สามปีผ่านไปคีย์"เจ้าขานั่งรอลุงคีย์อยู่ตรงนี้นะครับ""ค่ะ"ผมพูดกับหลานรักของตัวเอง วันนี้ผมพาเจ้าขามาทำงานที่บริษัทด้วย ส่วนเรื่องของน้อยหน่านี่มันก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้วที่ผมไม่เจอแม้แต่เงาของเมียตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือแค่ให้ความหวังตัวเองอยู่ทุกวันเผื่อว่าวันนึงน้อยหน่าจะพาลูกกลับมาหาผม และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงผมก็ยินดีที่จะรับมันขอแค่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"พี่ดีใจนะคะที่เห็นคุณคีย์เปลี่ยนแปลงตัวเองได้"พี่เบญเดินเข้ามาก่อนจะยิ้มให้ผม"ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้พี่เบญต้องลำบากไปด้วย""สู้มาขนาดนี้แล้วก็ต้องสู้ให้สุดนะคะอีกหนึ่งกำลังใจจากพี่"ถ้าวันนี้ผมยังมีน้อยหน่าอยู่ข้างกายผมจะมีความสุขที่สุด สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักวันที่ผมจะนอนหลับแบบเต็มตา ภาพของน้อยหน่าที่ร้องไห้มันยังตามผมทุกครั้งที่ผมหลับตา"ลูกผมคงจะเดินได้แล้วเนาะพี่เบญ"ผมถามพี่เบญเสียงสั่น"เลี้ยงเจ้าขาไปก่อนเนาะ"พี่เบญรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีผมหันมากอดเจ้าขาที่นั่งอยู่ข้างผม ตอนนี้เจ้าขาสามขวบแล้วลูกของผมก็คงห่างจากเจ้าขาไม่มาก"พี่ต้องทำยังไงหน่าถึงจะใจอ่อนพาลูกกลับมาหาพี่ พี่เปลี่ยนตัวเองแล้วนะหน่าเปลี่ยนไปแล้วจ
น้อยหน่า"นะ..หน่าจริงๆ ใช่มั้ย"พี่คีย์พูดพลางเดินเข้ามาหาฉัน คำพูดและแววตาของเขามันสั่นจนฉันรู้สึกได้ ฉันกลับมากรุงเทพได้สองวันแล้วล่ะ ใช่ค่ะฉันได้ลูกชายและฉันเป็นคนตั้งชื่อให้เขาเอง"สบายดีนะคะ"ฉันถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน"ขอพี่กอดได้มั้ยหน่า"ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปฉันเพียงแค่ยิ้มให้พี่คีย์พี่คีย์เดินเข้ามากอดฉันแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นหลายอย่างมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ ฉันว่าฉันโตขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีลูกฉันใจเย็นขึ้นมาก"ฮึก พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ"พี่คีย์พูดเสียงสั่นและน้ำตาของเขามันหยดลงเสื้อฉันจนเปียก"เรื่องมันผ่านมาแล้ว หน่ายกโทษให้พี่คีย์ค่ะ"ฉันผละกอดออกแล้วยิ้มให้"ลูกของเราใช่มั้ยหน่าเขาคือลูกของเรา"พี่คีย์ชี้ไปที่คีตะที่นั่งยิ้มอยู่"ชื่อคีตะค่ะ"ฉันบอกไปพี่คีย์เปลี่ยนไปเยอะค่ะทั้งคำพูดและการกระทำ ที่ผ่านมาฉันก็พอจะรู้เรื่องของพี่คีย์อยู่บ้าง ฉันว่าสิ่งที่ฉันทำมันคุ้มค่านะอย่างน้อยพี่คีย์ก็เปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ มันก็ดีกับตัวพี่คีย์เอง"แปลกใจใช่มั้ยคะว่าทำไมคีตะถึงไม่กลัวพี่คีย์"ฉันถามคนที่ยืนมองลูกอยู่ฉันไม่เคยปิดบังเรื่องพี่คีย์กับลูกเ
น้อยหน่าตอนนี้ฉันกำลังนั่งมองลูกชายตัวเองที่แสดงอาการไม่พอใจใส่ฉัน เมื่อเช้าพี่คีย์ไปประชุมแต่เช้าและลูกชายของฉันดันตื่นสาย พอตื่นมาไม่เจอหน้าพ่อเท่านั้นแหละ"กินข้าวมั้ยครับ"ฉันถามลูก"ป๊าไหน""คีตะครับฟังแม่นะ ป่ะป๊าของหนูไปทำงานเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับมาเล่นกับหนูแล้ว ฟังแม่อยู่มั้ย"นอกจากจะไม่ได้ฟังที่ฉันพูดแล้วคีตะยังไม่มองหน้าของฉันอีก ฉันมองลูกชายตัวเองที่เดินเข้ามุมแล้วนั่งกอดอกปรายตามองคนเป็นแม่อย่างฉัน"เดี๋ยวปู่พาไปหาป๊าดีมั้ยลูก แต่ต้องไปกินข้าวก่อนนะครับ"ฉันมองพ่อของพี่คีย์ที่เดินเข้ามาในห้องฉันไม่ได้อยากพาลูกไปที่บริษัทเพราะฉันไม่อยากไปรบกวนพี่คีย์ตอนทำงาน เมื่อเช้าก็กว่าจะออกจากบ้านได้ก็ลีลาอยู่นานสุดท้ายฉันก็ต้องแพ้ทางลูกชายสุดที่รักของตัวเอง คุณปู่ของคีตะขับรถมาส่งที่บริษัท ส่วนเรื่องที่ฉันคุยกับพี่คีย์เมื่อวานฉันเองคิดไม่ถึงว่าพี่คีย์จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ และที่เหลือฉันเองก็คงต้องปล่อยให้เวลามันตัดสิน"ขอบคุณนะคะ"ฉันพาคีตะเดินเข้าบริษัทซึ่งแน่นอนพนักงานต่างพากันมองแล้วซุบซิบกันใหญ่ และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากมาฉันไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าฉันเอาลูกมาอ้างทั้งที่จริงมันไ
สองปีผ่านไปน้อยหน่า"มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยมึง"จันทร์เจ้าเดินเข้ามาถามฉันวันนี้เป็นวันเกิดของพี่คีย์และฉันเองก็จัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้ที่บ้าน พี่คีย์เองก็ยังไม่รู้หรอกว่าฉันจัดงานให้ เรื่องของฉันกับพี่คีย์ก็ยังคงเหมือนเดิมเรายังเป็นพ่อและแม่ของคีตะ ตอนแรกฉันไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพและแม่ฮ่องสอนแต่เพราะพี่คีย์สงสารลูกที่ต้องเดินทางบ่อยเขาก็เลยขอให้ฉันมาอยู่ที่กรุงเทพถ้าจะกลับก็ต้องเป็นวันหยุดยาว"ใจอ่อนได้แล้วมั้งหน่า"พี่ขุนพลเดินมาก่อนจะพูดเสียงดุ"หน่าใจอ่อนตั้งนานแล้วค่ะ"ฉันบอกไป"คีตะไปไหนหน่า เจ้าขาถามหาน่ะ"จันทร์เจ้าถามฉัน"ไปทำงานกับพี่คีย์"คีตะกลายเป็นเด็กติดพ่อ ทุกวันตื่นมาจะต้องอ้อนขอไปทำงานด้วยตลอด และนิสัยเอาแต่ใจก็ยังแก้ไม่หายยิ่งพี่คีย์ไม่เคยดุลูกเลยมันยิ่งทำให้คีตะได้ใจ พี่คีย์เปลี่ยนไปมากจริงๆ นะ จากคนที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กแต่พี่คีย์ใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นานเลยพี่คีย์พาคีตะไปทำงานเพราะวันนี้ไม่มีประชุมฉันก็เลยยอม ตั้งแต่มีพี่คีย์ช่วงเลี้ยงลูกฉันสบายขึ้นเยอะเลยบางวันฉันแทบจะไม่ได้คุยกับลูกด้วยซ้ำ และคำพูดของพี่คีย์ที่เคยบอกฉันวันนี้พี่คีย์ทำมันได้หมดทุกอย่าง"ขอบคุณนะคะ
น้อยหน่า"ไปผับกันค่ะ กูหิวผู้ชายแล้ว"ฉันค่อยๆ หันไปมองเพื่อนรักอย่างสมคิดที่ทำท่าสะดีดสะดิ้งอยู่ และสิ้งแรกที่ฉันต้องทำคือฉันขอแนะนำตัวเองก่อนถูกมั้ย ฉันชื่อน้อยหน่าค่ะ อายุ 22 ปี ตอนนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ฉันฝึกงานอยู่แผนกจัดซื้อ ส่วนนิสัย ฉันเป็นคนนิ่งๆ แต่พูดเยอะค่ะ เว้นแต่ถ้ามีใครทำให้ไม่พอใจ"เบาได้เบาเพื่อนรัก"ฉันรีบบอกเพื่อนตัวเอง"มึงเบาเนาะอีเวร"ฉันโสดนะคะเผื่อใครยังไม่รู้ ก็มีคนคุยบ้างแต่ยังไม่ถูกใจใครเลย และฉันเองก็ยังไม่อยากมีใครด้วยแหละ อยากอยู่แบบนี้ไปก่อน อยากไปเที่ยวไหนก็ไปอยากจะเมาจนเดินไม่ไหวก็ไม่ต้องมีคนคอยบ่น ฉันว่ามันสบายใจดีออก"ไปค่ะกูคิดถึงผัวกูแล้ว"คิตตี้พูดพรางทำท่าเขิน"บอสหรอคะ"โบว์ถามจนฉันอดยิ้มไม่ได้"บอสพ่อมึงสิอีโบว์ กูหมายถึงพี่โบ๊ทกับพี่คีย์ต่างหาก"พวกฉันสนิทกับเพื่อนของบอสหรือเจ้าของบริษัทที่ฉันฝึกงานอยู่นี่แหละ สนิทแบบเร็วมากอ่ะและผับที่เราไปก็เป็นผับของพี่โบ๊ทเพื่อนรักของบอสนั่นเอง เหล้าฟรีคือฟรีทุกอย่างอ่ะและไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยด้วย เพราะถ้าเมาจนกลับไม่ไหวก็นอนห้องพักข้างบนแค่นั้นเองและวันนี้วันศุกร์คื
คีย์"ว่าไงล่ะหน่า จะให้พี่ทำอะไรต่อกับหน่าดี"ผมถามคนที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ผม ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน ผมชื่อคีรินหรือคีย์ อายุย่างสามสิบแล้วส่วนหน้าตาก็หล่อประมาณนึงแหละ และผมเป็นเพื่อนรักของไอ้ขุนพลและไอ้โบ๊ท"หน่าว่าพี่คีย์กลับไปด่าไอ้โบว์ดีกว่าเนาะ"ผมยกยิ้มให้กับน้อยหน่าที่ตอบผมเสียงเบาผมสนิทกับน้อยหน่าและเพื่อนของเธอนะ ถ้าถามว่าสนิทขนาดไหนก็สนิทระดับนึงเพราะพวกเธอเป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัทของเพื่อนผม ส่วนคนที่นั่งข้างผมตอนนี้ผมสนิทกว่าคนอื่น"เรื่องการแต่งตัว เรื่องการกินเหล้าให้มันเบาๆหน่อยก็ได้นะหน่า"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมบ่นหรอกนะแต่ผมบ่นเป็นร้อยรอบแล้วน้อยหน่ากับเพื่อนก็ไม่เคยฟัง ถึงวันนี้น้อยหน่าจะแต่งตัวปกติกว่าวันอื่นก็ตามเถอะ และนี่ถ้าผมไม่มาคิดหรอว่าเธอจะแต่งตัวแบบนี้ ถ้าถอดเดินได้ก็คงถอดไปแล้ว"บ่นเป็นคนแก่ไปได้""พูดแบบนี้ลงจากรถแล้วเดินกลับคอนโดเองเลยไป"ผมพูดเสียงดุ"รีบไปส่งหน่าได้แล้วค่ะ หน่าง่วงหน่าอยากจะนอน"ผมยกยิ้มก่อนจะดับรถแล้วปรับเบาะแล้วนอนอย่างสบายใจ ไปเที่ยวทุกทีกลับเช้าไม่เคยง่วงแต่พอโดนผมบ่นเท่านั้นแหละแม่คุณง่วงขึ้นมาทันที"จำได้ว่าเที่ยวที
น้อยหน่า"นอนกับหน่า"ฉันหันไปถามคนที่เดินอยู่ข้างฉัน ให้ตายเถอะหน้าตายได้อีกพ่อคุณเอ้ย ที่ฉันถามนี่คือฉันไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่พี่คีย์บอกฉันหรอกนะ เพราะพี่คีย์ไปนั่งเล่นและนอนที่ห้องฉันบ่อย เวลามาส่งพี่แกน่ะชอบไปนั่งเล่นเกมส์ที่ห้องฉัน และฉันไม่ได้กลัวพี่เขาหรอกเพราะพี่เขาไม่ทำอะไรอยู่แล้ว"ดึกแล้วขี้เกียจขับรถ พี่ต้องการพักผ่อน"ฉันเบะปากกับคำตอบของพี่เขา ต้องการพักผ่อนหรอพี่เขาต้องการแกล้งฉันต่างหากล่ะ"ก็เข็นเอาดิ"ฉันหันไปตอบ"เดี๋ยวจะโดนนะน้อยหน่า"หลังจากนั้นฉันกับพี่คีย์ก็เดินเข้าคอนโดคือกูง่วงจนจะเดินหลับอยู่แล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างฉันคือนิ่งและจะนิ่งไปไหนวะ ฉันแตะคีย์การ์ดก่อนจะชี้ไปตรงโซฟาเพื่อบอกพี่คีย์"ฝันดีนะคะ"ฉันพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนทันทีโดยไม่สนใจพี่คีย์เลย เพราะถ้าพี่เขาอยากจะกินหรือเล่นเกมส์คือเขารู้หน้าที่เขาอยู่แล้ว น้ำเนิ้มไม่ต้องอาบแล้วแหละถ้าใจเราสะอาด"ฝันดีครับ"เสียงที่ฉันได้ยินจากข้างนอกก่อนที่ตาของฉันมันจะปิดลง...เช้าฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง ให้ตายเถอะหกโมงเช้านี่กูตื่นมาทำเวรอะไรวะ วันนี้วันหยุดกูควรจะตื่นบ่ายสองมั้ยล่ะ ฉันดีดตัวขึ้นมานั
น้อยหน่าฉันรีบเดินเข้าครัวทันทีเพราะรำคาญไอ้คนที่นั่งยิ้มอยู่ที่โซฟา คือไม่เข้าใจเลยว่าทำไมช่วงนี้พี่คีย์ถึงชอบมาที่ห้องของฉัน ไม่ใช่ว่าพี่เขาไม่มีสาวนะเว้ยแต่ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ"ใช้จังเลยน้องนุ่งเนี่ย"ฉันบ่นและตั้งใจให้พี่เขาได้ยินด้วย"ก็น้องลองไม่นุ่งดูดิพี่จะไม่ใช้เลย"ฉันหันไปมองค้อนพี่คีย์ทันที"จะกินอะไรคะ"ฉันถามไปคือกูจะได้รีบทำให้กินแล้วพี่แกจะกลับไปสักที เพราะขืนอยู่ไม่ฉันก็พี่คีย์นี่แหละต้องตายกันไปข้าง"อะไรก็ได้ครับ"คำตอบนี่น่าเทอาหารเม็ดให้กินมากค่ะคุณพี่ครืด ครืดฉันมองมือถือตัวเองที่ดังอยู่ก่อนจะหันไปมองพี่คีย์ที่กำลังมองมาที่ฉันเหมือนกัน ฉันยิ้มก่อนจะรับสายทันทีเพราะมันเป็นชื่อที่ฉันคุ้นเคย"ค่ะพี่โบ๊ท"(วันนี้ไปไหนมั้ย ไปกินข้าวกัน)"ไม่ได้ไปไหนค่ะ"(จะให้พี่ไปรับมั้ยหรือหน่าจะมาเอง)"เดี๋ยวหน่าไปเองก็ได้ค่ะ"(โอเคครับ ไว้เจอกันนะ)ฉันวางสายพี่โบ๊ทก่อนจะหันมาทำกับข้าวให้พี่คีย์ต่อ ซึ่งตอนนี้พี่คีย์นั่งเล่นมือถืออยู่ ฉันน่ะสนิทกับพี่โบ๊ทเหมือนกันเพียงแค่พี่โบ๊ทไม่เคยมาที่ห้องฉัน"จะไปก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่ทำกินเองก็ได้"เอ้า!!!...อารมณ์ไหนของเขาวะ เมื่อกี้ยังยิ้ม