บทนำ
(ซวยต้อนรับเบญจเพส!!)
****
"พี่เอมมี่คิดยังไงพาด้ามาดูไพ่ยิปซีเนี่ย" ฉันถามผู้จัดการส่วนตัวด้วยสีหน้าหงึกๆคือง่วงหนักมาก โทรปลุกฉันตั้งแต่เช้า และที่ต้องมาเช้าคือคิวแม่หมอคนนี้ยาวมาก กว่าจะจองได้ตั้งเป็นเดือน
"คุณน้องขา เช้ามา คุณพี่บอกให้ทำหน้าให้มันสวยๆไงคะ เดี๋ยวคุณพี่จะหยิกให้"
^~^ ในชีวิตฉันก็มีแต่ผู้ชาย เอ้ย! พี่สาวคนนี้แหละที่เป็นห่วงเป็นใยฉันมากคนนึง
"ด้าไม่ชอบดูดวงเลย" ฉันเบะปากคว่ำ ทำตาปริบๆเดินตามหลังพี่เอมมี่ที่ลากแขนฉันให้ตามเข้ามาในสำนัก กลิ่นธูป กำยานคือแตะจมูกมาก
"ไม่ได้ค่ะ..ปีนี้คุณน้องอายุยี่สิบห้าเบญจเพส ต้องมาดูดวงค่ะ ถ้าดวงไม่ดีจะได้หาทางแก้แต่เนิ่นๆ" พี่เอมมี่นางตวัดหน้ามาพูดเชิดๆใส่ฉัน นางเป็นคนรักการดูดวงและเชื่อเรื่องมูเตลูมาก เอาเป็นว่าที่ฉันยอมมาก็เพื่อความสบายใจของนางก็แล้วกัน
"มาถึงกันแล้วหรอ.."
"...." น้ำเสียงดูเหมือนคนแก่? แล้วฉันก็ต้องมองตกตะลึงพูดไม่ออก ผู้หญิงหน้าตาคมสวยออกแนวแขก สวมใส่ชุดโบฮีเมียน บนหน้าผากห้อยเครื่องติกะ เธอสวยจัง สวยมากขนาดนี้ทำไมถึงไม่ไปเป็นดารา?
"ไม่อยากเป็น ฟ้าลิขิตให้เป็นแบบนี้" น้ำเสียงโทนเย็นตอบ แล้วจ้องหน้าฉัน
"...." คือฉันคิดในใจเขารู้ได้อย่างไร?
"งงเก่งเสียจริงๆ แม่ดาราคนนี้ ฮะๆ" เธอพูดแล้วหัวเราะกันกับพี่เอมมี่
"คุณแม่นี่ไง น้องดาด้าที่อยากให้คุณแม่เช็คดวงให้คร้า" พอพี่เอมมี่ว่าจบ แววตาคมสวยดูดุเหมือนมีพลังตวัดมามองฉัน
"เข้ามาใกล้ๆสิหนู" เธอกล่าวเรียกฉัน โดยในมือเธอมีลูกแก้วสีแดงเล็กๆหมุนอยู่ตรงกลางมือ
"..." ฉันค่อยๆสาวเท้าเดินไปหาแม่หมอ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ฉันรู้สึกขนลุก เธอเหมือนแม่มดจังไหม? อย่าบอกนะว่าแม่มดมีจริงอะ
"หนู..เลิกคิดในใจเถอะ เหนื่อย" เสียงเย็นๆโพล่งขึ้นมา น่ะแล้วจะไม่ให้ฉันคิดไปไกล
"แบมือยื่นมาสิ" เธอเอ่ย
ฉันยื่นส่งมือไปตรงหน้า ยิ่งเข้าใกล้เธอก็ยิ่งสัมผัสได้ ว่าเธอไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วๆไป
"ปีนี้อายุยี่สิบห้าเต็มสินะ" เสียงโทนเย็นๆเหมือนคนแก่เอ่ย ตาคมๆจ้องฉันก่อนจะหลับตาลงต่อ
"ที่ผ่านมาชีวิตยุ่งเหยิง โชคร้ายปะปนกันไป พึ่งผ่านเรื่องหนักมาคือเรื่องพ่อ?"
"...." ใช่เธอพูดถูก พ่อฉันถูกจับติดคุกไปเมื่อปีก่อน ฉันในตอนนี้เลยเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เพราะคุณแม่เสียไปได้ห้าปีกว่าๆแล้ว
"ใช่ รู้ได้ไงคะ?" ฉันโพล่งถามขึ้นมา เรื่องคุณพ่อของฉัน มีแค่พี่เอมมี่ที่รู้แค่คนเดียว เรื่องที่พ่อฉันถูกจับเป็นข่าวดังมาก แต่ไม่มีนักข่าวคนไหนรู้หรอกว่าท่านคือพ่อของฉัน
"หึ..ปีนี้เบญจเพสของหนูจะดีมาก จะมีผู้ใหญ่เข้ามา อุปถัมภ์ดูแล เขาจะเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของหนู"
"...?? ฉันนี่ถึงกับงงเลย ใครกันจะเข้ามาอุปถัมภ์ฉันได้ ตลกชะมัดเลย เปรียบเหมือนพ่อคนที่สองซะด้วย ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าต้องเป็นคนแก่ล่ะสิ
"ไม่เชื่อฉันหรอ เดี๋ยวก็รู้"
"...!" โอ้ย! สะพรึงกับแววตาโตคมดุคู่นี้ทุกรอบเลย ตกใจมาก ฉันไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้หรอก หุ้!
"ดวงได้ดิบได้ดี อนาคตเป็นถึงคุณหญิงคุณนาย" เธอกล่าวพูดออกมาต่อ เป็นถึงคุณหญิงคุณนายเชียวหรอ อะ..จะทำเป็นเชื่อก็ได้
"โอ้ย..คุณแม่ขา~ ได้ดิบได้ดียังไงละคร้า พูดให้กระจ่างออกมาเลย" พี่เอมมี่โพล่งด้วยความอยากรู้ อยากรู้จะยิ่งกว่าตัวฉันเสียอีก
"ได้ผัวดี กระจ่างพอไหม?" แม่หมอตวัดดวงตาดุพร้อมเอ่ยตอบพี่เอมมี่
"อุ้ปส์ ผัวดีเหรอคะ" พี่เอมมี่เอามืออุดปาก ยิ้มดี๊ด๊าขยิบตาให้ฉัน ดูท่าจะเชื่อเรื่องดวงซะเหลือเกินนะ ในโลกนี้ยังมีผู้ชายดีๆอยู่อีกหรอ ฉันไม่เชื่อ ไม่เชื่อในรักแท้ ไม่ศรัทธาอะไรกับเรื่องรักๆใคร่ๆพวกนี้หรอก
"แต่ดูแม่หนูนี่ จะไม่เชื่อนะ เขาจะเข้ามาเร็วนี้แหละ หนีเขาไม่พ้นหรอก เพราะเขาเป็นเนื้อคู่"
"อร้าย เนื้อคู่ด้วยหรอคะ อร้ายดีใจอ่า" พี่เอมมี่นั่งกรี๊ดกร๊าดบิดตัวไปมาราวกับเป็นตัวเอง
"สรุปฉันจะไม่เจอเรื่องร้ายๆในวัยเบญจเพสใช่ไหมคะ" ฉันถามแม่หมอ ถามไปอย่างนั้นแหละไหนๆก็ไหนแล้ว ถือว่าตามน้ำก็แล้วกัน แต่ยอมรับตรงที่เธอทักเรื่องคุณพ่อคือใช่ แต่เรื่องเนื้อคู่ ดวงคุณหญิงคุณนายฉันไม่เชื่อ
"วัยเบญจเพสของหนูดี มีแต่สิ่งดีๆเข้ามา"
"อืม..ค่ะ" ฉันพยักหน้าให้แม่หมอ ที่มาก็เพื่อความสบายใจของพี่เอมมี่ นางเป็นห่วงหวังดีกับฉัน ฉันจึงยอมมาในที่แบบนี้
วี๊~ หว่อ~
"...?? นั่นมันรถเสียงไซเรนตำรวจหนิ เสียงเหมือนมาจอดอยู่ตรงข้างหน้าสำนัก
"อุ้ย เสียงรถตำรวจนี่คะคุณแม่" พี่เอมมี่อุทานตกใจตวัดหน้ามองแม่หมอที่กำลังลุกยืน กำลังสาวเท้ายาวเดินออกไป
ปรึบ!! ถุงผูกกำมะหยี่สีดำหล่นมาบนตักฉัน
"แม่หมอของ..." ไม่ทันที่ฉันจะได้ส่งถุงกำมะหยี่ให้ แม่หมอก็วิ่งออกไปอีกทางแล้ว
"คุณแม่..คุณแม๊..จะรีบวิ่งไปไหนคร้า" พี่เอมมี่ส่งเสียงตะโกนเรียกตามหลัง ซึ่งเธอก็ไม่หันมาขานรับกับวิ่งออกไปเลย
"หยุด ทุกคนอยู่ในความสงบ" เสียงเข้มของตำรวจนอกเครื่องแบบ ทีฉันรู้เพราะที่คอห้อยบัตรตราสัญลักษณ์
"...!" ฉันกับพี่เอมมี่หันหน้ามองกันอย่างตกใจ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
"อะไรอยู่ในมือ ขอผมตรวจด้วยครับ" ตำรวจอีกท่านนึง เดินเข้ามาแล้วคว้าถุงกำมะหยี่จากมือฉันไปเปิดดูกัน
ฟรับ ฟรึบ!!
"พะ..พี่เอมมี่ผงอะไรขาวๆอะ" ฉันถามพี่เอมมี่ที่จ้องมองซองใสที่มีผงขาวเหมือนกับผงแป้งในมือตำรวจที่เปิดหยิบออกมาจากถุงกำมะหยี่
"ยาเค" ตำรวจท่านนึงตอบเสียงเข้ม พร้อมกับจ้องหน้าฉันเหมือนมีความผิด ซึ่งฉันไม่ได้รู้อะไรด้วยนะ
พรึ่บ!! ฉันยืนขึ้นกอดอกจ้องตำรวจพวกนี้เรียงคนอย่างเอาเรื่อง
"ยานี่ไม่ใช่ของฉัน เป็นของยัยหมอดูลวงโลกนู่น ไปตามจับสิ ฉันกับผู้จัดการแค่มาดูดวง!"
"เชิญไปให้ปากคำที่โรงพักดีกว่าครับ"
"จิ้!" ฉันขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ทันที ซวยต้อนรับอายุเบญจเพสของจริงอันนี้ ในชีวิตฉันไม่เคยยุ่งเกียวกับยาเสพติดเลยนะ! อย่าให้ฉันได้เจอนะ ยัยแม่หมอลวงโลก!
***********************
02(ท่านผู้กำกับ...)@โรงพัก"ถ้าให้ข้อมูลกับทางเรา ว่าแม่หมออนิกาหลบหนีไปอยู่ไหน โทษที่คุณครอบครองยาเสพติดสามารถช่วยหย่อนโทษให้กลายเป็นเบาได้นะครับ" ผู้กองหนุ่มหน้าตาดี พูดเกลี้ยกล่อมดาราสาว ด้วยหลักฐานในมือเป็นสารเสพติด คาหนังคาเขามีของกลางอยู่ที่ตัวซะขนาดนี้ ให้เชื่อคงยาก ในสำนักดูดวงกล้องวงจรปิดไม่มีสักตัว จะเอาอะไรมายืนยัน เชื่อได้ยาก!"เอ๊ะ! ฉันก็บอกไปแล้วนะ ว่ามาดูดวง ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว" ดาด้าปรี๊ดแตกลุกพรวดจ้องหน้าตำรวจหนุ่ม แววตากลมโตไม่ได้มีความเกรงกลัว นี่มันคราวซวยอะไรของเธอ "น้องดาด้าใจเย็นๆก่อนนะคะ นั่งลงค่ะ" เอมมี่รีบจับตัวดาราสาวให้นั่งลง กลัวตำรวจจะยัดข้อหาให้เพิ่มอีกกระทงเป็นอย่างมาก "จะให้ใจเย็นได้ยังไงพี่เอมมี่ ในเมื่อเราสองคนไม่ได้ทำความผิดอะ" ดาด้าว่าอย่างใส่อารมณ์ หากไม่ผิด เธอสู้สุดชีวิต"คุณตำรวจขา ดิฉันยืนยันเหมือนกันนะคะ เราสองคนไปแค่ดูดวงจริงๆ อีกอย่างน้องดาด้าก็เป็นดาราดังระดับแถวหน้า จะเล่นยานรกพวกนี้ให้เสียชื่อเสียง ทำไมล่ะคะ" เอมมี่อธิบายทำตาปริบๆใส่นายตำรวจทั้งสาม "เอายังไงดีครับ สารวัตร" รชตผู้กองหนุ่มหันไปปรึกษากับนายตำรวจยศเยอะกว่า เริ่มล
03(พันธสัญญา) ****Per.@ห้องทำงานส่วนตัว"ไหนคุณบอกว่าปล่อยตัวฉันไง?" ดาด้าทำหน้ามุ่น เงยหน้าถามฐานทัพอย่างเริ่่มมีอารมณ์ อีตาผู้กำกับนี่บอกให้ตำรวจพวกนั้นปล่อยตัวเธอกับผู้จัดการก็จริง แต่นี่อะไร? กักตัวเธอมาห้องส่วนตัวคืออะไร เธอไม่เข้าใจ นี่เขาจะมาไม้ไหนกันแน่ "ใจเย็นก่อนนะคะ ท่านอาจมีเรื่องจะพูดกับเราสองคนเป็นการส่วนตัวก็ได้ค่ะ" เอมมี่พูดในเชิงบวกให้ดาราสาวใจเย็น"พี่เอมมี่ก็คอยแต่ให้ด้าใจเย็นอ่า" ดาด้าตวัดสายตาไปงอแงกับเอมมี่ ตั้งแต่ช่วงเช้ายันค่ำเธออยู่สน.มาเป็นวันแล้วนะ ทั้งที่เธอไม่ได้ทำผิดอะไร ทุกอย่างมันคือคราวซวยของเธอ -_- ฐานทัพส่งสายตาเรียบนิ่งมอง ทีเมื่อกี้ยังร้องไห้โอดครวญราวกับเป็นลูกนก แถมยังกอกตาใส่เขาอีก ฐานทัพส่ายหัวไปมา ทำไมเธอถึงได้ขี้โวยวายเป็นเด็กได้ถึงเพียงนี้ เขายังไม่ทันจะได้อธิบายอะไรเลยตีโพยตีพายไปก่อนแล้ว"ผมมีข้อเสนอ..แลกกับคุณไม่ต้องถูกดำเนินคดี" "นั่น...ว่าแล้วเชียว" ดาด้าบนงึมงำพลางมองหน้าหล่อของฐานทัพ...ครั้งที่แล้วเธอเห็นเขาชุดนอกเครื่องแบบ มาวันนี้เขาแต่งเครื่องแบบชุดตำรวจเต็มยศก็..ยอมรับว่าเขาก็ดูดีเหมือนกัน"..." ฐานทัพมองปากอวบอิ่มที่บ่นงึมง
04(นวินดา เกียรติวงศ์กุล)****[Part Dada]"อร้ายคุณพี่ปลื้มใจ..ในความโชคร้ายของน้องดาด้าก็ยังเจอความโชคดี""..." พี่เอมมี่ยังไม่หายกระดี๊กระด๊าตั้งแต่กลับถึงคอนโด มันน่าปลื้มใจตรงไหนกัน อยู่ๆฉันกำลังจะได้สามีอย่างไม่ทันตั้งตัวนี่นะ ถึงเขาจะเป็นแค่สามีในนามก็เถอะ แต่ฉันต้องจดทะเบียนสมรสเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเขาเลยนะ และยังไม่จบแค่นี้นะ"คุณต้องย้ายมาอยู่กับผมเพื่อความสมจริง""อีตาผู้กำกับขี้เก๊ก!" ฉันด่าออกมาหน้ามุ่ยๆ ในข้อสัญญาของเขาฉันมีแต่เสียเปรียบ ทั้งที่เรื่องทั้งหมดฉันไม่ได้เป็นก่อ ต้นเหตุมาทั้งยัยแม่หมมอลวงโลกทั้งนั้น อย่าให้เจอ กรอด! อาฆาต"โอ๊ยคุณน้องขา คุณพี่ไม่เห็นท่านผู้กำกับจะเก๊กใส่คุณน้องตรงไหนเลย แววตาของท่านออกแนวจะเอ็นดูคุณน้องด้วยซ้ำ""เอ็นดู" ฉันฉงนขมวดคิ้วยุ่งกับคำพูดของพี่เอมมี่ สายตาเอ็นดูนะหรอ? เห็นทำแต่แววตาขรึมนิ่งใส่ฉัน แล้วก็แสยะยิ้มกวนๆ ไม่เชื่อหรอก จ้างให้ก็ไม่เชื่อ"เอาเป็นว่า น้องดาด้ารอดจากคดีนี้ ก็ถือเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอคะ อย่าลืมสิว่าน้องดาด้ารักอาชีพนี้มาก" "ใช่ค่ะ ด้ารักมาก" ฉันตอบพี่เอมมี่แล้วเข้าไปกอดนาง กว่าจะเข้ามาวงการนี้ได้มันเหน็ดเหนื่อยมาก
05(ย้ายเข้าบ้านสามีวันแรก)**** [Part.Dada] หลังจากจดทะเบียนสมรสกับอิตาผู้กำกับขี้เก๊กเสร็จ ฉันก็รีบแยกย้ายมาที่กองถ่าย ทำเวลาอย่างหวุดหวิด เกือบมาไม่ทัน ฉันเป็นคนนึงที่เคร่งเรื่องเวลามาก ไม่อยากให้ใครมาว่าตามหลังได้ "อร้าย" เสียงพี่เอมมี่ไม่รู้นางกรี๊ดกร๊าดอะไรขึ้นมาอีก "มีเรื่องอะไรหน้าตื่นเต้นอีกคะ?" ฉันขมวดคิ้วถามนาง "สำนักข่าวลงข่าวน้องดาด้ากับท่านผู้กำกับเต็มเลยคร้า" พี่เอมมี่ยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันดู -_- ในชีวิตเกิดมาไม่เคยมีแฟนสักคน อยู่ๆฉันก็มีสามีเลย นักข่าวคนที่ทำข่าวฉันคงมีงงกันบ้างล่ะ "ว่าแต่น้องดาด้าจะย้ายเข้าบ้านท่านวันไหนคะ?" "เขาบอกให้ด้าย้ายเข้าวันนี้ค่ะ" ฉันตอบหน้ามุ่ยๆ ไม่รู้จะรีบเร่งอะไรฉันนักหนากว่าจะเลิกกองก็ปาไปสี่ห้าโมงเย็นแล้ว อีกอย่างฉันก็ชอบอยู่คอนโดมากกว่าอยู่บ้านอ่า คิดแล้วเซ็ง "น้องดาด้า" พี่เอมมี่เรียกฉันแล้วอยู่ๆก็เงียบยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ฉัน "..??" อะไรของนางอีกล่ะ "ถ้าผู้กำกับท่านจริงจังกับน้องดาด้าขึ้นมาจริงๆเนี่ย เอายังไงคะ?" "..." ฉันเงียบ ไปไม่เป็นกับคำถามของพี่เอมมี่ แต่ที่แน่ๆฉันสัมมผัสได้อย่างนึง คือตาฐานทัพอะถ้าจะเผด็จการไม่ใช่เล่น
06(หางเสียง?")*****[Part. Dada]แปะ!! ป้าบ!! เสียงป้าบๆแปะๆคือฉันนั่งตบยุ่งอยู่หน้าบ้านตาฐานทัพ ถ้าฉันมีรถคงขึ้นไปรอบนรถแล้ว รถฉันดันเสียวันนี้ล่ะสิ ซวยไปอีก ฉันเริ่มเชื่อแรงอาถรรพ์วัยเบญจเพสแล้วแหละ"เมื่อไหร่ตาฐานทัพจะมาล่ะเนี่ย พี่เอมมี่ก็เอารถไปซ่อมไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน" ฉันนั่งพูดอยู่กับศาลพระภูมิตรงหน้าบ้าน ที่ตอนนี้มียุงบินว่อนคอยให้ฉันตบ ตบจนมือบวมหมดแล้ว ฮื่อ..ฮื้อ! อยากจะร้อง!"ตาผู้กำกับบ้า..ตาผู้กำกับขี้เก๊ก" ฉันนั่งด่า จะด่าให้จามน้ำมูกไหลไปเลย งื่อ แขนขาฉันต้องลายมากแน่ๆเลยคื้น~ เสียงรถเข้ามาจอด ฉันตวัดหน้ามุ่นๆมองรถเอสยูวีทรงสูงคันสีดำเลี้ยวเข้ามาจอดดับเครื่อง แกร็ก!! ปั่ง!! ตาฐานทัพลงจากรภ รีบย่ำเดินมาหาฉันที่นั่งทำหน้าหงึกๆอยู"...." หน้านิ่งๆของตาฐานทัพจ้องหน้าฉัน ก่อนจะเดินไปชั้นรองเท้าหยิบรองเท้าใส่ในบ้านเดินมาหาฉันนั่งลงยองๆลงตรงหน้าฉัน เสียงนิ่งขรึมเอ่ยขึ้นมา "คุณรอผมมากี่ชั่วโมงแล้ว?""รวมๆแล้วก็หนึ่งชั่วโมงที่ฉันรอคุณ" ฉันขมวดคิ้วยุ่งเอ่ยตอบเขา "รวมๆแล้ว?" ฐานทัพเงยหน้านิ่งขึ้นมองฉัน แต่เดี๋ยวนะแววตาแบบนี้ แววตาเหมือนกำลังยิ้ม นี่เขาตลกฉันหรอ แล้วฉันพูด
07(มันเขี้ยว)****[Part.Dada]คื้น ~ เสียงรถเอสยูวีคันสีดำขับออกไปจากรั้วบ้านไป ฉันยืนมองผ่านกระจกบานใสทำหน้าหงึกๆ คนเผด็จการ ฉันไม่เคยทานอาหารตอนเช้า เช้าจัดขนาดนี้เลย ปกติเวลาฉันตื่นคือแปดโมงครึ่งนู่น ฮึ! ดาด้าอารมณ์เสีย ไหนๆก็ตื่นแล้วขึ้นไปจัดของในห้องดีกว่า"อย่างแรกจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ให้หมดก่อน" ฉันว่ากับตัวเองแล้วจัดการเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้า มาจัดเข้าตู้ใบใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนฉันดูใหม่หมดเลย ทั้งเตียง ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง แต่ก็ดีนะของทุกอย่างคือสีขาว ตกแต่งก็แบบสไตล์ที่ฉันชอบหลังจัดข้าวของเครื่องใช้เข้าที่เข้าทางเสร็จ ฉันก็ลงมานั่งเล่นโซฟาในห้องโถง จัดห้องแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วฉัน หิวของหวานจัง อยากทานอะไรก็ไม่รู้ติ้งหน่อง~ "ใครมากดออด?" ฉันมองออกไปตรงรั้วบ้าน มองไม่ค่อยชัดเลย เขาเป็นคนใช่ไหม? แต่กลางวันแสกๆคงไม่น่ามีผีล่ะมั้งติ้งหน่อง~ฟรึ่บ ฉันตัดสิ้นใจลุก กอดอกเดินตรงไปหน้ารั้วบ้าน ถ้าเป็นแขกของตาฐานทัพเขาก็ต้องน่าจะรู้สิ ว่าเวลานี้ตาฐานทัพไม่อยู่บ้าน? "เอิม..ใครคะ?" ฉันส่งเสียงถาม ก่อนเปิดรั้ว ทุกวันนี้บ้านเมืองมีแต่คนนน่ากลัว~~ "ค่ะ..ใครคะ" ฉันส่งเสี
08(สามีมา?)*****เช้าวันต่อมา @บ้านฐานทัพ"ด้าตื่นแล้วค่ะ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย" ฉันคุยโทรศัพท์กับพี่เอมมี่ และเดินลงบันไดมา สรุปรถยังซ่อมไม่เสร็จ รอไปอีกเจ็ดวัน เฮ้อ..(งั้นวันนี้พี่ให้รถกองถ่ายไปรับนะคะลูก") "ค่ะ ด้าไปรถกองก็ได้ค่ะ" ("ค่ะเจอกันค่ะลูกสาว") ตี๊ด "เฮ้อ รถก็มางอแงตอนต้องไปออกกองไกลๆ" ฉันบ่นกับตัวเอง หลังจากวางสายจากพี่เอมมี่เสร็จ ก็ต้องสะดุดหางตามองไปคนตัวโตที่นั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟา "..?? สายขนาดนี้ตาฐานทัพยังไม่ออกไปทำงานอีกหรอ นี่มันก็เก้าโมงกว่าๆแล้วนะ อ่อ พอลองสังเกตดูอีกที เขาไม่ได้อยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ สงสัยวันนี้ไม่ทำงานมั้ง "คุณทานข้าวไหม?" เสียงเรียบนิ่งหันหน้านิ่งขรึมมาถามฉัน พร้อมวางแก้วกาแฟในมือ"ไม่ค่ะ พอดีฉันรีบ เดี๋ยวรถกองถ่ายมารับแล้ว" ฉันตอบเขา แต่ไม่ได้เดินเข้าไปหาเขาหรอก ว่าจะเดินไปเปลี่ยนรองเท้าใส่ ไม่นานรถจากกองถ่ายคงมารับฉันแล้วล่ะ"รถกองมารับ" ฐานทัพทวนประโยคที่ฉันพูด แววตาเขาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอก เหลือบมองอีกทีก็เห็นเขาเดินเอาแก้วกาแฟใส่อ่า
09(หึง?)*****@กองถ่ายฯ ทีมงานและนักแสดงในกองยังอยู่ในช่วงเวลาพัก ทั้งสต๊าฟ ผู้กำกับ ดาราสบทบ พากันหลบพักกันอยู่คนล่ะมุม รวมถึงดาด้าที่นั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่ในเต็นท์เพลินๆกับการตอบเมนต์แฟนคลับ "เฮ้อ.." เสียงถอนหายใจเบาๆ ด้วยความเซ็งเบื่อของกุนซือ สารวัตรหนุ่มนั่งอยู่ในเต็นท์เดียวกับดาด้าและฐานทัพ ~...~ ให้เขาไปนั่งจับผู้ร้ายยังดีซะกว่า มานั่งเฝ้าเมียเจ้านาย"..." ฐานทัพเองก็คอยส่งสายตาเรียบนิ่ง มองคนกดโทรศัพท์เล่นเพลินๆ "คิก!" เสียงหัวเราะอารมณ์ดีของหญิงสาวดังขึ้นกับสิ่งที่เห็นในโทรศัพท์ และเริ่มรู้สึกว่ามีสายตาคมกำลังจับจ้อง "..??" เมื่อเธอเห็นหน้าผู้กำกับหนุ่มที่นั่งเว้นห่างอยู่กับกุนซือที่นั่งทำหน้าเบื่อโลก ก็ต้องขมวดคิ้ว ทำหน้ามุ่นๆ แถมผู้จัดการตัวดียังหายไปอีก"คุณ ทำไมคุณยังไปกลับไปอีก ไหนคุณบอกว่าวันนี้มีงานไงคะ?" ดาราสาวเท้าคางถามสามีที่นั่งขมวดคิ้วมุ่นไม่ต่างกัน "...." เขาก็อยู่ตามคำเชิญของผู้จัดการของเธอไง"ผู้จัดการของคุณชวนให้ผมอยู่ดูคุณ" เสียงนิ่งเอ่ยพลางตีสีหน้าทำขรึม ดาด้าหันหน้าหนีคนหน้านิ่งขรึมพูดบ่นอุบอิบออกมนคนเดียว"พี่เอมมี่นะพี่เอมมี่ จะชวนอยู่ทำไม" "อือ
09(หึง?)*****@กองถ่ายฯ ทีมงานและนักแสดงในกองยังอยู่ในช่วงเวลาพัก ทั้งสต๊าฟ ผู้กำกับ ดาราสบทบ พากันหลบพักกันอยู่คนล่ะมุม รวมถึงดาด้าที่นั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่ในเต็นท์เพลินๆกับการตอบเมนต์แฟนคลับ "เฮ้อ.." เสียงถอนหายใจเบาๆ ด้วยความเซ็งเบื่อของกุนซือ สารวัตรหนุ่มนั่งอยู่ในเต็นท์เดียวกับดาด้าและฐานทัพ ~...~ ให้เขาไปนั่งจับผู้ร้ายยังดีซะกว่า มานั่งเฝ้าเมียเจ้านาย"..." ฐานทัพเองก็คอยส่งสายตาเรียบนิ่ง มองคนกดโทรศัพท์เล่นเพลินๆ "คิก!" เสียงหัวเราะอารมณ์ดีของหญิงสาวดังขึ้นกับสิ่งที่เห็นในโทรศัพท์ และเริ่มรู้สึกว่ามีสายตาคมกำลังจับจ้อง "..??" เมื่อเธอเห็นหน้าผู้กำกับหนุ่มที่นั่งเว้นห่างอยู่กับกุนซือที่นั่งทำหน้าเบื่อโลก ก็ต้องขมวดคิ้ว ทำหน้ามุ่นๆ แถมผู้จัดการตัวดียังหายไปอีก"คุณ ทำไมคุณยังไปกลับไปอีก ไหนคุณบอกว่าวันนี้มีงานไงคะ?" ดาราสาวเท้าคางถามสามีที่นั่งขมวดคิ้วมุ่นไม่ต่างกัน "...." เขาก็อยู่ตามคำเชิญของผู้จัดการของเธอไง"ผู้จัดการของคุณชวนให้ผมอยู่ดูคุณ" เสียงนิ่งเอ่ยพลางตีสีหน้าทำขรึม ดาด้าหันหน้าหนีคนหน้านิ่งขรึมพูดบ่นอุบอิบออกมนคนเดียว"พี่เอมมี่นะพี่เอมมี่ จะชวนอยู่ทำไม" "อือ
08(สามีมา?)*****เช้าวันต่อมา @บ้านฐานทัพ"ด้าตื่นแล้วค่ะ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย" ฉันคุยโทรศัพท์กับพี่เอมมี่ และเดินลงบันไดมา สรุปรถยังซ่อมไม่เสร็จ รอไปอีกเจ็ดวัน เฮ้อ..(งั้นวันนี้พี่ให้รถกองถ่ายไปรับนะคะลูก") "ค่ะ ด้าไปรถกองก็ได้ค่ะ" ("ค่ะเจอกันค่ะลูกสาว") ตี๊ด "เฮ้อ รถก็มางอแงตอนต้องไปออกกองไกลๆ" ฉันบ่นกับตัวเอง หลังจากวางสายจากพี่เอมมี่เสร็จ ก็ต้องสะดุดหางตามองไปคนตัวโตที่นั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟา "..?? สายขนาดนี้ตาฐานทัพยังไม่ออกไปทำงานอีกหรอ นี่มันก็เก้าโมงกว่าๆแล้วนะ อ่อ พอลองสังเกตดูอีกที เขาไม่ได้อยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ สงสัยวันนี้ไม่ทำงานมั้ง "คุณทานข้าวไหม?" เสียงเรียบนิ่งหันหน้านิ่งขรึมมาถามฉัน พร้อมวางแก้วกาแฟในมือ"ไม่ค่ะ พอดีฉันรีบ เดี๋ยวรถกองถ่ายมารับแล้ว" ฉันตอบเขา แต่ไม่ได้เดินเข้าไปหาเขาหรอก ว่าจะเดินไปเปลี่ยนรองเท้าใส่ ไม่นานรถจากกองถ่ายคงมารับฉันแล้วล่ะ"รถกองมารับ" ฐานทัพทวนประโยคที่ฉันพูด แววตาเขาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอก เหลือบมองอีกทีก็เห็นเขาเดินเอาแก้วกาแฟใส่อ่า
07(มันเขี้ยว)****[Part.Dada]คื้น ~ เสียงรถเอสยูวีคันสีดำขับออกไปจากรั้วบ้านไป ฉันยืนมองผ่านกระจกบานใสทำหน้าหงึกๆ คนเผด็จการ ฉันไม่เคยทานอาหารตอนเช้า เช้าจัดขนาดนี้เลย ปกติเวลาฉันตื่นคือแปดโมงครึ่งนู่น ฮึ! ดาด้าอารมณ์เสีย ไหนๆก็ตื่นแล้วขึ้นไปจัดของในห้องดีกว่า"อย่างแรกจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ให้หมดก่อน" ฉันว่ากับตัวเองแล้วจัดการเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้า มาจัดเข้าตู้ใบใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนฉันดูใหม่หมดเลย ทั้งเตียง ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง แต่ก็ดีนะของทุกอย่างคือสีขาว ตกแต่งก็แบบสไตล์ที่ฉันชอบหลังจัดข้าวของเครื่องใช้เข้าที่เข้าทางเสร็จ ฉันก็ลงมานั่งเล่นโซฟาในห้องโถง จัดห้องแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วฉัน หิวของหวานจัง อยากทานอะไรก็ไม่รู้ติ้งหน่อง~ "ใครมากดออด?" ฉันมองออกไปตรงรั้วบ้าน มองไม่ค่อยชัดเลย เขาเป็นคนใช่ไหม? แต่กลางวันแสกๆคงไม่น่ามีผีล่ะมั้งติ้งหน่อง~ฟรึ่บ ฉันตัดสิ้นใจลุก กอดอกเดินตรงไปหน้ารั้วบ้าน ถ้าเป็นแขกของตาฐานทัพเขาก็ต้องน่าจะรู้สิ ว่าเวลานี้ตาฐานทัพไม่อยู่บ้าน? "เอิม..ใครคะ?" ฉันส่งเสียงถาม ก่อนเปิดรั้ว ทุกวันนี้บ้านเมืองมีแต่คนนน่ากลัว~~ "ค่ะ..ใครคะ" ฉันส่งเสี
06(หางเสียง?")*****[Part. Dada]แปะ!! ป้าบ!! เสียงป้าบๆแปะๆคือฉันนั่งตบยุ่งอยู่หน้าบ้านตาฐานทัพ ถ้าฉันมีรถคงขึ้นไปรอบนรถแล้ว รถฉันดันเสียวันนี้ล่ะสิ ซวยไปอีก ฉันเริ่มเชื่อแรงอาถรรพ์วัยเบญจเพสแล้วแหละ"เมื่อไหร่ตาฐานทัพจะมาล่ะเนี่ย พี่เอมมี่ก็เอารถไปซ่อมไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน" ฉันนั่งพูดอยู่กับศาลพระภูมิตรงหน้าบ้าน ที่ตอนนี้มียุงบินว่อนคอยให้ฉันตบ ตบจนมือบวมหมดแล้ว ฮื่อ..ฮื้อ! อยากจะร้อง!"ตาผู้กำกับบ้า..ตาผู้กำกับขี้เก๊ก" ฉันนั่งด่า จะด่าให้จามน้ำมูกไหลไปเลย งื่อ แขนขาฉันต้องลายมากแน่ๆเลยคื้น~ เสียงรถเข้ามาจอด ฉันตวัดหน้ามุ่นๆมองรถเอสยูวีทรงสูงคันสีดำเลี้ยวเข้ามาจอดดับเครื่อง แกร็ก!! ปั่ง!! ตาฐานทัพลงจากรภ รีบย่ำเดินมาหาฉันที่นั่งทำหน้าหงึกๆอยู"...." หน้านิ่งๆของตาฐานทัพจ้องหน้าฉัน ก่อนจะเดินไปชั้นรองเท้าหยิบรองเท้าใส่ในบ้านเดินมาหาฉันนั่งลงยองๆลงตรงหน้าฉัน เสียงนิ่งขรึมเอ่ยขึ้นมา "คุณรอผมมากี่ชั่วโมงแล้ว?""รวมๆแล้วก็หนึ่งชั่วโมงที่ฉันรอคุณ" ฉันขมวดคิ้วยุ่งเอ่ยตอบเขา "รวมๆแล้ว?" ฐานทัพเงยหน้านิ่งขึ้นมองฉัน แต่เดี๋ยวนะแววตาแบบนี้ แววตาเหมือนกำลังยิ้ม นี่เขาตลกฉันหรอ แล้วฉันพูด
05(ย้ายเข้าบ้านสามีวันแรก)**** [Part.Dada] หลังจากจดทะเบียนสมรสกับอิตาผู้กำกับขี้เก๊กเสร็จ ฉันก็รีบแยกย้ายมาที่กองถ่าย ทำเวลาอย่างหวุดหวิด เกือบมาไม่ทัน ฉันเป็นคนนึงที่เคร่งเรื่องเวลามาก ไม่อยากให้ใครมาว่าตามหลังได้ "อร้าย" เสียงพี่เอมมี่ไม่รู้นางกรี๊ดกร๊าดอะไรขึ้นมาอีก "มีเรื่องอะไรหน้าตื่นเต้นอีกคะ?" ฉันขมวดคิ้วถามนาง "สำนักข่าวลงข่าวน้องดาด้ากับท่านผู้กำกับเต็มเลยคร้า" พี่เอมมี่ยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันดู -_- ในชีวิตเกิดมาไม่เคยมีแฟนสักคน อยู่ๆฉันก็มีสามีเลย นักข่าวคนที่ทำข่าวฉันคงมีงงกันบ้างล่ะ "ว่าแต่น้องดาด้าจะย้ายเข้าบ้านท่านวันไหนคะ?" "เขาบอกให้ด้าย้ายเข้าวันนี้ค่ะ" ฉันตอบหน้ามุ่ยๆ ไม่รู้จะรีบเร่งอะไรฉันนักหนากว่าจะเลิกกองก็ปาไปสี่ห้าโมงเย็นแล้ว อีกอย่างฉันก็ชอบอยู่คอนโดมากกว่าอยู่บ้านอ่า คิดแล้วเซ็ง "น้องดาด้า" พี่เอมมี่เรียกฉันแล้วอยู่ๆก็เงียบยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ฉัน "..??" อะไรของนางอีกล่ะ "ถ้าผู้กำกับท่านจริงจังกับน้องดาด้าขึ้นมาจริงๆเนี่ย เอายังไงคะ?" "..." ฉันเงียบ ไปไม่เป็นกับคำถามของพี่เอมมี่ แต่ที่แน่ๆฉันสัมมผัสได้อย่างนึง คือตาฐานทัพอะถ้าจะเผด็จการไม่ใช่เล่น
04(นวินดา เกียรติวงศ์กุล)****[Part Dada]"อร้ายคุณพี่ปลื้มใจ..ในความโชคร้ายของน้องดาด้าก็ยังเจอความโชคดี""..." พี่เอมมี่ยังไม่หายกระดี๊กระด๊าตั้งแต่กลับถึงคอนโด มันน่าปลื้มใจตรงไหนกัน อยู่ๆฉันกำลังจะได้สามีอย่างไม่ทันตั้งตัวนี่นะ ถึงเขาจะเป็นแค่สามีในนามก็เถอะ แต่ฉันต้องจดทะเบียนสมรสเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเขาเลยนะ และยังไม่จบแค่นี้นะ"คุณต้องย้ายมาอยู่กับผมเพื่อความสมจริง""อีตาผู้กำกับขี้เก๊ก!" ฉันด่าออกมาหน้ามุ่ยๆ ในข้อสัญญาของเขาฉันมีแต่เสียเปรียบ ทั้งที่เรื่องทั้งหมดฉันไม่ได้เป็นก่อ ต้นเหตุมาทั้งยัยแม่หมมอลวงโลกทั้งนั้น อย่าให้เจอ กรอด! อาฆาต"โอ๊ยคุณน้องขา คุณพี่ไม่เห็นท่านผู้กำกับจะเก๊กใส่คุณน้องตรงไหนเลย แววตาของท่านออกแนวจะเอ็นดูคุณน้องด้วยซ้ำ""เอ็นดู" ฉันฉงนขมวดคิ้วยุ่งกับคำพูดของพี่เอมมี่ สายตาเอ็นดูนะหรอ? เห็นทำแต่แววตาขรึมนิ่งใส่ฉัน แล้วก็แสยะยิ้มกวนๆ ไม่เชื่อหรอก จ้างให้ก็ไม่เชื่อ"เอาเป็นว่า น้องดาด้ารอดจากคดีนี้ ก็ถือเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอคะ อย่าลืมสิว่าน้องดาด้ารักอาชีพนี้มาก" "ใช่ค่ะ ด้ารักมาก" ฉันตอบพี่เอมมี่แล้วเข้าไปกอดนาง กว่าจะเข้ามาวงการนี้ได้มันเหน็ดเหนื่อยมาก
03(พันธสัญญา) ****Per.@ห้องทำงานส่วนตัว"ไหนคุณบอกว่าปล่อยตัวฉันไง?" ดาด้าทำหน้ามุ่น เงยหน้าถามฐานทัพอย่างเริ่่มมีอารมณ์ อีตาผู้กำกับนี่บอกให้ตำรวจพวกนั้นปล่อยตัวเธอกับผู้จัดการก็จริง แต่นี่อะไร? กักตัวเธอมาห้องส่วนตัวคืออะไร เธอไม่เข้าใจ นี่เขาจะมาไม้ไหนกันแน่ "ใจเย็นก่อนนะคะ ท่านอาจมีเรื่องจะพูดกับเราสองคนเป็นการส่วนตัวก็ได้ค่ะ" เอมมี่พูดในเชิงบวกให้ดาราสาวใจเย็น"พี่เอมมี่ก็คอยแต่ให้ด้าใจเย็นอ่า" ดาด้าตวัดสายตาไปงอแงกับเอมมี่ ตั้งแต่ช่วงเช้ายันค่ำเธออยู่สน.มาเป็นวันแล้วนะ ทั้งที่เธอไม่ได้ทำผิดอะไร ทุกอย่างมันคือคราวซวยของเธอ -_- ฐานทัพส่งสายตาเรียบนิ่งมอง ทีเมื่อกี้ยังร้องไห้โอดครวญราวกับเป็นลูกนก แถมยังกอกตาใส่เขาอีก ฐานทัพส่ายหัวไปมา ทำไมเธอถึงได้ขี้โวยวายเป็นเด็กได้ถึงเพียงนี้ เขายังไม่ทันจะได้อธิบายอะไรเลยตีโพยตีพายไปก่อนแล้ว"ผมมีข้อเสนอ..แลกกับคุณไม่ต้องถูกดำเนินคดี" "นั่น...ว่าแล้วเชียว" ดาด้าบนงึมงำพลางมองหน้าหล่อของฐานทัพ...ครั้งที่แล้วเธอเห็นเขาชุดนอกเครื่องแบบ มาวันนี้เขาแต่งเครื่องแบบชุดตำรวจเต็มยศก็..ยอมรับว่าเขาก็ดูดีเหมือนกัน"..." ฐานทัพมองปากอวบอิ่มที่บ่นงึมง
02(ท่านผู้กำกับ...)@โรงพัก"ถ้าให้ข้อมูลกับทางเรา ว่าแม่หมออนิกาหลบหนีไปอยู่ไหน โทษที่คุณครอบครองยาเสพติดสามารถช่วยหย่อนโทษให้กลายเป็นเบาได้นะครับ" ผู้กองหนุ่มหน้าตาดี พูดเกลี้ยกล่อมดาราสาว ด้วยหลักฐานในมือเป็นสารเสพติด คาหนังคาเขามีของกลางอยู่ที่ตัวซะขนาดนี้ ให้เชื่อคงยาก ในสำนักดูดวงกล้องวงจรปิดไม่มีสักตัว จะเอาอะไรมายืนยัน เชื่อได้ยาก!"เอ๊ะ! ฉันก็บอกไปแล้วนะ ว่ามาดูดวง ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว" ดาด้าปรี๊ดแตกลุกพรวดจ้องหน้าตำรวจหนุ่ม แววตากลมโตไม่ได้มีความเกรงกลัว นี่มันคราวซวยอะไรของเธอ "น้องดาด้าใจเย็นๆก่อนนะคะ นั่งลงค่ะ" เอมมี่รีบจับตัวดาราสาวให้นั่งลง กลัวตำรวจจะยัดข้อหาให้เพิ่มอีกกระทงเป็นอย่างมาก "จะให้ใจเย็นได้ยังไงพี่เอมมี่ ในเมื่อเราสองคนไม่ได้ทำความผิดอะ" ดาด้าว่าอย่างใส่อารมณ์ หากไม่ผิด เธอสู้สุดชีวิต"คุณตำรวจขา ดิฉันยืนยันเหมือนกันนะคะ เราสองคนไปแค่ดูดวงจริงๆ อีกอย่างน้องดาด้าก็เป็นดาราดังระดับแถวหน้า จะเล่นยานรกพวกนี้ให้เสียชื่อเสียง ทำไมล่ะคะ" เอมมี่อธิบายทำตาปริบๆใส่นายตำรวจทั้งสาม "เอายังไงดีครับ สารวัตร" รชตผู้กองหนุ่มหันไปปรึกษากับนายตำรวจยศเยอะกว่า เริ่มล
บทนำ(ซวยต้อนรับเบญจเพส!!)****"พี่เอมมี่คิดยังไงพาด้ามาดูไพ่ยิปซีเนี่ย" ฉันถามผู้จัดการส่วนตัวด้วยสีหน้าหงึกๆคือง่วงหนักมาก โทรปลุกฉันตั้งแต่เช้า และที่ต้องมาเช้าคือคิวแม่หมอคนนี้ยาวมาก กว่าจะจองได้ตั้งเป็นเดือน"คุณน้องขา เช้ามา คุณพี่บอกให้ทำหน้าให้มันสวยๆไงคะ เดี๋ยวคุณพี่จะหยิกให้"^~^ ในชีวิตฉันก็มีแต่ผู้ชาย เอ้ย! พี่สาวคนนี้แหละที่เป็นห่วงเป็นใยฉันมากคนนึง"ด้าไม่ชอบดูดวงเลย" ฉันเบะปากคว่ำ ทำตาปริบๆเดินตามหลังพี่เอมมี่ที่ลากแขนฉันให้ตามเข้ามาในสำนัก กลิ่นธูป กำยานคือแตะจมูกมาก"ไม่ได้ค่ะ..ปีนี้คุณน้องอายุยี่สิบห้าเบญจเพส ต้องมาดูดวงค่ะ ถ้าดวงไม่ดีจะได้หาทางแก้แต่เนิ่นๆ" พี่เอมมี่นางตวัดหน้ามาพูดเชิดๆใส่ฉัน นางเป็นคนรักการดูดวงและเชื่อเรื่องมูเตลูมาก เอาเป็นว่าที่ฉันยอมมาก็เพื่อความสบายใจของนางก็แล้วกัน"มาถึงกันแล้วหรอ..""...." น้ำเสียงดูเหมือนคนแก่? แล้วฉันก็ต้องมองตกตะลึงพูดไม่ออก ผู้หญิงหน้าตาคมสวยออกแนวแขก สวมใส่ชุดโบฮีเมียน บนหน้าผากห้อยเครื่องติกะ เธอสวยจัง สวยมากขนาดนี้ทำไมถึงไม่ไปเป็นดารา?"ไม่อยากเป็น ฟ้าลิขิตให้เป็นแบบนี้" น้ำเสียงโทนเย็นตอบ แล้วจ้องหน้าฉัน "...." ค