ตัวแผ่นปลอกคอทำมาจากวัสดุอย่างดีทนต่อคมเขี้ยวของอัลฟ่าน้ำหนักเบาไม่ระคายเคืองต่อผิวแต่ติดตรงที่ว่าราคาแพงผลิตอย่างจำกัดเฉพาะโอเมก้ากระเป๋าหนาลูกเศรษฐีเท่านั้นเพราะขั้นตอนกรรมวิธีการผลิตขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลไม่สามารถซื้อใช้และจัดจำหน่ายให้กับโอเมก้าโดยทั่วไปได้แปะเพียงเดือนละครั้งแต่มีข้อเสียตรงห้ามลืมแปะแผ่นใหม่เด็ดขาดโอเมก้าที่ไม่ได้ถูกตีตราสลักพันธะการไม่สวมปลอกคอก็ไม่ต่างกับดอกไม้งามที่หลอกล่อหมู่มวลแมลงให้มารุมกัดทึ้งแม้จะงามงดแต่หากไม่มีกลิ่นหอมก็ไม่ต่างอะไรกับไม้ประดับที่รอวันเปลี่ยนทิ้งเพราะฉะนั้นการตีตราสลักพันธะตรงหลังคอจึงสำคัญสำหรับโอเมก้ามากๆไม่ใช่ว่าอัลฟ่าหน้าไหนก็ได้หากตัวและหัวใจไม่ยอมสิโรราบให้ด้วยความรักแล้วละก็…ก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็นมีเพียงการเดินทางไปฝังฮีทโรงพยาบาลประจำทุกปีเท่านั้นที่โอเมก้าหน้าหวานจะได้มีโอกาสออกไปมองบ้านเมืองและผู้คนด้านนอกมนันย์ตอนนั้นในวัย 16 ปีไม่ได้ตัดพ้อต่อว่าโชคชะตามากนักเขาเฝ้ารอและกาปฏิทินทุกปีที่จะได้ออกไปดูตึกสูงใหญ่ในตัวเมืองผังเมืองต่างๆที่ต่างมีโอกาสได้สำรวจและท่องเที่ยวได้ในแค่โลกอินเทอร์เน็ตแม้ระยะทางจากหมู่บ้านสุดหรูจะไม่ได้ไกล
โอเมก้าน้อยในเติบใหญ่จนเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำด้วยทุนเรียนดี โชคดีที่คฤหาสน์หลังงามตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองที่ครบครันไปด้วยห้างสรรพสินค้าและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ การเดินทางของมนันย์จึงสะดวกสบายแม้จะเดินไกลจากตัวบ้านไปยังหน้าหมู่จัดสรรที่ราคาที่ดินราคาสูงลิบลิ่ว กว่าจะถึงป้ายรถเมล์ชุดนักศึกษาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อหากเกิดมาเป็นโอเมก้าจะต้องพยายามมากกว่าชนชั้นอื่นๆอยู่หลายเท่าไม่ว่าจะเรื่องการศึกษาหรือการทำงานหากได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหน้าที่การงานดีๆก็พอจะหาทำได้บ้างดังประโยคที่ว่า‘การศึกษาเปลี่ยนอนาคต’เพราะมนันย์ไม่อยากจะอยู่ภายใต้ปีกของนันธ์เดชภาคย์อีกต่อไปเขาอยากจะยืนด้วยสองขาของตัวเองการแบมือขอร้องแต่คนอื่นไม่ใช่นิสัยของเจ้าตัวเพราะฉะนั้นหากจะออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ก็ต้องมีหน้าที่การงานที่ดีมนันย์จึงตั้งใจเรียนเป็นอย่างมากอีกทั้งมหา’ ลัยชั้นนำค่าเทอมก็แพงตามเทคโนโลยีอุปกรณ์ที่ครบครันรวมไปถึงอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายล้วนเชี่ยวชาญและมากไปด้วยประสบการณ์เพราะค่าเทอมที่สูงลิบลิ่วจึงทำให้โอเมก้าที่ไม่ได้ร่ำรวยไม่สามารถก้าวผ่านก้าวผ่านความยากจนไปได้นอกจากจะมีสามีรวยเป็นทางล
หน้าต่างตรงระเบียงถูกปิดมาหลายปีแล้วคุณชัชจะเป็นยังไงบ้างนะมนันย์วางบุตรชายคนโตของบ้านเป็นแบบอย่างในการเจริญรอยตามคุณชัชเรียนเก่งหัวดีฉลาดรอบรู้ดูได้จากหนังสือที่ป้าๆแม่บ้านขนมาทิ้งข้างนอกเพราะเก่าบ้างก็ชำรุดแต่มนันย์กลับคิดว่ามันคือขุมทรัพย์อันล้ำค่าห้องสมุดบนบ้านใหญ่จะมีหนังสือหายากกี่เล่มกันนะป้าสมจิตรเล่าให้ฟังว่าห้องสมุดนั้นใหญ่กว่าห้องนอนคนงานสามห้องรวมกันเสียอีกเวลาทำความสะอาดต้องขนแม่บ้านไปไม่รู้กี่สิบคนเพื่อจัดหนังสือและปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาดอยู่เสมอหนังสือที่มีชื่อของคนพี่เขียนด้วยลายมือหนักแน่นดูจากรอยกดของปากกามีชื่อพิรชัชตรงหน้าในหนังสือทุกเล่มที่มนันย์ได้ขอเก็บเอาไว้อ่านไม่ว่าจะหนังสือ Encyclopedia, Text book ภาษาอังกฤษอ่านยากหรือหนังสืออะไรเอ่ยต่างๆมันเปิดโลกของเด็กโฮมสกูลอย่างเขาให้กว้างขึ้นไปอีกหลายเท่าหนังสือแม้จะเก่าแต่ทุกครั้งที่หยิบมาอ่านก็รู้สึกอิ่มเอมและช่วยบรรเทาความเหงาของโอเมก้าที่เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวได้เป็นอย่างดีนอกจากป้าสมจิตรแล้วก็มีโลกของหนังสือที่ให้มนันย์ได้ลืมช่วงเวลาของความทุกข์โทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงที่ท่านเจ้าสัวซื้อให้เมื่อเขาสอบเข้ามหาวิทยาล
มนันย์พยักหน้าให้อย่างเข้าใจก่อนจะลงมือทำต้มยำกุ้งหม้อใหญ่สำหรับคนเกือบครึ่งร้อยที่อาศัยอยู่คฤหาสน์แห่งนี้เวลาสองทุ่มอาหารเลิศรสมากมายก็ถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะอย่างพร้อมเพรียงละลานตาเพื่อต้อนรับการกลับมาของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคนพรรำไพยิ้มหน้าบานบุตรชายทั้งสองจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานจวบจนพิรชัชจบการศึกษาปริญญาเอกส่วนพิรภพจบปริญญาโทก่อนจะกลับมารับช่วงต่อธุรกิจที่บ้านรถหรูหลายคันเคลื่อนเข้ามาจอดทีหน้าประตูบ้านที่แกะสลักลวดหลายอย่างวิจิตรโอเมก้าอาศัยความมืดอำพรางกายเพราะไม่อนุญาตให้เข้ามาในเขตหน้าบ้านหรือบริเวณของบ้านใหญ่อย่างเด็ดขาด‘ไม่เจอกันร่วมสิบปีทั้งสองคนจะเป็นยังไงบ้างนะ’ดวงตากลมโตจดจ้องรถแต่ละคันใจสั่นตึกตักอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อคนที่ก้าวลงรถมาจากรถหรูคันที่ 3 ลงมาพร้อมกับผู้หญิงผมสีทองยาวสลายจนถึงกลางหลังคนแปลกหน้าที่มนันย์ไม่รู้จักมาก่อนควงแขนอย่างสนิทสนมกับพิรชัช‘เหมาะสมกันดีคุณเขายังหล่อเหลาเหมือนเดิมแต่เหมือนจะสูงและกำยำขึ้นเยอะเลย’ มนันย์ลอบวิเคราะห์โครงหน้าของพิรชัชรวมไปถึงทางกายภาพด้านนอกต่างๆอย่างละเอียดส่วนพิรภพก็สูงขึ้นเยอะเหมือนกันใบหน้าหล่อเหลานั้นมักจะแต่งแต้ม
พิรชัชห่างหายบ้านเกิดเมืองนอนไปร่วม 10 ปี ภายในห้องนอนของเขายังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลงไปมากนัก เพียงแต่ว่าระเบียงมุมโปรดที่มีทุ่งดอกกุหลาบหลากสีละลานตา แถมกลิ่นหอมของมันยังลดความตึงเครียดเป็นอย่างดี กลับเป็นอีกกลิ่นหนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคย และไม่มีวันคุ้นเคย ตั้งแต่เปิดประตูตรงระเบียงออกมารับลม แสงจันทร์สีนวลที่สาดส่องลงมายังพอเห็นว่าทุ่งดอกไม้ข้างล่างพุ่มของมันไม่เหมือนต้นกุหลาบที่เขาชอบ แถมกลิ่นยังฉุนจนต้องนิ่วหน้า ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองอย่างเสียอารมณ์ช่วงที่เขาไม่อยู่มีใครบังอาจกล้ามายุ่มย่ามกับแปลงกุหลาบของเขาเห็นทีพรุ่งนี้จะต้องสืบสาวราวเรื่องให้รู้เรื่องพิรชัชเข้านอนด้วยความรู้สึกหงุดหงิดทั้งๆที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายแถมห้องนอนยังออกแบบให้รับกับทิศทางของลมเป็นอย่างดีแต่ทว่าวันนี้กลับต้องอาศัยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงแทนอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นประหลาดมนันย์เองก็นอนไม่หลับพลิกไปพลิกมาอยู่ค่อนคืนมองดูนาฬิกาบนหัวเตียงเป็นเวลา 5 ทุ่มปกติเจ้าตัวจะเป็นคนนอนเร็วเพราะเหนื่อยและเพลียมาจากการเรียนการเดินทางไหนจะต้องมาเข้าครัวทำอาหารแล
“ไอ้นัน ไอ้นันโว้ย”“ครับมีอะไรหรือเปล่า” ปากก็ตะโกนตอบกลับสองมือก็เร่งตากผ้าในตะกร้าให้เสร็จเพราะอาจมีเรื่องให้ไปทำต่อเป็นแน่“มาเร็วไอ้นันคุณหญิงแกเรียกหาให้ไปตึกใหญ่”“ฮะ! อะไรนะครับ” ไม่เพียงแต่มนันย์ที่ตกใจป้าสมจิตรเองก็เช่นกันร้อยวันพันปีไม่เคยให้เด็กคนนี้เหยียบย่างขึ้นไปบนตึกใหญ่สักครั้งไม่รู้ว่าเจ้านันไปก่อเรื่องอะไรเอาไว้หรือเปล่า“เอ็งไปทำอะไรให้คุณท่านเขาโกรธหรือเปล่า”“ผมเปล่านะครับ” มนันย์ส่ายหน้าอย่างแรงจะเป็นไปได้ยังไงวันๆอยู่แต่ในครัวและห้องพักคนงานและมีแค่สวนดอกไม้เท่านั้นที่เขาสามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระหรือว่า…มนันย์เบิกตากว้างสองเท้าก็รีบเดินไปยังตึกใหญ่โดยมีป้าสมจิตรเดินนำทาง“มาสักที” เสียงคุณหญิงของบ้านเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์มนันย์ค่อยๆคลานเข้าไปอย่างหวาดกลัวก่อนจะนั่งคุกเข่าก้มหน้าเหมือนนักโทษที่รอไต่สวนบริเวณโถงห้องนั่งเล่นมีสมาชิกของบ้านใหญ่นั่งกันอยู่ตามลำดับไม่ว่าจะเจ้าสัวพิสิฐชัยคุณหญิงพรรำไพคุณพิรชัชและคุณพิรภพต่างก็นั่งอยู่พร้อมหน้าเหมือนจะมีเรื่องราวร้ายแรงเกิดขึ้นยังไงยังงั้นพรรำไพปรายตามองอย่างรังเกียจแต่ก็อดชื่นชมผิวพรรณและหน้าตาของเด็กหนุ่มตรงหน้
“ขอบคุณมากครับ” รอยยิ้มนั้นไม่เพียงสะท้อนความอาทรในอกเจ้าสัว แต่มันยังทำให้พิรชัชคิดว่าเจ้าตัวคงดีใจเต็มแก่ที่จะได้มีชีวิตอิสระไปหลงระเริงอยู่ข้างนอกโดยที่ไม่มีใครคอยจับตา“หึ!” รอยยิ้มสวยหุบลงทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของพิรชัชที่จ้องมองมาอย่างดูแคลน“ป้าสมจิตรสั่งการไม่ให้ใครช่วยเหลือมนันย์ในการถอนเจ้าดอกบ้านั่นทิ้งซะถ้าทำไม่เสร็จไม่ต้องนอนจัดการให้เรียบร้อยให้เสร็จในวันนี้เพราะพรุ่งนี้จะได้ทำแปลงใหม่และวันถัดไปจะได้ลงดอกไม้อื่นๆทันที”“แต่—” ป้าสมจิตรทำท่าจะแย้งแต่เมื่อเห็นสายตาคุณๆที่จ้องมองมาก็หุบปากฉับในทันทีดอกพีโอนีสูงประมาณหัวเข่าบ้างก็สูงจนถึงเอวไอ้นันตัวบอบบางขนาดนั้นไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเสร็จใหม่นึกถึงตอนที่ลงปลูกใหม่ๆหล่อนเห็นเด็กหนุ่มค่อยๆปลูกค่อยๆดูแลอย่างพิถีพิถันมาตลอดหลายปีพอจะให้ถอนก็จะให้ทำในวันเดียวเนี่ยนะสวนกว้างตั้งหลายไร่ส่วนมนันย์คิดไม่ผิดนักตั้งแต่ที่บ้านใหญ่เรียกเขาก็เตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเกี่ยวกับสวนดอกไม้เป็นแน่แต่พอมาได้ยินให้ถอนทิ้งให้หมดหัวใจดวงน้อยก็เจ็บจนหนึบชาดอกพีโอนีเป็นเหมือนตัวแทนของแม่ที่เขาเฝ้าปลูกถนอมไว้ดูต่างหน้าบัดนี้เหลือเพียงแต่ความทรงจำที่ต้องจ
ความฝันที่ก้าวเท้าออกจากบ้านนันธ์เดชภาคย์สลายพร้อมกับร่างกายที่โคลงเคลงจับไข้เนื่องจากตากฝนมาทั้งคืนไหนจะถ่อร่างกายอันหนักอึ้งออกมาร้านซักรีดหยอดเหรียญข้างนอกอีกมนันย์ไข้ขึ้นสูงจนหมดสติโชคดีที่ยังพอมีคนมาใช้บริการร้านซักรีดแห่งนี้อยู่บ้างแม้จะเป็นช่วงเวลาฟ้าสางเขาจึงถูกพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลทางด้านป้าสมจิตรที่นั่งไม่ติดที่เพราะช่วงก่อนที่เจ้านันยังเป็นนักศึกษาช่วงนั้นเหลือเพียงคุณพรรำไพอยู่บ้านเพียงคนเดียวเป็นส่วนใหญ่บ้างก็ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกกับสมาคมคุณหญิงคุณนายอาหารเช้าจะเป็นเพียงสลัดง่ายๆหรือผลไม้ไม่กี่อย่างซึ่งไม่ต้องอาศัยรสมือในการปรุงเฉกเช่นอาหารคาวส่วนใหญ่ตอนกลางวันคุณหญิงท่านจะออกไปทานข้างนอกส่วนตอนเย็นมนันย์ก็กลับมารับช่วงต่อพอดีจึงได้รับหน้าที่ปรุงอาหารคาวหวานขึ้นโต๊ะบ้านใหญ่มานานหลายปีแม้จะมีหัวหน้าเชฟคนอื่นๆแต่ว่าคุณพรรำไพชอบรสมือของป้าสมจิตรมากที่สุดเพราะเธอชอบอาหารไทยส่วนท่านเจ้าสัวและลูกชายทั้งสองชอบอาหารฝรั่งอย่างพวกมันบดหรือเนื้อแกะย่างหมักด้วยไวน์แดงเป็นต้นเด็กบ้านนอกคอกนาอย่างป้าสมจิตรถนัดเพียงอาหารไทยต้นตำรับประยุกต์ได้หลากหลายแบบหากขึ้นชื่อว่าอาหารไทยหล่
มนันย์ทิ้งระยะห่างจากคนตรงหน้าไปเกือบสองช่วงแขน บ้านใหญ่นับครั้งได้ที่มนันย์จะมีโอกาสเหยียบย่างเข้ามา มาทีไรก็ไม่ได้สังเกตถึงความใหญ่โตโอ่อ่าของมัน ไม่ว่าจะเป็นแชงเดอเลียราคาแพง รูปวาดติดผนัง แถมฝ้าเพดานผนังห้องนั่งเล่นยังสูงเกือบ 3 เมตร ตัวบันไดทำด้วยหินอ่อนอย่างดี ไหนจะรูปปั้นต่าง ๆ มนันย์มองอย่างตื่นตาตื่นใจและภาวนาว่าคุณหญิงพรรำไพจะไม่เห็นตัวเองเข้า กลัวว่าเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่มนันย์มองห้องโถงต่างๆอย่างเพลินตาก่อนจะสะดุดตากับภาพติดฝาผนังที่ติดข้างประตูหน้าห้องนอนทางด้านฝั่งซ้ายของบันไดบันไดชั้นสองแยกเป็นสองฝั่งปีกซ้ายและปีกขวา “ห้องนั้นห้องของพี่ชัช” พิรภพตอบข้อสงสัยของมนันย์ที่แสดงออกมาทางใบหน้าแม้ไม่ต้องพูดเมื่อรู้ว่าเป็นห้องของใครก็จำใจละสายตาที่หน้าประตูก่อนจะเดินตามพิรภพเข้าไปในห้องนอนอย่างว่าง่ายทางด้านพิรชัชที่อยากจะออกไปเดินเล่นก่อนเข้านอนก็ได้เห็นหลังไวๆของใครสักคนผลุบเข้าไปในห้องนอนของน้องชายตัวเองเขาเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าน้องชายจะพาเด็กที่เลี้ยงไว้ในบ้านไปถึงในห้องนอนแม้ไม่รู้จุดประสงค์ของพิรภพแต่ก็คิดในทางที่ดีไม่ได้อีกทั้งเด็กคนนั้นยังดูเหมือนจะค
“ไอ้นันวันพรุ่งนี้คุณๆเขาจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเพราะว่าคุณชายทั้งสองห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานคุณหญิงเลยจะชวนไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศติดทะเลแถวทางใต้ข้าล่ะอยากเห็นทะเลเหมือนกันแต่ให้นั่งรถไปนานๆก็คงจะไม่ไหวเอ็งไม่อยากไปบ้างเหรอคุณท่านให้ข้ามาบอกใครอยากจะไปก็นั่งรถตามไปได้รถตู้สองคันเห็นนังแป้นกับนังสายว่าครั้งนี้จะไปมั้ง” ป้าสมจิตรบอกเล่าอย่างตื่นเต้น“ไม่ดีกว่าครับป้ากลัวว่าถ้าผมไปบรรยากาศก็คงจะกร่อยหมดป้าก็รู้ว่าทำไม” มนันย์หันมายิ้มให้ป้าสมจิตรตาหยีสองมือก็ขะมักเขม้นมักจัดการเช็ดล้างห้องครัวเหมือนอย่างที่เคยทำ“ไปตั้งหลายวันเอ็งก็จะได้พักไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาเข้าครัวเตรียมอาหารเหมือนแต่ก่อนช่วงนี้อยากออกไปเที่ยวที่ไหนก็ได้นะข้าไม่ว่าหรอกไม่ต้องอยู่แต่ในนี้เอ็งยังหนุ่มยังแน่น” ป้าสมจิตรเอ่ยบอกอย่างเอ็นดูหากไม่มีเด็กตรงหน้าคอยช่วยเหลืองานต่างๆคนแก่ที่ต่อมรับรสลิ้นผิดเพี้ยนคงโดนเนรเทศจากเมืองใหญ่ไปใช้ชีวิตบ้านนอกเหมือนเดิมแม้จะทำงานเป็นคนใช้ในคนครัวแต่ว่ามีอาหารการกินครบ 3 มื้อบ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ต้องซื้อแถมยังมีรายได้พอจุนเจือส่งเสียเลี้ยงหลานที่บ้านได้ก็เพียงพอแล้วแต่เด็กหนุ่มตร
เวลาล่วงเลยมา 4 วันกว่ามนันย์จะกลับมายังคฤหาสน์นันธ์เดชภาคย์ แม้จะไม่มีไข้แต่ร่างกายก็ยังอ่อนเพลียอยู่ดี ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาลในความคิดของโอเมก้ากำพร้า ถึงท่านจะสัวจะส่งเสียตลอดเป็นรายปี แต่ก็ไม่ได้ให้มากมายจนเหลือกินเหลือใช้ มนันย์ประหยัดอดออมเพราะตั้งใจจะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้ใช้ตั้งตัวแต่ก็ต้องมาเสียเงินก้อนโตเกือบ 1 ใน 4 ของเงินทั้งหมดที่มีในบัญชี ยามที่ถอนเงินสดไปจ่าย มือขาวสั่นระริกเสียดายเงินก้อนโตได้แต่เพียงมองตาละห้อย โอเมก้าอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เฉียดเข้ามาในสถานพยาบาลในย่านนี้เพียงเพราะไม่มีเงินมากพอ อีกทั้งที่เขาต้องรักษาตัวหลายวันเพราะร่างกายเกิดผิดปกติต่อต้านยากดฮีทที่ฝังอยู่ใต้ท้องแขน คุณหมอจึงรีบผ่าตัดเอาออก รอจนสภาพร่างกายดีขึ้นจึงแนะนำยาเม็ดชนิดใหม่ที่ราคาแพงและมีประสิทธิภาพมากกว่าแบบเก่าและคุณหมอยังแนะนำให้เขางดใช้ชนิดแบบฝังเพราะอาจจะมีผลกระทบต่อร่างกายในภายหลัง โดยเฉพาะกับมดลูก หากยังไม่แต่งงานให้ทานยาแทน หากแต่งงานยังแล้วให้ควบคุมโดยวิธีการทางธรรมชาติจะดีที่สุด แต่มนันย์ไม่มีตัวเลือกมากนัก อีกทั้งเขาจินตนาการที่ตัวเองแต่งงาน มีครอบครัวสมบูรณ์พูนสุขไม
“ป้าสมจิตรเกิดอะไรขึ้นทำไมรสชาติอาหารถึงได้เค็มโดดจนกินไม่ได้เลย” พรรำไพถามเสียงเครียดส่วนป้าสมจิตรก้มหน้าฝ่ามือที่เย็นเฉียบประสานกันตรงหน้าท้องน้อยอย่างยอมรับชะตากรรมของตัวเอง“คะคือดิฉันขอโทษด้วยค่ะคุณหญิง”“ทำอยู่ทุกวันทำไมวันนี้ถึงรสเพี้ยนจนฉันไม่คิดว่าใครจะกินได้ลงมีอะไรหรือเปล่า” พรรำไพจ้องหัวหน้าแม่ครัวที่เธอไว้ใจและโปรดปรานในรสชาติฝีมืออาหารไทยมาตลอดหลายสิบปีอย่างงุนงงปนสงสัยแม่จะไม่พอใจแต่ก็ยังอยากจะรู้สาเหตุอยู่ดีไถ่ถามอย่างใจเย็นแม้จะจะถือว่าเป็นคนโปรดแต่ถ้าทำผิดก็ต้องต่อว่ากันบ้างป้าสมจิตรคุกเข่าลงข้างๆเก้าอี้พรรำไพพร้อมเอ่ยขอโทษอย่างใจจริง“ขอโทษค่ะคุณหญิงไอ้นัน—” ยังไม่ทันที่ป้าสมจิตรจะได้อธิบายพรรำไพก็แผดเสียงออกมาอย่างดัง“มีอะไรอย่าบอกนะเด็กนั่นแกล้งทำ”“มะไม่ใช่ค่ะคุณหญิง” ป้าสมจิตรสองมือจับขาผู้เป็นนายหญิงไว้มั่นกลัวว่าจะเข้ามนันย์ผิดไปก่อนที่ท่านเจ้าสัวจะเอ่ยถามออกมากลัวว่าเหตุการณ์จะบานปลายส่วนทางด้านพิรชัชและพิรภพต่างก็นั่งเงียบรอฟังคำอธิบายของแม่ครัวอย่างใจเย็น“ใจเย็นๆคุณหญิงฟังสมจิตรสักหน่อยเถอะมนันย์ทำอะไรหรือยังไงสมจิตรตั้งสติค่อยๆเล่า”“คือเมื่อหลายปีก่อนด
ความฝันที่ก้าวเท้าออกจากบ้านนันธ์เดชภาคย์สลายพร้อมกับร่างกายที่โคลงเคลงจับไข้เนื่องจากตากฝนมาทั้งคืนไหนจะถ่อร่างกายอันหนักอึ้งออกมาร้านซักรีดหยอดเหรียญข้างนอกอีกมนันย์ไข้ขึ้นสูงจนหมดสติโชคดีที่ยังพอมีคนมาใช้บริการร้านซักรีดแห่งนี้อยู่บ้างแม้จะเป็นช่วงเวลาฟ้าสางเขาจึงถูกพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลทางด้านป้าสมจิตรที่นั่งไม่ติดที่เพราะช่วงก่อนที่เจ้านันยังเป็นนักศึกษาช่วงนั้นเหลือเพียงคุณพรรำไพอยู่บ้านเพียงคนเดียวเป็นส่วนใหญ่บ้างก็ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกกับสมาคมคุณหญิงคุณนายอาหารเช้าจะเป็นเพียงสลัดง่ายๆหรือผลไม้ไม่กี่อย่างซึ่งไม่ต้องอาศัยรสมือในการปรุงเฉกเช่นอาหารคาวส่วนใหญ่ตอนกลางวันคุณหญิงท่านจะออกไปทานข้างนอกส่วนตอนเย็นมนันย์ก็กลับมารับช่วงต่อพอดีจึงได้รับหน้าที่ปรุงอาหารคาวหวานขึ้นโต๊ะบ้านใหญ่มานานหลายปีแม้จะมีหัวหน้าเชฟคนอื่นๆแต่ว่าคุณพรรำไพชอบรสมือของป้าสมจิตรมากที่สุดเพราะเธอชอบอาหารไทยส่วนท่านเจ้าสัวและลูกชายทั้งสองชอบอาหารฝรั่งอย่างพวกมันบดหรือเนื้อแกะย่างหมักด้วยไวน์แดงเป็นต้นเด็กบ้านนอกคอกนาอย่างป้าสมจิตรถนัดเพียงอาหารไทยต้นตำรับประยุกต์ได้หลากหลายแบบหากขึ้นชื่อว่าอาหารไทยหล่
“ขอบคุณมากครับ” รอยยิ้มนั้นไม่เพียงสะท้อนความอาทรในอกเจ้าสัว แต่มันยังทำให้พิรชัชคิดว่าเจ้าตัวคงดีใจเต็มแก่ที่จะได้มีชีวิตอิสระไปหลงระเริงอยู่ข้างนอกโดยที่ไม่มีใครคอยจับตา“หึ!” รอยยิ้มสวยหุบลงทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของพิรชัชที่จ้องมองมาอย่างดูแคลน“ป้าสมจิตรสั่งการไม่ให้ใครช่วยเหลือมนันย์ในการถอนเจ้าดอกบ้านั่นทิ้งซะถ้าทำไม่เสร็จไม่ต้องนอนจัดการให้เรียบร้อยให้เสร็จในวันนี้เพราะพรุ่งนี้จะได้ทำแปลงใหม่และวันถัดไปจะได้ลงดอกไม้อื่นๆทันที”“แต่—” ป้าสมจิตรทำท่าจะแย้งแต่เมื่อเห็นสายตาคุณๆที่จ้องมองมาก็หุบปากฉับในทันทีดอกพีโอนีสูงประมาณหัวเข่าบ้างก็สูงจนถึงเอวไอ้นันตัวบอบบางขนาดนั้นไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเสร็จใหม่นึกถึงตอนที่ลงปลูกใหม่ๆหล่อนเห็นเด็กหนุ่มค่อยๆปลูกค่อยๆดูแลอย่างพิถีพิถันมาตลอดหลายปีพอจะให้ถอนก็จะให้ทำในวันเดียวเนี่ยนะสวนกว้างตั้งหลายไร่ส่วนมนันย์คิดไม่ผิดนักตั้งแต่ที่บ้านใหญ่เรียกเขาก็เตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเกี่ยวกับสวนดอกไม้เป็นแน่แต่พอมาได้ยินให้ถอนทิ้งให้หมดหัวใจดวงน้อยก็เจ็บจนหนึบชาดอกพีโอนีเป็นเหมือนตัวแทนของแม่ที่เขาเฝ้าปลูกถนอมไว้ดูต่างหน้าบัดนี้เหลือเพียงแต่ความทรงจำที่ต้องจ
“ไอ้นัน ไอ้นันโว้ย”“ครับมีอะไรหรือเปล่า” ปากก็ตะโกนตอบกลับสองมือก็เร่งตากผ้าในตะกร้าให้เสร็จเพราะอาจมีเรื่องให้ไปทำต่อเป็นแน่“มาเร็วไอ้นันคุณหญิงแกเรียกหาให้ไปตึกใหญ่”“ฮะ! อะไรนะครับ” ไม่เพียงแต่มนันย์ที่ตกใจป้าสมจิตรเองก็เช่นกันร้อยวันพันปีไม่เคยให้เด็กคนนี้เหยียบย่างขึ้นไปบนตึกใหญ่สักครั้งไม่รู้ว่าเจ้านันไปก่อเรื่องอะไรเอาไว้หรือเปล่า“เอ็งไปทำอะไรให้คุณท่านเขาโกรธหรือเปล่า”“ผมเปล่านะครับ” มนันย์ส่ายหน้าอย่างแรงจะเป็นไปได้ยังไงวันๆอยู่แต่ในครัวและห้องพักคนงานและมีแค่สวนดอกไม้เท่านั้นที่เขาสามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระหรือว่า…มนันย์เบิกตากว้างสองเท้าก็รีบเดินไปยังตึกใหญ่โดยมีป้าสมจิตรเดินนำทาง“มาสักที” เสียงคุณหญิงของบ้านเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์มนันย์ค่อยๆคลานเข้าไปอย่างหวาดกลัวก่อนจะนั่งคุกเข่าก้มหน้าเหมือนนักโทษที่รอไต่สวนบริเวณโถงห้องนั่งเล่นมีสมาชิกของบ้านใหญ่นั่งกันอยู่ตามลำดับไม่ว่าจะเจ้าสัวพิสิฐชัยคุณหญิงพรรำไพคุณพิรชัชและคุณพิรภพต่างก็นั่งอยู่พร้อมหน้าเหมือนจะมีเรื่องราวร้ายแรงเกิดขึ้นยังไงยังงั้นพรรำไพปรายตามองอย่างรังเกียจแต่ก็อดชื่นชมผิวพรรณและหน้าตาของเด็กหนุ่มตรงหน้
พิรชัชห่างหายบ้านเกิดเมืองนอนไปร่วม 10 ปี ภายในห้องนอนของเขายังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลงไปมากนัก เพียงแต่ว่าระเบียงมุมโปรดที่มีทุ่งดอกกุหลาบหลากสีละลานตา แถมกลิ่นหอมของมันยังลดความตึงเครียดเป็นอย่างดี กลับเป็นอีกกลิ่นหนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคย และไม่มีวันคุ้นเคย ตั้งแต่เปิดประตูตรงระเบียงออกมารับลม แสงจันทร์สีนวลที่สาดส่องลงมายังพอเห็นว่าทุ่งดอกไม้ข้างล่างพุ่มของมันไม่เหมือนต้นกุหลาบที่เขาชอบ แถมกลิ่นยังฉุนจนต้องนิ่วหน้า ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองอย่างเสียอารมณ์ช่วงที่เขาไม่อยู่มีใครบังอาจกล้ามายุ่มย่ามกับแปลงกุหลาบของเขาเห็นทีพรุ่งนี้จะต้องสืบสาวราวเรื่องให้รู้เรื่องพิรชัชเข้านอนด้วยความรู้สึกหงุดหงิดทั้งๆที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายแถมห้องนอนยังออกแบบให้รับกับทิศทางของลมเป็นอย่างดีแต่ทว่าวันนี้กลับต้องอาศัยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงแทนอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นประหลาดมนันย์เองก็นอนไม่หลับพลิกไปพลิกมาอยู่ค่อนคืนมองดูนาฬิกาบนหัวเตียงเป็นเวลา 5 ทุ่มปกติเจ้าตัวจะเป็นคนนอนเร็วเพราะเหนื่อยและเพลียมาจากการเรียนการเดินทางไหนจะต้องมาเข้าครัวทำอาหารแล
มนันย์พยักหน้าให้อย่างเข้าใจก่อนจะลงมือทำต้มยำกุ้งหม้อใหญ่สำหรับคนเกือบครึ่งร้อยที่อาศัยอยู่คฤหาสน์แห่งนี้เวลาสองทุ่มอาหารเลิศรสมากมายก็ถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะอย่างพร้อมเพรียงละลานตาเพื่อต้อนรับการกลับมาของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคนพรรำไพยิ้มหน้าบานบุตรชายทั้งสองจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานจวบจนพิรชัชจบการศึกษาปริญญาเอกส่วนพิรภพจบปริญญาโทก่อนจะกลับมารับช่วงต่อธุรกิจที่บ้านรถหรูหลายคันเคลื่อนเข้ามาจอดทีหน้าประตูบ้านที่แกะสลักลวดหลายอย่างวิจิตรโอเมก้าอาศัยความมืดอำพรางกายเพราะไม่อนุญาตให้เข้ามาในเขตหน้าบ้านหรือบริเวณของบ้านใหญ่อย่างเด็ดขาด‘ไม่เจอกันร่วมสิบปีทั้งสองคนจะเป็นยังไงบ้างนะ’ดวงตากลมโตจดจ้องรถแต่ละคันใจสั่นตึกตักอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อคนที่ก้าวลงรถมาจากรถหรูคันที่ 3 ลงมาพร้อมกับผู้หญิงผมสีทองยาวสลายจนถึงกลางหลังคนแปลกหน้าที่มนันย์ไม่รู้จักมาก่อนควงแขนอย่างสนิทสนมกับพิรชัช‘เหมาะสมกันดีคุณเขายังหล่อเหลาเหมือนเดิมแต่เหมือนจะสูงและกำยำขึ้นเยอะเลย’ มนันย์ลอบวิเคราะห์โครงหน้าของพิรชัชรวมไปถึงทางกายภาพด้านนอกต่างๆอย่างละเอียดส่วนพิรภพก็สูงขึ้นเยอะเหมือนกันใบหน้าหล่อเหลานั้นมักจะแต่งแต้ม