รถตู้มาถึงบ้านพักตากอากาศทางภาคเหนือก็ตะวันตกดินพอดีการเดินทางไม่เร่งรีบจึงใช้เวลามากกว่าปกติหลายชั่วโมงบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียวหลังคาทรงไทยอากาศถ่ายเทปลอดโปร่งเหมาะแก่การมาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้ป่วยเป็นอย่างมากรายล้อมไปด้วยธรรมชาติหลบหลีกเรื่องราววุ่นๆในโซเชี่ยลได้เป็นอย่างดีแม้บรรยากาศจะดีและสวยงามสักแค่ไหนคนที่ประสบอุบัติเหตุมาหยกๆกลับไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากอยากจะเก็บตัวปลีกวิเวกมากกว่าอีกทั้งบ้านพักตากอากาศแห่งนี้เป็นหนึ่งในกิจการของทางฝั่งคุณหญิงพรรำไพรอบๆบ้านแห่งนี้ปลูกดอกพีโอนีไว้สุดลูกหูลูกตาเพราะเก็บเป็นหัวเชื้อน้ำหอมและดอกไม้อบแห้งส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยเหตุนี้พรรำไพจึงคะยั้นคะยอให้ลูกชายดั้นด้นมารักษาตัวไกลถึงที่นี่เพราะบรรยากาศล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นที่พิรชัชจำใจต้องชอบในขณะนี้แม้ว่าก่อนหน้าจะเป็นกลิ่นที่อัลฟ่าอย่างพิรชัชไม่คิดจะเฉียดกรายเข้าไปใกล้ด้วยความที่เรียนและรับวัฒนธรรมตะวันตกมาค่อนชีวิตกลิ่นของมันออกจะฉุนสักเล็กน้อยอีกทั้งความหมายก็ไม่ดีเท่าไหร่ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ชอบกลิ่นของมันร่างกายที่ซูบผอมของอัลฟ่าก้าวเท้าออกมาจากรถตู้อย่างเชื่องช้ายืดเส้นยืดสายอยู่สักค
“คุณพิรชัชครับอาหารเช้าเสร็จแล้วครับ” มนันย์เคาะอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีท่าที่ว่าจะเปิดกำลังจะบิดประตูเข้าไปประตูห้องนอนก็เปิดออกมาไม่ทันตั้งตัวจนมนันย์เซเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของพิรชัชมนันย์ตาเหลือกลนลานรีบขอโทษขอโพย“ผมขอโทษครับที่ไม่ระวังคุณพิรชัชเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับผมขอโทษจริงๆ” พลางก้มหัวปลกๆเอ่ยขอโทษออกมาไม่ขาดสาย“ขอโทษพอหรือยัง”“…”มนันย์ได้สติจึงเอ่ยถาม “ผมขออนุญาตพยุงคุณไปยังโต๊ะอาหารนะครับ” รอจนพิรชัชตอบ ‘อืม’ มนันย์จึงค่อยๆพยุงแขนพาก้าวเดินไปยังโต๊ะอาหารเช้าที่ตั้งอยู่ลานด้านนอกบรรยากาศสดชื่นเย็นสบายไอหมอกปกคลุมบนยอดภูเขาก่อนพระอาทิตย์จะค่อยๆทอแสงให้ความอบอุ่นกำลังดี“เชิญครับ” เมื่อเห็นว่าพิรชัชนั่งลงเรียบร้อยก็เอ่ยปากถาม“จะรับกาแฟชาหรือน้ำส้มดีครับ”“กาแฟ”“ครับ” มนันย์รับคำก่อนจะจัดแจงอธิบายว่าอาหารอะไรอยู่ตรงไหนก่อนจะเอ่ยปาก“งั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ” พิรชัชเพียงแต่พยักหน้าแต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรอีกมนันย์เข้ามานั่งกินข้าวต้มในครัวสายตาก็มองพิรชัชที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างนอกคนเดียวอีกทั้งตัวบ้านเป็นพื้นที่โล่งกว้างไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมายไม่มีกั้นห้องเป็นสัดเป็นส่วน
มนันย์ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นปั้น ปล่อยให้ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปตามร่างกายตามอำเภอใจ แรงกอดรัดเริ่มรุนแรงขึ้น แม้อยากจะดิ้นหนีสักเท่าไหร่กลับถูกพันธนาการแน่นยิ่งขึ้น ในยามอัลฟ่ารัทจะสูญเสียสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ หากดิ้นหนีหรือต่อกรมากเท่าไหร่ ความรุนแรง ความอยากเอาชนะก็จะมากขึ้นเท่านั้น โอเมก้าที่สรีระอ่อนแอกว่ามักตกอยู่ในสภาวะจำยอม หากไม่อยากเจ็บตัวและเกิดการบาดเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์มักจะยอมลู่ไปตามลม หากฝืนต้านทานไว้อาจไม่มีลมหายใจอีกต่อไป คู่นอนโอเมก้าบางคนถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อถูกหามเข้าโรงพยาบาลก็มาก หากไม่อยากเจ็บตัวมากไปกว่านี้ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น มนันย์ขบเม้มริมฝีปากไว้แน่นไม่กล้าเผยเสียงครางออกมาเมื่ออีกฝ่ายขบเม้มบริเวณหลังคอ บริเวณที่ไวต่อสัมผัสที่สุดของโอเมก้า อีกทั้งกลิ่นหอมกรุ่นยังออกมาจากบริเวณหลังคอนี้ อัลฟ่าที่ตกอยู่ในสภาวะรัทไม่สนใจว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนจะเป็นใคร ขอเพียงมีคนรองรับความกำหนัดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนตอนนี้ก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นจมูกที่ได้รับกลิ่นเพี้ยนมาหลายสัปดาห์กลับได้กลิ่นหอมตรงซอกคอขาวเป็นกลิ่นที่อัลฟ่าเองก็อธิบายไม่ถูกมันเป็นกลิ่นที่ทำให้เขาหลงใหล
แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าถูกควบคุมด้วยฤทธิ์ของฟีโรโมนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขาเองก็เต็มใจทอดกายให้พิรชัชได้เชยชม มนันย์ลูบต้นคอตัวเองอย่างเหม่อลอย ตราประทับสลักลงหลังคออย่างสมบูรณ์ เขายิ้มเยาะให้ตัวเองก่อนจะหยิบยาสามเม็ดที่วางอยู่บนหัวเตียงเข้าปากอย่างขมขื่น โอเมก้าลากสภาพร่างกายอันหนักอึ้งไปอาบน้ำ น้ำสีขาวขุ่นผสมกับเลือดไหลตามน่องขา ส่วนล่างชายิบแทบไม่รู้สึก ร่างกายร้อนรุ่มไปด้วยพิษไข้ หน้ากระจกที่สะท้อนภาพตัวเองปากแตกเลือดซิบ ลำคอหน้าอก หน้าท้องมีแต่รอยขมเม้ม จ้ำช้ำเป็นจุด ๆ เอวแดงเถือกเป็นรอยบีบเคล้น ช่องทางหลังเหมือนจะฉีกขาดสี่วันสามคืนที่ถูกกกกอดระยะเวลายาวนานขนาดนั้นกลับเป็นเพียงพริบตาหนึ่งเท่านั้นแม้ไม่หนักหนาสาหัสแต่สภาพก็ไม่ได้ดีนักในตอนเช้าตรู่ที่ลุกขึ้นนอนมนันย์เวียนหัวหน้ามืดแต่ก็ฝืนกายลุกขึ้นมาเขาจะมัวแต่นอนซมไม่ได้เพราะยังมีพิรชัชที่ต้องคอยดูแลมนันย์ไม่ลืมหน้าที่ตัวเองจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จก็โทรบอกคุณลุงคนขับรถอีกทั้งให้ป้ามะลิตระเตรียมอาหารเช้าพร้อมเข้ามาดูแลแทนสักครึ่งวันแม้ป้ามะลิไม่ถามไถ่แต่มนันย์รู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่ใช่ความลับอีกต่อไปมนันย์
การสอบชิงทุน E ใกล้เข้ามาแล้วเหลือเวลาเพียงอีกไม่กี่สัปดาห์ให้มนันย์ได้ทบทวนเนื้อหาทั้งหมดก่อนจะเข้าสอบ ทุนนี้เป็นทุนที่โอเมก้ายากไร้ต่างใฝ่ฝัน มันเสมือนเป็นใบเบิกทางที่จะการันตีว่าผู้ที่สอบได้ทุนนี้ หากสำเร็จเล่าเรียนออกมามีงานรองรับแน่นอน และที่สำคัญคงจะเป็นการได้ร่ำเรียนในประเทศโลกที่ 1 ที่ค่าครองชีพแพงหูฉี่ อีกทั้งเป็นการเปิดโลกกว้างของตัวเอง มนันย์จึงคาดหวังไว้เอาไว้สูง และสมัครลงศูนย์สอบในตัวเมือง แต่ก็ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงเวลานั้นจะมีเวลาปลีกตัวไปสอบหรือไม่ เพราะระยะเวลาการสอบมีทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย อีกทั้งช่วงนี้คุณชัชดูเหมือนจะเรียกใช้เขาบ่อยกว่าปกติและดูเหมือนว่าจะมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน“ป้ามะลิทำไมวันนี้เตรียมของเยอะจังเลยล่ะครับ” มนันย์อดสงสัยไม่ได้เพราะข้าวของที่จัดเตรียมตรงลานกว้างเหมือนจะไปเข้าค่ายพักแรมสัก 2-3 วัน จึงอดถามไม่ได้“เอ้าคุณมีนาไม่ทราบเหรอคะ คุณท่านจะไปพักที่โฮมสเตย์น้ำพุร้อนที่หลังเขาน่ะค่ะ”“น้ำพุร้อน?”“ใช่ค่ะ เอาเป็นว่าคุณมีนาไปเตรียมตัวเถอะนะคะ เดี๋ยวของใช้ต่าง ๆ ป้ากับตาสงจะเตรียมเอง”“ขอบคุณมากครับ”มนันย์หมุนตัวจะเข้าไปเก็บของห้องตัวเองแต่ก็ชะงัก
"พีโอนีดอกนี้ผลิบานมิใช่เพียงล่อลวงหมู่แมลง แต่เบ่งบานเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี และปรารถนาให้ผู้ที่พบเห็นมันได้พานพบคู่แท้ มีชีวิตรักที่สมบูรณ์พูนสุข"พิรชัชเกลียดโอเมก้าอย่างมนันย์ เพราะการมีอยู่ของเด็กคนนี้ทำเอาครอบครัวของเขาเกือบพัง สามีภรรยาที่รักกันอย่างหวานชื่นกลับหมางเมินใส่กันตั้งแต่ที่พ่อเขาอุ้มเด็กคนนี้เข้ามาในบ้าน แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาพลิกผัน อัลฟ่าอย่างพิรชัชเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ความทรงจำบางส่วนขาดหาย การรับกลิ่น การรับรสเปลี่ยนไปจากเดิม ชีวิตที่มืดมนกลับมาสว่างไสวเพราะพยาบาลจำเป็นที่ชื่อมีนาอีกครั้ง"คุณรู้สึกดีกับผมเพราะว่าคุณสามารถจินตนาการผมในรูปแบบต่าง ๆ ในแบบที่คุณชอบ หรือเป็นอะไรก็ได้ในแบบที่คุณอยากให้เป็น แต่หากสักวันหนึ่งคุณสามารถมองเห็นผมด้วยสองตาของคุณเอง คุณอาจจะไม่ชอบผมอีกแล้วก็ได้ เพราะบางทีตัวตนของผมจริง ๆ อาจจะมีแต่สิ่งที่คุณไม่ชอบเต็มไปหมด"ถ้าหากมีนาหรือมนันย์คือคนคนเดียวกัน พิรชัชจะทำเช่นไร เพราะคนที่เขาคิดจะเปิดใจหลังจากเลิกรากับแคทเทอลีนก็คือพยาบาลจำเป็นอย่างมีนา เขารักมีนาแต่เกลียดมนันย์ ส่วนมนันย์รู้อยู่เต็มอกว่าพิรชัชเกลียดตนยังกะอะไรดี หากไม
ในเมืองที่ศิวิไลแสงไฟส่องระยิบระยับสมกับเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคนเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบายตามประสาเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครเมืองที่ไม่เคยหลับใหลไปตามกาลเวลาแต่ทว่าผู้คนต่างแบ่งแยกความเป็นมนุษย์เพียงแค่ชนชั้นอัลฟ่าเบต้าและโอเมก้าหนึ่งในตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ‘นันท์เดชภาคย์’ ที่ผู้คนต่างใฝ่ฝันได้รับการตอบรับเข้าทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับเอเชียที่แตกบริษัทย่อยออกไปหลายสิบสาขารวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดเป็นหนึ่งในตระกูลอันมั่งคั่งระดับล้านล้านบาทควบกิจการทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำแม้แต่รัฐบาลกลางยังต้องเกรงใจอยู่หลายส่วนหากคุณเกิดมาเป็นอัลฟ่าหรือเบต้าบริษัทพวกนี้จะอ้าแขนตอบรับคุณได้ไม่ยากไม่เหมือนกับโอเมก้าชนชั้นโอเมก้านั้นเปรียบเสมือนสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยที่สุดในห่วงโซ่อาหารของเพศรองพวกเขามีร่างกายที่พิเศษเป็นเพศชายที่สามารถท้องได้มีอาการฮีทหรือเรียกว่า ‘ฤดูผสมพันธุ์’ มีกลิ่นฟีโรโมนดึงดูดหลอกล่ออัลฟ่าให้ติดกับมัวเมาในกามาหากพลาดท่าอาจถูกตีตราเป็นเจ้าของโดยไม่เต็มใจเพราะฟีโรโมนยั่วเย้านั้นต่างก็ทำให้อัลฟ่าชั้นสูงไม
มนันย์โอเมก้าน้อยนอนหลับตาพริ้มข้างมารดา ที่ตอนนี้มีแต่สายระโยงระยางเพื่อต่อลมหายใจให้เจ้าของร่างที่อยู่ปากปล่องหุบเหวแห่งความตาย ‘มานัส’ เป็นโอเมก้าชายรุ่นน้อง เป็นน้องรหัสโอเมก้าเพียงคนเดียวของเจ้าสัวพิสิฐชัย สมัยตอนเรียนมหา’ ลัยทั้งสองเป็นพี่น้องสายรหัสที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่เสมอมา ตั้งแต่เรียนจบก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลยจนกระทั่งไม่กี่สัปดาห์ก่อน พิสิฐชัยได้รับสายจากเบอร์แปลกที่เขาไม่คุ้นเคย ก่อนจะกดรับสายเผื่อว่าเป็นคู่ค้าแต่ทว่ากลับต้องตกใจเมื่อปลายสายเอ่ยแนะนำตัวพร้อมเอ่ยขอร้องเสียงกระท่อนกระแท่นขาดหายแทบฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อเจ้าสัวพิสิฐชัยเดินทางมาถึงโรงพยาบาลก็ต้องพบกับความอดสูร่างกายโอเมก้าที่เคยเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลบัดนี้เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกผมที่เคยดกดำนิ่มสลวยไม่กี่ปีก่อนหน้าเหลือเพียงไม่กี่หย่อมดวงหน้าตอบตาลึกโบ๋หายใจอ่อนแรงใกล้ร่วงโรยเต็มทีพิสิฐชัยจำได้ว่าน้องรหัสมาจากครอบครัวคนชั้นกลางแต่หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อไปมาหาสู่กันอีกไม่คิดว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเขาจึงตัดสินใจรับเด็กทารกที่ลืมตาดูโลกเพียงไม่กี่วันมาอุปการะ“ฝะ…ฝากดูแลมนันย์ด้วยนะครับ” ลำ
การสอบชิงทุน E ใกล้เข้ามาแล้วเหลือเวลาเพียงอีกไม่กี่สัปดาห์ให้มนันย์ได้ทบทวนเนื้อหาทั้งหมดก่อนจะเข้าสอบ ทุนนี้เป็นทุนที่โอเมก้ายากไร้ต่างใฝ่ฝัน มันเสมือนเป็นใบเบิกทางที่จะการันตีว่าผู้ที่สอบได้ทุนนี้ หากสำเร็จเล่าเรียนออกมามีงานรองรับแน่นอน และที่สำคัญคงจะเป็นการได้ร่ำเรียนในประเทศโลกที่ 1 ที่ค่าครองชีพแพงหูฉี่ อีกทั้งเป็นการเปิดโลกกว้างของตัวเอง มนันย์จึงคาดหวังไว้เอาไว้สูง และสมัครลงศูนย์สอบในตัวเมือง แต่ก็ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงเวลานั้นจะมีเวลาปลีกตัวไปสอบหรือไม่ เพราะระยะเวลาการสอบมีทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย อีกทั้งช่วงนี้คุณชัชดูเหมือนจะเรียกใช้เขาบ่อยกว่าปกติและดูเหมือนว่าจะมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน“ป้ามะลิทำไมวันนี้เตรียมของเยอะจังเลยล่ะครับ” มนันย์อดสงสัยไม่ได้เพราะข้าวของที่จัดเตรียมตรงลานกว้างเหมือนจะไปเข้าค่ายพักแรมสัก 2-3 วัน จึงอดถามไม่ได้“เอ้าคุณมีนาไม่ทราบเหรอคะ คุณท่านจะไปพักที่โฮมสเตย์น้ำพุร้อนที่หลังเขาน่ะค่ะ”“น้ำพุร้อน?”“ใช่ค่ะ เอาเป็นว่าคุณมีนาไปเตรียมตัวเถอะนะคะ เดี๋ยวของใช้ต่าง ๆ ป้ากับตาสงจะเตรียมเอง”“ขอบคุณมากครับ”มนันย์หมุนตัวจะเข้าไปเก็บของห้องตัวเองแต่ก็ชะงัก
แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าถูกควบคุมด้วยฤทธิ์ของฟีโรโมนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขาเองก็เต็มใจทอดกายให้พิรชัชได้เชยชม มนันย์ลูบต้นคอตัวเองอย่างเหม่อลอย ตราประทับสลักลงหลังคออย่างสมบูรณ์ เขายิ้มเยาะให้ตัวเองก่อนจะหยิบยาสามเม็ดที่วางอยู่บนหัวเตียงเข้าปากอย่างขมขื่น โอเมก้าลากสภาพร่างกายอันหนักอึ้งไปอาบน้ำ น้ำสีขาวขุ่นผสมกับเลือดไหลตามน่องขา ส่วนล่างชายิบแทบไม่รู้สึก ร่างกายร้อนรุ่มไปด้วยพิษไข้ หน้ากระจกที่สะท้อนภาพตัวเองปากแตกเลือดซิบ ลำคอหน้าอก หน้าท้องมีแต่รอยขมเม้ม จ้ำช้ำเป็นจุด ๆ เอวแดงเถือกเป็นรอยบีบเคล้น ช่องทางหลังเหมือนจะฉีกขาดสี่วันสามคืนที่ถูกกกกอดระยะเวลายาวนานขนาดนั้นกลับเป็นเพียงพริบตาหนึ่งเท่านั้นแม้ไม่หนักหนาสาหัสแต่สภาพก็ไม่ได้ดีนักในตอนเช้าตรู่ที่ลุกขึ้นนอนมนันย์เวียนหัวหน้ามืดแต่ก็ฝืนกายลุกขึ้นมาเขาจะมัวแต่นอนซมไม่ได้เพราะยังมีพิรชัชที่ต้องคอยดูแลมนันย์ไม่ลืมหน้าที่ตัวเองจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จก็โทรบอกคุณลุงคนขับรถอีกทั้งให้ป้ามะลิตระเตรียมอาหารเช้าพร้อมเข้ามาดูแลแทนสักครึ่งวันแม้ป้ามะลิไม่ถามไถ่แต่มนันย์รู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่ใช่ความลับอีกต่อไปมนันย์
มนันย์ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นปั้น ปล่อยให้ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปตามร่างกายตามอำเภอใจ แรงกอดรัดเริ่มรุนแรงขึ้น แม้อยากจะดิ้นหนีสักเท่าไหร่กลับถูกพันธนาการแน่นยิ่งขึ้น ในยามอัลฟ่ารัทจะสูญเสียสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ หากดิ้นหนีหรือต่อกรมากเท่าไหร่ ความรุนแรง ความอยากเอาชนะก็จะมากขึ้นเท่านั้น โอเมก้าที่สรีระอ่อนแอกว่ามักตกอยู่ในสภาวะจำยอม หากไม่อยากเจ็บตัวและเกิดการบาดเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์มักจะยอมลู่ไปตามลม หากฝืนต้านทานไว้อาจไม่มีลมหายใจอีกต่อไป คู่นอนโอเมก้าบางคนถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อถูกหามเข้าโรงพยาบาลก็มาก หากไม่อยากเจ็บตัวมากไปกว่านี้ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น มนันย์ขบเม้มริมฝีปากไว้แน่นไม่กล้าเผยเสียงครางออกมาเมื่ออีกฝ่ายขบเม้มบริเวณหลังคอ บริเวณที่ไวต่อสัมผัสที่สุดของโอเมก้า อีกทั้งกลิ่นหอมกรุ่นยังออกมาจากบริเวณหลังคอนี้ อัลฟ่าที่ตกอยู่ในสภาวะรัทไม่สนใจว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนจะเป็นใคร ขอเพียงมีคนรองรับความกำหนัดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนตอนนี้ก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นจมูกที่ได้รับกลิ่นเพี้ยนมาหลายสัปดาห์กลับได้กลิ่นหอมตรงซอกคอขาวเป็นกลิ่นที่อัลฟ่าเองก็อธิบายไม่ถูกมันเป็นกลิ่นที่ทำให้เขาหลงใหล
“คุณพิรชัชครับอาหารเช้าเสร็จแล้วครับ” มนันย์เคาะอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีท่าที่ว่าจะเปิดกำลังจะบิดประตูเข้าไปประตูห้องนอนก็เปิดออกมาไม่ทันตั้งตัวจนมนันย์เซเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของพิรชัชมนันย์ตาเหลือกลนลานรีบขอโทษขอโพย“ผมขอโทษครับที่ไม่ระวังคุณพิรชัชเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับผมขอโทษจริงๆ” พลางก้มหัวปลกๆเอ่ยขอโทษออกมาไม่ขาดสาย“ขอโทษพอหรือยัง”“…”มนันย์ได้สติจึงเอ่ยถาม “ผมขออนุญาตพยุงคุณไปยังโต๊ะอาหารนะครับ” รอจนพิรชัชตอบ ‘อืม’ มนันย์จึงค่อยๆพยุงแขนพาก้าวเดินไปยังโต๊ะอาหารเช้าที่ตั้งอยู่ลานด้านนอกบรรยากาศสดชื่นเย็นสบายไอหมอกปกคลุมบนยอดภูเขาก่อนพระอาทิตย์จะค่อยๆทอแสงให้ความอบอุ่นกำลังดี“เชิญครับ” เมื่อเห็นว่าพิรชัชนั่งลงเรียบร้อยก็เอ่ยปากถาม“จะรับกาแฟชาหรือน้ำส้มดีครับ”“กาแฟ”“ครับ” มนันย์รับคำก่อนจะจัดแจงอธิบายว่าอาหารอะไรอยู่ตรงไหนก่อนจะเอ่ยปาก“งั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ” พิรชัชเพียงแต่พยักหน้าแต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรอีกมนันย์เข้ามานั่งกินข้าวต้มในครัวสายตาก็มองพิรชัชที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างนอกคนเดียวอีกทั้งตัวบ้านเป็นพื้นที่โล่งกว้างไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมายไม่มีกั้นห้องเป็นสัดเป็นส่วน
รถตู้มาถึงบ้านพักตากอากาศทางภาคเหนือก็ตะวันตกดินพอดีการเดินทางไม่เร่งรีบจึงใช้เวลามากกว่าปกติหลายชั่วโมงบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียวหลังคาทรงไทยอากาศถ่ายเทปลอดโปร่งเหมาะแก่การมาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้ป่วยเป็นอย่างมากรายล้อมไปด้วยธรรมชาติหลบหลีกเรื่องราววุ่นๆในโซเชี่ยลได้เป็นอย่างดีแม้บรรยากาศจะดีและสวยงามสักแค่ไหนคนที่ประสบอุบัติเหตุมาหยกๆกลับไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากอยากจะเก็บตัวปลีกวิเวกมากกว่าอีกทั้งบ้านพักตากอากาศแห่งนี้เป็นหนึ่งในกิจการของทางฝั่งคุณหญิงพรรำไพรอบๆบ้านแห่งนี้ปลูกดอกพีโอนีไว้สุดลูกหูลูกตาเพราะเก็บเป็นหัวเชื้อน้ำหอมและดอกไม้อบแห้งส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยเหตุนี้พรรำไพจึงคะยั้นคะยอให้ลูกชายดั้นด้นมารักษาตัวไกลถึงที่นี่เพราะบรรยากาศล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นที่พิรชัชจำใจต้องชอบในขณะนี้แม้ว่าก่อนหน้าจะเป็นกลิ่นที่อัลฟ่าอย่างพิรชัชไม่คิดจะเฉียดกรายเข้าไปใกล้ด้วยความที่เรียนและรับวัฒนธรรมตะวันตกมาค่อนชีวิตกลิ่นของมันออกจะฉุนสักเล็กน้อยอีกทั้งความหมายก็ไม่ดีเท่าไหร่ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ชอบกลิ่นของมันร่างกายที่ซูบผอมของอัลฟ่าก้าวเท้าออกมาจากรถตู้อย่างเชื่องช้ายืดเส้นยืดสายอยู่สักค
เหตุการณ์ครั้งนี้เปลี่ยนความคิดและการดำเนินชีวิตของพรรำไพเป็นอย่างมากอีกทั้งลูกชายคนเล็กที่บาดเจ็บเล็กน้อยนั้นเพราะบอดี้การ์ดส่วนตัวที่จ้างมาทำไมเธอถึงไม่เอะใจตั้งแต่แรกนะระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองไม่ใช่สถานะเจ้านายกับลูกน้องที่เข้าใจตั้งแต่แรกเพียงเพราะอคติบังตาเธอจึงมองไม่เห็นความสุขของลูกชายทั้งสองเห็นเพียงความเหมาะสมต่อหน้าตาวงศ์ตระกูลอีกทั้งคำสรรเสริญจอมปลอมที่พวกคุณหญิงคุณนายคอยพูดกรอกหูจนมองโลกผิดเพี้ยนไปหมดเอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้งหากไม่มีอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่รู้ว่าเธอจะเปิดตาเปิดใจให้กับความสุขของลูกเมื่อไหร่อย่างน้อยเรื่องร้ายๆก็ยังมีเรื่องดีๆเข้ามาอยู่บ้างต่อจากนี้เธอสัญญากับตัวเองจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขมองความสุขของลูกเป็นที่ตั้งจะไม่ยัดเยียดการเลือกคู่ของพวกเขาอีกอีกทั้งยังเคารพการตัดสินใจไม่ก้าวก่ายและไม่เหยียดหยามคนอื่นเพียงเพราะแค่เพศรองเพศไหนก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าเทียมกันโดยเฉพาะเพศสภาพโอเมก้าพนักงานทำความสะอาดโรงพยาบาลทำเอาเธอประทับใจเช่นกันที่เห็นกระเป๋าเงินแบรนด์เนมของเธอหล่นก็ยังเก็บมาคืนของข้างในรวมถึงเงินครบทุกบาททุกสตางค์เงินแ
“สวัสดีครับ” มนันย์เอ่ยเสียงทักทายท่านเจ้าสัว หลังจากเกิดอุบัติเหตุผ่านมาหลายวัน ร่างกายท่านซูบลงเล็กน้อย มนันย์จัดแจงยกปิ่นโตไปวางไว้ตรงเค้าเตอร์ห้องครัว ก่อนจะเดินมายืนข้างเตียงถามไถ่อาการท่านเจ้าสัว“เป็นยังไงบ้างครับ”“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ” สายตาที่ทอดมองเด็กหนุ่มตรงหน้าจดจ้องทำเอาเจ้าตัววางตัวไม่ถูกก่อนจะเอ่ยความคิดที่เขาไตร่ตรองมาอยู่หลายวันจวบจนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรจะร้องขอคนตรงหน้าอีกแล้วนอกจาก…“เรื่องที่เธออยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอกฉันตกลงแต่ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยอย่างหนึ่งได้หรือเปล่า”“…”ที่ว่าลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเจ็บหนักที่สุดแต่ตัวมนันย์เองก็ไม่คิดว่าจะบาดเจ็บจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นอีกทั้งต่อมรับกลิ่นผิดเพี้ยนไปจากเดิมไม่แน่ว่าอาจจะเป็น (Hyposmia) ผู้ป่วยที่มีความสามารถในการรับกลิ่นน้อยลงหรือ (Dysosmia) จมูกได้กลิ่นเปลี่ยนไปเกิดจากที่ศีรษะได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรงความทรงจำบางส่วนขาดหายไปไหนจะอาการหูอื้อทั้งสองข้างซึ่งการประเมินเบื้องต้นอาการเหล่านี้อาจจะค่อยๆฟื้นตัวจนกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดซึ่งหมอจะทำการนัดครั้งต่อไปเมื่อร่างกายภายในฟื้นตัวดีแล้วสองเท้
โอเมก้าเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง สรีระ ฟีโรโมนล้วนแสดงออกมากทางกายภาพ แม้มนันย์จะบอกปัดว่าเขาเป็นเบต้า แม้ฟีโรโมนจะบางเบาแต่การที่เขาใช้ชีวิตรายล้อมไปด้วยอัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์ สักวันก็คงจะโดนจับได้ แม้จะมีท่านเจ้าสัวที่คอยหนุนหลังสนับสนุนอยู่ห่าง ๆ แต่อย่างว่าคนนอกอย่างเขาก็คงจะสู้เสียงของนายหญิงอย่างพรรำไพไม่ได้อยู่ดี ที่สำคัญอาการฮีทมักมาไม่ตรงรอบ มนันย์กลัวที่สุดในชีวิตคือการฮีทกะทันหันตรงหน้าอัลฟ่า แม้จะมีปลอกคอแต่ก็ไม่ได้เป็นเกราะป้องกันว่าเขาจะปลอดภัยไม่ได้รับรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ ชีวิตโอเมก้าน่ะไม่มีสิทธิ์มีเสียงมาแต่ไหนแต่ไรชีวิตตัวคนเดียวหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างมนันย์หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันคงไม่มีใครหน้าไหนอยากยื่นมือเข้ามาช่วยแม้แต่คุณแคทเทอลีนเป็นเบต้าหญิงแท้ๆยังดูออกมนันย์ลูบที่ต้นคอด้านหลังตัวเองอย่างเหม่อลอยเขาวางแผนไว้แล้วว่าแม้จะได้งานทำแต่ยังไงสักวันก็คงหนีไม่พ้นบ้านนันธ์เดชภาคย์ไม่ได้อยู่ดีสู้สอบเอาทุนเรียนดีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศสักที่ที่ที่มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันไม่มีแบ่งแยกเพศหลักเพศรองแล้วทุน E ก็เป็นทุนที่ครอบคลุมมากที่สุดทุนหนึ่งอีกทั้งเป
การเดินทางกลับเลื่อนออกไปจากกำหนดถึง 3 วันเพราะพิรชัชรัทกะทันหันเขาขลุกอยู่แต่ในห้องกับแคทเทอลีนเนื้อแนบเนื้ออยู่หลายวันจนแคทเทอลีนขยาดรสรักอันร้อนแรงจากคนรักส่วนอัลฟ่ารู้สึกไม่เต็มอิ่มและสุขสมเฉกเช่นทุกครั้งพิรชัชก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันเขาตักตวงจ้วงแทงเอาความสุขจากเรือนร่างเบต้าใต้ร่างอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแคททอลีนนึกว่าเธอจะตายคาเตียงแล้วซะอีกเมื่อคนข้างหลังเร่งจังหวะสุดท้ายก่อนจะเชิดหน้าครางคำรามด้วยความสุขสมเมื่อปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในโพรงอุ่นนั้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะฟุบหลับไปด้วยความอ่อนเพลียแคทเทอลีนเองก็เช่นกันอาการรัทของพิรชัชต่างออกไปจากทุกครั้งเขารู้สึกแปลกออกไปเมื่อได้กอดแคทเทอลีนเธอเป็นแฟนสาวที่คบหากันมาหลายปีต่างก็มีเปรยๆเรื่องการหมั้นหมายและแต่งงานอยู่บ้างแต่คราวนี้ความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นในอกจนเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นอย่างไรดีเมื่อได้สัมผัสร่างกายผิวนุ่มลื่นกลิ่นหอมเย้ายวนจากมนันย์คนที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นโอเมก้าอีกทั้งพ่อของเขาย่อมรู้เรื่องนี้และมีเหตุผลอะไรที่ต้องปกปิดมาตลอดหลายปีความคิดมากมายเริ่มตีรวนฟุ้งซ่านขึ้นมาในหัวหร