“แม่ หนูไม่ไหว ทำไมวันนี้เหมือนจะตาย ทั้งเพลีย ทั้งจะอ้วก อุ๊ปส์ อ้วก...” ตอนนี้พ่อกับแม่ช่วยกันลูบหลัง และหายาดมให้ฉันอลม่าน ก่อนที่พ่อจะพยุงฉันกลับเตียง ไปบีบไม้บีบมือให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น “อ้วกลมตลอดเลยเจ้าปลาย ไปหาหมอไหม ไม่สิคุณเป็นหมอสูติมาก่อน ลูกเป็นแบบนี้ปกติไหม” พ่อหยุดบีบมือฉัน ไปแตะนิ้ววัดชีพจรแทน “ไม่ปกติ เดี๋ยวผมหายาลดอาเจียนให้” แล้วพ่อก็เปิดถุงยาที่ไม่รู้เอามาจากไหน สงสัยจะเป็นยาที่ลุงนายฝากมาให้ฉันนั่นแหละ ขณะที่พ่อแกะยาให้ฉันกิน และยกน้ำให้ดื่ม ฉันก็รู้สึกว่าตัวเอง กำลังจะ... “ยากินก่อนอาหาร ไม่ดีขึ้นยังไง ค่อยว่ากัน” “อ้วก...” พ่อพูดไม่ทันขาดคำ น้ำกับยาที่ฉันกินไปเมื่อกี้ ก็พุ่งใส่พ่อหน้าทันที ฉันไม่รู้จะขอโทษท่านยังไง ฉันไม่ไหว ตอนนี้เริ่มคาวไปทุกอย่างเลย อีข้าวต้มบ้า ๆ นี่ด้วย เอามันออกไป! “เจ้าปลาย... โอ้ย! คุณทำยังไงดี ลูกอ้วกจนหน้าแดงแล้ว ดูสิไหปลาร้าชัดมาก ผอมมาก ตอนท้องฉันไม่เป็นแบบนี้นะ” “แม่... อ้วก...” พ่อไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบอุ้มฉันลุกข
“หมอนาวา ตอนนี้แม่ถึงโรงพยาบาลแล้ว ไม่ตัองเป็นห่วงนะ” (ผมฝากแม่ด้วยนะครับ ยังไงผมจะรีบกลับไป) “จ้ะ ๆ” ฉันกดวางสายพร้อม ๆ กับรถยนต์คันหรูของพี่ชายจอดสนิท วันนี้ฉันวิ่งวุ่นทำข้าวต้มให้ลูกตั้งแต่เช้า เพราะแฟนยัยลูกสาวตัวดีเขาโทรมา บอกว่าเธอไม่รับสายตั้งแต่เมื่อคืน เขาเป็นห่วงว่าจะไม่สบายเข้า แหงล่ะ ฉันได้ข่าวว่าเจ้าปลายอยู่โรงพยาบาลทั้งวัน หายใจเข้า หายใจออกแถวนั้นก็มีแต่คนป่วย แต่ขณะที่ฉันเอี้ยวไปหลังรถ เพื่อจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กของลูกสาว พี่สะใภ้ฉัน เธอก็ทักท้วงด้วยสีหน้าตกใจ “บีม ทำไมหน้าซีด?” ฉันไม่สนใจ พยายามหยิบกระเป๋าต่อ แต่ทว่าอยู่ ๆ ยิ่งเอื้อม ฉันยิ่งมึนขึ้นมา ฉันหันเร็วไปเหรอเนี่ย ลืมไปว่าตัวเองอายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว “โอะ... ฉันเวียนหัวกิ่ง ฉันจะเข้าสู่วัยทองแน่เลย เมนส์เริ่มขาดแล้ว” ฉันหันกลับมานั่งปกติ และกุมขมับตัวเอง จนพี่สะใภ้เธอเอี้ยวไปหยิบกระเป๋าใบนั้นแทน และยื่นยาดมให้ฉัน “วัยทองอะไร เธอเพิ่งสี่สิบหกเอง เครียดรึป่าว? ตื่นเช้าไป หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ?” กิ่
“แม่...” เจ้าปลายค่อย ๆ ยันตัวขึ้นนั่ง เรียกฉันอย่างสงสัย ตากลมโตคู่นั้นมองฉันสลับกับถุงยาในมือกิ่ง ที่ตอนนี้ถูกเอาไปวางไว้ข้าง ๆ เตียงเธอ “บีม... คุณเป็นอะไร? ทำไมนั่งรถเข็น?” หมอพีทรีบนั่งคุกเข่าจับมือฉัน ถามด้วยความเป็นห่วง จนกิ่ง เดินกลับมาบีบไหล่สองข้างเบา ๆ เรียกความกล้าและสติฉัน “บอกไปเถอะบีม” เมื่อทั้งสองได้ยิน ก็ขมวดคิ้วสงสัยยิ่งกว่าเดิม “เอ่อ ฉันหน้ามืด เลยไปที่ห้องฉุกเฉินมา” เท่านั้นแหละ อาจารย์หมอตรงหน้า เขาก็รีบวัดชีพจรฉันทันที ก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ จับมือเขาออก ไปวางที่ท้องตัวเองแทน “คุณ... คือฉัน” “ครับ คุณปวดท้องเหรอ?” ฉันส่ายหน้าเบา ๆ ฉันไม่เคยมีโอกาสบอกเขาตรง ๆ แบบนี้เลย มันประหม่าและตื่นเต้นจนพูดไม่ออก แต่ยังไงฉันก็ต้องบอกเขาอยู่ดี เพราะสายตาที่จับจ้องฉันตอนนี้ ดูเป็นห่วงฉันมาก “ฉันท้อง...” “ท้องเสีย?” ให้ตาย! ถ้าฉันถือถุงยาอยู่ ฉันจะปาใส่หน้าเขาเลย หมดอารมณ์ “ท้องกับคุณ...” ฉันพูดเสียงแข็ง จนเขาลุกขึ้นยืน จ้องฉัน ส่วนลูกสาวที่กำลังจะเป็นลูกสาวคนโต เธ
“ภรรยาผมตั้งท้องครับ” “เอ่อ... ขอโทษนะ คุณอายุเท่าไหร่ครับ?” ตอนนี้ฉันกำลังเป็นคนไข้พิเศษใช่ไหม มีหมอสูติตั้งสามคนล้อมรอบ แถมยังมีผอ.มายืนซักประวัติอีก “สี่สิบหกค่ะ” หมอนายถอนหายใจ แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเอง “เฮ้อ... ตั้งแต่ภรรยาผมคลอดแฝดสาม ก็ไม่ยอมท้องอีกเลย โชคดีมากหมอพีท บอกสูตรผมด้วยนะ อยากมีอีกเหมือนกัน ฮ่า ๆ” พูดเป็นเล่นไป! ฉันได้ยินหมอ ๆ เขาคุยกันก็อดขำตามไม่ได้ ดูพวกเขาไม่ตกใจถึงความเสี่ยงลูกในท้องฉันเลย หรือก่อนหน้านี้ จะมีคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉัน ท้องมาแล้วเป็นเรื่องปกติ? และลูกก็แข็งแรงปลอดภัยดี? หลังจากหมอนายเอาผลตรวจออกไป หมอเคนก็เจาะเลือดให้ฉันแทนพยาบาล คนที่พยุงฉันอย่างทุลักทุเลขึ้นเตียงคือหมอพีท ว่าที่คุณพ่อหัวหงอก ที่ยิ้มแก้มปริ ทาเจลที่ท้องฉันด้วยความตื่นเต้น “พ่อจะส่งเลือดตรวจเพศวันนี้เลย ลูกชายนะครับ” จ้า ขอให้สมหวัง ฉันนอนยิ้มมองตามมือที่เขาจับอุปกรณ์วาง ก่อนที่จะได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตัก และน้ำตาไหลพรากออกมา ‘ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ’ “เสียง
“ตรงนี้ก็ได้นะ ถ้าไหว” โอ้ย~ จะไหวได้ไง คุณหมอดุขนาดนี้ ฉันไม่ไหวแน่ “เบบี๋... อ๊ะ~ ห้องน้ำเถอะ อ๊ะ อ๊าส์” ฉันเริ่มคลำหน้าอกสองเต้าตามจังหวะลิ้นเขา ถ้าจะกระดกลิ้นถี่ ๆ รัว ๆ แบบนี้ แม่จะเสร็จใส่หน้าพ่อแล้วนะ ละ ลูก! ‘จ๊วบ~’ “อ๊าส์!” ใบหน้าซีดเผือดเริ่มเปลี่ยนสีขึ้นมา เมื่อลิ้นคุณหมอศัล กระตุ้นให้เลือดสูบฉีดอีกครั้ง ฉันร้อนผ่าวตั้งแต่แก่นสาวไล่ไปถึงแก้มสองข้าง ที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อและมีเลือดฝาด เพราะปลายลิ้นเขาผู้เดียว แล้วเจ้าของลิ้นซนก็ขยับขึ้นพรมจูบตามหน้าท้อง เขาพ่นลมหายใจอุ่น ๆ รดรอบ ๆ สะดือไม่หยุดหย่อน แถมยังลูบไล้ไปถึงบั้นท้าย และกระชับมือทั้งสอง คลึงมัน โอ้ย... ฉันต้องการเขาอีกรอบ ต้องการอีก! “พ่อบอกว่าไง เวลาพ่อไม่อยู่ อย่าดื้อกับแม่” ‘จุ๊บ~’ ดุลูกเสร็จ เขาก็ขยับขึ้นมาคลอเคลียทรวงอกฉันทันที ก่อนที่มือใหญ่จะนวดคลึงซ้ายที ขวาที ราวกับสำรวจว่ามีอะไรผิดแผกไปจากเดิม “นมใหญ่ขึ้น” ‘จ๊วบ~’ ฉันถึงกลับขนลุกซู่ เมื่อคุณ
“อาจารย์บอกแล้วล่ะ เหลือเชื่อ แม่ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ งานบ้านกับข้าวไม่ต้องทำ จะดีที่สุด” เขาหันไปกำชับแม่ฉันทันที ดูสิ คนอะไรสามารถสั่งได้ทุกคน “จ้า กลับบ้านแม่จะหยุดแล้วล่ะ นี่ยายยังไม่รู้เลยนะ ไม่กล้าบอก จะเซอร์ไพรส์ก็กลัวยายสายบัวดีใจจนช็อก” ใช่... ฉันนึกรีแอคชั่นยายไม่ออกเลย ถ้ารู้ว่ามีหลานรุ่นเดียวกับเหลน ยายจะทำหน้ายังไง แล้วป้าหวานที่ยืนคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงนานสองนาน ท่านก็เดินกลับมากอดลูกชาย “นาวา ลูกกลับมาเร็วก่อนกำหนด เมื่อกี้แม่โทรไปขอฤกษ์ใหม่ให้แล้วนะ แต่... แม่ขอดูใบประกาศคนสอบผ่านก่อน” ป้าหวานแบมือตรงหน้าเขาทันที จนคุณหมอศัลเขาขมวดคิ้วใส่แม่ “แม่ไม่อ่านไลน์กลุ่มเหรอครับ? ผมส่งไปแล้ว นี้ผมต้องเอาใบนั้น ออกมาโชว์ทุกคนเหรอ?” อีกแล้ว อีกแล้ว! แขวะแม่ตัวเองอีกแล้ว “งั้นก็ไปดูชุดแต่งงานอะไรไว้ให้เรียบร้อย เพราะกำหนดการคือ ศุกร์หน้า” ศุกร์หน้า! “ช้าไป” What! ฉันอ้าปากค้าง มองเขากับป้าหวานสลับกัน ฉันว่าป้าหวานใจร้อนแล้วนะ แต่มีคนใจร้อนกว่า! “ช้าตรงไหนนาวา แม่
เยี่ยมหลานเสร็จ คุณหมอเขาก็ยืมรถพ่อไปส่งแม่ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปไหว้ยายที่กำลังนั่งยิ้มแก้มปริ เมื่อเห็นหลานเขยกลับมา “คิดถึงหมอนาวาที่สุดเลย” จ้า... เขาอ้อนกัน “เช่นกันครับ สบายดีนะครับ” ยายพยักหน้าแล้วควงแขนเขาไปนั่งที่โซฟา “มาถึงนานรึยัง?” “เพิ่งมาถึงเมื่อเช้าครับ ยายครับ มะรืนนี้ผมกับปลายฟ้าจะแต่งงานกันแล้วนะครับ” อึ้ง... ดูดิ ยายฉันยังอึ้งเลย เขาเพิ่งมาถึงเมื่อเช้า มะรืนแต่ง คนปกติที่ไหนเขาทำกัน! “จริงเหรอ? ไวนะ” “หมอนาวาเขารีบน่ะค่ะแม่ หนูเลยรีบด้วย” แม่ฉันเริ่มขยับไปหายายอีกคน ค่อย ๆ ตะล่อม สงสัยกลัวยายช็อก “ทำไมรีบ? รีบอะไรบีม?” “หนูจะแต่งพร้อมลูกเลยค่ะ ประหยัด” ประหยัด! นี่ไงเหตุผลแม่ เค็มกว่าเกลือก็แม่ฉันนี่ล่ะ “อ้าวเหรอ? มีฤกษ์ดีมะรืนนี้เหรอ?” “ไม่มีฤกษ์ค่ะ แต่งง่าย ๆ” ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ แค่นี้ยายฉันก็ยกมือทาบอกเหมือนจะช็อกไปแล้ว หลังจากอธิบายเหตุผลล้านแปด สุดท้ายยายฉันก็ไม่ได้ขัดอะไร ส่วนเรื่องกำลังจะมีหลานรุ่นเดียวกับเหลน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราก็ออกไปเลือกชุดแต่งงานกัน ระหว่างทางฉันตอบไลน์เวียร์ไทม์แทนเขาไม่หยุด เพราะตอนนี้ไทม์สั่งพนักงานจัดโต๊ะ และวางโครงแบลคดรอปให้แล้ว เหลือแค่ดอกไม้สดที่ร้านฉันเท่านั้นแหละ ที่ต้องไปจัดเพิ่มเติมทีหลัง ที่ร้านเวดดิ้ง ก็ค่อนข้างต่างจากงานเพื่อนหน่อย เพราะในกลุ่มมีแค่ฉันคนเดียวมั้ง ที่แฟนมาเลือกชุดแต่งงานด้วย เขินอะ บอกเลย เปลี่ยนชุดออกมาเห็นเขานั่งสวมชุดทักซิโด้ แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงยังไงอย่างงั้น เขาหล่อมาก ออร่าพุ่งมาก! “เอ่อ เบบี๋ ชุดนี้เป็นไง” ฉันหมุนตัวให้เขาดูซ้ายขวา จนเขารีบยกมือห้าม “ไม่ต้องหมุน เดี๋ยวล้ม” ง่ะ! ยังไงล่ะ “สวยไหมเจ้าคะ?” “อืม แน่นท้องไหม?” ฉันลูบท้องเบา ๆ แล้วส่ายหน้าตอบเขาไป ชุดที่ฉันเลือกเป็นชุดเปิดไหล่มีระบายยาวลากพื้น พอดีฉันถูกห้ามไม่ให้ใส่ส้นสูง ฉันจึงเลือกกระโปรงยาว ๆ ปิดเท้าตัวเอง “สวย... เอาชุดนี้ครับ” ง่าย ๆ แป๊บ ๆ จบ ฉันจึงรีบถ่ายเซลฟี่ตัวเองส่งไลน์กลุ่มให้เพื่อนดู จนรู้ว่า พวกนั้นออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านตัวเองแล้
“พ่อครับ ผู้หญิงที่ผมคบด้วยเอาแต่ใจมาก ผมจะเลิกแล้วล่ะ ปวดหัว” ผมหันมองลูกชายที่นั่งเบาะข้างแวบนึง ลูกชายอายุสิบสี่ จะมีแฟนก็ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน แล้วแต่ละคนที่เลิกก็จะมาปรึกษาผมแบบนี้ กับแม่เขาไม่ปรึกษาหรอก เพราะปลายฟ้าจะบอกแค่ว่าให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุย แต่ผมไม่... “อืม ก็เลิกสิ ถ้าปวดหัวก็เลิก อย่าให้กระทบการเรียน” ลูกชายเม้มปากแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน ลูกไฮโซออกรุ่นไหนก็จัดรุ่นนั้น ฝีมือแม่เขา นั่นแหละ ชอบสอนให้ลูกฟุ่มเฟือย ซึ่งผมเตือนแล้วเตือนอีกเพราะอดห่วงตอนส่งไปเรียนอังกฤษไม่ได้ ถ้าลูกใช้เงินไม่คิดแบบนี้ ผมกับเมียได้กินแกลบกินเกลือแน่ “พี่ณเพชรจะเลิกกับผู้หญิงอีกแล้วอ่ะ ณพิม มาดูเร็ว ๆ” สองแสบรีบเกาะเบาะ ยื่นหน้ามาดูจอโทรศัพท์กับพี่ชาย แต่ณเพชรรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้แล้วเบือนหน้าหนี “เอ้า ทำไมเก็บแล้วล่ะคะ ปรึกษาได้นะ ณพิมก็ผู้หญิง” ณพิมยังใจจดใจจ่ออยากดูโทรศัพท์ แต่ณพลอยเธอมีเป้าหมายใหม่ ลุกขึ้นเกาะเบาะผม ก่อนจะยื่นแขนเล็ก ๆ ขอ
สิบปีผ่านไป... “ณภัทร ณเพชร กลับได้แล้ว” ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ฉันเป็นยายแก่ที่ยืนโบกไม้โบกมือหน้าโรงเรียนมัธยม ฉันมารอรับลูกกับหลานทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เว้นแต่หลานสาว ที่หมอนาวาพ่อพวกเธอเป็นคนไปรับเอง เพราะณพลอย ณพิมเรียนโรงเรียนประถมที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก ก็พ่อเจ้าหล่อนเล่นหวงขนาดนั้น ฉันบอกให้ย้ายโรงเรียนมาเรียนกับปลายฝนก็ไม่ยอม! หมอนาวาไม่อยากคาดสายตาไปไหน เขาทำงานที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ ว่างเขาก็แว๊บไปดูลูกได้ตลอด ส่วนณเพชรรายนั้นไม่น่าห่วงแล้ว เพราะเขาโตเป็นหนุ่มอายุสิบสี่เรียนโรงเรียนเดียวกับน้า แหงล่ะอะไรก็น้า ๆ เขาน่ะตัวติดน้าอย่างกับอะไร เด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมหน้าตาก็ไม่ไกลกันมาก บางทีฉันก็แก่จนเรียกผิดเรียกถูก ไม่รู้คนไหนลูกคนไหนหลาน ยิ่งทั้งสองกำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยกำลังโตที่นั่งเล่นเกมส์ เหล่หญิง และอ่านหนังสือกัน เรื่องอ่านหนังสือต้องยอมรับลูกชายฉันณภัทร เขาสอนหลานได้ดีมาก เขาติวหนังสือให้กันจนติดท็อปโรงเรียนทั้งคู่ ผิดกับปลายฝนลูกสาวบุญธรรม รายนั้นเธอชอบวาดรูปชอบศิลปะ ทุกครั้งที่หนุ่ม ๆ ทวนวิชา
สรุปแม่ฉันก็ได้เด็กคนนั้นมาเลี้ยง ใช่ค่ะเธอน่ารักจริง ๆ เรียบร้อยมาก ณภัทรก็ดูรักมาก กลับจากโรงเรียนก็หอม ตื่นเช้าจะไปโรงเรียนก็หอม ฉันพาสองสาวไปเลี้ยงที่นั่นบ่อย เห็นแทบทุกช็อตทุกตอน และเห็นอีก ว่าแม่แทบไม่ต้องเลี้ยงเจ้าหนูคนนั้น เธอเหมือนเด็กที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว เอาแต่มองหน้าทุกคนแล้วยิ้ม เจ็บปวดอะไรก็ต้องเจ็บปวดจริง ๆ ถึงจะร้องแอ๊ะออกมา แค่ร้องแอ๊ะนะ เรื่องร้องงอแง แม่บอกว่านอกจากวันแรกที่เห็นที่โรงพยาบาล แม่ก็ไม่ได้เห็นอีกเลย “ปลายฝนไม่ร้องแบบนี้ แม่รู้ได้ไงคะว่าน้องหิว?” “กะเวลาเอาสิ ปลายฝนจะหิวและทำอะไรตามเวลาเป๊ะ ๆ แล้วสองสาวล่ะ อยู่กับลูกที่บ้านดื้อไหม?” “ไม่ดื้อค่ะ จะว่าไปตอนนี้หนูเริ่มชินแล้ว หน้าที่แม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แบบว่า เหนื่อยจนชินค่ะ” แม่ขำเบา ๆ พร้อมกับเขย่าขวดนมเตรียมป้อนปลายฝน ก่อนที่ฉันจะอุ้มณพลอยเข้าเต้าอีกคน และนั่งมองน้องไปด้วย ปลายฝนเป็นเด็กที่ไม่เหมือนเด็ก แววตาเธอเหมือนผู้ใหญ่ที่เฝ้าสังเกตและสำรวจตลอดเวลา ฉันไม่อยากเชื่อ ว่าเด็กเดือนกว่า ๆ จะรู้เรื่องและทำอะไรทุกอย่างเป
คุณน้ำหวานยิ้มให้ฉัน เหมือนเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง เราเป็นแม่คนและมีหลานเหมือน ๆ กัน เราดูกันออก แล้วคุณน้ำหวานก็พาฉันไปที่ห้องเด็กอ่อนทันที ที่ตอนนี้ในห้อง มีตำรวจสองสามคนยืนคุยกับกุมารแพทย์ “เรื่องถึงไหนแล้วคะ?” คุณน้ำหวานถามทันทีเมื่อเดินไปถึง ฉันจึงค่อย ๆ เดินอ้อมไปดูเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เตียงเด็ก ตายแล้ว เหมือนที่คุณน้ำหวานพูดเลย เธอน่ารักจิ้มลิ้มจริง ๆ ตอนเธอร้องไห้ฉันรู้สึกเศร้าใจตาม อยากจะอุ้มขึ้นมาโอ๋มาก ‘อุแว้~ อุแว้~’ มีรอยมดกัดเต็มแก้ม น่าสงสารจริง ๆ ทำไมถึงทิ้งได้ลง ลูกทั้งคนนะ “ดูจากกล้องวงจรปิด มีคนอุ้มเด็กมาทิ้งราว ๆ เจ็ดโมงเช้าครับ ลักษณะรูปร่างคล้ายผู้หญิง เธอสวมหมวกบัตเก็ตกับมาสก์ปิดปาก และเธอเอียงตัวหลบเหมือนรู้จักมุมกล้องเป็นอย่างดี” คุณน้ำหวานพยักหน้ารับ พลางก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องงอแงไปด้วย “เห็นป้ายทะเบียนรถไหมคะ?” “ไม่เห็นครับ เพราะเธอเดินมา และเธอก็เดินเท้าเปล่าด้วย” แล้วฉันกับคุณน้ำหวาน ก็หันไปถามพร้อมกัน “เท้าเปล่า?” จริงอยู
“ณพิม เหมือนอ้วนตอนเด็ก ๆ” คุณหมอเขามองหน้าณพิมสลับกับฉัน ดูสายตาเขาสิ มันเป็นประกายมาก ถ้าถอดมาสก์ปิดปากออก ฉันคงได้เห็นรอยยิ้มกว้าง ๆ ของเขา “แต่ณพลอยเหมือนเบบี๋นะ เค้าอยากให้ลูกมีลักยิ้มเหมือนเบบี๋จัง” “ไม่แน่ณพลอยอาจจะมี ใช่ไหมครับ ลูกสาวพ่อ” ละมุนจริง ๆ เลยกับลูกสาวเนี่ย “จ้า ลูกสาวหมอนาวา” ฉันล้อเขาเสียงอ่อน เพราะตอนนี้รู้สึกเพลียมาก ก่อนที่พยาบาลเธอจะช่วยอุ้มสอง ณ มาถ่ายรูปครอบครัวกัน วิสัญญีแพทย์ก็จะพูดอะไรสักอย่าง จนฉันเผลอหลับไป “ณเพชรอย่าเสียงดังนะลูก แม่หลับอยู่” เสียงสามีฉันนี่น่า โอ้ย... รู้สึกตึง ๆ ท้องจัง “ปะป๊าณเพชรอยากนอนกับแม่ น้องออกมารึยังครับ?” “น้องอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนแล้วครับ เช้า ๆ เดี๋ยวพ่อจะพาไปหาน้องนะ ตอนนี้ณเพชรต้องนอนลูก” “ปะป๊า ณเพชรอยากไปตอนนี้เลยครับ” “รอครับ ณเพชรต้องรู้จักรอ ตอนนี้ตีสี่นะ รบกวนคนอื่นเขา” แล้วเสียงเล็ก ๆ ของลูกชายก็เงียบไป ถ้าให้ฉันเดา ตอนนี้เขาคงเดินกอดผ้าทำหน้าบึ้งใส่พ่ออยู่ โถลูก... แม่ไม่ไหวจริง ๆ
ณเพชรปราบพ่อนาวาอยู่หมัด หลังจากวันนั้น ความบันเทิงก็เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เมื่อฉันต้องเข้าแอ็ดมิทที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอด แน่นอนพ่อนาวาต้องเลี้ยงณเพชรมากกว่าเดิม หนำซ้ำบางวันมีณภัทรมาด้วย รายนั้นเขาไม่เถียงพี่เขยหรอก แต่ณเพชรนี่สิ สายกวนประสาทพ่อ “ปะป๊า วันก่อนณเพชรเอาเรื่องปะป๊าไปถามคุณครู คุณครูบอกว่า... “ “อะไรนะณเพชร?” “ครับ ปะป๊าไม่อธิบายเรื่องช้างน้อย ณเพชรเลยถามคุณครูครับ” คุณหมอนาวาทรุดนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดไว้ “ชีวิตกูเนี่ยนะ” “ชีวิตปะป๊าทำไมครับ ช้างน้อยปะป๊าโกรธณเพชรเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้น มองฉันขอความช่วยเหลือ เพราะคำว่าช้างน้อย ฉันสอนณเพชรพูดเองล่ะ เอ่อ ของพ่อไม่มีคำว่า ‘น้อย’ นะลูก ช้างเลยล่ะ! “ถ้าณเพชรไม่ลืมเรื่องนี้ พ่อนี่แหละจะโกรธ” ณเพชรเงียบ และหันไปหาณภัทร จนน้าเขาชี้นิ้วไปจิ้มอกหลานเบา ๆ “ฟังน้า อย่าทำให้พ่อโกรธเข้าใจไหม เดี๋ยวโตขึ้นพ่อไม่ให้ตังค์ไปโรงเรียน” สอนหลานน่ารักเชี
เรื่องดุลูก ปากคุณหมอศัลนี่ไวจริง ๆ ฉันต้องอุ้มณเพชรไปห่าง ๆ เขา จนลูกหลับถึงได้กลับมาขึ้นเตียงนอนเหมือนเดิม ณเพชรเป็นแบบนี้จนถึงสามขวบ เป็นลูกชายที่ติดแม่เหมือนนาวีลูกซินน์ และฉันไม่สามารถที่จะโอ๋ประคบประหงมเขาได้เหมือนแต่ก่อน เพราะตอนนี้ฉันก็ท้องจวนคลอดแล้ว ใช่ค่ะ กว่าจะท้องแฝดได้ ฉันกับคุณหมอศัลเราปั๊มกันนานเหลือเกิน แต่เราภูมิใจนะ ที่ท้องแฝดและได้ผู้หญิงเหมือนที่ตั้งใจ ลูกสาวสองคนห่างจากพี่ชายสามปี พอดิบพอดีที่จะเป็นเพื่อนกับลูกสาวไออุ่น นึกไม่ถึงล่ะสิ! ไออุ่นท้องแล้ว ฮ่า ๆ ฉัน น้ำปั่น ซินน์ รู้ข่าวปุ๊บ ก็นัดกันไปขำใส่หน้ามันปั๊บ! เพราะน้ำปั่นโอมเพี้ยง ๆ ใส่ท้องมันทุกครั้งที่เจอกัน ตอนนี้มันท้องได้สี่เดือนแล้ว แถมได้ลูกสาวด้วย มันหงุดหงิดเวียร์หนักมาก นั่งยันนอนยันว่าคลอดคนนี้จะทำหมันเหมือนซินน์ อย่าว่าแต่ไออุ่นเลยฉันก็จะทำหมันเหมือนกัน เพราะณเพชรไม่ได้เลี้ยงง่ายเหมือนเดิม ยิ่งพูดได้ยิ่งแสบ รู้ทุกเรื่อง! ยิ่งกับณภัทรน้าเขา คือเข้าขากันดีมาก แต่โชคดีที่ณเพชรเขาไม่เถียงฉัน เขาเถียงพ่อแทน! เถียงเหมือนที่คุณหมอ
คุณหมอศัลดูช็อกนิด ๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร จนเขาเปิดประตูห้องออกไป ฉันถึงพาลูกกลับไปนอนที่เตียงเด็กและรีบอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยก็พอดิบพอดีที่ลูกตื่น อาจจะช้าไปบ้าง เพราะฉันต้องสุ่มเดินไปดูว่าณเพชรตื่นรึยังเพราะเขาตื่นมา เขาจะมองเพดานเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงร้องอะไร พอเขาตื่นฉันก็อาบน้ำแต่งตัวให้ เรื่องอาหารเด็กอ่อน ให้เขาไปกินที่บ้านกับน้าณภัทรแล้วกัน ฉันไม่ว่างทำ ถึงลูกจะเลี้ยงง่ายแต่ไม่ใช่ฉันไม่เหนื่อย เหนื่อยมาก! ฉันเป็นคุณแม่ยังสาวที่หุ่นดีจนผู้ชายมองเหลียวหลัง จะบอกอะไรให้ แต่ก่อนหุ่นฉันเฉย ๆ มาก! รูปทรงก็ไม่ค่อยชัดและได้สัดส่วน แต่หลังจากคลอดลูกเท่านั้นแหละ คนละคนกันเลยนมตูดมาเต็ม! ซึ่งฉันชอบมาก... สามีก็ชอบ จัดการลูกเรียบร้อยฉันก็ขับรถออกจากคอนโด เราสองแม่ลูกแวะซุปเปอร์กันนิดหน่อย ฉันซื้อแครอท ซื้อบรอกโคลี ณเพชรเขาไม่ดื้อนะ เขาแค่มองตามมือฉันว่าฉันหยิบจับอะไร บ้างก็อยากจับด้วยเพราะสงสัย เป็นแบบนี้จนฉันซื้อของเสร็จ พอถึงบ้านฉันก็เอาผักทุกอย่างไปล้างให้เขานั่งเล่นที่พื้น สีส้มของแครอทสีชัดเจน บรอกโคลีก็เขียว
ฉันยกมือบีบแขนคุณหมอศัลเบา ๆ บีบจนเขาเงยหน้าที่ซุกตามซอกคอ ขึ้นมาจุมพิตที่ริมฝีปากฉัน “ขอแฝดหญิงนะคะที่รัก” “ครับ” รับปากฉันเสร็จเขาก็ก้มลงประทับริมฝีปากบบาง ก่อนจะเลื่อนมือที่จับตรงหัวไหล่ ลงมาดึงสายชุดนอน ชุดนอนสายเดี่ยวถูกเขาเกี่ยวสาย ถอดออกอย่างง่ายดาย ฉันตั้งใจใส่เพื่อจะให้นมลูกง่าย ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะง่ายถึงขนาดปลดได้แค่ปลายนิ้วแบบนี้ เมื่อสองเต้าที่เปลือยเปล่าประจันหน้าเขา ริมฝีปากที่พรมจูบเบา ๆ ก็ไล่ลงไปหามัน เขาส่งแค่ปลายลิ้นอุ่น ๆ ตวัดวนเท่านั้น สลับกับมือใหญ่ ที่ลูบคลำตามฐานเต้าเบา ๆ “อื้ม~” ไม่นานฉันก็ถูกถอดพันธการช่วงล่างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยมือใหญ่ที่ใช้ปลายนิ้ว ถูตามแยกสวาทฉัน เขาเริ่มกดนิ้วกลางลงเบา ๆ เพื่อกระตุ้นน้ำสวาท บ้างก็พยายามดันมันเข้าไป และถูรอบ ๆ แบบนั้น แต่ทุกอย่างถูกกระทำอย่างเบามือ “อ่ะ อื้ม~ เสียวจัง” ฉันเริ่มบีบไหล่ ที่ขยับต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตามหว่างขา โดยที่นิ้วยาวเขายังละเลงเล่นตุ่มกระสันช้า ๆ อยู่แบบนั้น เมื่อริมฝีปากไล่ลงไปถึงยอดที่เขาโปรดปราน เขาก็ลงลิ้นทักทายมันทั