"ก็จริงค่ะ ขนาดเตือนอุ้มท้องมาเองเจ้ายังไม่กอดเตือนบ่อยเท่ากอดพี่อัฐเลย" คุณนายเตือนตาว่าเสียงอ่อย ๆ ปนความน้อยใจลูกสาว
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กอดแทนลูกเอง" ท่านอัฐว่ายิ้ม ๆ แล้วรั้งภรรยาเข้ามากอดเบา ๆ
"หญิงก็คงมองลูกหญิงผิดไปจริง ๆ ค่ะ ลืมสนิทเลยว่าโรมมีน้อง ๆ ของเพื่อนอีก 2 คนที่ดูแลอยู่ ยิ่งน้องของขวัญหลานสาวคุณหญิงว่านน้องพี่ศิลาเขา โตที่อเมริกาเพิ่งมาอยู่ไทยได้ 3-4 ปี อเมริกัน 90 เลยนะคะ เจอกันที่งานกระโดดกอดพี่ ๆ เขาไม่สนสายตาใครเลย หญิงไม่น่าเสียงดังกับลูกเลย" คุณหญิงคล้อยตามพี่ชายเสียงอ่อน
"แล้วคุณหญิงว่านเคยว่าอะไรโรมกับเพื่อนหรือหลานเขามั้ย?" ท่านอัฐเอ่ยถามเสียงเนิบ
"ไม่เคยได้ยินนะคะ เธอพาหลานสาวกับน้องน้ำหวานออกงานทีไรก็เจอประจำตั้งแต่เด็ก ๆ ม.1 ม. 2 แล้วล่ะ ตอนนี้ก็น่าจะ ม.ปลายแล้ว สวยน่ารักเชียว" คุณหญิงว่าถึงน้องร่วมโลกของลูกชายและเพื่อนยิ้ม ๆ
"เพราะแบบนั้นไง โรมเขาโตแล้วเขาเคยเลี้ยงน้อง เขาแยกแยะได้ เชื่อใจลูกหน่อยสิ แล้วหยุดได้แล้วนะยอลูกคนอื่น แล้วกดลูกตัวเองต่ำน่ะ ถ้าไม่ให้กำลังใจก็ไม่ต้องพูด แล้วคิดดี ๆ ที่ลูกไม่ปรึกษาเพราะอะไ
ด้านนอกห้อง 2 แม่มองหน้ากันตาปริบ ๆ แล้วพากันเดินจูงมือกันลงมาห้องนั่งเล่นที่ท่านอัฐนั่งดูข่าวสังคมอยู่ ก่อนจะถอนหายใจพร้อม ๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย"เป็นไง ตกลงใครเริ่ม" ท่านอัฐเอ่ยถามไม่ระบุคนตอบแต่ตามองทีวีไม่สนใจทั้งภรรยาและน้องสาว"จะใครเริ่มล่ะ ลูกสาวคุณนั่นแหละค่ะวิ่งไปนอนเล่นห้องพี่เค้า เค้าไล่ยังไม่ออกมาแถมยังบอกว่าถ้าแม่จะตีเพราะเข้าห้องผู้ชายคงโดนตีตายตั้งแต่หัดเดินแล้วค่ะ" คุณนายเตือนตาว่ากับสามีหน้าบึ้ง ๆ"ก็บอกแล้วไงว่าเด็กมันไม่คิดอะไร ผู้ใหญ่ก็บ้าก็หลังกันเอง คิดอะไรไม่สงสารลูกหลานมั่งหรือไง" ท่านนอัฐว่าพลางถอนหายใจ"ก็ระแวงนี่คะพี่อัฐ กับคนอื่นหญิงไม่กังวลหรอกค่ะ แค่จ่ายเงินก็ตัดปัญหาได้ แต่นี่น้องเจ้าหลานสาวหญิงเลยนะคะ เป็นอะไรขึ้นมาจะมองหน้ากันได้ไง" คุณหญิงพูดกับพี่ชายเสียงอ่อย"เรื่องนั้นมันก็แล้วแต่เด็ก ๆ เขามั้ย เราจะไปกำหนดเขาไม่ได้หรอก เขาโต ๆ กันแล้วอย่าไปคิดแทนเขาสิไม่แน่นะวันดีคืนดีอาจได้สะใภ้มาทั้งคู่ก็ได้" ท่านอัฐว่าพลางมองหน้าภรรยาขำ ๆ เพราะทุกครั้งที่เจ้าขาขึ้นเวทีจะมีสาวสวยรุ่นพี่หลานสาวผู้ว่ามามอบดอกไม้ช่อใหญ่ให้เธอ
"เออ! มันส่งสารนิพนธ์ผ่านจนได้ใบรับรองแล้ว" สรัญตะคอกใส่หน้าแม่เสียงดัง"ทำไมน้องไม่เคยพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่เลยล่ะ" คุณหญิงเอ่ยถามลูกชายอึ้ง ๆ"มันคงพูดหรอก พูดไปแล้วแม่เชื่อมันเหรอ ขนาดมันเรียนได้เกียรตินิยม เกรดมันตั้ง 3.7 แม่เคยชมมันบ้างมั้ยล่ะ ชมแต่ไอ้มาร์คกับไอ้ศิลาเพื่อนมันที่เกรด 4.00 นั่นแหละ ชมจัง เยินยอต่อหน้าคนอื่น แล้วพูดจังไอ้โรมไม่ได้เรื่องไม่ได้ครึ่งเพื่อน" สรัญตวัดหางตามองหน้าแม่ดุ ๆ ก่อนจะพูดต่อ"แล้วพ่อไม่เคยพูดอะไรให้แม่ฟังเลยเหรอว่างานโรงทอที่แม่บอกว่ามันไม่เข้าไปช่วยไม่สนใจน่ะ ออเดอร์ใหญ่ปีที่แล้วก็มันปิดดีลให้ ลูกค้าใหม่ปีนี้ก็มันหาให้ โมเดลลิ่งที่เดินแบบคอลเลคชันใหม่ก็เพื่อนมัน แม่รู้เรื่องห่าเหวอะไรมั่งมั้ย แล้วพูดจังว่ามันพาแต่ผู้หญิงเข้าร้านไม่ซ้ำหน้า แล้วร้านแม่ขายเสื้อผ้าผู้หญิงมั้ยล่ะ มันพาไปแต่ละคนก็มีแต่เพื่อน ๆ มัน เพื่อนผม เพื่อนจีทั้งนั้นมีกี่คนที่เป็นคู่นอนมันจริง ๆ น่ะ แขวะจังว่ามันเปิดผับบาร์ไม่มีอนาคต แม่รู้มั้ยเงินหมุนในร้านมันคืนเท่าไหร่ มากกว่าร้านขายเสื้อแม่ทั้งอาทิตย์อีกมั้ง แล้วไอ้โรมมันซื้อร้านต่อผมไปมันจ่ายเงินสดนะคร
"จะหาทำไมเยอะแยะล่ะ บริษัทของคุณอาก็มีตั้ง 2 บริษัทคิดจะให้พี่รันดูแลคนเดียวหรือไง แล้วร้านตัวเองอีก เงิน... ถึงมันจะสำคัญแต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างหรอก หาได้เยอะ ๆ ตายไปลูกหลานก็แย่งกันบาดหมางกันเป็นบาปเป็นกรรมเปล่า ๆ" เจ้าขาพูดเหมือนที่พ่อบุญธรรมเขาพูดกับพ่อแม่ของเล็กและน้อยเมื่อตอนที่ท่านมาเยี่ยมลูกแล้วจะกลับมาทำงานที่กรุงเทพต่อ แต่ท่านอัฐก็อยากให้ทั้งคู่ได้มีเวลาอยู่กับลูกบ้าง"เฮ้อ...เรานี่นะ ตกลงไม่เอาร้าน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับยกมือขึ้นลูบผมคนตัวเล็กเบา ๆ"ไม่เอา ถ้าให้เจ้าเลือกระหว่างให้อิป๋าอยู่ด้วยกับร้าน เจ้าเลือกอิป๋าดีกว่า" หญิงสาวพูดออกมาจากใจมองหน้าชายหนุ่มยิ้ม ๆ"ทำไมล่ะ เราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่เดือนเองนะ ถ้าเทียบพี่กับร้านใคร ๆ เขาก็เลือกร้านทั้งนั้นแหละ""ใคร ๆ ก็ช่างหัวมันดิ ร้านน่ะเจ้าหาเองได้ แต่อิป๋ามีคนเดียวนี่ แล้วอิป๋าก็มีพ่อมีแม่ทุกคนก็นับเวลาถอยหลังกันทั้งนั้น สู้อยู่พร้อมหน้ากันได้เจอกันมันก็มีความสุขมากกว่าไม่ใช่หรือไง" เจ้าขาว่าตามความคิดของเธอการพลัดพรากเป็นอะไรที่เธอกลัวที่สุดเพราะความพลัดพรากทำให้เธอไม่ได้เจอหน้าพ่อแท้ ๆ ของเธอตั
"แหงล่ะตา ต่อไปเราจะมีพี่สาวกันแล้วค่ะตา พี่เจ้าน่ารักมากด้วย" ของขวัญหันไปตอบตาน้อยอย่างร่าเริงแล้วเดินเข้าไปในครัวที่น้ำหวานกำลังทำกับข้าวอยู่"โรมพาน้องอยู่กินข้าวก่อนนะลูก แล้วนี่เทนกลับมาพร้อมกันหรือเปล่าล่ะ" ตาน้อยบอกชายหนุ่มแล้วถามหาเพื่อนอีกคนยิ้ม ๆ"มันกลับมาก่อนแล้วครับตา เมียไม่รับสายไอ้บ้านี่แทบเหมาเครื่องบินกลับแต่ผมไปเดินป่ากับพวกไอ้มาร์คไอ้ศิมา ทีแรกว่าจะไปสเปนกันด้วยแต่เพื่อนที่จีนไปด้วยเลยพากลับมาก่อน""ศิลาเขายอมไปเที่ยวกับพวกเราด้วยหรือ" ตาน้อยถามยิ้ม ๆ"ลากมันไปครับ ไอ้บ้าทำงานไม่หยุดซักวัน ขนาดไปเดินป่าไอ้นี่ยังพกงานไปทำพกพาวเวอร์แบงก์โซลาเซลไปชาร์ตแบตทำงานในป่าได้ ไอ้บ้ามาร์คอีกคนเหมือนพวกมันเปลี่ยนที่ทำงานกันแค่นั้นเอง" โรมว่าพร้อมกับหัวเราะ แล้วขยับไปนั่งใกล้ ๆ เจ้าขาที่นั่งมองตาน้อยร้อยพวงมาลัยอยู่เงียบ ๆ"นี่ แกะแบบนี้" ว่าพลางแกะดอกมะลิให้เจ้าขาดูเป็นตัวอย่างอย่างคล่องแคล่ว เจ้าขามองตามอึ้ง ๆ พร้อมกับมองหน้าชายหนุ่ม"ทำไมคล่องจัง?" หญิงสาวว่าพลางหยิบมาแกะตาม"ก็แกะมาหลายปีแล้วนี่ ทีแรกแกะไม่เป็นก็ช้ำเยอะเชีย
Rome partทันทีที่พี่ชายวางสาย ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจหนัก ๆ เหลือบตามองห้องนอนตัวเองที่ตอนนี้เปิดประตูแง้มไว้ได้ยินเสียงรายการมวยไทยดังออกมา แล้วกดโทรศัพท์หาพี่สะใภ้ทันที"พี่จี พี่มากับไอ้รันหรือเปล่า" ชายหนุ่มเอ่ยถามทันทีที่พี่สะใภ้รับสาย'ไม่นะโรม พี่พาจานอนแล้ว แต่เห็นนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนพี่ขึ้นมานะแล้วเอารถใหญ่ออกไป พี่ว่าคุณลุงคงไปด้วยแน่เลย' จีน่าว่าเสียงเบา"งั้นผมรบกวนพี่จีไปดูห้องนั่งเล่นหน่อยว่ามีใครอยู่บ้าง"'เค แป๊บนะน้องรัก' จีน่าว่าพลางค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเดินมาส่องที่บันไดเพื่อดูห้องนั่งเล่น 'ไม่มีคนอยู่เลยโรม พี่ว่าไปหมดแน่เลยว่ะ' จีน่าว่าพลางนั่งลงที่บันได"หึ! มาจับผิดผมชัวร์ ผมจะแกล้งให้คุณหญิงกระอักเลือดเลยดีมั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ'คิดดี ๆ นะน้องรัก เกิดคุณหญิงรวิดาโผงผางขึ้นมาจับแต่งงานกับน้องนี่งานงอกเลยนะเว้ย' จีน่าซึ่งเป็นรุ่นพี่ห่างกันแค่ 2 ปีว่าขึ้น"ไม่กล้าหรอกพี่ ขนาดผมท้ายังไม่กล้าเลย แม่เห็นผมเลวจะตายไม่กล้ามัดมือชกแบบพี่กับไอ้รันหรอก แกกลัวหลานแกได้คนเลว ๆ แบบผมเป็นผัวจ
"เจ้า! ที่รัก (TY rak) โทรมา" ชายหนุ่มเอ่ยบอกชื่อที่หญิงสาวบันทึกไว้ แต่ก็ทำให้ผู้ใหญ่ในห้องมองหน้ากันเลิ่กลั่กได้เจ้าขารีบวิ่งออกมาจากห้องโดยไม่ได้มองมุมโซฟาว่ามีคนนั่งอยู่มือบางคว้ามือถือมากดรับสายพร้อมกับจับเก้าอี้ของโรมหมุนออกด้านข้างแล้วนั่งลงบนหน้าขาแบบที่เคยทำ ก่อนจะเหลือบไปเห็นสรัญที่นั่งอยู่ตรงข้ามแล้วแลเลยไปเห็นอีก 4 บุคคลที่นั่งอยู่ที่โซฟายาวมุมห้อง "อุ่ย!...ฮี่" คนตัวเล็กยิ้มเจื่อน ๆ แล้วทำท่าจะลุกวิ่งเข้าห้องแต่โดนมือใหญ่คว้าเอวไว้แล้วดึงให้นั่งลงที่เดิมต่อหน้าทุกคน แล้วหันเก้าอี้กลับไปทางเดิม ก่อนจะสอดมือลอดช่วงเอวของหญิงสาวมาเปิดเอกสารหน้าต่อไป ขณะที่มือซ้าย คลิกเมาท์ที่หน้าจอคอมไปเรื่อย ๆ"คุยให้จบแล้วค่อยไป" เสียงทุ้มเอ่ยบอกข้างหูแต่จงใจให้เสียงดังลอดเข้าไปในสาย ซึ่งคนตัวเล็กก็พยักหน้าแล้วคุยโทรศัพท์กับเพื่อนตามคำสั่งก่อนจะกดวางสายแล้ววางมือถือไว้ที่เดิมพร้อมกับหันมามองหน้าสรัญและพ่อแม่ตัวเองและคุณอาทั้ง 2 เมื่อนึกได้"แม่มาทำไม่บอก" คนตัวเล็กกัดฟันพูดกับเจ้าของตักไม่แรงนัก"ไม่รู้ว่ามาไง เมื่อกี้แฟนโทรมา?" เสียงทุ้มพร้
"แม่อยากมาขอโทษโรมเรื่องวันนั้นที่แม่เสียงดังกับโรมไปน่ะลูก" คุณหญิงตัดสินใจพูดขึ้นเสียงอ่อนพร้อมกับมองหน้าลูกชายอย่างรู้สึกผิด"ช่างมันเถอะครับ ผมชินแล้วล่ะ เมื่อก่อนผมคิดนะว่าทำไมคนถึงมองผมไม่ดีนักทั้ง ๆ ที่ผมก็ไม่เคยเลวอะไรกับใครเลย ผมพยายามทำดีจนเหนื่อย แต่ตอนนี้ผมช่างแม่งละ ถึงใครจะมองยังไงมันก็ไม่ได้ทำให้ผมรวยขึ้นหรือจนลงหรอก ผมซะอีกที่เป็นคนกำหนดว่าผมจะรวยขึ้นหรือจนลง" ชายหนุ่มพรางยกแก้วขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้วแล้วรินลงไปใหม่เป็นแก้วที่ 3"ทุกคนมันผิดพลาดกันได้ ถึงมันจะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่ข้างหน้ามันก็ปรับปรุงให้ดีได้นะลูก" ท่านอัฐพยายามสอนทั้งแม่และลูกในเวลาเดียวกัน ถึงท่านจะเจอโรมเพียงแค่ไม่กี่ครั้งแต่ท่านก็มองออกว่าชายหนุ่มเป็นคนยังไง ดูได้จากกระทำหลายอย่างและเมื่อครู่ที่ดึงให้ลูกสาวบุญธรรมของท่านนั่งลงที่ตักต่อหน้าทุกคน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาทำแบบที่พูดจริง ๆ และไม่คิดจะปิดบังอะไร"ผมก็หวังแบบนั้นครับลุง ผมเข้าใจครับว่าลูกคนเล็กมีบรรทัดฐานของพี่เป็นที่ตั้งแล้วยิ่งเพื่อนผมแต่ละคนประสบความสำเร็จเป็นประธานสาขาต่างประเทศเป็นผู้ช่วยประธานสา
"หึ! งานกู ผลประโยชน์กู ครั้งต่อไปเหรอวะ นี่มึงยังคิดว่ากูจะช่วยมึงอีกหรือไง ใครดีใครเก่งก็ไปเรียกมันมาช่วยสิ สรรเสริญใครก็บอกแม่มึงไปเรียกมันมาจะได้เยินยอได้เต็มปาก บริษัทพ่อมึงจะไม่กระดากเหรอถ้าในใบปิดดีลเป็นชื่อไอ้ขี้กากอย่างกูเนี่ย ระวังพ่อมึงจะด่าว่ามึงไม่รับผิดชอบงาน แล้วแม่มึงด่าว่ามึงไม่เอาอ่าวนะไอ้รัน หน้าไม่หนาเท่ากู มึงทนไม่ได้เท่ากูหรอก" ชายหนุ่มมองหน้าแล้วว่ากับพี่ชายก่อนจะยิ้มเยาะที่มุมปาก แล้วยกแก้วขึ้นกรอกเหล้าลงคอ จนเจ้าขาที่นั่งจับมืออยู่กับแม่ รีบลุกขึ้นมาคว้าแก้วในมือชายหนุ่มยกขึ้นดื่มเองจนหมดแก้วท่ามกลางความตกตะลึงของคนในห้อง"พอแล้ว ไม่ดื่มแล้ว ไม่พูดอีก พ่อคะพาทุกคนกลับบ้านไปเถอะค่ะ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับคว้าขวดเหล้าราคาแพงที่วางอยู่ด้านหน้าชายหนุ่มมาถือไว้"วางลง!" เสียงทุ้มเอ่ยสั่งพร้อมกับจ้องหน้าหญิงสาวอย่างไม่พอใจ "ไม่!""พี่สั่งให้เจ้าวางลงแล้วกลับบ้านไปพร้อมกับแม่เจ้าซะ" ชายหนุ่มออกคำสั่งด้วยแววตาเจ็บปวดมองหน้าคนตัวเล็กตรงหน้า จนคนเป็นลุงที่ยืนโอบไหล่อยู่เข้าใจความรู้สึกได้"ไม่! เจ้าไม่วางแล้วเจ้าก็ไม่กลับด้วย ใครพาเจ้ามาต้องพาเจ้ากลับ!" เจ้าขาว่าขึ้นพร
โรม หรือ รวัช ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารแทนผู้เป็นพ่อด้วยการขอร้องของครอบครัวในอีก 3 ปีหลังจากที่เขาจบดอกเตอร์ และหลังจากนั้นอีก 5 ปีเขาและเพื่อน ๆ ได้ตกลงกันที่จะปิดบริษัทที่ต่างประเทศ เพราะศิลาและมาร์คย้ายกลับมาไทยถาวร ศิลาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แห่ง เคเอส กรุ๊ป มีรองประธานฝ่ายบริหารผู้มากความสามารถอย่างมาร์คหรือมนัสพงษ์ 1 ในเพื่อนรักเคียงข้าง โดยที่คุณปู่ของศิลาให้มาร์คถือหุ้นในบริษัทถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบแทนความดีและความซื่อสัตย์ที่เขามีให้คุณหญิงรวิดาวางมือจากร้านเสื้อผ้าของตัวเองให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 ร่วมกันบริหารและถือหุ้นร่วมกันคนละครึ่ง โรมตัดสินใจขายผับให้กับรุ่นน้อง แต่สร้างรีสอร์ตริมทะเลเพิ่มขยายพื้นที่จนใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยให้ปิยะเป็นผู้ดูแลและให้แฮคกับอาร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองที่บริษัทส่วน สรัญ เขาประสบความสำเร็จกับบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เริ่มก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาทและมีพนักงานแค่เขากับภรรยาในช่วงเริ่มแรกด้วยการช่วยวางแผนของน้องชาย ตอนนี้กิจการก้าวหน้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ และเขาก็ปฏิเสธหุ้นของโรงทอที่พ่อจ
งานฉลองบัณฑิตจบใหม่ถูกจัดขึ้นที่ผับชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ รถสปอร์ตเปิดประทุนคันสวยวิ่งเข้ามาจอดด้านหน้า พร้อมกับการปรากฎกายของสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่วันนี้เธอจัดเต็มมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นภรรยาเจ้าของผับ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะแต่งกายด้วยชุดอะไรหรือเทศกาลอะไรนั่นก็คือสร้อยคอเส้นเล็กจี้พระจันทร์เสี้ยวกับตัวอาร์ที่ใส่ติดคอเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่โรมใส่ให้เมื่อ 4 ปีก่อน เจ้าขาในวันนี้แขวนนวมนักมวยขึ้นเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังร่วมกับแม่สามีหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น แต่ต้องหยุดชะงักกับภาพเห็นตรงหน้า กับไอ้หนุ่มผมยาวคุ้นตาที่กำลังนั่งดื่มกินและหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับสาวสวยคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในร้าน"อิป๋า! เมียมายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่คิดจะเชิญนั่งรึไง" เสียงหวานปนเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันขวับกลับมามองก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบเอวหญิงสาวไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม"ฟาง นี่เจ้าขา ภรรยาไอ...เจ้า นี่พี่ฟางฉีเพื่อนร่วมคณะพี่ แล้วนี่ก็พี่จิ๊กหรือพี่แจ็คแฟนพี่ฟาง" ชายหนุ่มแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเพื่อนผ
2 ปีต่อมาอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษโรมเดินขึ้นบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แล้วหยุดยืนเคาะประตูหน้าห้องที่ติดบันไดทางเดิน ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ รอคนที่อยู่ข้างในมาเปิดให้ ชายร่างผอมสวมแว่นสายตาค่อนข้างหนาเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองหน้าผู้มาเยือนเป็นคำถาม กว่า 2 ปีแล้วที่สรัญพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่ โดยการช่วยเหลือของโรมและเพื่อน ๆ โดยที่พ่อเขาไม่ทราบมาก่อน ทั้งเขาและภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากที่พักมากนักและให้ลูกชายคนเดียวเข้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกภาษาไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะตอนที่เกิดเรื่องบัญชีของเขาที่รับโอนเงินจากบัญชีหุ้นของโรมถูกทางธนาคารสำนักงานใหญ่อายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและโยงไปถึงบัญชีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันด้วย ทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก การมาที่นี่ในตอนแรกนั้นได้ความช่วยเหลือจากศิลาให้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของทางบริษัทที่ศิลากับมาร์คพักอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่ได้งานจึงขอย้ายออกมาอยู่ที่นี่ และเพราะตอนที่ออกมาจากไทยทั้งคู่ไม่ได้นำเอกสารใด ๆ ติดตัวมาด้วย จึงทำงานได้เพียงพนักงาน
"โอ๊ย! เจ้าลูก หล่อขนาดนี้ รวยก็ปานนี้ แถมรับความมึนของเราได้ขนาดนี้ เป็นแม่นะ แม่พยักหน้าตั้งแต่เกริ่น 3 ประโยคแรกแล้วลูก หรือยังไง อึกอักนี่คือพี่เขาไม่แซบว่างั้น" คุณนายเตือนตาว่ากับลูกสาวพร้อมกับเอ่ยแซวในตอนท้ายทำเอาคนโดนถามถึงกับอายม้วนก้มหลบตาประชาชนแทบมุดม้าหินอ่อนหนี"ก็แซบอยู่" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ๆ อาย ๆ"ถ้าแซบก็เก็บไว้กินเองค่ะลูก รีบรับก่อนผู้ชายจะเปลี่ยนใจค่า" คุณแม่บอกลูกสาวเสียงประชด เจ้าขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ ตอนนี้ทั้งลานเงียบรอฟังผลตอบรับเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนรอคำตอบซะเอง"ว่าไง เป็นแฟนกับพี่มั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ"เป็นแค่แฟนนะ" "อืม...ตอนนี้เป็นแค่แฟนก่อน" ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ *ตอนนี้เป็นแฟนถึงห้องนอนแล้วค่อยเป็นเมียพี่ก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ"ก็ได้" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบอาย ๆ"อะไรนะ!!" คำถามพร้อมเพรียงเสียงดังขึ้นทันที หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองพี่น้องนักมวยรอบลานแล้วมองหน้าพ่อกับแม่ พี่สาวคนสนิทก่อนจะหันมาตอบชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเสียงดังและฟังชัด"เออ...เป็นแฟนกับพ
ตกเย็น ร้านหมูกระทะที่โรมให้น้อยไปสั่งขับรถขนหมูกระทะและอุปกรณ์มาส่งที่โรงซ้อม ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มเป็นอัดลมและน้ำผลไม้ให้อย่างไม่อั้น ท่านอัฐยืนมองความสนุกสนานของเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ในการปาร์ตี้กันคืนนี้ยิ้ม ๆ"คิดยังไงมาเลี้ยงหมูกระทะเด็ก ๆ" ท่านอัฐเอ่ยถามหลานชาย"ก็เห็นบ่นอยากกินกันครับแล้วอีกอย่างพวกไปเรียนกรุงเทพก็มากันหมดแล้วเลยเลี้ยงซะหน่อย พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้ากรุงเทพด้วยครับลุงว่าจะไปดูคุณพ่อหน่อยครับ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถอนหายใจภายหลัง"แล้วไอ้เจ้าว่าไงล่ะ น้องมาเราจะกลับ""ก็...ยังไม่คุยเลยครับ ช่วงนี้น้องต้องซ้อมผมไม่อยากทำให้เจ้าเสียสมาธิ เอาจริง ๆ ที่ผมหนีมานี่ช่วงน้องสอบก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรน้องอีก ไม่อยากให้น้องเสียสมาธิครับลุง" ชายหนุ่มตอบแบบตรงไปตรงมา"แล้ววันนี้ก็หน้าบึ้งทั้งวันทะเลาะกันอีกหรือไง" ท่านอัฐเอ่ยถามพลางปรายตามองชายหนุ่ม"หึ! เปล่าหรอกครับแค่โดนกวนเมื่อคืนแล้วเมื่อเช้าไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนแล้วงอแงใส่แค่นั้นครับ แต่เห็นบอกว่าจะออกไปรับแฟนเขาไม่ใช่หรือครับลุง" ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอตอบผู้เป
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก
โรมเดินออกมาจากหลังม่านพร้อมกับส่งไลน์ไปบอกผู้เป็นลุงว่าเจ้าขากลับมาถึงบ้านแล้ว ก่อนจะยืนขำกับความไม่สังเกตสังกาของหญิงสาว ที่ข้าวของของเขาบางส่วนก็ยังวางอยู่ในห้อง โดยที่เขาไม่คิดจะเก็บ ครู่ต่อมาเจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันตัวแค่ผืนเดียว ผมยาวสลวยของเธอถูกรวบและหนีบด้วยกิ๊บตัวใหญ่อยู่กลางหัว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองบรรดาครีมต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ "หรือว่าแม่ทะเลาะกับพ่อแยกห้องนอนอีกแล้ววะ แล้วครีมเพียบไม่รู้อะไรเป็นอะไรเยอะแยะเป็นโต๊ะอิป๋าเลย" ว่าพลางหยิบครีมคุ้นตาที่เธอเคยเห็นบนโต๊ะของโรมในห้องนอนที่ร้านมาดู "ผู้หญิงก็ใช้ได้ผู้ชายก็ใช้ได้งั้นเหรอ (เปิดออกดม) ก็หอมดีหรอกแต่ทาตรงไหนล่ะนี่ เฟช??...ช่างแม่งเหอะ" ว่าพลางวางลงแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้โรมแอบมองเธออยู่ในนั้น "เชี้ย! หลอนเหรอวะเนี่ย" หญิงสาวอุทานเสียงดังเมื่อเปิดตู้แล้วเจอหน้าโรมยิ้มอยู่ในนั้นก่อนจะปิดตู้ทันทีอย่างตกใจแล้วตั้งสติค่อย ๆ เปิดประตูตู้อีกรอบ"ไง คิดถึงผัวจนหลอนเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับก้าวออกมาจากตู้แล้วสวมกอดคนตัวเล็กอย่างคิดถึงก่อนจะกดหอมแก้มป่
"อืม... ก็ตามใจแล้วกัน แล้วรถนี่ซื้อมาทำไมล่ะจะเอามาจอดทิ้งไว้นี่?" ท่านอัฐเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะเห็นว่าโรมมีรถหลายคัน แต่ทำไมถึงซื้อกระบะเพิ่มแล้วบอกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ขับกระบะเลยจะทิ้งไว้ให้ใช้งานที่นี่"ใครว่าผมอยากซื้อล่ะครับ โดนเอามาประเคนถึงร้านเลยต่างหาก พอดีน้องรหัสไอ้เทนมันจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการศูนย์แต่ขาดยอด 2 คัน พวกผมเลยโดนบังคับซื้อกันคนละคัน ไอ้เทนมันเอารถเก๋งให้เมียมันขับ ส่วนผมไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรเลยบอกมันว่าเอาราคาถูก ๆ มันเลยเลือกคันนี้มาให้" ชายหนุ่มตอบที่มาของรถขำ ๆ "เออ... แล้ววันนี้เจ้าตัวแสบเขาจะกลับมาแล้วนะ เห็นว่าสอบเสร็จเที่ยงก็จะพากันออกมาเลย แวะส่งเจ้าปอก่อนถึงจะกลับบ้านจะได้ไม่ดึกว่างั้น เห็นโทรมาบอกแม่เขาเมื่อเช้า" ท่านอัฐบอกหลานชายยิ้ม ๆ "งั้นคืนนี้ผมก็ต้องลงมานอนห้องข้างล่างแล้วสิครับ เจ้าของห้องจะมาแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับถอนหายใจ เพราะเมื่อเช้าเขาไปที่ตลาดกับบอยนักมวยในค่าย เขาเห็นผู้หญิงที่เจ้าขาหอมแก้มกลางห้างเดินอยู่กับแม่ของเธอที่ตลาด"เฮ้ย! แม่เขาไม่ได้สั่งก็นอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่อยากรู้เหรอว่าปลาไหลอย่างไอ้ตัวแสบเจ้าลูกสาวคุณนายเตือนตา
"พี่อัฐครับ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดจริง ๆ ครับ ที่ผมมานี่ผมไม่ได้มาเพราะอยากให้โรมช่วยโรงทอหรอกครับ ผมแค่อยากขอโทษลูกจริง ๆ ส่วนโรงทอมันจะเจ้งมันจะล่มก็แล้วแต่บุญกรรม เพราะผมถือว่าผมไว้ใจคนผิด ผมทำเรื่องโอนหุ้นที่ผมถือทั้งหมดของโรงทอให้เจ้าโรมวันนั้น ผมเพิ่งเห็นเอกสารที่เลขาเจ้ารันลืมวางไว้ในห้องประชุมว่าเจ้ารันมันเปลี่ยนเอกสารโอนให้เจ้าโรมแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกใบเป็นชื่อของมันรอแต่ตราประทับกับลายเซ็นผมมันก็จะถือหุ้นได้ใหญ่ที่สุดในบริษัท พี่อัฐ... ผมสาบานว่าผมต้องการมาขอโทษลูกแค่นั้นจริง ๆ ครับ สิ่งที่หญิงทำกับลูกผมไม่เคยได้สนับสนุนแต่ยอมรับว่าไม่ได้ขัดเพราะไม่อยากมีปัญหา ผมกลับมาจากทำงานก็อยากได้ยินคำพูดดี ๆ จากที่บ้าน อยากเห็นครอบครัวอบอุ่น" คุณศาสตรานั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งพนมมือไหว้พี่ชายภรรยาอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต ซึ่งคนที่ยืนฟังอยู่ด้านนอก ล้วงมือถือออกมากดส่งอีเมล์ออกไปแล้วยืนฟังคำพูดของพ่อกับแม่ต่ออย่างใจเย็น"หึ! ตลก ครอบครัวอบอุ่นเหรอ แล้วเจ้าโรมมันได้เคยได้อุ่นมั่งมั้ยล่ะ กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงประชดประชันกระแนะกระแหนนี่มันอบอุ่นมั้ย คิดถึงจิตใจลูกบ้างหรือเปล่า" ท่านอัฐพูด