“นับรู้จักน้องเก้าทัพด้วยเหรอ” เมื่อเดินมาได้ไกลพอสมควรแพรววาก็ถามนับดาวด้วยความตื่นเต้นก่อนที่นับดาวจะพยักหน้ารับน้อย ๆ แพรววาถึงกับกระโดดโลดเต้นน้อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีกที่นับดาวรู้จักกับคนดังอย่างน้องเก้าทัพ กันต์ดนัย
“งื้อ อิจฉาอะ ไปรู้จักน้องเก้าได้อย่างไร แล้วดูสิยิ้มหวานให้น้องสาวพี่ขนาดนี้มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่าเอ่ย” แพรววาถามนับดาวพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนสาวน้อยไปด้วย นับดาวถึงกับยิ้มออกมาอย่างเขิน ๆ กับคำถามของแพรววาก่อนที่น้ำเสียงสดใสจะตอบกลับแพรววา
“เป็นปกติของคนที่รู้จักกันจะยิ้มให้กันหรือเปล่าคะ” นับดาวพูดออกมาอย่างพาซื่อก่อนที่แพรววาจะส่ายหัวรัว ๆ จนผมยาวสลวยพันกันยุ่งเหยิงไปหมด นับดาวถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่แพรววาส่ายหัวรัวขนาดนั้นราวกับว่าที่จริงแล้วพี่เก้าทัพไม่เคยยิ้มให้ใครอย่างนั้นแหละ
“คนอย่างน้องเก้าทัพไม่เคยยิ้มให้ใครโดยเฉพาะผู้หญิง” คำตอบของแพรววาทำเอานับดาวยิ่งขมวดคิ้วมุ่นเข้าไปใหญ่ด้วยความไม่เข้าใจเพราะดู ๆ ไปแล้วพี่เก้าทัพก็ออกจะอัธยาศัยดี ยิ้มทุกครั้งที่พูดคุยกับเธอแถมยังอ่อนโยนจนใจเธออ่อนไหวอีกต่างหาก
อ่อนไหวแค่ไหนไม่รู้ ที่เธอรู้คือตอนนี้ใจเธอมันไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้วแต่มันกลับลอยไปอยู่กับใครบางคนผู้ชายคนนั้นที่เธอตกหลุมรักแค่เพียงแรกพบ
“เราคงยังไม่รู้จักน้องเก้าดีน่ะสิ น้องเก้าอะฮอตมากเลยนะในมหาวิทยาลัยน้องเรียนมหา'ลัยเดียวกับที่เราจะเข้าไปเรียนนั่นแหละ เป็นคนพูดน้อย แต่ต่อยโคตรหนัก เย็นชาราวกับน้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่สำคัญไม่ค่อยมีใครได้เห็นรอยยิ้มของน้องเก้านักหรอก แต่เมื่อกี้พี่เห็นเต็มสองตาว่าน้องเก้ายิ้มให้เราแถมเป็นยิ้มที่โคตรละมุนอะ บุญตาแพรววาคนนี้จริง ๆ”
แพรววายิ้มกว้างเมื่อคิดไปถึงรอยยิ้มหวานละมุนของเก้าทัพที่ยิ้มให้นับดาวส่วนนับดาวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็อมยิ้มน้อย ๆ อย่างรู้สึกดีที่เก้าทัพยิ้มให้เธอเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่เจอกันมาจนถึงวันนี้
“เอ่อ แล้วพี่เก้าทัพเขามีแฟนหรือยังคะ” คำถามที่อยู่ในใจนับดาวทำให้เธอกลั้นใจถามแพรววาออกไปอย่างต้องการรู้ว่าเทพบุตรที่อยู่ในสี่ห้องหัวใจของเธอ เขามีเจ้าของจับจองหัวใจของเขาหรือยัง
“ฮันแน่ ถามแบบนี้แอบชอบเขาอะดิ ใช่ไหม ใช่ไหม” แพรววาถามนับดาวยิ้ม ๆ อย่างรู้ทันนับดาวไม่ตอบแต่ดวงตากลมโตที่ทอประกายสุกสกาวอย่างรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อทำเอารอยยิ้มของแพรววาถึงกับค่อย ๆ เจื่อนลง
“เฮ้อ น้องเก้าทัพอะอยู่สูงเกินเอื้อมมากเลยรู้ไหม พี่ไม่ได้พูดดักทางเรานะแต่มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ หน้าตาระดับเก้าทัพที่เป็นเดือนมหา'ลัยไม่มีใครไม่รู้จัก”
“สาว ๆ ทั้งมหา'ลัยมีแต่คนชอบน้องเก้ากันทั้งนั้นเพื่อนพี่ยังแอบชอบน้องมันเลย ส่วนเรื่องผู้หญิงอะนะน้องมันเย็นชาก็จริง แต่ก็ฟาดเรียบทุกรายแถมยังกินเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครมาโวยวายแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของน้องมันเลยสักคน”
“แต่บางครั้งผู้หญิงที่สวยมาก ๆ มาเสนอน้องมันกลับไม่สนองก็มี เอาง่าย ๆ เก้าทัพเขาอยู่คนละโลกกับเรา โลกของเก้าทัพมันคือโลกของเทพบุตรในขณะที่เราก็แค่คนเดินดินกินข้าวแกงธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น”
แพรววาพูดจบก็ยกมือขึ้นตบไหล่นับดาวที่หน้าหม่นเศร้าลงเล็กน้อยอย่างต้องการให้กำลังใจสาวน้อยวัยแรกแย้มคนนี้ที่หัวใจน่าจะหลุดลอยไปอยู่กับเก้าทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่นับดาวจะคลี่ยิ้มกว้างออกมาอย่างยอมรับในความแตกต่างของเธอกับเก้าทัพว่าเธอไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาเลยสักนิด เพราะฉะนั้นเธอแค่เก็บเขาเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจก็พอแล้วนับดาว
“สำหรับนับแค่ได้แอบรักพี่เก้าทัพข้างเดียวแบบนี้ก็พอแล้วค่ะ ได้แค่มองจากที่ไกล ๆ นับดาวก็พอใจแล้วไม่หวังมากไปกว่านี้หรอกค่ะ” นับดาวพูดพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุขแพรววาที่เห็นแบบนั้นก็ให้รู้สึกคลายใจ เพราะเธอกลัวว่านับดาวจะหลงรักเก้าทัพและถลำลึกจนมากเกินไปจนสุดท้ายแล้วนับดาวจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด
“คิดได้แบบนี้ก็ดีพี่ค่อยสบายใจหน่อย นับดาวน้องพี่เป็นคนสดใส น่ารัก พี่ไม่อยากให้เราต้องเสียใจถ้าไม่สมหวังในความรัก” แพรววาดึงนับดาวเข้ามากอดอย่างรักใคร่ในตัวน้องสาวคนนี้ เธอไม่อยากให้ดอกไม้ที่แสนบริสุทธิ์ดอกนี้ต้องถูกทำลายลงจนเหี่ยวเฉาไร้ความสวยงาม
“ไปทำงานกันต่อดีกว่า”
แพรววาบอกนับดาวก่อนที่สองสาวจะจูงมือกันกลับไปทำงานต่อกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างที่นับดาวทำงานสายตาของเก้าทัพไม่ได้ละไปจากใบหน้าสวยหวานเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าสาวน้อยจะไปเสิร์ฟที่โต๊ะไหนสายตาที่คมกริบของเขาจะคอยจ้องมองเธอเสมอ ความสดใส ความน่ารักของนับดาวทำให้เก้าทัพไม่สามารถที่จะละสายตาไปทางอื่นได้เลย
“สนใจเพื่อนบ้างก็ได้ครับคุณชายเก้า” ดาร์คแซวเพื่อนที่เอาแต่มองตามร่างบางของสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่ยิ้มทีโลกสดใสจนแทบละสาย และใช่เก้าทัพจ้องมองไม่ยอมละสายตาไปทางไหนเลย เพื่อนเขาเอาแต่นั่งจ้องแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า
“พวกมึงน่าสนใจตรงไหนน่ารำคาญเสียมากกว่า” เก้าทัพว่าให้เพื่อนก่อนที่จะยกเหล้าขึ้นดื่มดวงตายามที่ทอดมองนับดาวช่างแสนอ่อนโยนและละมุนละไม เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องยิ้มเพียงแค่ได้เห็นหน้าสวย ๆ หวาน ๆ ของนับดาวรอยยิ้มเขามันก็เผยออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เพื่อนกูโดนพิษรักเล่นงานเข้าแล้วว่ะ”
พอร์ชพูดขึ้นลอย ๆ แต่คำพูดของเพื่อนทำเอาเก้าทัพที่กำลังยิ้มอยู่ถึงกับชะงักไปเล็กน้อย รัก อย่างนั้นหรือ ความรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยหน้าหวานตัวหอมคนนั้นเรียกว่ารักเหรอ หึ ไม่มีทางคนอย่างเขาชอบคนยากจะตายมันเป็นแค่ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นโดยที่ใจเขาก็ยังคงเป็นของเขายังไม่ได้หลุดลอยไปหาใครทั้งนั้น
“รักบ้ารักบอมึงก็เวอร์เกินไปไอ้พอร์ช กูก็แค่เอ็นดูน้องมันเท่านั้น”
เก้าทัพแก้ต่างให้ตัวเองที่โดนเพื่อนว่าเข้าให้ก่อนที่พอร์ชจะยกยิ้มมุมปากและทำสีหน้าราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เก้าทัพบอก บางทีเพื่อนของเขาอาจจะตกหลุมรักสาวน้อยคนนั้นโดยไม่รู้ตัวแล้วก็ได้ใครจะไปรู้ น่ารักอย่างกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเสียขนาดนั้นเขาเห็นครั้งแรกยังนึกชอบเลย
“หึ เอ็นดูก็เอ็นดูอย่าให้รู้ว่าให้น้องมันมาดูเอ็นล่ะ” คำพูดเล่นลิ้นที่จงใจเหน็บเพื่อนของพอร์ชทำเอาน้ำแข็งที่ควรจะอยู่ในถังน้ำแข็งลอยไปโดนหัวของพอร์ชอย่างไม่ผิดเป้า หนุ่มตี๋หน้าหล่อถึงกับร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย ไอ้เก้าโยนมาได้กูเจ็บนะเว้ย”
พอร์ชโวยวายหน้างอด้วยความเจ็บก่อนที่เก้าทัพจะลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สึกรู้สากับการกระทำของตนเองที่ทำเพื่อนเจ็บ
“พูดมากน่ารำคาญกลับบ้านดีกว่า” กระดกเหล้าแก้วสุดท้ายลงคอก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินจากไปทันทีทิ้งให้เพื่อนสองคนหันมามองหน้ากันยิ้ม ๆ อย่างมีเลศนัย ดูท่าเพื่อนเก้าทัพของพวกเขากำลังตกหลุมรักสาวน้อยหน้าสวยเข้าให้เสียแล้วสิ
หลังจากวันนั้นเก้าทัพก็มักจะมานั่งดื่มที่ผับทุกวันโดยเขาจะมาในเวลาเดิมคือสองทุ่มซึ่งบางครั้งเขาก็มาคนเดียว แต่บางครั้งก็จะมีกลุ่มเพื่อนมานั่งดื่มด้วยกันและเขาจะนั่งมองร่างบางที่เดินไปมาอย่างแข็งขันพร้อมกับพูดคุยหัวเราะยิ้มแย้มกับบรรดาสาว ๆ ที่มาเที่ยวหาความสุขในยามค่ำคืนที่ผับแห่งนี้อย่างเพลินตา“เหล้าที่สั่งได้แล้วค่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่เก้าทัพจะเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ก็เจอกับนับดาวที่ก้มลงวางบรั่นดีที่เก้าทัพสั่งลงบนโต๊ะก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออย่างน่ารัก เก้าทัพถึงกับหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าช่างเป็นเด็กที่น่ารักสดใสเสียจริง“ทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะคะ”นับดาวถามเก้าทัพด้วยความแปลกใจที่ไม่เห็นพี่ดาร์คและพี่พอร์ช แก๊งเพื่อนรักที่เก้าทัพแนะนำให้เธอรู้จัก โดยเฉพาะพี่ดาร์คนับดาวจำได้ขึ้นใจเลยแหละ เพราะเขาชอบแกล้งเธอบ่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นมนตร์รักผีผลัก ซึ่งหลัง ๆ มาเธอรู้ทัน แต่ก็ยังพลาดท่าพี่ดาร์คจนทำให้เกิดจังหวะความใกล้ชิดกับเก้าทัพอยู่บ่อย ๆ“สองคนนั้นติดธุระน่ะ ก็เลยมาคนเดียว”เก้าทัพบอกสาวน้อยหน้า
นับดาวมองชายหญิงสองคนที่นั่งชิดติดกันด้วยสายตาหม่นเศร้าอยู่ในมุมหนึ่งดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอแอบรักกับหญิงสาวที่สวยมากราวกับเจ้าหญิงด้วยความเศร้าใจ ถึงพี่เก้าทัพจะเต็มไปด้วยความเย็นชาแต่กลับปล่อยให้เธอคนนั้นอิงแอบแนบชิดโดยที่ไม่ถอยหนีเลยสักนิด“เป็นปกติของผู้ชายหล่อ ๆ ที่มักจะมีผู้หญิงแวะเวียนมาแจกขนมจีบอยู่เรื่อย อย่าคิดมากเลยนะพี่ไม่ชอบเวลาที่เราเศร้าเลย”แพรววาเดินมาแตะไหล่บอบบางของนับดาวอย่างต้องการปลอบใจเด็กสาวที่กำลังมองไปข้างหน้าด้วยแววตาเศร้าหมองซึ่งเธอสัมผัสได้ว่านับดาวกำลังเสียใจ ก่อนที่นับดาวจะหันมายิ้มให้แพรววาเพื่อบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่ดวงตาที่ไร้ประกายสดใสก็บอกแพรววาว่านับดาวกำลังกลบเกลื่อนความเศร้าของตัวเองอยู่“ทำงานต่อเถอะวันนี้วันสุดท้ายแล้วเต็มที่กัน” แพรววาตบบ่านับดาวเบา ๆ ก่อนที่จะเดินไปรับออเดอร์จากพี่คิว ส่วนนับดาวก็ทำงานอย่างไม่มีสมาธิดวงตากลมโตจับจ้องไปที่เก้าทัพตลอดเวลา เธออยากจะมองเขาเป็นภาพจำครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกแล้วหลังจากที่ส้มหวานจากไปแล้วเก้าทัพก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวอย่างไม่รู้สาเหตุ อารมณ์ความใค
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบเสียงบดจูบอย่างดูดดื่มดังขึ้นทั่วทั้งห้องน้ำท่ามกลางสายน้ำที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย เก้าทัพค่อย ๆ พาเด็กที่ไร้ประสบการณ์อย่างนับดาวค่อย ๆ เดินไปทีละก้าวอย่างไม่เร่งรีบทั้ง ๆ ที่เขาปวดหนึบจนแทบทานทนไม่ไหว แต่บางสิ่งบางอย่างมันบอกเขาว่าให้อ่อนโยนกับนับดาวให้มากที่สุดเด็กสาวค่อย ๆ จูบตอบอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ แต่เมื่อเก้าทัพนำทางเด็กสาวที่หัวไวก็สามารถทำให้เก้าทัพประทับใจได้ไม่ยากจุ๊บ!!เก้าทัพถอนจูบที่แสนหวานออกอย่างแสนเสียดายก่อนที่จะนับดาวจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างหลงใหล มือใหญ่ยกขึ้นลูบใบหน้าสวยหวานของนับดาวอย่างอ่อนโยนเขามั่นใจว่าเด็กสาวที่กำลังตัวสั่นอยู่ใต้สายน้ำนั้นบริสุทธิ์อย่างแน่นอน และอีกสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจและรับรู้มาตลอดก็คือนับดาวชอบเขา แต่สำหรับเขาแล้วความรู้สึกที่เขามีต่อนับดาวมันคืออะไรกันแน่ เขาก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน“พี่ขอโทษนะนับดาว พี่ขอโทษ แต่พี่ทนไม่ไหวแล้วเด็กดี”น้ำเสียงแหบพร่าบอกนับดาวที่ยังคงมองเก้าทัพด้วยความสับสนก่อนที่เขาจะซุกไซ้ใบหน้าหล่อเหลาลงที่ซอกคอหอมกรุ่นของเด็กสาว ผิวเนื้อที่เนียนละเอียดทำเอาเก้าทัพรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาค่อย ๆ ข
“อ๊ะ อ๊าาา พะ พี่เก้า นับ อื้อ จะ จุก”น้ำเสียงหวานร้องบอกเก้าทัพมือบางจับที่หัวเตียงเอาไว้แน่น ตอนนี้นับดาวอยู่ในท่าคลานเข่าสองขาแยกออกกว้างในขณะที่เก้าทัพกระแทกความใหญ่โตเข้าหาเธอไม่หยุด ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนแผ่นหลังนวลเนียนก่อนที่จะพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังหอมกรุ่น มือใหญ่ยื่นไปขย้ำหน้าอกอวบที่เด้งกระดอนไปตามจังหวะกระแทกของเขาปึก ปึก ปึก“อ๊าาา นับจ๋าทำไมแน่นแบบนี้ อูย” เก้าทัพร้องครางขึ้นด้วยความเสียวซ่านเมื่อภายในที่แสนคับแคบกำลังตอดรัดท่อนเอ็นใหญ่ของเขาจนเสียวไปทั้งลำ มือใหญ่สะกิดเม็ดบัวจนมันแข็งเป็นเป็นไตตอบรับสัมผัสของเขาส่วนช่วงล่างก็รัวกระแทกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย“อ๊าาา พี่ทัพขา นับ อื้อ สะ เสียว อ๊าาา”นับดาวร้องครวญครางออกมาด้วยความเสียว ท่านี้ทำให้ความใหญ่โตของเก้าทัพกระแทกถูกจุดกระสันของเธอครั้งแล้วครั้งแล้ว ขาเนียนสวยสั่นระริกด้วยความเสียวซ่านจนแทบทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่ถ้าไม่มีมือใหญ่ของเก้าทัพคอยประคองเอาไว้ ใบหน้าสวยหวานซบลงบนหมอนหน้าอกอวบอิ่มที่ถูกขย้ำอย่างเมามันยิ่งทำให้นับดาวเสียวมากขึ้นกว่าเดิม“อ๊าาา ทูนหัวร่องของหนูตอดพี่ไม่หยุดเลยนะคนสวย”ประโยคสุดแสนทะลึ่งของเก้า
เช้าวันต่อมาเก้าทัพค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นด้วยความยากลำบากกระบอกตาของเขาร้อนผ่าวหัวก็ปวดจนแทบจะระเบิดน่าจะเป็นผลมาจากที่เขาเอาตัวเองไปยืนใต้สายน้ำทำตัวเป็นพระเอกมิวสิกชั่วคราวอย่างแน่นอน สะบัดศีรษะสองสามครั้งเพื่อเรียกสติและความทรงจำกลับคืนมาก่อนที่ภาพของเขากับใครบางคนจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมาตามลำดับมือใหญ่รีบควานหาร่างบางที่เขาเข้าใจว่านอนกอดทั้งคืนด้วยความตกใจก่อนที่จะหันมาพบว่าที่นอนข้าง ๆ ที่มีรอยยับยู่ยี่กลับว่างเปล่าไร้ร่างหอมกรุ่นของนับดาวที่เขานอนกอดหลับฝันดีทั้งคืน“นับดาว”ชื่อของคนในความทรงจำหลุดออกมาจากริมฝีปากหนาก่อนที่เขาจะส่ายหน้าช้า ๆ ด้วยความรู้สึกผิดที่ได้กระทำลงไปโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ เขาปล่อยให้ตัณหาราคะเข้ามาครอบงำจนหลงลืมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปจนสิ้นมือใหญ่สะบัดผ้าห่มที่คลุมร่างกายเอาไว้ออกก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็นคราบเลือดจาง ๆ ที่ติดอยู่บนผ้าปูที่นอนเก้าทัพถึงกับยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความรู้สึกผิดที่กำลังถาโถมเข้ามาหาเล่นงานเขาดอกไม้ที่แสนบริสุทธิ์สุดท้ายแล้วก็ต้องมาแปดเปื้อนด้วยเงื้อมมือของเขาที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจสุดท้ายแล้วเมื่อไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแ
หลายวันต่อมา“มาแต่เช้าเลยนะนับ”ปิ่นมุกทักทายนับดาวด้วยรอยยิ้มปิ่นมุกคือเพื่อนคนแรกของนับดาวที่เดินเข้ามาทักทายตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอมทำกิจกรรมรับน้องด้วยกันจนกลายมาเป็นเพื่อนกัน เพราะปิ่นมุกเองก็เป็นเด็กทุนเหมือนกันกับนับดาวเลยทำให้ทั้งคู่คุยกันถูกคอในขณะที่คนอื่น ๆ แทบจะไม่มีใครเข้ามาทักทายคนทั้งคู่เพราะมหาวิทยาลัย M คือมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ของประเทศ ค่าเทอมที่นี่ค่อนข้างแพง แต่ก็จะมีการเปิดให้สอบชิงทุนสำหรับเด็กที่เรียนดี แต่ไร้ทุนทรัพย์ซึ่งนับดาวกับปิ่นมุกก็คือคนที่สอบชิงทุนของคณะบัญชีได้ในครั้งนี้จากทุนทั้งหมดจำนวนสิบทุน“ขืนมาสายรถเมล์ก็เต็มกันพอดี นับไม่อยากไปยืนเบียดกับคนบนรถน่ะ กว่าจะถึงมอขาแข็งแน่นอนเลย” นับดาวส่งยิ้มให้ปิ่นมุกก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่โรงอาหารด้วยกันเพื่อทานมื้อเช้า เมื่อมาถึงก็มีโต๊ะว่างอยู่มากมาย เพราะเช้า ๆ แบบนี้คนไม่ค่อยเยอะนับดาวกับปิ่นมุกเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะที่ว่างทันที“วันนี้กินอะไรดีเอ่ย” ปิ่นมุกถามนับดาวที่กำลังไล่สายตามองร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่ตรงหน้าเธอก่อนที่ดวงตากลมโตจะไปหยุดลงที่ร้านข้าวไข่เจียวเมนูประจำที่ร
โรงอาหาร“ทำหน้าอะไรของมึงแบบนั้นวะ เมื่อเช้ากินขี้มาหรือไง”พอร์ชแซวเก้าทัพที่ทำสีหน้าราวกับเบื่อโลกยิ้ม ๆ ก่อนที่เก้าทัพจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่าง ตั้งแต่เปิดเทอมมาพวกเพื่อนสองคนมันลากเขาไปช่วยรับน้องโดยให้เขาเป็นพี่ว้ากที่เขาพยายามปฏิเสธหัวชนฝา แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่มาร้องขอเขาคืออาจารย์ที่เขาเคารพนับถือมันเลยทำให้เขาต้องจำยอมอย่างจำใจกิจกรรมรับน้องมีทุกวัน เขาตื่นเช้ากลับดึกจนหัวฟูไปหมด จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปคุยกับนับดาวถึงเรื่องราวระหว่างเราสองคนกลับกลายเป็นว่าต้องล้มเลิกไปพอเสร็จจากการรับน้อง วิชาเรียนก็มาพร้อมงานที่อาจารย์พากันสั่งราวกับนัดกันมาทำเอาเก้าทัพแทบจะไม่มีเวลาแวบไปไหนเลย เข้าใจแล้วว่าการเรียนหนักมันเป็นอย่างไรก็ตอนที่ขึ้นปีสองนี่แหละ เขาอยากจะบ้าตาย ปัญหาทางใจและทางกายยังไม่ได้เคลียร์มันเลยทำให้เขารู้สึกค้างคาจนพาลหงุดหงิดเบื่อโลกไปเสียอย่างนั้นคิดถึง...คำ ๆ นี้มันดังก้องอยู่ในหัวของเขาซ้ำไปซ้ำมา“กินขี้บ้านพ่อมึงสิไอ้พอร์ช กูหงุดหงิดโว้ย เพราะพวกมึงสองตัวเลยที่ทำให้กูไม่มีเวลา”เสียงตะโกนด่าเพื่อนของเก้าทัพทำเอาคนที่นั่งแถวนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบ เพราะรู้สึกว่าวัน
ในที่สุดหลังจากที่กิจกรรมรับน้องผ่านไปและนับดาวเคลียร์ตารางเรียนเรียบร้อยแล้ววันนี้ก็เป็นวันเริ่มงานพาร์ตไทม์วันแรกซึ่งนับดาวกับปิ่นมุกลงเรียนเหมือนกันทุกวิชาทำให้ทั้งคู่ลงชั่วโมงทำงานเหมือนกันในทุกวันที่ว่างเว้นจากการเรียนกริ๊งเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้นับดาวที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์รีบเงยหน้าขึ้นเพื่อรอรับออเดอร์จากลูกค้า ทันทีที่ประตูปิดลงเสียงซุบซิบจากบรรดาสาว ๆ ที่มานั่งทานเมนูนมปั่นกับขนมหวานหลังเลิกเรียนก็ดังขึ้นนับดาวถึงกับหันไปมองรอบ ๆ ร้านด้วยความแปลกใจลูกค้าคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอเขาก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาทำให้เธอเห็นหน้าตาเขาไม่ชัดเจน แต่เขากลับได้รับความสนใจจากบรรดาสาว ๆ ในร้านสงสัยคงเป็นคนดังของมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอนนับดาวคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย“อเมริกาโนเข้ม ๆ แก้วหนึ่งครับ”น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำเอานับดาวถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เก้าทัพที่ก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่จะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อเตรียมชำระเงิน ดวงตาคมกริบสบเข้ากับดวงตากลมราวกับโลกหยุดหมุน เก้าทัพมองใบหน้าสวยหวานของนับดาวด้วยความคิดถึงที่แฝงด้วยความโหยหาลึก ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะยิ