Chapter 8“กิ๊บ ทำได้ไง ทำงานทุกวันเลย ไม่เหนื่อยเหรอ?” ฉันเอ่ยถามรูมเมทสาว ผู้ชักนำฉันเข้าสู่วงการทำงานกลางคืน ในขณะที่เรากำลังแต่งตัวเตรียมตัวเข้างานในช่วงสามทุ่ม วันนี้เป็นวันที่สามที่ฉันลากร่างที่แทบจะแหลกจากการอดหลับอดนอนในยามค่ำคืน โดยกลางวันก็ต้องไปเรียนตามปกติ“ชินแล้วล่ะเพลง อดนอนไม่กลัว กลัวแต่จะอดตายมากกว่า” กิ๊บพูดยิ้มๆพลางใช้ที่ม้วนผมไฟฟ้าดัดปลายผมตัวเองให้เป็นลอน ฉันสังเกตว่าช่วงอาทิตย์ที่แล้ว กิ๊บใส่ทองเต็มตัว ทว่ามาวันนี้กลับไม่มีเหลือสักเส้น คงจะเก็บไว้แหละ สมัยนี้ใส่ทองอวดร่ำอวดรวย อาจจะโดนมิจฉาชีพกระชากเอาได้ง่ายๆ“นี่ถามจริงๆ กิ๊บออกไปกับแขกแต่ละครั้งได้เท่าไหร่?” ฉันมันพวกปากไว ถามไปโดยไม่คิดอะไร แต่ลืมไปว่าคำถามมันค่อนข้างจะละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกคนอื่น จึงรีบโบกมือ“ไม่ต้องตอบก็ได้ เราก็ถามไปเรื่อย ฮ่าฮ่า” ฉันทำทีหัวเราะกลบเกลื่อน“ห้าพันถึงหนึ่งหมื่น ครั้งแรกเราได้ตั้งสามหมื่นห้า” กิ๊บเล่ายิ้มๆ ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องปิดบังแต่อย่างใด“สามหมื่นห้า!!” ได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันยกมือทาบอกทำท่าไม่อยากจะเชื่อ“ความจริงไม่อยากแนะนำเพลงให้รับงานแบบนี้หรอกนะ
Chapter 9หัวใจของฉันเต้นโครมคราม เมื่อโดนดวงตาคู่คมของคนตรงหน้าจ้องมองนิ่งนาน แววตาของพี่เกียร์ทอประกายวาบหวามในความมืดสลัว ที่ได้รับความสว่างจากโคมไฟดวงน้อยที่หัวเตียงเพียงน้อยนิดเท่านั้น พี่เกียร์ใช้มือไล้ไปตามกรอบหน้าของฉัน เขากดจูบที่หน้าผากไล่มาที่แก้มทั้งสองข้างอย่างนุ่มนวล ก่อนที่จะกดริมฝีปากตัวเองทาบทับริมฝีปากของฉัน บดเน้นหยอกเย้าไปตามกลีบปากบนสลับกับริมฝีปากล่าง ฉันรู้สึกลอยคว้างขึ้นไปบนอากาศราวกับภาพฝัน ที่เคยบรรยายฉากเลิฟซีนในนิยายรักนั้น ยังไม่ละเอียดเท่าได้มาปฏิบัติจริง ดวงตาจับจ้องเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังมอบจุมพิตอันแสนเร่าร้อนเพียงเท่านั้น‘จูบแรกกับพี่เกียร์ไม่ผิดหวังจริงๆ’ ฉันพึมพำในใจ เผลอใช้มือโอบรอบต้นคอแกร่งของเขา ลิ้นร้อนชื้นแทรกเข้ามาในโพรงปากกวาดต้อนเรียวลิ้นของฉันพร้อมสติที่มีเพียงน้อยนิดไปด้วย ร่างกายของฉันเริ่มร้อน อุณหภูมิของผู้ชายตรงหน้าก็เช่นกัน มือหนาสอดเข้าไปใต้เชื้อเชิร์ตบีบเคล้นอกอวบภายใต้บราสีหวาน ขนาดมีบราเซียเป็นปราการขวางกั้นแต่ฉันก็รู้สึกวูบวาบไม่เป็นตัวของตัวเองสักนิด“เพลง ให้พี่หยุดไหม?” พี่เกียร์กระซิบถามเบาๆที่ข้างหู‘เดี๋ยวก่อนนะคะ มาข
Chapter 10ฉันนอนมองใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมที่กำลังนอนข้างๆอย่างเคลิบเคลิ้ม ใครจะไปอยากเชื่อว่าผู้หญิงธรรมดาๆอย่างฉันจะมีโอกาสแบบนี้ พี่เกียร์ยังคงนอนหลับสนิทไม่มีทีท่าจะตื่นแต่อย่างใด ฉันรีบหยิบมือถือขึ้นมาเข้าแอพพลิเคชันนิยายยอดฮิต ฉันเพิ่งจะเปิดนิยายเรื่องใหม่โดยลองเปลี่ยนแนวจากรักใสๆ เป็นนิยายอีโรติกยี่สิบบวก ทว่าพอมาถึงตอนที่ต้องเขียนเลิฟซีนฉันก็ไปต่อไม่เป็นจนต้องหยุดอัพเอาดื้อๆ อาจเป็นช่วงที่ต้องโหมทำงานเพื่อใช้หนี้พี่เกียร์ด้วย แค่เวลาจะนอนยังไม่พอ ไหนยังจะงานที่ต้องทำจากมหา’ลัย เรื่องเขียนนิยายตัดไปจากสารบบตอนนี้ได้เลย มีคอมเม้นท์ถามไถ่เรื่องนิยายจากนักอ่านนับสิบ ฉันเขียนนิยายมาสองปี แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร คนติดตามก็ราวๆสี่ร้อยเศษๆ เริ่มเขียนจากนิยายรักจีนโบราณด้วยความชื่นชอบ พอเริ่มมีฐานคนอ่านก็ลองเปลี่ยนเป็นแนวรักวัยรุ่นไม่เน้นฉากอีโรติก แต่ก็อย่างที่รู้กันนิยายที่มีฉากรักและเรื่องอย่างว่า มักจะได้รับความนิยมมากกว่า ฉันจึงเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแนวมาตีตลาดดูบ้าง อยากจะลองติดเหรียญ บางทีอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทาง แต่ไม่ว่าจะดูหนังอย่างว่าหรืออ่านงานเขียนจากนักเขียนท่านอื่น ฉ
Chapter 11“พี่เกียร์ เพลงไม่ซื้อใหม่นะคะ เดี๋ยวไปใช้คอมที่ร้านก็ได้ค่ะ” เสียงโวยวายของน้องเพลง ทำให้ผมหันไปส่งยิ้มแบบที่คิดว่าคูลๆเท่ห์ๆให้เธอ แน่ล่ะ..พอผมยิ้มทีไร น้องเพลงก็ยอมทุกที“ร้านเกมมีแต่ผู้ชาย เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาเกาะแกะเรา พี่..” ไม่ชอบ..ผมละสองคำนี้ในใจ เพราะความสัมพันธ์ของเรามันยังไม่ชัดเจน ถึงจะเรามีอะไรกันอย่างลึกซึ้งแล้ว แต่เรายังไม่ได้ตกลงกันว่าจะมีสถานะยังไงต่อไป เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงใดๆทั้งสิ้น“เพลงไปช่วงบ่าย ยังไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้ค่ะ” น้องเพลงยังไม่ยอมที่จะรับโน้คบุคเครื่องใหม่จากผม ทำไมบทจะดื้อถึงได้รั้นอะไรขนาดนี้นะ“เอาไปเถอะ พี่อยากให้เราจริงๆนะ” เมื่อเช้าเห็นน้องพิมพ์นิยายลงในมือถือแล้วรู้สึกลำบากแทน“แต่...”“ถ้าเขียนนิยายได้เงินแล้วค่อยคืนพี่นะ” ผมไม่รอให้ฟังน้องเพลงคัดค้านอะไรอีก หันไปบอกพนักงาน ตกลงซื้อโน้ตบุคสีชมพูแบรนด์ดัง“แต่มันแพงมากเลยนะคะพี่เกียร์” ใบหน้าเล็กๆน่ารักมองป้ายราคาอย่างพิจารณา ดวงตากลมโตฉายแววความลำบากใจ แตกต่างจากผู้หญิงที่ผมเคยมีความสัมพันธ์ด้วย ที่ยินดีพร้อมจะรับของขวัญราคาแพงที่ผมให้ทุกอย่างโดยไม่อิดออดเหมือนคนตร
Chapter 12ฉันนั่งมองแอพนิยายยอดฮิตพลางกระพริบตาปริบๆสองครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าภาพตรงหน้ามันจะเป็นเรื่องจริง..‘มันใช่เหรอ?’ ตรงยอดรายรับนิยายใหม่ที่เพิ่งติดเหรียญไปเมื่อวาน มันแสดงยอด..‘ห้าร้อยแปดสิบห้าบาท’ เงินจากการเขียนนิยายยอดแรกที่ฉันได้รับกรี๊ดดดดดดด ฉันกรีดร้องในใจ มือไม้สั่นด้วยความตื่นเต้น ประสบการณ์จริงมันดีอย่างนี้เอง มันทำให้การเขียนลื่นไหลและมองภาพได้ดีขึ้น“ทุกคนไปกินหมูกระทะกันไหม?” ฉันโพล่งขึ้นมาในขณะที่เรากำลังนั่งเคลียร์รายงานที่ต้องนำเสนอพรุ่งนี้“ดีๆ กำลังหิว” มิ้นท์ตอบคนแรก“ช่อมีนัดแล้วอ่ะ พี่ไคบอกว่าจะพาไปกินข้าว” ช่อม่วงมีสีหน้าลำบากใจเพราะมีนัดกับแฟนหนุ่มรุ่นพี่“ไปเลยๆ เดี๋ยวเพลงไปกับมิ้นท์แล้วก็พาร์ท เอ้อ..ลืมถาม พาร์ทไปไหม?” ฉันหันไปถามเพื่อนชายเพียงคนเดียวในกลุ่ม“ไปสิ ถ้าไม่ไปยัยมิ้นท์จะกลับยังไง” บ้านของมิ้นท์อยู่ไม่ไกลจากคอนโดพาร์ท เรียกได้ว่าเป็นทางผ่าน แล้วร้านหมูกระทะริมน้ำก็อยู่คนละทางกับบ้านมิ้นท์หารถกลับยาก นั่งแท็กซี่มิ้นท์ก็บ่นว่าเปลืองตังค์ พอจะจ่ายค่าน้ำมันให้พาร์ท เพื่อนหนุ่มก็ไม่เคยรับแถมยังมีน้ำใจคอยรับส่งพวกฉันอีก“ไม่ต้องห่วง เดี๋ย
Chapter 13“พี่เกียร์คะ ไหนว่าพวกพี่ๆจะไปกินโอมากาเสะ ทำไมมากินหมูกระทะกันหมดเลย” ฉันแอบกระซิบถามคนข้างๆหลังจากยกมือไหว้สวัสดีกลุ่มเพื่อนสนิทของพี่เกียร์“พวกมึงแคนเซิลโอมากาเสะกันหมดเลยเหรอ? เสียดายค่ามัดจำตั้งหลายพัน” พี่เกียร์บ่นอุบ“ไม่เป็นไรหรอก เงินแค่ไม่กี่พัน เทียบกับการเสือกเรื่องของมึงไม่ได้เลย” พี่ออโต้พูดยิ้มๆ พลางจ้องมองมาที่ฉันกับพี่เกียร์ด้วยความสงสัยปนใคร่รู้“เงินกู” พี่เกียร์กดเสียงต่ำมองกลับไปยังกลุ่มเพื่อนด้วยความไม่พอใจนิดหน่อย“น้องเพลงคะ พี่เอมิไม่เคยมาเลย พาพี่ไปตักอาหารทีค่ะ” หญิงเดียวในกลุ่มผู้ชายพูดขึ้น มือเล็กๆเข้ามาคล้องแขนฉันราวกับรู้จักกันมาหลายปี ว่าแต่..ฉันไปสนิทกับพี่เอมิตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย“พี่เกียร์กินอะไรคะ เดี๋ยวเพลงตักมาให้” ฉันหันไปถามพี่เกียร์ที่กำลังนั่งทำหน้าเรียบตึงเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ แม่งอยากกินอะไรก็ให้มันไปตักเอง” พี่เอมิดึงแขนฉันออกไปจากโต๊ะทันที“น้องเพลงคะ ที่บอกว่าเกียร์เป็นผู้สนับสนุนเรื่องเขียนนิยายนี่ยังไงคะ พี่อยากรู้” ทว่าพอเดินออกห่างกลุ่มเพื่อนตัวเอง พี่เอมิก็ถามขึ้นมาทันที ดวงตากลมโตฉายแววอยากรู้ไม
Chapter 14“พี่เกียร์ทำอะไรคะ?” ฉันลืมตาขึ้นมาในตอนเช้า แอบมองคนตัวสูงที่กำลังนั่งทำอะไรบางอย่างที่หน้ากระจกมาสักพัก พี่เกียร์หันมาส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินมาที่เตียงสอดร่างเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน“เพลงว่าพี่ทำผมแบบนี้ดูหน้าเด็กลงไหม?” เขาเอามือลูบผมหน้าม้าลง จากเดิมที่ใช้เจลแต่งผมเสยมันขึ้นโชว์หน้าผากแบบมีสไตล์หน่อยๆ“ทำไมอยากดูเด็กลงล่ะคะ” ฉันใช้มือตัวเองลูบไปตามเรือนผมสลวยนั้นอย่างเบามือ พลางยิ้มกว้างให้คนข้างๆ“เวลาเดินกับเพลงแล้วจะได้ไม่ดูแก่มาก”“พี่เกียร์ไม่ได้หน้าแก่นี่คะ” หล่อที่สุดในสายตาของเพลงเลยค่ะ..ฉันพูดต่อเองในใจ“แต่ก็ไม่ได้ดูอ่อนกว่าวัยอ่ะ” พี่เกียร์บอก แล้วทำไมต้องอยากหน้าอ่อนล่ะ แค่นี้ก็หล่อวัวตายควายล้ม จนฉันไปไหนไม่รอดแล้ว“พี่เกียร์มีธุระไหมคะวันนี้” ช่วงนี้เขาไม่ได้กลับไปค้างที่บ้านเลย ตั้งแต่วันที่ฉันมาอยู่ที่นี่ พี่เกียร์ก็มาค้างกับฉันทุกวัน‘ไหนบอกว่าไม่ค่อยมาค้างที่คอนโด’ “ไม่มี เพลงอยากไปไหนรึเปล่า? หิวรึยัง” น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยถามอย่างใส่ใจ ทำให้หัวใจของฉันพองโตอย่างมีความสุขทุกครั้ง แบบนี้ไงฉันถึงเกิดความโลภอยากยึดเขาไว้เป็นของตัวเอง“ไม่ได้ไปทำโปรเจ็
Chapter 15“เกียร์ ช่วงนี้มึงหายหัวบ่อยนะ” ไคเอ่ยขึ้นในขณะที่ทุกคนกำลังทำโปรเจ็คในส่วนที่ตัวเองได้รับมอบหมาย คำถามของไคทำให้เพื่อนอีกสองคนเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสนใจ เผือกร้อนๆใครบ้างจะไม่อยากกิน โดยเฉพาะเอมิกับออโต้“กูหายไปวันเดียวเอง มึงใช้คำว่าบ่อยได้เหรอ?” เกียร์สวนกลับทันที ซึ่งปกติเขาจะไม่ตอบโต้ ทุกครั้งที่โดนเพื่อนจิกกัด ใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมได้แต่เหยียดยิ้มบางๆเพียงเท่านั้น“มีพิรุธแล้วหนึ่ง” เอมิกดยิ้มมุมปากในความร้อนตัวของเพื่อนหนุ่ม“มึงหายไปวันเดียวก็จริง แต่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ช่วงดึกๆที่พวกกูไปเที่ยว มึงก็ไม่ไปกับเพื่อนเลย” ไคบ่นน้ำเสียงติดจะน้อยใจเพื่อนรัก เพราะที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเกียร์จะมีสาว แต่ก็ปลีกตัวไปสังสรรค์กับเพื่อนได้ตลอด ทว่าคราวนี้ดูเพื่อนรักดูจะมีความลับไม่ยอมบอกเรื่องของสาวคนใหม่ให้ระแคะระคายเลย แต่คนอย่างเอมิ ออโต้กับไคโรมีเหรอจะไม่รู้ในสิ่งที่เกียร์พยายามปิดบัง แค่อยากให้เพื่อนเล่าเองมากกว่า“ที่บ้านกูงานยุ่ง” เกียร์อ้างเพราะไม่รู้จะบอกเพื่อนๆว่ายังไงดี จะบอกไปตามตรงว่าติดหญิงก็รู้สึกขัดเขินเกินกว่าที่จะบอกไปแบบนั้น เพราะเขาไม่เคยอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนไห
Special You’re my world.“เกียร์วันนี้ไปกินเหล้ากัน?” ออโต้เอ่ยถาม วันนี้เป็นวันศุกร์คืนแฮงเอาท์สินะ แต่ว่าผมต้องไปดูที่เพื่อจะทำโกดังสินค้าของป๊านี่นา“ขอไปดูที่ให้ป๊าก่อน แล้วจะตามไป” ผมตอบ“เกียร์ ขอไปด้วยนะ ไม่ได้เอารถมา” เอมิหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มเอ่ยขึ้น“ก็บอกว่าจะแวะไปดูที่ก่อน ที่ในซอยเปลี่ยวด้วย ไม่กลัวเหรอ?” ผมอ้างไปข้างๆคูๆ เหตุผลสำคัญก็น่าจะเพราะวันนี้เอารถคันโปรดมา กะว่าดูที่เสร็จจะแวะไปเปลี่ยนรถที่บ้านก่อน จากนั้นก็อาบน้ำและตามไปสมทบที่ผับอีกที“อ้างว่ะ มึงไม่อยากให้กูนั่งรถคันโปรดของมึง” เพื่อนสาวเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ ผมได้ทุนจากป๊าทำธุรกิจเกี่ยวกับค่ายมวยและพวกโกดังเก็บสินค้า ป๊าให้ผู้ช่วยมาดูแลกิจการช่วยผมอีกทีจนเริ่มประสบการณ์จึงค่อยๆปล่อยให้ผมทำมันด้วยตัวเอง ถามว่าหวงรถไหม? ก็ไม่รู้เหมือนกัน รถคันนี้เป็นรถคันแรกที่ซื้อมันมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจริงๆ ผมไม่ค่อยได้ขับมันเลย จะเอาออกมาขับบางวันที่รู้สึกเบื่อๆ อย่างเช่นวันนี้ ไอ้ออโต้นั่งไถไอจีพลางส่งมือถือให้ผมดูรูป ในภาพนั้นเป็นผู้ชายยืนหันหลังสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงในคอนโดของเนเน่ ดูยังไงก็รู้ว่าเป็นผมแถมน้อง
Chapter 29ก่อนวันแต่งงานพี่เกียร์พาฉันขับรถออกมาจากบ้าน เพื่อจะมาดูบ้านใหม่ที่เจ้าตัวอุบไว้ไม่ยอมพาฉันมาสักที ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นความลับอะไรนักหนา เขาขับรถไปเรื่อยๆ เลี้ยวเข้าซอกซอยที่ฉันไม่คุ้นเคย ทว่าพอถึงจุดหมายก็ทำให้ฉันประหลาดใจขึ้นมาทันที นั่นก็เพราะว่ามันคือที่แรกที่ฉันบังเอิญเจอกับเขาในซอยเปลี่ยว แต่ซอยที่ว่าก็เริ่มมีบ้านสิ่งปลูกสร้าง ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือว่าร้านรวงต่างๆจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมในวันที่เราเจอกันสักนิด บ้านที่ว่าก็สร้างอยู่บนจุดที่ฉันเอาโน้ตบุคฟาดหลังพี่เกียร์“พี่เกียร์ เว่อร์อีกแล้วนะ สร้างตรงจุดเกิดเหตุเลย อย่าบอกนะโน้ตบุคเครื่องนั้นใส่กรอบตั้งในตู้โชว์ในบ้าน” ฉันทำทีพูดปนขำหรือกลบเกลื่อนความดีใจจนขอบตาเริ่มมีน้ำตามาคลอที่ขอบตาด้วยความตื้นตัน ที่พี่เกียร์จำรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆที่เกี่ยวกับฉันไว้หมดทุกอย่าง“จริง พี่ใส่กรอบใสไว้เป็นที่ระทึก..เอ้ย!! ที่ระลึก” ว่าที่เจ้าบ่าวยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาคร้ามยิ่งดูดีเข้าไปอีกห้าร้อยสองเท่า ใครจะไม่อวยหลัวตัวเองบ้างล่ะ“พี่อยากให้เพลงรู้ว่า ความรักของเราเริ่มที่ตรงไหน แล้วมันก็จบลงที่ตรงนี้” มือหนาคว้ามือของฉันไป
Chapter 28 ‘Will you marry me?’ ข้อความนี้มัน..ฉันยืนนิ่งอ่านป้ายนี้อยู่นานพลางนิ่งคิดไปสักพัก..แล้วพยักหน้ารับอย่างเข้าใจกับตัวเอง“พี่เอี้ยงคะ พร็อบของนิยายพี่วิเวียนเหรอคะ?” ชื่อเซ็ทหนังสือของนักเขียนรุ่นพี่คือเซ็ทเจ้าสาวจำยอม สำนักพิมพ์ลายลักษณ์อักษรเล่นใหญ่จริงๆ มีการขอแต่งงานด้วย ฉันหันไปยิ้มแบบแซวๆให้พี่วิเวียน อยากใส่ชุดสโนว์ไวท์ดีนัก ไม่เข้ากับธีมของบูทเลย“นี่เพลงไม่เข้าใจจริงๆเหรอ?” พี่เอี้ยงกับพี่วิเวียนทำหน้าเหวอหน่อยๆ“เอาเลยค่ะพี่วิเวียน แต่งเลยค่ะ ไหนคะเจ้าบ่าว” ฉันเล่นไปตามน้ำเพราะดูท่ากิจกรรมของงานมันก็สนุกดีเหมือนกัน น่าจะมีว่าที่เจ้าบ่าวที่จ้างมาแสดงละครด้วยอย่างแน่นอน“โอ้ย..วิงเวียน” เจ้าของสำนักพิมพ์หันไปรำพึงรำพันกับนักเขียนเจ้าประจำในสังกัด“วิเวียนค่ะพี่เอี้ยง”“ฉันรู้สึกปวดหัววิงเวียนจริงๆ คนที่จ้างเราเค้าจะจ่ายค่าจ้างให้ไหมเนี่ย” พี่เอี้ยงเริ่มกุมขมับพลางปรับ ทุกข์กับพี่วิเวียนต่อ “มีอะไรกันหรือเปล่าคะ เพลงตกข่าวอะไรไปไหม?” ฉันเริ่มจะงุนงงหน่อยๆเพราะไม่มีใครยอมเฉลยเลยว่ากิจกรรมงานแจกลายเซ็นท์มันเป็นรูปแบบไหนกันแน่ ตอนนี้ฉันในชุดกึ่งเจ้าสาวทำตัวไม่ถูกจริง
Chapter 27“พี่เกียร์คะ อาทิตย์หน้าเพลงจะไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ มีแจกลายเซ็นท์ด้วยนะ คือเพลงจะบอกว่าเพลงดังมากนะคะ” ฉันพูดปนขำอวยตัวเองหน่อยๆ งานนี้ฉันได้รับเชิญเพราะรู้จักกับพี่เอี้ยงที่เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ลายลักษณ์อักษร แล้วนิยายของฉันก็ตีพิมพ์กับที่นั่นเกือบห้าเล่มแล้ว ทว่างานประจำที่ฉันทำจริงๆก็คือเปิดสำนักพิมพ์ร่วมกันกับช่อม่วงและโรส โดยมีพี่เกียร์กับพี่ไคคือผู้สนับสนุนหลักจนทำให้ความฝันเล็กๆของสาวๆเป็นจริงขึ้นมาได้“ดังแล้วจะลืมพี่ไหมนะ” พี่เกียร์ยิ้มกว้างจนลักยิ้มบุ๋มลึก ใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมที่เปลือยท่อนอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทำเอาหัวใจของฉันสั่นไหว หายใจติดๆขัดๆขึ้นมาทันที ดาเมจทำลายล้างของท่านพี่ช่างสูงนัก คำว่าลืมถูกตัดออกไปจากสารบบเพราะในหัวของฉันมีแต่คำว่าเกียร์เต็มไปหมด บ้าจริง!!“ไม่ตอบ? แสดงว่าลืม” ริมฝีปากหยักได้รูปลากไล้ไปตามลาดไหล่ที่โผล่พ้นชุดเดรสสีหวานของฉันเพียงบางเบา หากแต่มันทำให้ขนอ่อนฉันลุกชูชันขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกัน“พี่เกียร์ไม่ทำรอยนะคะ นี่เพื่อนก็ล้อยันลูกบวชแล้วค่ะ” ฉันพยายามผลักใบหน้าที่เต็มไปด้วยเคราจางๆอย่างไม่จริงจังนัก“จะได้ไม่ใส่เสื้อคอกว้า
Chapter 26“เพลงๆๆ เหลนรหัสแกโคตรจี๊ดเลย” เสียงของมิ้นท์ทำให้ฉันวางมือจากการเขียนนิยาย มองไปตามมือของเพื่อนรักที่ชี้ไปยังสนามหน้าตึกอักษรศาสตร์ ซึ่งกำลังมีการรับน้องกันอย่างคึกคัก“คนไหนอ่ะมิ้นท์” ฉันมองเด็กๆปีหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างมากหน้าหลายตา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครคือเหลนรหัสตัวเองที่มิ้นกล่าวถึง เพราะตอนเลือกพี่รหัสฉันไม่ได้อยู่ร่วม เนื่องจากติดธุระต้องไปย้ายของเข้ามาอยู่คอนโดที่ใกล้มากขึ้น เรียกได้ว่าใกล้จนอยู่แค่หน้ามหา’ลัยได้เลย ทั้งนี้ก็เพราะพี่เกียร์เรียนจบและกำลังเริ่มเปิดบริษัทรับสร้างบ้านกับกลุ่มเพื่อนๆ นั่นก็คือพี่ไค พี่ออโต้และพี่เอมิ จึงทำให้ไม่ค่อยสะดวกที่จะรับส่งฉันมาเรียน เรื่องขับรถพี่เกียร์ก็สั่งห้าม เพราะเดือนที่แล้วฉันถอยรถชนกับประตูรั้วหน้าคอนโด พี่เกียร์กลัวว่าฉันจะเกิดอุบัติเหตุจึงซื้อคอนโดหน้ามหา’ลัยให้ฉันซะเลย แค่เพียงเดินข้ามถนนไม่ถึงห้านาทีก็ถึงตึกเรียน รวดเร็วและปลอดภัยมากๆ“น้องเจนท์ไง คนสูงๆขาวๆอ่ะ หล่อใสออร่ามาเลย งื้อ..” มิ้นท์มองไปที่กลุ่มเด็กปีหนึ่งแล้วทำตาปรอยๆชวนฝัน ฉันมองเด็กหนุ่มร่างสูงในชุดนักศึกษาที่กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะประจำของกลุ่ม ไม
Chapter 25“พี่เกียร์คะ เพลงไปด้วยจะดีเหรอคะ?” ฉันถามแฟนหนุ่มเป็นรอบที่ร้อยสองถ้วน เมื่อพี่เกียร์บอกว่าจะพาไปงานวันเกิดของคุณยายจงจิต ฉันจินตนาการว่าที่นั่นต้องมีแต่แขกผู้หลักผู้ใหญ่ เด็กกะโปโลอย่างฉันอาจจะดูไม่เหมาะสมกับงานก็เป็นได้“ยายพี่อยากให้เพลงไปนะ ท่านย้ำแล้วย้ำอีก ไปพอเป็นพิธีละกัน ถ้าเพลงอึดอัดพี่จะพาออกมา” คนตัวสูงบีบมือฉันเบาๆคล้ายจะส่งผ่านกำลังใจ“ได้ไงล่ะคะ พี่เกียร์เป็นหลานแท้ๆ จะหนีออกมาแบบนั้นไม่ได้ค่ะ เพลงจะพยายามอยู่ให้ได้นะคะ” ฉันตอบเอาใจพี่เกียร์ แค่อยู่ให้จบงานฉันต้องทำได้“ของขวัญของเพลง มันโอเคไหมคะ เพลงกลัวคนอื่นว่า ทำไมให้ของที่ไม่มีราคาค่างวด” ฉันห่อกระถางบอนสีที่ยายฉันส่งมาจากเชียงใหม่ด้วยกระดาษสีหวานพร้อมกับผูกริบบิ้นให้ดูดีขึ้นมาหน่อย ฉันโทรไปขอต้นบอนสีจากแม่เพราะคุณยายของพี่เกียร์กำลังสะสมพันธุ์ไม้ชนิดนี้ แล้วไอ้ต้นบอนสีก็มีราคาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว แล้วฉันก็ไม่มีความรู้ด้านนี้เสียด้วย ฉันไม่รู้หรอกว่าต้นไหนมีราคาถูกต้นไหนมีราคาแพง แค่มองว่ามันสวยก็พอ‘ต้นนี้ยายเราฝากให้พ่อเกียร์ ว่าที่หลานเขยในอนาคต’‘เดี๋ยวนะคะแม่ ตอนนี้เป็นแค่แฟน ไม่รู
Chapter 24จงจิตยืนมองหลานชายที่เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกจนกลายเป็นหนุ่มเต็มตัว กำลังนั่งคุกเข่าข้างๆหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แถมยังกุมมือไว้แน่นหนึบไม่ยอมปล่อยอีกด้วย คงจะรักกันมากสินะ..“เกียร์ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” นางแกล้งทำเสียงเข้มรับบทคุณยายใจยักษ์ใจมาร“ไม่ครับเกียร์ไม่ลุก เกียร์จะคบกับน้องเพลง ไม่เลิกนะยาย” อดีตนักมวยสากลจอมโหด แต่ดูเชื่องเหมือนลูกแมวเมื่ออยู่กับคนรัก นี่มันใช่หลานชายของนางตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่านะ“พี่เกียร์..” เพลงเพลินมองหน้าแฟนหนุ่มทั้งน้ำตา ทำไมอุปสรรคความรักของเขากับเธอมันช่างมากมายเสียเหลือเกิน ทั้งเรื่องคนรักในอดีตของพี่เกียร์ มินนี่และในตอนนี้ก็คุณยายของเขา อยากจะยอมแพ้แล้วเดินออกจากชีวิตของเขา แต่มือหนาที่กุมเอาไว้แบบแน่นหนาก็แสดงให้เห็นว่าพี่เกียร์ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆอย่างแน่นอน ทั้งเขายังยอมคุกเข่าต่อหน้าผู้เป็นยายเพื่อขอร้องให้คนตรงหน้ายอมให้เขาคบกับเธออีก แล้วแบบนี้เธอจะยอมจากไปง่ายๆได้ยังไง“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ยายบอกครั้งสุดท้าย” จงจิตพยายามกลั้นยิ้ม นานๆทีได้แกล้งหลานชายคนโปรดมันก็สนุกดีเหมือนกัน“เกียร์ไม่ลุกจนกว่ายายจะให้เกียร์คบกับน้องเพลง”
Chapter 23ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ไม่สิ..เกือบจะเก้าโมงแล้ว ดีที่เป็นวันเสาร์ไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน พี่เกียร์ออกไปซื้ออาหารที่ห้างสรรพสินค้าใกล้กับคอนโด บอกว่าจะซื้อของสดมาทำอาหารที่ห้อง ฉันนี่ช่างสมเป็นกุลสตรีจริงๆ ให้ผู้ชายดูแลปรนนิบัตรพัดวี แต่พี่เกียร์ก็อ้างว่าอยากทำอาหารอร่อยๆให้ฉันกินด้วยตัวเอง ฉันเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะไปรดน้ำต้นไม้ที่ช่วยกันปลูกกับเจ้าของห้องที่ริมระเบียง ชุดที่ใส่นอนก็เป็นเสื้อนักศึกษาของพี่เกียร์ที่ยาวมากจนกลายเป็นมินิเดรสของฉัน พอออกมาถึงห้องรับแขกก็เห็นผู้หญิงสูงอายุที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับคุณยายของฉัน กำลังยืนก้มๆเงยๆเก็บเสื้อผ้าที่พี่เกียร์ถอดทิ้งไว้แบบส่งๆบนพื้นใส่ในตระกร้า ว่าแต่..แม่บ้านจะมาทำห้องในตอนที่ฉันกับพี่เกียร์ไม่อยู่ห้องนี่นา ฉันมองหญิงชราตรงหน้าด้วยความงุนงง ทว่าสิ่งที่ทำให้ใบหน้าของฉันเห่อร้อนด้วยความขัดเขินก็คือ แม่บ้านกำลังเก็บเสื้อชั้นในของฉันที่วางบนโซฟาตัวยาวหน้าทีวีรวมถึงกางเกงบ็อกเซอร์ของพี่เกียร์ด้วย ไม่บอกก็รู้ว่ามีกิจกรรมอะไรบนที่ตรงนี้ จึงรีบวิ่งไปแย่งเสื้อผ้าในมือของหญิงชรามาถือและซ่อนมันไว้ข้างหลังอย่างไว“คุณยายคะ เดี๋ยว
Chapter 22“พี่รักเพลงนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มและสายตาที่มองมาอย่างสื่อความหมายพิเศษทำเอาฉันหัวใจเต้นรัวและแรง ไม่บอกก็รู้ว่าฉันใจอ่อนตั้งแต่ที่รู้เขาเสี่ยงชีวิตปีนขึ้นมาหาฉันแล้วล่ะ“เพลงก็รักพี่เกียร์ค่ะ” ฉันตอบกลับออกไปในที่สุด พร้อมกับกอดคนข้างๆด้วยความคิดถึง แต่ความสูงที่มีน้อยนิดทำให้ใบหน้าถึงเพียงแค่ระดับอกพี่เกียร์เท่านั้น แต่คนตัวสูง..ไม่สิ สูงมากๆก็ย่อตัวลงพลางใช้นิ้วชี้ที่แก้มตัวเองทั้งยังยื่นมันมาใกล้ๆอีก“พี่เกียร์ ชะเอมยังอยู่ด้านนอกระเบียงนะคะ” ฉันพูดเสียงเบากลัวเพื่อนสาวจะได้ยิน“ตามสบายเลยจ้า เดี๋ยวเอมไปรอข้างล่าง” ทว่าจู่ๆรูมเมทสาวก็เดินเข้ามาในห้อง สะพายกระเป๋ากับโทรศัพท์มือถือเตรียมพร้อมออกจากห้อง“เฮ้ย!! ไม่ต้องหรอกเอม นี่ห้องเอม เพลงไปดีกว่า” ฉันรู้สึกผิดที่มารบกวนชะเอมแถมยังจะมาขอใช้ห้องอยู่กับแฟนหนุ่มตามลำพังอีก“ไม่ต้องเกรงใจ เสร็จเมื่อไหร่ เอ้ย..เคลียร์กันเสร็จก็โทรบอก” ชะเอมแกล้งทำทีพูดผิด ล้อฉันแบบหน้าตาย ร้ายนักนะ!!“งั้นขอรบกวน..” พี่เกียร์หันมายิ้มกว้างให้ฉันเหมือนถูกใจที่ชะเอมยื่นข้อเสนอแบบนี้ แทนที่ฉันจะยิ้มกลับแต่มองค้อนคนตัวสูงแทน“พี่เกียร์!!” จะบ้ารึไ