า” พี่เสือถามด้วยความร้อนรน“มะ ไม่ค่ะ แต่ดิน ฮืออ! ดินลืมตามามองอิงก่อนนะห้ามหลับเด็ดขาดเลยนะ”แล้วพวกเพื่อนดินก็พากันมาแบกดินขึ้นรถ ฉันก็นั่งไปกับเขาโดยที่เขาหนุนตักฉัน“ไม่ เป็นไร นะ ดะ ดินไม่เจ็บเลย อย่าร้องไห้ เพราะ ดินอีกเลย นะ” ดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงพร่าเบาหวิวเอ่ยปลอบฉันที่เอาแต่กอดเขาร้องไห้“ไม่นะดิน ดินห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด อิงยังรักดินอยู่นะ รักมาตลอด ดินห้ามตายไม่งั้นอิงจะไม่รักดินแล้ว ฮึก ฮือออ”“ดิน ก็ รักอิงนะ อิงฟ้า ระ รักมากกว่า ชะ ชี…” เสียงเขาขาดห้วงไปในตอนท้ายมือของเขาจากที่จับแก้มฉันอยู่ก็ตกลงข้างลำตัวนิ่งสนิทไป“ไม่ๆๆไม่นะดิน ลืมตามาคุยกับอิงสิ ฮือๆ แล้วอิงจะอยู่ยังไง ลูกของเราเค้าก็ต้องการดินนะ ฮือๆๆ!” ฉันเพิ่งตรวจพบเมื่อวานนี้เอง ว่าฉันท้อง น่าจะได้เดือนกว่าๆแล้ว เพราะตั้งแต่วันนั้น
ตอนที่35 ทำไมทำแบบนี้วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองก่อนวันหมั้นจะเกิดขึ้นในอีกสองวันของฉัน และพี่เสือ ซึ่งฉันก็ได้เชิญเพื่อนทุกคนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมและมหาลัย วันนี้เป็นงานเลี้ยงแบบปิดรู้กันเฉพาะเพื่อนและคนรู้จักเท่านั้น เรามาจัดกันที่ผับของพี่คินกัน ถึงจะเป็นงานเลี้ยงแบบปิดแต่คนก็ยังเยอะอยู่ดีมีประมาณ 30 กว่าคนทั้งเพื่อนฉันเพื่อนพี่เสือ แล้วฉันก็ยังเชิญกลุ่มของน้องกันต์มาด้วย ซึ่งในนั้นก็มีแดนดิน แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่านะ“ยินดีด้วยค๊าาเพื่อนสาว เผลอแปปๆก็จะมีสามีก่อนเพื่อนคนอื่นๆซะแล้ว” พวกเพื่อนฉันต่างมายืนล้อมวงชนแก้วฉัน“ยังๆ สามงสามีอะไร คู่หมั้นก็พอไหม แกก็เวอร์เกิน” ฉันว่าให้ยัยกิ๊ฟ ที่พอเมาแล้วพูดเก่งกว่าใครเพื่อนเลย“เอาน่าอีกไม่กี่เดือนก็เป็นสามีแล้ว” ใช่ค่ะ ที่เพื่อนพูดก็มีส่วนถูก เพราะเราหมั้นกัน แล้วอีกสามเดือนก็จะเกิดงานแต่งขึ้นซึ่งมันไวมาก จนฉันก็แทบจะตั้งรับไม่ทันเพราะพวกผู้ใหญ่เค้าคุยและจัดการกันเองฉันเพิ่งจะมารู้เรื่องก็วันที่แม่โทรมาบอกให้ฉันไปลองชุดงานหมั้นที่บ้านนั่นเอง “เฮ้อ!!” ฉันได้แต่ถอนหายใจ“เป็นไรแก ไม่มีควาทสุขหรอจะได้หมั้นกับพ่อหนุ่มเทพบุตรเชียวนะ” ยัยแ
ตอนที่34 ทรมานจนไม่รู้จะอยู่ยังไงหลังจากปรับความเข้าใจกับอิงฟ้า ผมก็หอบสังขารกับใจที่แตกสลายกลับมาบ้านด้วยใจที่แสนจะเจ็บปวด ผมไม่มีวันได้เธอคืนมาจริงๆแล้วสินะ เธอใจแข็งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ผมคิดว่าถ้าผมได้บอกความจริงกับเธอไปแล้ว เธอจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ผมคิดผิด เธอยังคงยืนยันจะหมั้นกับผู้ชายคนนั้น ผมก็คงทำได้เพียงแค่ยินดีกับเธอขอให้เธอไม่เจ็บปวดเหมือนตอนคบกับผม และดูจากสายตาทุกครั้งที่ผู้ชายคนนั้นมองอิงฟ้ามันเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น หวังว่าเขาจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่าคนอย่างผมมาถึงบ้านผมก็หมกตัวอยู่แต่บนห้องนอน ในห้องผมจะมีห้องทำงานแยกออกไปอีก มีโซฟากลางห้องและมีทีวีจอยักติดผนังอยู่ซึ่งผมก็นั่งตรงนั้น ตรงโซฟาตัวยาวกลางห้องทำงาน จอภาพยังคงฉายวนซ้ำๆกับคลิปวิดิโอต่างๆที่ผมชอบถ่ายเก็บไว้เวลาผมกับอิงฟ้าใช้เวลาอยู่ด้วยกัน วันๆผมก็มักจะมาหมกตัวอยู่แต่ในห้องนี้ตลอด และเขียนไดอารี่ถึงเธอทุกครั้งที่คิดถึงผมนั่งกระดกเหล้าลงคอไม่รู้เป็นแก้วที่เท่าไหร่แล้ว เหม่อมองวิดิโอตอนที่เราไปเที่ยวทะเลและเล่นน้ำด้วยกันซ้ำๆ มันเล่นวนไปมาตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้ก็เช้าแล้ว ผมก็ยังไม่ลุกไปไหน[ ถึงท
ตอนที่33 ขอโอกาสได้ไหม…ครั้งสุดท้ายมาถึงไทยเป็นเวลาหกโมงเย็นของอีกวันผมก็ตรงมาที่ห้องของอิงฟ้าทันที“ก็อกๆๆ” รอไม่ทานเธอก็มาเปิดโดยที่ในมือยังถือโทรศัพท์เหมือนคุยกับใครอยู่ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่พอเห็นเป็นผมรอยยิ้มบนใบหน้าสวยก็หายไปทันที“พี่เสือคะงั้นแค่นี้ก่อนนะคะ” เจ็บกว่านี้คงไม่ไหวแล้วว่ะ ผมมองยืนมองหน้าเธอนิ่งดวงตาคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำใสที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ“คุณ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอยังคงใช้สรรพนามห่างเหิน“อิงครับ ดินขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ ขอร้องล่ะ” ผมพูดเสียงสั่น และสุดท้ายน้ำตาก็ไหลหยดลงมา“เข้ามาก่อนสิคะ” ฉันที่เห็นเขาดูจริงจัง น้ำตาไหลรินก็ใจอ่อนยวบ เขาคงมีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยากระบาย“ขอบคุณครับ” ผมเดินตามเข้าไปในห้องเธอ ก่อนจะโผกอดเธอจากข้างหลัง“ดินขอกอดอิงแบบนี้ซักแปปนะ อย่าพึ่งไล่กันนะครับ ฮึกกก”“....” ฉันได้แต่ยืนนิ่งให้เขากอด ทำไมใจฉันเจ็บแบบนี้นะแค่เห็นเขาร้องไห้ใจก็รวดร้าวเจ็บแปลบเขาผละกอดออกจากฉัน และเราก็หันหน้ามาเผชิญกัน“ดินอยากอธิบายเรื่องเมื่อ7ปีก่อน ได้โปรดอิงช่วยรับฟังดินซักครั้งได้ไหมครับ” ผมพูดเสียงสั่นๆ พอเห็นเธอมีท่าทีอ่อนลงแล้วพยักหน้าผมก็
ตอนที่32 ข่าวการหมั้นก่อนเลิกงานผมไม่ลืมที่จะกำชับไอ้ทิวให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับฝ้าย โดยสืบรวมไปที่ครอบครัวเธอด้วย ฝ้ายทำอิงฟ้าเจ็บปวดเท่าไหร่ ผมจะคืนความเจ็บปวดให้ฝ้ายคืนไปเป็นเท่าตัว ในเมื่อเคยเตือนแล้ว ไม่ฟังเองก็ช่วยไม่ได้ ความเป็นเพื่อนมันจบลงไปตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อนแล้วและผมก็รู้ความจริงของเรื่องเมื่อ 7 ปีก่อนแล้วด้วยที่ฝ้ายได้สร้างเรื่องขึ้นวันนั้น ตอนที่ผมรู้เรื่องนี้จากปากลูกน้องที่สั่งให้ไปคาดคั้นข่มขู่เพื่อนของฝ้ายอย่างฝนกับมีนามา ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมนี่โกรธจนแทบอยากจะไปฆ่าฝ้ายซะเดี๋ยวนั้นให้ได้เลยพวกเธอยอมสารภาพว่าได้ร่วมมือกับฝ้ายจัดฉาก และวางยานอนหลับผม ไอ้กันต์ ไอ้หนึ่ง พอพวกผมหลับกันไป ฝ้ายก็ให้คนขับรถที่บ้านเธอ แบกผมขึ้นไปนอนบนห้องแล้วจัดการถอดเสื้อผ้าผมออกจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ต้วเดียวติดกายจากนั้นก็ถอดเสื้อตัวเองออกให้เหลือแต่เกาะอก จัดท่าทางถ่ายรูปไว้แบล็กเมลผม ก่อนเธอจะผล็อยหลับตามผมไป เพราะดันไปกินไวน์ผิดแก้ว กินเข้ากับแก้วที่ตั้งใจจะเอาให้ผมดื่มยกสุดท้าย แต่ตัวเองดันเผลอดื่มไปซะเอง ผมก็คิดนะนี่เธอใส่ยานอนหลับให้ผมหลายแก้วขนาดนั้นได้ไงไม่คิดว่าผมจะหลับไ
ตอนที่31 เธอทำแบบนี้ทำไมวะDandin Jirayu talk…ผมตื่นขึ้นมาในช่วงสายๆของวัน มือก็ควานหาตัวคนที่นอนกอดกันทั้งคืนแต่พบเพียงความว่างเปล่า จนรีบลืมตาเด้งตัวขึ้นพรึบบบบบ!!! “หายไปไหน”ผมมองซ้ายขวาก็ไม่เจอก่อนจะรีบลุกไปดูที่น้องน้ำก็ไม่เจอ … เธอไปแล้ว …“โธ่เว้ย!! ยังไม่ทันจะได้คุยกันให้เข้าใจเลย หนีไปไหนอีกแล้วเนี่ยยย!!”ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปเคาะที่ห้องอิงฟ้าเป็นนานสองนาสก็ไม่เปิด “หรือจะไปทำงาน เดี๋ยวตอนเย็นเราได้คุยกันแน่อิงฟ้า”เพราะผมมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการไม่แพ้เรื่องของอิงฟ้า เลยขอไปจัดการก่อนดีกว่าตู๊ดดด ตู๊ดดด ตู๊ดดด “ฮัลโหล ว่าไงคะดินคิดถึงฝ้ายล่ะสิถึงโทรมาได้” ปลายสายจีบปากจีบคอพูดอย่างมั่นใจ“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ มาพบฉันที่บริษัทด้วยเดี๋ยวนี้” ผมไม่ถามหรอกว่าว่างหรือเปล่าเพราะผมต้องการคุยเดี๋ยวนี้เท่านั้น“แหม!! ดินใจร้อนจังเลยนะคะ รออีกหน่อยได้ไหมคะฝ้ายมีถ่ายงานอีก1เซ็ทเองค่ะ เสร็จแล้วเดี๋ยวฝ้ายไปหาน๊าาา” “ฉันให้เวลาเธอภายในหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”“โอเคๆเดี๋ยวฝ้ายจะรีบไปนะคะ” ตุ๊ดดด“หึ!! ฉันเคยเตือนเธอแล้วนะฝ้าย อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” ผมก