เสียงรองเท้าส้นสูงของมิรินกระทบพื้นลานจอดรถใต้คอนโดหรู ร่างบางพยายามสะบัดข้อมือที่ถูกมือหนาของภาณุกระชากไว้แน่น แต่ยิ่งเธอขัดขืน เขากลับยิ่งเพิ่มแรงดึงราวกับจะไม่ให้เธอหลุดพ้นจากการควบคุมของเขา
“ภาณุ! คุณจะพาฉันไปไหน!” เสียงเธอสั่นเครือ ขณะที่เขายังคงเดินลากเธอไปโดยไม่ตอบ
เมื่อถึงหน้าประตูห้อง เขาเปิดออกอย่างแรง ก่อนจะผลักเธอเข้าไปในห้อง มิรินล้มตัวลงกับพื้น มือบางพยายามพยุงตัวขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ขยับ ร่างสูงใหญ่ของภาณุก็ก้าวเข้ามาปิดประตูตามหลัง
ทันทีที่ประตูปิดลง ความเงียบงันในห้องถูกแทนที่ด้วยความร้อนแรงที่พุ่งปะทุขึ้นในดวงตาของเขา เขาก้าวเข้ามาหาเธออย่างไม่ลังเล มือหนาคว้าแขนบางของเธอขึ้นมา ก่อนจะดึงเธอเข้ามาจูบอย่างรุนแรงโดยไม่มีคำอธิบาย
ริมฝีปากของเขาบดเบียดเข้าหาเธออย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี มิรินดิ้นรนสุดแรง แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเธอกลับยิ่งเป็นการยั่วยุให้เขาเพิ่มแรงกดดัน มือหนาของเขาเลื่อนขึ้นมากระชากชุดเดรสที่เธอสวมจนเสียงฉีกขาดดังสะท้อนในความเงียบ
“พอเถอะ... ภาณุ... ได้โปรด...” เสียงเธอขาดห้วง ร่างกายเปลือยเปล่าที่สั่นสะท้านทำให้เธอรู้สึกทั้งอับอายและหวาดกลัว น้ำตาไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่ได้
เขาชะงัก หยุดนิ่งในท่าทางที่เหมือนสัตว์ป่าที่ถูกฉุดกลับจากความคลั่งไคล้ ดวงตาคมมองร่างงามที่ยืนสั่นสะท้านอยู่ตรงหน้า เธอดูเปราะบางจนใจเขาเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ภาณุยืนเต็มความสูง หายใจหนักหน่วง แต่สายตาที่จ้องมองเธอเปลี่ยนไป จากความโกรธและแรงโทสะ กลายเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ลึกซึ้งและซับซ้อน
เขาค่อยๆ ย่อตัวลง มือหนายื่นไปแตะใบหน้างามของเธอเบาๆ “มิริน...” เสียงเรียกชื่อเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เขาดึงเธอเข้ามากอด ร่างสูงใหญ่ที่เคยเป็นกำแพงอันน่ากลัว กลายเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่น น้ำตาของเธอยังคงไหลริน แต่ความรู้สึกบางอย่างในใจเธอเริ่มแปรเปลี่ยน
“ฉัน...ขอโทษ” คำพูดของเขาแผ่วเบา มือหนาค่อยๆ ลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะผละออกเล็กน้อย ดวงตาคมมองลึกเข้าไปในดวงตาที่เปียกชื้นของเธอ
เขาค่อยๆ ก้มลงจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมา ริมฝีปากร้อนแตะไปทั่วแก้มและขมับของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากสวย เขาจูบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ด้วยความโกรธ มันเต็มไปด้วยความปรารถนาและความอ่อนโยนที่เรียกร้องในแบบที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้
มิรินพยายามต่อต้านความรู้สึกที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง แต่จูบของเขากลับล่อลวงเธอให้จมดิ่งลึกลงไป เธอหลุดเสียงแผ่วออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ความเร่าร้อนที่เขามอบให้ทำให้เธอเผลอตัวไปในที่สุด
ภายในห้องที่เต็มไปด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจที่หนักหน่วงของพวกเขาทั้งสอง เส้นแบ่งระหว่างความเกลียดชังและแรงปรารถนาถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์... และมันเพิ่งเริ่มต้น
ริมฝีปากร้อนของเขาค่อยๆ ไล้จากปากอิ่มของเธอลงมาที่ปลายคาง รสสัมผัสที่หนักเบาสลับกันไปทำให้มิรินสะท้าน เธอพยายามผลักเขาออก แต่แรงทั้งหมดที่เธอมีดูจะไร้ความหมายเมื่อเทียบกับแรงปรารถนาในดวงตาของเขา
"ภาณุ... ได้โปรด..." เธอเอ่ยเสียงแผ่ว น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ เขาไล้จูบลงมาที่ลำคอระหง มือหนายกขึ้นลูบไล้แผ่นหลังเนียนขาวที่สั่นสะท้านตามจังหวะการสัมผัสของเขา
"หยุดดิ้นเสียที มิริน..." เขากระซิบเสียงต่ำ แววตาดุดันผสมกับแรงปรารถนาที่รุนแรง
ริมฝีปากของเขาเคลื่อนไปตามแนวลาดไหล่ ร้อนผ่าวและเรียกร้องจนเธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นทุกขณะเหมือนเป็นไฟที่แผดเผาความเย็นชาระหว่างพวกเขาให้มอดไหม้
มือหนาค่อยๆ เลื่อนไล้ลงมาที่เอวบาง ก่อนจะลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังจนถึงบั้นเอว ร่างงามของเธอสะท้านทุกครั้งที่เขาสัมผัส เธอกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อไม่ให้หลุดเสียงใดออกมา แต่หัวใจกลับเต้นรัวจนเหมือนจะหลุดออกมานอกอก
ภาณุหยุดมองร่างงามที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเบิกกว้างของเธอ ราวกับต้องการยืนยันว่าเธอจะไม่มีทางหนีไปจากเขาได้
"ฉันบอกแล้ว..." เสียงเขาแหบต่ำเต็มไปด้วยความเข้มข้น “เธอเป็นของฉัน... และฉันจะทำให้เธอจำมันได้”
เขาก้มลงจูบเนินอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวเนียน มือหนายังคงไล้ไปทั่วร่างกายของเธออย่างไม่มีความปรานี ความหนักหน่วงในสัมผัสของเขาทำให้เธอเผลอหลุดเสียงแผ่วออกมา ความรู้สึกที่ปะทุขึ้นในร่างกายทำให้เธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้อีกต่อไป
ความร้อนแรงของเขาที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในทุกจังหวะของสัมผัส ทำให้มิรินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ร่างกายที่ตอบสนองโดยไม่ตั้งใจทำให้เขายิ่งรุกล้ำลึกลงไปในหัวใจและจิตใจของเธอ
ในห้องที่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่มและความปรารถนา ไม่มีคำพูดใดระหว่างพวกเขา มีเพียงเสียงลมหายใจและการสัมผัสที่เร่าร้อนที่ทำให้โลกทั้งใบของเธอหมุนไปตามเขาโดยไม่อาจห้ามได้
เสียงหอบหายใจของมิรินดังสะท้อนในห้องที่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม ร่างบางที่เปลือยเปล่าสั่นสะท้านในอ้อมแขนของภาณุ ริมฝีปากร้อนของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด ไล้ไปทั่วร่างงามที่สั่นไหวด้วยแรงปรารถนาและความหวาดหวั่น
"ภาณุ...พอเถอะ..." เสียงเธอแผ่วเบา แต่แทบไม่มีแรงผลักดันให้เขาหยุด มือบางพยายามดันหน้าอกกว้างออก แต่ทุกครั้งที่เธอขยับ เขากลับยิ่งกดร่างของเธอลงกับพื้นพรมหนานุ่ม
ริมฝีปากของเขาเลื่อนลงต่ำ ไล้ผ่านลำคอระหงและไหปลาร้าที่เผยชัด มือหนายังคงลูบไล้ผิวเนียนที่ร้อนผ่าวไปด้วยแรงสัมผัสของเขา ความเย็นจากลมหายใจที่เป่ารดผิวทำให้เธอยิ่งสะท้านสั่น ร่างบางตอบสนองโดยไม่ตั้งใจ
"คุณหนีผมไม่ได้ มิริน..." เขาพูดเสียงต่ำ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เดือดพล่าน มือหนาจับสะโพกของเธอไว้แน่น ก่อนที่ริมฝีปากและลิ้นร้อนจะเลื่อนต่ำลงไป
มิรินหลับตาแน่น น้ำตาที่ไหลออกมาผสมกับความรู้สึกที่สับสนและวูบไหว ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาทำให้เธอแทบจะหยุดหายใจ
ลิ้นร้อนของเขากรีดไล้ไปตามผิวเนียนของเธออย่างช้าๆ ทรมาน และจงใจ เขาทำให้เธอสะท้านด้วยทุกการเคลื่อนไหว เธอพยายามปิดกั้นตัวเองจากความรู้สึกนี้ แต่ยิ่งต่อต้าน ความเร่าร้อนที่เขามอบให้ยิ่งลุกลาม
"คุณมัน... คนเลว" เธอพึมพำ น้ำเสียงขาดห้วง แต่เขากลับหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน
"ถ้าผมเลว ก็อย่าลืมว่า... ตอนนี้คุณเป็นของคนเลวอย่างผม"
เขาก้มลงครอบครองร่างของเธอด้วยลิ้นและสัมผัสที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หลบหนี ร่างบางที่ดิ้นรนอย่างอ่อนแรงในตอนแรก ค่อยๆ หยุดนิ่งราวกับถูกล่ามด้วยโซ่ที่มองไม่เห็น
มิรินสั่นสะท้าน ร่างกายของเธอไม่สามารถปฏิเสธสัมผัสที่ทั้งเร่าร้อนและทรมานนี้ได้อีกต่อไป ความปรารถนาที่เขาจุดไฟขึ้นในตัวเธอทำให้เธอไม่สามารถแยกความรู้สึกของตัวเองออกจากกันได้
เสียงหอบหนักของเขาและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดผิวของเธอยังคงชัดเจนในความเงียบของห้อง ร่างสูงใหญ่ของเขาครอบครองทุกอณูของเธอ ทิ้งให้มิรินจมดิ่งอยู่ในแรงปรารถนาและความสับสนที่ไร้ทางหลีกหนี...
เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมกับแสงแดดที่ส่องลอดผ่านม่านในห้องคอนโดหรู แต่บรรยากาศภายในกลับไม่ได้สงบสุขเช่นเดียวกับความงามของวันใหม่ มิรินนอนขดตัวอยู่บนเตียง ผ้าห่มผืนหนาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเธอไว้จนถึงคาง ดวงตาเธอลืมขึ้นช้าๆ แต่ทันทีที่ความทรงจำเมื่อคืนผุดขึ้นมา หัวใจของเธอก็เต้นรัวเธอขยับตัวเล็กน้อย พลันรู้สึกถึงความหนักแน่นของร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงมุมห้อง ภาณุจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เขาแต่งตัวเรียบร้อยในชุดสูทเนี๊ยบ มือถือแก้วกาแฟไว้ ขณะที่ดวงตาคมจับจ้องมาที่เธอ“คุณตื่นแล้ว” เสียงของเขาเรียบเฉย แต่น้ำเสียงนั้นกลับแฝงไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้เธอรู้สึกตัวหดเล็กลงมิรินหลุบตามองพื้น เธอไม่กล้าสบตากับเขา ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรหรือแม้แต่ทำอะไรต่อ“ทำไมถึงเงียบล่ะ?” เขาเอ่ยถามอีกครั้ง ก่อนจะวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะข้างตัวแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “เมื่อคืนนี้คุณไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่”คำพูดนั้นเหมือนเข็มที่ทิ่มแทง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความโกรธ “คุณมันบ้า...” เธอพึมพำ น้ำเสียงสั่นไหว“บ้า?” เขายิ้มเยาะ ก่อนจะก้าวเข้ามาหาเธอจนร่างสูงใหญ่บดบังแสงแดดที
เสียงหวานที่สั่นเครือดังขึ้นในความเงียบสงัดของค่ำคืน“อื้อ... ภานุคะ ปล่อยฉัน!”เสียงวอนขออันแผ่วเบากลายเป็นเพียงลมที่ไร้ผล เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเพียงกระชากร่างเธอเข้ามาแนบชิด ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวอย่างดุดัน ริมฝีปากบางเม้มแน่น ไม่สนคำอ้อนวอนที่เปล่งออกมามือแกร่งดึงเสื้อผ้าของเธออย่างไม่ปรานี เสียงเนื้อผ้าฉีกขาดดังสะท้อนในอากาศ จนร่างบางขาวโพลนถูกเผยให้เห็นในความมืดสลัว มีเพียงแสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟที่ช่วยเน้นเส้นโค้งเว้าที่อวบอิ่มของร่างกายเธอ ชุดชั้นในลูกไม้สีดำสนิทที่ยังคงปกปิดไว้เพียงเล็กน้อยกลับยิ่งทำให้เธอดูยั่วยวนมิรินยืนหอบหายใจหนักหน่วง มือบางยกขึ้นปิดหน้าอกที่เปลือยเปล่าด้วยความอับอาย แต่สายตาเย็นชาของภาณุกลับไม่แสดงความปรานีแม้แต่น้อย“อย่าทำแบบนี้...” เสียงเธอขาดห้วง ร่างบางสั่นสะท้าน ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาของเขามืดครึ้มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้“คิดว่าฉันจะใจอ่อนหรือไง มิริน?” น้ำเสียงเขาต่ำและเยือกเย็น ราวกับคำพูดของเธอไม่เคยมีผลใดกับเขาเขาเอื้อมมือมาจับข้อมือบางของเธอที่พยายามปกป้องตัวเอง น้ำเสียงของเธอที่เคยแข็งกร้าวเริ่มแผ่วลงเมื่อเผชิญกับแรง
เสียง ติ๊ง จากโทรศัพท์ดังขึ้นในความเงียบของห้องทำงานกว้างขวาง โต๊ะไม้สักเรียบหรูเต็มไปด้วยเอกสารและแฟ้มข้อมูลที่ต้องจัดการ แต่สายตาคมของภาณุเบี่ยงไปมองหน้าจอที่สว่างขึ้นมือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู อินสตาแกรม ของมิรินปรากฏขึ้น ภาพถ่ายล่าสุดทำให้เขาต้องชะงักเธอยืนอยู่ในร้านอาหารหรู ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่หัวเราะและสนุกสนาน ชุดผ้าซาตินสีครีมที่เธอสวมแหวกอกลึกจนเห็นเนินอกอวบอิ่ม ดึงดูดสายตาและเรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้ทันที ผ้าซาตินเนียนลื่นราวกับไหลไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างกายเธอ ท่าทางโพสต์ถ่ายรูปยิ่งเสริมให้ชุดนั้นดูยั่วยวนเกินพิกัดภาณุจ้องภาพนั้นนิ่ง ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ดวงตาคมวาววับ ความรู้สึกบางอย่างกำลังเดือดพล่านในใจเขา แต่ไม่มีใครสามารถอ่านมันออกได้เขาวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะด้วยแรงที่มากกว่าปกติ ปัง! เสียงดังพอให้ตัวเขาเองต้องสูดลมหายใจลึก“ท่านทูตครับ” เสียงของเลขาดังขึ้นพร้อมกับการก้าวเข้ามาในห้องภาณุหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อะไร?”“เอกสารที่จะต้องส่งให้ทางสถานทูตญี่ปุ่นครับ ผมวางไว้บนโต๊ะแล้ว”เขาพยักหน้าเล็กน้อย รับเอกสารมาวางลงกับโต๊ะ ก่อนจะ
เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมกับแสงแดดที่ส่องลอดผ่านม่านในห้องคอนโดหรู แต่บรรยากาศภายในกลับไม่ได้สงบสุขเช่นเดียวกับความงามของวันใหม่ มิรินนอนขดตัวอยู่บนเตียง ผ้าห่มผืนหนาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเธอไว้จนถึงคาง ดวงตาเธอลืมขึ้นช้าๆ แต่ทันทีที่ความทรงจำเมื่อคืนผุดขึ้นมา หัวใจของเธอก็เต้นรัวเธอขยับตัวเล็กน้อย พลันรู้สึกถึงความหนักแน่นของร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงมุมห้อง ภาณุจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เขาแต่งตัวเรียบร้อยในชุดสูทเนี๊ยบ มือถือแก้วกาแฟไว้ ขณะที่ดวงตาคมจับจ้องมาที่เธอ“คุณตื่นแล้ว” เสียงของเขาเรียบเฉย แต่น้ำเสียงนั้นกลับแฝงไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้เธอรู้สึกตัวหดเล็กลงมิรินหลุบตามองพื้น เธอไม่กล้าสบตากับเขา ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรหรือแม้แต่ทำอะไรต่อ“ทำไมถึงเงียบล่ะ?” เขาเอ่ยถามอีกครั้ง ก่อนจะวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะข้างตัวแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “เมื่อคืนนี้คุณไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่”คำพูดนั้นเหมือนเข็มที่ทิ่มแทง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความโกรธ “คุณมันบ้า...” เธอพึมพำ น้ำเสียงสั่นไหว“บ้า?” เขายิ้มเยาะ ก่อนจะก้าวเข้ามาหาเธอจนร่างสูงใหญ่บดบังแสงแดดที
เสียงรองเท้าส้นสูงของมิรินกระทบพื้นลานจอดรถใต้คอนโดหรู ร่างบางพยายามสะบัดข้อมือที่ถูกมือหนาของภาณุกระชากไว้แน่น แต่ยิ่งเธอขัดขืน เขากลับยิ่งเพิ่มแรงดึงราวกับจะไม่ให้เธอหลุดพ้นจากการควบคุมของเขา“ภาณุ! คุณจะพาฉันไปไหน!” เสียงเธอสั่นเครือ ขณะที่เขายังคงเดินลากเธอไปโดยไม่ตอบเมื่อถึงหน้าประตูห้อง เขาเปิดออกอย่างแรง ก่อนจะผลักเธอเข้าไปในห้อง มิรินล้มตัวลงกับพื้น มือบางพยายามพยุงตัวขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ขยับ ร่างสูงใหญ่ของภาณุก็ก้าวเข้ามาปิดประตูตามหลังทันทีที่ประตูปิดลง ความเงียบงันในห้องถูกแทนที่ด้วยความร้อนแรงที่พุ่งปะทุขึ้นในดวงตาของเขา เขาก้าวเข้ามาหาเธออย่างไม่ลังเล มือหนาคว้าแขนบางของเธอขึ้นมา ก่อนจะดึงเธอเข้ามาจูบอย่างรุนแรงโดยไม่มีคำอธิบายริมฝีปากของเขาบดเบียดเข้าหาเธออย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี มิรินดิ้นรนสุดแรง แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเธอกลับยิ่งเป็นการยั่วยุให้เขาเพิ่มแรงกดดัน มือหนาของเขาเลื่อนขึ้นมากระชากชุดเดรสที่เธอสวมจนเสียงฉีกขาดดังสะท้อนในความเงียบ“พอเถอะ... ภาณุ... ได้โปรด...” เสียงเธอขาดห้วง ร่างกายเปลือยเปล่าที่สั่นสะท้านทำให้เธอรู้สึกทั
เสียง ติ๊ง จากโทรศัพท์ดังขึ้นในความเงียบของห้องทำงานกว้างขวาง โต๊ะไม้สักเรียบหรูเต็มไปด้วยเอกสารและแฟ้มข้อมูลที่ต้องจัดการ แต่สายตาคมของภาณุเบี่ยงไปมองหน้าจอที่สว่างขึ้นมือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู อินสตาแกรม ของมิรินปรากฏขึ้น ภาพถ่ายล่าสุดทำให้เขาต้องชะงักเธอยืนอยู่ในร้านอาหารหรู ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่หัวเราะและสนุกสนาน ชุดผ้าซาตินสีครีมที่เธอสวมแหวกอกลึกจนเห็นเนินอกอวบอิ่ม ดึงดูดสายตาและเรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้ทันที ผ้าซาตินเนียนลื่นราวกับไหลไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างกายเธอ ท่าทางโพสต์ถ่ายรูปยิ่งเสริมให้ชุดนั้นดูยั่วยวนเกินพิกัดภาณุจ้องภาพนั้นนิ่ง ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ดวงตาคมวาววับ ความรู้สึกบางอย่างกำลังเดือดพล่านในใจเขา แต่ไม่มีใครสามารถอ่านมันออกได้เขาวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะด้วยแรงที่มากกว่าปกติ ปัง! เสียงดังพอให้ตัวเขาเองต้องสูดลมหายใจลึก“ท่านทูตครับ” เสียงของเลขาดังขึ้นพร้อมกับการก้าวเข้ามาในห้องภาณุหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อะไร?”“เอกสารที่จะต้องส่งให้ทางสถานทูตญี่ปุ่นครับ ผมวางไว้บนโต๊ะแล้ว”เขาพยักหน้าเล็กน้อย รับเอกสารมาวางลงกับโต๊ะ ก่อนจะ
เสียงหวานที่สั่นเครือดังขึ้นในความเงียบสงัดของค่ำคืน“อื้อ... ภานุคะ ปล่อยฉัน!”เสียงวอนขออันแผ่วเบากลายเป็นเพียงลมที่ไร้ผล เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเพียงกระชากร่างเธอเข้ามาแนบชิด ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวอย่างดุดัน ริมฝีปากบางเม้มแน่น ไม่สนคำอ้อนวอนที่เปล่งออกมามือแกร่งดึงเสื้อผ้าของเธออย่างไม่ปรานี เสียงเนื้อผ้าฉีกขาดดังสะท้อนในอากาศ จนร่างบางขาวโพลนถูกเผยให้เห็นในความมืดสลัว มีเพียงแสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟที่ช่วยเน้นเส้นโค้งเว้าที่อวบอิ่มของร่างกายเธอ ชุดชั้นในลูกไม้สีดำสนิทที่ยังคงปกปิดไว้เพียงเล็กน้อยกลับยิ่งทำให้เธอดูยั่วยวนมิรินยืนหอบหายใจหนักหน่วง มือบางยกขึ้นปิดหน้าอกที่เปลือยเปล่าด้วยความอับอาย แต่สายตาเย็นชาของภาณุกลับไม่แสดงความปรานีแม้แต่น้อย“อย่าทำแบบนี้...” เสียงเธอขาดห้วง ร่างบางสั่นสะท้าน ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาของเขามืดครึ้มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้“คิดว่าฉันจะใจอ่อนหรือไง มิริน?” น้ำเสียงเขาต่ำและเยือกเย็น ราวกับคำพูดของเธอไม่เคยมีผลใดกับเขาเขาเอื้อมมือมาจับข้อมือบางของเธอที่พยายามปกป้องตัวเอง น้ำเสียงของเธอที่เคยแข็งกร้าวเริ่มแผ่วลงเมื่อเผชิญกับแรง