หลังจากสายป่านพามาลารินทร์ไปฝากงานกับพี่ปุ๊กกี้แล้ว เธอก็ไปติดต่อขอดร็อปการเรียนกับทางมหาลัยเอาไว้ก่อน ถึงแม้จะรู้สึกใจหายแค่ไหนและไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้มีโอกาสกลับมาสวมชุดนักศึกษาอีกครั้ง แต่เธอก็จำต้องเสียสละเพื่อแม่และน้องชาย
ถึงแม้ปริณจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของพี่สาว และรู้สึกเสียใจที่มาลารินทร์ต้องสละโอกาศทางการศึกษา ออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงตนกับแม่ แต่เขายังเด็ก ไม่มีศักยภาพมากเพียงพอที่จะช่วยพี่สาวในตอนนี้ได้ นอกจากจำใจยอมรับ และสัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจเรียนให้สมกับความเสียสละของพี่สาว และช่วยดูแลแม่เป็นอย่างดี เพื่อให้พี่สาวทำงานได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลใจใดๆ
สามเดือนผ่านไป หลังจากมาลารินทร์เข้ามาทำงานเป็นพริตตี้ พี่ปุ๊กกี้ก็หางานป้อนมาอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้ในช่วงแรกๆ จะมีติดขัดอยู่บ้างเพราะรินทร์ยังใหม่มากกับวงการนี้ แต่ก็โชคดีที่ได้สายป่านช่วยสอนงานให้แบบไม่มีกั๊ก อะไรที่เป็นทริคดีๆ เธอจะบอกและถ่ายทอดให้มาลารินทร์อย่างหมดไส้หมดพุง
ตอนนี้มาลารินทร์ถือเป็นพริตตี้แถวหน้าในสังกัดอีกคนหนึ่งเลยที่มีรายได้และมีงานเยอะที่สุด อาจเป็นเพราะความสวยฟ้าประธานของเธอ ทำให้ลูกค้ามักจะเลือกรินทร์ก่อนพริตตี้รายอื่น ๆ เสมอ จนพริตตี้ในสังกัดหลายคนเริ่มเขม่น บางคนถึงขนาดพูดแขวะ หรือพูดกระทบกระเทียบให้ได้ยิน แต่เธอไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไรมากมาย เพราะถือว่าลูกค้าเป็นคนตัดสินใจเลือกเธอไปทำงานแล้ว ดังนั้นเธอควรจะทำงานตอบแทนให้ดีที่สุด ให้คุ้มค่าจ้างที่เจ้าของงานที่ตั้งใจเลือกเธอมา เท่านั้นเป็นพอ
@ ปุ๊กกี้โมเดลลิ่ง
เสียงดังจ้อกแจ๊กจอแจอย่างกับนกกระจอกแตกรัง ของเหล่าบรรดานางแบบและพริตตี้สาวสวยในสังกัด ที่ถูกพี่ปุ๊กกี้นัดให้ประชุมพร้อมกันในวันนี้แต่ไม่ได้แจ้งว่าเป็นเรื่องอะไร ทำให้บรรดาสาวสวยทั้งหลายต่างพากันกะหายใคร่รู้ไปตาม ๆ กัน
“ป่าน ทำไมคนเยอะจังวะแก นี่เด็กพี่ปุ๊กกี้หมดเลยเหรอเนี่ย” มาลารินทร์กระซิบถามเนื่องจากไม่เคยเข้าร่วมประชุมแบบนี้มาก่อน ไม่นึกเลยว่าเด็กของพี่ปุ๊กกี้จะเยอะขนาดนี้ ที่สำคัญแต่ละคนสวยหยาดฟ้ามาก
“ใช่แล้ว แกยังไม่รู้ใช่ไหมว่าพี่ปุ๊กกี้เป็นโมเดลลิ่งแนวหน้าในวงการเลยนะ เด็กแกเยอะแถมยังมีทุกระดับ ทั้งนางแบบ พริตตี้ เด็กเอ็นฯ เพื่อนเที่ยว เพื่อนนอนยังมีเลย”
สายป่านบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงแบบว่า มันเป็นเรื่องปกติมาก แต่มันไม่ปกติเลย สำหรับเธอ ... ใช่แล้ว เธอกำลังกลัวกับคำว่า เพื่อนนอน และดูเหมือนสายป่านจะเดาความกังวลของเพื่อนคนสวยได้ จึงรีบอธิบายทันควัน ก่อนที่เพื่อนจะกลัวไปมากกว่านั้น
“ถึงจะมีคนรับงานแบบนั้นจริง แต่แกไม่ต้องกลัวเพราะพี่ปุ๊กกี้ไม่เคยบังคับใจใคร ทุกอย่างมันแล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละคนพี่เขาไม่เคยเข้าไปแทรกแซง เราเลือกทำแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น แกสบายใจได้” ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะพูดคุยอะไรกันต่อ พี่ปุ๊กกี้ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี
“เอ้า...สาว ๆ ฟังนะคะ ที่พี่เรียกประชุมด่วนเพราะมีงานใหญ่ติดต่อเข้ามา วันอาทิตย์หน้าจะมีการเปิดตัวโรงแรม M โรงแรมหรูหราระดับ 10 ดาว ของคุณเซดริก มาร์ติน ประธานบริหารเครือมาร์ตินกรุ๊ป ทางออแกไนซ์เขาต้องการทั้งนางแบบ พริตตี้ แล้วก็เด็กเอ็นเตอร์เทนลูกค้าด้วย ในส่วนที่เราต้องรับผิดชอบมีสองส่วน ก็คือนางแบบและพริตตี้ซึ่งจะลงงานในช่วงกลางวัน ตั้งแต่พิธีเปิดโรงแรมจนถึงปิดพิธีช่วงบ่าย และในช่วงเย็นจะมีงานแต๊งกิ้วปาร์ตี้ ของทีมผู้บริหารในเครือมาร์ตินกรุ๊ป เขาเลยต้องการน้องๆ ไปเอ็นเตอร์เทน งานนี้มีแต่ลูกค้าชั้นดีนะ พี่รับรองไม่มีการเปลืองเนื้อเปลืองตัวแน่นอนจ้ะ ใครไม่มีคิวงานและสมัครใจจะไปช่วยลงชื่อให้พี่หน่อย พี่จะได้ส่งรายชื่อให้ออแกไนซ์เขาแต่เนิ่น ๆ ถ้าใครลงแล้วห้ามเบี้ยวเด็ดขาดเลยนะ งานใหญ่ขนาดนี้ พี่ไม่อยากให้เสียชื่อ”
“โอ้ยยย ..คุณเซดริกสุดหล่อเหรอคะแค่ได้ยินชื่อก็ใจละลายแล้วค่ะ ถ้าจะเปลืองเนื้อเปลืองตัวถึงขั้นสุดหนูก็จะไม่บ่นสักคำเลยค่ะพี่ปุ๊กกี้ อยากเสียตัวใจจะขาด ” สาวเอ็นฯ นางหนึ่งพูดกับพี่ปุ๊กกี้พร้อมกับรีบลงชื่อเป็นคนแรก ราวกับกลัวจะอดไปก็ไม่ปาน
“ย่ะ .. เบาได้เบานะจ๊ะยัยปุยฝ้าย” พี่ปุ๊กกี้ปรามอย่างไม่จริงจังนัก
“คุณเซดริก? เขาคือใครวะแก” มาลารินทร์ ผู้เพิ่งเข้าวงการพริตตี้ได้ไม่นาน เอ่ยถามสายป่านด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ คุณเซดริก เขาเป็นประธานบริหารของมาร์ตินกรุ๊ป มีโรงแรมในเครือหลายสิบแห่งทั้งในไทยแล้วก็ฝรั่งเศส เห็นเขาร่ำลือกันว่าเป็นมาเฟียด้วยนะแก” ประโยคสุดท้ายเพื่อนสาวกล่าวแบบกระซิบกระซาบเหมือนกลัวว่าใครจะได้ยินอย่างนั้นแหละ
“คงจะหล่อรวยมากเลยสิท่ายัยปุยฝ้ายถึงได้เพ้อขนาดนั้นน่ะ” มาลารินทร์ถามเพื่อนด้วยความสงสัย
“แน่นอนสิ คุณเซดริกเขาเป็นคนฝรั่งเศส หุ่นสมาร์ท มาดเท่ห์ คิ้วหนา ตาคม ผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีฟ้าหม่น มีเสน่ห์มาก ๆ แต่มีบุคลิกเคร่งขรึมไม่ค่อยพูดเท่าไร ฉันเคยเจอเขาอยู่สองสามครั้ง คอนเฟริ์มว่าหล่อจริง” สายป่านตอบ มาลารินทร์ถึงกับมองบนเพราะสายป่านก็พูดถึงคุณเซดริกอะไรนั่นราวกับคนเพ้อ พอๆ กับยัยปุยฝ้ายนั่นแหละ
“เอ้า!!! น้องรินทร์กับสายป่านล่ะ ลงชื่อหรือยังจ๊ะ คิวว่างกันไหมหรือว่ามีงานอื่นที่รับไว้ก่อน ” พี่ปุ๊กกี้เอ่ยถามหลังจากสาว ๆ คนอื่นลงชื่อกันไปหมดแล้ว
“ว่างค่ะพี่ ว่างทั้งสองคนเลยค่ะ มาๆๆ รินทร์ มาลงชื่อ” สายป่านกวักมือเรียกเพื่อนแล้วหยิบปากกาไปลงชื่อพร้อม ๆ กัน
@โรงแรม M เช้าวันอาทิตย์ วันงานเปิดโรงแรมวันนี้มาลารินทร์มีหน้าที่ต้อนรับแขกในโซน VIP และ VVIP ส่วนสายป่านรับหน้าที่เอ็นเตอร์เทนในงานแต๊งกิ้วปาร์ตี้ของทีมผู้บริหารในเครือมาร์ตินกรุ๊ป ซี่งงานจะเริ่มขึ้นในช่วงเย็น หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยเธอก็มายืนประจำที่ตรงหน้างานเพื่อรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติของโรงแรมบรรยากาศภายในงานคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลายสายอาชีพที่เริ่มทยอยเข้ามาในงาน แต่ละคนแต่งตัวสวยสง่าและหรูหรา วันนี้มาลารินทร์เองก็สวยมากเช่นกัน เธออยู่ในชุดราตรีเกาะอกรัดรูปสีโอลด์โรส ช่วงอกปักเลื่อมระยิบระยับสวยงาม ขับผิวขาวเนียนละเอียดให้โดดเด่นน่ามอง ตัวกระโปรงยาวถึงข้อเท้า แต่ผ่าสูงขึ้นมาจนถึงหน้าขา เวลาย่างก้าวทำให้เห็นเรียวขาและปลีน่องขาวเนียนได้อย่างชัดเจนใบหน้างามถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง กลุ่มผมดกดำยาวสลวยหยักศกเป็นลอนถูกรวบหลวม ๆ ไว้ที่ด้านข้างศีรษะ และติดประดับด้วยดอกคัทลียาสีขาวบริสุทธิ์ เรียวปากกระจับเคลือบด้วยลิปสติกสีเดียวกับชุดราตรี ในงานวันนี้ เธอเห็นเหล่าดารานางแบบที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานมากมายหลายคน ยอมรับว่าไม่เคยมีโอกาสเข้ามาในสถานที่หรูหราขนาดนี้มาก่อน“เซ
หลังจากมาลารินทร์ได้เห็นภาพคมชัดระดับ 4K เต็มสองตาก็ได้แต่ยืนตกตะลึง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าจะเห็นเจ้าของโรงแรมของที่นี่จะกล้ามาพลอดรักกับผู้หญิงทั้งที่อยู่ในลานจอดรถโดยไม่กลัวว่าจะมีใครมาเห็น ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายหล่อเนี๊ยบ ดูดีทุกกระเบียดนิ้วที่เธอเห็นในงาน จะเป็นคนหื่นกามแบบนี้“อะไรจะหิวโหยถึงขนาดต้องมากินกันตรงนี้เนี่ย น่าไม่อายจริง ๆ เชียว..ชิ”หล่อนบ่นพึมพำ ในขณะกำลังยืนบ่น หนุ่มสาวที่กอดกันกลมจนแทบจะสิงกันอยู่นั้นก็หันมาเห็นเธอเข้าพอดิบพอดี เธอจึงเบือนหน้าหนีแล้วรีบหันหลังกลับ แล้วก้าวยาว ๆ เดินออกจากลานจอดรถ วันนี้ดวงซวยชะมัดสงสัยต้องกลับไปล้างตาเสียแล้วเมื่อกลับมาถึงบ้าน ป้าแมวบอกกับมาลารินทร์ว่าตอนนี้อาการนางวิมาลาดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ป้าให้แม่เธอกินข้าว ทานยา และอาบน้ำนอนเรียบร้อย เธอกล่าวขอบคุณป้าแมวแล้วรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงไปยังห้องนอนของแม่ทันทีเธอนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง เห็นนางวิมาลากำลังนอนหลับตาพริ้มสีหน้าดูซีดเซียวเล็กน้อย แต่ลมหายใจสม่ำเสมอดี วันพรุ่งนี้ถึงกำหนดหมอนัดตรวจ คืนนี้เธอจะนอนเฝ้ามารดาที่นี่ มือเรียวจับมือมารดามากุมไว้แนบแก้ม หวนนึกถึงวันที่ย
@ห้องทำงานเซดริกเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องและถูกเปิดออกแทบจะทันที ร่างระหงของเจซี่ในชุดเดรสผ้าซาตินสายเดี่ยวสั้นเหนือเข่ากำลังเดินเยื้องย่างเข้ามาในห้องทำงานของประธานหนุ่มอย่างมีจริต หล่อนถือวิสาสะนั่งลงบนตักแกร่งเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าหม่น สองมือโอบรอบคอหนาของบุรุษเพศตรงหน้าแล้วบรรจงกดจูบเบาๆ ตรงคางเขียวครึ้มของชายหนุ่ม“เซดริกขา งานยุ่งมากเลยเหรอคะ ตั้งแต่งานเปิดโรงแรมใหม่วันนั้นคุณก็หายไปเลย เจซี่คิดถึ้งงง คิดถึงงงงง”หล่อนพูดพลางใช้มือลูบไปที่อกแกร่ง ไล้ข้อนิ้วลงไประหว่างร่องรังดุมใช้ปลายนิ้วเรียวสะกิดไปที่ยอดอกของชายหนุ่มจนมันแข็งเป็นไต พลางส่งแววตาหวานหยดย้อยไปให้เจ้าของดวงตาสีฟ้าหม่นเซดริกกัดฟันกรอด พยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ถูกชักจูงไปตามความต้องการของเจซี่ เขามักจะหลีกเลี่ยงการมีเซ็กซ์ในที่ทำงานเพราะไม่ชอบความเร่งรีบ และไม่อยากให้ใครมาขัดจังหวะเวลาที่เขาทำรัก แต่เจอนางแบบสาวยั่วเย้าเชิญชวนถึงขนาดนี้ใครมันจะไปทนไหว ยังงัยก็ต้องฉลองศรัทธากันให้สาสมใจสักหน่อย เขากอดเอวนางแบบสาวเอาไว้แล้วยกหูโทรศัพท์ต่อสายถึงเลขาหน้าห้องทันที“คุณเปมิกา ผมไม่รับสายใครและห้ามให้ใครเข้ามาหาจนกว่าผมจ
กว่าพายุสวาทจะพัดผ่านไปก็กินเวลาหลายชั่วโมง ขณะนี้เป็นเวลาดึกมากแล้วเซดริกหันไปมองนางแบบสาวที่ยังนอนเหยียดยาว หอบหายใจถี่อย่างกับเพิ่งไปออกรบมาก็ไม่ปาน“เจซี่ ลุกขึ้นเถอะ ผมจะกลับแล้ว” ร่างสูงที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนอยู่ที่ข้างเตียง พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ“อื้ออออ.. เซดริกขา คืนนี้เราค้างกันที่นี่ไม่ได้เหรอ คุณจับเจซี่กินแล้วกินอีกตั้งหลายรอบแบบนี้ เจซี่ไม่ไหวนะคะ” เสียงนางแบบสาวทำเสียงออดอ้อน“คุณก็รู้ข้อตกลงของเราดีนะเจซี่ อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำ” เจ้าของแววตาสีฟ้าหม่นกล่าวขึ้น พร้อมกับจ้องหน้านางแบบสาว แววตาของเขาดุดันจนทำให้เจซี่ถึงกับขนลุก“เอ่อ..กะ ก็ได้ค่ะ เจซี่ขอเวลาสักครู่นะคะ”นางแบบสาวลุกจากเตียงเดินเปลือยกายเข้าห้องน้ำแล้วจัดการตัวเองโดยด่วน เพราะหล่อนรู้ดีว่าเซดริกจะไม่ยอมนอนค้างกับหล่อนหรือให้หล่อนนอนค้างกับเขาอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม มันเป็นเงื่อนไขของเขาตั้งแต่แรกที่เริ่มมีความสัมพันธ์กันและก็เป็นแบบนั้นมาโดยตลอด ไม่ว่าหล่อนจะพยายามใช้มารยาออดอ้อนแค่ไหนก็ไม่เคยสำเร็จ แม้กระทั่งการได้เข้ามาใช้ห้องนี้ หล่อนก็พยายามอยู่หลายครั้งและ
@ปุ๊กกี้โมเดลลิ่งมาลารินทร์เดินทางมาที่โมเดลลิ่งทันทีหลังจากได้อ่านไลน์ที่พี่ปุ๊กกี้ส่งมาบอกให้เข้ามาพบด่วน ร่างระหงในชุดเดรสสีเขียวสดใสก้าวเข้ามาแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของรุ่นพี่ ด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรเพราะเธอพยายามถามแล้วแต่พี่ปุ๊กกี้ไม่ยอมตอบ ได้แต่เน้นย้ำว่าให้เธอรีบมาพบด่วนเท่านั้นประตูห้องทำงานพี่ปุ๊กกี้ถูกเคาะ แล้วเปิดออกอย่างช้าๆ ก่อนที่มาลารินทร์จะเดินเข้าไปด้านใน“มาแล้วเหรอรินทร์ นั่งลงก่อนสิ” พี่ปุ๊กกี้เชื้อเชิญให้มาลารินทร์นั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตนเอง“พี่ปุ๊กกี้มีงานอะไรด่วนหรือเปล่าคะ ถึงได้ตามรินทร์มา” เธอยิงคำถามที่ค้างคาในใจโดยไม่เยิ่นเย้อให้เสียเวลา“พี่มีเรื่องบางอย่างที่ต้องบอก รินทร์ยังจำคุณเซดริกได้ไหม คุณเซดริก มาร์ติน ประธานบริษัทมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของโรงแรม M ที่เราไปทำงานเมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะ” ปุ๊กกี้ถามเด็กสาวที่นั่งทำตากลมโตอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ใบหน้าเรียวงามพยักขึ้นลงน้อย ๆ เป็นการตอบรับ“จำได้ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะพี่ปุ๊กกี้ หรือว่ารินทร์ไปทำอะไรผิดพลาดตรงไหนคะ”มาลารินทร์พาลนึกไปถึงเรื่องราวในวันนั้น หรือว่าจะเป็นเพราะเหตุการณ
@โรงแรม Mหลังจากปุ๊กกี้เดินทางมาถึงโรงแรม พนักงานต้อนรับได้เชิญให้เธอไปรอที่ห้องอาหาร VVIP ของทางโรงแรม บรรยากาศในห้องอาหารถูกตกแต่งอย่างดีและหรูหราสวยงาม หล่อนนั่งรอเพียงครู่เดียว นักธุรกิจหนุ่มก็เดินทางมาถึง เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าหม่นนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับปุ๊กกี้“สวัสดีครับคุณปุ๊กกี้ ขอบคุณมากนะครับที่ให้เกียรติมาพบผม เดี๋ยวเราทานอาหารแล้วคุยกันไปดีกว่านะครับ”ชายหนุ่มยิ้มมุมปากมีด้วยท่าทางเป็นมิตร เขายกมือให้สัญญาณพนักงาน เพียงครู่เดียวอาหารก็ถูกนำมาเสริฟทันที บรรยากาศในการทานอาหารเป็นไปได้ด้วยดี มีการพูดคุยในเรื่องทั่วๆ และเรื่องส่วนตัวบ้างประปรายปุ๊กกี้ลอบมองชายหนุ่มตรงหน้า เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อและดูดีมาก ดวงตาสีฟ้าหม่นน่าค้นหา แต่งกายภูมิฐาน น้ำเสียงทุ้มดูน่าฟัง ไม่แปลกใจเลยที่สาวๆ พากันเสนอตัวเข้าหากันเป็นทิวแถว หล่อครบเครื่องขนาดนี้แถมยังรวยติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ ใครได้ไปเรียกว่าสบายทั้งชาติหลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เริ่มพูดเข้าประเด็นตามที่ตั้งใจไว้ทันที“อันที่จริงวันนี้ ผมมีอีกเรื่องที่อยากจะรบกวนคุณปุ๊กกี้ด้วยครับ”“เชิญคุณเซดริกได้เลยค่ะ
วันนี้มาลารินทร์มีงานเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมือง ร่างระหงอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีชมพูหวาน ตัวกระโปรงสั้นเหนือเข่าอวดเรียวขาสวย ผมหยักศกเป็นลอนใหญ่ถูกรวบขึ้นเป็นหางม้าใบหน้าจิ้มลิ้มถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ปากกระจับถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีเดียวกันกับชุด ไหล่มนและท่อนแขนเรียวถูกทาด้วยกลิตเตอร์เป็นประกายระยับเมื่อต้องกับแสงไฟผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่จะเปิดตัวในวันนี้เป็นน้ำหอมของสุภาพบุรุษยี่ห้อดังที่นำเข้าจากฝรั่งเศส และจัดโปรโมชั่นลดราคาสูงสุดถึงห้าสิบเปอร์เซนต์ ทำให้มีลูกค้าและผู้ที่สนใจแวะเข้ามาชมกันเป็นอย่างมาก ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าสุภาพสตรี จึงทำให้บริเวณบูธมีแต่ลูกค้าผู้ชายเนืองแน่น โดยไม่รู้ว่าหนุ่ม ๆ ทั้งหลายที่เข้ามาจะมาด้วยความสนใจในสินค้าหรือสนใจพริตตี้ที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ก็ไม่อาจทราบได้หลังจากมาลารินทร์ได้แนะนำความพิเศษของสินค้าและให้ลูกค้าได้ลองเทสกลิ่นน้ำหอม จนลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อกลิ่นที่ถูกใจแล้ว มาลารินทร์ก็เดินนำลูกค้าท่านนั้นไปที่เคาท์เตอร์บูธเพื่อชำระเงิน หลังจากบริการลูกค้าเรียบร้อยแล้ว จึงหันหลังกลับเพื่อเดินไปยังบูธอีกครั้งแต
@คลับหรูแห่งหนึ่งค่ำคืนนี้เซดริกกับแอลตันมีนัดสังสรรค์กันที่ผับหรูใจกลางเมือง หลังจากที่ไม่ได้มาดื่มด้วยกันนานพอสมควร เนื่องจากช่วงหลังมาร์ตินกรุ๊ป มีโครงการเปิดโรงแรมในเครือใหม่อีกแห่งหนึ่งที่พัทยา แอลตันในฐานะหุ้นส่วนใหญ่จึงต้องบินไปมาระหว่างกรุงเทพฯกับพัทยาเป็นว่าเล่น วันนี้สบโอกาสจึงนัดแฮงก์เอาท์กันตามประสาเพื่อนสนิท โดยแอลตันได้จองห้อง VVIP เอาไว้ เพราะรู้ดีว่าเซดริกไม่ค่อยชอบอยู่ร่วมกับคนเยอะ หลังจากเดินทางมาถึง การ์ดของผับก็เชิญเซดริกก็มายังห้อง VVIP แอลตันนั่งดื่มรอเขาอยู่ โดยมีสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ขนาบข้างอีกสองคน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เจอแอลตันที่ไหนก็ต้องมีสาวข้างกายที่นั่น“มาแล้วเหรอมึง มาๆ นั่งๆ เดี๋ยวกูเรียกน้อง ๆ มานั่งเป็นเพื่อน” แอลตันบอกเพื่อนรักแล้วทำท่าจะเรียกสาวๆ ให้เซดริก แต่เจ้าตัวรีบปฏิเสธ“ไม่ล่ะ วันนี้กูไม่มีอารมณ์”“เฮ้ย!!! อะไรวะ หนุ่มหล่อร้อยแรงม้าอย่างมึงนี่นะไม่มีอารมณ์ เป็นอะไรของมึงวะโดนใครขัดใจมารึไง” แอลตันกล่าวหยอกเย้าเพื่อนรักเซดริกยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแล้วส่งกล่องของขวัญที่อยู่ในถุงกระดาษแบรนด์หรูให้แอลตัน เจ้าตัวรับมาด้วยความงุนงง เมื่
หลังจากวันนั้นเซดริกก็พามาลารินทร์ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้ง จนกระทั่งล่าสุดคุณหมออนุญาตให้ท่านกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ส่วนปริณตอนนี้มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้ว และเขาก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่ต้องห่วงนางวิมาลา เพราะเซดริกได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลให้เกือบสามเดือนแล้วที่มาลารินทร์ย้ายมาอยู่กับเซดริกที่เพนเฮาส์แห่งนี้ เวลาที่มีวันหนึ่ง ๆ หมดไปกับการดูแลเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะจัดเตรียมเสื้อผ้าและอาหารให้ทั้งเช้าและเย็น หลังจากเขาออกไปทำงานแล้วเธอก็จะทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่ไม่ค่อยมีให้ทำเพราะเซดริกจ้างแม่บ้านให้มาทำงานบ้านให้ทุกอาทิตย์ เขาบอกว่าไม่อยากให้คนตัวเล็กเหนื่อย จนบางทีเธอก็บ่นว่าเหงาเพราะไม่มีอะไรจะทำ เขาเลยชวนให้เธอตามไปทำงานกับเขาแก้เบื่อ แต่เธอไม่อยากไปเพราะกลัวจะเป็นภาระของเขาเวลาทำงานมากกว่า“ติ๊ง...ต่องงง”เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น มาลารินทร์นิ่วหน้าสงสัยเพราะเวลานี้เซดริกน่าจะยังทำงานอยู่ แล้วถ้าเขากลับมาจริงก็ต้องมีคีย์การ์ดจึงไม่จำเป็นจะต้องกดออด จะว่าเป็นสายป่านก็ไม่น่าจะใช่เพราะเมื่อครู่เพิ่งคุยโทรศัพท์กันเมื่อครู่ เพื่อนยังบอกเลยว่ากำลังจะเตรียมตัวไปทำงานแล
เช้าวันนี้เซดริกพามาลารินทร์มาเยี่ยมนางวิมาลาที่โรงพยาบาลตามที่ได้รับปากไว้ ก่อนถึงโรงพยาบาลเธอขอแวะซื้อผลไม้ที่แม่ชอบไปฝากท่านก่อนซึ่งชายหนุ่มก็ตามใจไม่ได้ขัด เมื่อถึงโรงพยาบาลมาลารินทร์ถึงกับอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลจะหรูหราอย่างกับโรงแรมแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สายป่านบอกว่าค่ารักษาแพงหูฉี่มือหนาอบอุ่นจับมือเรียวเล็กให้ก้าวเดินไปตามเขาไปยังห้องพักฟื้นของนางวิมาลา เมื่อถึงหน้าประตูที่ติดชื่อของแม่ มาลารินทร์ก็เคาะประตูเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะเปิดเข้าไป เธอเห็นแม่นอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีสายป่าน แอลตัน และปริณอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของนางวิมาลาดูสดชื่นกว่าเดิมมาก คนตัวเล็กรีบเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง นางกอดตอบบุตรสาวพร้อมกับลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู“แม่เป็นอย่างไรบ้างคะ อาการดีขึ้นไหม ทานอะไรได้ปกติหรือเปล่าคะ รินทร์ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ดูแลตอนที่แม่ผ่าตัด” หล่อนถามมารดาด้วยความเป็นห่วง น้ำตาคลอหน่วยตา นางวิมาลายิ้มบาง ๆ แล้วเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว“ไม่เป็นไรหรอกลูก เห็นสายป่านบอกว่าหนูกับแฟนไปงานด่วนที่ต่างประเทศกลับมาไม่ทัน แฟนหนูเลยให้คุณแอลตันกับสายป่านมาช่วยดูแลแม่แทนให้ ขอบใจแฟนหนูด้ว
หลังจากคนตัวโตปราบพยศเด็กดื้อเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลุกไปทำอาหารเย็นเตรียมไว้ให้หญิงสาว ด้วยกลัวว่าหล่อนจะหิวเมื่อตื่นขึ้นมา ในขณะที่ร่างแกร่งกำลังสาละวนกับการทำอาหารอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของใครบางคนเดินเข้ามาในครัว ซึ่งเขาจำเสียงฝีเท้านั้นได้ดี “ของที่กูสั่งได้ครบมั้ย ” แอลตันพยักหน้าพร้อมกับส่งถุงอาหารสดและอาหารแห้งให้เซดริก เขารับถุงอาหารมาจัดเก็บของสดใส่ตู้เย็นและเก็บของแห้งไว้ในตู้วางของแห้ง“แล้วเสื้อผ้าเมียกู่ล่ะ มึงไม่ได้ซื้อมาหรือไง?” เขาเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นถุงเสื้อผ้าตามที่สั่ง“มึงสั่งกูให้ซื้อเสื้อผ้ากับชุดชั้นในของผู้หญิง แต่เสือกไม่บอกไซส์มาแล้วกูจะไปซื้อถูกได้งัยวะ ” แอลตันพูดพลางส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน“เฮอะ..กูเพิ่งรู้ว่าเรื่องแค่นี้เพลย์บอยอันดับหนึ่งอย่างมึงก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา” เซดริกพูดเน้นเสียงหนักแสดงอาการหงุดหงิด ในขณะที่แอลตันยักคิ้วให้อย่างยียวนก่อนจะตอบกลับเพื่อนสนิทออกไป“กูไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกน่า คนอย่างกูสมองอัจฉริยะเรื่องแค่นี้ทำไมกูจะแก้ไม่ได้วะ” แอลตันพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับหันหน้าไปทางประตูทางเข้า เซดริกได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของใครคนหนึ่ง
หลังจากบทรักเร่าร้อนผ่านไป มาลารินทร์ก็หลับไปนานโขรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูกจนท้องร้องประท้วงด้วยความหิวทันที เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอาหารตกถึงท้อง เพราะเซดริกเอาแต่จับเธอกินจนเหนื่อยและหมดแรงหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวเป็นอย่างมาก ที่นอนข้างกายว่างเปล่าไร้เงาของเซดริก นาฬิกาบนผนัง บอกเวลา 15.30 น. เธอลุกจากเตียงนอนและเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายโดยใช้เวลาในห้องน้ำอยู่นานพอสมควรเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ร่างบางก็ก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้มร่างกาย บนศีรษะมีผ้าขนหนูผืนเล็กพันผมเอาไว้ มาลารินทร์นั่งลงบนเตียงแล้วเช็ดผมที่เปียก เธอต้องกลับบ้านเพื่อนำเงินที่ได้ไปจัดการเรื่องการผ่าตัดของแม่ นี่ก็ผ่านไปวันสองวันแล้วที่ไม่ได้ติดต่อทางบ้าน ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้างเมื่อเช็ดผมเสร็จก็เดินสำรวจไปทั่วห้องนอน พบชุดกองอยู่บนพื้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็ต้องถอนใจเพราะสภาพชุดขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี ชุดชั้นในก็ไม่มีเพราะใช้แต่สติ๊กเกอร์ปิดจุก ส่วนแพนตี้ตัวน้อยก็ถูกเขากระชากจนขาด แล้วจะออกไปจากที่นี่ไ
คนตัวเล็กหอบหายใจถี่รัว หลังจากเสร็จสมจากการถูกปรนเปรอด้วยปากและลิ้นร้ายกาจของชายหนุ่ม เซดริกไม่ปล่อยให้เธอหยุดพักนาน เขาใช้ฝ่ามือหนาจับอาวุธคู่กายขนาดใหญ่ไซด์ยุโรปชักรูดขึ้นลงเบาๆ เพื่อเตรียมความพร้อม เมื่อมาลารินทร์เห็นแท่งรักขนาดใหญ่ตรงหน้า เธอถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะยังเข็ดกลัวจากการร่วมรักรุนแรงครั้งก่อนหน้า ร่างเล็กจึงกระถดถอยหนีโดยอัตโนมัติ ดูเหมือนเจ้าของดวงตาสีฟ้าหม่นดูจะเข้าใจในท่าทีตื่นกลัวของหญิงสาว เขาจึงขยับเข้าตระกองกอดร่างเปลือยแล้วจูบปลอบประโลมเบา ๆ ที่ขมับชื้นเหงื่อเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวลลง“ไม่ต้องกลัวนะครับเมีย ผัวสัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรง ถ้าเจ็บหรือไม่ไหวก็บอกผมนะ ”เขาปลอบประโลมเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ปรารถนาแล้วดันร่างเล็กให้นอนลงบนเตียง เซดริกนั่งคุกเข่ากลางหว่างขาขาวแล้วยกขาเรียวขึ้นวางพาดบนบ่า ดึงสะโพกของเธอเข้ามาใกล้ จับปลายหัวหยักถูไถไปที่ปากทางรักคับแคบแล้วค่อย ๆ ดันเข้าไปในร่องสวาทนุ่มนิ่ม ในขณะที่ท่อนเอ็นถูกบีบรัดด้วยช่องทางคับแคบจนชายหนุ่มรู้สึกคับแน่นไปหมด“อุ้ย...ซี๊ดดด เบาๆ ค่ะคุณเซดริก รินทร์อึดอัดจังค่ะ”มาลารินทร์ร้องห้ามเสียงแผ่วเบา
มาลารินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อแสงแดดยามสายที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องนอนสุดหรูตกกระทบไปที่ดวงตา วินาทีแรกที่เธอรู้สึกเมื่อขยับตัวคืออาการเจ็บแปลบบริเวณใจกลางความเป็นสาวและรู้สึกปวดศรีษะเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถลืมตาได้เพราะรู้สึกแสบตากับแสงแดดจ้าที่ส่องมากระทบเธอยกมือดันที่นอนเพื่อจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแต่กลับสัมผัสไปเจอสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคุ้น มันนุ่มนิ่มและให้ความรู้สึกอุ่นในอุ้งมือเธอจึงค่อยๆ ลูบไล้สิ่งนั้นเบา ๆ ปรากฏว่าเจ้าสิ่งนั้นกลับขยายตัวคับพองเต็มมือแล้วกระตุกราวกับสิ่งมีชีวิต มาลารินทร์ตกใจสุดขีดจนรีบลืมตาขึ้นมามอง และเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือได้ถนัดตาเธอถึงกับหน้าแดงก่ำ“ว๊าย...อุ๊บ!!”เธอร้องด้วยความตกใจแล้วรีบเอามือปิดปากตัวเอง เพราะสิ่งที่จับอยู่เต็มมือคือความเป็นชายของเซดริกที่ขยายใหญ่จนเต็มความยาว มาลารินทร์ชักมือกลับแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องที่ไม่เคยคุ้น ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงแรมเมื่อคืนแล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนและมาที่นี่ได้ยังไงมาลารินทร์ค่อย ๆ ขยับตัวถอยห่างจากเซดริกที่กำลังนอนหลับอยู่ ในใจภาวนาขออย่าให้เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เพราะต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขา
เซดริกถอดเครื่องป้องกันออกจากลำรักแข็งแกร่งแล้วนำไปทิ้งถังขยะในห้องน้ำ เขาใช้เวลาในการอาบน้ำชำระร่างกายและคราบเลือดที่ติดอยู่ที่หว่างขาของตัวเองอยู่นานหลายนาที ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งในสภาพเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพคลอนสวย ส่วนท่อนล่างมีผ้าขนหนูพันกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่เขาเดินมาหยุดที่ข้างเตียง มองร่างบอบบางที่นอนหลับตาพริ้มและหายใจสม่ำเสมอแล้วยกยิ้มที่มุมปากอย่างเอ็นดู คนเก่งของเขาหลับไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจากการร่วมรักครั้งแรกประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่ดื่มเข้าไปจึงทำให้เธอหลับลึกเช่นนี้ร่างแกร่งนั่งลงที่ขอบเตียง หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เปียกหมาด เช็ดหน้าตาและเนื้อตัวให้อย่างเบามือ ไม่เว้นแม้กระทั่งจุดกลางกายสาวที่เพิ่งรับความเป็นชายของเขาเมื่อครู่ มือหนาจับเรียวขาของเธอแยกออกจากกันแล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จนเห็นกลีบกุหลาบแดงช้ำและบวมเป่งเพราะเพิ่งผ่านการร่วมรักกับเขามาหมาด ๆจริงอยู่ที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมาแค่รอบเดียว แต่ด้วยขนาดใหญ่ไซด์ยุโรปของเซดริก จึงไม่แปลกที่ความเป็นสาวของมาลารินทร์จะบวมช้ำได้ขนาดนี้ ปกติเขาไม่เคยร่วมรักแค่รอบเดียวแต่เพราะความรู้สึกผิดที่ทำกับเธอด้วยความ
หลังจากได้ยินสิ่งที่เซดริกพูดออกมา มาลารินทร์ก็ไม่สนใจเขาอีก เธอไม่ได้ขัดขืนแต่ก็ไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเขาเหมือนกับครั้งแรก เพราะตอนอยู่ในห้องอาหารเซดริกสัมผัสเธออย่างอ่อนโยนทะนุถนอม ต่างจากตอนนี้ที่เขาทำกับเธออย่างรุนแรงปนเอาแต่ใจเซดริกประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจูบเธอเร่าร้อนรุนแรงและเร่งเร้าให้เธอจูบตอบ แต่หญิงสาวปล่อยให้เขาทำอยู่ฝ่ายเดียวโดยไร้การตอบสนองจนเขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังประชดอยู่ ชายหนุ่มถอนจูบออก ดวงตาสีฟ้าหม่นจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอจนพบกับว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ“จะเล่นแง่อะไรกับผมอีก” เขาถามเสียดุ แต่อีกฝ่ายเลือกหลับตาลงโดยไม่ยอมตอบคำถาม“ต้องการแบบนี้ใช่ไหม?”เซดริกยันกายลุกขึ้นแล้วกระชากแพนตี้ตัวบางของเธอจนขาดติดมือ มาลารินทร์สะดุ้งตกใจจนเผลอลืมตาขึ้นมอง เซดริกถอดกางเกงชั้นออกจากร่างเผยให้เห็นความเป็นชายขนาดใหญ่ไซส์ยุโรปมาลารินทร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอวัยวะเพศของผู้ชาย และความใหญ่โตมโหฬารของอาวุธประจำกายนั่น ทำให้หวาดกลัวและเกรงว่าจะรับความเป็นชายของเขาไม่ไหวมาลารินทร์ลุกขึ้นนั่งชันเขาแล้วกระถดตัวถอยห
มาลารินทร์กำลังเคลิบเคลิ้มกับจูบของชายหนุ่มที่เธอไม่เคยพานพบมาก่อน มันคือความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยทำกับใคร เซดริกสัมผัสมาลารินทร์อย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม ทำให้ความตื่นกลัวและความกังวลในตอนแรกของเธอค่อยลายลงและมีความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเข้ามาแทน เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ฝ่ามือหนาสัมผัสกับทรวงอกเต่งตึงโดยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกปิด เธอสะดุ้งสุดตัว คล้ายๆ กับตื่นจากภวังค์ แล้วรีบเอามือปิดทรวงอกอวบไร้บราเซียที่มีเพียงสติ๊กเกอร์สีเนื้ออ่อนปิดจุกเอาไว้เท่านั้น“คุณเซดริกคะ ปล่อยรินทร์ค่ะ”หล่อนละล่ำละลักพูดกับชายหนุ่มด้วยอาการตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด ดวงตาคมสีฟ้าหม่นก้มมองทรวงอกคู่งามโผล่พ้นสองมือเล็กที่ปกปิดไม่มิดนั่น เซดิรกจ้องมองมาลารินทร์ด้วยแววตาพิศวาสจนแทบจะกลืนกิน เขาไม่ยอมปล่อยตามที่เธอสั่งแถมยังเลื่อนฝ่ามือมาลูบไล้เรียวแขนเปลือยจนเธอขนลุกชันมาลารินทร์อาศัยจังหวะนี้หยิบชายผ้าเสื้อคล้องคอขึ้นมาผูกอย่างลวก ๆ แล้วลุกขึ้นยืนทันทีแต่ด้วยแอลกอฮอลล์ในร่างกายที่ยังไม่หมดฤทธิ์ ทำให้คนตัวเล็กยืนโงนเงนจนเสียการทรงตัวเซดริกลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง สีหน้าแสดงความไม่พ