"น้องไม่กลัวศิลาค่ะคุณปู่ แต่น้องกลัวเหงา" ของขวัญพูดสวนขึ้นทันที
"ถ้ากลัวเหงาก็ให้หนูหวานไปด้วยกันสิ หนูหวานอยากไปฝึกงานกับคิตตี้มั้ยลูก" คุณปู่ตอบหลานสาวพลางเอ่ยถามเพื่อนของเธอยิ้ม ๆ แล้วแอบชำเลืองสบตากับลูกสะใภ้อย่างมีแผน
"ไม่ไหวมั้งคะคุณปู่ เงินเก็บหนูคงไม่พอค่าตั๋วไปกลับหรอกค่ะ อย่าว่าแต่ค่าใช้จ่าย 4 เดือนเลย" *ก็อยากไปหรอกแต่เงินนี่สิแค่อยู่ไทยไม่รับออเดอร์พวงมาลัยนี่ก็ลำบากอยู่นะ แล้วไปอยู่เมืองนอก โห... ไม่กินขนมปังคลุกเกลือเลยเหรอ* น้ำหวานคิดในใจพลางแอบถอนหายใจเบา ๆ
"เอางี้สิ ปู่จะให้เงินเดือนเหมือนตอนพี่มาร์คเค้าไป พอฝึกจบปู่จะให้ทุนหนูต่อโทที่นั่นไปด้วยดีมั้ยลูก ก็เหลือแค่ฝึกงานไม่ติดอะไรไม่ใช่หรือไง" คุณปู่เสนอให้ยิ้ม ๆ
"คุณปู่จะให้ทุนหนูเรียนจริง ๆ หรือคะ" น้ำหวานพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
"ปู่ให้ได้ลูก แต่ไม่ฟรีหรอกนะเพราะต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหมือนพี่มาร์คเค้า ตอนนี้ก็จบดอกเตอร์ไปแล้วแถมเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่มหาลัยที่นู่นด้วย มันก็ดีกว่าไม่ใช่หรือลูก" คุณปู่หันมาพูดกับเด็กสาวอย่างอ่อนโยน ท่านสงสารเด็กคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะน้ำหว
เย็นวันต่อมาคุณหญิงว่านได้โทรทางไกลถึงมาร์คที่เป็นผู้ช่วยลูกชายแจ้งเรื่องที่จะส่งของขวัญและน้ำหวานไปฝึกงานที่อังกฤษ โดยจะให้ชายหนุ่มเป็นคนดูแลของขวัญอย่างใกล้ชิดเพราะไม่ไว้ใจเพื่อนสาวของลูกชายเท่าไหร่นักทั้งยังบอกว่าจะส่งไปแค่ตัวส่วนเอกสารต่าง ๆ จะอยู่ที่ไทยเพราะหลังจากฝึกงานเสร็จคุณหญิงจะเป็นคนยื่นเอกสารกับทางมหาวิทยาลัยเองเหมือนที่เคยทำให้ตน ซึ่งชายหนุ่มก็เห็นดีด้วยเพราะเด็กทั้ง 2 จะได้ไม่ต้องเดินทางกลับมาที่ไทยอีก และให้มาร์คจัดหาที่พักให้ทั้ง 2 สาวอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนักเพราะรู้ถึงความประหยัดของหลาน ๆ ดีที่ประหยัดทุกอย่างแม้แต่เสื้อผ้าจนท่านต้องเป็นธุระคอยจัดหาเสื้อผ้าและของใช้เครื่องสำอางต่าง ๆ ให้ทั้งคู่มาตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเวลาที่ท่านเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ของขวัญ ท่านเลยเลือกที่จะซื้อให้เพื่อนของเธอไปด้วยซึ่งการแต่งตัวของ 2 สาวเลยออกมาคล้าย ๆ กันจนเหมือนแฝด (ป้าชอบแบบไหนหลานก็แต่งไปแบบนั้นเลยค่ะ)"เอาตามนี้นะมาร์ค แม่ฝากดูน้องด้วยแล้วกันนะลูก แม่ไม่ไว้ใจยายโรซี่นี่เลยแล้วอย่าเพิ่งบอกศิลานะว่าคุณปู่ส่งใครไป กลัวน้องจะเป็นอันตรายเวลาที่มาร์คไม่อยู่" คุณหญิงว่านสั่งช
"หวานหวาน คุณป้าโทรมาบอกว่าอาทิตย์นี้ให้ไปนอนบ้านน่ะ คุณป้าอยากนอนด้วยก่อนไปฝึกงาน" ของขวัญพูดขึ้นขณะที่กำลังช่วยเพื่อนจัดของลงกล่องเพื่อย้ายไปฝากไว้ที่บ้านลุงกรณ์ น้ำหวานได้ให้ลุงกรณ์พาไปบอกเลิกสัญญาเช่าที่เมื่อเดือนก่อนและขอฝากของบางส่วนไว้ที่บ้านของลุงกรณ์และบางอย่างเธอก็แจกให้กับคนบ้านใกล้เรือนเคียงจนเกือบหมดโดยเฉพาะเสื้อผ้าของเธอที่เก็บเอาไว้เพียงแค่ได้ใส่และมีบางส่วนเอาไว้ใส่ทำงานที่ต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งสิ่งของที่เธอฝากลุงกรณ์ไว้ส่วนใหญ่เป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจและของที่ตาของเธอซื้อให้ตั้งแต่เด็ก ๆ แม้จะเป็นเพียงตุ๊กตาผ้าตัวเล็ก ๆ เธอก็ซักเก็บไว้เป็นอย่างดี"หวานขอนอนที่นี่เถอะ อีกไม่กี่วันหวานก็ต้องไปแล้วนะ หวานอยากจำที่นี่ไว้" น้ำหวานบอกเพื่อนหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงตัวเองจะอยู่ที่นี่อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น"เอาน่าหวานไปเพื่ออนาคตนะ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" ของขวัญพูดให้กำลังใจเพื่อนยิ้ม ๆ"อือ ... เออ ใช่ ประชุมพี่มาร์คมานี่ หวานยังไม่ได้ไปทำความสะอาดคอนโดเดือนนี้เลยนี่หว่า มัวแต่นั่นนี่ลืมสนิทไปเลยว่ะ" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเพิ่งนึกได้"โอ๋ย... ก็บอกอยู่ว่าพี่มาร์คอาจจะไปนอนที่บ
"ทีเมื่อก่อนไม่เห็นอึดอัดเลยนี่หรือว่าต้องถอดเสื้อนอนจะได้หลับสบาย มา...พี่ถอดให้" คนเจ้าเล่ห์ว่าพลางทำท่าจะลุกขึ้นถอดเสื้อให้จริง ๆ ทำเอาหญิงสาวถึงกับกอดเอวหนาไว้หลับตาแน่น"ไม่เอาไม่ถอด" เสียงหวาน ๆ ดังขึ้นพร้อมกับเม้มปากแน่น ทำเอาคนโดนกอดกลั้นขำอย่างเอ็นดูแล้วรั้งหัวหญิงสาวเข้ามาซุกไหล่กว้างของตัวเอง"เฮ้อ... งั้นรับปากมาก่อนว่าคืนนี้เราจะนอนด้วยกัน" "ไม่นอน" เสียงเล็ก ๆ สวนขึ้นทันที"งั้นพี่โทรบอกไอ้โรมว่าวันนั้นหวานทำอะไรพี่" ว่าแล้วทำท่าล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงจะกดโทรออกหาเพื่อน ทำเอาคนตัวเล็กตาโตรีบแย่งมือถือเป็นพัลวันจนไม่ห่วงหน้าอกหน้าใจที่ถูกปลดตะขอชั้นในแล้วยืดตัวขึ้นแย่งมือถือสุดแขนจนเต้าสวยแทบจะชิดหน้าชายหนุ่มอย่างลืมตัว"พี่มาร์คอย่าแกล้งหวานเอามือถือมานะ หวานไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะหวานไม่รู้เรื่องหวานเมา" คนตัวเล็กโวยวายพร้อมกับพยายามคว้ามือถือที่ชายหนุ่มยกขึ้นเหนือหัว"ยอมรับใช่มั้ยว่าเมา" ว่าพลางมองหน้าเด็กดื้อดุ ๆ เขาเคยบอกเธอหลายครั้งแล้วว่าอย่าดื่มกับลูกค้า แต่น้ำหวานไม่เคยฟังแล้วพอโดนดุทีไร โรมจะเป็นคนเข้ามาโอ๋น้องคอยให้ท้ายทั้งน้ำหวานและของขวัญตลอดทำให้พวกเธอไม
Namwhan Partฮัลโล...ลอนดอน ตอนนี้เรามาอยู่ที่ลอนดอนได้หลายวันแล้วค่ะ ตอนแรกที่มาถึง พี่มาร์คพามาที่อพาร์ตเมนต์ของบริษัท แทบจะไม่อยากเข้าไปเหยียบเลยจ้า หรูมากแม่ แล้วห้องกว้างมากมีห้องนอนห้องครัวห้องนั่งเล่นแยกโซนเหมือนคอนโดพี่มาร์คเลยค่ะแต่แคบกว่านิดนึง เพราะที่นี่มีห้องนอนเดียวแล้วคุณปู่ก็ให้พ็อกเก็ตมันนี่มาคนละห้าแสนค่ะ (ฟังไม่ผิดนะคะ ห้าแสนบาทไทยเลยค่ะ)สั่งให้เราหาชุดทำงานใส่ หวานว่ามันมากเกินไปนะทีแรก แต่พอซื้อเสื้อผ้าที่ยัยน้องขวัญพาเข้าร้านเท่านั้นแหละ คุณพระ! ตัวเป็นหมื่น ซื้อไปน้ำตาตกในไปเสียดายตังค์ กระเป๋ารองเท้าที่น้องขวัญซื้อให้แทบจะขึ้นหิ้งได้เลยนะ ใบใหญ่กว่าซองมาม่านิดนึงเป็นแสนเลยแม่ แพงโพดแพงโพ นี่ยังไม่รวมกับข้าวที่นี่ แทบอยากจะกินวันละ 2 มื้อเลยอ่า แล้ววันก่อนพี่มาร์คพาไปเลี้ยงข้าวเย็น โอ้..จานเป็นพันน่ะแม่ ไม่กล้าสั่งเลยจ้า ณ จุดนี้สั่งข้าวไข่ดาวให้อิหวานก็กินแล้วค่ะ แพงเกิ๊น...แล้ววันนี้เราก็นอนเติมพลังกันสุดฤทธิ์ตั้งแต่บ่ายเพื่อไปฝึกงานวันแรกพรุ่งนี้ค่ะ แต่หวานต้องมาตื่นเพราะความที่คุณท่านผู้ช่วยท่านประธานสาขาดอกเตอร์มนัสพงษ์คิดอยากจะกินซุป
"ห้องทำงานของน้องนำ.... อืม..." จอห์นสันพยายามนึกชื่อไทยของหญิงสาว"ฮันนี่ค่ะ คุณจอห์นสันเรียกเธอว่าฮันนี่ก็ได้" ของขวัญเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ ทำให้น้ำหวานหันไปมองหน้าเพื่อนงง ๆ"เอาน่า ชื่อไทยออกเสียงลำบาก ขนาดชื่อน้องขวัญ คิดถึงเสมอ ยังเป็นคิตตี้เลย ฮันนี่นี่แหละน่ารักความหมายเดียวกัน" ของขวัญว่าเบา ๆ ให้ได้ยินกัน 2 คน ทำให้หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ"หวานก็คิดว่าชื่อเล่นน้องขวัญมี้ตั้งให้ซะอีก""ไม่ใช่ ๆชื่อจริงนี่แหละ แต่ครูอ่านไม่ออก ครูเลยเรียกแต่คิตตี้ ก็เลยได้ชื่อคิตตี้น่ะ" ของขวัญว่าพลางหัวเราะที่มาชื่อฝรั่งของตัวเอง"เอ่อ..." จอห์นสันอึกอักมองหน้าหญิงสาว"ค่ะ คุณจอห์นสัน?" ของขวัญว่ายิ้ม ๆ"ผมจะส่งฮันนี่ก่อนนะครับ แล้วค่อยไปส่งคิตตี้ที่ห้องทำงานของโปรเฟสเซอร์" จอห์นสันบอกยิ้ม ๆ พอดีกับประตูลิฟต์เปิดแล้วก้าวเข้าไปก่อนที่2 สาวก้าวตามไปติด ๆ แล้วเขาก็ปิดประตูลิฟต์ทันที "ห้องทำงานของฮันนี่จะอยู่ที่แผนกการตลาดระหว่างประเทศนะครับ ชั้น 6 ที่นั่นจะมีพนักงานหลายเชื้อชาติและมีคนไทยด้วยครับส่วนห้องทำงานของโปร
P mark น้องขวัญโดนทำร้ายที่ห้องพี่มาร์คค่ะ(อ่านแล้ว)ร่างบางเดินกลับเข้ามานั่งในห้องพร้อมกับถอนหายในเสียงดังจนรุ่นพี่คนไทยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เงยหน้าขึ้นมอง"น้องน้ำหวานโอเคมั้ยจ๊ะลูก" สิริถามเด็กสาวในสายตาเธอยิ้ม ๆ"เพื่อนหวานโดนผู้หญิงคนนั้นทำร้ายค่ะ แล้วบอสอยู่ตรงนั้นด้วย งือ...สงสัยต้องได้กลับไทยแน่ ๆ เลย" คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อยก้มลงฟุบหน้ากับแขนตัวเอง ทำเอาคนถามและคนอยากรู้มองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วมองหญิงสาวที่นั่งฟุบอยู่ด้วยความสงสัยก๊อก ! ก๊อก ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาทั้งห้องหันหน้ามองทางเข้า น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองด้วยใจระทึก"หวาน พี่มารับกลับห้อง กลับเลยจะได้พาคิตตี้ไปหาหมอ" เสียงมาร์คดังขึ้นหน้าประตูออกคำสั่งเสียงดังด้วยภาษาไทยที่บอกว่าอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก"เอ่อ... กลับได้หรือคะ" น้ำหวานถามอย่างไม่มั่นใจ"ได้ พี่อนุญาต เก็บของเลย" มาร์คสั่งเสียงห้วนจนน้ำหวานลนลานเก็บเอกสารบนโต๊ะแล้วคว้ากระเป๋าตัวเองขึ้นสะพายบ่าบอกลารุ่นพี่ในแผนกแล้วเดินออกมาหาชายหนุ่มที่ตอนนี้คิตตี้ยืนจับข้อมือของตัวเอ
"พี่มาร์คกลับไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวหวานจะเก็บของแล้ว" น้ำหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับวางกระเป๋าสะพายตัวเองไว้ที่โต๊ะกลางก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อไปเก็บของแต่โดนมือใหญ่รวบกอดจากทางด้านหลังแล้วรั้งร่างบางเข้าไปแนบอก"จะไปไหน?""ก็กลับไทยไงคะ น้องขวัญไม่อยู่หวานจะอยู่ยังไง แล้วประธานศิลาคงไม่ให้หวานอยู่ต่อแน่ถ้าน้องขวัญไม่อยู่" เสียงเศร้าปนสะอื้นเบา ๆ ดังออกมาอย่างน่าสงสาร"ฟังพี่นะ (ว่าพลางจับคนตัวเล็กหันมาสบตา) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหวานต้องได้ฝึกงานอยู่ที่นี่จนจบ เรื่องที่เกิดขึ้นหวานกับน้องขวัญไม่ผิดพี่จะไม่ยอมให้การตัดสินใจของมันทำลายอนาคตของหวานได้ พี่สัญญานะ" ชายหนุ่มว่าเสียงทุ้มพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก"แล้วพี่มาร์คจะค้านประธานศิลาได้หรือคะ ถ้าเขาไม่ให้หวานฝึกต่อ...""หวานเป็นเด็กทุนของคุณปู่นี่ไม่ใช่เด็กทุนของไอ้ศิมันซักหน่อย แล้วถ้าฝึกจบมันไม่ให้ทำงานต่อ พี่ฝากหวานเข้าทำงานในมหาลัยได้" ชายหนุ่มปลอบใจเสียงทุ้ม"แล้วหวานต้องทำไงต่อคะ หวาน..." "หวานก็ไปทำกับข้าวมากินกันไง นี่บ่ายแล้วนะ
"เอ่อ ..." "หืม? มีอะไร" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม เด็กที่กำลังนั่งอ้าปากหวออยู่ข้างหน้า"ไม่มีอะไรค่ะ หวานง่วง..." ว่าพลางปิดปากหาวหวอดขึ้นมาทันที"ง่วงก็ไปนอนก่อนไป" ชายหนุ่มสั่งในขณะที่ตายังอ่านเอกสารในมือ"แล้วพี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ หวานจะได้ปิดไฟ""พี่นอนนี่" คนตัวโตพูดเสียงนิ่งทำเอาเจ้าของห้องอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบ ๆ "ฮะ!""ก็บอกว่าไปนอนก่อนเลยหรือจะให้พี่พาไปนอน งั้น ปะ" ว่าแล้วปิดแฟ้มในมือทำท่าจะลุกขึ้น"เดี๊ยว... พี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ" คนตัวเล็กเบรกยาวถามประโยคเดิมอีกรอบ"ก็บอกว่า พี่นอนนี่" มาร์คตอบเสียงนิ่งเหมือนปกติแต่แอบกลั้นขำเด็กงงอย่างสุดฤทธิ์"ไม่ได้หวานไม่ให้พี่มาร์คนอน" หญิงสาวว่าขึ้นเตรียมจะลุกหนีเข้าห้อง แต่ไม่ไวเท่าคนตัวโตที่คว้าแขนเอาไว้แล้วดึงลงมานั่งที่ตักตัวเองแบบง่าย ๆ"จะไปไหน" "ไปนอนค่ะ หวานง่วง" น้ำหวานตอบหน้าบึ้ง *ห้องตัวเองก็มีมั้ยวะ จะมานอนเพื่อ*"งั้นไปนอนกันพี่ก็ง่วง" พูดจบลุกขึ้นช้อนร่างบางเดินเข้าห้องหญิงสาวทันที"พี่มาร์ค ปล่อยหวานก่อน" น้ำหวานโวยวายทุบอกแกร่งไม
"หันมากอดพี่หน่อย" ชายหนุ่มเอ่ยขอเสียงเหนื่อยอ่อนจนเธอสงสารยอมหันมานอนหนุนแขนแกร่งแบบที่เขาเคยให้นอนประจำ มือบางโอบกอดเอวหนาไว้หลวม ๆ แล้วซุกหน้าลงที่ซอกคอแกร่งอย่างว่าง่าย"ขอบคุณครับ" เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ พร้อมกับกระชับท่อนแขนแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเร็วด้วยความเหนื่อยล้า จนหญิงสาวขมวดคิ้วแต่ก็ไม่กล้าขยับก่อนจะหลับตาลงแล้วหลับตามชายหนุ่มไปท่ามกลางเสียงฝนและเสียงฟ้าร้องด้านนอกอย่างน่ากลัว..........//..........กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นในตอนเช้าปลุกชายหนุ่มให้ลืมตาตื่นพลางควานหาคนที่นอนกอดอยู่เมื่อคืนจนทั่วที่นอน"ตัวเล็ก..." "คะ พี่มาร์คจะเอาอะไรคะ" คนตัวเล็กขานรับพลางเดินเข้ามาในห้องพร้อมแก้วกาแฟในมือ"พี่นึกว่าไปไหน" เสียงทุ้มว่าพลางลุกขึ้นนั่งตบที่ท้ายทอยตัวเองเบา ๆ"กาแฟค่ะ" ยื่นแก้วกาแฟให้แล้วทำท่าจะเดินออกจากห้อง"ตัวเล็ก" "คะ?" น้ำหวานหันมาเลิกคิ้วถามแต่ไม่ได้เดินเข้ามาใกล้"มาหาพี่หน่อย" ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบก่อนจะหันเอาไปวางบนหัวเตียงแล้วยื่นมือมาดึงแขนหญิงสาวให้เดินเข้าไปหา"พี่มาร์คจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวหวานจะไ
ตลอดทั้งสัปดาห์มาร์คต้องลงเตรียมจัดงานประมูลให้กับคุณอันทิกาด้วยตัวเอง ประจวบกับการเตรียมการสอบของนักศึกษาเขาต้องตรวจงานของนักศึกษาที่ส่งมาเก็บคะแนนก่อนสอบและงานออฟฟิศ ซึ่งกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปวันใหม่ของอีกวันหรือบางวันก็แทบจะไม่ได้นอน เลยทำให้ชายหนุ่มแทบจะไม่มีเวลาได้จับโทรศัพท์ทั้งยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าถ้าพูดออกไปแล้วคนตัวเล็กจะโกรธ เลยคิดว่าน่าจะหาเวลาคุยกันจริงจังแค่ 2 คนกับเธอก่อน แล้วเขาก็ไม่ได้เข้ามานอนที่ห้องของเธออีกเลย แต่ละวันเขาก็ได้แต่แอบมองเธอทางกล้องวงจรปิดของห้องทำงานเพื่อดูว่าหญิงสาวเป็นอย่างไรบ้างแต่ตอนเช้าต้องฝืนร่างกายมาทานข้าวอย่างปกติเพื่อไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วงครืด....ครืด....เสียงเรียกเข้ามือถือเครื่องบาง ทำให้เจ้าของเครื่องคว้ามากดรับสายแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"ฮัลโหล"(ตัวเล็ก)"ค่ะพี่มาร์ค"(นอนหรือยังครับ)"ค่ะ หวานนอนแล้ว" คนตัวเล็กตอบทั้งที่นั่งพิงหัวเตียงดูซีรีส์เรื่องโปรดอยู่(พรุ่งนี้วันเสาร์ตอนเช้าเราไปหอศิลป์กันดีมั้ย) เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางหลับตา
"ฮะ! ท้องเหรอ"(เออ...ท้อง เพราะเอายาคุมฉุกเฉินให้แกกินน่ะแหละ ฉันเลยลืมกินกว่าจะนึกได้ ท้องเลยเนี่ย)"กรี๊ด ฉันจะมีหลาน หวานจะมีไข่น้อยแล้ว ฮ่า ๆ พี่หมอสุดยอดเลย เก่งกว่าพี่โรมอีกว่ะ แล้วคลอดเมื่อไหร่ ผู้หญิงผู้ชาย แล้ว...แล้วมุกแพ้มั้ยอะ แล้ว...แล้ว"(โอ๋ย... พรสิตา มีใครบอกเธอมั้ยว่าพูดมากเนี่ย แล้วฉันชื่อไข่มุก ลูกต้องชื่อมุกน้อย ไม่ใช่ไข่น้อย โวะ! ชื่ออะไรน่าเกลียด) เสียงไข่มุกโวยมาตามสาย"แฮ่ ก็หวานดีใจอะ หวานจะมีหลาน หวานอยากเล่น ลูกเฮียเทนก็โดนอากงอาม่าพาไปเลี้ยงที่เชียงใหม่นู่น... รอลูกพี่โรมก็ไม่รู้จะมีน้ำยาหรือเปล่า" คนตัวเล็กว่าพลางทำหน้าย่น น้ำหวานเป็นคนที่ชอบเด็กมากเมื่อตอนที่ลูกของเทนคลอดใหม่ ๆ ทั้งน้ำหวานและของขวัญเห่อกันมาก ไปหาทุกสัปดาห์แต่พอหย่านมแล้วคุณปู่คุณย่ามารับไปเลี้ยงที่เชียงใหม่พวกเธอจึงไม่ได้ไปเล่นด้วย ตอนนี้ก็รอลูกของโรมซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีอีกนั่นแหละ(ดีใจขนาดนี้ไม่ท้องเองเลยล่ะคะ ผัวก็มีจริง ๆ แล้วนี่) คนปลายสายดักขึ้นทำเอาน้ำหวานตาโตอย่างนึกได้"เออ...ใช่ มัวแต่แช่น
"ครั้งก่อน? ครั้งไหน" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามยิ้ม ๆ"ก็ครั้งหวานเมาไง หวานไม่เห็นเหนื่อยเลย ไม่เจ็บเลยด้วย" คนตัวเล็กเริ่มออกอาการงอแงอย่างน่ามันเขี้ยว*เออ...ถึงว่าถึงยอมกูง่าย ๆ เพราะคิดว่าครั้งก่อนไม่เจ็บนี่เอง เฮ้อ...ครับ ต้องหาคำอธิฐานบทไหนมาสวดให้น้องคิดแล้วถามมากกว่าเออออเองบ้างเนี่ย โรคนี้มันติดทางอากาศจากน้องขวัญหรือไงวะ ...* ชายหนุ่มคิดในใจพลางถอนหายใจเบา ๆ"หวานเมา หวานจะเหนื่อยได้ไง พี่ไม่ได้ทำอะไรหวานนี่ครับ" คนตัวโตว่ายิ้ม ๆ "ฮะ!" หญิงสาวอุทานตาโตพร้อมทั้งลุกขึ้นเอามือค้ำหน้าอกแกร่งมองหน้าชายหนุ่มอึ้ง ๆ"ซี้ด...ลุกเบา ๆ เดี๋ยวก็หักใช้งานไม่ได้พอดี" ชายหนุ่มว่าพลางสูดปากเบา ๆ เมื่อคนคิดจะลุกก็ลุกแล้วอาจจะลืมไปว่าตอนนี้ทั้งคู่ยังประสานกันอยู่"พี่พูดแบบนี้ แล้ว ๆ คืนนั้นเลือดบนผ้าปูมันมาจากไหน พี่รู้มั้ยหวานเครียดมากเลยนะ แล้วพี่ไปโผล่ที่มหาลัยด้วยหวานทำหน้าไม่ถูกเลย หวานเครียดตั้งหลายวัน แล้วยังขู่หวานเรื่อย ๆ อีก ทำไมพี่แกล้งหวานแบบนี้ล่ะ พี่มาร์คใจร้าย อิยักษ์โหด..." คนตัวเล็กโวยวายทุบอกแกร่งรัว ๆ จนชายหนุ่มต้องรวบมือเธอไว้แล
ลิ้นอุ่น ๆ ลากเลื้อยฝากรอยจูบประทับเป็นทางยาวจากซอกคอหอมกรุ่นของหญิงลงหาร่องอกตีตราความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน แล้วเงยหน้าสบตาคนตัวเล็กหยาดเยิ้มจนหญิงสาวต้องอึ้งราวกับต้องมนต์สะกด ปากหนาก้มลงครอบครองจุกสวยสีระเรื่อดูดเม้มเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้ง มือหนาอีกข้างลูบไล้ทั่วแผ่นหลังจนร่างบางสยิวขนลุกซู่อย่างประหลาด "อือ.. พิ พี่มาร์ค อูย อย่าเม้ม" หญิงสาวพูดตะกุกตะกักขาดห้วงพลางสูดปากยาว เมื่อจุกสวยถูกปากสีเข้มเม้มดูดแรง ๆแล้วเลื่อนมาอีกข้างอย่างเสมอภาค "หวานดีจัง ถ้ามีลูก ลูกต้องชอบ 2 เต้านี้แน่ ๆ" ชายหนุ่มว่าพลางสบตาหวานเยิ้ม "บ้า... พี่พูดอะไร ใครจะมีลูก โอ๊ะ!" หญิงสาวถามอาย ๆ แล้วต้องอุทานตกใจ เมื่อจู่ ๆ คนที่นอนอยู่ลุกขึ้นจับเธอพลิกนอนหงายตั้งแขนทั้ง 2 คร่อมร่างเธอเอาไว้ แล้วสบตายิ้มกรุ้มกริ่ม"ก็หนูไง พี่ท้องเองไม่ได้หรอก" เสียงทุ้มว่าพลางส่งสายตาหวานเยิ้มจนคนตัวเล็กหน้าแดงตัวแดงขึ้นต้องหลบตา"บ้า... ปล่อยหวานเลยพี่มาร์คจะเกินเส้นมากไปแล้วนะ สว่างแล้วด้วยอีกเดี๋ยวน้องขวัญก็มา" คนตัวเล็กหาข้ออ้างพลางเอามือทาบที่อกแกร่งแล้วดันออกห่างตัวเบา ๆ *รู้หรอกเว้ยว่าไม่ใ
มือหนาสอดเข้าในผ้าห่มแล้วยกชายเสื้อนอนแขนยาวตัวใหญ่ของหญิงสาวขึ้นค่อย ๆ ยกถอดออกทางหัว ดึงออกจากแขนโยนลงพื้นลุกขึ้นนั่งมองคนหลับที่ขยับเปลี่ยนท่านอนขำ ๆ "เรื่องซ้อมตายไว้ใจหวานเลยจริง ๆ" ชายหนุ่มพึมพำแล้วล้มตัวลงนอนก่อนจะสอดมือไปจับที่ขอบกางเกงนอนของหญิงสาวค่อย ๆ ดึงลงเบา ๆ แล้วใช้เท้าช่วยเลื่อนกางเกงนอนตัวใหญ่ออกไปจนพ้นตัวพร้อมกับชั้นในตัวจิ๋วของเธอหลุดติดไปด้วย แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นมาหาผ้าขนหนูของหญิงสาวมาพันรอบเอวตัวเองถอดเกงกางวอร์มของตัวเองออกแล้วกลับไปนอนลงที่เดิม ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดจนแนบชิด"เฮ้อ... ใครแกล้งใครวะเนี่ย กูทำกูเองอีกแล้วนะไอ้มาร์ค เป็นคนอื่นกูใส่จนพรุนไปแล้วแต่ไอ้ตัวเล็กนี่กลับเริ่มไม่ได้ซะงั้น" ชายหนุ่มพึมพำมองคนที่รั้งเข้ามากอดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะค่อย ๆ ก้มลงประกบจูบปากบางเบา ๆ แล้วเลื่อนตัวขึ้นมากดหัวเธอซุกอกแกร่งของตัวเอง จับมือบางมาวางพาดที่เอวของตัวเองลูบหลังคนในอ้อมกอดเบา ๆ "เฮ้อ... ทำไม่ได้ว่ะ แม่ง..." ชายหนุ่มถอนหายใจพลางก้มลงจูบที่เรือนผมสวยแล้วข่มตานอนอย่างยากลำบาก "กู๊ดไนท์ นะตัวเล็ก"……….//……&he
"โอ๊ย!! เคยเจอที่ไหนล่ะคะ บอสกับโปรเฟสเซอร์ไม่เคยควงใครค่ะ เคยแต่ควงกันเองไปไหนมาไหนกัน 2 คน เวลาประชุมที ถ้าโปรเฟสเซอร์ว่ายังไงบอสก็เออออ หรือบอสว่าอะไรโปรเฟสเซอร์ก็เออออกะหนุงกะหนิงยิ่งกว่าอะไรซะอีก แล้วผู้หญิงหนึ่งเดียวที่ใกล้บอสก็คุณโรซี่นั่นแหละจนคนในออฟฟิศคิดว่านางเป็นแฟนบอสเลยไม่มีใครกล้าฉะกับนาง คิดจะไล่ใครออกก็ไล่ บางคนนางไล่ออกโปรเฟสเซอร์ก็ให้คนไปตามกลับมาทำงานก็มีนางนี่วี้ด ๆๆ เป็นหมาโดนน้ำมันเลยจ้า" โอปอล์ได้เพื่อนคุยก็ร่ายยาวอย่างคันปากคันคอทันที"แล้วบอสไม่ว่าอะไรเธอเลยหรือคะ เธอทำแบบนั้น" หญิงสาวเท้าคางถามอย่างสงสัย"จะว่าอะไรล่ะเห็นมีคนเคยพูดว่านางเคยช่วยบอสตอนที่บอสมาจากไทยใหม่ ๆ เลยถือเป็นบุญคุณกันล่ะมั้ง ทีแรกนางก็ทำฝ่ายการตลาดนี่แหละแต่นางไม่เอาใคร บอสเลยสั่งให้ย้ายเก็บเข้ากรุไปเป็นเลขาเหมือนต่อขาให้นางน่ะ ยืดคอสูงไปใหญ่ คิดจะชี้ใช้ใครก็ชี้จะไม่กล้าก็แค่กับโปรเฟสเซอร์เท่านั้นแหละ""แล้ว พิ...เอ้อ โปรเฟสเซอร์เค้าใจดีมั้ยคะ""มาก... ค่ะหนู คุณมาร์คคือนักสันถวไมตรีผู้สยบทุกอย่างบนโลกเคเอสของเราจ่ะ ใจดี ใจเย็น อ่อนน้อม น่
"เอ่อ ..." "หืม? มีอะไร" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม เด็กที่กำลังนั่งอ้าปากหวออยู่ข้างหน้า"ไม่มีอะไรค่ะ หวานง่วง..." ว่าพลางปิดปากหาวหวอดขึ้นมาทันที"ง่วงก็ไปนอนก่อนไป" ชายหนุ่มสั่งในขณะที่ตายังอ่านเอกสารในมือ"แล้วพี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ หวานจะได้ปิดไฟ""พี่นอนนี่" คนตัวโตพูดเสียงนิ่งทำเอาเจ้าของห้องอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบ ๆ "ฮะ!""ก็บอกว่าไปนอนก่อนเลยหรือจะให้พี่พาไปนอน งั้น ปะ" ว่าแล้วปิดแฟ้มในมือทำท่าจะลุกขึ้น"เดี๊ยว... พี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ" คนตัวเล็กเบรกยาวถามประโยคเดิมอีกรอบ"ก็บอกว่า พี่นอนนี่" มาร์คตอบเสียงนิ่งเหมือนปกติแต่แอบกลั้นขำเด็กงงอย่างสุดฤทธิ์"ไม่ได้หวานไม่ให้พี่มาร์คนอน" หญิงสาวว่าขึ้นเตรียมจะลุกหนีเข้าห้อง แต่ไม่ไวเท่าคนตัวโตที่คว้าแขนเอาไว้แล้วดึงลงมานั่งที่ตักตัวเองแบบง่าย ๆ"จะไปไหน" "ไปนอนค่ะ หวานง่วง" น้ำหวานตอบหน้าบึ้ง *ห้องตัวเองก็มีมั้ยวะ จะมานอนเพื่อ*"งั้นไปนอนกันพี่ก็ง่วง" พูดจบลุกขึ้นช้อนร่างบางเดินเข้าห้องหญิงสาวทันที"พี่มาร์ค ปล่อยหวานก่อน" น้ำหวานโวยวายทุบอกแกร่งไม
"พี่มาร์คกลับไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวหวานจะเก็บของแล้ว" น้ำหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับวางกระเป๋าสะพายตัวเองไว้ที่โต๊ะกลางก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อไปเก็บของแต่โดนมือใหญ่รวบกอดจากทางด้านหลังแล้วรั้งร่างบางเข้าไปแนบอก"จะไปไหน?""ก็กลับไทยไงคะ น้องขวัญไม่อยู่หวานจะอยู่ยังไง แล้วประธานศิลาคงไม่ให้หวานอยู่ต่อแน่ถ้าน้องขวัญไม่อยู่" เสียงเศร้าปนสะอื้นเบา ๆ ดังออกมาอย่างน่าสงสาร"ฟังพี่นะ (ว่าพลางจับคนตัวเล็กหันมาสบตา) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหวานต้องได้ฝึกงานอยู่ที่นี่จนจบ เรื่องที่เกิดขึ้นหวานกับน้องขวัญไม่ผิดพี่จะไม่ยอมให้การตัดสินใจของมันทำลายอนาคตของหวานได้ พี่สัญญานะ" ชายหนุ่มว่าเสียงทุ้มพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก"แล้วพี่มาร์คจะค้านประธานศิลาได้หรือคะ ถ้าเขาไม่ให้หวานฝึกต่อ...""หวานเป็นเด็กทุนของคุณปู่นี่ไม่ใช่เด็กทุนของไอ้ศิมันซักหน่อย แล้วถ้าฝึกจบมันไม่ให้ทำงานต่อ พี่ฝากหวานเข้าทำงานในมหาลัยได้" ชายหนุ่มปลอบใจเสียงทุ้ม"แล้วหวานต้องทำไงต่อคะ หวาน..." "หวานก็ไปทำกับข้าวมากินกันไง นี่บ่ายแล้วนะ