เคย์สันเดินออกมายังลานกว้างเพื่อหาที่ดูดบุหรี่ผ่อนคลายความรู้สึกทั้งหมดที่ติดอยู่ภายในใจ
“ถ้ารำคาญก็ให้เบอร์มาสิ ให้แล้วก็จบจะได้ออกไป” ฮันน่ายังคงยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้
“ฮันน่ามาทำอะไร” เฮียมาร์คเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินออกมาเห็นเพื่อนสนิทของกวิน ก่อนที่เขาจะดึงแขนเธอออกมาให้ห่างจากเคย์สัน
“มาขอเบอร์ผู้ชายค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามตรง เพราะเธอเป็นคนตรงๆ แบบนี้อยู่แล้ว
“ใคร?” เฮียมาร์คถามขึ้นโดยที่ในใจยังแอบหวังว่าจะไม่ใช่เพื่อนสนิทของตัวเอง
“คนนั้นไงคะ” มือบางชี้ไปยังเป้าหมายทันที
“ไม่ได้ คนนี้ไม่ใช่คนที่ใครๆ จะยุ่งด้วย”
“งั้นเฮียมาร์คช่วยไปขอให้หน่อยดิ”
“ยืนรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวเฮียไปถามให้”
มาร์คอยากจะช่วยให้เพื่อนรักลืมเรื่องราวในอดีตและอยากจะให้ลองเปิดใจดูบ้าง อย่างน้อยฮันน่าก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่พอสมควร
“สนใจไหม” มาร์คหยุดยืนตรงหน้าเคย์สันก่อนจะถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม
“ไม่!!”
คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความอย่างชัดเจน เพราะคนอย่างเคย์สันพูดคำไหนคำนั้นไม่มีเปลี่ยนใจ
“ก็แค่ขอเบอร์ไม่ได้ขอแต่งงานไม่ต้องคิดนานขนาดนั้นก็ได้!” ฮันน่าทนยืนดูเฉยๆ ต่อไปไม่ไหวจึงเดินเข้ามาบอกด้วยความหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรหยิ่งชะมัด
มาร์คกับแดเนียลมองหน้ากันแล้วยกยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก แบบนี้ชีวิตของเคย์สันจะได้มีสีสันขึ้นมาบ้าง อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน
“เป็นเจ้าชายมาจากไหนถึงจะยุ่งไม่ได้ หรือว่าเป็นดาราดังเหรอ” หญิงสาวมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เกิดมายังไม่เคยขอเบอร์ผู้ชายคนไหนยากขนาดนี้มาก่อนเลย
เคย์สันถึงกับยืนนิ่งแล้วหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยู่ๆ ความทรงจำในอดีตก็วิ่งเข้ามาในโซนประสาท เมื่อนึกถึงคำพูดของอดีตภรรยาที่เคยบอกเอาไว้ว่าเขาดูเหมือนเจ้าชายไม่เหมือนมาเฟียเลยสักนิด
“ยิ่งกว่านั้นอีก” มาร์คเอ่ยบอกเผื่อจะทำให้หญิงสาวเปลี่ยนใจ
“เป็นโจรหรือว่าเป็นคนร้ายโรคจิตเหรอคะถึงไม่ควรเข้าใกล้” ฮันน่ายังคงดื้อไม่ยอมแพ้
“เดี๋ยวกูมานะ” มาร์คเห็นว่าเรื่องไปกันใหญ่ และฮันน่าก็ดูท่าจะเมามากแล้ว จึงจัดการลากเธอออกมาจากพื้นที่อันตรายทันที
“เฮียเตือนด้วยความหวังดีนะ แล้วนี่มากับใคร นั่งอยู่โต๊ะไหนเดี๋ยวเฮียเดินไปส่ง”
“มากับวินค่ะ ส่วนโต๊ะอยู่ด้านนู้นค่ะ” ฮันน่าชี้ไปยังโต๊ะเดิมที่เคยนั่ง ถึงจะเมาแต่ก็ยังจำได้
“แล้วไอ้วินมันไม่รู้เหรอถึงได้ปล่อยเราไปแบบนั้น” เฮียมาร์คถามต่อด้วยความสงสัย
“มันนั่นแหละที่เป็นคนท้าให้หนูไป” คนเมาไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว
เฮียมาร์ครีบดึงแขนฮันน่าให้เดินตามเข้าไปที่โต๊ะทันที
“เล่นไม่ดูอะไรเลย รู้ทั้งรู้ยังท้าให้เพื่อนไปอีก”
เมื่อมาถึงที่โต๊ะก็เจอกวินนั่งหัวเราะอยู่ เฮียมาร์คก็บ่นให้รุ่นน้องคนสนิท
“นิดๆ หน่อยๆ ครับ” กวินที่เห็นเฮียมาร์คทำหน้านิ่งมาส่งฮันน่าก็รีบแก้ตัวอย่างไม่รอช้า
“ดูแลเพื่อนด้วย อย่าปล่อยให้ไปอีก!” เฮียมาร์คกำชับเสียงแข็งก่อนจะเดินออกไป
ฮันน่าก็นั่งนิ่งพร้อมกับความสงสัย และอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมเฮียมาร์คถึงไม่อยากให้เธอไปยุ่งด้วย
..
หลังจากที่ดูดบุหรี่ผ่อนคลายอยู่ด้านนอกเสร็จ เคย์สันก็เดินกลับเข้ามาหาเพื่อนในห้องวีไอพีเช่นเคย บรรยากาศในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ จนน่าอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
มือหนายกแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นดื่ม พลางสายตาก็ไปสะดุดกับหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสดที่อยู่ในภาพจากกล้องวงจรปิด
ผู้คนมากมายที่อยู่บนหน้าจอ แต่เคย์สันกลับเห็นหญิงสาวคนนี้ชัดที่สุด อาจจะเป็นเพราะใบหน้าสวยที่เป็นจุดโดดเด่น ทำให้เขาเผลอมองเธอผ่านกล้องวงจรปิดโดยไม่รู้ตัว
ทว่าความสวยของเธอก็เป็นจุดสนใจของใครหลายๆ คน และทำให้มีผู้ชายเข้าหาอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าสนใจทำไมไม่ให้เบอร์ไปตั้งแต่แรกวะ” มาร์คพูดแซวขึ้นมาทันที เมื่อเห็นเพื่อนรักจ้องมองภาพตรงหน้าตาแทบไม่กระพริบ
“ขนาดแต่งงานแล้วยังเสน่ห์แรงมีเด็กมาชอบ” ตามมาด้วยเสียงของแดเนียล
“ทั้งสวย ทั้งรวย เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของที่นี่เลยนะ” มาร์คยังคงพูดต่อ เผื่อว่าเพื่อนจะสนใจขึ้นมา และเขาก็สามารถที่จะช่วยได้
“….” เคย์สันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดใจ และไม่อยากจะจริงจังกับใคร แต่ถ้าจะให้คุยเล่นๆ แก้เหงาแบบเมื่อก่อน เขาก็เลิกทำไปนานแล้ว และไม่อยากจะกลับไปทำตัวแบบเดิมอีก
ฮันน่านั่งสงบสติอารมณ์ตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเลยสักครั้ง ขอเบอร์ผู้ชายก็ได้ตลอดไม่เคยพลาด แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้เธอเสียความมั่นใจไปในพริบตา
“สรุปว่าได้เบอร์โทรมาไหม” กวินถามขึ้น ทั้งๆ ที่ในใจรู้คำตอบเป็นอย่างดี
“ใกล้จะได้แล้ว แต่โดนเฮียมาร์คเข้ามาขัดจังหวะก่อน” ฮันน่าโกหกคำโตออกไป
“ฮ่าๆๆ” เพื่อนๆ ที่ได้ยินคำตอบต่างก็หัวเราะออกมา เพราะต่างก็รู้ความจริงกันดี
“หัวเราะทำไม!” ฮันน่าถามขึ้น คนยิ่งอารมณ์ไม่ดียังจะมาหัวเราะอีก
“ยังไงมึงก็ไม่มีวันได้เบอร์มาหรอก” กวินบอกไปตามตรง เผื่อฮันน่าจะเปลี่ยนใจแล้วยอมแพ้
“ทำไมจะไม่ได้ เป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน”
“อย่าไปรู้เลย”
“บอกมา!” ฮันน่ากอดคอกวินเอาไว้แน่นด้วยความอยากรู้ โดยที่ไม่สนใจสายตาผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ
“ไม่บอก”
“ถ้ามึงไม่บอก กูจะโทรฟ้องคุณน้าเรื่องที่มึงไม่เข้าเรียน แล้วก็ชอบจ้างเพื่อนทำรายงานให้อีก”
ฮันน่าสนิทกับกวินมาก มากจนสามารถเข้าออกบ้านกวินได้ตลอด และแม่ของกวินก็รักและเอ็นดูเธอเหมือนลูกอีกคน ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็เชื่อหมดทุกอย่าง
“โอเคกูยอมแล้ว” กวินไม่อยากฟังคุณแม่บ่นและตัดเงินเดือนจึงต้องยอมบอก
“บอกมา!” ฮันน่ายอมปล่อยให้กวินเป็นอิสระ ก่อนจะนั่งรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“นั่นน่ะเพื่อนสนิทเฮียมาร์คเป็นมาเฟีย เขาแต่งงานไปเมื่อสามปีที่แล้วแต่เมียดันเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ก็ผ่านมาเป็นหลายปีแล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนสักคน”
กวินเล่าให้ฟังคร่าวๆ ตามที่ได้ยินมา ส่วนฮันน่าก็นั่งนิ่งตั้งใจฟัง
“ทางที่ดีมึงยอมแพ้ไปเลยดีกว่า” กวินเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้
“แล้วมึงได้เบอร์มาหรือยัง” ฮันน่าถามกลับทันที
“อย่าว่าแต่เบอร์โทรเลย มันยังไม่ได้เข้าไปใกล้ด้วยซ้ำก็ถูกจับโยนออกมาก่อนแล้ว” ดีเดย์ทั้งเล่าทั้งขำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
“จะสู้ต่อหรือจะพอแค่นี้” ฮันน่าหันไปถามความคิดเห็นของกวิน
“กูไม่มีทางยอมแพ้อยู่แล้ว” กวินตอบด้วยความมั่นใจ
“งั้นก็มาสู้กันต่อ!”
ตามที่ฟังกวินเล่ามายิ่งทำให้ฮันน่ามีโอกาสและมีความหวังมากขึ้น ถึงจะมีเพียงอดีตภรรยาที่อยู่ในใจ แต่ในปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีแฟนหรือผู้หญิงคนไหน ยิ่งทำให้เธอมั่นใจยังไงเธอก็ต้องชนะอย่างแน่นอน
..
ฮันน่ามาแล้วค่าาาา
ฮันน่านั่งดื่มกับเพื่อนอย่างต่อเนื่อง แต่ในสมองกลับคิดหาวิธีต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ได้เบอร์โทรของชายหนุ่มมาสายตาคู่สวยจ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ในห้องวีไอพีผ่านกระจกอย่างไม่ละสายตา ก่อนที่ร่างหนาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกจากห้องวีไอพีพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคน“มึงจะไปไหน?” กวินถามขึ้นเมื่อเห็นฮันน่าตั้งท่าจะเดินออกจากโต๊ะ“จะไปเข้าห้องน้ำ” ฮันน่าเลือกที่จะโกหก เพราะถ้าขืนพูดความจริงไปมีหวังโดนกวินห้ามไม่ให้ไปแน่หญิงสาวไม่รอช้ารีบเดินออกมายังลานจอดรถ เพื่อรอใครบางคนที่เธออยากจะคุยด้วย เพราะยังไงวันนี้เธอก็ต้องได้!! (หมายถึงได้เบอร์นะ)“ไม่น่าดื่มเยอะเลย” ฮันน่าพึมพำกับตัวเองเบาๆ เธอพยายามยืนให้ตรงและเป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ถึงแม้จะเมาแค่ไหนก็ตามทว่าครั้งนี้เธอรู้ประวัติเขามาคร่าวๆ แล้ว แบบนี้เธอต้องเปลี่ยนความคิดและคำพูดให้ดีกว่าเดิม เผื่อว่าอะไรจะง่ายขึ้นสายตาเฉี่ยวคมมองสำรวจไปทั่วลานจอดรถ ก่อนจะเห็นรถยนต์คันหรูที่มีบอดี้การ์ดยืนรออยู่เกือบสิบคน“ต้องใช่คันนั้นแน่ๆ” ฮันน่าไม่รอช้ารีบเดินตรงเข้าไปทันที“จะไปไหนครับ” โรมันลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมกับ
ปัง!! ปัง!! ปัง!!“อร๊ายยยย!!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นด้วยความกลัวและตกใจ มือเล็กปิดหูทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ก่อนที่ร่างกายจะลอยไปตามแรงของชายหนุ่มตุบ!!“โอ๊ย!”ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้ามาในรถ ทำให้ร่างกายกระแทกกับเบาะอย่างแรง ใบหน้าสวยยู่หน้าด้วยความเจ็บ ถึงแม้ในใจอยากจะด่าคนทำมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูกปรื้นนน~รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนออกไปด้วยความเร็ว พร้อมกับรถยนต์อีกสองคันขับตามออกไปติดๆ“หมอบลง!!” มาเฟียหนุ่มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน พร้อมกับจับคนตัวเล็กให้นั่งลงที่พื้นเพื่อความปลอดภัย“ช่วยหนูด้วย หนูยังไม่อยากตาย” ฮันน่าหลับหูหลับตายกมือขึ้นไหว้ด้วยความกลัว เกิดมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง ทำเอาร่างเล็กสั่นไปหมดทั้งตัวเคย์สันมองคนตัวเล็กนั่งตัวสั่น ก่อนจะยกยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ก่อนหน้านี้เธอยังทำเป็นเก่งอยู่เลยด้วยซ้ำปัง!! ปัง!!เสียงปืนดังขึ้นตลอดทาง และไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเลยสักนิด โชคดีที่เวลานี้ไม่มีผู้คนขับรถผ่าน และตอนนี้เหลือรถยนต์เพียงสองคันที่ตามไล่ยิงกันอยู่ ส่วนรถยนต์อีกคันนั้นถูกยิงเสียหลักลงข้างทางไปแล้ว“สงสัยจะเป็นพวกเดิมค
“ที่คุณไม่ยอมให้เบอร์เพราะอยากเล่นตัวหรืออยากให้ฉันอยู่ด้วยกันแน่ ทำไมถึงไม่ยอมให้สักที”“มั่นใจเหรอที่พูดแบบนี้ออกมา”สายตานิ่งเรียบมองใบหน้าสวยเพียงแค่เสี้ยววินาที ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องรับแขก โดยที่ไม่สนใจรอฟังคำตอบของเธอ“จะเล่นตัวไปถึงไหน แค่ให้เบอร์ก็จบแล้วปะ” ฮันน่าเดินตามเข้าไปใกล้แล้วยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้าเหมือนที่เคยทำ สวยขนาดนี้ผู้ชายก็ต้องใจอ่อนยอมให้เบอร์แล้วไหมเคย์สันพยายามไม่สนใจ แต่คำพูดและท่าทางของเธอทำให้เขาอดไม่ได้จริงๆ ดื้อแบบนี้คงต้องจัดการให้เข็ดจะได้ไม่กล้ามายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกร่างสูงไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาสาวสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน เวลาที่อยู่กับเขาสองต่อสองตึกตัก!! ตึกตัก!!ฮันน่าเดินถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าว หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ ด้วยความกล้าๆ กลัวๆ เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้เธอจนเกินไป ถึงผู้ชายตรงหน้าจะหล่อและดูดีสักแค่ไหน เธอก็จะไม่มีวันเผลอตัวเผลอใจไปกับความหล่อของเขาเด็ดขาด“โอ๊ย!!” ร่างเล็กเอาแต่ถอยหนีจนไม่ได้สนใจที่จะดูทาง ทำให้เธอเสียหลักล้มลงบนโซฟาฮันน่ามัวแต่ตามเขาจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เธออยู
ฮันน่านั่งเงียบมาตลอดทาง ในหัวก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ความรู้สึกและคำถามมากมายติดอยู่ภายในใจ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว“ถึงแล้วครับ” โรมันเอ่ยบอกเมื่อมาถึงหน้าคอนโดหรู แต่หญิงสาวกลับนั่งเหม่อลอย“คะ อะไรนะคะ” ฮันน่าสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิด และเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้า“ถึงแล้วครับ” โรมันเอ่ยบอกอีกครั้ง“อ๋อ… ค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวเดินลงจากรถ และไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณคนที่มาส่งเธอ“ไม่เป็นไรครับ” ใบหน้านิ่งเรียบมองหญิงสาวตรงหน้า ในใจมีคำถามมากมายอยากจะถามเธอ และเขาก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทั้งๆ ที่เจ้านายเขาไม่เคยคิดจะอยู่ใกล้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่สำหรับเธอ… ทำไมถึงได้เข้าไปอยู่ในห้องกับเจ้านายเขาสองต่อสอง และออกมาในสภาพชุดที่ขาดหลุดลุ่ยแบบนี้“เสื้อค่ะ” ฮันน่าถอดเสื้อสูทที่คลุมร่างกายเอาไว้คืนให้ชายหนุ่ม“แน่ใจนะครับว่าจะเดินไปแบบไม่ใส่เสื้อคลุม”“แน่ใจค่ะ”ฮันน่ายืนยันคำตอบอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มบางๆ เวลานี้คนไม่ค่อยมีเธอไม่จำเป็นที่จะใส่คลุมก็ได้ ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว นอกจากพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เพียงไม่กี่คนร่างเล็กเดินเข้าไปในคอนโดโดยที่ไม่ส
@ร้านอาหาร“หวังว่าอนาคตเราจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันนะครับ”“แน่นอนครับ”เคย์สันจับมือกับลูกค้าคนสำคัญหลังจากที่คุยเรื่องธุรกิจกันเสร็จเรียบร้อย เนื่องจากประสบการณ์และอายุที่ใกล้เคียงกันทำให้ทั้งสองคุยกันราบรื่นและทุกอย่างก็เป็นไปในทางที่ดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครืด~ ครืด~แต่ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อ อยู่ๆ โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน สายตานิ่งเรียบจ้องมองหน้าจอและทำท่าทางลังเลที่จะรับสาย“รับสายก่อนก็ได้ครับ” เคย์สันเอ่ยบอกไปตามมารยาท“ขอโทษด้วยนะครับ” น้ำเสียงนิ่งเรียบตอบกลับด้วยความเกรงใจ ก่อนจะกดรับสายที่เขาไม่อาจจะปฏิเสธได้(พี่มาทานข้าวกับใครคะ?)เมื่อกดรับสายปลายสายก็ตามขึ้นด้วยความอยากรู้ทันที ถึงแม้เธอจะรู้คำตอบอยู่ในใจแล้วก็ตาม“มีอะไรหรือเปล่า?” เฮย์เดนว่าที่ประธานบริษัทคนใหม่เอ่ยถามคนในสายอย่างไม่รอช้า(ก็หนูเห็นรถพี่จอดอยู่หน้าร้านอาหารอะ)“พี่มาคุยงานกับลูกค้า” เฮย์เดนตอบน้องสาวในสายอย่างไม่อ้อมค้อม(อย่ามาโกหกหนูนะ) ปลายสายถามติดตลกและไม่ยอมเชื่อพี่ชาย“พี่มาคุยงานจริงๆ” เฮย์เดนยังคงยืนยันคำตอบเดิม(คุยงานแล้วทำไมถึงรับสายหนูได้คะ? พี่มาทานข้าวกับสาวก็บอกม
ใบหน้าสวยนั่งทำหน้าคิดหนักมาตลอดทาง พอมาถึงลานจอดรถก็รีบมองสำรวจไปทั่วบริเวณ เพื่อมองหารถยนต์คันหรูที่เธอรู้จักและจำได้ขึ้นใจฟู่ววว~ฮันน่าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นรถยนต์คันไหนที่น่าสงสัยเลยสักคัน ก่อนที่เธอจะเดินลงจากรถอย่างอารมณ์ดี“เป็นอะไรของมึงเนี่ย!” กวินถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตอนนั่งรถมากับเขายังทำหน้าบูดอยู่เลย“รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ” ฮันน่ายิ้มให้ก่อนจะเดินนำเข้าไปในผับที่คุ้นเคยอย่างอารมณ์ดีส่วนทางด้านมาเฟียหนุ่มที่ไม่อยากจะมา แต่ก็โดนเพื่อนโทรตามและบังคับให้ออกมาเที่ยวเหมือนเคย“ทำไมกูต้องไป” เคย์สันถามคนในสายที่พยายามพูดให้เขาเปลี่ยนใจอยู่หลายนาที(วันนี้วันศุกร์นักศึกษาสาวๆ สวยๆ มาเที่ยวกันเยอะ มึงก็ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง) มาร์คบอกด้วยน้ำเสียงและท่าทางตื่นเต้นเมื่อเขาแอบเล็งสาวสวยเอาไว้แล้ว“ขอคิดดูก่อน”เคย์สันไม่อยากจะออกไป แต่พอได้ยินคำว่านักศึกษา ในใจก็แอบคิดไปถึงหญิงสาวที่เขาเจอในวันนี้ ซึ่งพอเธอใส่ชุดนักศึกษาก็ดูน่ารักไปอีกแบบ แต่ก็ไม่รู้ว่าวันนี้เขาจะได้เจอเธอที่ผับอีกหรือเปล่า(ไม่ต้องคิด รีบออกมาเลยไอ้แดนใกล้จะถึงแล้ว)“อืม” เคย์ส
ร่างบางเดินตามหลังเพื่อนขึ้นมาด้านบนด้วยอาการประหม่า ความคิด ความรู้สึกต่างๆ วิ่งวนสับสนปะปนกันไปหมดยิ่งเวลาที่จะเจอหน้ากันเธอยิ่งไม่รู้ว่าควรจะทำตัวแบบไหน นั่งยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก จากคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง ตอนนี้กลับไม่เหลือความมั่นใจอะไรเลยเฮ้อ~ฮันน่าถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อชายหนุ่มอีกคนไม่อยู่ ซึ่งทำให้เธอยังพอมีเวลาที่จะทำใจ และคิดหาทางออกได้บ้างทว่ายังไม่ทันที่ฮันน่าจะได้คิดอะไรออก ร่างสูงก็เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมบอดี้การ์ดอีกหลายคนเช่นเคยสายตาคมจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาที่ยากเกินจะคาดเดา ทำเอาคนตัวเล็กที่ถูกมองทำตัวไม่ถูกฮันน่าเริ่มเสียอาการและมีท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะตั้งสติและพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ส่วนชายหนุ่มก็นั่งลงที่เดิมตามปกติและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงบรรยากาศโดยรอบจะดูครึกครื้นแต่บนชั้นสองกลับดูอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยสักคน เพราะเพื่อนๆ ต่างสังเกตอาการผิดปกติของคนทั้งสองคนที่นั่งเงียบอยู่“มาๆ ชนแก้ว”กวินพูดแทรกขึ้นท่ามกลางความเงียบ ซึ่งก็เรียกความสนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะฮันน่าที่ยกแก้วขึ้นดื่ม ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำแต่ในขณะที่ทุก
“ใครจ้างมึงมา!” น้ำเสียงดุดันเอ่ยถามด้วยความรู้สึกโกรธแค้นแทนคนเป็นเจ้านายผัวะ!! ผัวะ!!เคย์สันยืนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่นิ่งเรียบ เพราะเรื่องแบบนี้มักเกิดขึ้นกับเขาอยู่เป็นประจำ“มึงจะไม่พูดใช่ไหม!” โรมันหยิบมีดแหลมคมขึ้นมาเพื่อขู่ให้ศัตรูกลัวและยอมพูดความจริงออกมา“….”ชายหนุ่มเงียบไม่พูดอะไร อีกทั้งมือและเท้าก็ถูกมัดแน่นด้วยเชือกเส้นใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและร่องรอยการถูกทำร้ายที่ยับเยินพอสมควร“กูจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่มึงจะไม่ได้มีโอกาสหายใจบนโลกใบนี้ต่อ”“มึงทำงานให้ใคร!!” โรมันยังคงถามประโยคเดิมเพื่อเค้นเอาคำตอบจากศัตรูเคย์สันมองดูข้อความและรูปภาพในโทรศัพท์ที่ถูกส่งรายงานผ่านช่องทางออนไลน์ไปแล้ว ถึงแม้จะลบออกไปแต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้เรื่องทุกอย่างดีขึ้น“ยะ ยอมแล้วๆ”ไม่ว่าจะได้รับเงินค่าจ้างมาแพงแค่ไหน แต่สุดท้ายก็กลัวตายกันทั้งนั้น“บอกมา!!” โรมันกระชากเสื้อเชิ้ตสีดำอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซไปตามแรงกระชาก“คุณศิลา คุณศิลาเป็นคนจ้าง”โรมันหันไปมองหน้าเจ้านายทันที เพราะศิลาคือศัตรูหมายเลขหนึ่งของเคย์สันเมื่อสามปีก่อน และเขาก็ไม่ได้ยินชื่อนี้มานานเกือบสามปีแล้ว“ปล่อยมันไป”
เช้าวันต่อมาฮันน่ากับเคย์สันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสองก็จัดการเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เรียบร้อยค่าใช้จ่ายในงานทั้งหมดที่เคย์สันต้องจ่ายเกือบสองล้าน เพราะมีทั้งค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าเวที ค่านักร้อง ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งยังไม่รวมค่าชุดกับค่าแต่งหน้าที่เขาจะต้องกลับไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ อีกวันนี้ฮันน่าชวนเคย์สันออกไปเดินเล่นที่ริมทะเล เนื่องจากต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน จึงต้องออกมาเดินเที่ยวเล่นชมบรรยากาศกันสักหน่อย“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฮันน่าถามขึ้นเมื่อเคย์สันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่“เอ่อ… คือ งานที่กรุงเทพมีปัญหา ต้องรีบกลับไปเคลียร์” เคย์สันอ้ำอึ้งก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา ซึ่งเป็นงานสำคัญที่เขาไม่อาจจะเลี่ยงได้“หนูขอไปเก็บของก่อนได้มั้ยคะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ถึงในใจจะแอบผิดหวังอยู่บ้าง“ไม่อยู่เที่ยวต่อเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าฮันน่าชอบทะเลมากแค่ไหน ถ้าได้มาแล้วเขาก็อยากจะให้เธอได้พักผ่อนที่นี่ก่อน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับพร้อมเฮียเลยดีกว่า” ฮันน่าตอบ“เดี๋ยวจะพามาเที่ยวใหม่
พิธีการต่างๆ ถูกดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของงาน นั่นก็คือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ถึงแม้แขกบางส่วนจะทยอยกลับกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังเหลือบางส่วนที่รออยู่จนถึงขั้นตอนนี้ทุกคนต่างก็ร่วมอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนและมีเวลาส่วนตัว“ม๊าอยากเลี้ยงหลานแล้วนะ” ก่อนจะออกไปคุณแม่ของฮันน่าก็ไม่ลืมที่จะพูดย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง“ม๊าคะ” ใบหน้าสวยร้อนแผ่วรู้สึกเขินอายในสิ่งที่คุณแม่พูดออกมา“ไม่ต้องห่วงนะครับ” เคย์สันหันไปบอกแม่ยายพร้อมรอยยิ้ม เพราะเขาเองก็อยากจะมีลูกแล้วเหมือนกันหลังจากที่ทุกคนเดินออกไป เคย์สันก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างทันที“เหนื่อยมั้ย” มาเฟียหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง มือหนาจับปลายคางให้เชิ่ดขึ้น เพื่อที่เขาจะได้มองใบหน้าสวยได้ชัดเจน“นิดหน่อยค่ะ” ฮันน่าฉีกยิ้มกว้างถึงแม้จะเหนื่อยแต่ทุกอย่างก็คุ้มค่าสำหรับเธอ“แล้วเมื่อไหร่เราจะมีลูกด้วยกัน” เคย์สันถามขึ้น เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าฮันน่าจะท้องเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจทำมาตลอด“เฮียอยากมีลูกเหรอคะ” ฮันน่าถามย้ำด้วยความตก
วันต่อมาเวลา 16:00 น.แสงแดดอ่อนๆ กับสายลมเย็นสบาย เสียงคลื่นซัดสาดเป็นระยะ บรรยากาศเย็นสบายตามแบบฉบับของธรรมชาติหาดทราย สายลม แสงแดด ท้องฟ้าสีสวย กับทะเลสีคราม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนโต๊ะเก้าอี้จัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงาม มีทั้งโซนอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับแขกทุกคนที่มาร่วมงานทางเดินเล็กๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เดินขึ้นเวที และตลอดทางก็มีดอกกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดจัดเรียงเอาไว้ทั่วงาน ซึ่งดูสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมากและตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว แขกในงานก็เริ่มทยอยมากันจนใกล้จะครบแล้ว บรรดาเพื่อนๆ ต่างทำหน้าที่ต้อนรับแขกแทนเจ้าของงานได้เป็นอย่างดีทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างก็เป็นคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิทที่ต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีในงานวันนี้“ข้างนอกคนเยอะมั้ย” ความตื่นเต้นทำเอาเจ้าสาวของงานเดินไปเดินมาไม่หยุด ใครเข้ามาก็ถามทุกครั้งว่าคนเยอะหรือเปล่าฮันน่าอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา ภายนอกอาจจะดูเรียบๆ แต่กลับมีลายปักดอกไม้แฝงอยู่ด้านในเพื่อเพิ่มเสน่ห์และลวดลายให้ดูน่าค้นหามากขึ้น“ไม่เยอะหรอก” ค
สามเดือนต่อมา@ภูเก็ตประเทศไทยฮันน่าตรวจดูความเรียบร้อยทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะงานนี้จะต้องออกมาดีและสวยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อาหาร ดอกไม้ และโรงแรม เรียกได้ว่าฮันน่าดูแลทุกขั้นตอนทว่าฮันน่าคนเดียวคงดูแลไม่ไหว เพราะมีเพื่อนๆ คอยให้คำปรึกษาและแนะนำอยู่ตลอด อย่างเช่นตอนนี้…“งานนี้ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ”นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ เมื่อทุกอย่างใกล้จะเสร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่เพียงเก็บรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะเสร็จเรียบร้อยดี“ขอบใจมากนะที่มาช่วย” ฮันน่าขอบคุณนาเดียที่มาช่วยเธอออกแบบและทำทุกอย่าง“เพื่อนจะแต่งงานทั้งทีก็ต้องมาช่วยสิ เดี๋ยวอีกหน่อยพวกนั้นก็คงมาถึง” นาเดียบอกพร้อมรอยยิ้ม และอีกหน่อยคริสตัลกับไอรินก็คงจะมาถึงกันแล้ว“แล้วพี่หมอล่ะ” ฮันน่าถามถึงคุณหมอคีรินทันที“ทำงานอยู่ คงจะมาถึงตอนดึกๆ นู้นแหละ” นาเดียตอบไป เพราะช่วงนี้คนไข้เยอะพี่หมอก็ทำงานจนแทบจะไม่ได้พัก“แล้วพวกนั้นถึงไหนกันแล้ว” ฮันน่าเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อเห็นนาเดียทำหน้าเศร้าขึ้นมา“อ้าว นั่นไงมาถึงพอดีเลย” นาเดียชี้ไปยังทางเดินที่มีสองสาวกำลังเดินมา“ใครเป็นคนออกแบบเนี่ย จัดงานได้
วันต่อมา“อื้อออ” ร่างเล็กรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อมีแสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ร่างกายร้าวระบมไปทั่วทุกส่วนจนแทบจะขยับไม่ได้ฮันน่ามองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเขานั้นจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิตเธอร่างบางพยายามขยับตัวช้าๆ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่น เพราะเธออยากจะให้เขาได้นอนพักต่ออีกสักนิดวันนี้ฮันน่าเลือกใส่ชุดเดรสแขนสั้นคลุมเข่าเนื้อผ้าเบาสบาย เพราะเธอจะต้องไปรับและพามินตราไปเที่ยวตลอดทั้งวัน“สายแล้วนะคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” ฮันน่าก้มลงกระซิบบอกที่ข้างหูของมาเฟียหนุ่มเหมือนทุกครั้ง“ทำไมช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวันเลย” เคย์สันถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลุกเธอตลอด“พาหนูมินไปเที่ยวกันค่ะ” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงเด็กตัวเล็ก“เที่ยวที่ไหน” เคย์สันยังคงถามต่อ เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพามินตราไปเที่ยวที่ไหน“ทะเลค่ะ หนูเตรียมชุดเอาให้เฮียแล้วนะคะ”“ห้ามใส่บิกินี” น้ำเสียงดุดันเอ่ยห้ามก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ“รู้ได้ไง” ฮันน่าถึงกับนั่งทำหน้าเซ็ง เพราะเธอแอบเตรียมชุดว่ายน้ำใส่ในกระเป๋าเ
@โรงแรม“เป็นอะไรหรือเปล่า?”เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพัก เคย์สันก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าฮันน่าจะคิดมากเรื่องที่เขาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้มีนากับลูกสาว“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างเพื่อยืนยันคำตอบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ“คิดมากเรื่องมีนามั้ย”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่ฉันเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มีนากับลูกสาวไง”“หนูเข้าใจทุกอย่าง ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” ฮันน่าตอบไปตามความจริง เพราะเธอไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิด“จริงเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ“จริงค่ะ แบบนี้สิคะถึงเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกในอนาคต” ฮันน่าบอกอย่างภูมิใจ อย่างน้อยเธอก็ได้คนดีๆ อย่างเคย์สันมาร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน และเธอคงจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขมากแน่ๆ“ฉันก็นึกว่าเธอจะน้อยใจซะอีก” เคย์สันตอบไปตามที่คิด“หนูไม่ใช่คนงี่เง่านะคะ แล้วอีกอย่างหนูก็เป็นคนดีด้วย” ฮันน่ายิ้มกว้างไม่อยากให้ชายหนุ่มคิดมาก“ขอบคุณนะที่เข้าใจฉัน” มือหนารวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น“ก็รักไงคะหนูถึงเข้าใจ” ฮันน่ากอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน นับวันเธอยิ่งรักเขามากขึ้น“ไปอาบน้ำกันเถ
วันต่อมาฮันน่าตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายแล้วรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวทันที เมื่อคืนเธอตื่นเต้นและเตรียมของเกือบทั้งคืน ตอนแรกเธอว่าจะไม่นอนด้วยซ้ำ แต่พอรอไปรอมาเธอก็เผลอหลับจนถึงบ่าย“เสร็จหรือยัง?” ใบหน้าหล่อถามพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเธอเดินไปเดินมาไม่หยุด ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น“อืม… น่าจะเสร็จแล้วค่ะ” ฮันน่ามองสำรวจของในกระเป๋าเพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยว่าเธอไม่ได้ลืมอะไร“ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น” เคย์สันถามขึ้นด้วยความอยากรู้“ก็หนูดีใจหนิคะ ไม่ได้เจอน้องมินตั้งหลายเดือนแล้ว”ฮันน่ารู้สึกผูกพันกับมินตรามาก เพราะก่อนที่มินตราจะไปอยู่ต่างประเทศ เธอก็เป็นคนช่วยดูแลมินตราทุกวัน จนทำให้เกิดความรักและความผูกพัน“ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ” โรมันเดินเข้ามารายงานและช่วยถือของให้เจ้านายตามหน้าที่“รีบไปกันเถอะค่ะ” ฮันน่าเดินเข้าไปกอดแขนเคย์สันเอาไว้แน่นก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปด้วยกันโชคดีที่มาเฟียหนุ่มมีเครื่องบินส่วนตัว จึงไม่ต้องไปนั่งรอที่สนามบินให้เสียเวลา พอไปถึงก็เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินทันทีใช้เวลาเดินทางเกือบสิบชั่วโมงกว่าจะมาถึง ซึ่งฮันน่ากับเคย์สันเลือกที่จะพักที่โรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจาก
สามเดือนต่อมา“ขอบคุณนะคะ” ฮันน่าเอ่ยขอบคุณพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดมาเฟียหนุ่มที่กำลังยืนตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่หน้ากระจก“ขอบคุณเรื่องอะไร” เคย์สันถามกลับด้วยความสงสัย“ขอบคุณที่ตามใจหนูทุกอย่างไงคะ” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี เพราะไม่ว่าเธอจะขออะไรเขาก็ยอมตามใจเธอทุกอย่างนับวันฮันน่าก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น และเธอยิ่งมั่นใจว่าเธอคิดไม่ผิดเลยจริงๆ ที่จะแต่งงานกับเคย์สัน“จะมีเมียแล้วก็ต้องตามใจเมียสิ” เคย์สันตอบท่าทางทะเล้น“น่ารักที่สุดเลยค่ะ”“น่ารักแล้วรักมั้ยล่ะ?” ใบหน้าหล่อเลิกคิ้วถามด้วยความอยากรู้“รักสิคะ รักมากด้วย” ฮันน่าตอบเสียงหวาน พร้อมกับกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย“รีบลงไปข้างล่างกันเถอะ ก่อนที่จะไม่ได้ลงไป”เพียงแค่ร่างกายเนียนนุ่มมาสัมผัสที่ตัว ก็ยิ่งทำให้มาเฟียหนุ่มเกิดอารมณ์พุ่งพล่าน จนต้องเอ่ยท้วงขึ้น“ทำไมล่ะคะ?” คนตัวเล็กยังคงแกล้งถามกลับ ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ทั้งๆ ที่ในใจเธอรู้ความหมายเป็นอย่างดีพรึบ!!เคย์สันไม่ตอบอะไร แต่กลับคว้าใบหน้าสวยเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มและร้อนแรงก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้นมาขัดจังหวะ ก่อนที่ใบ
หลังจากที่ภาพขอแต่งงานถูกปล่อยออกไปและฮันน่าก็ถ่ายภาพโชว์แหวนเพชรเม็ดโตลงอวดเพื่อน แต่กลับทำให้เธอกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน และเป็นคนที่สาวๆ ทั้งประเทศอิจฉา ที่เธอจะได้แต่งงานกับมาเฟียที่ทั้งหล่อและรวยมากๆภายในเวลาชั่วข้ามคืนแต่กลับทำให้ชีวิตของฮันน่าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก มีคนติดตามเยอะยิ่งกว่าดาราเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต่างก็ให้ความสนใจในตัวเธอกันทั้งนั้น“หนูไปเรียนก่อนนะคะ” คนตัวเล็กเดินเข้าไปสวมกอดมาเฟียหนุ่มด้วยท่าทางออดอ้อนเช่นเคยเหมือนที่เคยทำ“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” เคย์สันถามขึ้นนับวันเขายิ่งหวงจนแทบตะไม่อยากปล่อยให้เธอไปเรียน“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจะเรียนไม่จบ” ฮันน่ายังคงอ้อนเขาเช่นเคย“เรียนไม่จบก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เมียคนเดียวฉันเลี้ยงได้” ชายหนุ่มกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นนับวันยิ่งตัวติดกัน นับวันยิ่งไม่อยากห่างไปไหน“ไม่ได้ค่ะ หนูต้องเรียนให้จบเผื่อว่าในอนาคตหนูจะได้ทำงานช่วยเฮียไงคะ” ฮันน่าตอบเพราะเรียนจบเธออยากจะช่วยเขาทำงาน ดีกว่าจะต้องมานั่งรออยู่เฉยๆ“ก็ได้” สุดท้ายเคย์สันก็ยิมใจอ่อนปล่อยให้เธอไปเรียน เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้วเคย์สันเป็นคนไปรับไปส่